ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 7 จากทั้งหมด 6234 หน้า แสดงรายการที่ 121 - 140 จากข้อมูลทั้งหมด 124674 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 121 | โครงการพัฒนาความรู้ทักษะ (Upskill) หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ (Reskill) สำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส | กค. | 18/11/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการฯ และกรอบวงเงินงบประมาณจำนวนไม่เกิน ๘๐๐ ล้านบาท
โดยมอบหมายกระทรวงการคลังโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)
กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในรายละเอียดที่ไม่ขัดกับหลักการโครงการฯ
และหลักการโครงการคนละครึ่ง พลัส เพื่อให้การดำเนินโครงการฯ และโครงการคนละครึ่ง
พลัส เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเกิดประสิทธิภาพ และอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๙ งบกลาง รายการ เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวนไม่เกิน
๘๐๐ ล้านบาท โดยจัดสรรให้แก่ สศค. สำหรับการดำเนินโครงการฯ โดยมอบหมายธนาคารออมสินและกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
กระทรวงพาณิชย์ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณ (หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด
ที่ นร ๐๗๐๖/๘๕๑ ลงวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๘) ที่เห็นควรให้กระทรวงการคลังกำหนดมาตรการและกลไกในการควบคุมตรวจสอบการดำเนินโครงการฯ
ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
รวมทั้งจัดให้มีระบบในการติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และความคุ้มค่าของโครงการฯ
และรายงานคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ
เพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำนโยบายด้านเศรษฐกิจในโอกาสต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 122 | การกำหนดเขตเศรษฐกิจพิเศษอื่นให้เป็นพื้นที่จัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศและการกำหนดหลักเกณฑ์ รูปแบบ วิธีการ และเงื่อนไขในการดำเนินการจัดการศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศ | อว. | 18/11/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบการกำหนดเขตเศรษฐกิจพิเศษอื่นให้เป็นพื้นที่จัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศ
ตามข้อ ๑ (๒) แห่งคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๒๙/๒๕๖๐ เรื่อง
การส่งเสริมการจัดการศึกษาโดยสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศ ได้แก่ ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ
ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคกลาง-ตะวันตก
และระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ และเห็นชอบการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗
ตุลาคม ๒๕๖๐ เรื่อง ขอความเห็นชอบหลักเกณฑ์ รูปแบบ วิธีการ
และเงื่อนไขในการดำเนินการจัดการศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศ
เฉพาะข้อ ๑ ของมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว และรับทราบแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินการจัดการศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศตามข้อเสนอโครงการขับเคลื่อนอุดมศึกษาสู่การเป็นศูนย์กลางการศึกษาระดับอุดมศึกษาระดับภูมิภาค
(Regional Higher Education Hub) ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอเพิ่มเติม โดยขอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบกำหนดพื้นที่จัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศ
เพิ่มเติมอีก ๒ จังหวัด ได้แก่ พื้นที่จังหวัดสงขลาและปทุมธานี
เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพและมีความพร้อมทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐานและด้านวิชาการที่สามารถเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนความร่วมมือและยกระดับคุณภาพด้านการอุดมศึกษาของประเทศให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลต่อไปได้ ๒. ให้คณะกรรมการพัฒนาการจัดการศึกษาโดยสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศ
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงาน ก.พ. ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย เช่น กระทรวงอุตสาหกรรม เห็นควรจัดทำข้อตกลงกับสถาบันจากต่างประเทศที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาในประเทศไทยให้พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนที่ครอบคลุมทั้งการพัฒนาทักษะความรู้เฉพาะทาง
เช่น วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ คณิตศาสตร์ (STEM) ทักษะใหม่ เช่น ทักษะสีเขียว (Green
skills) และทักษะความสามารถเชิงสมรรถนะ (Soft skills) เช่น การสื่อสาร การคิดวิเคราะห์ การทำงานเป็นทีม การวางแผนแก้ไขปัญหา
การสร้างสรรค์นวัตกรรม รวมถึงการสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต
(Life Long Learning) อันจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพการศึกษาและขีดความสามารถของประเทศ
การสร้างทักษะความสามารถของกำลังคนที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และสอดคล้องกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมในแต่ละพื้นที่
ตลอดจนการพัฒนาประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการศึกษาระดับอุดมศึกษาของภูมิภาคอาเซียนในอนาคต สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ที่เป็นการจัดการศึกษาตามสาขาวิชาที่สอดคล้องกับเป้าหมายเฉพาะของแต่ละระเบียงเศรษฐกิจ
เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานและเป็นการส่งเสริมการจัดการศึกษาในเรื่องที่สถาบันอุดมศึกษาของไทยยังไม่พร้อมหรือมีศักยภาพที่เพียงพอและสอดคล้องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายของพื้นที่เศรษฐกิจแต่ละภาค
กำหนดแนวทางกำกับดูแลและตรวจสอบมาตรฐานการศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศอย่างเป็นระบบและโปร่งใส
เพื่อให้สามารถควบคุมคุณภาพและประเมินผลการดำเนินงานของสถาบันอุดมศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และสร้างความรับรู้เกี่ยวกับสถาบันอุดมศึกษาฯ ในวงกว้าง
เพื่อส่งเสริมความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
โดยเฉพาะในเรื่องการฝึกงานและการจ้างงานของนักศึกษา |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 123 | ขอเชิญชวนสวดมนต์ข้ามปีเพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และเพื่อเป็นสิริมงคลเนื่องในโอกาสส่งท้ายปีเก่า 2568 และต้อนรับปีใหม่ 2569 | นร. | 18/11/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี
(นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ) แจ้งว่า นายกรัฐมนตรีปรารภว่า
เพื่อเป็นการน้อมถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง รวมทั้งเป็นการเสริมสิริมงคลแก่ปวงชนชาวไทย ในโอกาสส่งท้ายปีเก่า
๒๕๖๘ และต้อนรับปีใหม่ ๒๕๖๙ จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมดำเนินการ ดังต่อไปนี้ ๑.
ขอเชิญชวนประชาชนทุกหมู่เหล่าที่นับถือศาสนาพุทธร่วมถือศีล ๕ ในวันที่ ๓๑ ธันวาคม
๒๕๖๘ และวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๙ รวมทั้งร่วมพิธีสวดมนต์ข้ามปีในคืนวันที่ ๓๑ ธันวาคม
๒๕๖๘ ด้วย ๒. ขอความร่วมมือให้มหาเถรสมาคมพิจารณาอนุญาตให้วัดต่าง
ๆ ทั่วประเทศตามที่เห็นสมควร จัดพิธีสวดมนต์ข้ามปีในคืนวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๘
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 124 | ขอผ่อนผันการใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ 1 บี 1 เอเอ็ม และ 1 บีเอ็ม เพื่อทำเหมืองแร่ของบริษัท ปูนซีเมนต์ไทย (แก่งคอย) จำกัด ที่จังหวัดสระบุรี | อก. | 18/11/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 125 | การขายข้าวให้กับสาธารณรัฐประชาชนจีน | นร.04 | 18/11/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่สาธารณรัฐประชาชนจีนได้แสดงความประสงค์รับซื้อข้าวจากประเทศไทย
ประมาณ ๕ แสนตัน นั้น จึงขอมอบหมายการดำเนินการ ดังนี้ ๑. ให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดทำข้อตกลงในรายละเอียดเกี่ยวกับการส่งมอบข้าวแก่ฝ่ายจีนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 126 | ข้อมูลเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูงและประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ | นร.10 | 18/11/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 127 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ (1. ศาสตราจารย์บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ ฯลฯ รวม 6 คน) | ศธ. | 11/11/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 128 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (1. นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ฯลฯ รวม 13 คน) | มท. | 11/11/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 129 | ผลการพิจารณา เรื่อง ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร | วธ. | 11/11/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณา เรื่อง
ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์
.... ของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
โดยสรุปผลการพิจารณาที่สำคัญ เช่น ๑)
การรับฟังความคิดเห็นในการประกาศกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
กรรมการผู้แทนชาติพันธุ์ และกรรมการผู้แทนองค์กรพัฒนาเอกชน
โดยกระทรวงวัฒนธรรมและศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดทำประกาศรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมว่าด้วยเรื่อง
หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ โดยจะนำข้อสังเกตของสภาผู้แทนราษฎร
เป็นข้อมูลประกอบการจัดทำประกาศต่อไป และจะรับข้อสังเกตของวุฒิสภาไปจัดทำระเบียบหรือข้อบังคับของคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ให้มีความเหมาะสม
ป้องกันไม่ให้เกิดการละเมิดในสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของกลุ่มชาติพันธุ์ และ
๒) การทบทวนปรับปรุงกฎหมายและนโยบายที่เกี่ยวข้อง
โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเห็นว่าในอนาคตจะพิจารณาปรับปรุงพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๖๒ และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๖๒
โดยใส่หลักการของพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ พ.ศ.
๒๕๖๘ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติเห็นควรให้มีการจัดทำแผนที่แนบท้ายเพื่อกำกับขอบเขตพื้นที่คุ้มครองสำหรับการประกาศพื้นที่คุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์
โดยให้คำนึงมาตราส่วนแผนที่แต่ละหน่วยงานใช้ให้มีความสอดคล้องกัน และควรให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบแผนที่แนบท้ายดังกล่าวด้วย
ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 130 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ปัญหาและแนวทางการแก้ไขแบบยั่งยืนเกี่ยวกับการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ ของคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนสภาผู้แทนราษฎร | สผ. | 11/11/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง ปัญหาและแนวทางการแก้ไขแบบยั่งยืนเกี่ยวกับการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ
ของคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
ดังนี้ (๑)
การแก้ไขปรับปรุงกฎหมายและเสนอร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงานได้ใช้กลไกตามกฎหมาย
โดยการออกกฎหมายลำดับรองเพื่อออกประกาศหรือคำสั่งให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เช่น
กระทรวงแรงงานอาศัยอำนาจตามมาตรา ๑๔ แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว
พ.ศ ๒๕๖๐
ออกประกาศผ่อนผันแรงงานต่างด้าวเพื่อให้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายปรับสถานะเข้าสู่ระบบอย่างต่อเนื่อง
(๒) การปรับปรุงกลไกและโครงสร้างการบริหารจัดการประชากรผู้โยกย้ายถิ่นฐานไม่ปกติ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พัฒนากลไกการดำเนินงานตามภารกิจของแต่ละหน่วยงานภายใต้กรอบอำนาจตามกฎหมายเฉพาะด้านนั้น
ๆ แบ่งออกเป็น ๔ กลุ่ม ได้แก่ ๑) กลไกด้านการคัดกรองและควบคุมความมั่นคง ๒)
กลไกด้านการให้บริการและสิทธิเบื้องต้น ๓) กลไกด้านทะเบียนและการจ้างงาน และ ๔)
กลไกการบริหารความมั่นคงชายแดนระดับจังหวัด (๓)
การเข้าถึงเอกสารแสดงตนสำหรับประชากรผู้โยกย้ายถิ่นฐานไม่ปกติสามารถจำแนกตามระดับการเข้าถึงเอกสารได้
๓ กลุ่ม ได้แก่ ๑) กลุ่มที่ได้รับการขึ้นทะเบียนและมีเอกสารรับรองชั่วคราว เช่น
บัตรประจำตัวบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน ซึ่งออกโดยกรมการปกครอง ๒)
กลุ่มที่อยู่ระหว่างการคัดกรองสถานะ และ ๓) กลุ่มที่ไม่มีเอกสารแสดงตนใด ๆ
(ผู้โยกย้ายถิ่นฐานผิดกฎหมายหรือยังไม่เข้าสู่ระบบของรัฐ) และ (๔) การเข้าถึงสิทธิและบริการขั้นพื้นฐานสำหรับประชากรผู้โยกย้ายถิ่นฐานไม่ปกติ
เช่น ด้านสาธารณสุข ด้านการศึกษา ด้านการคุ้มครองทางสังคม ด้านแรงงาน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป ๒. ให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติจัดตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อศึกษาและพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการกำหนดแนวทางหรือนโยบายในการแก้ไขปัญหาในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการการกฎหมาย
การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร
และตามข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 131 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ และนายวุฒิกร สติฐิต) | นร.04 | 11/11/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี
จำนวน ๒ ราย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้ง
ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบด้วยแล้ว ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ ๑. นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ๒. นายวุฒิกร สติฐิต
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 132 | การปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐ | ดศ. | 11/11/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐ
โดยมีหน้าที่และอำนาจคงเดิม ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๑
พฤศจิกายน ๒๕๖๘) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 133 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคารสำนักงานอัยการจังหวัดสิงห์บุรี พร้อมบ้านพักและสิ่งก่อสร้างประกอบ | อส. | 11/11/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 134 | การให้บริการประชาชนในการเข้าถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง | นร. | 11/11/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า เพื่อให้การให้บริการและช่วยเหลือดูแลประชาชนในการเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
เป็นไปด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อยและเหมาะสม จึงขอมอบหมายการดำเนินการ ดังนี้ ๑. ขอความร่วมมือให้ส่วนราชการ/หน่วยงานของรัฐ
เป็นเจ้าภาพจัดเตรียมอาหารสำหรับบริการประชาชน จำนวน ๓,๐๐๐ ชุดต่อวัน ระหว่างเวลา ๑๖.๐๐ - ๒๐.๐๐ น. ณ
ท้องสนามหลวง ตั้งแต่วันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๘ ถึงวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๙
ทั้งนี้ ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นหน่วยงานในการประสานรายละเอียดกับแต่ละส่วนราชการ/หน่วยงานของรัฐเกี่ยวกับกำหนดวันเป็นเจ้าภาพและการจัดอาหารให้เหมาะสมและไม่ซ้ำซ้อนกันต่อไป ๒.
ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีดำเนินการจัดผลัดเวรเพื่อทำหน้าที่จิตอาสาภาครัฐสนับสนุนภารกิจของศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน
(ศอญ.) ในการดูแลประชาชน ณ ท้องสนามหลวง ตั้งแต่วันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๘
เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 135 | ขอความเห็นชอบการต่ออายุบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งออสเตรเลียว่าด้วยยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ (MoU SECA) | พณ. | 11/11/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 136 | การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวที่มีสถานะไม่ถูกต้องตามกฎหมาย สำหรับคนต่างด้าว 3 สัญชาติ (ลาว เมียนมา และเวียดนาม) | รง. | 11/11/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวที่มีสถานะไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
สำหรับคนต่างด้าว ๓ สัญชาติ (ลาว เมียนมา และเวียดนาม) และร่างประกาศ จำนวน ๒ ฉบับ
เพื่อเป็นการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานและตอบสนองความต้องการแรงงานของนายจ้าง/สถานประกอบการ
ทั้งภาคการผลิตและภาคการบริการ และส่งเสริมให้นายจ้าง/สถานประกอบการที่ยังคงมีความต้องการจ้างแรงงานปฏิบัติตามกฎ
ระเบียบ และคนต่างด้าวทุกกลุ่มได้รับการจ้างงานโดยถูกต้องตามกฎหมาย
ได้รับความคุ้มครอง และสิทธิประโยชน์ตามสิทธิที่พึงได้รับ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ๒. อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรื่องการอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติลาว
เมียนมา และเวียดนามตามติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ... ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. เห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติลาว เมียนมา และเวียดนาม ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ...
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 137 | ขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เรื่อง การชะลอการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างหรือเช่าใช้บริการระบบคลาวด์ (Cloud) | ดศ. | 11/11/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๘ เรื่อง
การชะลอการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างหรือเช่าใช้บริการระบบคลาวด์ (Cloud) ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
ดังนี้ ๑. ขอผ่อนผันให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่มีการจัดตั้งงบประมาณประจำปี
พ.ศ. ๒๕๖๘ เพื่อจัดซื้อจัดจ้างหรือเช่าใช้บริการระบบคลาวด์ (Cloud) ไว้แล้ว
แต่ยังมิได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง หรือที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งกระทรวงการคลังได้อนุมัติให้ขยายเวลาเบิกจ่ายงบประมาณแล้ว
ในระบบ New GFMIS Thai ต่อไปได้อีกไม่เกินหกเดือน
ตามหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการขอกันเงินงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๖๘
ไว้เบิกเหลื่อมปีสามารถดำเนินการต่อไปได้ ๒. ขอผ่อนผันให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ
ที่มีการจัดตั้งงบประมาณประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๙ เพื่อจัดซื้อจัดจ้างหรือเช่าใช้บริการระบบคลาวด์
(Cloud) ไว้แล้ว
แต่ยังมิได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างหรือที่อยู่ระหว่างการดำเนินการสามารถดำเนินการต่อไปได้
ทั้งนี้
ให้หน่วยงานภาครัฐนำข้อกำหนดมาตรฐานและเงื่อนไขสำหรับผู้ให้บริการระบบคลาวด์ตามมติคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ครั้งที่ ๒/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๗ ไปประกอบการดำเนินการไปพลางก่อน
จนกว่าจะมีข้อกำหนดมาตรฐานและเงื่อนไขสำหรับผู้ให้บริการระบบคลาวด์ฉบับใหม่
และต้องเชื่อมโยงระบบคลาวด์กับระบบบริหารจัดการคลาวด์กลาง (Cloud
Management Platforms) ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้ ๓. การจัดซื้อจัดจ้างหรือเช่าใช้บริการระบบคลาวด์ (Cloud) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๗๐ ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการกำหนดแนวทางจัดหาบริการคลาวด์ที่เหมาะสม
ให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๘
เพื่อการบูรณาการโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล (National Cloud) ของประเทศไทย ในรูปแบบการจัดหาแบบรวมศูนย์ (Centralized) ตามมติคณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลครั้งที่ ๑/๒๕๖๘ เมื่อวันที่ ๒๑
กรกฎาคม ๒๕๖๘ หรือแบบผสมผสาน (Hybrid) และนำเสนอคณะรัฐมนตรีโดยเร็วต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงบประมาณ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมทั้งข้อเสนอแนะของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นควรเร่งพิจารณากำหนดแนวทางการจัดหาบริการระบบคลาวด์ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
โดยต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือคำสั่งที่เกี่ยวข้องด้วย เพื่อมิให้เกิดผลกระทบกับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานของรัฐในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๗๐ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 138 | การติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและการให้ความช่วยเหลือดูแลประชาชน | นร. | 11/11/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง
อันเนื่องมาจากอิทธิพลของพายุคัลแมกี (KALMAEGI) ส่งผลให้กรมชลประทานต้องเร่งระบายน้ำจากเขื่อนหลัก ๆ เช่น เขื่อนภูมิพล
เขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นมากและจะไหลลงมายังพื้นที่ภาคกลางและกรุงเทพมหานคร
ดังนั้น การบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจึงจำเป็นต้องผันน้ำออกทั้งทางฝั่งตะวันตกและตะวันออกของแม่น้ำ
ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่เกษตรกรรมและบ้านเรือนของประชาชนตลอดแนวแม่น้ำดังกล่าว
จึงขอมอบหมายการดำเนินการ ดังนี้ ๑. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) ประสานความร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
กระทรวงมหาดไทย (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและจังหวัด)
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด รวมทั้งให้เร่งดำเนินการแจ้งเตือนภัยและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมดังกล่าวได้รับทราบข่าวสารล่วงหน้าอย่างรวดเร็วและชัดเจน
เพื่อให้มีเวลาเตรียมตัวและขนย้ายสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นออกจากพื้นที่ได้ทันการณ์
ทั้งนี้ ให้เร่งรัดการดำเนินการให้ความช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูความเสียหายแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยเร็วด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 139 | พิจารณาอนุมัติค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในภาพรวมสำหรับข้าราชการตำรวจที่ไปปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการบริหารคนที่ 9 (Executive Director) ของสำนักเลขาธิการตำรวจอาเซียน | ตช. | 11/11/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 140 | กรอบวงเงินงบประมาณด้านการอุดมศึกษาในความรับผิดชอบของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมและระบบการจัดสรรและบริหารงบประมาณแบบบูรณาการที่มุ่งผลสัมฤทธิ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 และกรอบวงเงินงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 | อว. | 11/11/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
