ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 988 จากทั้งหมด 6209 หน้า แสดงรายการที่ 19741 - 19760 จากข้อมูลทั้งหมด 124171 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
19741 | รายงานการเสร็จสิ้นการชำระบัญชีของบรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน (บบส.) | กค | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการเสร็จสิ้นการชำระบัญชีของบรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน (บบส.) ที่คณะกรรมการผู้ชำระบัญชีได้ดำเนินการชำระบัญชีกิจการของ บบส. เสร็จสิ้นแล้ว ตามพระราชบัญญัติยุบเลิกบรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน พ.ศ. ๒๕๔๙ เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป และให้ถือวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นวันถึงที่สุดแห่งการชำระบัญชี ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19742 | รายงานผลการจัดงานตลาดคลองผดุงกรุงเกษมของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | ทส | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการจัดงานตลาดคลองผดุงกรุงเกษมของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระหว่างวันที่ ๕-๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ณ บริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพมหานคร ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ดำเนินการจัดงานตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ภายใต้แนวคิด “ทส.ตลาดสร้างสรรค์ ของขวัญจากทรัพยากรธรรมชาติ” มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ เพิ่มช่องทางการตลาดทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการรายย่อย กลุ่มเกษตรกร ฯลฯ โดยเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตพบกับผู้บริโภคโดยตรง รวมถึงส่งเสริมให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร อีกทั้งเพื่อประชาสัมพันธ์ภารกิจของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและภาคีเครือข่ายให้สาธารณชนได้รับรู้โดยทั่วกัน ๒. กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย (๑) การจัดจำหน่ายสินค้าและบริการ (๒) กิจกรรมภาคบันเทิงและกิจกรรมส่งเสริมการขาย และ (๓) กิจกรรมส่งเสริมการสร้างวินัยคนในชาติในการจัดการขยะอย่างยั่งยืน โดยมีผู้เข้าชมและซื้อสินค้า ๖๖,๖๘๙ คน ยอดจำหน่ายสินค้า ๒๔,๖๒๕,๗๐๐ บาทและผู้ประกอบการที่จำหน่ายสินค้า ๓๘๗ บูธ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19743 | รายงานการสอบบัญชีและงบการเงินของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการและบริษัทย่อยปี 2558 | กค | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการสอบบัญชีและงบการเงินของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และบริษัทย่อยปี ๒๕๕๘ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่า มีความถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน พร้อมข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้รับจากการประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิก ประจำปี ๒๕๕๙ เมื่อวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๙ และประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป เพื่อให้เป็นตามมาตรา ๘๒ แห่งพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๓๙ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19744 | ร่างยุทธศาสตร์ของกระทรวงพาณิชย์ ระยะ 20 ปี (กรกฎาคม พ.ศ. 2559 - 2579) | พณ | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างยุทธศาสตร์ของกระทรวงพาณิชย์ ระยะ ๒๐ ปี (กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๗๙) โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจการค้าของประเทศด้วยการยกระดับความสามารถทางการแข่งขัน สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจการค้าของประเทศด้วยการผลักดันความเชื่อมโยงกับโลก และสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจการค้าของประเทศด้วยการสร้างแรงยึดเหนี่ยวในระบบเศรษฐกิจการค้าของประเทศ รวมทั้งกำหนดยุทธศาสตร์ในระยะ ๒๐ ปี ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ ๑ การพัฒนาผู้ประกอบการแบบครบวงจร ยุทธศาสตร์ที่ ๒ การพัฒนาระบบการค้าให้มีประสิทธิภาพ ยุทธศาสตร์ที่ ๓ การเสริมสร้างบทบาทผู้บริโภค และยุทธศาสตร์ที่ ๔ การบูรณาการกับระบบการค้าโลก ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19745 | แจ้งมติของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กรณีถอดถอนนายประชา ประสพดี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกจากตำแหน่ง | สว | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กรณีถอดถอนนายประชา ประสพดี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กรณีมีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่ โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔ มาตา ๑๒๓/๑ ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19746 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัย ราชภัฏเชียงราย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา และสีประจำสาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์ เพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19747 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องอบผ้าต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. ..... | อก | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องอบผ้าต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องอบผ้าต้องเป็นไปตามมาตรฐาน ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับไปพิจารณาดำเนินการเผยแพร่ข้อมูลและสร้างความเข้าใจให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เพื่อให้ผู้ประกอบการในธุรกิจที่เกี่ยวข้องสามารถปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19748 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา ภาคที่ 1 เรื่อง แนวทางการส่งเสริมนวัตกรรมการออกกำลังกายและการสร้างเสริมสมรรถภาพผู้สูงอายุ ของ คณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | สธ | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาศึกษา ภาคที่ ๑ เรื่อง แนวทางการส่งเสริมนวัตกรรมการออกกำลังกายและการสร้างเสริมสมรรถภาพผู้สูงอายุตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการสาธารณสุข สภานิติบัญญัติแห่งชาติ สรุปได้ว่า กระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเห็นด้วยกับรายงานคณะกรรมาธิการฯ ดังกล่าว โดยมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม เช่น ควรสนับสนุนให้มีการจัดตั้งชมรมเครือข่ายการออกกำลังกายชุมชน ส่งเสริมให้มีการทดสอบสมรรถภาพทางกายผู้สูงอายุเบื้องต้นแบบง่าย ๆ ด้วยตนเองในชมรม ส่งเสริมให้มีการประยุกต์ใช้อุปกรณ์หรือศิลปวัฒนธรรมไทยในท้องถิ่นนั้น ๆ มาเป็นนวัตกรรมการออกกำลังกายร่วมกับการใช้หลักวิทยาศาสตร์การกีฬา ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19749 | ร่างกฎกระทรวงการขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต การออกใบแทนใบอนุญาต การพักใช้ใบอนุญาต และเพิกถอนใบอนุญาต เป็นผู้ตรวจสอบเครื่องจักรเอกชน พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงานการตรวจสอบเครื่องจักร หลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบเครื่องจักร และการจัดทำรายงานผลการตรวจสอบเครื่องจักร ของผู้ตรวจสอบเครื่องจักรเอกชน พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | อก | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงรวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงการขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต การออกใบแทนใบอนุญาต การพักใช้ใบอนุญาต และการเพิกถอนใบอนุญาต เป็นผู้ตรวจสอบเครื่องจักรเอกชน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสำหรับบุคคลหรือนิติบุคคลใดที่ประสงค์จะเป็นผู้ตรวจสอบเครื่องจักรเอกชน เพื่อให้ผู้ตรวจสอบเครื่องจักรเอกชนปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องชัดเจน ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงานการตรวจสอบเครื่องจักร หลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบเครื่องจักร และการจัดทำรายงานผลการตรวจสอบเครื่องจักร ของผู้ตรวจสอบเครื่องจักรเอกชน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงานการตรวจสอบเครื่องจักร เพื่อให้ผู้ตรวจสอบเครื่องจักรเอกชนสามารถปฏิบัติงานเป็นมาตรฐานเดียวกับพนักงานเจ้าหน้าที่ ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรดำเนินการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ตรวจสอบเครื่องจักรเอกชนและการขอรับบริการการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักร โดยแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของการขอรับบริการการตรวจสอบ ทั้งกรณีตรวจสอบโดยพนักงานเจ้าหน้าที่และโดยผู้ตรวจสอบเอกชน เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ขอรับบริการและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติจดทะเบียนเครื่องจักร (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๘ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19750 | การขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลในเรื่อง การอนุรักษ์พลังงานโดยใช้ข้อบัญญัติเกณฑ์มาตรฐานอาคารด้านพลังงาน (Building Energy Code : BEC) และการปฏิรูปการบริหารงานสอบสวนและการให้บริการประชาชนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ | นร04 | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) เสนอ ดังนี้
๑. รับทราบการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลในเรื่อง การอนุรักษ์พลังงานโดยใช้ข้อบัญญัติเกณฑ์มาตรฐานอาคารด้านพลังงาน (Building Energy Code : BEC) และการปฏิรูปการบริหารงานสอบสวนและการให้บริการประชาชนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ๒. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามความเห็นของ กขร. แล้วรายงานความคืบหน้าให้ กขร. ทราบ ได้แก่ ๒.๑ เรื่อง การอนุรักษ์พลังงานโดยใช้ข้อบัญญัติเกณฑ์มาตรฐานอาคารด้านพลังงาน (Building Energy Code : BEC) ให้กระทรวงพลังงานรับไปพิจารณาแนวทางมาตรการในการสนับสนุนช่วยเหลือให้เหมาะสม และสร้างแรงจูงใจ รวมถึงเตรียมความพร้อมในเรื่องการขออนุญาต และให้กระทรวงมหาดไทยเร่งรัดการพิจารณาของคณะกรรมการควบคุมอาคาร โดย กขร. จะได้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอีกครั้งในเดือนสิงหาคม ๒๕๕๙ ๒.๒ เรื่อง การปฏิรูปการบริหารงานสอบสวนและการให้บริการประชาชนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศสถานีตำรวจ หรือ ระบบ CRMES (Criminal Record Information Management Enterprise System) ควรจะได้มีการเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย และจะต้องสร้างระบบการบริหารจัดการข้อมูลให้มีความทันสมัย ถูกต้องตลอดเวลา โดยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสานงานกับกระทวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อขอความร่วมมือในการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวให้สัมฤทธิ์ผลต่อไป ทั้งนี้ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงยุติธรรมเชื่อมโยงแผนปฏิรูปกิจการตำรวจให้มีความสอดคล้องกันและสนับสนุนซึ่งกันและกัน รวมถึงให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติรับไปพิจารณาเรื่องล่ามภาษาเพื่อแก้ไขการขาดแคลนล่ามและที่ปรึกษาในด้านต่าง ๆ ด้วย ๓. ให้หน่วยงานสรุปความคืบหน้าการดำเนินการตามห้วงระยะเวลาให้ชัดเจน เพื่อจะได้สร้างการรับรู้ การบูรณาการร่วมกัน การประชาสัมพันธ์และการปฏิบัติด้านข้อมูลข่าวสาร
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19751 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่ตำบลปากช่อง ตำบลปากดุก ตำบลบ้านกลาง ตำบลบ้านไร่ และตำบลช้างตะลูด อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ พ.ศ. .... | กษ | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่ตำบลปากช่อง ตำบลปากดุก ตำบลบ้านกลาง ตำบลบ้านไร่ และตำบลช้างตะลูด อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลปากช่อง ตำบลปากดุก ตำบลบ้านกลาง ตำบลบ้านไร่ และตำบลช้างตะลูด อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อประโยชน์แก่การชลประทาน ในการก่อสร้างระบบส่งน้ำพร้อมอาคารประกอบ ตามโครงการระบบส่งน้ำห้วยขอนแก่น (ระยะที่ ๓) ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรพิจารณานำกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน/ชุมชนเข้ามาดำเนินการตั้งแต่ระยะเริ่มวางแผนโครงการ เพื่อให้ประชาชน/ชุมชนในพื้นที่โครงการได้มีโอกาสเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจและแก้ไขประเด็นข้อขัดแย้ง และนำไปสู่การสร้างความยอมรับให้ดำเนินโครงการในพื้นที่ได้อย่างเป็นเอกฉันท์ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19752 | การประชุมระดับรัฐมนตรีเอเชียตะวันออกด้านครอบครัวและความเสมอภาคระหว่างเพศ (The East Asia Ministerial Forum on Families and Gender Equality) | พม | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในการเป็นเจ้าภาพการจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีเอเชียตะวันออกด้านครอบครัวและความเสมอภาคระหว่างเพศ (The East Asia Ministerial Forum on Families and Gender Equality) ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๙ โดยค่าใช้จ่ายในการจัดการประชุมจะใช้งบประมาณประจำปี ๒๕๕๙ ของกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่ได้รับการจัดสรรแล้ว จำนวน ๑๕ ล้านบาท ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการเตรียมการด้านสารัตถะควรพิจารณาประเด็นสำคัญ ได้แก่ เอกสารผลลัพธ์ควรสอดคล้องต่อเนื่องกับผลการประชุมฯ ครั้งล่าสุด ระหว่างวันที่ ๓-๕ ธันวาคม ๒๕๕๗ ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี อาทิ ข้อเสนอให้มีการพัฒนาดัชนีระหว่างประเทศด้านสิ่งแวดล้อมทางสังคมที่เป็นมิตรกับครอบครัว (International family-friendly social environment index) ซึ่งเสนอให้มีการทำวิจัยและนำผลการศึกษาดังกล่าวมาหารือในการประชุมในประเทศไทย รวมทั้งการจัดระเบียบวาระการประชุมและเอกสารผลลัพธ์ควรสะท้อนความเชื่อมโยงและรักษาดุลยภาพของการให้ความสำคัญระหว่างเรื่องครอบครัวกับความเสมอภาคทางเพศด้วย ตลอดจนควรใช้โอกาสการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผลักดันประเด็นที่ไทยให้ความสำคัญ หรือประสงค์ให้เกิดความร่วมมือระดับภูมิภาค อาทิ การส่งเสริมความตระหนักรู้โดยทุกภาคส่วน การแบ่งบทบาทหน้าที่ในครอบครัวโดยสะท้อนความเสมอภาคระหว่างเพศ อีกทั้งควรจัดลำดับความสำคัญของประเด็นให้อยู่ภายใต้โครงการหลักของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่เกี่ยวข้องของสหประชาชาติ นอกจากนี้ ในการจัดประชุมและการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน โดยคำนึงถึงความประหยัด ความคุ้มค่า และประโยชน์สูงสุดที่ทางราชการจะได้รับเป็นสำคัญ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19753 | ขอความเห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมแสดงเจตจำนงว่าด้วยการพัฒนาความร่วมมือด้านรถไฟ ระหว่างกระทรวงคมนาคมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี | คค | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมแสดงเจตจำนงว่าด้วยการพัฒนาความร่วมมือด้านรถไฟ ระหว่างกระทรวงคมนาคมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดและแลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อวัตถุประสงค์ในการพัฒนาระบบรางและส่วนต่อขยาย รวมถึงดำเนินการตามมาตรการที่มีความสำคัญด้านระบบราง ซึ่งจะสนับสนุนความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมระบบราง ผู้ให้บริการเดินรถไฟภายในประเทศ ผู้เชี่ยวชาญทางวิชาการ องค์กรที่อยู่ในภาคส่วนของระบบราง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ของทั้งสองฝ่าย ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กระทรวงคมนาคมประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงแรงงาน เพื่อพิจารณาแนวทางการรองรับการพัฒนาความรู้และการถ่ายทอดเทคโนโลยีของประเทศภายใต้กรอบความร่วมมือระหว่างประเทศ ให้สามารถสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมและบุคลากรด้านระบบรางของประเทศ ทั้งในระดับนโยบายและระดับปฏิบัติการได้อย่างเป็นรูปธรรม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๓. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหรือให้ความเห็นชอบไว้ ให้สามารถดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19754 | แนวทางการดำเนินการประชาสัมพันธ์งานของรัฐบาลโดยโฆษกกระทรวง ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี (6 ตุลาคม 2558) ประจำเดือนกรกฎาคม 2559 | นร02 | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการดำเนินการประชาสัมพันธ์งานของรัฐบาลโดยโฆษกกระทรวง ทั้ง ๒๐ กระทรวง ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี (๖ ตุลาคม ๒๕๕๘) ประจำเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๙ ตามที่คณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติเสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. การประชาสัมพันธ์ในเดือนที่ผ่านมา (กรกฎาคม ๒๕๕๙) ได้แก่ การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์และการสร้างภาพลักษณ์ของรัฐบาล การจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ครบ ๗๐ ปี และการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๘๔ พรรษา กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๙ การรณรงค์ออกเสียงประชามติและการประชาสัมพันธ์ร่างรัฐธรรมนูญ มาตรการให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการใช้รถใช้ถนนช่วงฤดูฝน การจัดงานสานศิลป์ถิ่นอาเซียน/การแข่งขันเรือใบนานาชาติ/การแข่งขันอาเซียนสกูลเกมส์ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก การขับเคลื่อนระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment) การแก้ไขปัญหา IUU และการปรับอันดับไทยในรายงานการค้ามนุษย์ของสหรัฐอเมริกา การขับเคลื่อนประชาคมการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคอาเซียน มาตรการแก้ไขปัญหาการบุกรุกผืนป่าและมาตรการจัดระเบียบสังคมและปรับภูมิทัศน์ การพัฒนาพื้นที่โครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ความร่วมมือการรับเรื่องร้องเรียนปัญหาออนไลน์อย่างครบวงจรผ่าน Call center 1212 การประกวดสิ่งประดิษฐ์เพื่อช่วยปฏิบัติงานด้านรังสี โครงการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแรงงานไทย การสร้างการรับรู้และสร้างความเข้าใจในการดำเนินงานของรัฐบาลผ่านชุดคำพูด (Theme Message) และ Inforgraphics ให้กับประชาชน และการดำเนินการตาม Road Map ๓ ระยะของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ๒. การประชาสัมพันธ์ในเดือนต่อไป (กันยายน ๒๕๕๙) ได้แก่ การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์และการสร้างภาพลักษณ์ของรัฐบาล การจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ครบ ๗๐ ปี และการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๘๔ พรรษา การดำเนินการภายหลังร่างรัฐธรรมนูญผ่านการออกเสียงประชามติ มาตรการแก้ไขปัญหาประมงผิดกฎหมายและการค้ามนุษย์และแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย (IUU) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน การเปิดให้บริการโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-เตาปูน) การรณรงค์ประชาสัมพันธ์ระเบียบและกฎหมายเกี่ยวกับการนำเข้าและส่งออกสัตว์ป่าตามอนุสัญญา CITES ความคืบหน้าการจัดหารถโดยสารรุ่นใหม่ของ ขสมก. ความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดงานสภาผู้บริหารโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU Telecom World 2016) โครงการร่วมบริจาคหนังสือ เนื่องในวันปิยมหาราช การชี้แจงทำความเข้าใจการบริหารจัดการเรื่องการระบายข้าว การจัดทำ Application ทะเบียนนักจิตวิทยา สำหรับให้ประชาชนสืบค้นข้อมูล และการดำเนินการตาม Road Map ๓ ระยะของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19755 | รายงานผลการเจรจาการบินระหว่างไทย - กัมพูชา | คค | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบบันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-กัมพูชา ฉบับลงนามวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๙ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับสิทธิความจุความถี่ สิทธิรับขนการจราจรเสรีภาพที่ ๕ ใบพิกัดเส้นทางบิน การทำการบินโดยใช้ชื่อเที่ยวบินร่วมกัน อากาศยานเช่า เที่ยวบินเช่าเหมาลำ และการมีผลใช้บังคับ ๑.๒ เห็นชอบร่างหนังสือแลกเปลี่ยนทางการทูตของไทย-กัมพูชา ๑.๓ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการแลกเปลี่ยนหนังสือทางการทูตยืนยันการมีผลใช้บังคับของบันทึกความเข้าใจฉบับลงนามวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ๒. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลังพร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19756 | ขอความเห็นชอบดำเนินการโครงการระบบขนส่งมวลชนขนาดรองสายสีทอง (สถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี - สำนักงานเขตคลองสาน - ประชาธิปก) | มท | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้กรุงเทพมหานครเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการโครงการระบบขนส่งมวลชนขนาดรองสายสีทอง (สถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี-สำนักงานเขตคลองสาน-ประชาธิปก) ซึ่งโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ในการรองรับการเดินทางจากการพัฒนาพื้นที่ฝั่งธนบุรี และส่งเสริมการใช้บริการระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ โดยเชื่อมต่อระบบการเดินทางกับโครงการระบบขนส่งมวลชน ๓ เส้นทาง ได้แก่ (๑) รถไฟฟ้า BTS สายสีส้มและส่วนต่อขยาย (๒) รถไฟฟ้าสายสีม่วง (ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) และ (๓) รถไฟฟ้าสายสีแดง (หัวลำโพง-บางบอน-มหาชัย) โดยให้กรุงเทพมหานครนำโครงการฯ เสนอให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจรพิจารณาความเหมาะสมของโครงการฯ เพื่อจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระยะที่ ๒ ตามมติคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ครั้งที่ ๑/๒๕๕๙ เมื่อวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๙ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรุงเทพมหานครรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประธานกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก และประธานกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐที่เห็นควรให้กรุงเทพมหานครเร่งรัดดำเนินการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และปรับปรุงแก้ไขในส่วนที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนตามขั้นตอนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และให้ประสานกระทรวงคมนาคมพิจารณาความเหมาะสมของโครงการฯ เพื่อจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระยะที่ ๒ ตามมติ คจร. โดยให้กระทรวงคมนาคมพิจารณากำหนดแผนพัฒนาระบบขนส่งมวลชนขนาดรองและการปฏิรูปเส้นทางระบบรถโดยสารสาธารณะในเขตกรุงเทพมหานครควบคู่กับการจัดทำแผนแม่บทดังกล่าว นอกจากนี้ ให้กรุงเทพมหานครศึกษาเปรียบเทียบความเหมาะสมของรูปแบบการลงทุนระหว่างรัฐดำเนินการเองหรือการให้เอกชนเข้าร่วมลงทุน โดยกรณีที่ให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนโครงการฯ ให้กรุงเทพมหานครปฏิบัติตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๖ อย่างเคร่งครัด รวมทั้งพิจารณาโครงสร้างอัตราค่าโดยสารร่วมและการใช้ระบบตั๋วร่วมเพื่อประโยชน์แก่ประชาชน ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๓. ให้กรุงเทพมหานครดำเนินการออกแบบในรายละเอียดของโครงการฯ โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของรัฐและประชาชนในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านสิ่งแวดล้อม การอนุรักษ์สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ รูปแบบการลงทุน ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๓๗ [เรื่อง พื้นที่ที่ควรกำหนดให้ระบบขนส่งมวลชน (รถไฟฟ้า) เป็นระบบใต้ดิน] ให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรุงเทพมหานครนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19757 | ขอความเห็นชอบส่งคืนพื้นที่สวนป่าสมเด็จ เนื้อที่ 900 ไร่ ให้กรมป่าไม้ เพื่อนำพื้นที่เข้าสู่กระบวนการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล | ทส | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ส่งคืนพื้นที่สวนป่าสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ แปลงปลูกปี ๒๕๒๖ เนื้อที่ ๑๐๐ ไร่ และแปลงปลูกปี ๒๕๒๒ เนื้อที่ ๘๐๐ ไร่ รวมเนื้อที่ ๙๐๐ ไร่ ให้กรมป่าไม้เพื่อนำพื้นที่ดังกล่าว เข้าสู่กระบวนการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล ภายใต้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณ ที่เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำความเข้าใจต่อประชาชนที่มีความขัดแย้งในการดำเนินการของภาครัฐในช่วงที่ผ่านมาให้ชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายและแนวทางแก้ปัญหาของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ และดำเนินการช่วยเหลือตามกระบวนการที่คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติกำหนด รวมทั้งการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนดังกล่าวจะต้องไม่มีความซ้ำซ้อนและคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการ และประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับอย่างแท้จริงเป็นสำคัญ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ในส่วนค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นภายหลังที่กรมป่าไม้ได้รับมอบพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ตามแผนงานบูรณาการจัดการปัญหาที่ดินทำกิน ได้เสนอตั้งงบประมาณ จำนวน ๕๑,๕๒๔,๐๐๐ บาท หากไม่เพียงพอให้เสนอปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี และขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ๓. สำหรับการนำพื้นที่สวนป่าสมเด็จเพื่อนำไปจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ให้เป็นไปตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติต่อไป และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19758 | สรุปผลการหารือข้อราชการเรื่อง ความร่วมมือด้านการควบคุมยาเสพติดไทย - เมียนมาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม | ยธ | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการหารือข้อราชการเรื่อง ความร่วมมือด้านการควบคุมยาเสพติดไทย-เมียนมา ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระหว่างวันที่ ๒๗-๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ณ กรุงเนปิดอว์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. การเข้าพบ พลโท จ่อ ส่วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้หารือเกี่ยวกับโครงการแม่น้ำโขงปลอดภัย การขอความร่วมมือเมียนมาให้ช่วยสืบสวนจับกุมนักค้ายาเสพติดรายสำคัญที่หลบหนีหมายจับเข้ามาซ่อนตัวอยู่ในเมียนมา ๑๓ ราย การควบคุมเคมีภัณฑ์และสารตั้งต้นมิให้เข้าสู่พื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ๒. การเข้าพบ ดร.มิ้นท์ ทวย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายไทยได้แจ้งว่านายกรัฐมนตรียินดีดูแลแรงงานเมียนมาด้านสาธารณสุขให้เป็นแรงงานที่ถูกกฎหมาย รวมถึงไทยยินดีสนับสนุนการฝึกอบรม และวัสดุอุปกรณ์ให้กับงานสาธารณสุขตามแนวชายแดนเมียนมา ๓. การเข้าพบ พลโท เย อ่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการชายแดน ได้หารือเกี่ยวกับการพัฒนาหมู่บ้านชายแดนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดที่เมืองสาด จังหวัดท่าขี้เหล็ก ซึ่งไทยสนับสนุนการดำเนินโครงการพัฒนาทางเลือก ๖ ปี (๒๐๑๒-๒๐๑๘) รวมทั้งโครงการหมู่บ้านคู่ขนานทั้ง ๑๔ คู่ ๒๘ หมู่บ้าน มีกิจกรรมยาเสพติดร่วมด้วย โดยเน้นด้านการรณรงค์ป้องกัน การบำบัดรักษา เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19759 | ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต จำหน่าย หรือมีไว้ครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะเฮมพ์ พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต จำหน่าย นำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 4 หรือในประเภท 5 พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | สธ | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงรวม ๒ ฉบับ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะเฮมพ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต การควบคุม และการดำเนินการอื่นที่เกี่ยวกับเฮมพ์ (Hemp) เป็นการเฉพาะ อันเป็นการรองรับการส่งเสริมการปลูกเฮมพ์ (Hemp) เป็นพืชเศรษฐกิจบนพื้นที่สูงในอนาคต และเพื่อประโยชน์ในการควบคุมและกำกับดูแลการปลูก การจำหน่าย การมีไว้ในครอบครอง และแปรสภาพเฮมพ์ (Hemp) ให้มีความเข้มงวดรัดกุมและป้องกันการนำไปใช้ในทางที่ผิด ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต จำหน่าย นำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๔ หรือในประเภท ๕ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต จำหน่าย นำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๔ หรือในประเภท ๕ ให้มีความสอดคล้องกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เห็นควรพิจารณากำหนดอายุในการเก็บเกี่ยวเฮมพ์ (Hemp) เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการตรวจวิเคราะห์ปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนาบิทอล (Tetrahydro cannabinol, THC) ซึ่งเป็นสารเสพติดในปริมาณที่ต่ำกว่ากัญชา และปริมาณสาร THC จะขึ้นกับระยะเวลาเก็บเกี่ยว ถ้าเก็บในระยะออกดอกจะมีปริมาณเกินร้อยละ ๑ ตามที่กำหนด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงยุติธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณากำหนดมาตรการควบคุมและกำกับดูแลเฮมพ์ (Hemp) ให้เข้มงวดและรัดกุมและสอดคล้องกับนโยบายการควบคุมยาเสพติดต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19760 | การพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนแรงงานอันเนื่องมาจากการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท เพิ่มเติมจากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2556 และเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2557 | กค | 06/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนแรงงาน อันเนื่องมาจากการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ ๓๐๐ บาท เพิ่มเติมจากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ และเมื่อวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ที่คณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุได้พิจารณาแล้วในการประชุมครั้งที่ ๗/๒๕๕๙ เมื่อวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๕๙ ครั้งที่ ๙/๒๕๕๙ เมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๙ และครั้งที่ ๑๐/๒๕๕๙ เมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๕๙ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ กรณีที่ ๑ เป็นการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการก่อสร้างที่เคยได้รับความช่วยเหลือตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ แต่ไม่สามารถส่งมอบงานงวดสุดท้ายได้ทันภายใน ๑๕๐ วัน โดยช่วยเหลือให้งดหรือลดค่าปรับให้จำนวน ๑๕๐ วัน ๑.๒ กรณีที่ ๒ เป็นการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการก่อสร้างที่มีสัญญาจ้างก่อสร้างที่หน่วยงานได้ดำเนินการจัดจ้างถึงขั้นตอนการเสนอราคาแล้วก่อนวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๖ แต่ไม่สามารถลงนามในสัญญาได้ระหว่างวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๖ ถึง ๒๒ เมษายน ๒๕๕๖ และได้ลงนามในสัญญาระหว่างวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๕๖ ถึง ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ (ซึ่งไม่อยู่ในช่วงระยะเวลาที่คณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุได้มีมติเห็นชอบการให้ความช่วยเหลือไว้) โดยช่วยเหลือให้งดหรือลดค่าปรับให้รวมเป็นจำนวน ๓๐๐ วัน ๑.๓ กรณีที่ ๓ เป็นการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการก่อสร้างที่มีสัญญาจ้างก่อสร้างที่ได้ลงนามในช่วงวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๕๖ ถึง ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ แต่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จตามสัญญา โดยช่วยเหลือให้งดหรือลดค่าปรับให้จำนวน ๑๕๐ วัน ๑.๔ กรณีที่ ๔ เป็นการช่วยเหลือโดยเพิกถอนคำสั่งลงโทษเป็นผู้ทิ้งงานแก่ผู้ประกอบการก่อสร้างซึ่งไม่อยู่ในหลักเกณฑ์การได้รับความช่วยเหลือตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ๒. ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐนำหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนแรงงานอันเนื่องมาจากการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ ๓๐๐ บาทดังกล่าวไปถือปฏิบัติในแนวทางเดียวกัน ๓. ให้กระทรวงมหาดไทยประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อขอความร่วมมือให้นำหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังกล่าวไปใช้ในการจัดจ้างก่อสร้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย โดยอนุโลม ๔. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรใช้ประโยชน์จากการเปิดเสรีบริการขยายตลาดการลงทุนไปยังประเทศต่าง ๆ ที่ไทยทำข้อเจรจาตกลงการค้าเสรี โดยมอบหมายให้สถาบันก่อสร้างแห่งประเทศไทยบูรณาการการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสมาคมวิชาชีพต่าง ๆ กำหนดแนวทางการพัฒนาแรงงานทั้งระดับบนและล่างให้มีประสิทธิภาพ ทั้งด้านภาษาและฝีมือแรงงานให้ได้ตามมาตรฐาน พัฒนาศักยภาพความสามารถผู้ประกอบการให้เข้มแข้งขึ้น และพัฒนาเทคโนโลยีการก่อสร้างที่เหมาะสม รวมทั้งปรับปรุง แก้ไขกฎหมายและระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาธุรกิจก่อสร้างไทย ซึ่งจะช่วยยกระดับและพัฒนาอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีสากล ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
.....