ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 845 จากทั้งหมด 6210 หน้า แสดงรายการที่ 16881 - 16900 จากข้อมูลทั้งหมด 124195 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
16881 | แนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ 60/2560 และครั้งที่ 61/2560 | นร | 03/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติเกี่ยวกับระเบียบวาระการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ ๖๐/๒๕๖๐ วันพฤหัสบดีที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๐ และครั้งที่ ๖๑/๒๕๖๐ วันศุกร์ที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๐
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16882 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 03/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านความมั่นคง ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (Illegal Unreported and Unregulated Fishing : IUU Fishing) และปัญหาการค้ามนุษย์ของประเทศไทยให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่จะให้สหภาพยุโรปยกเลิกการกำหนดให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงที่จะถูกจัดให้เป็นประเทศที่ไม่ให้ความร่วมมือ (possibility of identifying as non-cooperating country) ภายใต้กฎระเบียบ IUU ของสหภาพยุโรป (ยกเลิกใบเหลือง) ภายในเดือนมีนาคม ๒๕๖๑ ทั้งนี้ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องกำกับ ติดตามการปฏิบัติงานของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้เกิดการทุจริตหรือประพฤติมิชอบใด ๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว นอกจากนี้ ให้สร้างการรับรู้แก่บุคลากรในสังกัดให้มีความเข้าใจถูกต้องตรงกันด้วยว่า การดำเนินการแก้ไขปัญหาข้างต้นต้องอยู่บนพื้นฐานของหลักกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ๒. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๒.๑ ตามที่นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รักษาความสงบเรีบบร้อยในแต่ละพื้นที่ให้มีความปลอดภัยและความสงบสุข รวมทั้งปราบปรามผู้มีอิทธิพลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการร้องเรียนจากประชาชน เช่น ตลาดโบ๊เบ๊ นั้น ให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพล โดยให้มีการบูรณาการด้านการข่าวและการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด รวมทั้งให้หัวหน้าส่วนราชการสอดส่องและกำกับดูแลไม่ให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลด้วย ๒.๒ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เร่งรัดการดำเนินการตามแผนการจัดระเบียบการแก้ไขปัญหาชุมชนแออัด การสร้างที่อยู่อาศัยรุกล้ำแนวลำคลองและทางระบายน้ำตามพื้นที่ต่าง ๆ ให้แล้วเสร็จและเกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16883 | ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตเกี่ยวกับการผลิต ขาย นำเข้า ส่งออกหรือมีไว้ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตเกี่ยวกับการขายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | สธ | 03/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตเกี่ยวกับการผลิต ขาย นำเข้า ส่งออกหรือมีไว้ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๑ (วัตถุออกฤทธิ์ที่ไม่ใช้ในทางการแพทย์ และอาจก่อให้เกิดการนำไปใช้ หรือมีแนวโน้มในการนำไปใช้ในทางที่ผิดสูง) เช่น คาทิโนน (CATHINONE) ดีอีที (DET) และดีเอ็มเอชพี (DMHP) ฯลฯ และการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตเกี่ยวกับการขายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ (วัตถุออกฤทธิ์ที่ใช้ในทางการแพทย์ และอาจก่อให้เกิดการนำไปใช้หรือมีแนวโน้มในการนำไปใช้ในทางที่ผิดสูง) เช่น แอมฟิพราโมน (AMFEPRAMONE) โบรติโซแลม (BROTIZOLAM) และอีเฟดรีน (EPHEDRNE) ฯลฯ เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. ๒๕๕๙ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตเกี่ยวกับการผลิต การขาย นำเข้า ส่งออกหรือมีไว้ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๑ พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตเกี่ยวกับการขายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ พ.ศ .... ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นชอบด้วยกับร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๒ แต่ไม่จำเป็นต้องกำหนดให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรต้องสลักหลังสำเนาใบอนุญาตหมายเลข ๓ ส่งกลับมายังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ตามร่างข้อ ๑๒ (๔) ในร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑ แต่อย่างใด ประกอบกับเนื้อหาของร่างกฎกระทรวงดังกล่าวยังไม่มีรายละเอียดในส่วนของการรองรับการเชื่อมโยงข้อมูลแบบอิเล็กทรอนิกส์ จึงควรให้พิจารณาทบทวนร่างกฎกระทรวงดังกล่าว ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16884 | พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร | นร | 03/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีเห็นว่า พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่จะมีขึ้นในวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๐ เป็นพระราชพิธีที่มีความสำคัญอย่างยิ่งของประเทศและถือเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของรัฐบาลที่จะต้องกำกับดูแลและดำเนินการด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติอย่างสูงสุด จึงมีมติให้ทุกส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐทำความเข้าใจแก่บุคลากรในสังกัดให้ถูกต้องตรงกันเพื่อให้ตระหนักถึงบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของหน่วยงาน/บุคลากรที่เกี่ยวข้องที่จะต้องให้ความสำคัญอย่างสูงสุดในการดำเนินการ/ร่วมมือกันดำเนินการต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อให้พระราชพิธีดังกล่าวเป็นไปด้วยความถูกต้อง เรียบร้อย เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างสมบูรณ์โดยปราศจากข้อผิดพลาดและความบกพร่องใด ๆ อย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ ให้ทุกส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐพิจารณามอบหมายหน้าที่ ความรับผิดชอบในการดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้แก่บุคลากรในสังกัด ตลอดจนกำหนดผู้มีอำนาจพิจารณาสั่งการให้เหมาะสมชัดเจน รวมทั้งให้ดำเนินการสร้างการรับรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการดำเนินงานของหน่วยงานให้ถูกต้องและเป็นระบบด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16885 | แนวทางการทดแทนอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุของข้าราชการด้วยการจ้างงานรูปแบบอื่น | นร10 | 03/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบแนวทางการทดแทนอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุของข้าราชการด้วยการจ้างงานรูปแบบอื่น โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการบริหารและพัฒนากำลังภาครัฐ (พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๖๑) ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุของข้าราชการต่อไป ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ โดยมีแนวทางการดำเนินการ ดังนี้ ๑.๑ ให้ อ.ก.พ. กระทรวง บริหารจัดการอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุของข้าราชการพลเรือนสามัญ โดยทดแทนอัตราว่างดังกล่าวที่มีในแต่ละปีด้วยรูปแบบการจ้างงานที่ไม่ใช่ข้าราชการตามแนวทางที่คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) กำหนด ดังต่อไปนี้ ๑.๑.๑ การทดแทนอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุของข้าราชการในสายงานสนับสนุน ประกอบด้วยตำแหน่งประเภททั่วไปในสายงานสนับสนุน ให้ทดแทนอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุของข้าราชการด้วยการจ้างงานรูปแบบอื่นทั้งหมด (ร้อยละ ๑๐๐ ของอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุในสายงานสนับสนุนที่ส่วนราชการมีในปีนั้น) สำหรับตำแหน่งประเภททั่วไประดับอาวุโส ให้ยกเว้นการทดแทนอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุของข้าราชการด้วยการจ้างงานรูปแบบอื่น เนื่องจากเป็นทางก้าวหน้าของข้าราชการในสายงานสนับสนุน ส่วนตำแหน่งประเภทวิชาการในสายงานสนับสนุน ให้ทดแทนอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุของข้าราชการด้วยการจ้างงานรูปแบบอื่นอย่างน้อยร้อยละ ๑๐ ของอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุของตำแหน่งประเภทวิชาการในสายงานสนับสนุนที่ส่วนราชการมีในปีนั้น ๑.๑.๒ การทดแทนอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุของข้าราชการในสายงานหลัก ประกอบด้วยตำแหน่งประเภทวิชาการ ให้พิจารณาทดแทนอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุของข้าราชการด้วยการจ้างงานรูปแบบอื่น โดยคำนึงถึงความจำเป็นตามภารกิจของส่วนราชการ ความมีประสิทธิภาพและความคุ้มค่า และเงื่อนไขในการจ้างงานภาครัฐ ส่วนตำแหน่งประเภททั่วไป ให้ทดแทนอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุของข้าราชการด้วยการจ้างงานรูปแบบอื่นอย่างน้อยร้อยละ ๑๐ ของอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุของตำแหน่งประเภททั่วไปในสายงานหลักที่ส่วนราชการมีในปีนั้น ๑.๒ ให้คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ บริหารจัดการอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุของข้าราชการในแต่ละปี โดยทดแทนอัตราว่างดังกล่าวด้วยรูปแบบการจ้างงานที่ไม่ใช่ข้าราชการ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ คปร. กำหนดโดยอนุโลม ๑.๓ ให้ฝ่ายเลขานุการร่วม คปร. ศึกษาแนวทางและมาตรการเพื่อจูงใจให้ส่วนราชการทดแทนอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุของข้าราชการด้วยการจ้างงานรูปแบบอื่นที่ไม่ใช่ข้าราชการ รวมทั้งหามาตรการจูงใจให้ส่วนราชการใช้อัตรากำลังอย่างมีประสิทธิภาพ ๑.๔ เงื่อนไขการดำเนินการ ให้การดำเนินการตามแนวทางนี้มีผลบังคับใช้สำหรับทดแทนอัตราการว่างงานจากผลการเกษียณอายุของข้าราชการ ณ วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๑ เป็นต้นไป และให้ฝ่ายเลขานุการร่วม คปร. สื่อสารสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนและวิธีการปฏิบัติเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับส่วนราชการด้วย ๒. ให้สำนักงาน ก.พ. รับความเห็นของสำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรกำหนดให้มาตรการประเมินผลการปฏิบัติงานอย่างเข้มงวดในการจ้างงานตามระยะเวลาของสัญญาจ้างเพื่อให้ได้เจ้าหน้าที่ที่มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน และควรทดแทนอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุของข้าราชการของตำแหน่งในสายงานสนับสนุน หรืองานที่มิใช่ภารกิจหลักของส่วนราชการ เช่น การจ้างพนักงานราชการเพื่อเป็นการควบคุมค่าใช้จ่ายด้านบุคคลภาครัฐมิให้สูงขึ้น โดยต้องพิจารณาถึงลักษณะงานและภารกิจที่จำเป็นของแต่ละส่วนราชการด้วย และกำหนดให้ส่วนราชการทบทวนบทบาทภารกิจให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและสังคม ทิศทางการพัฒนาประเทศในอนาคต และความต้องการของประชาชน รวมทั้งการนำระบบดิจิทัลสมัยใหม่มาใช้ในการจัดบริการสาธารณะ ตลอดจนการจัดทำแผนกำลังคนและการทดแทนอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุของข้าราชการในระยะ ๓ ปี ที่เหมาะสมและสอดคล้องกับภารกิจในอนาคตโดยค่าใช้จ่ายภาครัฐจะต้องไม่เพิ่มขึ้น สำหรับแนวทางการดำเนินงานในส่วนของการทดแทนอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุของข้าราชการในสายงานสนับสนุนตำแหน่งประเภททั่วไปที่กำหนดแนวทางโดยให้ทดแทนอัตราว่างฯ ด้วยการจ้างงานรูปแบบอื่นทั้งหมด (ร้อยละ ๑๐๐ ของอัตราว่างฯ ในสายงานสนับสนุนที่มีส่วนราชการในปีนั้น) ควรพิจารณาปรับเปลี่ยนแนวทางดังกล่าวเป็นการยุบเลิกอัตราเกษียณของข้าราชการทั้งหมด (ร้อยละ ๑๐๐ ของอัตราว่างฯ ในสายงานสนับสนุนที่มีส่วนราชการในปีนั้น) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16886 | การเข้าร่วมปฏิบัติงานจิตอาสาเฉพาะกิจ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร | นร | 26/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีเห็นว่า เพื่อให้ข้าราชการทุกหมู่เหล่าได้มีส่วนร่วมในการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในห้วงเดือนตุลาคมศกนี้ได้อย่างพร้อมเพรียงกัน คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเชิญชวนให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐของทุกหน่วยงาน ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคที่มีความพร้อม เข้าร่วมเป็นจิตอาสาเฉพาะกิจ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรับสมัครในระหว่างเวลา ๐๘.๐๐-๑๖.๐๐ น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยสมัครได้ทั้งในกรุงเทพมหานคร (ณ สนามเสือป่าและสำนักงานเขตทุกแห่ง) และในต่างจังหวัด ณ ศาลากลางจังหวัดหรือที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง และจะสิ้นสุดการเปิดรับสมัครในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๐ นี้ ทั้งนี้ ให้ทุกหน่วยงานรวบรวมจำนวนผู้ที่สมัครในสังกัดเปรียบเทียบกับจำนวนบุคลากรที่มีอยู่ทั้งหมดและรายงานข้อมูลดังกล่าวไปยังรัฐมนตรีเจ้าสังกัดโดยด่วน เพื่อรวบรวมและนำเสนอนายกรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16887 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. .... | สว | 26/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. .... ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วเห็นด้วยกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ โดยเห็นควรกำหนดด้านเพิ่มเติมมาตรา ๘ (๑๑) รวม ๓ ด้าน ได้แก่ (๑) ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (๒) ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ (๓) ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ส่วนด้านการเกษตรและสหกรณ์ เห็นควรให้คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจเป็นผู้พิจารณาความเหมาะสม และด้านการปกครองท้องถิ่น และเรื่องระบบราชการ เห็นควรให้คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการบริหารราชการแผ่นดินเป็นผู้พิจารณาความเหมาะสม สำหรับด้านการศาสนา เห็นควรให้รวมอยู่ภายใต้การปฏิรูปประเทศด้านสังคมหรือการศึกษา และเรื่องการผังเมืองและการพัฒนาเมือง เห็นควรให้มีการกำหนดเนื้อหาและประเด็นการปฏิรูปให้มีความชัดเจนเพิ่มขึ้นก่อน รวมทั้งจะรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เกี่ยวกับประเด็นการใช้อำนาจของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศตามมาตรา ๒๗ แห่งพระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. ๒๕๖๐ กรณีที่คณะกรรมการปฏิรูปประเทศเห็นว่ามีปัญหาอุปสรรคไม่อาจดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศได้หรือมีเหตุอื่นใดเป็นการเฉพาะเรื่องนั้น โดยจะนำไปปฏิบัติโดยเคร่งครัด ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16888 | รายงานการพัฒนาระบบราชการไทย ประจำปี พ.ศ. 2559 | นร12 | 26/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการพัฒนาระบบราชการไทย ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๙ ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ และให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ดังนี้
๑. รายงานผลการพัฒนาระบบราชการที่สำคัญ ในรอบปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ประกอบด้วย ผลที่เกิดจากการผลักดันของ ก.พ.ร. ให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการในด้านต่าง ๆ เพื่อนำนโยบายของรัฐไปสู่การปฏิบัติให้เกิดประสิทธิผลอย่างมีประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการของประชาชน ได้แก่ การประเมินการปฏิบัติราชการของหน่วยงานของรัฐ ส่วนราชการ จังหวัด สถาบันอุดมศึกษา และองค์การมหาชน การอำนวยความสะดวกและสร้างความเป็นเลิศในการให้บริการประชาชน การพัฒนาองค์การให้มีขีดสมรรถนะสูง การบริหารราชการแบบบูรณาการ และการสร้างความเชื่อมั่นศรัทธาในการบริหารราชการแผ่นดิน ๒. รายงานการดำเนินงานของสำนักงาน ก.พ.ร. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ประกอบด้วย ข้อมูลพื้นฐานของสำนักงาน ก.พ.ร. และผลการดำเนินงานที่สำคัญ ในรอบปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ได้แก่ วิสัยทัศน์ ประเด็นยุทธศาสตร์ โครงสร้าง อัตรากำลัง งบประมาณรายจ่ายประจำปี ผลการดำเนินงานที่สำคัญ และงบแสดงฐานะการเงิน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16889 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ พ.ศ. .... | นร09 | 26/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการแบ่งส่วนราชการ รวมทั้งหน้าที่และอำนาจของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจที่เพิ่มขึ้นและเหมาะสมกับสภาพงานที่เปลี่ยนแปลงไป อันจะทำให้การปฏิบัติภารกิจตามหน้าที่และอำนาจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งร่างกฎกระทรวงดังกล่าวให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเพื่อนำเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาลงนามและประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16890 | ภาวะสังคมไทยไตรมาสสองปี 2560 | นร11 | 26/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานภาวะสังคมไทยไตรมาสสองปี ๒๕๖๐ ประกอบด้วย (๑) สถานการณ์ทางสังคม ซึ่งมีประเด็นที่มีความเคลื่อนไหวทางสังคมที่สำคัญในเชิงบวกและประเด็นที่ต้องติดตามและเฝ้าระวัง ได้แก่ การจ้างงานโดยรวมเพิ่มขึ้น ค่าจ้างแรงงานภาคเอกชนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และผลิตภาพแรงงานเพิ่มขึ้น หนี้สินครัวเรือนชะลอตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เด็กไทยมีระดับสติปัญญา (IQ) เฉลี่ยสูงขึ้น คนไทยมีอายุยืนยาวขึ้น แต่ต้องให้ความสำคัญกับการป้องกันโรคไม่ติดต่อมากขึ้น ค่าใช้จ่ายในการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ลดลง คดีอาญาโดยรวม ยาเสพติดลดลง การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ยังคงมุ่งมั่นแก้ปัญหาการค้ามนุษย์อย่างจริงจังต่อไป การร้องเรียนสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น การสร้างสภาพแวดล้อมสีเขียวด้วยการใช้พลังงานสะอาด พบว่ามีการใช้พลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเปิดพื้นที่การเรียนรู้ : การศึกษาเพื่อพัฒนาความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์กับ “โรงเรียนมีชัยพัฒนา” หรือโรงเรียนไม้ไผ่ จังหวัดบุรีรัมย์ และ (๒) บทความเรื่อง “ดัชนีความก้าวหน้าของคน ปี ๒๕๖๐ : เครื่องมือวัดความก้าวหน้าของคนในระดับจังหวัด” ซึ่งภาพรวมของประเทศ การพัฒนาคนด้านที่อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อมมีความก้าวหน้ามากที่สุด แต่ด้านการศึกษาก้าวหน้าน้อยที่สุด โดยในระดับภาค ภาคกลางมีความก้าวหน้ามากที่สุด ส่วนภาคใต้มีความก้าวหน้าน้อยที่สุด ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16891 | รายงานกิจการประจำปี งบดุล บัญชีกำไรและขาดทุนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2560 | กค | 26/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานกิจการประจำปี งบดุล บัญชีกำไรและขาดทุนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๐ ที่ผ่านการตรวจสอบและรับรองจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน และได้รับอนุมัติจากที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16892 | แจ้งผลคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ อ.123/2557 คดีหมายเลขแดงที่ อ.719/2560 ระหว่างสมาคมเครื่องปั้นดินเผาลำปาง ฟ้องนายกรัฐมนตรี ที่ 1 กับพวกรวม 4 คน ต่อศาลปกครองสูงสุด เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนตามศาลปกครองชั้นต้นให้ยกฟ้องคดี | อส | 26/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ อ.๑๒๓/๒๕๕๗ คดีหมายเลขแดงที่ อ.๗๑๙/๒๕๖๐ ระหว่างสมาคมเครื่องปั้นดินเผาลำปาง ผู้ฟ้องคดี นายกรัฐมนตรี ที่ ๑ กับพวกรวม ๔ คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนตามศาลปกครองชั้นต้นให้ยกฟ้องคดี ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16893 | รายงานกิจการประจำปี งบดุล บัญชีกำไรและขาดทุนของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2559 | กค | 26/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานกิจการประจำปี งบดุล บัญชีกำไรและขาดทุนของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ ที่ผ่านการตรวจสอบและรับรองจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินและได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16894 | รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2558 | คค | 26/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบรับรองงบการเงินแล้วมีความเห็นว่า งบการเงินดังกล่าวแสดงฐานะการเงินของกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ ผลการดำเนินงาน และกระแสเงินสด สำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกัน โดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังประกาศใช้ สำหรับรายงานการประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินมีข้อเสนอแนะด้านการดำเนินงานการบริหารแผนงบประมาณ การใช้จ่ายเงินตามแผนงานหรือโครงการ และการใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อทรัพย์สิน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป รวมทั้งให้กระทรวงคมนาคมจัดส่งรายงานในเรื่องนี้ไปลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดดำเนินการเพื่อนำเสนอรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๙ ต่อคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16895 | แผนการใช้จ่ายเงินกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (แผนพัฒนาและส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ) ปีงบประมาณ 2561 | พณ | 26/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอแผนการใช้จ่ายเงินกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ปีงบประมาณ ๒๕๖๑ (แผนพัฒนาและส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ) จำนวน ๒๑๓ โครงการ วงเงินทั้งสิ้น ๑,๐๓๔.๒๙ ล้านบาท จากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวม ๙ หน่วยงาน ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ครั้งที่ ๒/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๐ มีมติอนุมัติแล้ว ดังนี้
๑. ยุทธศาสตร์การเร่งรัดทำการตลาดเชิงกลยุทธ์และผลักดันการส่งออก จำนวน ๑๘ โครงการ วงเงินรวม ๒๑๘.๐๘ ล้านบาท โดยมีกลยุทธ์สำคัญ ๓ ด้าน คือ (๑) การขยายส่วนแบ่งตลาดในตลาดหลักสำคัญให้เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน (๒) การพัฒนาตลาดใหม่และกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ และ (๓) การผลักดันการค้าผ่านช่องทางตลาดและช่องทางกระจายสินค้ารูปแบบใหม่ ผลักดันการส่งออกโดยใช้การตลาดนำการผลิต (Demand-Driven) และการกำหนดกลยุทธ์ในเชิงลึกลงถึงระดับเมือง (city-focus) ๒. ยุทธศาสตร์การเจรจาเชิงรุกเพื่อเปิดตลาด จำนวน ๑๒๗ โครงการ วงเงินรวม ๑๖.๗๕ ล้านบาท ได้แก่ การประชุมเจรจาเชิงรุก และการปกป้องผลประโยชน์ และการแก้ไขอุปสรรคทางการค้า ๓. ยุทธศาสตร์การเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าระหว่างประเทศ จำนวน ๖๗ โครงการ วงเงินรวม ๗๔๙.๔๖ ล้านบาท เช่น การผลักดันคลัสเตอร์เป้าหมายสำคัญ การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการการค้าระหว่างประเทศของไทย การพัฒนาส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มและการสร้างภาพลักษณ์และส่งเสริมการสร้างแบรนด์สินค้าและบริการ (Innovation, Value Creation & Branding) และการพัฒนาองค์กรสู่อนาคต ๔. แผนงานตามนโยบายและมาตรการเร่งด่วน จำนวน ๑ โครงการ วงเงินรวม ๕๐ ล้านบาท
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16896 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2560 (เพิ่มเติม) และครั้งที่ 2/2560 | ทส | 26/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ ๑/๒๕๖๐ (เพิ่มเติม) และครั้งที่ ๒/๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๖๐ ได้พิจารณาเรื่องเชิงนโยบายที่สำคัญและได้ข้อยุติแล้ว โดยยังคงมีเรื่องที่มีความจำเป็นต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบเพิ่มเติมอีก ๕ เรื่อง ได้แก่ (๑) ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในท้องที่ตำบลบางปะกง ตำบลท่าข้าม ตำบลสองคลอง อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา และท้องที่ตำบลคลองตำหรุ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... และร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ ระเบียบปฏิบัติ และแนวทางในการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (IEE) และรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ในท้องที่ดังกล่าวข้างต้น พ.ศ. .... (๒) ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่ตำบลปากคลอง ตำบลชุมโค ตำบลบางสน และตำบลสะพลี อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร พ.ศ. .... (๓) โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (๔) โครงการทำเหมืองแร่ชนิดแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน ชนิดแร่หินอุตสาหกรรมชนิดดินดาน และชนิดแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูนของห้างหุ้นส่วนจำกัด อุดมศิลา คำขอต่ออายุประทานบัตรที่ ๓/๒๕๕๗ ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาวง อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี และ (๕) โครงการทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน และหินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน คำขอต่ออายุประทานบัตรที่ ๗/๒๕๕๗ ของบริษัทชีวิลเอนจีเนียริง จำกัด ตั้งอยู่ที่ตำบลหน้าพระลาน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี ๒. มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ ๒/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๐ จำนวน ๑๔ เรื่อง เช่น (๑) รายงานการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการในรายงาน EIA โครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต : การปรับปรุง Runway Strip, RESA และทางขับขนานท่าอากาศยานภูเก็ต ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (๒) รายงานผลการดำเนินงานตามมติคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ ๔/๒๕๕๙ เรื่อง โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน-นครราชสีมา ของกรมทางหลวง (๓) โครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ส่วนต่อขยายช่วงศิริราช-ตลิ่งชัน และบ้านฉิมพลี-ศาลายา ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (๔) โครงการอาคารศูนย์บริการทางการแพทย์หริภุญไชยของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (๕) การปรับปรุงมาตรฐานก๊าซคาร์บอนไดซัลไฟด์ในบรรยากาศโดยทั่วไป และ (๖) ร่างนโยบายและแผนการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๗๙ เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16897 | รายงานสถานการณ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและการกัดเซาะชายฝั่งของประเทศ ปี พ.ศ. 2558 - 2559 | ทส | 26/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและการกัดเซาะชายฝั่งของประเทศ ปี พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๕๙ โดยมีเนื้อหาครอบคลุมเรื่องต่าง ๆ ๒ ส่วน ประกอบด้วย ส่วนที่ ๑ สถานการณ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และส่วนที่ ๒ สถานการณ์การกัดเซาะชายฝั่ง ซึ่งคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติได้มีมติในคราวประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๐ รับทราบรายงานดังกล่าวแล้ว ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16898 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. .... | สว | 26/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป โดยมีผลการดำเนินการ ดังนี้
๑. องค์การมหาชนใดมีความประสงค์ให้มีระเบียบ ข้อบังคับ หรือข้อบัญญัติเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุขึ้นใช้เองทั้งหมดหรือแต่บางส่วน เพื่อให้การดำเนินการยืดหยุ่นและคล่องตัว สามารถขอยกเว้นมายังคณะกรรมการนโยบาย สำหรับการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุของสถาบันอุดมศึกษาที่ได้รับการยกเว้นตามพระราชบัญญัติที่ไม่สามารถดำเนินการได้ขณะนี้ กรมบัญชีกลางอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่สามารถดำเนินการได้ เพื่อนำมากำหนดเป็นหลักเกณฑ์ให้ครอบคลุมทุกสถาบันการศึกษา รวมทั้งหน่วยงานอื่นที่จัดซื้อจัดจ้างในเรื่องดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ ต้องคำนึงถึงความทันต่อเวลาเป็นสำคัญ และการป้องกันการทุจริต ซึ่งรายละเอียดในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างจะกำหนดในระเบียบที่จะออกตามความในพระราชบัญญัตินี้ต่อไป และกำหนดให้มีความยืดหยุ่นของระยะเวลาการดำเนินการในแต่ละขั้นตอนเพื่อให้เกิดความเหมาะสม ๒. การกำหนดให้เจ้าหน้าที่ซึ่งดำรงตำแหน่งที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับพัสดุ ได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษหรือเงินอื่นทำนองเดียวกัน กรมบัญชีกลางพิจารณาร่วมกับสำนักงาน ก.พ. แล้ว เห็นว่า การกำหนดเงินเพิ่มดังกล่าวถือเป็นกรณีที่มีกฎหมายเฉพาะกำหนดในเรื่องดังกล่าว จึงไม่ต้องพิจารณาตามระเบียบ ก.พ. ว่าด้วยเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๒ แต่อย่างใด ๓. ได้จัดทำร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. .... นำเสนอรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาลงนามประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๐ แล้ว และกรณีที่หน่วยงานของรัฐมีการจัดซื้อจัดจ้างสาธารณูปโภคหรือบริการสาธารณะที่เกี่ยวกับหน่วยงานของรัฐนั้น จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายนี้ และกฎหมายอื่นประกอบด้วย เช่น พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้ตรงต่อวัตถุประสงค์ของการใช้งานอันมีผลกระทบต่อประชาชนหรือเพื่อประโยชน์สาธารณะ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16899 | รายงานผลการประกวดราคาค่าก่อสร้าง "โครงการก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ขนาด 400 เตียง ส่วนขยายเพิ่มเติมการให้บริการทางการแพทย์ ระยะที่ 1" | อื่นๆ | 26/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการประกวดราคาค่าก่อสร้างในโครงการก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ขนาด ๔๐๐ เตียง ส่วนขยายเพิ่มเติมการให้บริการทางการแพทย์ ระยะที่ ๑ โดยได้บริษัทเอกชนผู้รับจ้างที่มีคุณสมบัติและรายละเอียดของงานถูกต้องตามเงื่อนไขในเอกสารประกวดราคาจ้างในราคา ๗,๔๙๕.๐๐ ล้านบาท และขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ จากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๒ ไปเป็นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๔ รวมทั้งกำหนดแผนการดำเนินงานการก่อสร้างโครงการก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ขนาด ๔๐๐ เตียง ส่วนขยายฯ โดยจะทำสัญญาภายในเดือนกันยายน ๒๕๖๐ และเริ่มการก่อสร้างในเดือนตุลาคม ๒๕๖๐ ตามที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16900 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน และร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเข้าใช้อสังหาริมทรัพย์เพื่อกิจการขนส่งมวลชน เป็นกรณีที่มีความจำเป็นและเร่งด่วน รวม 6 ฉบับ (โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย -มีนบุรี รวม 2 ฉบับ) | คค | 26/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี รวม ๖ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์และการเข้าใช้อสังหาริมทรัพย์เพื่อกิจการขนส่งมวลชนตามโครงการสร้างทางรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง และโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจวางเงินค่าทดแทนและเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนเพื่อดำเนินกิจการขนส่งมวลชนตามโครงการดังกล่าวได้ทันตามแผนงานที่กำหนดไว้ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่อำเภอเมืองนนทบุรี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี และเขตหลักสี่ เขตบางเขน เขตบึงกุ่ม เขตคันนายาว เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ๒. ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเข้าใช้อสังหาริมทรัพย์เพื่อกิจการขนส่งมวลชน ในท้องที่อำเภอเมืองนนทบุรี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี และเขตหลักสี่ เขตบางเขน เขตบึงกุ่ม เขตคันนายาว เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร เป็นกรณีที่มีความจำเป็นและเร่งด่วน ๓. ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่เขตจตุจักร เขตห้วยขวาง เขตวังทองหลาง เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตประเวศ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร และอำเภอบางพลี อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ๔. ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเข้าใช้อสังหาริมทรัพย์เพื่อกิจการขนส่งมวลชน ในท้องที่เขตจตุจักร เขตห้วยขวาง เขตวังทองหลาง เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตประเวศ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร และอำเภอบางพลี อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นและเร่งด่วน ๕. ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่เขตห้วยขวาง เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตสะพานสูง และเขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ๖. ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเข้าใช้อสังหาริมทรัพย์เพื่อกิจการขนส่งมวลชน ในท้องที่เขตห้วยขวาง เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตสะพานสูง และเขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร เป็นกรณีที่มีความจำเป็นและเร่งด่วน
|