ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 984 จากทั้งหมด 6209 หน้า แสดงรายการที่ 19661 - 19680 จากข้อมูลทั้งหมด 124171 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
19661 | สรุปผลการพิจารณาดำเนินการตามรายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง สิทธิในกระบวนการยุติธรรม กรณีผู้ต้องหาในคดีความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ขอความช่วยเหลือให้ได้รับสิทธิตามมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 | นร51 | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการพิจารณาดำเนินการตามรายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง สิทธิในกระบวนการยุติธรรม กรณีผู้ต้องหาในคดีความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ขอความช่วยเหลือให้ได้รับสิทธิตามมาตรา ๒๑ แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) รายงานว่า สถานการณ์ในห้วงที่ผ่านมานั้นยังคงมีความจำเป็นในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่เดิมไว้ก่อน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้มีเครื่องมือทางกฎหมายในการควบคุมและระงับยับยั้งการก่อเหตุรุนแรง ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินได้เสนอขอขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีเครื่องมือทางกฎหมายในการควบคุมสถานการณ์ป้องกันหรือระงับยับยั้งการเกิดเหตุการณ์ความรุนแรง และหากในอนาคตสถานการณ์ในบางพื้นที่คลี่คลายลง กอ.รมน. จะพิจารณาประกาศใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ ในพื้นที่ที่เหมาะสมต่อไป ตามที่ กอ.รมน. เสนอ และให้แจ้งสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19662 | ขออนุมัติกู้เงินเพื่อนำไปชำระค่าเชื้อเพลิงและค่าเหมาซ่อมในปีงบประมาณ 2560 ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ | คค | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กู้เงินเพื่อนำไปชำระค่าเชื้อเพลิงและค่าเหมาซ่อมในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ จำนวน ๓,๓๑๙.๖๙๐ ล้านบาท และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ รวมทั้งพิจารณาวิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ในการกู้เงิน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. ให้กระทรวงคมนาคม โดย ขสมก. รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้ ขสมก. เร่งรัดดำเนินการตามแผนการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจที่คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจได้ให้ความเห็นชอบไว้ และให้กระทรวงคมนาคมกำกับ ติดตาม การดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนอย่างใกล้ชิด โดยหากมีปัญหาอุปสรรคที่อาจทำให้การดำเนินการไม่เป็นไปตามแผนให้รายงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจเพื่อพิจารณาหาแนวทางแก้ไขโดยเร่งด่วนต่อไป รวมทั้งให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาตรวจสอบและกำกับให้ ขสมก. จัดทำกรอบวงเงินตามความจำเป็นและความเหมาะสมที่เกิดขึ้นจริงอย่างเคร่งครัดด้วย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19663 | รายงานประจำปีผลการดำเนินงานคณะกรรมการคุ้มครองการรับงานไปทำที่บ้าน | รง | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปีผลการดำเนินงานของคณะกรรมการคุ้มครองการรับงานไปทำที่บ้าน ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการและคณะทำงานในการศึกษา รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการกำหนดอัตราค่าตอบแทน และแนวทางส่งเสริมและพัฒนาผู้รับงานไปทำที่บ้าน จำนวน ๓ คณะ ได้แก่ (๑) คณะอนุกรรมการคุ้มครองส่งเสริมและพัฒนางานที่รับไปทำที่บ้าน (๒) คณะอนุกรรมการกำหนดอัตราค่าตอบแทนในงานที่รับไปทำที่บ้าน และ (๓) คณะทำงานด้านการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ในการคุ้มครองผู้รับงานไปทำที่บ้าน ๒. การพิจารณายกร่างประกาศ กฎกระทรวง และประกาศคณะกรรมการฯ ตามอำนาจหน้าที่มาตรา ๒๘ (๒) จำนวน ๕ ฉบับ ได้แก่ (๑) ร่างประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเรียกหรือรับหลักประกันการทำงานหรือหลักประกันความเสียหายในการทำงานจากผู้รับงานไปทำที่บ้าน พ.ศ. .... (๒) ร่างกฎกระทรวงกำหนดงานที่มีลักษณะอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของหญิงมีครรภ์หรือเด็กซึ่งมีอายุต่ำกว่า ๑๕ ปี พ.ศ. .... (๓) ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะหรือประเภทของงานที่ห้ามผู้จ้างงานจ้างผู้รับงานไปทำที่บ้าน พ.ศ. .... (๔) ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการจ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพและค่าทำศพ พ.ศ. .... และ (๕) ร่างประกาศคณะกรรมการคุ้มครองการรับงานไปทำที่บ้าน เรื่อง การกำหนดอัตราค่าตอบแทนในงานที่รับไปทำที่บ้าน พ.ศ. .... รวมทั้งเห็นชอบให้มีการสนับสนุนทุกมิติในการดำเนินงานของผู้รับงานไปทำที่บ้านที่สามารถทำได้ เช่น การขอความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในการจัดจ้างส่งเสริมอาชีพผู้รับงานไปทำที่บ้าน การจัดหาพื้นที่ให้ผู้รับงานไปทำที่บ้านจำหน่ายสินค้า และการส่งเสริมการรวมกลุ่ม เป็นต้น ๓. การให้สินเชื่อหรือเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้รับงานไปทำที่บ้านในลักษณะของกองทุนหมุนเวียน ซึ่งเป็นการให้บริการด้านกองทุนสำหรับให้กลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้านกู้ไปซื้อวัตถุดิบและอุปกรณ์ในการผลิตหรือใช้ขยายการผลิตเพื่อสร้างอาชีพและสร้างรายได้ โดยผู้รับงานไปทำที่บ้านรวมกลุ่มในการขอกู้เงินภายในวงเงินกู้ไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท อัตราดอกเบี้ยต่ำร้อยละ ๓ ต่อปี ปัจจุบันมีกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้านจดทะเบียน จำนวน ๕๙๓ กลุ่มจากทั่วประเทศ มีสมาชิก จำนวน ๕,๑๙๐ คน มีกลุ่มสมาชิกขอกู้เงิน จำนวน ๒๕๖ กลุ่ม เป็นเงิน ๒๑,๘๑๑,๐๐๐ บาท และอยู่ระหว่างผ่อนชำระ จำนวน ๑๐๙ กลุ่ม ในกลุ่มงาน ๘ ประเภท เช่น งานตัดเย็บเสื้อผ้า งานประดิษฐ์ เครื่องหนัง งานปัก ถัก ทอ งานอาหารและแปรรูปอาหาร เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19664 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนชื่อกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เป็นกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พ.ศ. .... | สธ | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนชื่อกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เป็นกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการเปลี่ยนชื่อกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เป็นกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับบทบาทภารกิจของส่วนราชการในปัจจุบัน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19665 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การขยายเวลาการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม) | กค | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการขยายเวลาการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม และอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการขยายเวลาการปรับลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มที่จะครบระยะเวลาการปรับลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๙ จากเดิมร้อยละ ๑๐ โดยให้ยังคงจัดเก็บในอัตราร้อยละ ๖.๓ ต่อไปอีกเป็นระยะเวลา ๑ ปี ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๐ และจัดเก็บในอัตราร้อยละ ๙ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเร่งรัดการขยายฐานภาษีและพิจารณาการปรับโครงสร้างภาษีที่ดำเนินการไปแล้วกับการปรับประเภทภาษีส่วนที่ยังต้องดำเนินการต่อไปให้มีความสอดคล้องกันในการสนับสนุนการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี การสนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และการสร้างความเป็นธรรม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19666 | หลักเกณฑ์การออกสลากการกุศล | กค | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการปรับปรุงหลักเกณฑ์และแนวทางการพิจารณาการออกสลากการกุศล ตามมติคณะกรรมการพิจารณาโครงการสลากการกุศล ในคราวประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๙ เมื่อวันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๙ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ลักษณะหน่วยงานเจ้าของโครงการที่ขอรับการสนับสนุน (๑) ส่วนราชการ และ (๒) มูลนิธิ องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ๒. ลักษณะของโครงการที่ขอรับการสนับสนุน (๑) เป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาด้านสาธารณสุขหรือลดความเหลื่อมล้ำด้านสังคม เช่น กลุ่มผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส เด็กและผู้สูงอายุ (๒) เป็นโครงการที่ไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากภาครัฐหรือได้รับการจัดสรรแต่ไม่เพียงพอ (๓) เป็นโครงการที่ไม่มีการดำเนินงานซ้ำซ้อนกับโครงการที่เสนอขอรับเงินงบประมาณจากภาครัฐ ทั้งทางตรงและทางอ้อม และไม่มีลักษณะเป็นเงินหมุนเวียนเพื่อใช้ในการบริหารจัดการหรือดำเนินกิจกรรมส่งเสริมทั่วไป และ (๔) เป็นโครงการที่ไม่เคยได้รับการสนับสนุนการออกสลากการกุศลมาก่อน ๓. กำหนดให้มีการพิมพ์สลากการกุศลไม่เกินจำนวน งวดละ ๑๑ ล้านฉบับคู่ ๔. วงเงินที่จะให้การสนับสนุนโครงการต้องไม่เกินโครงการละ ๑,๐๐๐ ล้านบาท และการพิจารณาสนับสนุนโครงการที่ขอออกสลากการกุศลในแต่ละครั้งจะต้องมีวงเงินรวมไม่เกินครั้งละ ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท ๕. การพิจารณาออกสลากการกุศลในครั้งต่อไป จะดำเนินการภายหลังจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้จ่ายเงินสนับสนุนโครงการให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติครั้งก่อนแล้วเสร็จ ๖. รายละเอียดของโครงการที่จะขอรับการสนับสนุน ๗. ให้มีการติดตาม และรายงานผลการดำเนินงานของโครงการ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19667 | รายงานผลการดำเนินงานโครงการอบรมเพื่อเพิ่มผลิตภาพการผลิตของเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งปี 2558/59 และจากปัญหาราคาสินค้าเกษตร | กษ | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานโครงการอบรมเพื่อผลิตภาพการผลิตของเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ปี ๒๕๕๘/๕๙ และจากปัญหาราคาสินค้าเกษตร ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินการรับสมัครคัดเลือกเกษตรกรและดำเนินการจัดฝึกอบรมเกษตรกรตามหลักสูตรที่กำหนด ณ ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร หรือศูนย์เรียนรู้เครือข่าย หรือสถานที่ที่เหมาะสม ครบทุกอำเภอ จำนวน ๘๘๒ ศูนย์ โดยมีเกษตรกรเป้าหมายเข้ารับการฝึกอบรมศูนย์ละ ๕ รุ่น ๆ ละ ๕๐ คน รวมศูนย์ละ ๒๕๐ คน ผลการดำเนินงานมีเกษตรกรเข้ารับการอบรมตามเป้าหมาย รวมทั้งสิ้น ๒๒๐,๕๐๐ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ ๒. เกษตรกรได้รับประโยชน์จากโครงการ จำนวน ๒๒๐,๕๐๐ คน/ครัวเรือน จากการเข้ารับการอบรม ทำให้เกษตรกรมีความรู้ความเข้าใจและทักษะในการประกอบอาชีพหลักและอาชีพเสริมมากขึ้น สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพ โดยทำการผลิตและแปรรูปผลผลิตเกษตร ปรับเปลี่ยนวิธีการผลิตที่เหมาะสมกับสถานการณ์และพื้นที่มากยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มรายได้ในครัวเรือนในช่วงฤดูแล้งได้ โดยเกษตรกรสามารถลดต้นทุนการผลิตทางการเกษตรได้เฉลี่ย ๒๘๓.๒๕ บาท/ไร่ และ ๕๕๒.๕๐ บาท/เดือน ลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้เฉลี่ย ๓๔๐.๒๖ บาท/เดือน และมีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย ๘๘๕.๘๘ บาท/เดือน/ครัวเรือน ๓. เกษตรกรที่เข้ารับการฝึกอบรมมีความพึงพอใจต่อโครงการ และเห็นว่ารัฐบาลได้เห็นความสำคัญและให้ความช่วยเหลือชุมชนในช่วงวิกฤติภัยแล้งได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้เกิดการยอมรับและให้ความร่วมมือในการดำเนินงานของภาครัฐมากยิ่งขึ้น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19668 | ผลการประชุมเรื่อง แนวทางการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดร้อยเอ็ด ระหว่างนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี กับส่วนราชการ ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันพุธที่ 24 สิงหาคม 2559 | นร11 | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมเรื่อง แนวทางการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดร้อยเอ็ด ระหว่างนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี กับส่วนราชการ ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๙ ซึ่งที่ประชุมฯ เห็นชอบในหลักการของยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดด้วยโมเดล “ร้อยเอ็ด ๔.๑๐๑” ประกอบด้วย (๑) การพัฒนาทุ่งกุลาร้องไห้ให้เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มข้าวหอมมะลิ (๒) การพัฒนาจังหวัดร้อยเอ็ดให้เป็นพื้นที่เป้าหมายของนักท่องเที่ยว (๓) การเชื่อมโยงเครือข่ายการคมนาคมขนส่ง เพื่อสนับสนุนให้จังหวัดร้อยเอ็ดเป็นพื้นที่น่าสนใจทางการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง และ (๔) การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำเพื่อบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้งซ้ำซากในพื้นที่อำเภอจังหาร ทุ่งเขาหลวง และเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการตามผลการประชุมดังกล่าว รวมทั้งรายงานผลการดำเนินการให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต่อไป ๒. สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในการดำเนินโครงการตามผลการประชุมดังกล่าวให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรกก่อน โดยหากไม่เพียงพอและมีความจำเป็นเร่งด่วนในการขออนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ให้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๘ เรื่อง แนวทางการเสนอเรื่องงบประมาณต่อคณะรัฐมนตรี สำหรับการดำเนินโครงการในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป ให้เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19669 | ความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับองค์การการท่องเที่ยวโลกว่าด้วยการจัดงานวันท่องเที่ยวโลกปี พ.ศ. 2559 | กก | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบความตกลงระหว่างไทยและองค์การการท่องเที่ยวโลกว่าด้วยการจัดงานวันท่องเที่ยวโลกปี พ.ศ. ๒๕๕๙ ซึ่งประเทศไทยได้รับเลือกให้จัดกิจกรรมเฉลิมฉลองอย่างเป็นทางการของวันท่องเที่ยวโลก พ.ศ. ๒๕๕๙ (World Tourism Day : WTD 2016) ระหว่างวันที่ ๒๖-๒๙ กันยายน ๒๕๕๙ ณ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพมหานคร และจังหวัดขอนแก่น โดยจะลงนามความตกลงกับประเทศเจ้าภาพในวันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๕๙ ซึ่งความตกลงดังกล่าวมีเนื้อหาสาระครอบคลุมถึงรูปแบบและสถานที่ของการจัดการประชุม รวมถึงการอำนวยความสะดวกและการรักษาความปลอดภัยให้แก่ผู้เข้าร่วมการประชุมซึ่งเป็นแนวปฏิบัติระหว่างองค์การการท่องเที่ยวโลกกับประเทศเจ้าภาพ เช่น สิทธิความคุ้มกันและสิ่งอำนวยความสะดวก เงื่อนไขสำหรับการจัดงาน WTD ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในความตกลงดังกล่าว ๑.๓ อนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ๒. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับองค์การการท่องเที่ยวโลกว่าด้วยการจัดงานวันท่องเที่ยวโลกปี พ.ศ. ๒๕๕๙ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19670 | การเข้าร่วมคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Committee for Scientific and Technological Policy-CSTP) ภายใต้องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organisation For Economic Co-operation and Development - OECD) | วท | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบให้ประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิกคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Committee for Scientific and Technological Policy : CSTP) ภายใต้องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา [Organisation for Economic Co-operation and Development (OECD)] ในรูปแบบผู้ร่วมประชุม (Participant) ๑.๒ อนุมัติให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ) ชำระค่าบำรุงสมาชิกรายปีในอัตราที่ OECD กำหนด ๒. ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีแผนงานและเตรียมการด้านงบประมาณและบุคลากรที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถเข้าร่วมการประชุมภายใต้กรอบ CSTP อย่างครบถ้วน รวมทั้งเพื่อเข้าร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะส่งผลต่อการพัฒนางานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัย และนวัตกรรมของประเทศให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19671 | รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานศูนย์ช่วยเหลือ SMEs (SME Rescue Center) | อก | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานศูนย์ช่วยเหลือ SMEs (SME Rescue Center) ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมได้ร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการเงิน รวมทั้งสิ้น ๑๓ หน่วยงาน จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือ SMEs เพื่อทำหน้าที่ให้การช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาทางธุรกิจที่มีศักยภาพในการฟื้นฟูธุรกิจ (Turn Around) ให้สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจต่อไปได้ และมีหน่วยงานเครือข่ายครอบคลุมพื้นที่ให้บริการทั่วประเทศประมาณ ๓,๘๐๐ แห่ง โดยได้เปิดตัวศูนย์ช่วยเหลือ SMEs อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๙ สำหรับข้อมูลสถิติการให้บริการ ณ วันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๙ มีผู้ขอรับบริการที่ศูนย์ช่วยเหลือ SMEs จำนวน ๗๒๗ ราย ๑,๓๗๐ เรื่อง ซึ่งขณะนี้ศูนย์ช่วยเหลือ SMEs ได้ให้บริการเบื้องต้นและส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เป็นหน่วยงานเครือข่ายเพื่อให้การช่วยเหลือแล้ว ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19672 | ผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศ ครั้งที่ 5/2559 | นร11 | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศ ครั้งที่ ๕/๒๕๕๙ เมื่อวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศเสนอ ซึ่งที่ประชุมได้มีความเห็นและข้อเสนอแนะ รวมทั้งมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้
๑. รับทราบผลการดำเนินงานของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่สิ้นสุดลงแล้ว ได้แก่ มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ของประชาชนผู้มีรายได้น้อย มาตรการการเงินการคลังเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) มาตรการการเงินการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ และมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศ ๒. รับทราบความก้าวหน้าของการขับเคลื่อนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานการส่งเสริมการลงทุนผ่านคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนและมาตรการเร่งรัดการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย มาตรการการจ้างงานและกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ของประชาชนผู้มีรายได้น้อย มาตรการกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กของรัฐบาลทั่วประเทศ มาตรการการเงินการคลังเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในระยะเร่งด่วน มาตรการการเงินการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ โครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง โครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งและมาตรการเพิ่มขีดความสามารถภาคการเกษตรโดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร มาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยผ่านโครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการ Micro Entrepreneurs ระยะที่ ๒ โครงการบ้านประชารัฐ และโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ ๓. มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ นำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว คือ มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต ๒๕๕๙/๖๐ ด้านการเงินของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๕๙) มาบรรจุไว้ภายใต้กรอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยให้มีการรายงานความคืบหน้า ปัญหาอุปสรรค และแนวทางแก้ไขต่อคณะกรรมการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศทุกสามเดือน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19673 | รายการที่ไม่ได้นำเข้าจัดทำพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. 2559 และไม่สามารถลงนามได้ทันภายในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2559 ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร | กษ | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๕๙ (เรื่อง หลักเกณฑ์และแนวทางการจัดทำร่างพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. ....) เป็นการเฉพาะราย โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขยายระยะเวลาการลงนามจัดซื้อจัดจ้างได้ภายหลังวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๙ จำนวน ๔ รายการ ได้แก่ (๑) รายการเครื่องเฮลิคอปเตอร์ ๑ ลำ (๒) รายการโครงการจัดหาศูนย์คอมพิวเตอร์แม่ข่ายกลางและระบบเครือข่ายสารสนเทศและการสื่อสารหลักอาคารใหม่กรมฝนหลวงและการบินเกษตร บางเขน ๑ ระบบ (๓) รายการครุภัณฑ์สำหรับห้องประชุม ๑ ชุด และ (๔) รายการลิฟท์โดยสาร ๒ ตัว วงเงินรวมทั้งสิ้น ๔๖,๓๒๙,๑๐๐ บาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งรัดการลงนามจัดซื้อจัดจ้างและดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19674 | รายงานสรุปผลการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ครั้งที่ 16 (16th ASCC Council Meeting) ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และคณะ | พม | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ครั้งที่ ๑๖ (16th ASCC Council Meeting) ระหว่างวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๙-๑ กันยายน ๒๕๕๙ ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และคณะ ซึ่งที่ประชุม (๑) รับทราบรายงานของประธานการประชุมคณะเจ้าหน้าที่อาวุโสสำหรับคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (SOCA) เกี่ยวกับรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานภายใต้การนำของ สปป.ลาว ในฐานะประธานอาเซียนในปี ๒๕๕๙ และ (๒) เห็นชอบเอกสารผลลัพธ์เพื่อเสนอในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๒๘ และ ๒๙ เช่น ปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการตอบโต้ภัยพิบัติอาเซียนอย่างเป็นหนึ่งเดียว การตอบสนองของอาเซียน ต่อภัยพิบัติเป็นหนึ่งเดียวในภูมิภาคและภายนอกภูมิภาค ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้กล่าวยืนยันเจตจำนงของประเทศไทยที่จะร่วมมือกับประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อเสริมสร้างและธำรงไว้ซึ่งประชาคมอาเซียน รวมทั้งสนับสนุนเอกสารผลลัพธ์สำคัญเพื่อนำเสนอให้ผู้นำอาเซียนรับรองในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๒๘ และ ๒๙ ต่อไป สำหรับการประชุมคณะมนตรีฯ ครั้งที่ ๑๗ และ ๑๘ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๘-๙ มีนาคม ๒๕๖๐ ณ เมืองอิโลอิโล่ และระหว่างวันที่ ๑๓-๑๔ กันยายน ๒๕๖๐ ณ กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ตามลำดับ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19675 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์ เพิ่มขึ้น ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับมาตรา ๘ แห่งพระราชบัญญัติสถาปนีก พ.ศ. ๒๕๔๓ ที่กำหนดให้สภาสถาปนิกมีอำนาจและหน้าที่ในการรับรองปริญญาในการประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุม ซึ่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครจะต้องดำเนินการประสานกับสภาสถาปนิกเพื่อให้การรับรองปริญญาในวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุมต่อไปด้วย อย่างไรก็ดี เมื่อพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร พ.ศ. ๒๕๔๘ มิได้กำหนดเงื่อนไขการให้ปริญญาว่าต้องมีการรับรองของสภาสถาปนิกไว้ การตราร่างพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้จึงสามารถดำเนินการต่อไปได้ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19676 | สรุปผลการพิจารณาดำเนินการตามรายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง กรณีกล่าวอ้างว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐสลายการชุมนุมเกษตรกรสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช และอำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ | ยธ | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการพิจารณาดำเนินการตามรายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง กรณีกล่าวอ้างว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐสลายการชุมนุมเกษตรกรสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช และอำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแล้วเห็นด้วยกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่เสนอให้มีหลักเกณฑ์ในการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบหรือความเสียหายจากการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐเป็นการเฉพาะโดยให้มีความเชื่อมโยงกับพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อเป็นหลักประกันสิทธิให้กับประชาชน รวมทั้งมีการจัดฝึกอบรมความรู้เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องด้านสิทธิมนุษยชน รวมถึงพันธกรณีระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนแก่เจ้าหน้าที่รัฐและเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้แจ้งสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19677 | ปรับปรุงการมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ รองประธาน กรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี | นร04 | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบเรื่อง ปรับปรุงการมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๙๗/๒๕๕๙ ลงวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๕๙ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19678 | ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน (ฉบับที่ .. ) พศ ... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | นร | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๙ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19679 | การจัดตั้งกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย (ร่างพระราชบัญญัติการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย พ.ศ. .... ) (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัตติแห่งชาติ) | นร | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๙ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19680 | คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 53/2559 เรื่อง การแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม เพิ่มเติมครั้งที่ 3 และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 54/2559 เรื่องการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในสภาการศึกษา โรงเรียนนายร้อยตำรวจ และการบริหารงานบุคคลของข้าราชการตำรวจ | สลธ.คสช. | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จำนวน ๒ ฉบับ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๕๓/๒๕๕๙ เรื่อง การแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม เพิ่มเติมครั้งที่ ๓ สั่ง ณ วันที่ ๙ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๕๙ ๒. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๕๔/๒๕๕๙ เรื่อง การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในสภาการศึกษา โรงเรียนนายร้อยตำรวจ และการบริหารงานบุคคลของข้าราชการตำรวจ สั่ง ณ วันที่ ๙ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๕๙
|
.....