ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 8 จากทั้งหมด 6218 หน้า แสดงรายการที่ 141 - 160 จากข้อมูลทั้งหมด 124359 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 141 | รายงานผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการภายใต้นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 | ยธ. | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 142 | การประชุมระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 31 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และผลการประชุมระดับผู้นำ ครั้งที่ 16 แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) | นร.11 สศช | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 143 | คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี รวม 3 ฉบับ (คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 278/2568–280/2568) | นร.04 | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี
รวม ๓ ฉบับ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ ๑. คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๒๗๘/๒๕๖๘ เรื่อง
มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี
ลงวันที่ ๒ กันยายน ๒๕๖๘ ๒. คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๒๗๙/๒๕๖๘ เรื่อง
มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ
และมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ
รองประธานกรรมการ และกรรมการ ในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย
และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๒ กันยายน ๒๕๖๘
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 144 | ร่างปฏิญญาบาหลีว่าด้วยข้อริเริ่มทางวัฒนธรรม พ.ศ. 2568 (Bali Initiative Culture Declaration 2025) | วธ. | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 145 | การขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับสนับสนุนค่าชดเชยปฏิบัติการฉุกเฉิน | สธ. | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๒๐๕,๗๑๙,๔๐๐ บาท
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนค่าชดเชยปฏิบัติการฉุกเฉิน
โดยเบิกจ่ายในงบรายจ่ายอื่น ตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ)
เสนอ ให้กระทรวงสาธารณสุข
(สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ที่ นร ๐๗๑๒/๘๔๕๓ ลงวันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๘)
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงบประมาณ เห็นว่าวงเงินที่ขออนุมัติเกินกว่าหนึ่งร้อยล้านบาท
ให้สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติดำเนินการนำเรื่องดังกล่าวเสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรี
โดยเสนอผ่านรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีเจ้าสังกัดหรือรัฐมนตรีที่กำกับดูแล
แล้วแต่กรณี ตามนัยระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่าย งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๙ (๓)
และเมื่อได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้ว ขอให้กองทุนการแพทย์ฉุกเฉิน
โดยสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติจัดทำแผนการปฏิบัติการและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรจัดทำแผนการจัดสรรงบประมาณ
โดยพิจารณาจากข้อมูลสถานการณ์การเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน เพื่อให้การจัดสรรงบประมาณเพียงพอต่อการบริหารจัดการการแพทย์ฉุกเฉินอย่างมีประสิทธิภาพ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 146 | ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตทำการประมงพื้นบ้าน พ.ศ. .... | กษ. | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตทำการประมงพื้นบ้าน
พ.ศ .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตให้ทำการประมงพื้นบ้าน
พ.ศ. ๒๕๕๙ และปรับปรุงหลักเกณฑ์การพิจารณาออกใบอนุญาต การโอนใบอนุญาต
รวมทั้งหลักเกณฑ์การแก้ไขรายการในใบอนุญาตให้เหมาะสมกับวิถีการทำการประมงพื้นบ้านในปัจจุบัน
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่เห็นว่ากรณีทำการประมงพื้นบ้านในเขตอุทยานแห่งชาติ
ภายใต้โครงการอนุรักษ์และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ตามมาตรา ๖๕ แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๒ ต้องเป็นผู้ได้รับอนุญาต
ตามระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่าด้วยการเก็บหาหรือการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติที่สามารถเกิดใหม่ทดแทนได้ตามฤดูกาลในเขตพื้นที่โครงการอนุรักษ์และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน
พ.ศ. ๒๕๖๗ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นว่ากรมประมงควรสร้างการรับรู้ให้แก่เกษตรกรและเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้มีความรู้ความเข้าใจในขั้นตอนแนวปฏิบัติภายใต้ร่างกฎกระทรวงดังกล่าว
เพื่อให้การขออนุญาตและการอนุญาตทำการประมงพื้นบ้านเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเมื่อกฎกระทรวงมีผลใช้บังคับ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 147 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่นักเรียนและฟื้นฟูสถานศึกษา/หน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม | ศธ. | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวนทั้งสิ้น ๑๙๒,๐๐๕,๙๑๕ บาท
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูสถานศึกษา/หน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย
วาตภัยและดินโคลนถล่ม จำนวน ๙๕๘ รายการ ในพื้นที่ ๕๑ จังหวัด โดยเบิกจ่ายในงบลงทุนค่าครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้าง
๙๕๔ รายการ จำนวน ๑๘๘,๙๗๖,๙๐๐ บาท
และงบเงินอุดหนุน ประเภทเงินอุดหนุนทั่วไป
รายการค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
(ค่าเครื่องแบบนักเรียนและค่าอุปกรณ์การเรียน) จำนวน ๓,๐๒๙,๐๑๕ บาท ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๑๐/๘๘๘๐ ลงวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๖๘) ที่เห็นว่าวงเงินที่ขออนุมัติเกินกว่าหนึ่งร้อยล้านบาท
ให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการนำเรื่องดังกล่าวเสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรี โดยเสนอผ่านรองนายกรัฐมนตรี
รัฐมนตรีเจ้าสังกัด หรือรัฐมนตรีที่กำกับดูแล แล้วแต่กรณี
ตามนัยระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง การเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๙ (๓) และเมื่อได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้ว ให้กระทรวงศึกษาธิการจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอน
ไปดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 148 | ร่างพระราชบัญญัติการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สกท. | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบตามที่เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาชี้แจงว่า ร่างพระราชบัญญัติการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย
(ฉบับที่..) พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเสนอ
เป็นเรื่องที่มีความจำเป็นเพื่อรักษาความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ
ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๘ [เรื่อง
แนวทางการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี
กรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
มาตรา ๑๗๐ (๔)] คณะรัฐมนตรีจึงสามารถพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวได้ ๒.
อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย
พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยกำหนดให้คณะกรรมการนโยบายเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย
มีอำนาจให้สิทธิและประโยชน์ในรูปแบบเครดิตภาษีและกำหนดกลไกในการคืนเครดิตภาษีที่เหลืออยู่ในรูปแบบเงินสดภายในระยะเวลาที่กำหนดนับจากวันที่กำหนด
รวมถึงขอรับจัดสรรงบประมาณที่จำเป็นและเพียงพอสำหรับการจ่ายคืนเครดิตภาษีที่เหลืออยู่ดังกล่าว
ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับแนวทางการบรรเทาผลกระทบจากมาตรการจัดเก็บภาษีส่วนเพิ่มเพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศไทยเสียโอกาสในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ
รวมทั้งเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายต่อไป ตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วนโดยให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณ
ที่เห็นว่าการเพิ่มเติมเกี่ยวกับร่างมาตรา ๙ ที่กำหนดให้เพิ่มความเป็นวรรคสามของมาตรา
๒๙ ในกรณีที่กองทุนฯ
มีจำนวนเงินไม่เพียงพอเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อเป็นไปตามวัตถุประสงค์และค่าภาระต่าง ๆ
ให้รัฐจัดสรรงบประมาณแผ่นดินเข้าสมทบเท่าจำนวนที่จำเป็นนั้น เห็นว่ากองทุนฯ สามารถขอรับการจัดสรรเงินอุดหนุนจากรัฐบาลได้อยู่แล้วตามมาตรา
๒๙ (๒) จึงไม่มีความจำเป็นต้องกำหนดความตามร่างมาตรา ๙ แต่อย่างใด ๓. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง
กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเสนอ ๔.
ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรม
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงอุตสาหกรรม เห็นว่า การจัดสรรงบประมาณให้กับกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย
สำหรับการจ่ายคืนเครดิตภาษีที่เหลืออยู่ในรูปแบบเงินสด ควรเน้นการพิจารณาถึงความคุ้มค่าในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะยาวเป็นสำคัญ
และให้การดำเนินการเป็นไปตามหลักการของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 149 | คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 277/2568 | นร.04 | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่
๒๗๗/๒๕๖๘ เรื่อง มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีและมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี
ในกรณีที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้หรือไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง ลงวันที่ ๒ กันยายน ๒๕๖๘
ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 150 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ทส. | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้วาฬหลังค่อม (Megaptera novaeangliae) วาฬเบลนวิลล์ (Mesoplodon
densirostris) และโลมาริสโซ (Grampus griseus)
เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองเพิ่มเติมจากที่กำหนดไว้ตามกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิด
เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ. ๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ ที่เห็นควรพิจารณาแจ้งเรื่องการเพิ่มสถานะความคุ้มครองสัตว์ป่าตามกฎหมายของประเทศไทยให้แก่สัตว์ทั้ง
๓ ชนิดพันธุ์ข้างต้น ให้ภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์
(Convention on International Trade in Endangered
Species of Wild Fauna and Flora :
CITES) ได้รับทราบ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในการป้องกันการลักลอบค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย
ทั้งยังเป็นการแสดงบทบาทที่แข็งขันของประเทศไทยในเวทีระหว่างประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 151 | ร่างแถลงการณ์ร่วมอาเซียนว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สำหรับการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 30 (ASEAN Joint Statement on Climate Change to UNFCCC COP 30) | ทส. | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 152 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับรายการเงินอุดหนุนสำหรับสนับสนุนอาหารกลางวัน ระดับประถมศึกษา และเงินอุดหนุนสำหรับสนับสนุนอาหารเสริม (นม) | มท. | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น งบประมาณทั้งสิ้น
๑,๖๗๔,๗๓๐,๑๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับรายการเงินอุดหนุนสำหรับสนับสนุนอาหารกลางวัน
ระดับประถมศึกษา และเงินอุดหนุนสำหรับสนับสนุนอาหารเสริม
(นม) ให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาลนคร
เทศบาลเมือง เทศบาลตำบล และกรุงเทพมหานคร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ (หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุดที่ นร ๐๗๑๔/๗๘๗๘ ลงวันที่ ๕
สิงหาคม ๒๕๖๘)
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการคลัง เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณให้ทันภายในปีงบประมาณ
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นว่ากระทรวงมหาดไทยควรเร่งรัดดำเนินการตามแผนบริหารจัดการโครงการให้อยู่ในกรอบระยะเวลาการภาคเรียนที่
๑ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๘ ซึ่งจะสิ้นสุดในห้วงเดือนกันยายนนี้ เพื่อให้นักเรียนกลุ่มเป้าหมายได้รับการสนับสนุนอาหารกลางวันและอาหารเสริม
(นม) อย่างครบถ้วนโดยคำนึงถึงการตรวจสอบข้อมูลจำนวนนักเรียนให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน
ตลอดจนการใช้งบประมาณอย่างรัดกุมและมีประสิทธิภาพ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 153 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นเงินอุดหนุนโครงการอาหารเสริม (นม) | ศธ. | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๑๕๑,๗๓๐,๔๐๐ บาท
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการอาหารเสริม (นม)
โดยให้เบิกจ่ายในงบเงินอุดหนุน ประเภทเงินอุดหนุนทั่วไป ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ (หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๑๐/๖๗๘๙ ลงวันที่ ๑
กรกฎาคม ๒๕๖๘)
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงการคลัง เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นว่ากระทรวงศึกษาธิการควรเร่งรัดดำเนินการตามแผนบริหารจัดการโครงการเพื่อให้นักเรียนในโรงเรียนเอกชนได้รับจัดสรรนมโรงเรียนครบตามมาตรฐาน
โดยคำนึงถึงการตรวจสอบข้อมูลจำนวนนักเรียนให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน
ตลอดจนการใช้งบประมาณอย่างรัดกุมและมีประสิทธิภาพ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 154 | สรุปผลการตรวจราชการของผู้ตรวจราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 รอบที่ 1 | นร.01 | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการตรวจราชการของผู้ตรวจราชการประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ รอบที่ ๑ (ระหว่างวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ - ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๘) ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
มีสาระสำคัญ เช่น ๑.
การป้องกันและแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
พบว่า บางจังหวัดยังขาดแนวทางการติดตามผลการดำเนินการตามแผนการลดก๊าซเรือนกระจกในระดับจังหวัด
จึงมีข้อเสนอแนะ เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
[องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน)]
และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมควรจัดทำแพลตฟอร์มรายงานผลส่วนกลางและแจ้งให้จังหวัดนำไปใช้ในการติดตามและประเมินผลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อเป็นข้อมูลภาพรวมของจังหวัด ๒. การขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ พบว่า
การดำเนินงาน ยังไม่ต่อเนื่องและซ้ำซ้อน
โดยอาจมีสาเหตุมาจากแผนการดำเนินงานระหว่างหน่วยงานไม่มีความชัดเจน
จึงมีข้อเสนอแนะเห็นควรให้ สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์
และการสร้างความสามัคคีปรองดอง
ในฐานะหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์เร่งรัดการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนนโยบายในระดับประเทศให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ควบคู่ไปกับการกำหนดแนวปฏิบัติในระดับพื้นที่ ๓. การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด
และบุหรี่ไฟฟ้า พบว่า การดำเนินนโยบายแก้ไขปัญหายาเสพติดในจังหวัดต้นแบบนำร่อง
๑๐ จังหวัด ยังขาดแคลนชุดตรวจสารเสพติดและงบประมาณในการดำเนินงาน
และสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ขาดแคลนบุคลากรดำเนินงาน จึงมีข้อเสนอแนะให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
(สำนักงาน ป.ป.ส.) เร่งรัดดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างชุดตรวจสารเสพติดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
รวมทั้ง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงาน ป.ป.ส.
ควรบูรณาการร่วมกันเพื่อพัฒนาระบบการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 155 | การขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าเงินเดือนและสวัสดิการของบุคลากรที่บรรจุใหม่ในสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566-2568 | มท. | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น งบประมาณทั้งสิ้น
๕๗๓,๗๕๘,๕๖๙ บาท จัดสรรให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดเพื่อเป็นเงินเดือนและสวัสดิการของบุคลากรของสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ
๖๐ พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ -
๒๕๖๘ จำนวน ๕๕ จังหวัด ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุข
สำนักงบประมาณ (หนังสือสำนักงบประมาณที่ นร ๐๗๑๔/๖๗๙๐ ลงวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๘)
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงสาธารณสุข เห็นว่าการจัดสรรงบประมาณดังกล่าว
มีความจำเป็นและเป็นไปตามสิทธิสวัสดิการที่บุคลากรซึ่งถ่ายโอนตามภารกิจข้างต้น
ควรได้รับตามระเบียบกฎหมายอันจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและเสริมสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ
สอดคล้องตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๖๒ หมวด ๑ ข้อ ๕ (๔)
เป็นรายจ่ายที่ไม่ได้รับจัดสรรงบประมาณแต่มีภารกิจจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ
และให้เป็นไปตามระเบียบตามนัยข้างต้น โดยเฉพาะหมวด ๔ การรายงาน
เพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอนและระเบียบอย่างเคร่งครัด สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นว่าเพื่อป้องกันปัญหาการขาดแคลนงบประมาณในระยะถัดไปและไม่ให้กระทบต่อการใช้จ่ายงบประมาณของประเทศในภาพรวม
กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรเตรียมแผนการจัดสรรงบประมาณเพื่อรองรับการถ่ายโอนการกิจดังกล่าวอย่างรอบคอบและเหมาะสม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 156 | ขออนุมัติการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่าย งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในการจ่ายเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 | พม. | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
ในการจ่ายเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ จำนวน ๒๐๙,๐๓๐,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด
ที่จะได้รับเงินต่อเนื่องในเดือนกันยายน ๒๕๖๘
ตามที่นายกรัฐมนตรีเห็นชอบให้กรมกิจการเด็กและเยาวชนใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ แล้ว ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ และให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับความเห็นของสำนักงบประมาณ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๑๒/๘๓๔๔ ลงวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๘) ที่เห็นควรให้กรมกิจการเด็กและเยาวชนตรวจสอบข้อมูลผู้มาลงทะเบียนให้ถูกต้อง
และกำกับดูแลการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดให้เป็นไปตามระเบียบ หลักเกณฑ์
วิธีการ และคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ ตลอดจนกำหนดให้มีกลไกการติดตามตรวจสอบการใช้เงินอุดหนุนดังกล่าวที่ชัดเจน
โปร่งใส เป็นรูปธรรม ตามวัตถุประสงค์ของโครงการอย่างเคร่งครัด ไปดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 157 | ข้อเสนอการปรับปรุงโครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ | นร.12 | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบข้อเสนอการปรับปรุงโครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่
ประกอบด้วย (๑) หลักการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ (นปร.) (๒)
วัตถุประสงค์ในการพัฒนา นปร. (๓) สมรรถนะหลักของ นปร. (๔)
การคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการพัฒนา นปร. (๕) สถานภาพผู้เข้าร่วมโครงการพัฒนา นปร.
(๖) แนวทางการพัฒนาผู้เข้าร่วมโครงการพัฒนา นปร. (๗) การประเมินผลและการจัดสรร และ
(๘) การออกจากโครงการพัฒนา นปร. การออกจากราชการ และการชดใช้ทุน ตามที่คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการเสนอ ให้คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ สำนักงาน ก.พ.ร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงการคลัง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงยุติธรรม
กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงาน
ก.พ. ในฐานะฝ่ายเลขานุการร่วมคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ รวมทั้งข้อเสนอแนะของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และกระทรวงศึกษาธิการไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
เห็นควรพิจารณาการจัดตั้งศูนย์สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงภาครัฐ (Gov Change Center) เพื่อทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้กับผู้ผ่านโครงการ
ให้คำปรึกษาเชิงเทคนิคและติดตามประเมินผลการดำเนินโครงการหลังสิ้นสุดหลักสูตร รวมทั้งพิจารณาจัดสรรนักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่
ไปยังหน่วยงานของรัฐในรูปแบบอื่น ๆ และในการจัดสรรนักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ไปปฏิบัติราชการ
ณ ส่วนราชการต่าง ๆ นั้น
ควรให้มีการประสานการดำเนินการอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่ประสงค์จะรับนักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ไปปฏิบัติราชการ
เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการปฏิบัติงานในหน่วยงานผู้รับได้ทันที
เมื่อสำเร็จการฝึกอบรมจากโครงการ กระทรวงสาธารณสุข เห็นว่าประเด็นสถานภาพผู้เข้าร่วมโครงการฯ
กรณีข้าราชการที่กำหนดไว้เพียงว่า “ระหว่างการเข้าร่วมโครงการฯ ให้เป็นข้าราชการช่วยราชการสำนักงาน
ก.พ.ร.” ควรปรับเงื่อนไขให้มีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น และควรมีสิ่งจูงใจด้านความก้าวหน้าในสายอาชีพข้าราชการภายหลังเข้าร่วมโครงการ
เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนองค์การต่อไป รวมถึงการจัดสรร นปร.
ประเภทบุคคลทั่วไป และให้ส่วนราชการมีส่วนร่วมในการพิจารณาคัดเลือก นปร.
ที่จบตามระยะเวลาโครงการฯ เข้ามาปฏิบัติงานในส่วนราชการ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 158 | รายงานผลการดำเนินงาน ฐานะทางการเงิน และงบการเงินของกองทุนบริหารเงินกู้เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 | กค. | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงาน ฐานะทางการเงิน และงบการเงินที่ผู้สอบบัญชีรับรองแล้ว
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
ของกองทุนบริหารเงินกู้เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศ
(กปพ.) มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้ ๑) ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๕
- ๒๕๖๗ กปพ. บริหารเงินที่ใด้รับจากการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะ วงเงินรวม
๑,๖๖๕,๖๒๖ ล้านบาท และได้รับผลตอบแทนเพื่อให้กระทรวงการคลังนำไปสมทบการชำระหนี้
จำนวน ๑๑,๓๖๘ ล้านบาท และ ๒) รายงานฐานะทางการเงินและงบการเงินของ
กปพ. สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๗ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะทางการเงิน
และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้ว เห็นว่ารายงานการเงินดังกล่าวถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 159 | การเสนอความเห็นของคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนในการขอจัดตั้งกองทุนภูมิอากาศตามร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. .. | กค. | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 160 | ร่างกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. .... | นร.09 | 02/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมลงนามและประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
