ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 157 จากทั้งหมด 347 หน้า แสดงรายการที่ 3121 - 3140 จากข้อมูลทั้งหมด 6925 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 3121 | การปรับปรุงปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 | นร | 23/03/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ปรับปรุงปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 โดย
ขยายระยะเวลาการนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2554 จากเดิมวันอังคารที 30 มีนาคม 2553 ไปเป็นวันอังคารที่ 27 เมษายน 2553 ตามที่สำนัก งบประมาณเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3122 | ยุทธการแก้ไขปัญหาวิกฤตป่าไม้ของชาติ | ทส | 09/03/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบในหลักการยุทธการแก้ไขปัญหาวิกฤตป่าไม้ของชาติ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแนวทางในการ แก้ไขปัญหาการบุกรุกทำลายป่าในพื้นที่วิกฤต และการติดตามเฝ้าระวังไม่ให้มีการบุกรุกทำลายในพื้นที่ป่าอนุรักษ์และ ป่าสงวนแห่งชาติทั่วไป โดยมีพื้นที่เป้าหมายคือ พื้นที่ทั่วไป ประกอบด้วย พื้นที่อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ป่าสงวนแห่งชาติ และป่าชายเลน และพื้นที่วิกฤต ประกอบด้วย พื้นที่อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ป่าสงวน แห่งชาติ และป่าชายเลน ที่ประสบภาวะวิกฤตและล่อแหลมต่อการถูกบุกรุกทำลาย ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ 2. การดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจัดทำราย ละเอียดข้อมูล และความพร้อมในการดำเนินงาน ประกอบการนำเสนอคณะกรรมการกลั่นกรองและบริหารโครงการ ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 เพื่อขอรับการจัดสรรเงินตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 (SP2) ตาม ขั้นตอนในระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 พ.ศ. 2552 และหากมีความจำเป็นเร่งด่วนต้องดำเนินการตามยุทธการดังกล่าว ให้พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการ ใช้จ่ายงบประมาณ พ.ศ. 2553 ไปดำเนินการตามความเหมาะสมและจำเป็น สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2554-2557 ให้จัดลำดับความสำคัญของแผนการดำเนินงานตามความจำเป็นเร่งด่วน โดยกำหนดพื้นที่เป้าหมาย ผลลัพธ์ ผลผลิต กิจกรรมและตัวชี้วัดให้สอดคล้องกับยุทธการแก้ไขปัญหาวิกฤตป่าไม้ของชาติ และประสานกับสำนักงบประมาณเพื่อใช้ ประกอบการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของ กระทรวงกลาโหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรเพิ่มยุทธการในแผนงานฟื้นฟูสภาพป่ากิจกรรมควบคุมมิให้มีการขยายพื้นที่บุกรุกและป้องกันรักษาป่า โดย เร่งรัดการดำเนินโครงการปรับปรุงเขตพื้นที่ป่าไม้ (Reshape) ให้เกิดความต่อเนื่องและเสร็จสิ้นโดยเร็ว เพื่อจัดการ แผนที่แสดงขอบเขตที่ดินทุกประเภทของประเทศให้ชัดเจนสอดคล้องกับข้อเท็จจริงไม่ทับซ้อนกัน และช่วยแก้ไขปัญหา ข้อขัดแย้งเรื่องแนวเขตที่ดินระหว่างรัฐต่อรัฐ หรือรัฐกับเอกชน นอกจากนี้ ควรประเมินผลการดำเนินงานตามแผนและ มาตรการป้องกันรักษาและฟื้นฟูสภาพป่า (พ.ศ. 2551-2555) และมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันและปราบปราม การบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้และการป้องกันไฟป่าที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบไปแล้วเพื่อทบทวนยุทธการแก้ ไขปัญหาวิกฤตป่าไม้ของชาติให้มีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติมากขึ้นและเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนระหว่างมาตรการ เดิมและมาตรการที่เสนอมาใหม่ ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการด้วย 3. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งรัดการดำเนินการทำฝนเทียมในพื้นที่ประสบภัยแล้งและมีภาวะวิกฤต ด้านหมอกควันและฝุ่นละอองโดยด่วน เช่น พื้นที่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ เป็นต้น โดยประสานการดำเนินการกับ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
| 3123 | ผลการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ครั้งที่ 2/2553 | นร | 09/03/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทาง
เศรษฐกิจ (กรอ.) ครั้งที่ 2/2553 วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2553 และเห็นชอบมติคณะกรรมการ กรอ. และมอบ หมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของคณะกรรมการ กรอ. ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการ แล้วราย งานให้คณะกรรมการ กรอ. และคณะรัฐมนตรีทราบต่อไป ตามที่เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการ กรอ. เสนอ ดังนี้ 1. แนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมการขนส่งระบบรางและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง คณะกรรมการ กรอ. มีมติดังนี้ 1.1 เห็นชอบในหลักการแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมการขนส่งระบบรางและอุตสาหกรรม เกี่ยวเนื่อง โดยให้ดำเนินการตามแผนที่นำทาง (Roadmap) ทั้ง 3 ระยะไปพร้อม ๆ กัน ส่วนการกำหนดหลัก เกณฑ์เงื่อนไข การให้แต้มต่อสำหรับการประมูลโครงการที่ใช้ชิ้นส่วนในประเทศ ให้พิจารณาความเป็นไปได้ด้วย ความระมัดระวังโดยต้องให้เป็นการแข่งขันโดยสมบูรณ์และไม่ขัดแย้งกับกฎกติกาขององค์การการค้าโลก (WTO) และพิจารณาให้ครอบคลุมทั้งระบบ เช่น อายุการใช้งาน การซ่อมบำรุงรักษา และรูปแบบของการพัฒนาใหม่ ๆ เป็นต้น 1.2 มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นหน่วยงานหลักหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ และเอกชน ในการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาความเหมาะสมของรูปแบบและแนวทางการดำเนิน งานของสถาบันพัฒนาระบบขนส่งทางรางและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว 2. แนวทางการแก้ไขปัญหาการยกเลิกเที่ยวบินประจำของสายการบินที่ได้รับอนุญาตและแนวทาง พัฒนาและใช้ประโยชน์ท่าอากาศยานภูมิภาค คณะกรรมการ กรอ. มีมติเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาการ ยกเลิกเที่ยวบิน ฯ โดยให้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ประเมินผลการดำเนินงานของสายการบินนก แอร์ ทั้งในด้านคุณภาพการให้บริการ การตรงต่อเวลา และความปลอดภัย 3. ความคืบหน้าข้อเสนอแก้ไข พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 คณะกรรมการ กรอ. มีมติรับทราบความ คืบหน้าข้อเสนอแก้ไข พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 และให้จัดตั้งคณะทำงานร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพิจารณาแก้ ไขปัญหาโดยตราเป็นกฎหมายเฉพาะสำหรับไม้เศรษฐกิจ อีกทั้งให้มีผลต่อการปรับปรุงกระบวนการทำงานให้ เอื้อต่อการประกอบการของอุตสาหกรรมแปรรูปไม้ยางพารา โดยมิให้เกิดผลกระทบต่อการอนุรักษ์พื้นที่ป่าไม้ 4. ความคืบหน้าการดำเนินการตามยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมก่อสร้าง คณะกรรมการ กรอ. มีมติ รับทราบและให้กระทรวงแรงงานศึกษาแนวทางการอำนวยความสะดวกในกรณีผู้ประกอบการไทยได้รับประมูล งานก่อสร้างในต่างประเทศสามารถนำแรงงานไทยไปทำงานในประเทศนั้น ๆ ได้ โดยได้รับการดูแลด้านสวัสดิ การและคุณภาพชีวิตที่ดี
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3124 | รายงานผลการดำเนินโครงการบ้านดินสิ่งมหัศจรรย์ของจังหวัดชัยภูมิ ประจำเดือนมกราคม 2553 | มท | 09/03/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอรายงานผลความก้าวหน้าการดำเนินโครงการบ้าน
ดินสิ่งมหัศจรรย์ของจังหวัดชัยภูมิ ประจำเดือนมกราคม 2553 ดังนี้ 1. โครงการฝึกอบรมทางด้านการเกษตร ฯ ดำเนินกิจกรรมปลูกผักปลอดสารพิษ ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ /สารชีวภาพ ผลิตกล้าไม้/กล้าไม้ดอก และเพาะเห็ดโรงเรือน โดยอยู่ระหว่างการสอบราคาซื้อวัสดุ (วัตถุดิบ) ใน การอบรมและก่อสร้างโรงเรียน 2. โครงการฝึกอบรมด้านการจัดทำของที่ระลึก ฯ กำหนดฝึกอบรมในเดือนมีนาคม 2553 3. โครงการพัฒนาระบบบริหารจัดการของผู้ประกอบการที่พักโฮมสเตย์ กำหนดอบรมเดือนกุมภาพันธ์- มีนาคม 2553 4. โครงการพัฒนาปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ การปรับปรุงบ้านพักอาศัยให้ถูกสุขลักษณะ การรื้อ ขนย้ายวัสดุและติดตั้งประปา (ช่วงที่ผ่านแนวที่ดินเอกชน) การปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณจุดชมวิว การปรับปรุงทิว ทัศน์บริเวณรอบบ้านพัก การก่อสร้างห้องน้ำรวมสำหรับนักท่องเที่ยว การติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ การก่อสร้าง และปรับปรุงถนน ซึ่งจากการประกวดราคาได้ผู้รับจ้าง คือ ห้างหุ้นส่วนจำกัดบุ่งคล้าก่อสร้าง วงเงิน 10,743,000 บาท ขณะนี้อยู่ระหว่างแจ้งผู้ชนะการประมูล ฯ มาลงนามในสัญาจ้าง 5. โครงการจัดหาอุปกรณ์ในการแสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชน เริ่มดำเนินการในเดือนมกราคม-มีนา คม 2553 6. โครงการติดตามประเมินผลการดำเนินงานบ้านดิน ฯ ระยะเวลาดำเนินการเดือนมกราคม-กันยายน 2553
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3125 | โครงการปรับปรุงอาคารที่ทำการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ | นร | 02/03/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
(สศช.) ดำเนินโครงการปรับปรุงอาคารที่ทำการ สศช. ในลักษณะก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. 2553- 2556 ระยะเวลา 4 ปี วงเงินทั้งสิ้น 130,866,000 บาท โดยปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ให้พิจารณาปรับแผนการ ใช้จ่ายงบประมาณมาดำเนินการ จำนวน 21,500,000 บาท และผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554-2556 อีกจำนวน 109,366,000 บาท ทั้งนี้ ให้ สศช. ดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม แล้วขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณเพื่อขอความเห็นชอบ ความเหมาะสมราคาก่อนลงนามในสัญญา ตามนัยระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. 2534 และที่ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2549 ข้อ 4(1) ต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3126 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง โฉนดชุมชน | สสป | 02/03/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอความเห็นและ
ข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง โฉนดชุมชน และรับทราบตามที่สำนักงานปลัดสำนัก นายกรัฐมนตรีเสนอความเห็น ผลการพิจารณา และผลการดำเนินการร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยความเห็น และข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษา ฯ สรุปได้ดังนี้ 1. ที่ดินที่รัฐจะนำมาดำเนินการตามนโยบายโฉนดชุมชน ควรเป็นที่ดิน 3 ประเภท ดังนี้ 1.1 ประเภทที่หนึ่ง ที่ดินของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจที่ราษฎรอยู่อาศัยและทำกินมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ ที่ดินของรัฐที่มีการบุกรุกใหม่ 1.2 ประเภทที่สอง ที่ดินของรัฐหรือที่ดินที่รัฐจัดหามาเพื่อดำเนินการจัดสรรให้ราษฎรหรือเกษตร กรมีที่อยู่อาศัยหรือพื้นที่ทำการเกษตร 1.3 ประเภทที่สาม ที่ดินที่เอกชนครอบครองหรือได้รับเอกสารสิทธิที่ดิน โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือที่ดินที่เอกชนทิ้งร้างไม่ทำประโยชน์เกินเวลาที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายที่ดิน 2. รัฐบาลควรออกโฉนดชุมชน รับรองสิทธิชุมชนโดยไม่กำหนดระยะเวลา และให้สามารถสืบทอดทาง มรดกได้ โดยกำหนดเงื่อนไขให้รัฐสามารถที่จะเพิกถอนโฉนดชุมชนได้ทั้งแปลงหากชุมชนไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงร่วม ระหว่างรัฐกับชุมชน 3. รัฐบาลควรศึกษาและนำแนวทางการดำเนินการรับรองสิทธิชุมชนในลักษณะสิทธิร่วมแบบโฉนดชุม ชนเป็นแนวทางการดำเนินการจัดการโฉนดชุมชน จากตัวอย่างที่ได้มีการดำเนินการอยู่แล้วในหลายพื้นที่ เช่น กรม ส่งเสริมสหกรณ์ดำเนินการในพื้นที่นิคมสหกรณ์ หรือตามโครงการพระราชดำริ เช่น หุบกะพง เป็นต้น 4. การออกโฉนดชุมชนในที่ดินในพื้นที่ของรัฐ ประกอบด้วย ที่ดินราชพัสดุ ที่ดินสาธารณประโยชน์ ที่ ดินตามกลุ่มกฎหมายป่าไม้ ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน และที่ดินตามกฎหมายจัดรูปที่ดินสามารถดำเนินการได้ทันที เนื่องจากกฎหมายเฉพาะของที่ดินแต่ละประเภทมีบทบัญญัติให้ผู้รักษาการตามกฎหมายสามารถอนุญาตให้ชุมชน ใช้ประโยชน์หรือทำเป็นโครงการร่วมกับชุมชน และรัฐบาลยังสามารถใช้กฎหมายปฏิรูปที่ดินสำหรับสนับสนุนการ ปฏิรูปที่ดินเป็นแปลงรวมและจัดรูปแบบองค์กรชุมชนในรูปแบบของสหกรณ์ขึ้นดำเนินการบริหารจัดการที่ดินร่วม กัน โดยที่รัฐบาลประกาศให้ที่ดินที่ประสงค์จะออกโฉนดชุมชนเป็นพื้นที่ปฏิรูปที่ดิน 5. รัฐบาลสามารถยกระดับที่ดินที่อยู่อาศัยของชุมชนเมืองให้เป็นโฉนดชุมชนได้ โดยกำหนดให้ทำข้อ ตกลง ระเบียบและกติการ่วมที่ชัดเจน จะช่วยให้ชุมชนเมืองสามารถพัฒนาชุมชนได้ดียิ่งขึ้นรวมถึงจะช่วยแก้ไขปัญหา ชุมชนเมืองซึ่งเป็นปัญหาของเมืองใหญ่ทั่วประเทศ 6. รัฐบาลควรจะมีมาตรการสนับสนุนการดำเนินการโฉนดชุมชนให้ครอบคลุมทั้งที่ดิน ป่าไม้ แม่น้ำ ระบบเกษตรกรรมและที่อยู่อาศัยในพื้นที่นิเวศร่วม รวมทั้งให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมในการวางกฎระเบียบสำหรับการ บริหารจัดการที่มีความแตกต่างกันตามระบบนิเวศ จารีต ประเพณี และวัฒนธรรมของแต่ละชุมชน 7. รัฐบาลควรจะมีมาตรการสนับสนุนการจัดตั้งกองทุนที่ดินระดับชุมชนควบคู่กันไปในพื้นที่ซึ่งดำเนิน การโฉนดชุมชน โดยการระดมทุนจากภายในชุมชนสมทบกับงบประมาณของรัฐบาลภายใต้ระเบียบร่วมระหว่างรัฐ บาลกับชุมชนเพื่อเป็นทุนสำหรับช่วยการกระจายสิทธิที่ดิน และการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนเจ้าของที่ดินเนื่องจาก ความจำเป็นทางเศรษฐกิจ ภาวะหนี้สินหรือการต้องเปลี่ยนอาชีพหรือย้ายถิ่นฐานของสมาชิก 8. รัฐบาลควรมีนโยบายเร่งรัดจัดตั้งธนาคารที่ดินระดับประเทศ รวมทั้งการปรับปรุงกองทุนที่ดินที่ได้ จัดตั้งไว้แล้ว ให้มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับแนวนโยบายรัฐบาล เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับจัดหาที่ดินให้แก่ประชาชน เกษตรกร และรับโอนหรือปรับโครงสร้างหนี้ของประชาชนในกรณีที่ภาวะหนี้สินนั้นนำไปสู่การสูญเสียที่ดิน และ การปรับปรุงระบบภาษีที่ดินแบบก้าวหน้า เพื่อช่วยให้เกิดการกระจายการถือครองที่ดินให้มีการใช้ประโยชน์อย่าง ทั่วถึงและเป็นธรรม 9. รัฐบาลควรจัดให้มีแผนงานและงบประมาณสำหรับสนับสนุนการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน การพัฒนาอาชีพ การพัฒนาระบบสาธารณูปโภค และการจัดซื้อที่ดินบางส่วน โดยให้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการ ดำเนินงานโฉนดชุมชน
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3127 | การปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2553 ครั้งที่ 3 | กค | 02/03/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการนโยบายและกำกับการบริหาร
หนี้สาธารณะเสนอ ดังนี้ 1. อนุมัติการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ครั้งที่ 3 ที่มีวงเงิน เพิ่มขึ้น 43,955.08 ล้านบาท เป็นการกู้เงินใหม่ 13,955.08 ล้านบาท และการบริหารหนี้ 30,000 ล้านบาท ทำ ให้วงเงินรวมของแผนเพิ่มขึ้นจากเดิม 1,704,707.62 ล้านบาท เป็น 1,748,662.70 ล้านบาท 2. อนุมัติการกู้เงินและการค้ำประกันเงินกู้ในประเทศของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจภายใต้แผนการบริหารหนี้ สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ปรับปรุงครั้งที่ 3 3. อนุมัติให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ของ การกู้เงินและการค้ำประกันแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็นภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2553 ปรับปรุงครั้งที่ 3 แต่หากรัฐวิสาหกิจสามารถดำเนินการกู้เงินได้เองก็ให้สามารถดำเนินการ ได้ตามความเหมาะสมและจำเป็นของรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ 4. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบหมายเป็นผู้ลง นามผูกพันการกู้เงินและหรือการค้ำประกันเงินกู้ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3128 | ผลการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกร รอบที่ 1 และความก้าวหน้า รอบที่ 2 | นร | 02/03/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2553 จากเดิมที่ว่า
"เห็นชอบเป็นหลักการให้เกษตรกรที่ทำสัญญาประกันรายได้ รอบที่ 1 ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2552 และธนาคาร เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรแจ้งให้เกษตรกรดังกล่าวใช้สิทธิในเดือนธันวาคม 2552 และมกราคม 2553 สามารถขอใช้สิทธิเพื่อรับการชดเชยตามโครงการ ..." เป็น "เห็นชอบเป็นหลักการให้เกษตรกรที่ทำสัญญาประกัน รายได้ รอบที่ 1 ก่อนวันที่ 30 พฤศจิกายน 2552 และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรแจ้งให้เกษตร กรดังกล่าวใช้สิทธิในเดือนธันวาคม 2552 และมกราคม 2553 สามารถขอใช้สิทธิเพื่อรับการชดเชยตามโครการ ..." ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3129 | ขอแก้ไขข้อความเรื่องการปรับปรุงงบประมาณทำการของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ 2553 | นร | 23/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการขอแก้ไขข้อความในหนังสือ สศช. ที่ นร 1115/0466 ลงวันที่ 3 กุมภา
พันธ์ 2553 เรื่อง การปรับปรุงงบประมาณทำการของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ 2553 จาก "...กำไรสุทธิ ประมาณ 61,665 ล้านบาท ลดลงจากปี 2552 ร้อยละ 1.1" เป็น "...กำไรสุทธิประมาณ 61,665 ล้านบาท เพิ่ม ขึ้นจากปี 2552 ร้อยละ 1.1" ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับสาระสำคัญที่ได้นำเสนอ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการ พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3130 | การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและแนวทางในการปรับปรุงเครื่องแบบพิเศษ | นร | 09/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการและแนวทางในการปรับปรุงเครื่องแบบพิเศษ รวมทั้งการ
แต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองการกำหนดเครื่องแบบพิเศษของส่วนราชการ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายก รัฐมนตรีเสนอ และให้ส่วนราชการต่าง ๆ ถือปฏิบัติต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3131 | รายงานความก้าวหน้าการดำเนินการแก้ไขปัญหาและพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ | นร | 09/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่คณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหาและพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการของ
สนามบินสุวรรณภูมิเสนอ ดังนี้ 1. รับทราบรายงานความก้าวหน้าการดำเนินการแก้ไขปัญหาและพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการของ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) สรุปได้ดังนี้ 1.1 ปัญหารถยนต์รับจ้างและมัคคุเทศก์ผิดกฎหมาย บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ได้ขยายแผนปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามกลุ่มแท็กซี่ป้ายดำ และมัคคุเทศก์เถื่อนที่มาให้บริการโดยผิด กฎหมายที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ออกไปอีก 1 ปี เริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2552 และได้ทำการย้ายจุดให้บริการรถ แท็กซี่ป้ายเหลืองจากชั้น 2 ลงมาชั้น 1 ส่วนรถลีมูซีนยังอยู่ชั้น 2 เหมือนเดิม โดย ทอท. ได้จัดทำป้ายบอกเส้นทาง ขึ้นรถแท็กซี่ตั้งแต่ที่สายพานรับกระเป๋า และป้ายแนะนำอื่น ๆ ตลอดเส้นทาง รวมถึงจัดทีม Airport Help ให้คำแนะ นำบริเวณประตูทางออกของผู้โดยสารหลังผ่านศุลกากรด้วย 1.2 ปัญหาการลักทรัพย์สินในกระเป๋า/สัมภาระของผู้โดยสารในพื้นที่คัดแยกสัมภาระ ทอท. ได้ตรวจ สอบประวัติพนักงานของบริษัทที่เข้ามารับดำเนินการ (Outsource) และมาตรการเกี่ยวกับการปฏิบัติงานและการ แต่งกายของพนักงานเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการลักขโมยทรัพย์สินของผู้เดินทางและผู้โดยสาร และติดตั้ง CCTV เพิ่ม เติมในพื้นที่ล่อแหลม 327 ตัว 1.3 การลักทรัพย์หรือสินค้าในร้านปลอดภาษีของบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (King Power) ทอท. ได้จัดทำป้ายและตีเส้นแดงแสดงขอบเขตพื้นที่ของร้านค้าปลอดภาษีให้ชัดเจน และจัดทำป้ายแนะนำให้ชำระ ค่าสินค้าก่อนออกออกพื้นที่ของร้านค้านั้น ๆ รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่คอยดูแลลูกค้าบริเวณทางเดินเข้าร้านค้า และติด ตั้งเครื่องชำระเงินค่าสินค้าบริเวณทางเข้า-ออกร้านค้าด้วย 1.4 การนำสุราและบุหรี่เข้ามาในประเทศของผู้เดินทางและนักท่องเที่ยว ทอท. ได้จัดทำป้ายเตือนทั้ง ภาษาไทยและภาษาต่างประเทศเพิ่มเติม และเพิ่มช่องตรวจศุลกากร (ช่องไม่มีสิ่งของต้องสำแดง) ส่วนการดำเนิน การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการจับสุราและบุหรี่ รวมทั้งการร้องเรียนของนักท่องเที่ยวเรื่องการตรวจซ้ำ (ของเจ้า หน้าที่ศุลกากรและสรรพสามิต) เมื่อกระทรวงการคลังได้ปรับปรุงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่โดยให้มีการทำงาน ร่วมกันระหว่างกระทรวงการคลัง กรมศุลกากร และกรมสรรพสามิต เพื่อพิจารณาผ่อนปรนกรณีมีการจับกุมนัก ท่องเที่ยวที่นำบุหรี่หรือสุราเข้ามาเกินจำนวนที่กำหนดซึ่งจะพิจารณาผ่อนปรนการจับกุมโดยให้เจ้าหน้าที่ตักเตือน ก่อน และหากต้องมีการจับกุมจะทำงานร่วมกันเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจซ้ำ 1.5 การดำเนินงานคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้นักท่องเที่ยว ปัญหาที่พบส่วนใหญ่เกิดจากนักท่องเที่ยวไม่ได้ นำสินค้าให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจเพื่อประทับตราในเอกสารขอคืนภาษี 1.6 การปรับปรุงจุดตรวจค้นแบบรวมศูนย์ (Centralize Screening) ทอท. ได้ปรับปรุงระบบการตรวจ ค้นสัมภาระของผู้โดยสารที่นำติดตั้วขึ้นเครื่องบิน หากมีสิ่งของต้องห้ามนำขึ้นเครื่องบินติดตัวมาทางเจ้าหน้าที่จะให้ ผู้โดยสารทิ้งสิ่งของเสียก่อน และเมื่อผ่านการตรวจค้นแล้วก็สามารถซื้อของและขึ้นเครื่องบินต่อไปได้ 1.7 การจัดตั้งศูนย์ Suvarnabhumi Airport One Stop Service หรือ S.O.S. ซึ่งศูนย์ดังกล่าวเปิดบริการ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้บริการข้อมูลข่าวสาร รับแจ้งเหตุ และแก้ไขข้อขัดข้องต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว 1.8 การแก้ไขปัญหาระบบสาธารณูปโภคภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทอท. ได้ดำเนินโครงการ จัดทำผนังกั้นทางเชื่อมเพื่อติดตั้งป้ายโฆษณาในพื้นที่บริเวณทางเชื่อมระหว่างอาคารผู้โดยสารกับอาคารจอดรถและ มีโครงการจะปรับปรุงพื้นที่ชั้น 6 ของอาคารจอดรถ และจัดทำหลังคาเพื่อกันฝนซึ่งจะทำให้ปัญหาน้ำฝนไหลจาก ชั้น 6 อาคารจอดรถลงมาชั้นอื่นหมดไป 1.9 มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการปิดสนามบินเพื่อเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนและนักท่อง เที่ยวต่างชาติ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติกำลังทำการศึกษา (สศช.) เพื่อจัดทำ ข้อเสนอแนะแแนวทางการจัดทำแผน (Business Continuity Plan : BCP) ในระดับองค์กรธุรกิจเอกชนที่เป็นมาตร ฐานสากลที่เชื่อมโยงกับแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ฯ ซึ่งครอบคลุมประเภทของภัยพิบัติ กล ไกการกำกับดูแลและการปรับปรุงหรือพัฒนากฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การดำเนินการของภาค เอกชนในภาวะเหตุฉุกเฉินและภัยพิบัติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ของภาคเอก ชนมีความต่อเนื่องในกรณีที่เกิดวิกฤต ส่วนกรณีการป้องกันและแก้ไขปัญหาการปิดสนามบิน คณะกรรมการอำนวย การ ฯ ได้มอบหมายให้ ทอท. รับไปพิจารณาและหารือกับ สศช. เพื่อจัดทำแผนรองรับในเรื่องนี้โดยเร็ว 2. อนุมัติในหลักการให้จัดตั้งสถานีตำรวจท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi Airport Police) อยู่ ในสังกัดกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว เรียกว่า "กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว" เพื่อรับผิดชอบ เฉพาะพื้นที่ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับไปดำเนินการในรายละเอียดตาม บทบัญญัติของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยเร็วต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3132 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองพันธุ์พืช (จำนวน 12 คน 1. นายณัฐ โฆษิวากาญจน์ ฯลฯ) | กษ | 09/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองพันธุ์พืช จำนวน 12 คน
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (9 กุมภาพันธ์ 2553) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ 1. นายณัฐ โฆษิวากาญจน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากเกษตรกรภูมิภาคเหนือ 2. นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากเกษตรกรภูมิภาคกลาง 3. นายสมาน สีหาคลัง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากเกษตรกรภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4. นายวรพจน์ กุศลสงเคราะห์กุล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากเกษตรกรภูมิภาคตะวันออก 5. นายวรายุทธ์ ธนโชคสว่าง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากเกษตรกรภูมิภาคตะวันตก 6. นายกัมปนาท วงศ์ชูวรรณ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากเกษตรกรภูมิภาคใต้ 7. รองศาสตราจารย์สุรวิช วรรณไกรโรจน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งเป็นนักวิชาการด้านการปรับปรุงพันธุ์พืช จากสถาบันการศึกษา 8. นางสาวเจริญวิชญ์ หาญแห้ว กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งเป็นนักวิชาการด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ จากสถาบันการศึกษา 9. นายอุบล อยู่หว้า กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากองค์การพัฒนาเอกชนที่ไม่แสวงหากำไรที่มีกิจกรรม เกี่ยวกับการเกษตร 10. นางสาวพรพนา ก๊วยเจริญ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากองค์การพัฒนาเอกชนที่ไม่แสวงหากำไรที่มีกิจกรรม เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ 11. ว่าที่ร้อยตรี สุรพงษ์ โกสิยะจินดา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากสมาคมที่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการปรับปรุงพันธุ์พืช และขยายพันธุ์พืช 12. นายวินิจ ชวนใช้ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากสมาคมที่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์พืช
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3133 | การปรับปรุงงบประมาณทำการของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ 2553 | นร | 09/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีรับทราบงบประมาณทำการของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ที่คาดว่าจะมี
ประมาณการรายได้รวม จำนวน 1,380,274 ล้านบาท รายจ่ายรวม จำนวน 1,318,609 ล้านบาท และกำไรสุทธิ ประมาณ 61,665 ล้านบาท ลดลงจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ร้อยละ 1.1 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนา การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3134 | คณะกรรมการต่างๆ ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง (กระทรวงมหาดไทย) (จำนวน 6 คณะ) | มท | 09/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงแก้ไขชื่อตำแหน่งของคณะกรรมการที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง จำนวน
6 คณะ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ 1. คณะกรรมการพิจารณาอนุญาตให้ดูดทราย (กพด.) - แก้ไขลำดับที่ 15 เป็นผู้อำนวยการส่วนการจัดการที่ดินของรัฐ กรมที่ดิน กรรมการและผู้ช่วย เลขานุการ 2. คณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย (คณะที่ 1) - แก้ไขลำดับที่ 2 เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย - แก้ไขลำดับที่ 14 เป็นนิติกรชำนาญการพิเศษ สำนักกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาด ไทย 3. คณะกรรมการพิจารณาตั้งกิ่งอำเภอและอำเภอ - แก้ไขลำดับที่ 14 เป็นรองอธิบดีกรมการปกครอง (กลุ่มภารกิจด้านสนับสนุนการบริหารงาน แบบบูรณาการ) 4. คณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย (คณะที่ 2) - แก้ไขลำดับที่ 2 เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย - แก้ไขลำดับที่ 14 เป็นนิติกรชำนาญการพิเศษ สำนักกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาด ไทย 5. คณะกรรมการศูนย์ดำเนินการเกี่ยวกับผู้อพยพ - แก้ไขลำดับที่ 23 เป็นผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย (รองหัวหน้าสำนักงานศูนย์ดำเนินการเกี่ยวกับผู้อพยพ) 6. คณะกรรมการพิจารณาหลักเกณฑ์การจัดตั้งจังหวัดใหม่ - แก้ไขลำดับที่ 20 เป็นรองอธิบดีกรมการปกครอง (กลุ่มภารกิจด้านสนับสนุนการบริหารงาน แบบบูรณาการ)
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3135 | การปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการกำกับนโยบายราคากลางงานก่อสร้าง | นร | 09/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการกำกับนโยบายราคากลางงาน
ก่อสร้าง ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ โดยเพิ่มเติมองค์ประกอบ ดังนี้ 1. รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับการปฏิบัติราชการของสำนักงบประมาณ เป็นประธานกรรมการ 2. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นรองประธานกรรมการ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3136 | การดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2552 กรณี องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน | นร | 02/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบแนวทางการปรับปรุงการบริหารและพัฒนาองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการ ท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) ระยะสั้น 1-2 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553-2554) และระยะยาว ดังนี้ 1.1 แนวทางการปรับปรุงการบริหารและพัฒนา อพท. (ระยะสั้น 1-2 ปี) ฯ ควรกำหนดประเด็น การปรับปรุง อพท. รวม 5 ประเด็น คือ 1.1.1 ปรับปรุงบทบาท ภารกิจในภาพรวม ให้ อพท. คงเจตนารมณ์ตามวัตถุประสงค์การจัด ตั้ง แต่ปรับบทบาทให้ชัดเจนและปรับวิธีการทำงานโดยมุ่งเน้นและจัดกลไกการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน 1.1.2 ปรับปรุงภารกิจด้านการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ ให้พัฒนา "ต้นแบบ" การบริหาร จัดการพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยว โดยเลือกพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวตามประเภทของแหล่งท่องเที่ยวเพื่อ นำไปใช้เป็นแนวทางในการปรับบทบาทของ อพท. ในการบริหารจัดการพื้นที่พิเศษ หรือปรับปรุง อพท. เป็น องค์กรรูปแบบอื่นในระยะยาวต่อไป 1.1.3 แก้ไขพระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง อพท. พ.ศ. 2546 ให้แก้ไขเฉพาะบางมาตราที่จำเป็นเพื่อ สนับสนุนการบริหารงานของ อพท. และคงมาตราที่บัญญัติเกี่ยวกับการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ 1.1.4 ปรับปรุงภายในองค์กร ให้ปรับโครงสร้างการจัดองค์กรรวมทั้งบทบาทหน้าที่ของ อพท. ส่วนกลางและพื้นที่พิเศษให้มีความเชื่อมโยงระหว่างกัน ปรับขนาดองค์กรเพื่อความคล่องตัว และนำข้อเสนอการ ปรับปรุงไปกำหนดตัวชี้วัดตามคำรับรองการปฏิบัติงานประจำปีระหว่างรัฐมนตรี-ประธานกรรมการบริหาร-ผู้ อำนวยการ อพท. 1.1.5 พัฒนากลไกการผลักดัน เพื่อนำแผนแม่บทการบริหารพัฒนาพื้นที่พิเศษไปสู่การปฏิบัติ ควรผลักดันให้คณะกรรมการผู้ซึ่งมีอำนาจตัดสินใจหรือส่วนราชการนำแผนแม่บทการบริหารพัฒนาพื้นที่พิเศษ ที่ อพท. เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบไปเป็นแนวทางในการพิจารณาหรือปฏิบัติ 1.2 แนวทางการปรับปรุงการบริหารและพัฒนา อพท. (ระยะยาว) เมื่อ อพท. สามารถดำเนินการ ตามแนวทางการปรับปรุงการบริหารและพัฒนาระยะสั้นให้เกิดผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรมได้แล้ว จึงให้นำรูปแบบ การบริหารจัดการพื้นที่พิเศษ ตั้งแต่การจัดทำแผนและการนำแผนไปปฏิบัติให้บรรลุผลไปใช้เป็น "ต้นแบบ" ใน การบริหารจัดการพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพื่อการปรับปรุง อพท. ในระยะยาวต่อไป 2. ให้คณะกรรมการ อพท. ดำเนินการตามแนวทางการปรับปรุงการบริหารและพัฒนา อพท. ตามที่ คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ |
|||||||||||||||||||||||||||
| 3137 | การขยายระยะเวลาของมาตรการระงับการขอจัดตั้งหน่วยงานใหม่หรือขยายหน่วยงานตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 | นร | 26/01/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอขอขยายระยะเวลาของมาตรการระงับการขอจัดตั้งหน่วยงานใหม่ หรือขยายหน่วยงาน รวมทั้งการจัดตั้งองค์การมหาชนหรือหน่วยงานอื่นของรัฐในสังกัดฝ่ายบริหารและหน่วยบริการ รูปแบบพิเศษเพิ่มใหม่ชั่วคราว ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 ซึ่งได้สิ้นสุดเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2552 โดยขยายระยะเวลาออกไปอีกตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2552 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2553 ยกเว้นกรณีดังต่อไปนี้ 1.1 การจัดตั้งหน่วยงานตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติ 1.2 การจัดตั้งหน่วยงานใหม่ หรือขยายหน่วยงาน เพื่อรับผิดชอบงานตามนโยบายสำคัญเร่งด่วนของรัฐ บาล ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้สั่งการให้ดำเนินการ 1.3 การยกฐานะส่วนราชการภายในกรมซึ่งมีการปรับปรุงงานให้มีคุณภาพสูงขึ้น โดยไม่มีผลทำให้ค่าใช้ จ่ายเพิ่มขึ้น 1.4 การยุบ รวม โอน หน่วยงานภายในส่วนราชการ/จังหวัดเดียวกัน หรือส่วนราชการในกระทรวงเดียว กันหรือต่างกระทรวง หรือระหว่างจังหวัดและกลุ่มจังหวัด โดยไม่มีผลทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 1.5 การถ่ายโอนภารกิจตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 ซึ่งส่งผลให้ต้องมีการปรับปรุงหน่วยงานใหม่ 1.6 ทั้งนี้ ในการขอจัดตั้งหน่วยงานใหม่ หรือขยายหน่วยงาน หรือปรับปรุงหน่วยงานใหม่ ตามข้อ 1.1- 1.5 ส่วนราชการต้องดำเนินการตามแนวทางที่คณะรัฐมนตรีได้กำหนดไว้ในแต่ละเรื่องด้วย 2. สำหรับกรณีการเปลี่ยนแปลงชื่อหน่วยงานเดิมให้สามารถดำเนินการได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3138 | ปฏิญญากรุงธากาว่าด้วยการพัฒนาชนบท (The Dhaka Declaration on Rural Development) | กษ | 26/01/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบในหลักการปฏิญญากรุงธากาว่าด้วยการพัฒนาชนบท (The Dhaka Declaration on Rural Development) ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับการ เสนอคำว่า "politically" หน้าคำว่า "commit" ในประโยคสุดท้ายของร่างปฏิญญา ฯ เพื่อให้ชัดเจนว่าเอกสารฉบับนี้มี สถานะเป็น political commitment เท่านั้น ไปพิจารณาดำเนินการด้วย 2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือผู้แทนที่เข้าร่วมการประชุมลงนามปฏิญญา ฯ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ 3. เห็นชอบให้ผู้แทนไทยดำเนินการปรับปรุงแก้ไขเอกสารดังกล่าวได้ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ ไขเอกสารที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3139 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเวียงชัย และตำบลทุ่งก่อ อำเภอเวียงเชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย พ.ศ. .... | กษ | 26/01/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่
ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเวียงชัย และตำบลทุ่งก่อ อำเภอเวียงเชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเวียงชัย และตำบลทุ่งก่อ อำเภอเวียงเชียง รุ้ง จังหวัดเชียงราย เพื่อก่อสร้างประตูระบายน้ำ ตามโครงการปรับปรุงระบบหนองหลวง ตามที่กระทรวงเกษตร และสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3140 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2552 | ทส | 26/01/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) ประธานกรรมการทรัพยา
กรน้ำแห่งชาติเสนอสรุปผลการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2552 เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2552 สรุปได้ดังนี้ 1. ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้มีการจัดงานวันน้ำโลก ในภาคต่าง ๆ ทั้ง 4 ภาค ใช้ชื่อโครงการ "คุณภาพน้ำ คุณภาพชีวิต : ความท้าทาย และโอกาส" เนื่องในสัปดาห์อนุรักษ์ทรัพยากรน้ำแห่งชาติและวันน้ำโลก และให้แต่งตั้ง คณะอนุกรรมการเพื่อช่วยในการจัดงาน โดยรับข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของกรรมการไปพิจารณาดำเนินการด้วย 2. ที่ประชุมมีมติให้ฝ่ายเลขานุการ ฯ เชิญผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และหน่วย งานที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการชลประทานหลวง พ.ศ. .... และรวบรวมความคิดเห็นนำเสนอ ประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเพื่อเสนอไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี 3. ที่ประชุมมีมติให้ฝ่ายเลขานุการ ฯ รวบรวมจำนวนหมู่บ้านที่ยังไม่มีระบบประปา พร้อมทั้งให้จัดลำดับ ความสำคัญที่ต้องดำเนินการเสนอคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเป็นข้อ มูลในการพิจารณา ทั้งนี้ หากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดที่ไม่สามารถดำเนินการเกี่ยวกับระบบประปาหมู่บ้าน ได้ ให้เสนอคณะกรรมการการกระจายอำนาจ ฯ พิจารณาให้ความเห็นชอบให้หน่วยงานที่มีความพร้อมเข้ามาสนับ สนุนการดำเนินการ และหากไม่มีงบประมาณดำเนินการจะได้พิจารณาหาแหล่งงบประมาณ 4. ที่ประชุมมีมติรับทราบเกี่ยวกับโครงการแก้ไขปัญหาอุทกภัยอย่างยั่งยืนในลุ่มน้ำเจ้าพระยา และมอบ ให้กรมชลประทานรับไปศึกษาเพิ่มเติมและพิจารณาว่าจะสามารถนำโครงการดังกล่าวมาใช้ประโยชน์ในการดำเนิน การบริหารจัดการน้ำทั้งระบบได้อย่างไร พร้อมทั้งนำเสนอเรื่องการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระ ยาทั้งระบบของกรมชลประทานในการประชุมครั้งต่อไป 5. ที่ประชุมมีมติรับทราบรายงานสรุปการเกิดอุทกภัยในปี พ.ศ. 2552 และผลการดำเนินงานของคณะ อนุกรรมการติดตามสถานการณ์น้ำ และเตรียมความพร้อมด้านอุทกภัย 6. ที่ประชุมมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 253/2552 ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2552 เรื่องแต่งตั้งผู้แทนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่ง ชาติเพิ่มเติม 7. ที่ประชุมมีมติรับทราบมติคณะรัฐมนตรีและการดำเนินงานตามมติที่ประชุมคณะกรรมการทรัพยากร น้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2552 และให้กระทรวงมหาดไทยติดตามการดำเนินการของแต่ละจังหวัดในเรื่องห้ามไม่ให้ มีการปลูกสร้างสิ่งก่อสร้างในพื้นที่ชุ่มน้ำ และตรวจสอบการดำเนินการก่อสร้างอาคารวิทยาเขตของมหาวิทยาลัย ราชภัฏในพื้นที่ชุ่มน้ำจังหวัดพิษณุโลก 8. ที่ประชุมมีมติรับทราบและเห็นชอบให้ฝ่ายเลขานุการ ฯ นำเสนอเรื่องที่หน่วยงานต่าง ๆ ขอความ เห็นจากคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติในระหว่างที่ไม่มีการประชุม ให้เสนอประธานกรรมการ ฯ พิจารณา สั่งการหรือให้ความเห็น และนำมาเสนอคณะกรรมการ ฯ ทราบในการประชุมครั้งต่อไป 9. ที่ประชุมมีมติรับทราบรายงานรายละเอียดโครงการผันน้ำจากพื้นที่จังหวัดจันทบุรีไปยังแหล่งเก็บกัก น้ำจังหวัดระยอง โดยให้กรมชลประทานดำเนินการสอบถามความคิดเห็นของประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้ครอบ คลุมเพิ่มเติมทั้งลุ่มน้ำก่อนดำเนินการก่อสร้างโครงการ 10. ที่ประชุมมีมติรับทราบผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดแนวทางและหลัก เกณฑ์การนำน้ำในแหล่งน้ำสาธารณะไปใช้ 11. ที่ประชุมมีมติรับทราบผลการดำเนินงานจัดประชุมของคณะอนุกรรมการจัดทำแผนการอนุรักษ์ฟื้น ฟูแหล่งน้ำและพื้นที่ชุ่มน้ำเพื่อหาแนวทางการปรับปรุงฟื้นฟูบึงสีไฟ จังหวัดพิจิตร และให้ประธานอนุกรรมการอนุ รักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำและพื้นที่ชุ่มน้ำติดตามการดำเนินงานมานำเสนอในการประชุมครั้งต่อไป 12. ที่ประชุมมีมติรับทราบผลการประชุมหารือเพื่อหาแนวทางการจัดสรรน้ำสำหรับภาคการใช้น้ำด้าน ต่าง ๆ 13. ที่ประชุมมีมติมอบให้ฝ่ายเลขานุการ ฯ รับไปพิจารณาการจัดทำตราสัญลักษณ์ของคณะกรรมการ ทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
|
|||||||||||||||||||||||||||
.....
