ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 4 จากทั้งหมด 6218 หน้า แสดงรายการที่ 61 - 80 จากข้อมูลทั้งหมด 124359 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 61 | ร่างพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. .... | นร.05 | 07/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง
พ.ศ. .... ซึ่งเป็นการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามมาตรา ๑๒๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ซึ่งบัญญัติให้ในปีหนึ่งให้มีสมัยประชุมสามัญของรัฐสภาสองสมัย ๆ หนึ่ง ให้มีกำหนดเวลา
๑๒๐ วัน การปิดประชุมให้กระทำโดยพระราชกฤษฎีกา บัดนี้ ตามที่ได้มีการตราพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง
พ.ศ. ๒๕๖๘ ตั้งแต่วันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๖๘ นั้น จะสิ้นกำหนดเวลา ๑๒๐ วัน
ตามสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่งในวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๘ สมควรที่จะกำหนดให้ปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง
ตั้งแต่วันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๘ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 62 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับดำเนินโครงการคนละครึ่ง พลัส | กค. | 07/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวนไม่เกิน ๑๙,๐๐๐ ล้านบาท โดยจัดสรรให้แก่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
สำหรับการดำเนินโครงการคนละครึ่ง พลัส ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้กระทรวงการคลัง (สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง) รับความเห็นของสำนักงบประมาณ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร
๐๗๐๖/๕๖ ลงวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๘) ที่เห็นว่าวงเงินที่ขออนุมัติเกินกว่าหนึ่งร้อยล้านบาทให้กระทรวงการคลังดำเนินการนำเรื่องดังกล่าวเสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรี
โดยเสนอผ่านรองนายกรัฐมนตรีเจ้าสังกัดหรือรัฐมนตรีที่กำกับดูแล แล้วแต่กรณี
ตามนัยระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๙ (๓)
และเมื่อได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้ว ให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอน
ไปดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 63 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2568 | นร.05 | 07/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๘ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่
๒๖ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๒๙
(สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันพุธที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๖๘ และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๓๐ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันพฤหัสบดีที่ ๙
ตุลาคม ๒๕๖๘ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 64 | ร่างกรอบความตกลงว่าด้วยความมั่นคงทางปิโตรเลียมของอาเซียน (ASEAN Framework Agreement on Petroleum Security) | พน. | 07/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างกรอบความตกลงว่าด้วยความมั่นคงทางปิโตรเลียมของอาเซียน
(ASEAN Framework Agreement on Petroleum Security) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
หรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
เป็นผู้ลงนามในร่างกรอบความตกลงฯ โดยมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม
(Full Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โดยร่างความตกลงฯ มีสาระสำคัญเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงทางปิโตรเลียมของประเทศสมาชิกอาเซียน
ผ่านการดำเนินการตามมาตรการระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เช่น (๑) ในช่วงที่ประเทศสมาชิกอาเซียนประสบปัญหาขาดแคลนปิโตรเลียมระดับวิกฤตจะต้องดำเนินมาตรการระยะสั้นเพื่อลดปริมาณความต้องการใช้พลังงานภายในประเทศก่อนที่จะขอความช่วยเหลือ
(๒)
ประเทศสมาชิกอาเซียนจะต้องพยายามจัดหาปิโตรเลียมให้แก่ประเทศสมาชิกที่ประสบปัญหาการขาดแคลนปิโตรเลียมในปริมาณรวมกันให้ได้ร้อยละ
๑๐ ของความต้องการใช้ภายในประเทศ (๓) สำรวจแหล่งหาปิโตรเลียมใหม่ และ (๔)
เปิดเสรีตลาดน้ำมันและก๊าซ เป็นต้น ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างกรอบความตกลงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงพลังงานดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
และให้กระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
ที่เห็นว่าค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นควรให้กระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับจัดสรร
หรือพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ โดยโอนงบประมาณรายจ่าย
โอนเงินจัดสรรหรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร แล้วแต่กรณี
ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตามขั้นตอน ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 65 | ร่างบันทึกความเข้าใจเพิ่มเติมว่าด้วยโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าอาเซียน (Enhanced Memorandum of Understanding on ASEAN Power Grid) | พน. | 07/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างบันทึกความเข้าใจเพิ่มเติมว่าด้วยโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าอาเซียน
(Enhanced Memorandum of Understanding on ASEAN
Power Grid) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
เป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจเพิ่มเติมว่าด้วยโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าอาเซียน
และมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ
มีสาระสำคัญ เช่น การพัฒนาโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าอาเซียน
โดยประเทศสมาชิกจะต้องพัฒนาแผนงานด้านโครงสร้างพื้นฐานและเตรียมการดำเนินงานเพื่อให้โครงข่ายสายส่งไฟฟ้าอาเซียนเริ่มดำเนินการซื้อขายไฟฟ้าแบบพหุภาคีระหว่างรัฐสมาชิกและอำนวยความสะดวกให้เกิดศักยภาพการเข้าถึงการจัดหาเงินทุนต่าง
ๆ เพื่อการศึกษาวิจัย การก่อสร้าง การดำเนินงาน การบำรุงรักษา การขยาย และการพัฒนาเพิ่มเติมของโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าอาเซียน
เป็นต้น ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงพลังงานดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ให้กระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงบประมาณ เห็นว่าค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นให้กระทรวงพลังงาน
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับจัดสรร
หรือพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ โดยโอนงบประมาณรายจ่าย
โอนเงินจัดสรรหรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร แล้วแต่กรณี
ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม หรือจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 66 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์) | พม. | 07/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์
เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๗ ตุลาคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 67 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (1. นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ฯลฯ จำนวน 4 ราย) | ศธ. | 07/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน ๔ ราย
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๗ ตุลาคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ
ดังนี้ ๑. นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ๒. นายชาญวิทย์ มุนิกานนท์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ๓. นางสาวอนงค์นาถ จ่าแก้ว ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 68 | การประชาสัมพันธ์เผยแพร่ผลการดำเนินงานของรัฐบาล | นร. | 07/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ร่วมกันและเป็นการเผยแพร่ผลการดำเนินงานของกระทรวงต่าง
ๆ รวมทั้งผลการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลในภาพรวม
ให้สื่อมวลชนและประชาชนได้ทราบอย่างรวดเร็วและทั่วถึง จึงขอมอบหมายดำเนินการ
ดังนี้ ๑.
ให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐนำเสนอข้อมูลผลการดำเนินงานของหน่วยงานในเรื่องต่าง
ๆ ที่สำคัญ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ ผลสัมฤทธิ์
หรือประโยชน์ที่ประชาชนได้รับที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม โดยให้จัดทำเป็นวีดิทัศน์ที่มีสาระสำคัญที่กระชับ
น่าสนใจ และเข้าใจได้ง่าย มีความยาวไม่เกิน ๓ นาที
เพื่อนำเสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 69 | การแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ | นร.05 | 07/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ
โดยให้เพิ่มรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นกรรมการในคณะกรรมการดังกล่าวด้วย
และให้จัดทำเป็นคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีต่อไป ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
ดังนี้ ๑. นายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการ ๒. รองนายกรัฐมนตรี รองประธานกรรมการ (นายเอกนิติ
นิติทัณฑ์ประภาศ) ๓. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กรรมการ ๔. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กรรมการ ๕. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรรมการ ๖. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรรมการ ๗. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กรรมการ ๘. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล กรรมการ เพื่อเศรษฐกิจและสังคม ๙. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กรรมการ ๑๐. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กรรมการ ๑๑. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กรรมการ ๑๒. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กรรมการ ๑๓. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กรรมการ ๑๔. ปลัดกระทรวงการคลัง กรรมการ ๑๕. ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กรรมการ ๑๖. ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรรมการ ๑๗. ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรรมการ ๑๘. ปลัดกระทรวงคมนาคม กรรมการ ๑๙. ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรรมการ ๒๐ ปลัดกระทรวงพลังงาน กรรมการ ๒๑. ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กรรมการ ๒๒. ปลัดกระทรวงมหาดไทย กรรมการ ๒๓. ปลัดกระทรวงแรงงาน กรรมการ ๒๔. ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กรรมการ ๒๕. เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กรรมการ ๒๖. เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กรรมการ ๒๗. เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการ ๒๘. ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กรรมการ ๒๙. ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กรรมการ ๓๐. เลขาธิการคณะรัฐมนตรี กรรมการ และเลขานุการ ๓๑. ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กรรมการ และผู้ช่วยเลขานุการ ๓๒. รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ กรรมการ และผู้ช่วยเลขานุการ และสังคมแห่งชาติ
ที่ได้รับมอบหมายจากเลขาธิการ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 70 | การตอบกระทู้ถามในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรหรือวุฒิสภา | นร. | 07/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐมนตรีในการตอบกระทู้ถามในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรหรือวุฒิสภาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
จึงขอกำชับให้รัฐมนตรีทุกท่านที่ได้รับมอบหมาย ไปตอบกระทู้ถามในเรื่องต่าง ๆ
ตามกำหนดเวลาที่ได้นัดหมายไว้กับที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรหรือวุฒิสภาทุกครั้งอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้หรือติดราชการสำคัญ
ทำให้ไม่สามารถไปตอบกระทู้ถามด้วยตนเองตามกำหนดเวลาดังกล่าวได้
ให้พิจารณามอบหมายให้รัฐมนตรีท่านอื่นไปตอบกระทู้ถามแทน หรือให้แจ้งขอเลื่อนวันตอบกระทู้ถามไปยังสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรหรือสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา
ตามแต่กรณีให้ชัดเจนล่วงหน้าทุกครั้ง และในกรณีที่คณะรัฐมนตรีเห็นว่า
กระทู้ถามใดเป็นเรื่องที่ยังไม่ควรเปิดเผยเพราะเกี่ยวกับความปลอดภัยหรือประโยชน์สำคัญของแผ่นดิน
รัฐมนตรีย่อมมีสิทธิที่จะไม่ตอบกระทู้ถามดังกล่าว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 71 | แจ้งผลคำพิพากษาศาลปกครองนครศรีธรรมราช ในคดีหมายเลขดำที่ 132/2566 คดีหมายเลขแดงที่ 192/2568 ระหว่าง บริษัท ยูนิวาณิชน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) ผู้ฟ้องคดี อธิบดีกรมป่าไม้ ที่ 1 กับพวกรวม 4 คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร | อส. | 07/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบคำพิพากษาของศาลปกครองนครศรีธรรมราช ในคดีหมายเลขดำที่
๑๓๒/๒๕๖๖ คดี ระหว่าง บริษัท ยูนิวาณิชน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) ผู้ฟ้องคดี
อธิบดีกรมป่าไม้ ที่ ๑ กับพวกรวม ๔ คน ผู้ถูกฟ้องคดี
(คณะรัฐมนตรี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๓) เมื่อวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๖๘ เป็นคดีแดงหมายเลข
๑๙๒/๒๕๖๘ โดยไม่ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาของศาลปกครองนครศรีธรรมราชในส่วนของคณะรัฐมนตรี
(ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๓) ต่อไป ตามความเห็นของสำนักงานคดีปกครองนครศรีธรรมราช
สำนักงานอัยการสูงสุด ๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเร่งปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลปกครองนครศรีธรรมราชให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่คำพิพากษากำหนด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 72 | การจัดกิจกรรมน้อมรำลึกเนื่องใน "วันนวมินทรมหาราช" 13 ตุลาคม 2568 | นร. | 07/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า
วันที่ ๑๓ ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันนวมินทรมหาราช
ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
บรมนาถบพิตร
และถือเป็นวันสำคัญของชาติที่ปวงชนชาวไทยจะได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาประชาราษฎร์มาตลอดระยะเวลากว่า
๗๐ ปี แห่งการครองสิริราชสมบัติ ดังนั้น เนื่องในวันนวมินทรมหาราช ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๘
ที่จะถึงนี้ จึงขอให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐพิจารณาจัดกิจกรรมต่าง ๆ
ตามที่เห็นสมควร ให้สมพระเกียรติและเป็นประโยชน์แก่ประชาชน เพื่อร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและเทิดพระเกียรติพระองค์ท่านเนื่องในโอกาสวันดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 73 | โครงการคนละครึ่ง พลัส | กค. | 07/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติโครงการคนละครึ่ง พลัส (โครงการฯ)
และให้กระทรวงการคลัง [สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)]
เป็นหน่วยงานดำเนินโครงการฯ ภายในกรอบวงเงิน ๔๔,๐๐๐ ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๙ ให้กระทรวงการคลังดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลัง
(สศค.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์
กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และธนาคารแห่งประเทศไทย
รวมทั้งความเห็นและข้อสังเกตของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงคมนาคม เห็นควรให้กระทรวงคลังดำเนินการตามกฎหมาย
กฎ ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ธนาคารแห่งประเทศไทย เห็นควรให้ความสำคัญกับการติดตามและประเมินผลสัมฤทธิ์ของการใช้งบประมาณ
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจต่อไป และควรพิจารณาหารือกับหน่วยงานที่ขับเคลื่อนประเด็นดังกล่าวอยู่แล้ว
เพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ในการพัฒนาทักษะความรู้ทางการเงินแก่ผู้ประกอบการ
และช่วยประหยัดทรัพยากร ๒.
เห็นชอบในหลักการการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ได้รับสิทธิตามโครงการฯ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้กระทรวงการคลัง (กรมสรรพากร) เร่งดำเนินการยกร่างกฎหมายให้แล้วเสร็จ แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีโดยด่วนต่อไป ๓. เห็นชอบให้ สศค.
มอบอำนาจให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทยที่ได้รับมอบหมายเพื่อดำเนินการทางกฎหมายอาญาที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ
แทน สศค.
โดยให้ร่วมกันจัดทำบันทึกข้อตกลงในรายละเอียดเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การมอบอำนาจให้ชัดเจนต่อไป
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำกับ
ติดตาม ตรวจสอบ และดำเนินการทางกฎหมายกับร้านค้าหรือผู้ที่กระทำการทุจริต ฝ่าฝืน
หรือไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ อย่างเคร่งครัด ๔. มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม (กรมการขนส่งทางบก)
กระทรวงพาณิชย์ (กรมการค้าภายใน) กระทรวงมหาดไทย (กรมการปกครอง กรมการพัฒนาชุมชน
และกรุงเทพมหานคร) กระทรวงสาธารณสุข (กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ)
สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่าง
ๆ ในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
รวมทั้งให้ดำเนินการเพิ่มเติมด้วย ดังนี้ ๔.๑
ให้กระทรวงการคลัง (สศค.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาเพิ่มเติมผู้ประกอบการ ร้านค้าภายใต้โครงการฯ
ให้ครอบคลุมถึงวิสาหกิจเพื่อสังคมด้วย ๔.๒ ให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ
โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล พื้นที่ชนบท
และพื้นที่ที่ประชาชนเข้าถึงเทคโนโลยีการสื่อสารได้ยาก
เพื่อให้ประชาชนสามารถลงทะเบียนได้ตามกำหนดระยะเวลาและได้รับสิทธิประโยชน์จากโครงการฯ
อย่างทั่วถึงและครบถ้วน ๔.๓
ให้กระทรวงคมนาคม (การรถไฟแห่งประเทศไทย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ
กรมเจ้าท่า และกรมการขนส่งทางบก)
สนับสนุนข้อมูลของผู้ประกอบการด้านขนส่งสาธารณะและด้านขนส่งมวลชนสาธารณะให้ สศค.
เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาอนุมัติร้านค้าเป็นร้านค้าในโครงการฯ
ให้ถูกต้องและครบถ้วนด้วย ๔.๔
ให้กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำกับ ดูแล และติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าและบริการที่เข้าร่วมโครงการฯ อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าและบริการโดยไม่เป็นธรรม |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 74 | รายงานสรุปข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่อยู่ระหว่างการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง | นร 05 | 07/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับข้อเสนอแนะขององค์กรอิสระ
(คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
และผู้ตรวจการแผ่นดิน) ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการ
และแจ้งผลการพิจารณาให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบโดยด่วน เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 75 | การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยอันเนื่องมาจากการกระทำของกองกำลังจากนอกประเทศ | นร. | 07/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ
(๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๘) เห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไข
และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยอันเนื่องมาจากการกระทำของกองกำลังจากนอกประเทศ ปี ๒๕๖๘
เพื่อเป็นค่าเยียวยาความเดือดร้อนของประชาชน ในพื้นที่ ๗ จังหวัด ได้แก่
จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และตราด
โดยให้ความช่วยเหลือเฉลี่ยครัวเรือนละ ๕,๐๐๐ บาท
ในกรอบวงเงินงบประมาณในการดำเนินการเพื่อการนี้จำนวน ๑,๕๑๕.๙๖๗
ล้านบาท ซึ่งเมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๘ กระทรวงมหาดไทย
(กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) ได้เริ่มจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยรอบแรกแล้ว และจนถึงวันที่
๙ ตุลาคม ๒๕๖๘ คาดว่ากระทรวงมหาดไทย (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) จะสามารถดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ได้ลงทะเบียนไว้แล้วได้เป็นเงินรวมประมาณ
๑,๒๐๐ ล้านบาท และยังเหลือเงินคงค้างอยู่อีกประมาณ ๓๐๐
ล้านบาท ดังนั้น จึงขอมอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์) รับเรื่องนี้ไปกำกับ ติดตาม
และสั่งการให้กระทรวงมหาดไทย (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย)
เร่งรัดดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ลงทะเบียนไว้ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
รวมทั้งกำชับให้ทุกจังหวัดที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจ ตรวจสอบ และประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่อาจยังไม่ได้ลงทะเบียนขอรับเงินช่วยเหลือ
มาลงทะเบียนเพิ่มเติมให้ครบถ้วน
เพื่อขอรับเงินช่วยเหลือดังกล่าวตามหลักเกณฑ์และกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้โดยเร็วต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 76 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (ว่าที่ร้อยตรี ศรัณย์ สมานพันธ์) | นร.04 | 07/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง ว่าที่ร้อยตรี ศรัณย์ สมานพันธ์
เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง [รองนายกรัฐมนตรี
(นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ)] โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๗ ตุลาคม
๒๕๖๘) เป็นต้นไป ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบแล้ว
ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 77 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายศุภชัย ใจสมุทร) | ยธ. | 07/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายศุภชัย ใจสมุทร เป็นข้าราชการการเมือง
ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๗ ตุลาคม ๒๕๖๘)เป็นต้น ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 78 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงศึกษาธิการ) | ศธ. | 07/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรีชุดเดิม
ของกระทรวงศึกษาธิการ จำนวน ๑๕ คณะ คงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๘ เป็นต้นไป ดังนี้ ๑. คณะกรรมการกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ ๒.
คณะกรรมการอำนวยการโครงการวิทยาลัยเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ ๓. คณะกรรมการ PISA และพัฒนาคุณภาพการศึกษาแห่งชาติ ๔.
คณะกรรมการกำหนดนโยบายผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๕.
คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยองค์การรัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ซีมีโอ) ๖. คณะกรรมการพิจารณายกเว้นอากรนำเข้าสื่อ วัสดุ
เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการศึกษา ๗. คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา
วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ๘.
คณะกรรมการฝ่ายการศึกษาของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ
(ยูเนสโก) ๙.
คณะกรรมการฝ่ายวัฒนธรรมของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ
(ยูเนสโก) ๑๐.
คณะกรรมการฝ่ายวิทยาศาสตร์ของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ
(ยูเนสโก) ๑๑.
คณะกรรมการฝ่ายสังคมศาสตร์ของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ
(ยูเนสโก) ๑๒.
คณะกรรมการฝ่ายสื่อสารมวลชนของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ
(ยูเนสโก) ๑๓.
คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยแผนงานความทรงจำแห่งโลกของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา
วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ๑๔.
คณะกรรมการโครงการมนุษย์และชีวมณฑลของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา
วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ๑๕. คณะกรรมการโครงการ ๑ อำเภอ ๑ ทุน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 79 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงวัฒนธรรม) | วธ. | 07/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรีชุดเดิม
ของกระทรวงวัฒนธรรม จำนวน ๙ คณะ คงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๘ เป็นต้นไป ดังนี้ ๑. คณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทย ๒.
คณะกรรมการอำนวยการและควบคุมการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์และพัฒนานครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ๓. คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยสภาการพิพิธภัณฑ์ระหว่างชาติ
(Thai National Committee for
International Council of Museum) ๔.
คณะกรรมการอำนวยการและควบคุมการดำเนินงานโครงการอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย
และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ๕. คณะกรรมการพัฒนากฎหมายกระทรวงวัฒนธรรม ๖. คณะกรรมการอำนวยการวันอนุรักษ์มรดกไทย ๗. คณะกรรมการวรรณคดีแห่งชาติ ๘. คณะกรรมการอำนวยการโครงการจัดทำพระไตรปิฎก
ฉบับภาษาอังกฤษ (Tipitaka English version)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 80 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงคมนาคม) | คค. | 07/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรีชุดเดิม
ของกระทรวงคมนาคม จำนวน ๖ คณะ คงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๘ เป็นต้นไป ดังนี้ ๑.
คณะกรรมการแห่งชาติเพื่อประสานงานกับองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ ๒. คณะกรรมการร่วมถาวรไทย-มาเลเซีย
ว่าด้วยการขนส่งสินค้าเน่าเสียง่ายผ่านแดนมาเลเซียไปยังสิงคโปร์ ๓.
คณะกรรมการผู้แทนรัฐบาลเพื่อพิจารณาทำความตกลงเกี่ยวกับการขนส่งทางบกกับรัฐบาลต่างประเทศเป็นประจำ ๔. คณะกรรมการผู้แทนรัฐบาลเพื่อพิจารณาทำความตกลงว่าด้วยการขนส่งทางอากาศกับรัฐบาลต่างประเทศเป็นประจำ ๕. คณะกรรมการอำนวยความสะดวกการขนส่งแห่งชาติ ๖. คณะกรรมการประสานการขนส่งผ่านแดนแห่งชาติ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
