ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 890 จากทั้งหมด 6236 หน้า แสดงรายการที่ 17781 - 17800 จากข้อมูลทั้งหมด 124707 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 17781 | ผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมเพื่อความร่วมมือทวิภาคีไทย - คาซัคสถาน ครั้งที่ 3 | กต | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมเพื่อความร่วมมือทวิภาคีไทย-คาซัคสถาน (Joint Commission : JC) ครั้งที่ ๓ เมื่อวันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๖๐ ณ กรุงอัสตานา สาธารณรัฐคาซัคสถาน ซึ่งที่ประชุมฯ ได้มีการลงนามบันทึกผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมเพื่อความร่วมมือทวิภาคีไทย-คาซัคสถาน ครั้งที่ ๓ และความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐคาซัคสถานว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและหนังสือเดินทางพิเศษ/หนังสือเดินทางราชการ โดยผลการประชุมฯ มีประเด็นที่ต้องดำเนินการและมอบหมายส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ได้แก่ ความร่วมมือด้านการเมือง ด้านเศรษฐกิจ ด้านการท่องเที่ยว ด้านพลังงาน ด้านวัฒนธรรมและการกีฬา ด้านสาธารณสุข ด้านแรงงานและการคุ้มครองทางสังคมของประชากร ด้านการศึกษา และด้านกฎหมาย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17782 | รายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ งานจ้างก่อสร้างสถานีสูบน้ำและประตูระบายน้ำบางขนาก พร้อมอาคารประกอบ ตำบลบางขนาก อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา | กษ | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการดำเนินการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ กรณีที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป รายการสถานีสูบน้ำและประตูระบายน้ำบางขนาก พร้อมอาคารประกอบ ตำบลบางขนาก อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา ในวงเงิน ๔๖๘.๐๐ ล้านบาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับข้อสังเกตของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับราคาค่าก่อสร้างตามผลการประกวดราคาต่ำกว่าราคากลางมาก ขอให้กรมชลประทานดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๓๖ (เรื่อง มาตรการป้องกันหรือลดโอกาสในการสมยอมกันในการเสนอราคา) พร้อมกำกับดูแลการก่อสร้างอย่างใกล้ชิด เพื่อให้งานก่อสร้างแล้วเสร็จตามวัตถุประสงค์ ไปดำเนินการอย่างเคร่งครัดด้วย ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ควรกำกับดูแลการก่อสร้างอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดการละทิ้งงานและการก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ได้ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17783 | การขับเคลื่อนมาตรการต่อต้านการให้สินบนเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยภาคเอกชน | ปช | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการดำเนินงานของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) ในการต่อต้านการให้สินบนเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งประกอบด้วย
๑. การจัดทำคู่มือแนวทางการกำหนดมาตรการควบคุมภายในที่เหมาะสมสำหรับนิติบุคคลในการป้องกันการให้สินบนเจ้าหน้าที่ของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ขององค์การระหว่างประเทศ และให้หน่วยงานภาครัฐนำคู่มือดังกล่าวไปเผยแพร่และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยให้เผยแพร่สร้างความเข้าใจแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหน่วยงานและนิติบุคคลนำไปใช้อย่างเหมาะสม เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างทั่วถึง และเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ๒. การจัดงานประกาศเจตนารมณ์ภาครัฐและเอกชนในการป้องกันการให้สินบนเจ้าหน้าที่ของรัฐ (Dinner talk) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๖๐ ๓. การจัดทำรายงานวิจัย “โครงการศึกษาความเหมาะสมและความพร้อมของประเทศไทยในการเข้าเป็นภาคีในอนุสัญญาขององค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ค.ศ. ๑๙๙๗ ว่าด้วยการต่อต้านการให้สินบนแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศในการทำธุรกรรมทางธุรกิจระหว่างประเทศ (OECD Anti-Bribery Convention)” และให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือกับสำนักงาน ป.ป.ช. ในการศึกษาข้อมูลเพื่อพิจารณาแก้ไขปรับปรุงกฎหมายหรือมาตรการเพื่อส่งเสริมการป้องกันและปราบปรามการให้สินบนเจ้าหน้าที่ของรัฐใน ๓ ประเด็น ได้แก่ (๑) การกำหนดห้ามมิให้ค่าใช้จ่ายที่เป็นสินบนแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐถือเป็นรายจ่ายที่สามารถนำมาคำนวณกำไรสุทธิ (Tax Non-Deductibility) (๒) การกำหนดฐานความผิดที่ชัดเจนสำหรับบริษัทที่ไม่มีมาตรการกำกับดูแลด้านการบัญชี และ (๓) การลดโทษให้กับผู้ให้สินบนที่รับสารภาพว่ากระทำความผิด ตามที่สำนักงาน ป.ป.ช. เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17784 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1152 สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1020 - บรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1020 (ต้าตลาด) ที่บ้านหัวดอย บ้านผางาม บ้านร่องห้า และบ้านสบเปา และเพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1421 สายหัวดอย - บ้านใหม่พัฒนา เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | คค | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๑๕๒ สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๒๐-บรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๒๐ (ต้าตลาด) ที่บ้านหัวดอย บ้านผางาม บ้านร่องห้า และบ้านสบเปา และเพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๔๒๑ สายหัวดอย-บ้านใหม่พัฒนา เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17785 | ร่างกฎหมายอนุบัญญัติระดับพระราชกฤษฎีกาและกฎกระทรวง ที่ออกตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 รวม 28 ฉบับ | กค | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างกฎกระทรวง ที่ออกตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐ รวม ๒๘ ฉบับ เพื่อรองรับการบริหารการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต ตามพระราชกฤษฎีกาสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐ ที่ได้มีการตราขึ้นใหม่ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดอัตราภาษีสรรพสามิตที่จัดเก็บเพิ่มขึ้นเพื่อราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าทำการที่จะต้องเสียให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานสรรพสามิต พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการพิจารณาราคาขายปลีกแนะนำและราคาขายต่อผู้บริโภคทั่วไปรายสุดท้ายในตลาดปกติ พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการประกาศราคาขายปลีกแนะนำเพื่อถือเป็นเกณฑ์ในการคำนวณภาษี พ.ศ. .... ๑.๕ ร่างกฎกระทรวงกำหนดจำนวนสถานแสดงรถยนต์เพื่อขาย หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการอนุญาตให้ผู้ประกอบอุตสาหกรรมมีสถานแสดงรถยนต์เพื่อขาย พ.ศ. .... ๑.๖ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตและการอนุญาตตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนและการโอนใบอนุญาตตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บน พ.ศ. .... ๑.๗ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงือนไขสำหรับการใช้แสตมป์สรรพสามิตและเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี เพื่อให้ปรากฏว่าได้เสียภาษีแล้ว พ.ศ. .... ๑.๘ ร่างกฎกระทรวงกำหนดชนิดและลักษณะของแสตมป์สรรพสามิต และเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีของทางราชการ พ.ศ. .... ๑.๙ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาต การอนุญาต และการขอต่ออายุใบอนุญาต ผลิตเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีจดทะเบียน พ.ศ. .... ๑.๑๐ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการยกเว้นหรือคืนภาษีหรือลดอัตราภาษี สำหรับสินค้าที่ส่งออกนอกราชอาณาจักร หรือนำเข้าไปในเขตปลอดอากร ตามมาตรา ๑๐๓ และการขอรับคืนหรือยกเว้นภาษีสำหรับสินค้าที่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมหรือผู้นำเข้า มีสิทธิได้รับคืนหรือยกเว้นภาษี ตามมาตรา ๑๐๗ พ.ศ. .... ๑.๑๑ ร่างกฎกระทรวงกำหนดสินค้าที่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมมีสิทธิขอลดหย่อนภาษี พ.ศ. .... ๑.๑๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการยกเว้นภาษีสำหรับสินค้าที่นำไปใช้เป็นวัตถุดิบหรือส่วนประกอบในการผลิตสินค้า พ.ศ. .... ๑.๑๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริการที่ผู้ประกอบกิจการสถานบริการมีสิทธิได้รับคืนหรือยกเว้นภาษีเนื่องจากการบริจาครายรับ และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอรับคืนหรือยกเว้นภาษีสำหรับรายรับที่ผู้ประกอบกิจการสถานบริการบริจาค พ.ศ. .... ๑.๑๔ ร่างกฎกระทรวงกำหนดสินค้าที่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมหรือผู้นำเข้ามีสิทธิขอคืนภาษีเนื่องจากสินค้าเสียหายหรือเสื่อมคุณภาพจนใช้การไม่ได้ และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการพิสูจน์ลักษณะความเสียหายหรือเสื่อมคุณภาพจนใช้การไม่ได้ พ.ศ. .... ๑.๑๕ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการให้ดอกเบี้ยแก่ผู้ได้รับคืนเงินภาษี พ.ศ. .... ๑.๑๖ ร่างกฎกระทรวงกำหนดแบบบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ พ.ศ. .... ๑.๑๗ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์การงดหรือลดเบี้ยปรับและการลดเงินเพิ่ม พ.ศ. .... ๑.๑๘ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตผลิตสุรา พ.ศ. .... ๑.๑๙ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตนำสุราเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. .... ๑.๒๐ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การขออนุญาตและการออกใบอนุญาตขายสุรา พ.ศ. .... ๑.๒๑ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเปลี่ยนแปลงสุราเพื่อการค้าของผู้ได้รับใบอนุญาตขายสุราประเภทที่ ๒ พ.ศ. .... ๑.๒๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตผลิตยาสูบ พ.ศ. .... ๑.๒๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตนำใบยา ยาอัด หรือยาสูบเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ. .... ๑.๒๔ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตขายยาสูบ พ.ศ. .... ๑.๒๕ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตผลิตไพ่ พ.ศ. .... ๑.๒๖ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตนำไพ่เข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. .... ๑.๒๗ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตขายไพ่ พ.ศ. .... ๑.๒๘ ร่างกฎกระทรวงกำหนดสินค้าประเภทที่ ๐๑.๙๐ ในตอนที่ ๑ น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน ตามบัญชีพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ. .... ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตผลิตยาสูบ ขายยาสูบ ผลิตสุรา และขายสุรา เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. มอบหมายให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรสร้างความรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีปฏิบัติ และประโยชน์ที่จะได้รับให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17786 | รายงานผลการดำเนินงาน สสค. ปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 - 2559 | นร | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๕๙ ตามที่ประธานกรรมการ สสค. เสนอ มีสาระสำคัญโดยสรุป ดังนี้
๑. ผลงานสำคัญปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๕๙ ประกอบด้วย ๔ ด้าน คือ (๑) การสร้างองค์ความรู้ (๒) การนำองค์ความรู้สู่การปฏิบัติจริงด้วยการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่ (๓) การพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนของสถานศึกษาและครู และ (๔) การสื่อสารเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง ๒. ข้อจำกัดในการดำเนินงาน สสค. ไม่มีฐานะเป็นหน่วยงานหรือนิติบุคคลที่จะขอตั้งหรือรับงบประมาณได้เอง โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๕๙ ได้ใช้งบประมาณจากหน่วยงานต่าง ๆ ทำให้การดำเนินงานขาดความคล่องตัวและต่อเนื่อง ไม่สามารถต่อยอดขยายงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขาดเอกภาพทางนโยบาย รวมทั้งไม่สามารถดึงดูดบุคลากรให้อยู่ต่อได้ ๓. ทิศทางการดำเนินงานต่อไป ในคราวประชุมคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชน ครั้งที่ ๒/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ได้มีมติเห็นควรสนับสนุนให้จัดตั้งเป็นสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (องค์การมหาชน) ตามพระราชบัญญัติองค์การมหาชน พ.ศ. ๒๕๔๒ ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17787 | คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 36/2560 เรื่อง การกำหนดตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิประจำส่วนราชการ | สลธ.คสช. | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓๖/๒๕๖๐ เรื่อง การกำหนดตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิประจำส่วนราชการ สั่ง ณ วันที่ ๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17788 | รายงานประจำปี 2559 ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ | วท | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี ๒๕๕๙ ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ โดยมีผลการดำเนินงานที่สำคัญ สรุปได้ ดังนี้
๑. การขับเคลื่อนการปฏิรูปวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมของรัฐบาล โดย สวทน. ได้จัดทำยุทธศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติเพื่อส่งเสริมการบูรณาการระหว่างหน่วยงานและลดความซ้ำซ้อนการสร้างกลไกให้มีการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ การพัฒนาบุคลากร และการปรับระบบจัดสรรงบประมาณและการติดตามประเมินผล ๒. ความก้าวหน้าด้านการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ โดยในปี ๒๕๕๘ มีการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาประเทศ ๘๔,๖๗๑ ล้านบาท หรือร้อยละ ๐.๖๒ ของ GDP สูงขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ ๐.๑๔ มีสัดส่วนการลงทุนของภาคเอกชนที่เติบโตมากขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ ๗๓ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ๕ อันดับแรก ได้แก่ อาหาร ยานยนต์ เคมี ปิโตรเลียม และแร่อโลหะแก้ว รวมทั้งมีจำนวนบุคลากรด้านวิจัยและพัฒนาเพิ่มมากขึ้น จาก ๘๔,๒๑๖ คน เป็น ๘๙,๖๑๗ คน ๓. ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ (๑) โครงการเมืองนวัตกรรมอาหาร (๒) โครงการ Startup หรือวิสาหกิจเริ่มต้น (๓) การจัดตั้งกองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม และ (๔) การบูรณาการการเรียนรู้การทำงาน หรือ Work-integrated Learning
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17789 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง "ผลกระทบของดอกเบี้ยต่ำต่อการออมของภาคประชาชนและผู้บริหารการลงทุน" ของคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | สว | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง “ผลกระทบของดอกเบี้ยต่ำต่อการออมของภาคประชาชนและผู้บริหารการลงทุน” ซึ่งกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแล้วไม่ขัดข้องกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ เนื่องจากเป็นข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเตรียมความพร้อมเพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมีความตระหนัก ความเข้าใจ และความพร้อมในการออมเงินให้เพียงพอต่อการดำรงชีพในยามชราภาพ รวมทั้งเพื่อให้ผู้บริหารการลงทุนมีการวางแผนเตรียมรับมือต่อผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการดำเนินการและแผนที่จะดำเนินการที่สอดคล้องกับข้อเสนอแนะดังกล่าว สำหรับประเด็นข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่ให้รัฐบาลใช้อำนาจฝ่ายบริหารในการจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายบำเหน็จนำนาญแห่งชาติ นั้น เห็นควรให้จัดตั้งโดยตราเป็นพระราชบัญญัติ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17790 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการก่อสร้างอาคารศูนย์ปฏิบัติการนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์การกีฬา 1 รายการ ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ | ศธ | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงศึกษาธิการ โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการก่อสร้างอาคารศูนย์ปฏิบัติการนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์การกีฬา จากวงเงิน ๔๘๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท เป็นวงเงิน ๔๘๖,๘๕๖,๕๕๒ บาท เป็นกรณีเฉพาะราย ตามนัยข้อ ๗ (๓) ของระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม สำหรับค่าก่อสร้างส่วนที่เหลือ จำนวน ๓๖๖,๓๕๖,๕๕๒ บาท ให้เบิกจ่ายจากเงินงบประมาณ จำนวน ๑๙๒,๘๐๐,๐๐๐ บาท และเงินนอกงบประมาณ จำนวน ๑๗๓,๕๕๖,๕๕๒ บาท โดยในส่วนของเงินงบประมาณให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗-พ.ศ. ๒๕๕๙ จำนวน ๘๙,๔๑๑,๐๐๐ บาท ส่วนที่ขาดอีก จำนวน ๑๐๓,๓๘๙,๐๐๐ บาท ให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ พร้อมรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17791 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อื่นๆ | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๔ โดยแก้ไขผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ จากผู้อำนวยการสำนักงานสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ เป็นอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และกำหนดเพิ่มเติมให้กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เป็นสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ ตามที่คณะกรรมการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงบประมาณที่เห็นควรพิจารณาภารกิจอำนาจหน้าที่ของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการด้วยว่า ครอบคลุมถึงการรับรองบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมเพื่อได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีแล้วหรือไม่ และกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการมีความพร้อมที่จะดำเนินการในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ด้วย สำหรับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้น เห็นควรให้กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ มาดำเนินการในโอกาสแรกก่อน ส่วนในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป เห็นควรให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17792 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. 2559 รวม 9 ฉบับ | วท | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ รวม ๙ ฉบับ เป็นการดำเนินการตามพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ เพื่อให้กฎหมายแม่บทมีผลใช้บังคับโดยสมบูรณ์และสามารถปฏิบัติให้เกิดผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงกำหนดวัสดุกัมมันตรังสีที่ไม่อยู่ภายใต้การควบคุม พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภทวัสดุกัมมันตรังสีที่บุคคลธรรมดาขอรับใบอนุญาตได้ พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดวัสดุกัมมันตรังสีที่ต้องแจ้งการมีไว้ในครอบครองหรือใช้ พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างกฎกระทรวงกำหนดศักยภาพทางเทคนิคของผู้ขอรับใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสี พ.ศ. .... ๑.๕ ร่างกฎกระทรวงกำหนดอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบเป็นเครื่องกำเนิดรังสีเป็นเครื่องกำเนิดรังสี พ.ศ. .... ๑.๖ ร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภทเครื่องกำเนิดรังสีที่บุคคลธรรมดาขอรับใบอนุญาตได้ พ.ศ. .... ๑.๗ ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราความเข้มข้นของวัสดุที่ประกอบอยู่ในแร่หรือสินแร่เพื่อให้แร่หรือสินแร่นั้นเป็นวัสดุต้นกำลัง พ.ศ. .... ๑.๘ ร่างกฎกระทรวงกำหนดวัสดุนิวเคลียร์ที่ต้องแจ้งการครอบครอง พ.ศ. .... ๑.๙ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอรับใบอนุญาต การขอต่ออายุใบอนุญาต การออกใบอนุญาตและการต่ออายุใบอนุญาตเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเดินเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ พ.ศ. .... ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้มีการควบคุมการประกอบกิจการที่มีการผลิตหรือที่มีวัสดุกัมมันตรังสีไว้ในครอบครองให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ รวมทั้งเห็นควรกำหนดปริมาณ ความเข้มข้น และองค์ประกอบของวัสดุนิวเคลียร์ที่ผู้ดำเนินการไม่ต้องขอรับใบอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ แต่ต้องแจ้งการครอบครองให้ชัดเจนตามที่พระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติฯ กำหนด เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. มอบหมายให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเร่งรัดการออกกฎหมายลำดับรองที่เหลืออยู่ตามพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ โดยเร็ว เพื่อให้การบังคับใช้พระราชบัญญัติดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17793 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) ครั้งที่ 3/2560 : การเร่งรัดและขับเคลื่อนประเด็นการปฏิรูปธนาคารที่ดิน และองค์กรด้านที่ดินความขัดแย้งที่ดิน - ป่าไม้ การบูรณาการฐานข้อมูลด้านที่ดิน One map ระบบยุติธรรมชุมชน และการปฏิรูปการเงินฐานราก : การพัฒนาการจัดการการเงินชุมชน | นร04 | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความคืบหน้าการดำเนินการตามประเด็นปฏิรูปธนาคารที่ดิน และองค์กรด้านที่ดิน การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่ดิน-ป่าไม้ การบูรณาการฐานข้อมูลด้านที่ดิน One map ระบบยุติธรรมชุมชน และการปฏิรูปการเงินฐานราก : การพัฒนาการจัดการการเงินชุมชน ตามที่คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) เสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. ธนาคารที่ดิน และองค์กรด้านที่ดิน กขร. มีมติให้กระทรวงการคลังเร่งรัดการพิจารณาเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติที่ดิน พ.ศ. .... เพื่อให้เป็นกลไกในการกระจายการถือครองที่ดินเพื่อลดความเหลื่อมล้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ๒. การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่ดิน-ป่าไม้ กขร. มีมติให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเร่งรัดการพิจารณาดำเนินการเพื่อให้สามารถเสนอร่างกฎหมายต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติภายในเดือนกันยายน ๒๕๖๐ ๓. การบูรณาการฐานข้อมูลด้านที่ดิน One map กขร. มีมติให้กระทรวงยุติธรรมและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเร่งรัดการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ร่างพระราชบัญญัติยุติธรรมชุมชน พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. .... เสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไปภายในเดือนกันยายน ๒๕๖๐ ๔. การปฏิรูปการเงินฐานราก : การพัฒนาการจัดการการเงินชุมชน กขร. มีมติให้กระทรวงการคลังเร่งรัดการดำเนินการเสนอร่างพระราชบัญญัติสถาบันการเงินชุมชน พ.ศ. .... ต่อคณะรัฐมนตรีภายในเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๐
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17794 | ผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานร่วมระหว่างไทย - เมียนมา เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง (JCC) ครั้งที่ 8 | นร11 | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานร่วมระหว่างไทย-เมียนมา เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง (Joint Coordinating Committee for the Comprehensive Development of the Dawei Special Economic Zone and its Related Projects Areas : JCC) ครั้งที่ ๘ เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๐ ณ กรุงเทพมหานคร ซึ่งที่ประชุมฯ รับทราบการใช้แผนแม่บทการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายระยะสมบูรณ์ (Integrated Dawei Special Economic Zone Master Plan) เป็นกรอบแนวทางการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย รับทราบถึงกลไกความร่วมมือเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้องในระดับต่าง ๆ ตั้งแต่ระดับนโยบาย ระดับประสานงาน และระดับปฏิบัติการ รวมถึงการจัดตั้งนิติบุคคลเฉพาะกิจ (Special Purpose Vehicle : SPV) ในลักษณะการร่วมทุนระหว่างไทย-เมียนมา-ญี่ปุ่น เพื่อทำหน้าที่เป็นหน่วยสนับสนุนการดำเนินงานในระดับปฏิบัติการ เป็นต้น นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ เห็นชอบให้จัดตั้งคณะทำงานร่วมเฉพาะกิจระหว่างไทย-เมียนมา สำหรับโครงการถนนสองช่องทางเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษทวายสู่ชายแดนไทย-เมียนมา และคณะทำงานร่วมเฉพาะกิจระหว่างไทย-เมียนมา สำหรับโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายระยะแรก ๒. มอบหมายให้หน่วยงานในองค์ประกอบคณะทำงานร่วมเฉพาะกิจทั้ง ๒ คณะ เร่งรัดประสานฝ่ายเมียนมาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมดำเนินการให้ได้ข้อสรุป และจัดทำข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการประสานงานร่วมระหว่างไทย-เมียนมา เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง (JCC) โดยด่วนต่อไป ได้แก่ ๒.๑ คณะทำงานร่วมเฉพาะกิจระหว่างไทย-เมียนมา สำหรับโครงการถนนสองช่องทางเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษทวายสู่ชายแดนไทย-เมียนมา ประกอบด้วย สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) และกระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวง) ๒.๒ คณะทำงานร่วมเฉพาะกิจระหว่างไทย-เมียนมา สำหรับโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายระยะแรก ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และกระทรวงการคลัง (สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง) ๓. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานร่วมระหว่างไทย-เมียนมา เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง (JCC) รับความเห็นของสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) ในประเด็นที่ฝ่ายเมียนมาเสนอให้จัดตั้งสำนักงานของบริษัท ทวาย เอสอีแซด ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (SPV) ในเมียนมา นั้น เห็นควรคงสถานะให้บริษัท ทวายฯ เป็นบริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งในประเทศไทยและจัดตั้งสำนักงานสาขาในเมียนมาแทน ตามที่ระบุไว้ในสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้น ฉบับที่ ๒ (Shareholders Agreement II) และสัญญากรอบความตกลง ฉบับที่ ๒ (Framework Agreement II) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17795 | แนวทางการดำเนินการประชาสัมพันธ์งานของรัฐบาลโดยโฆษกกระทรวง ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี (6 ตุลาคม 2558) ประจำเดือนมิถุนายน 2560 | นร02 | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบแนวทางการดำเนินการประชาสัมพันธ์ผลงานของรัฐบาลโดยโฆษกกระทรวง ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี (๖ ตุลาคม ๒๕๕๘) ประจำเดือนมิถุนายน ๒๕๖๐ ตามที่คณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติเสนอ มีประเด็นการประชาสัมพันธ์ที่สำคัญ ดังนี้ ๑.๑ ผลงานตามนโยบายและยุทธศาสตร์ (๑) เดือนที่ผ่านมา (มิถุนายน ๒๕๖๐) ได้แก่ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน การส่งเสริมการท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ของประเทศ การบริหารจัดการน้ำและการแก้ปัญหาด้านทรัพยากรธรรมชาติ และ (๒) เดือนต่อไป (สิงหาคม ๒๕๖๐) ได้แก่ การเสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักและการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การวางระบบบริหารราชการแบบบูรณาการ และการพัฒนาระบบการให้บริการประชาชนของหน่วยงานภาครัฐ ๑.๒ ผลงานตามประเด็นการปฏิรูป (๑) เดือนที่ผ่านมา (มิถุนายน ๒๕๖๐) ได้แก่ การขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล การปฏิรูปประเทศ การจัดระเบียบสังคม พระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๖๐ เพื่อจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว ลดปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน และ (๒) เดือนต่อไป (สิงหาคม ๒๕๖๐) ได้แก่ การปฏิรูปกลไกการบริหารประเทศและพัฒนาความมั่นคง การรักษาความมั่นคงภายในและความสงบเรียบร้อยภายใน และการพัฒนาเสริมสร้างศักยภาพการผนึกกำลังป้องกันประเทศ ๑.๓ ผลงานการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน (๑) เดือนที่ผ่านมา (มิถุนายน ๒๕๖๐) ได้แก่ การกวาดล้างขบวนการค้ามนุษย์ การลักลอบนำพาแรงงานต่างด้าวเข้ามาในไทยอย่างผิดกฎหมาย มาตรการแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรและการบรรเทาสาธารณภัย และ (๒) เดือนต่อไป (สิงหาคม ๒๕๖๐) ได้แก่ การส่งเสริมผู้ประกอบการยางพารา การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ การป้องกันและปราบปรามขบวนการตัดไม้ทำลายป่า และการบุกรุกพื้นที่ป่าและที่ดินของรัฐ ๒. มอบหมายให้โฆษกกระทรวงแถลงข่าวและชี้แจงในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของกระทรวงอย่างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ เพื่อป้องกันการสื่อสารที่อาจสร้างความสับสนต่อการดำเนินงานของรัฐให้แก่ประชาชน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17796 | ขออนุมัติจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายโครงการ พัฒนาที่อยู่อาศัย ชุดที่ 1 ปี 2558 | พม | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย ชุดที่ ๑ ปี ๒๕๕๘ ตามสัดส่วนของแหล่งเงิน โดยใช้เงินอุดหนุนจากรัฐบาล วงเงิน ๘๙๓,๓๒๔,๙๐๐ บาท หรือร้อยละ ๑๖.๒๙ ซึ่งได้ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๘ ไปดำเนินการแล้ว จำนวน ๙๗,๒๑๑,๐๐๐ บาท และให้การเคหะแห่งชาติเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๒๑๒,๓๒๕,๑๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย ชุดที่ ๑ ปี ๒๕๕๘ โดยให้เบิกจ่ายในงบเงินอุดหนุน รายการค่าก่อสร้างที่อยู่อาศัย โครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชนผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง สำหรับวงเงินที่เหลือ จำนวน ๕๘๓,๗๘๘,๘๐๐ บาท ให้การเคหะแห่งชาติเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (การเคหะแห่งชาติ) รับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า การเคหะแห่งชาติควรมีแผนบริหารความเสี่ยงเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับแผนดำเนินงานในโครงการดังกล่าว และควรเร่งดำเนินการลงทุนโครงการที่ได้รับอนุมัติให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้การพัฒนาที่อยู่อาศัยเป็นไปตามเป้าหมายและสามารถส่งมอบที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อยได้ตามสัญญา รวมทั้งเพิ่มมาตรการด้านการตลาดและส่งเสริมการขาย เพื่อลดความเสี่ยงจากอาคารคงเหลือ และผลกระทบต่อฐานะการเงินขององค์กร ไปดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17797 | ขออนุมัติกู้เงินเพื่อนำไปชำระค่าเชื้อเพลิงและค่าเหมาซ่อมของรถปรับอากาศ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ | คค | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กู้เงินเพื่อนำไปชำระค่าเชื้อเพลิงและค่าเหมาซ่อมของรถปรับอากาศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ จำนวน ๒,๘๓๓.๐๘๔ ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าเชื้อเพลิง จำนวน ๑,๙๐๕.๕๔๓ ล้านบาท และค่าเหมาซ่อม จำนวน ๙๒๗.๕๔๑ ล้านบาท และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ รวมทั้งพิจารณาวิธีการกู้เงิน เงื่อนไขและรายละเอียดต่าง ๆ ในการกู้เงิน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. ให้กระทรวงคมนาคม โดย ขสมก. รับความเห็นของกระทรวงพลังงานและสำนักงบประมาณที่เห็นว่า นอกจากค่าเชื้อเพลิงและค่าเหมาซ่อมของรถปรับอากาศแล้ว ขสมก. ยังมีภาระหนี้ค้างชำระกับบริษัท ปตท. (จำกัด) มหาชน คือ ค่าเชื้อเพลิงรถเมล์ธรรมดาในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ โดย ณ วันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๐ มีหนี้ค้างชำระเป็นจำนวนเงิน ๖๘๔.๒๖๖ ล้านบาท จึงเห็นควรให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาให้ ขสมก. ชำระหนี้จำนวนดังกล่าวพร้อมกันในครั้งนี้ด้วย และเห็นควรให้ ขสมก. ดำเนินการขอบรรจุแผนการกู้เงินจำนวนดังกล่าวไว้ในแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ รวมทั้งให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาตรวจสอบและกำกับให้ ขสมก. จัดทำกรอบวงเงินตามความจำเป็นและเหมาะสมที่เกิดขึ้นจริงอย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17798 | ขออนุมัติจัดสรรเงินจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรโครงการสนับสนุนปัจจัยการผลิตปศุสัตว์ "โคบาลบูรพา" | กษ | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติจัดสรรเงินจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรให้กรมปศุสัตว์ สำหรับดำเนินการตามโครงการสนับสนุนปัจจัยการผลิตปศุสัตว์ “โคบาลบูรพา” โดยมีกำหนดชำระคืนสำหรับกิจกรรมส่งเสริมอาชีพเลี้ยงโคเนื้อภายใน ๖ ปี และกิจกรรมส่งเสริมอาชีพเลี้ยงแพะภายใน ๕ ปี ระยะเวลาโครงการ พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๕ โดยอนุมัติวงเงินยืม (เงินหมุนเวียน) จำนวน ๓๕๘,๘๐๐,๐๐๐ บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๐ ต่อปี ระยะเวลาปลอดการชำระหนี้สำหรับกิจกรรมส่งเสริมอาชีพเลี้ยงโคเนื้อใน ๓ ปีแรก และกิจกรรมส่งเสริมอาชีพเลี้ยงแพะใน ๒ ปีแรก ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการสนับสนุนเงินยืมจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรสำหรับการก่อสร้างโรงเรือนและการจัดหาแหล่งน้ำให้ถึงมือเกษตรกรโดยเร็ว เพื่อให้สอดรับกับการอุดหนุนพันธุ์แม่โคเนื้อและพันธุ์แพะเนื้อให้แก่เกษตรกร ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๖๐ (เรื่อง ขอสนับสนุนงบกลางเพื่อดำเนินงานโครงการโคบาลบูรพา) ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีการกำกับดูแลและติดตามประเมินผลการดำเนินโครงการฯ และควรให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์และอบรมให้ความรู้/ถ่ายทอดเทคโนโลยี การให้ความรู้และสนับสนุนการดำเนินงานให้กับสหกรณ์ที่จะจัดตั้งใหม่ การป้องกันการหมุนเวียนโคเข้าโครงการของรัฐซ้ำซ้อน และการตรวจเยี่ยมติดตามและประเมินผลโครงการฯ อย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งกำกับดูแลการดำเนินงานของกรมปศุสัตว์และหน่วยงานสนับสนุนให้มีการบูรณาการกันอย่างมีประสิทธิภาพเป็นไปตามเงื่อนไขและวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ตลอดจนกำกับดูแลการชำระคืนเงินจากเกษตรกรให้เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนดอย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17799 | มาตรการการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบ อันเนื่องมาจากเหตุอุทกภัยในภาคใต้ | กค | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐนำหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการพิจารณาการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบ อันเนื่องมาจากเหตุอุทกภัยในภาคใต้ที่คณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุพิจารณาแล้วในการประชุมครั้งที่ ๘/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ไปถือปฏิบัติในแนวทางเดียวกัน และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยนำมาตรการนี้ไปใช้บังคับในการจัดจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยอนุโลมด้วย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอื่นของรัฐ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเร่งปรับแผนการดำเนินงานให้สอดคล้องตามสถานการณ์ โดยคำนึงถึงเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประกอบการก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทันต่อสถานการณ์ และเกิดความเป็นธรรมต่อผู้ประกอบการในพื้นที่ ให้คณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุเร่งพิจารณาแนวทางที่เหมาะสมในการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่ดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็วและเสนอคณะรัฐมนตรีโดยด่วน ทั้งนี้ ให้พิจารณาดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 17800 | บันทึกความเข้าใจความร่วมมือในการอนุรักษ์และจัดการกลุ่มป่าพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติระหว่างกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และองค์กรระหว่างประเทศ | ทส | 08/08/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ การจัดทำบันทึกความเข้าใจความร่วมมือในการอนุรักษ์และจัดการกลุ่มป่าพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติ ระหว่างกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และองค์กรระหว่างประเทศ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ภาคีทุกฝ่ายตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์และคุ้มครองทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า และการจัดการพื้นที่คุ้มครอง เพื่อการปกป้อง คุ้มครอง และสงวนทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า ในพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติและพื้นที่นำเสนอเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ๑.๒ ให้อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
.....
