ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 2 จากทั้งหมด 6218 หน้า แสดงรายการที่ 21 - 40 จากข้อมูลทั้งหมด 124359 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 21 | ผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ครั้งที่ 4/2568 | นร.08 | 14/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส
ยกเว้นอำเภอยี่งอ อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน จังหวัดปัตตานี
ยกเว้นอำเภอยะหริ่ง อำเภอปะนาเระ อำเภอมายอ อำเภอไม้แก่น อำเภอทุ่งยางแดง
อำเภอกะพ้อ และอำเภอแม่ลาน และจังหวัดยะลา ยกเว้นอำเภอเบตง อำเภอยะหา อำเภอรามัน
อำเภอกาบัง และอำเภอกรงปินัง ออกไปอีก ๓ เดือน ตั้งแต่วันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๘
ถึงวันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๖๙ ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ ๒. เห็นชอบและรับทราบร่างประกาศ ดังนี้ ๒.๑
เห็นชอบร่างประกาศ เรื่อง
การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส
ยกเว้นอำเภอยี่งอ อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน จังหวัดปัตตานี
ยกเว้นอำเภอยะหริ่ง อำเภอปะนาเระ อำเภอมายอ อำเภอไม้แก่น อำเภอทุ่งยางแดง
อำเภอกะพ้อ และอำเภอแม่ลาน และจังหวัดยะลา ยกเว้นอำเภอเบตง อำเภอยะหา อำเภอรามัน
อำเภอกาบัง และอำเภอกรงปินัง และร่างประกาศ เรื่อง
การให้ประกาศที่คณะรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงยังคงมีผลใช้บังคับ ๒.๒
รับทราบร่างประกาศ เรื่อง
การให้ประกาศและคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงยังคงมีผลใช้บังคับ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 22 | ร่างถ้อยแถลงร่วมสำหรับโครงการบูรณาการด้านไฟฟ้าระหว่าง สปป.ลาว ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ฉบับที่ 6 | พน. | 14/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 23 | แนวทางการประชุมร่วมกันของรัฐสภา วันอังคารที่ 14 - วันพุธที่ 15 ตุลาคม 2568 และแนวทางการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม 2568 | ปสส. | 14/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบ
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ ๑. แนวทางการประชุมร่วมกันของรัฐสภาเกี่ยวกับระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา
ครั้งที่ ๒ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ วันอังคารที่ ๑๔
ตุลาคม ๒๕๖๘ และวันพุธที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๘ ๒. แนวทางการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเกี่ยวกับระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๓๑ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ
วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๘
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 24 | ขอความเห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนในเมืองหลวง (World Capital Marathon Series) รายการ Amazing Thailand Marathon Bangkok ประจำปี 2568-2570 (3 ปี) | กก. | 14/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการกรอบวงเงินงบประมาณค่าลิขสิทธิ์และค่าภาษีที่เกี่ยวข้อง
ในการเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนในเมืองหลวง (World Capital Marathon Series) รายการ Amazing
Thailand Marathon Bangkok ประจำปี ๒๕๖๘ - ๒๕๗๐ (๓ ปี) วงเงิน ๒๖๐,๕๗๖,๔๐๐ บาท ประกอบด้วย ค่าลิขสิทธิ์ จำนวน ๖,๐๐๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ หรือปีละ ๒,๐๐๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ และค่าภาษีที่เกี่ยวข้อง
โดยให้การกีฬาแห่งประเทศไทยนำเงินรายได้จากผู้สนับสนุน รายได้จากค่าสมัคร
รายได้จากการขายของที่ระลึก และรายได้จากบูธแสดงสินค้า เงินกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ
และเงินสะสมการกีฬาแห่งประเทศไทย
หรือพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ หรือโอนเงินจัดสรร
ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาสมทบค่าลิขสิทธิ์และค่าภาษีในโอกาสแรกก่อน หากไม่เพียงพอให้เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
ตามความเหมาะสมและเป็นไปตามขั้นตอนของระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๖๒ และจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณที่ครอบคลุมทุกแหล่งเงิน
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้
ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและการกีฬาแห่งประเทศไทยรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการคลัง เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินงบประมาณจากทุกแหล่งเงินให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งควรมีมาตรการบรรเทาผลกระทบจากการแข่งขันที่มีต่อชุมชนตามเส้นทางการแข่งขัน
และประเมินผลการจัดการแข่งขันดังกล่าวให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรจัดเตรียมความพร้อมในการดำเนินงานให้เป็นไปตามมาตรฐานของสมาคมกรีฑาโลก
(World Athletics) โดยยึดหลักการใช้งบประมาณอย่างเหมาะสม
คุ้มค่า โปร่งใส และตรวจสอบได้
ตลอดจนบูรณาการกิจกรรมท่องเที่ยวควบคู่กับการจัดการแข่งขัน
เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคม และวางแผนการสื่อสารสาธารณะเชิงรุกอย่างเป็นระบบและใช้ช่องทางการสื่อสารที่หลากหลายเพื่อสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการจัดการแข่งขันฯ
รวมทั้งสามารถใช้การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพในการขยายผลเชิงบวกต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยได้ในระดับสากล
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 25 | ขอความเห็นชอบต่อร่างเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมระดับรัฐมนตรีของกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ครั้งที่ 19 | กต. | 14/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 26 | การประชุมระดับรัฐมนตรีเอเปคด้านการปฏิรูปโครงสร้าง ครั้งที่ 4 | นร.11 สศช | 14/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 27 | ร่างแถลงการณ์ร่วมสำหรับการประชุมระดับรัฐมนตรีกลุ่มพันธมิตรเอเชียเพื่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (เอเซค) ครั้งที่ 3 | พน. | 14/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 28 | แนวทางการจัดทำงบประมาณและปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 | นร.07 | 14/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทางการจัดทำงบประมาณและปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๗๐ เพื่อให้หน่วยรับงบประมาณใช้เป็นแนวทางประกอบการวางแผนการดำเนินงานและกำหนดแผนการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับการดำเนินงานของรัฐบาล
ตามนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๖๘
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
และพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ.
๒๕๖๒ ตลอดจนมติคณะรัฐมนตรีและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
ทั้งนี้ ให้สำนักงบประมาณรับไปพิจารณาปรับปรุงกรอบระยะเวลาในการดำเนินการตามขั้นตอนและกิจกรรมต่าง
ๆ ตามปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๗๐ ดังกล่าว ให้เหมาะสมและมีความกระชับมากยิ่งขึ้น
เพื่อให้สามารถนำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๗๐ ประกาศใช้ได้ทันในวันเริ่มปีงบประมาณฯ
(๑ ตุลาคม ๒๕๖๙) ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 29 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณสำหรับรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 | นร.07 | 14/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้ ๑. อนุมัติให้หน่วยรับงบประมาณก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
รายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการใหม่
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙ จำนวน ๑,๙๑๗ รายการ เป็นวงเงินภาระผูกพัน รวมทั้งสิ้น ๓๔๙,๖๕๖.๔๐
ล้านบาท สำหรับรายการที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ ๑,๐๐๐
ล้านบาทขึ้นไป จำนวน ๔๔ รายการ วงเงิน ๑๑๗,๗๐๐.๒๐ ล้านบาท เมื่อทราบผลประกวดราคาแล้ว
ให้หน่วยรับงบประมาณนำเสนอนายกรัฐมนตรีทราบอีกครั้งหนึ่งก่อนดำเนินการต่อไป ๒.
อนุมัติให้หน่วยรับงบประมาณที่ไม่สามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๖๘ (เรื่อง ปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
และมาตรการอื่นที่เกี่ยวข้อง) สามารถดำเนินการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณตามที่เสนอได้ ๓.
รายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่จะต้องจ่ายในรูปของเงินตราต่างประเทศ เช่น
รายการค่าเช่าบ้าน ค่าเช่าอาคารสำนักงาน ค่าเช่าทรัพย์สินในต่างประเทศ
และค่าครุภัณฑ์ ให้สำนักงบประมาณพิจารณาอนุมัติวงเงินผูกพันที่เปลี่ยนแปลงไปจากที่ได้รับอนุมัติเนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยน
ในกรณีที่หน่วยรับงบประมาณสามารถปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณได้โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบอีกครั้ง
ทั้งนี้ ปัจจุบันอัตราแลกเปลี่ยนมีความเหมาะสม หน่วยรับงบประมาณที่มีรายการที่ต้องชำระเป็นสกุลเงินตราต่างประเทศ
ควรพิจารณาเร่งรัดดำเนินการใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าวเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อราชการ ๔. เพื่อเป็นการเร่งรัดให้หน่วยรับงบประมาณใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพัน
สำหรับรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่เป็นรายจ่ายลงทุนลักษณะค่าครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้างรายการใหม่
ให้หน่วยรับงบประมาณจัดส่งราคากลาง คุณลักษณะเฉพาะ แบบรูปรายการสิ่งก่อสร้าง และรายละเอียดประกอบที่เกี่ยวข้อง
ให้สำนักงบประมาณพิจารณาความเหมาะสมของราคาควบคู่ไปกับการดำเนินกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง
และเมื่อได้ผลจัดซื้อจัดจ้างแล้ว หากไม่เกินวงเงินที่สำนักงบประมาณให้ความเห็นชอบ
ให้แจ้งสำนักงบประมาณทราบและดำเนินการทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันต่อไปได้ ทั้งนี้
ขอให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดกำกับดูแลและเร่งรัดการดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๙ และติดตามผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ให้สำนักงบประมาณรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นควรเร่งรัดให้หน่วยรับงบประมาณใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพันสำหรับรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่เป็นรายจ่ายลงทุนลักษณะค่าครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้างรายการใหม่
โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัด
กำกับดูแลและเร่งรัดการดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙ และติดตามผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ที่เห็นว่าในการอนุมัติการก่อหนี้ผูกพันใหม่ในแต่ละปีงบประมาณ
เมื่อรวมกับภาระผูกพันเดิมที่กำหนดไว้ก่อนแล้วทุกกรณี
จะต้องพิจารณายอดภาระงบประมาณที่จะผูกพันให้สอดคล้องกับฐานะทางการคลังของประเทศในแต่ละช่วงเวลา
เพื่อลดภาระงบประมาณในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป และเตรียมงบประมาณไว้สำหรับรองรับรายจ่ายลงทุนรายการใหม่
ๆ ที่จำเป็นต่อการพัฒนาประเทศในระยะถัดไป
โดยคำนึงถึงการสร้างสมดุลระหว่างการลงทุนเพื่ออนาคต การรักษาเสถียรภาพและความยืดหยุ่นทางการคลัง
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 30 | คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี คำสั่ง นร ที่ 328/2568 | นร.04 | 14/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๓๒๘/๒๕๖๘ เรื่อง
แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ
และมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ
รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย
และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๘ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 31 | แนวทางปฏิบัติในการดำเนินการร่างอนุบัญญัติที่อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหรือคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี หรือที่ตรวจพิจารณาเสร็จแล้ว | นร.05 | 14/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทางปฏิบัติในการดำเนินการร่างอนุบัญญัติที่อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี
หรือที่ตรวจพิจารณาเสร็จแล้ว ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ และให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติต่อไป
ดังนี้ ๑.
กรณีร่างอนุบัญญัติที่อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหรือคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี
ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหรือคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาต่อไป
เว้นแต่รัฐมนตรีเจ้าของเรื่องได้แจ้งให้ระงับการดำเนินการภายใน ๓๐
วันนับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติในเรื่องนี้ไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหรือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีซึ่งเป็นฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี
แล้วแต่กรณี และเมื่อสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหรือคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเสร็จแล้ว
ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปได้ โดยไม่ต้องนำเรื่องมาเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ๒.
กรณีร่างอนุบัญญัติที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหรือคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเสร็จแล้วก่อนมีแนวทางปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องนี้
(ขั้นตอนการลงนาม) แบ่งเป็น ๒.๑
กรณีอยู่ระหว่างการดำเนินการของหน่วยงานเจ้าของเรื่อง
หากรัฐมนตรีเจ้าของเรื่องประสงค์จะดำเนินการต่อไป
ให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ไปตามขั้นตอน
เพื่อให้ร่างอนุบัญญัติดังกล่าวประกาศใช้บังคับได้ต่อไป และ ๒.๒
กรณีเรื่องที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปได้
เช่น กรณีร่างอนุบัญญัติที่เป็นกฎกระทรวง ระเบียบ ประกาศ หรือข้อบังคับ
ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งเรื่องให้รัฐมนตรีเจ้าของเรื่องเพื่อพิจารณาลงนามต่อไป
หากเป็นร่างพระราชกฤษฎีกา
ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งรัฐมนตรีเจ้าของเรื่องเพื่อยืนยันร่างพระราชกฤษฎีกาที่ตรวจพิจารณาแล้ว
ก่อนสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป ๓. ภายใต้การดำเนินการตามข้อ ๑ และข้อ ๒ นั้น หากร่างอนุบัญญัติเป็นเรื่องนโยบายสำคัญหรือเมื่อสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหรือคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาร่างอนุบัญญัติเสร็จแล้วและมีการแก้ไขเพิ่มเติมร่างอนุบัญญัติดังกล่าวในสาระสำคัญ
ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งหน่วยงานเจ้าของเรื่องเพื่อยืนยันร่างอนุบัญญัติที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหรือคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเสร็จแล้ว
ก่อนนำเสนอร่างอนุบัญญัติดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 32 | ปรับปรุงการมอบหมายผู้มีอำนาจกำกับแผนงานบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 | นร.07 | 14/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 33 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พ.ศ. 2568 (ค.ศ. 2025) และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 พ.ศ. 2568 (ค.ศ. 2025) | กก. | 14/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๑๓/๑๒๕ ลงวันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๘) ที่เห็นควรให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผน
แนวทาง กลยุทธ์ และเป้าหมายในการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ สังคม
และองค์ความรู้อย่างเป็นรูปธรรม และเมื่อดำเนินการบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว ให้การกีฬาแห่งประเทศไทยรายงานผลการใช้จ่ายงบประมาณสำหรับการจัดงานในครั้งนี้ให้สำนักงบประมาณทราบด้วย
ทั้งนี้ เนื่องจากวงเงินที่ขออนุมัติเกินว่าหนึ่งร้อยล้านบาท
ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการกีฬาแห่งประเทศไทยดำเนินการนำเรื่องดังกล่าวเสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรี
โดยเสนอผ่านรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีเจ้าสังกัดหรือรัฐมนตรีที่กำกับดูแล
แล้วแต่กรณี ตามนัยระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๙ (๓) และเมื่อได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้ว
ให้การกีฬาแห่งประเทศไทยจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
พร้อมรายละเอียดประกอบ เพื่อขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้
ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลังและข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการคลัง เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุมและกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งควรมีการประเมินผลการจัดการแข่งขันดังกล่าวให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรเร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์การจัดการแข่งขันให้เป็นที่ทราบโดยทั่วไปอย่างกว้างขวาง
โดยอาศัยช่องทางการประชาสัมพันธ์ที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ง่าย
มีความน่าเชื่อถือ
และมีอิทธิพลทางความคิดต่อการตัดสินใจเพื่อเป็นการกระตุ้นให้มีการเดินทางเข้ามาชมการแข่งขันกีฬามากขึ้น
และดำเนินการตรวจสอบและติดตามความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมในการจัดการแข่งขันฯ อย่างต่อเนื่อง
พร้อมจัดทำแผนสำรอง (contingency plan) ในกรณีที่การเตรียมความพร้อมบางส่วนสำหรับการจัดการแข่งขันฯ
ไม่แล้วเสร็จตามกำหนด เพื่อไม่ให้กระทบต่อกำหนดการแข่งขันและภาพลักษณ์การเป็นเจ้าภาพที่ดีของประเทศไทย ๒. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและการกีฬาแห่งประเทศไทยเร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์การเป็นเจ้าภาพและความพร้อมในด้านต่าง
ๆ ในการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ ๓๓ พ.ศ. ๒๕๖๘ (ค.ศ. ๒๐๒๕) และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์
ครั้งที่ ๑๓ พ.ศ. ๒๕๖๘ (ค.ศ. ๒๐๒๕) ให้ทราบกันอย่างแพร่หลายและทั่วถึงทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ทั้งนี้ ให้ใช้โอกาสนี้ประชาสัมพันธ์เผยแพร่แหล่งท่องเที่ยวและสถานที่ต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศควบคู่ไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 34 | การช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยที่ต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัยหรือพื้นที่ประสบภัย | นร.05 | 14/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่
๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๘ (เรื่อง ขอความเห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยอันเนื่องมาจากการกระทำของกองกำลังจากนอกประเทศ
ปี ๒๕๖๘ เพื่อเป็นค่าเยียวยาความเดือดร้อนของประชาชนและขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น)
เห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยอันเนื่องมาจากการกระทำของกองกำลังจากนอกประเทศ
โดยกำหนดเงื่อนไขประการหนึ่งว่า
กรณีที่ผู้ประสบภัยต้องอพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว/พื้นที่ปลอดภัยหลายครั้งให้ได้รับความช่วยเหลือเพียงครั้งเดียว
นั้น เนื่องด้วยสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาจนถึงปัจจุบัน มีแนวโน้มที่ประชาชนอาจจะได้รับผลกระทบและจำเป็นต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัยหลายครั้ง
จึงขอมอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์) รับเรื่องนี้ไปกำกับ
ติดตาม และสั่งการให้กระทรวงมหาดไทย (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย)
เร่งหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เพื่อพิจารณากำหนดมาตรการ/แนวทางในการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนผู้ประสบภัยในกรณีที่ต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัยหรือพื้นที่ประสบภัยหลายครั้ง
ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นดังกล่าว ทั้งนี้
หากจำเป็นต้องขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๘ ข้างต้น
ก็ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งดำเนินการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีโดยด่วน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 35 | ร่างแถลงการณ์ร่วมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค ประจำปี 2568 | กค. | 14/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 36 | ขออนุมัติต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางรวีวรรณ ภูริเดช) | สคทช | 14/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของ
นางรวีวรรณ ภูริเดช ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี
ซึ่งได้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวครบ ๔ ปี เมื่อวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๖๘ ต่อไปอีก ๑ ปี
(ครั้งที่ ๑) ตั้งแต่วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๘ ถึงวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๖๙
ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายโสภณ ซารัมย์) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 37 | การขอขยายระยะเวลาตามมาตรา 167 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 | ตช. | 14/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาตามมาตรา ๑๖๗
แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๕ ออกไปอีก ๑ ปี ตั้งแต่วันที่ ๑๗ ตุลาคม
๒๕๖๘ ตามที่คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติเสนอ ๒.
ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงาน
ก.พ.ร. ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ดังนี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นควรที่คณะรัฐมนตรีจะได้กำชับให้มีการดำเนินการตามมาตรา
๑๖๕ แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวโดยเร็วด้วย เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายที่มุ่งหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติถ่ายโอนภารกิจที่หน่วยงานอื่นรับผิดชอบอยู่แล้วไปให้หน่วยงานนั้นดำเนินการ
อันจะทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติปฏิบัติภารกิจหลักได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สำนักงาน ก.พ.ร. เห็นว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติควรเร่งรัดการดำเนินการปรับโครงสร้างและอัตรากำลังของกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(บก.ปทส.) และการเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาถ่ายโอนหน้าที่และอำนาจเกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ให้แก่หน่วยงานที่รับผิดชอบตามกฎหมาย พ.ศ. .... ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ตามมาตรา ๑๖๕ แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๕
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 38 | นายกรัฐมนตรีลากิจในวันที่ 7 ตุลาคม 2568 | นร.05 | 14/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งว่า
นายกรัฐมนตรีได้ลากิจในวันอังคารที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๘ ตั้งแต่เวลา ๑๓.๓๐ - ๑๕.๓๐ น. ซึ่งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้จัดทำหนังสือเวียนแจ้งให้รัฐมนตรีทุกท่านทราบแล้ว ทั้งนี้
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๕๕ ข้อ ๔๑
กำหนดให้การลาทุกประเภทของนายกรัฐมนตรี ให้อยู่ในดุลพินิจของนายกรัฐมนตรี
และแจ้งให้คณะรัฐมนตรีทราบ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 39 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์) | พณ. | 14/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์
เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๑๔ ตุลาคม ๒๕๖๘)เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 40 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายรัชพงศ์ ชูแก้ว) | คค. | 14/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายรัชพงศ์ ชูแก้ว เป็นข้าราชการการเมือง
ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๑๔ ตุลาคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
