ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 985 จากทั้งหมด 6209 หน้า แสดงรายการที่ 19681 - 19700 จากข้อมูลทั้งหมด 124166 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
19681 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงคมนาคม) (นางสาวดุจดาว เจริญผล) | คค | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวดุจดาว เจริญผล ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการขนส่งทางบก (นักวิชาการขนส่งทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงคมนาคม ตั้งแต่วันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๕๙ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19682 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ และให้ข้าราชการพลเรือนสามัญพ้นจากตำแหน่ง (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) (นางสาวนิลวรรณ ลีอังกูรเสถียร) | กษ | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวนิลวรรณ ลีอังกูรเสถียร ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านการผลิตพืช (นักวิชาการเกษตรทรงคุณวุฒิ) กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19683 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงมหาดไทย) (นางศันสนีย์ ศรีศุกรี) | มท | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางศันสนีย์ ศรีศุกรี ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการผังเมือง (นักผังเมืองทรงคุณวุฒิ) กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19684 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงการคลัง) (นายสมพงษ์ ตัณฑพาทย์ และนายรณวัตร สุวรรณาภิรมย์) | กค | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการคลัง ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. นายสมพงษ์ ตัณฑพาทย์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี (กลุ่มธุรกรรมทางการเงินการธนาคาร) (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) กรมสรรพากร ตั้งแต่วันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ๒. นายรณวัตร สุวรรณาภิรมย์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนาฐานภาษี (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) กรมสรรพากร ตั้งแต่วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๙
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19685 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การไต่สวนมูลฟ้อง หลักเกณฑ์การยื่นอุทธรณ์ และค่าธรรมเนียม) | ศย | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การไต่สวนมูลฟ้อง หลักเกณฑ์การยื่นอุทธรณ์ และค่าธรรมเนียม) มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา กำหนดหลักเกณฑ์การตั้งทนายความให้แก่จำเลยในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง กำหนดกรณีที่ศาลอาจพิจารณาและสืบพยานลับหลังจำเลยได้ กำหนดให้จำเลยซึ่งศาลพิพากษาลงโทษจำคุกและไม่รอการลงโทษ หรือลงโทษที่หนักกว่า และไม่ได้ถูกคุมขัง ในการอุทธรณ์จำเลยต้องมาแสดงตนต่อศาลในขณะยื่นอุทธรณ์ และกำหนดให้นำหลักเกณฑ์การยื่นอุทธรณ์ดังกล่าวมาบังคับใช้แก่การยื่นฎีกาด้วย ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ๒. ให้สำนักงานศาลยุติธรรมรับข้อสังเกตของสำนักงานอัยการสูงสุดและความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับความซ้ำซ้อนในประเด็นการกำหนดหลักเกณฑ์การยื่นอุทธรณ์ฎีกาที่กำหนดให้จำเลยที่มิได้ถูกคุมขังต้องแสดงตนในขณะยื่นอุทธรณ์หรือฎีกาตามร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้กับร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่นายมหรรรพ เดชวิทักษ์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19686 | ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมสมรรถนะบุคลากรด้านการท่องเที่ยว พ.ศ. .... | กก | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมสมรรถนะบุคลากรด้านการท่องเที่ยว พ.ศ. .... มีสาระสำคัญให้มีกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมสมรรถนะบุคลากรด้านการท่องเที่ยว ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับ หมวด ๑ เรื่องคณะกรรมการ มาตรา ๕ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแต่งตั้ง ควรมีความหลากหลายและครอบคลุมในทุกสายวิชาชีพ มาตรา ๑๑ อำนาจหน้าที่คณะกรรมการส่งเสริมบุคลากรด้านการท่องเที่ยว ควรรวมถึงการวางแผนเป้าหมายในการส่งเสริมบุคลากรด้านการท่องเที่ยวในแต่ละกลุ่มทั้งในระยะสั้นและระยะยาว หมวด ๒ เรื่องมาตรฐานสมรรถนะบุคลากรด้านการท่องเที่ยว มาตรา ๑๗ ควรระบุการกำหนดมาตรฐานสมรรถนะบุคลากรด้านการท่องเที่ยวเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการส่งเสริมบุคลากรด้านการท่องเที่ยว และบทเฉพาะกาล มาตรา ๔๔ ที่กำหนดให้ผู้ที่ได้รับหนังสือรับรองก่อนพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ แจ้งเป็นหนังสือต่อคณะกรรมการรับรองภายใน ๑๒๐ วัน นับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ควรมีขั้นตอนในการดำเนินการที่จะสามารถประกาศให้ผู้ที่ได้รับการรับรองก่อนหน้า ได้รับทราบโดยทั่วกัน เพื่อให้สามารถแจ้งรับการรับรองได้ทันกำหนดเวลา ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า ขั้นตอนการฝึกอบรมมาตรฐานสมรรถนะบุคลากรด้านการท่องเที่ยว ควรคำนึงถึงเรื่องความสะดวกในการเข้าถึงของผู้เข้ารับการพัฒนา เช่น เรื่องราคา แหล่งที่ตั้งศูนย์ฝึกอบรม ระยะเวลาการฝึกอบรม ควบคู่ไปกับคุณภาพของหลักสูตร รวมถึงในหลักสูตรการฝึกอบรมควรมีเรื่องการพัฒนาทักษะด้านวิชาชีพเฉพาะและภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษและภาษาท้องถิ่น) รวมอยู่ด้วย และควรส่งเสริมบทบาทของภาคเอกชนและสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดเนื้อหา แนวทางการพัฒนาบุคลากรวิชาชีพด้านการท่องเที่ยว เพื่อให้บุคลากรด้านการท่องเที่ยวมีคุณลักษณะที่สอดคล้องตามความต้องการของตลาด เช่น ทักษะทางด้านภาษา ความเชี่ยวชาญในสาขาวิชาชีพ รวมทั้งสร้างมาตรฐานการบริการที่เป็นสากล ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรองและกรอบระยะเวลาของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19687 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวกับความรับผิดในทางอาญาของผู้แทนนิติบุคคล พ.ศ. .... | นร09 | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวกับความรับผิดในทางอาญาของผู้แทนนิติบุคคล พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกบทบัญญัติความรับผิดในทางอาญาของผู้แทนนิติบุคคลในกฎหมายที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ และกฎหมายอื่นที่มีบทบัญญัติลักษณะเดียวกัน โดยให้เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีการับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับการแจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบร่างกฎหมายซึ่งขณะนี้อยู่ในชั้นการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรืออยู่ระหว่างเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบเพื่อเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ รับทราบและเสนอให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติในกฎหมายที่มีหลักการในลักษณะเดียวกันในชั้นการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ รวมทั้งประชาสัมพันธ์เผยแพร่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายทราบ โดยเฉพาะหน่วยงานที่ดูแลกฎหมายทั้ง ๘๐ ฉบับ เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้ถูกต้อง ตลอดจนการนำบทบัญญัติมาตรา ๙ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.๒๕๔๒ มาพิจารณาแก้ไขปรับปรุงไว้ในร่างพระราชบัญญัติฯ และข้อสังเกตเกี่ยวกับบัญชีท้ายพระราชบัญญัติฯ ข้อ ๕๙ และข้อ ๗๑ ไปพิจารณา และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. ให้กระทรวงพลังงานรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศสำหรับการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติองค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย พ.ศ. ๒๕๓๓ ซึ่งเป็นกฎหมายอนุวัติการความตกลงว่าด้วยธรรมนูญและเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการจัดตั้งองค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลมาเลเซีย พ.ศ. ๒๕๓๓ เป็นประเด็นทางนโยบายที่อาจพิจารณาให้กระทรวงพลังงานทาบทามฝ่ายมาเลเซียเพื่อเจรจาหารือบทบัญญัติของความตกลงว่าด้วยธรรมนูญและเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการจัดตั้งองค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลมาเลเซีย พ.ศ. ๒๕๓๓ ว่าครอบคลุมถึงความรับผิดทางอาญาของผู้แทนด้วยหรือไม่ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19688 | เสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีในการลงนามโปรแกรมปฏิบัติการเชิงยุทธศาสตร์ ปี 2015 ของโครงการจัดการระบบนิเวศวิทยาขนาดใหญ่ ในอ่าวเบงกอล | กษ | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบโปรแกรมปฏิบัติการเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Action Programme) ปี ๒๐๑๕ ของโครงการจัดการระบบนิเวศวิทยาขนาดใหญ่ในอ่าวเบงกอล (Bay of Bengal Large Marine Ecosystem) และกิจกรรมหรือการดำเนินงานต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายใต้โปรแกรมปฏิบัติการเชิงยุทธศาสตร์ดังกล่าวก่อนการลงนาม มีสาระสำคัญเป็นการระบุถึงแผนปฏิบัติการในหลายแนวทาง เพื่อจัดการปัญหาในเรื่องการทำประมง ความสมบูรณ์ของทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและสังคม รวมถึงประเด็นปัญหาทางสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดน ซึ่งนำไปสู่ความมั่นคงทางอาหาร และขจัดความยากจนให้กับชุมชนในพื้นที่ ๒. เห็นชอบให้อธิบดีกรมประมง และอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หรือผู้แทนที่อธิบดีฯ ได้มอบหมาย เป็นผู้ลงนามในโปรแกรมปฏิบัติการเชิงยุทธศาสตร์ดังกล่าว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19689 | ขอความเห็นชอบร่างความตกลงว่าด้วยการต่ออายุบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระบบรางระหว่างกระทรวงคมนาคมแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน และการขนส่งแห่งสาธารณรัฐเกาหลี | คค | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างความตกลงว่าด้วยการต่ออายุบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระบบรางระหว่างกระทรวงคมนาคมแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน และการขนส่งแห่งสาธารณรัฐเกาหลี มีสาระสำคัญเป็นการต่ออายุบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับลงนามวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖ โดยไม่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเนื้อหา และจะมีผลใช้บังคับในวันที่มีการลงนามครบทั้งสองฝ่าย โดยมีอายุ ๒ ปี และต่ออายุได้อีก ๒ ปี ตามความเห็นชอบของทั้งสองฝ่าย ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทยสำหรับการลงนามดังกล่าว ๒. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างความตกลงดังกล่าวในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงคมนาคมนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๓. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรปรับถ้อยคำบางประการในร่างบันทึกความเข้าใจฯ เพื่อความเหมาะสมและชัดเจนยิ่งขึ้น รวมทั้งให้กระทรวงคมนาคมร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณาจัดทำแผนที่นำทาง (Roadmap) ในการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบขนส่งทางรางของประเทศ ซึ่งจะช่วยให้การกำหนดขอบเขตกิจกรรมของความร่วมมือทางวิชาการภายใต้บันทึกความร่วมมือระบบรางกับประเทศต่าง ๆ เป็นไปอย่างชัดเจน และก่อให้เกิดการสั่งสมความรู้และการถ่ายทอดเทคโนโลยีระบบขนส่งทางรางไปสู่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบ และสามารถต่อยอดความรู้ความเชี่ยวชาญดังกล่าวไปพัฒนาอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องภายในประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19690 | การจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาไทย - กัมพูชา (ฉบับแก้ไข) | ศธ | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติการจัดทำและลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาไทย-กัมพูชา ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงศึกษาธิการ เยาวชนและกีฬาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา (ฉบับแก้ไข) (Memorandum of Understanding between the Ministry of Education of the Kingdom of Thailand and the Ministry of Education, Youth and Sport of the Kingdom of Cambodia on Cooperation in Education) ในช่วงระหว่างการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-กัมพูชา ครั้งที่ ๑๐ ระหว่างวันที่ ๒๕-๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๙ ณ ประเทศไทย มีสาระสำคัญเพื่อใช้เป็นกรอบความร่วมมือทางการศึกษาในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การแลกเปลี่ยนการเยือนของผู้บริหารระดับสูง การแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญ บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน ข้อมูลและสื่อการศึกษา ตลอดจนการจัดประชุม สัมมนา ซึ่งอยู่ในขอบเขตอำนาจหน้าที่ของคู่ภาคี โดยได้ระบุให้มีการจัดตั้งคณะทำงานร่วมด้านการศึกษาไทย-กัมพูชา เพื่อใช้เป็นเวทีการหารือกิจกรรม/โครงการความร่วมมือระหว่างกัน กำหนดระยะเวลาในการบังคับใช้และสิ้นสุดของบันทึกความเข้าใจฯ เป็นระยะ ๕ ปี ซึ่งแตกต่างจากบันทึกความเข้าใจฉบับเดิมที่มิได้ระบุกำหนดการสิ้นสุดไว้ ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเพื่อดำเนินการต่อไป ๓. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19691 | ร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2564) | นร11 | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) มีประเด็นสำคัญ ได้แก่ (๑) ภาพรวมการพัฒนาในช่วงแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๒ (๒) การประเมินสภาพแวดล้อมการพัฒนาประเทศ (๓) วัตถุประสงค์และเป้าหมายการพัฒนาในช่วงแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๒ (๔) ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ และ (๕) การขับเคลื่อนแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๒ สู่การปฏิบัติ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ทั้งนี้ ในขั้นตอนการขับเคลื่อนแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๒ สู่การปฏิบัติ ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคำนึงถึงความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี และแผนการปฏิรูปประเทศด้านต่าง ๆ ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ อาทิ ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง จัดเตรียมความพร้อมของ แผนงาน/โครงการ ภายใต้แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๒ ให้เหมาะสม มีความครอบคลุมครบถ้วนในเชิงบูรณาการที่ยึดโยงกับยุทธศาสตร์ชาติ และคำนึงถึงกรอบระยะเวลาในการตรากฎหมายหรือแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายที่เกี่ยวข้องตามที่ร่างรัฐธรรมนูญฯ กำหนดไว้ รวมทั้งการให้ความสำคัญกับการพัฒนาทุนมนุษย์ การมีภูมิคุ้มกันของคน ชุมชน และสังคม ตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน การให้ความสำคัญกับความมั่นคงเป็นรากฐานของการพัฒนาในทุกมิติและถือเป็นเรื่องของทุกคน ทุกกลุ่ม ทุกศาสนา ทุกสาขาอาชีพ ในอันที่จะส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานด้านความมั่นคง และการให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ในแต่ละประเด็นยุทธศาสตร์ในรูปแบบของประชารัฐ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19692 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2548 | กห | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๔๘ (เรื่อง การดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีและขอทราบแนวทางการปฏิบัติในการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งผลิตภัณฑ์ของเอกชนตามคำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๓๗ ในความควบคุมของกระทรวงกลาโหม) โดยให้ยกเลิกเฉพาะประเด็น “ให้ระงับการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งผลิตภัณฑ์ของเอกชน ตามคำสั่ง ปร. ๓๗ ในความควบคุมของกระทรวงกลาโหม ซึ่งส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับประเทศไทยไว้ทั้งหมด” ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ๒. ในส่วนของการขออนุญาตขายหรือจำหน่ายอาวุธ โดยการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ให้กระทรวงกลาโหมขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีตามมาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัติโรงงานผลิตอาวุธของเอกชน พ.ศ. ๒๕๕๐ ต่อไป ๓. ให้กระทรวงกลาโหมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับการพิจารณาส่งอาวุธตามแบบ อาวุธเล็กและอาวุธเบา กระสุน หรือยุทธภัณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเสี่ยงอาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดได้ออกไปนอกราชอาณาจักรควรคำนึงถึงตราสารและสนธิสัญญาระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายโอนอาวุธตามแบบที่ไทยยึดถือหรือกำลังพิจารณาเข้าเป็นภาคีประกอบการพิจารณาอนุมัติการส่งออกด้วย นอกจากนี้ การพิจารณาอนุญาตให้ส่งออกอาวุธฯ และสินค้าที่ใช้ได้สองทาง (Dual-use Items : DUI) ต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบเป็นไปตามพันธกรณีระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องและคำนึงถึงความมั่นคงของประเทศเป็นสำคัญ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19693 | สรุปผลการประชุมสุดยอดอาเซม ครั้งที่ 11 | นร04 | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบผลการประชุมสุดยอดอาเซม (Asia-Europe Meeting : ASEM) ครั้งที่ ๑๑ จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๕-๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ณ กรุงอูลานบาตอร์ มองโกเลีย และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการติดตามผลการหารือในประเด็นต่าง ๆ เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ สรุปผลการประชุม ดังนี้ ๑.๑ ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือของ ASEM ในทศวรรษที่สาม โดยเฉพาะการเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างเอเชียกับยุโรปในทุกมิติและการร่วมกันรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ความมั่นคงทางพลังงานและอาหาร ลัทธิสุดโต่งและการก่อการร้าย รวมทั้งได้จัดทำเอกสารผลลัพธ์การประชุม ได้แก่ (๑) ปฏิญญาอูลานบาตอร์ ซึ่งจัดทำขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ ๒๐ ปี ของการก่อตั้ง ASEM และ (๒) แถลงการณ์ประธาน ซึ่งได้สรุปผลการหารือของผู้นำและแสดงถึงความมุ่งมั่นของสมาชิก ASEM ในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างเอเชียกับยุโรปในด้านต่าง ๆ นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ออกแถลงการณ์ของผู้นำ ASEM ว่าด้วยการก่อการร้ายระหว่างประเทศเพิ่มเติมเพื่อแสดงพลังของสมาชิก ASEM ในการร่วมกันต่อสู้กับการก่อการร้ายด้วย ๑.๒ การหารือทวิภาคี (๑) นายกรัฐมนตรีได้พบหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีมองโกเลีย โดยได้แจ้งพัฒนาการทางการเมืองของไทยที่มีเสถียรภาพ และขอให้ฝ่ายมองโกเลียสนับสนุนการลงทุนไทยในมองโกเลีย และได้หารือกับประธานาธิบดีสาธารณรัฐเช็กในลักษณะ pull-aside meeting ซึ่งฝ่ายเช็กแสดงความประสงค์ที่จะส่งเสริมความร่วมมือทางการทหารกับไทย และ (๒) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้พบหารือทวิภาคีกับผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรปด้านการต่างประเทศและนโยบายความมั่นคง และรองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐฮังการี เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและสานต่อประเด็นความร่วมมือที่คั่งค้าง ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติที่เห็นควรผลักดันให้เอเชียและยุโรปร่วมกันดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมในการป้องกันความท้าทายที่จะเกิดขึ้นจากโลกไร้พรมแดน ซึ่งรวมถึงการจัดการกับปัญหาการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ การค้ามนุษย์ การต่อต้านการก่อการร้าย และการบริหารจัดการชายแดน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19694 | ผลการดำเนินงานของคณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 | นร02 | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่คณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบผลการดำเนินงานของคณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ๑.๒ มอบหมายให้หน่วยงานระดับกระทรวงนำนโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๔) ไปใช้เป็นแนวทางในการจัดทำแผนปฏิบัติการประชาสัมพันธ์ระดับกระทรวง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ รวมทั้งส่งแผนปฏิบัติการประชาสัมพันธ์ฯ ดังกล่าว และรายงานผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการประชาสัมพันธ์ฯ ให้คณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติได้ทราบ ๑.๓ เห็นชอบให้หน่วยงานระดับกระทรวงนำนโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๔) ไปใช้ประกอบการจัดทำคำขอตั้งงบประมาณ ตามแผนงาน/โครงการประชาสัมพันธ์ ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๔ ทั้งนี้ เพื่อให้การประชาสัมพันธ์ของชาติเป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีเอกภาพ ๑.๔ ให้คณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้มีการประเมินผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการประชาสัมพันธ์ฯ การกำหนดประเด็นการประชาสัมพันธ์ และเร่งรัดการดำเนินงานโครงการที่ยังไม่แล้วเสร็จ ตลอดจนเร่งรัดการสร้างเครือข่ายประชาสัมพันธ์ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนให้เพิ่มขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐพัฒนารูปแบบและวิธีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าถึงและเข้าใจได้ง่าย และให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณในประเด็นค่าใช้จ่ายในการประชาสัมพันธ์และการจัดนิทรรศการการประชาสัมพันธ์ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19695 | ขออนุมัติผ่อนผันการลงนามจัดจ้าง รายการลักษณะงบลงทุนในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2559 | มท | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง ดำเนินรายการที่ไม่ได้ปรากฏในพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. ๒๕๕๙ จำนวน ๑ รายการ คือ รายการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมคลองพังงา บ้านควน หมู่ ๑ ตำบลถ้ำน้ำผุด อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา ความยาว ๒๐๐ เมตร ซึ่งเป็นรายการที่ได้ผู้รับจ้างแล้วและสามารถดำเนินการได้ทันที เป็นเงิน ๑๐,๙๕๒,๐๐๐ บาท โดยให้กรมโยธาธิการและผังเมืองกำกับดูแลและเร่งรัดการใช้จ่ายเงินงบประมาณให้ทันตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19696 | การโอนบรรดาอำนาจหน้าที่ กิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้ และงบประมาณของสำนักความปลอดภัยแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เฉพาะ ในส่วนที่เกี่ยวกับการส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานไปเป็นของสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และ สภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) | รง | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้มีการโอนบรรดาอำนาจหน้าที่ กิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้ และงบประมาณของสำนักความปลอดภัยแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ที่มีอยู่ในวันที่พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) พ.ศ. ๒๕๕๘ ใช้บังคับ ไปเป็นของสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ๒. ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณให้สอดคล้องกับบทบาท ภารกิจ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ โดยบูรณาการเชื่อมโยงการทำงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และใช้จ่ายงบประมาณที่ได้รับอย่างประหยัดตามความจำเป็นและเหมาะสม โดยคำนึงถึงการยุบเลิกสายงานหรือบุคลากรให้เหมาะสมและสอดคล้องกับภารกิจที่เป็นปัจจุบัน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19697 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลท่าข้าม อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... | กษ | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลท่าข้าม อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลท่าข้าม อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี เพื่อประโยชน์แก่การชลประทาน ในการก่อสร้างคลองส่งน้ำและคลองระบายน้ำพร้อมอาคารประกอบ ตามโครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลวง รัชชโลทร อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดชลบุรี ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเร่งรัดดำเนินการก่อสร้างระบบส่งน้ำพร้อมอาคารประกอบให้แล้วเสร็จทันตามกำหนดปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19698 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ลักษณะ 2 การบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง) | นร09 | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ลักษณะ ๒ การบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง) ของกระทรวงยุติธรรม ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยคณะกรรมการพิจารณาปรับปรุงประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในส่วนที่เกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษา และการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งที่ใช้บังคับอยู่บางประการ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักงานอัยการสูงสุด อาทิ เห็นควรพิจารณาโดยรอบคอบในการให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจควบคุมหรือจับกุมตัวบุคคล เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นเรื่องของการบังคับคดีทางแพ่ง การบัญญัติให้เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจบังคับคดีเอากับทรัพย์สินของบุคคลอื่น ควรดำเนินการโดยรอบคอบและควรมีการตรวจสอบโดยศาล เพื่อไม่ให้กระทบสิทธิบุคคลภายนอกเกินสมควร การยึดสิทธิของลูกหนี้ตามคำพิพากษาตามใบอนุญาตประทานบัตร อาชญาบัตร สัมปทานหรือสิทธิอย่างอื่น ซึ่งเป็นเรื่องที่จะกระทบต่ออำนาจหน้าที่ของหน่วยงานผู้อนุญาตหรือให้สัมปทานด้วย มิใช่เป็นกรณีที่เป็นสิทธิของลูกหนี้เพียงลำพัง ไปพิจารณาด้วย ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. รับทราบแผนการจัดทำกฎหมายลำดับรองและกรอบระยะเวลาของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19699 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายสมชาย กิจสนาโยธิน) | สธ | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายสมชาย กิจสนาโยธิน ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งทันตแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านทันตกรรม) กลุ่มงานทันตกรรม โรงพยาบาลสุโขทัย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุโขทัย สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19700 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้) (นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ) | ศอบต | 13/09/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติแต่งตั้ง นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ตามที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เสนอ ทั้งนี้ ให้ปฏิบัติงานให้เกิดการบูรณาการ ทั้งด้านความมั่นคงและด้านการพัฒนา รวมทั้งดำเนินการทุกยุทธศาสตร์จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นรูปธรรม ๒. ให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
|
.....