ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 986 จากทั้งหมด 6209 หน้า แสดงรายการที่ 19701 - 19720 จากข้อมูลทั้งหมด 124166 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
19701 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดท่าหรือที่ สนามบินศุลกากร ทางอนุมัติ ด่านพรมแดน และด่านศุลกากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (สนามบินศุลกากรหนองคาย) | กค | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดท่าหรือที่ สนามบินศุลกากร ทางอนุมัติ ด่านพรมแดน และด่านศุลกากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (สนามบินศุลกากรหนองคาย) มีสาระสำคัญเป็นการเปลี่ยนที่ทำการด่านศุลกากรหนองคาย ไปตั้งอยู่ที่ เลขที่ ๒๒๔ หมู่ที่ ๒ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒ (ช่วงถนนเฉลิมพระเกียรติ) ตำบลหนองกอมเกาะ อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย พร้อมกับกำหนดทางอนุมัติและด่านศุลกากร ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19702 | การเปลี่ยนชื่อ ร่างพระราชบัญญัติสถาบันการพยาบาลแห่งสภากาชาดไทย พ.ศ. .... | สกช | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการเปลี่ยนชื่อร่างพระราชบัญญัติ จาก “ร่างพระราชบัญญัติสถาบันการพยาบาลแห่งสภากาชาดไทย พ.ศ. ....” เป็น “ร่างพระราชบัญญัติสถาบันการพยาบาลศรีสวรินทิราสภากาชาดไทย พ.ศ. ....” ตามที่สภากาชาดไทยเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19703 | บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุข | สธ | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุข มีสาระสำคัญในการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาความร่วมมือด้านสาธารณสุขในสาขาต่าง ๆ และแลกเปลี่ยนทางวิชาการระหว่างไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยจะมีการลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ในการประชุมทวิภาคีระดับรัฐมนตรีว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระหว่างวันที่ ๑๕-๑๖ กันยายน ๒๕๕๙ ณ กรุงเทพมหานคร ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ๑.๓ มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ๒. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหรือให้ความเห็นชอบไว้ ให้สามารถดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19704 | การขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นสำหรับโครงการ บริหารจัดการไม้มีค่าเพื่อประโยชน์ของแผ่นดินเพื่อเป็นค่าก่อสร้างอาคารที่ได้รับผลกระทบของกองทัพบก | นร01 | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๒๗๗,๔๒๐,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการก่อสร้างอาคารของกองทัพบก ประกอบด้วย ค่าก่อสร้างอาคารหอประชุมกองทัพบกและอาคารกรมสวัสดิการทหารบก จำนวน ๒๗๖,๕๐๐,๐๐๐ บาท และค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคารหอประชุมกองทัพบก จำนวน ๙๒๐,๐๐๐ บาท ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19705 | ขอความเห็นชอบต่อร่างปฏิญญาการประชุมระดับสูงเรื่องการจัดการการย้ายถิ่นขนาดใหญ่ของผู้ลี้ภัยและผู้โยกย้ายถิ่นฐานในระหว่างการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ร่างคำมั่นของไทยที่จะประกาศในการประชุมสุดยอดระดับผู้นำด้านผู้ลี้ภัยของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาและกรอบท่าทีไทยสำหรับการประชุมทั้งสอง | กต | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบ (๑) ร่างปฏิญญาการประชุมระดับสูงเรื่องการจัดการการย้ายถิ่นขนาดใหญ่ของผู้ลี้ภัยและผู้โยกย้ายถิ่นฐานในระหว่างการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ มีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปสู่การแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันระดับโลกในการร่วมกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว และเพื่อสนับสนุนประเทศเจ้าบ้านที่ได้รับผู้ลี้ภัยไปแล้วจำนวนมาก (๒) ร่างคำมั่นของไทยที่จะประกาศในการประชุมสุดยอดระดับผู้นำด้านผู้ลี้ภัยของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ในการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาผู้โยกย้ายถิ่นฐานกลุ่มต่าง ๆ ในไทย และ (๓) กรอบท่าทีไทยสำหรับการประชุมทั้งสองข้างต้น ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไว้ก่อนมีการรับรอง/ประกาศคำมั่น ให้กระทรวงการต่างประเทศสามารถดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๑.๒ เห็นชอบให้หัวหน้าคณะผู้แทนไทยร่วมรับรองปฏิญญาทางการเมือง (Political Declaration) ในที่ประชุมระดับสูงฯ และให้คำมั่นของไทย (Thailand’s Pledges) ต่อการประชุมสุดยอดฯ ของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ๑.๓ ในกรณีที่ในการประชุมสุดยอดฯ ของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกามีเอกสารผลลัพธ์การประชุม โดยมีสาระสำคัญที่สอดคล้องกับกรอบท่าทีไทย และเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินการด้านมนุษยธรรมของไทย โดยไม่มีการจัดทำเป็นความตกลงหรือหนังสือสัญญาขึ้น เห็นชอบให้กระทรวงการต่างประเทศและหัวหน้าคณะผู้แทนไทยที่เข้าร่วมการประชุมสามารถรับรองเอกสารผลลัพธ์ดังกล่าวได้ ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการสนับสนุนการให้ผู้ลี้ภัยได้รับการศึกษา และ/หรือทำงานได้อย่างถูกกฎหมายในประเทศผู้รับมากขึ้น ควรพิจารณาถึงระยะเวลาในการอยู่และสวัสดิการที่พึงได้รับตามพื้นฐานความจำเป็นของหลักสิทธิมนุษยชน และควรให้มีการสร้างกลไกความร่วมมือในการพัฒนาแนวทางร่วมกันบนพื้นฐานการไม่เลือกปฏิบัติ (Non-discrimination basis) ในการจัดการปัญหาผู้ลี้ภัยตั้งแต่ขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติและการขึ้นทะเบียน การกำหนดแนวทางและมาตรฐานการคุ้มครองผู้ลี้ภัยในประเทศต่าง ๆ ให้ใกล้เคียงกัน ตลอดจนการจัดทำระบบฐานข้อมูลที่ผู้ลี้ภัยและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันสำหรับการแก้ปัญหาร่วมกันทั้งประเทศต้นทาง ปลายทาง และประเทศที่สามที่คำนึงถึงความปลอดภัยและสวัสดิภาพผู้ลี้ภัยเป็นหลัก ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19706 | สรุปผลการดำเนินการตามโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ | มท | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการดำเนินการตามโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. สำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๙ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับใช้ในการดำเนินโครงการฯ แล้ว ได้แก่ (๑) จัดสรรงบประมาณให้แก่จังหวัด โดยให้ที่ทำการปกครองจังหวัดเป็นหน่วยเบิกจ่ายให้แก่หมู่บ้าน ๆ ละ ๒๐๐,๐๐๐ บาท งบประมาณทั้งสิ้น ๑๔,๙๑๗,๖๐๐,๐๐๐ บาท และ (๒) จัดสรรงบประมาณให้แก่กรมการปกครอง สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการให้แก่ส่วนกลาง จังหวัด อำเภอ และหมู่บ้าน งบประมาณทั้งสิ้น ๘๒,๔๐๐,๐๐๐ บาท โดยกรมการปกครองได้โอนจัดสรรให้แก่จังหวัด อำเภอ และหมู่บ้านเรียบร้อยแล้ว ๒. กระทรวงการคลังได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเบิกจ่ายงบประมาณให้จังหวัดถือปฏิบัติเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง ได้เน้นย้ำให้จังหวัดถือปฏิบัติตามนัยหนังสือกระทรวงการคลังอย่างเคร่งครัด ๓. ผลการดำเนินการของหมู่บ้าน ข้อมูล ณ วันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๙ (วันสิ้นสุดโครงการฯ) จำนวนหมู่บ้าน ๗๔,๕๘๘ แห่ง จำนวนโครงการที่เสนอ ๘๕,๓๙๗ โครงการ งบประมาณทั้งสิ้น ๑๔,๙๐๑,๗๘๐,๕๖๔ บาท โครงการที่หมู่บ้านดำเนินการแล้วเสร็จ ๘๕,๓๙๓ โครงการ คิดเป็นร้อยละ ๙๙.๙๙ งบประมาณทั้งสิ้น ๑๔,๘๘๘,๕๕๖,๖๗๘ บาท คิดเป็นร้อยละ ๙๙.๙๑ ๔. การประเมินผลการดำเนินการตามโครงการฯ พบว่าประชาชนมีความพึงพอใจและได้รับประโยชน์จากการดำเนินการตามโครงการฯ เป็นอย่างมาก สามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างแท้จริง สร้างรายได้ สร้างอาชีพ สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงใช้งบประมาณในการดำเนินการตามโครงการฯ ได้อย่างคุ้มค่า และได้รับข้อเสนอแนะเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากในครั้งต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19707 | การเตรียมการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ | อื่นๆ | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ ดังนี้
๑. รับทราบบัญชีเรื่องที่จะต้องดำเนินการ และหน่วยงานที่รับผิดชอบในแต่ละเรื่อง ในการเตรียมการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ประกอบด้วย บัญชีการดำเนินงาน กรอบระยะเวลา และหน่วยงานที่ได้รับมอบหมาย ๒. มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) กำกับดูแลให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบดำเนินการตามบัญชีดังกล่าวให้เรียบร้อยและทันเวลาตามที่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่กำหนด ๓. มอบหมายให้คณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ ๓ คณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปด้านระบบราชการ กฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ประสานฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินการตามบัญชีดังกล่าว และให้รายงานผลการดำเนินการให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ ๆ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19708 | รายงานผลการเบิกจ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 | นร07 | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเบิกจ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๘-๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๙ ตามที่สำนักงบประมาณและกระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ วงเงินงบประมาณ ๒,๗๗๖,๐๐๐ ล้านบาท (รวมงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม) เบิกจ่ายแล้ว ๒,๓๗๖,๐๐๖ ล้านบาท หรือร้อยละ ๘๕.๕๙ ๒. เงินกันไว้เบิกเหลื่อมปี วงเงินงบประมาณ ๓๐๗,๙๓๖ ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว ๒๑๕,๕๑๒ ล้านบาท หรือร้อยละ ๖๙.๙๙ ๓. นโยบายสำคัญของรัฐบาล ประกอบด้วย มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล มาตรการกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กของรัฐบาลทั่วประเทศ มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับหมู่บ้าน และโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ วงเงินงบประมาณ ๑๔๙,๒๒๕ ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว ๑๒๘,๕๒๕ ล้านบาท หรือร้อยละ ๘๖.๑๓ ๔. เงินลงทุนของรัฐวิสาหกิจ (ที่ไม่ได้เบิกจ่ายจากเงินงบประมาณ) วงเงินงบประมาณ ๒๙๑,๓๔๙ ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว ๑๒๔,๑๐๒ ล้านบาท หรือร้อยละ ๔๒.๖๐
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19709 | รายงานผลการเดินทางไปเข้าร่วมการประชุม United Nations Peacekeeping Defence Ministerial Meeting ณ สหราชอาณาจักร | กห | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเดินทางไปเข้าร่วมการประชุม United Nations Peacekeeping Defence Ministerial Meeting ณ สหราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ ๗-๑๐ กันยายน ๒๕๕๙ ณ สหราชอาณาจักร โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมฯ ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ที่ประชุมฯ ติดตามพัฒนาการตามที่ผู้นำประเทศต่าง ๆ ได้ให้คำมั่นในการประชุมสุดยอดด้านการรักษาสันติภาพในระหว่างการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ เมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๕๘ และเปิดโอกาสให้ประเทศที่ยังไม่ได้ให้คำมั่นเพิ่มเติม รวมทั้งเน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพด้านการปฏิบัติการรักษาสันติภาพ เช่น การพัฒนารูปแบบการฝึก การประกอบกำลัง การฝึกก่อนการเข้าวางกำลัง เป็นต้น รวมถึงการป้องกันและตอบสนองต่อปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศ โดยที่ประชุมฯ ตระหนักถึงการเตรียมความพร้อมของกองกำลังทั้งทหารและตำรวจให้สามารถเคลื่อนย้ายไปปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพได้อย่างรวดเร็วและฉับพลัน ตลอดจนตระหนักถึงการเพิ่มบทบาทของสตรีในการรักษาสันติภาพในกรอบสหประชาชาติ นอกจากนี้ ไทยได้สนับสนุนเอกสารผลลัพธ์การประชุมฯ ซึ่งเป็นการแสดงท่าทีสนับสนุนส่งเสริมบทบาทของสตรีในมิติสันติภาพและความมั่นคง การส่งเสริมความรับผิดชอบและประสิทธิภาพของกองกำลังรักษาสันติภาพในภาพรวม ๒. รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้หารือทวิภาคีกับมิตรประเทศที่สำคัญ ได้แก่ (๑) การหารือทวิภาคีกับนายไมเคิล ฟอลลอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักร ทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำถึงความร่วมมือทางทหารระหว่างกัน เช่น การแลกเปลี่ยนการเยือน ความร่วมมือด้านการศึกษา รวมถึงได้มีการหารือในประเด็นอื่น ๆ เช่น การปฏิบัติการรักษาสันติภาพภายใต้กรอบองค์การสหประชาชาติ และ (๒) การหารือทวิภาคีกับพลโทอาวุโส เหงียน จี๋ หวิ่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำถึงความร่วมมือระหว่างกัน เช่น การแลกเปลี่ยนการเยือน การประชุมหารือทวิภาคีด้านการเมืองและความมั่นคงระหว่างกระทรวงกลาโหมกับสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กระทรวงกลาโหมเวียดนาม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19710 | รายงานผลการฝึกร่วมระหว่างคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ทหารกับคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญด้านการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและ การบรรเทาภัยพิบัติ | กห | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการฝึกร่วมระหว่างคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ทหารกับคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญด้านการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ (ADMM-Plus Military Medicine-Humanitarian Assistance and Disaster Relief Joint Exercise 2016 : AM-HEx 2016) ระหว่างวันที่ ๑-๑๑ กันยายน ๒๕๕๙ ณ จังหวัดชลบุรี พื้นที่ใกล้เคียง และกรุงเทพมหานคร ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. กำลังพลที่เข้าร่วมการฝึก ประกอบด้วย กำลังทหารจากประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศคู่เจรจา ศูนย์ประสานงานอาเซียนเพื่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการจัดการภัยพิบัติ ศูนย์ประสานงานการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในภูมิภาค และสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ รวมทั้งสิ้น ๒,๐๔๙ นาย ๒. กิจกรรมที่สำคัญในระหว่างการฝึกฯ ได้แก่ (๑) การฝึกประกอบกำลัง (Force Integration Training : FIT) (๒) การฝึกปัญหาที่บังคับการ (Command Post Exercise : CPX) (๓) การฝึกภาคสนาม (Field Training Exercise : FTX) (๔) โครงการเพื่อสาธารณประโยชน์ (Humanitarian Civic Action : HCA) และ (๕) การประเมินผลการฝึก (After Action Review : AAR) ๓. ประโยชน์ที่ได้รับจากการฝึกร่วมฯ (๑) สร้างความเชื่อมั่นถึงขีดความสามารถและศักยภาพทางทหารของประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศคู่เจรจา ในการปฏิบัติการด้านการแพทย์ทหารและการช่วยเหลือประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ และทันเวลาเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยพิบัติ (๒) สะท้อนภาพลักษณ์ที่โดดเด่นของประเทศไทยในฐานะที่เป็นเจ้าภาพจัดการฝึกขนาดใหญ่ในระดับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (๓) แลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ของผู้เข้าร่วมการฝึกในด้านการแพทย์ทหารและด้านการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ และ (๔) สร้างความคุ้นเคยและความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคลากรในสายงานด้านการแพทย์ทหารและด้านการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19711 | การจัดทำสัตยาบันสารความตกลงปารีส | ทส | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบให้ประเทศไทยให้สัตยาบันเข้าร่วมเป็นภาคีความตกลงปารีส และให้เสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป เพื่อให้ทันก่อนการประชุม High-level Event on the Entry into Force of the Paris Agreement เพื่อให้นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลสามารถประกาศเจตนารมณ์ในการให้สัตยาบันเข้าเป็นภาคีความตกลงปารีสในการประชุมดังกล่าว ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๕๙ ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในช่วงการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ ๒๑ เพื่อแสดงการมีส่วนร่วมกับประชาคมโลกในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ๑.๒ มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำและส่งมอบสัตยาบันสารความตกลงปารีส ต่อเลขาธิการสหประชาชาติในฐานะผู้เก็บรักษาเอกสาร ๒. ให้ยกเว้นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19712 | มาตรการสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจและสังคมภายในท้องถิ่น | กค | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการมาตรการสนับสนุนการใช้จ่ายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ อปท. นำเงินสะสมมาใช้จ่ายในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจและสังคมในท้องถิ่น ประกอบด้วย ๒ มาตรการ ได้แก่ มาตรการสนับสนุนการลงทุนร่วมระหว่างรัฐบาลและ อปท. (Matching Fund) และมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนผ่านการใช้จ่ายเงินสะสมของ อปท. ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. สำหรับงบประมาณที่ใช้ดำเนินการให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้ใช้จ่ายจากเงินสะสมของ อปท. เป็นลำดับแรกตามบัญชาของนายกรัฐมนตรี และให้ อปท. พิจารณาแผนความต้องการ/ความจำเป็นเร่งด่วน ความพร้อมและรายละเอียดค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการที่ชัดเจนของ อปท. จำนวน ๗,๘๕๑ แห่งก่อน โดยรายการดังกล่าวจะต้องไม่มีความซ้ำซ้อนกับโครงการ/รายการที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่ได้เสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยให้ความสำคัญกับหลักการกระจายงบประมาณอย่างแท้จริง และหากแผนความต้องการของ อปท. มีความจำเป็นต้องใช้จ่ายงบประมาณในการดำเนินการตามมาตรการฯ เกินกว่าเงินสะสมของ อปท. ที่มีอยู่ และไม่สามารถปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณได้ เห็นควรให้ใช้จ่ายจากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นให้ อปท. ในลักษณะของเงินอุดหนุนเฉพาะกิจตามประเภทและขนาดของ อปท. ภายในกรอบวงเงินไม่เกิน ๙,๘๙๗.๕๐ ล้านบาท ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบแล้ว และมีบัญชาเพิ่มเติม “หลักการใช้งบประมาณของ อปท. ก่อน ไม่พอของบกลาง จัดทำแผนงานให้ละเอียด ขั้นต้น สนับสนุนงบประมาณรายจ่ายงบกลาง ๙,๘๙๗.๕๐ ล้านบาท (Matching Fund)” ๓. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และประธานกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เห็นควรให้ อปท. ที่มีเงินสะสมไม่เพียงพอสามารถใช้งบประมาณจากข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีมาสมทบได้ และให้ อปท. จัดทำโครงการและเสนอขอความเห็นชอบโครงการให้แล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ ๑ และรีบก่อหนี้ผูกพันและเบิกจ่ายเงินให้แล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ ๓ ของปีงบประมาณ ๒๕๖๐ สำหรับกรณีข้อเสนอที่จะให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการให้สิทธิประโยชน์หรือสิ่งจูงใจให้ อปท. นำเงินสะสมมาใช้พัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ ผู้พิการ นั้น ควรหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นอกจากนี้ ควรให้ความสำคัญกับการกำหนดเงื่อนไข/วิธีการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับกรอบระยะเวลาที่กำหนด รวมทั้งคำนึงถึง อปท. ขนาดเล็กที่อาจจะไม่มีเงินสะสมเพียงพอที่จะร่วมทุน เพื่อให้เกิดความทั่วถึงในการดำเนินโครงการ และเห็นควรให้จังหวัดเป็นผู้พิจารณาและอนุมัติโครงการ เพื่อให้ อปท. สามารถดำเนินการก่อหนี้ผูกพันและดำเนินโครงการและเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๔. ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือร่วมกันเพื่อกำหนดแนวปฏิบัติในการดำเนินมาตรการฯ ให้ชัดเจน เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของมาตรการฯ และประชาชนได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึง ก่อนดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19713 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงพลังงาน) (จำนวน 4 ราย 1. นายสมนึก บำรุงสาลี ฯลฯ) | พน | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงพลังงาน ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๔ ราย ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ ทุกราย ทั้งนี้ ให้ทำงานต่อเนื่องตามนโยบายของรัฐบาลด้วย ได้แก่ ๑.๑ นายสมนึก บำรุงสาลี ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๑.๒ นางบุญบันดาล ยุวนะศิริ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๑.๓ นายประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ๑.๔ นายธรรมยศ ศรีช่วย ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. ให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19714 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) (จำนวน 5 ราย 1. นายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ฯลฯ) | ทส | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๕ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการและสับเปลี่ยนหมุนเวียน ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. นายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ๒. นายวรศาสน์ อภัยพงษ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ ๓. นายสากล ฐินะกุล ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ๔. นายเสริมยศ สมมั่น ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๕. นางสุณี ปิยะพันธุ์พงศ์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19715 | ให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่ออีกหนึ่งวาระ | นร04 | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่ง ๑ ปี ในวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๙ จำนวน ๔ ราย (ลำดับที่ ๑-๔) และในวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๙ จำนวน ๒ ราย (ลำดับที่ ๕-๖) ให้คงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปอีกหนึ่งวาระ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. พลตำรวจโท วรศักดิ์ นพสิทธิพร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง) ๒. นายธวัช สุนทราจารย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ๓. พลเอก เจริญ นพสุวรรณ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ๔. พลเอก ปัฐมพงศ์ ประถมภัฏ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ๕. นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ๖. นายวินิจฉัย แจ่มแจ้ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19716 | แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร | นร04 | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติให้รองนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง) เป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพิ่มเติมจากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๕๘ โดยให้การรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นไปตามลำดับ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รองนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง) ๑.๒ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์) ๑.๓ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (นางอรรชกา สีบุญเรือง) ทั้งนี้ ให้การรักษาราชการแทนดังกล่าวครอบคลุมถึงการรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เมื่อร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (เพื่อจัดตั้งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม) ประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายแล้วด้วย ๒. ให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19717 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง กระทรวงมหาดไทย (จำนวน 30 ราย 1. นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ฯลฯ) | มท | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓๐ ราย ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ตำแหน่งที่ว่าง และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้
๑. นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายโชคชัย เดชอมรธัญ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดภูเก็ต สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายสุวัฒน์ พรมสุวรรณ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดลำปาง สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นายวิศิษฐ คูรัตนเวช ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๕. นายสมฤกษ์ บัวใหญ่ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๖. นางสายพิรุณ น้อยศิริ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๗. นายไพศาล วิมลรัตน์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดน่าน สำนักงานปลัดกระทรวง ๘. นายณรงค์ศักดิ์ เฉลิมเกียรติ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดพะเยา สำนักงานปลัดกระทรวง ๙. นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดพิจิตร สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๐. นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดเพชรบูรณ์ สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๑. นายวัฒนา พุฒิชาติ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดแพร่ สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๒. นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดแม่ฮ่องสอน สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๓. นายวีระชัย ภู่เพียงใจ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดลำพูน สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๔. นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดกาฬสินธุ์ สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๕. นายพิสุทธิ์ บุษยพรรณพงศ์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดบึงกาฬ สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๖. นายเสน่ห์ นนทะโชติ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดมหาสารคาม สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๗. นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดร้อยเอ็ด สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๘. นายคุมพล บรรเทาทุกข์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดเลย สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๙. นายวิทยา จันทร์ฉลอง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดสกลนคร สำนักงานปลัดกระทรวง ๒๐. นายธนากร อึ้งจิตรไพศาล ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดหนองบัวลำภู สำนักงานปลัดกระทรวง ๒๑. นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดอำนาจเจริญ สำนักงานปลัดกระทรวง ๒๒. นายณรงค์ พลละเอียด ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดชุมพร สำนักงานปลัดกระทรวง ๒๓. นายศิริพัฒ พัฒกุล ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดตรัง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒๔. นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดปัตตานี สำนักงานปลัดกระทรวง ๒๕. นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดระนอง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒๖. นายอวยชัย อินทร์นาค ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดสุราษฎร์ธานี สำนักงานปลัดกระทรวง ๒๗. นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดชัยนาท สำนักงานปลัดกระทรวง ๒๘. นายประดิษฐ์ ยมานันท์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดนครนายก สำนักงานปลัดกระทรวง ๒๙. นายคันฉัตร ตันเสถียร ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดสมุทรสงคราม สำนักงานปลัดกระทรวง ๓๐. นายกล้าณรงค์ พงษ์เจริญ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดสระแก้ว สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19718 | มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 เพิ่มเติม | นร07 | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ เพิ่มเติม ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ โดยให้รองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีเจ้าสังกัดกำกับดูแลให้หัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นเร่งรัดดำเนินการก่อหนี้ผูกพันให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๙ ทั้งนี้ กรณีที่มีความจำเป็นไม่สามารถดำเนินการได้ภายในกำหนดดังกล่าว ให้ขอทำความตกลงกับกระทรวงการคลังเพื่อกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี หรือสำนักงบประมาณเพื่อโอนเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณแล้วแต่กรณีตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19719 | คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 55/2559 เรื่อง การดำเนินการเกี่ยวกับคดีบางประเภทที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร | สลธ.คสช. | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๕๕/๒๕๕๙ เรื่อง การดำเนินการเกี่ยวกับคดีบางประเภทที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร สั่ง ณ วันที่ ๑๒ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๕๙ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19720 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ (นักบริหารสูง) (สำนักนายกรัฐมนตรี) (นายธวัชชัย ฤทธากรณ์ และ นายวิม ยาหิรัญ) | นร06 | 13/09/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดสำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ตามที่สำนักข่าวกรองแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. นายธวัชชัย ฤทธากรณ์ ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ๒. นายวิม ยาหิรัญ ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
|
.....