ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 638 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 12741 - 12760 จากข้อมูลทั้งหมด 123982 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
12741 | โครงการทุนการศึกษา ภายใต้มูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทาน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร (ม.ท.ศ.) | นร05 | 21/05/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบการขอความร่วมมือหน่วยงานและรัฐวิสาหกิจในสังกัดดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม (Corporate Social Responsibility : CSR) เพื่อร่วมสมทบทุนการศึกษาในโครงการทุนการศึกษา ภายใต้มูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทาน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร (ม.ท.ศ.) และมอบให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนินการและประสานงานกับกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงพลังงาน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งนำความกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระราชวโรกาสให้นายกรัฐมนตรีและคณะเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12742 | ร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญซึ่งมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์รับราชการต่อไป (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร10 | 21/05/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญซึ่งมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์รับราชการต่อไป (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญซึ่งมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์รับราชการต่อไป พ.ศ. ๒๕๕๒ เพื่อให้สามารถนำระยะเวลาของการเคยดำรงตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญขึ้นไป หรือประเภททั่วไป ระดับอาวุโสขึ้นไป ซึ่งมีระยะเวาต่อเนื่องกันมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปี มาใช้เป็นคุณสมบัติในการพิจารณาให้รับราชการต่อไปได้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นตำแหน่งที่ผู้นั้นครองอยู่เดิม แต่ต้องไม่เป็นการกำหนดตำแหน่งเพิ่มใหม่ ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12743 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (จำนวน 5 คน 1. นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย ฯลฯ) | คค | 21/05/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย รวม ๕ คน แทนประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
๑. นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย เป็นประธานกรรมการ ๒. นายอมร พิมานมาศ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. นายวรรณชัย บุญบำรุง เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๔. นายชูศักดิ์ เกวี เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12744 | ภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกของปี 2562 และแนวโน้มปี 2562 | นร11 | 21/05/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกของปี ๒๕๖๒ และแนวโน้มปี ๒๕๖๒ ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกของปี ๒๕๖๒ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ขยายตัวร้อยละ ๒.๘ เทียบกับการขยายตัวร้อยละ ๓.๖ ในไตรมาสก่อนหน้า และเมื่อปรับผลของฤดูกาลออกแล้ว เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกของปี ๒๕๖๒ ขยายตัวจากไตรมาสที่สี่ของปี ๒๕๖๑ ร้อยละ ๑.๐ (QoQ_SA) ๒. แนวโน้มเศรษฐกิจไทย ปี ๒๕๖๒ คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ ๓.๓-๓.๘ (ค่ากลางการประมาณการ ร้อยละ ๓.๖) โดยคาดว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าจะขยายตัวร้อยละ ๒.๒ การบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนรวมขยายตัวร้อยละ ๔.๒ และร้อยละ ๔.๕ ตามลำดับ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยอยู่ในช่วงร้อยละ ๐.๗-๑.๒ และบัญชีเดินสะพัดเกินดุลร้อยละ ๕.๙ ของ GDP ๓. การบริหารนโยบายเศรษฐกิจมหภาคในปี ๒๕๖๒ ควรให้ความสำคัญกับ (๑) การขับเคลื่อนการส่งออกทั้งปีให้สามารถขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๓.๐ (๒) การขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวให้มีรายรับจากนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ต่ำกว่า ๒.๒๑ ล้านล้านบาท (๓) การขับเคลื่อนการใช้จ่ายและการลงทุนของภาครัฐ (๔) การสนับสนุนการขยายตัวของการลงทุนภาคเอกชน (๕) การดูแลเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อยและการสร้างความเข้มแข็งให้กับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และเศรษฐกิจฐานราก และ (๖) การรักษาความสงบเรียบร้อยและบรรยากาศทางเศรษฐกิจและการเมืองภายในประเทศ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12745 | คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี (เรื่อง ปรับปรุงคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี และเรื่อง ปรับปรุงคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี) | นร04 | 21/05/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี รวม ๒ ฉบับ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๑๓/๒๕๖๒ เรื่อง ปรับปรุงคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ๒. คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๑๔/๒๕๖๒ เรื่อง ปรับปรุงคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการอื่นในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12746 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร04 | 21/05/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการด้านเศรษฐกิจ ดังนี้
๑. ให้กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติประเมินผลกระทบที่เกิดจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐประชาชนจีนที่อาจส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการค้า การลงทุน และการส่งออกสินค้าของไทย รวมทั้งให้พิจารณากำหนดมาตรการรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นดังกล่าวด้วย ๒. ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๖๒ ให้กระทรวงพลังงานเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรณรงค์ให้ประชาชนใช้น้ำมันไบโอดีเซลเกรดพิเศษ B20 แทนน้ำมันดีเซลให้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งจัดให้มีจุดบริการประชาชนในการปรับแต่งเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซลให้สามารถรองรับน้ำมันไบโอดีเซลเกรดพิเศษ B20 นั้น ให้กระทรวงพลังงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณากำหนดแนวทาง/มาตรการเพื่อขยายผลการดำเนินการให้มีการใช้น้ำมันปาล์มภายในประเทศให้มากยิ่งขึ้น โดยอาจพิจารณาความเหมาะสมในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการรถรับจ้างสาธารณะใช้น้ำมันไบโอดีเซลเกรดพิเศษ B20 ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12747 | รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2559 วันที่ 30 กันยายน 2560 และวันที่ 30 กันยายน 2561 (ขอส่งรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2561) | ปช | 21/05/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๙ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๐ และวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๑ ประกอบด้วยงบแสดงฐานะการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่าถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด ตามที่สำนักงาน ป.ป.ช. เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12748 | รายงานคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด [คดีบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด] | คค | 21/05/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีเห็นว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๖๒ รับทราบรายงานคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด [คดีบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด] ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยกระทรวงคมนาคมรายงานว่าได้จัดประชุมหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินการตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ซี่งรวมถึงการให้มีคณะทำงานในการเจรจาต่อรองกับบริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดและลดผลกระทบต่อภาครัฐ โดยเฉพาะเรื่องวงเงินที่ต้องดำเนินการตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ดอกเบี้ย และระยะเวลาการชำระคืน และคณะกรรมการสอบความรับผิดทางละเมิดเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ และข้อบังคับที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย นั้น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างการดำเนินการแต่งตั้งคณะทำงานและคณะกรรมการดังกล่าว โดยกระทรวงคมนาคมจะได้กำกับดูแลให้คณะทำงานได้พิจารณาแนวทางการเจรจาต่อรองกับบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด อย่างรอบคอบและรอบด้าน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของรัฐในการปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลปกครองสุูงสุดให้มากที่สุด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12749 | รายงานสรุปผลการดำเนินงานครึ่งปีหลัง ปี 2561 ของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ | กค | 14/05/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการดำเนินงานครึ่งปีหลัง ปี ๒๕๖๑ ของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลการดำเนินงานที่สำคัญประจำปีครึ่งปีหลัง ปี ๒๕๖๑ ประกอบด้วย งานจัดเก็บ รวบรวม และประมวลผลข้อมูล โดยได้จัดเก็บ รวบรวม และประมวลผลข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เช่น ที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน และอาคารพาณิชย์ การเผยแพร่ข้อมูลและประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บไซต์ วารสาร และสื่อสังคมออนไลน์ งานบริหารจัดการระบบสารสนเทศ โดยพัฒนาระบบฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์มือสอง เพื่อแสดงปริมาณอุปสงค์และอุปทานเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ๒. ข้อมูลสถิติและสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ที่สำคัญ (เฉพาะเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล) ภาพรวมสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยในช่วงปีหลัง ปี ๒๕๖๑ มีการปรับตัวดีขึ้นทั้งด้านอุปสงค์และอุปทาน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12750 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ) | กค | 14/05/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการขยายมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ จากมาตรการเดิมที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ ๕๙๑) พ.ศ. ๒๕๕๘ ที่ได้หมดระยะเวลาจดแจ้งการขอใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีไปแล้วเมื่อวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๐ โดยกำหนดให้มีการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล จากอัตราร้อยละ ๒๐ เหลือร้อยละ ๑๐ เป็นเวลา ๑๐ รอบระยะเวลาบัญชีต่อเนื่องกัน ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งมีสถานประกอบการตั้งอยู่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ สำหรับกำไรสุทธิจากรายได้ที่เกิดจากการผลิตสินค้าหรือการให้บริการและมีการใช้บริการในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลดังกล่าว สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีเริ่มในหรือหลังวันที่ได้จดแจ้งการขอใช้สิทธิการเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๑ ถึงวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณที่เห็นควรเปรียบเทียบผลการดำเนินมาตรการดังกล่าวกับการสูญเสียรายได้ที่เกิดขึ้นจริง และประมาณการสูญเสียรายได้เสนอให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นประจำทุกสิ้นปีงบประมาณซี่งเป็นไปตามบทบัญญัติมาตรา ๒๗ ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ต่อไป และควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าวให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศ ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ต่อไป และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าวเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12751 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจ) | กค | 14/05/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับกำไรสุทธิในการดำเนินโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจ เฉพาะส่วนที่เกิดจากการจำหน่ายคาร์บอนเครดิตไม่ว่าจะกระทำในประเทศหรือนอกประเทศเป็นเวลาสามรอบระยะเวลาบัญชีต่อเนื่องกัน โดยผู้ดำเนินโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจจะต้องได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกตั้งแต่วันที่กฎหมายมีผลบังคับใช้จนถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการยกเว้นภาษีเงินได้ของกำไรสุทธิที่เกิดจากการจำหน่ายคาร์บอนเครดิตเฉพาะส่วนที่จะกระทำในประเทศเท่านั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมสำหรับการได้มาซึ่งกำไรจากการใช้ทรัพยากรภายในประเทศมาดำเนินงาน ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณที่เห็นควรหารือเกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการใช้สิทธิประโยชน์การยกเว้นภาษีเงินได้ รวมถึงสร้างความรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าวให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก นอกจากนี้ ควรจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศ รวมทั้งรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าวเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการ ตามนัยแห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12752 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลนาด้วง และตำบลนาดอกคำ อำเภอนาด้วง จังหวัดเลย พ.ศ. .... | กษ | 14/05/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลนาด้วง และตำบลนาดอกคำ อำเภอนาด้วง จังหวัดเลย พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเพื่อก่อสร้างระบบส่งน้ำฝั่งขวาพร้อมอาคารประกอบตามโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยลิ้นควาย อันเป็นประโยชน์แก่การชลประทานสำหรับพื้นที่การเกษตร การอุปโภคและบริโภค ตลอดจนการป้องกันและบรรเทาอุทกภัย ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12753 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสถาบันการเงินประชาชน พ.ศ. .... | สว | 14/05/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสถาบันการเงินประชาชน พ.ศ. .... ซึ่งกระทรวงการคลังได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยมีข้อเสนอแนะในประเด็นที่ว่าสถาบันการเงินตามร่างพระราชบัญญัตินี้ไม่ได้เป็นสถาบันการเงินตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ นั้น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินแจ้งว่าอยู่ระหว่างเสนอแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยจะมีการแก้ไขเพิ่มเติมบทนิยามคำว่า “สถาบันการเงิน” อันจะมีผลให้สถาบันการเงินประชาชนมีหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินต่อไป ส่วนการตรวจสอบบัญชีของสถาบันการเงินประชาชนควรกำหนดวาระของผู้สอบบัญชีรับอนุญาตนั้น สภาวิชาชีพบัญชีเห็นด้วยกับการกำหนดวาระของผู้สอบบัญชี สำหรับในกรณีการตรวจสอบสถาบันการเงินประชาชนนั้น กระทรวงการคลังได้กำหนดแนวทางการตรวจสอบไว้ในร่างกฎหมายลำดับรองแล้ว และในส่วนของการพิจารณาจัดสรรอัตรากำลังคนเพื่อรองรับการดำเนินการตามร่างพระราชบัญญัตินี้ สำนักงาน ก.พ. และสำนักงาน ก.พ.ร. แจ้งว่าต้องดำเนินการตามมาตรการบริหารจัดการกำลังคนภาครัฐ (พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๕) โดยให้กระทรวงการคลังจัดทำเหตุผลและความจำเป็นในการขออัตรากำลังเพิ่ม โครงสร้างและรายละเอียดตำแหน่งที่ต้องการเสนอคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐเพื่อพิจารณา นอกจากนี้ ในกรณีที่รัฐควรมีแนวทางส่งเสริมมาตรการทางภาษีและค่าธรรมเนียมนั้น สถาบันการเงินประชาชนกำหนดให้มีภาระทางภาษีอย่างน้อย ๒ ช่วง คือ การจัดตั้งที่มีการโอนทรัพย์สินให้แก่สถาบันการเงินประชาชน องค์กรการเงินชุมชนมีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และการดำเนินงาน ซึ่งสถาบันการเงินประชาชนไม่ได้เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล จึงไม่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล แต่หากกระทำกิจการตามมาตรา ๒๖ แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวต้องเสียภาษี และหากสมาชิกได้รับเงินหรือผลประโยชน์จากสถาบันการเงินประชาชน ก็ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ดังนั้น เพื่อส่งเสริมให้องค์กรการเงินชุมชนจดทะเบียนเป็นสถาบันการเงินประชาชน เห็นควรพิจารณายกเว้นภาษีอากรและค่าธรรมเนียมดังกล่าว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12754 | รายงานการเงินประจำปีพร้อมกับรายงานผลการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2561 | ลต | 14/05/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (สำนักงาน กกต.) สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๒ ประกอบด้วยงบแสดงฐานะการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่ารายงานการเงินแสดงฐานะการเงินของสำนักงาน กกต. ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๑ และผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกัน โดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด ตามที่สำนักงาน กกต. เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12755 | โครงการพัฒนาสะพานปลากรุงเทพ (Bangkok Fish Market) | กษ | 14/05/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบความคืบหน้าการดำเนินการศึกษาความเหมาะสม ความจำเป็น และความเป็นไปได้ในการพัฒนาสะพานปลา รวมถึงการย้ายหรือพัฒนาสะพานปลากรุงเทพ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ จากการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการฯ พบว่ามีความคุ้มค่าและเหมาะสมในการลงทุน [ผลตอบแทนการลงทุน (FIRR) ร้อยละ ๑๙.๓๕] ๑.๒ ปัจจุบันสะพานปลาสมุทรปราการไม่เหมาะสมในการดำเนินโครงการฯ เนื่องจากบริเวณรอบข้างของสะพานปลาสมุทรปราการเป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมเหล็กและเคมีจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการปนเปื้อนสินค้าสัตว์น้ำและไม่สอดคล้องกับนโยบายด้านอาหารปลอดภัย ๑.๓ พื้นที่ที่กรมธนารักษ์ให้องค์การสะพานปลาคัดเลือกนั้น ไม่มีพื้นที่เหมาะสมในการดำเนินการจัดตั้งตลาดสะพานปลากรุงเทพแห่งใหม่ ๑.๔ ผลการสำรวจพบว่าประชาชนเห็นด้วยที่ให้องค์การสะพานปลาคงอยู่ที่ปัจจุบัน (เขตสาทร) ร้อยละ ๙๗.๗๕ (สำรวจความคิดเห็น ระหว่างวันที่ ๒๗ กันยายน-๙ ตุลาคม ๒๕๖๐) ๑.๕ ไม่มีเอกชนรายใดให้ความสนใจที่จะร่วมลงทุนในโครงการ Fish Market Complex ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยองค์การสะพานปลารับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรพิจารณาศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการฯ ด้วยความรอบคอบ คำนึงถึงประโยชน์ที่ทางราชการจะได้รับทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ รวมทั้งควรเร่งประสานกรมธนารักษ์เพื่อพิจารณาทำสัญญาเช่าพื้นที่ในระยะยาว เพื่อให้สามารถดำเนินโครงการฯ ให้เป็นไปตามขั้นตอน และในขั้นตอนการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการฯ การออกแบบสิ่งก่อสร้าง และการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ควรให้ความสำคัญกับรูปแบบและกระบวนการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งรองรับการดำเนินธุรกิจการค้าและการท่องเที่ยวด้านการประมงที่ไม่ส่งผลกระทบต่อทัศนียภาพและสภาพแวดล้อมริมแม่น้ำเจ้าพระยา และการบริหารโครงการฯ ให้เป็นไปอย่างคุ้มค่าและสร้างผลตอบแทนสูงสุด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12756 | แจ้งคำสั่งศาลปกครองกลางให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ คดีระหว่าง นายจาตุรนต์ ฉายแสง ฟ้องนายกรัฐมนตรี ที่ 1 กับพวก รวม 4 คน ขอให้ศาลพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่หยุดการละเลย การปฏิบัติหน้าที่ด้วยการสั่งให้พิจารณาหนังสือของผู้ฟ้องคดี ฉบับลงวันที่ 30 มกราคม 2561 และแจ้งกลับผลการพิจารณาให้ผู้ฟ้องคดีทราบภายใน 30 วัน นับแต่ศาลมีคำสั่งหรือตามระยะเวลาที่ศาลจะพิจารณาเห็นสมควร | นร05 | 14/05/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งศาลปกครองกลางให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความเพราะเหตุแห่งการฟ้องคดีหมดสิ้นไป ในคดีหมายเลขดำที่ ๑๓๖๘/๒๕๖๑ ระหว่าง นายจาตุรนต์ ฉายแสง ผู้ฟ้องคดี นายกรัฐมนตรี ที่ ๑ กับพวก รวม ๔ คน (คณะรัฐมนตรี ที่ ๓) ผู้ถูกฟ้องคดี สำนักงานคดีปกครอง สำนักงานอัยการสูงสุด เห็นว่าคำสั่งศาลปกครองกลางชอบด้วยเหตุผลและข้อกฎหมายจึงสั่งไม่อุทธรณ์เป็นคดีหมายเลขแดงที่ ๔๑๑/๒๕๖๒ ตามความเห็นของสำนักงานคดีปกครอง สำนักงานอัยการสูงสุด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12757 | ขอความเห็นชอบร่างแถลงการณ์รัฐมนตรีการค้าเอเปคประจำปี 2562 | พณ | 14/05/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างแถลงการณ์รัฐมนตรีการค้าเอเปคประจำปี ๒๕๖๒ ซึ่งจะมีการรับรองในการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปคประจำปี ๒๕๖๒ ระหว่างวันที่ ๑๗-๑๘ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ณ สาธารณรัฐชิลี และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ร่วมรับรองร่างแถลงการณ์ฯ โดยร่างแถลงการณ์ฯ มีสาระสำคัญภายใต้หัวข้อหลัก คือ เชื่อมโยงประชาชนเพื่อสร้างอนาคต โดยประเด็นที่เอเปคให้ความสำคัญ ได้แก่ (๑) สตรี วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และการเจริญเติบโตที่ครอบคลุม (๒) สังคมดิจิทัล (๓) การบูรณาการ ๔.๐ และ (๔) การเจริญเติบโตที่ยั่งยืน รวมทั้งประเด็นเป้าหมายการเพิ่มระดับการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเปค และเอเปคกับองค์การการค้าโลก (WTO) ซึ่งยืนยันถึงความสำคัญของการมีระบบการค้าพหุภาคีที่มีประสิทธิภาพ ยึดกฎเกณฑ์ โปร่งใส และไม่เลือกปฏิบัติ เพื่อสร้างการเจริญเติบโตและความมั่งคั่งที่ยั่งยืนและความเข้มแข็งของ WTO ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงการต่างประเทศที่เห็นว่า กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศอาจใช้โอกาสนี้แสดงความมุ่งมั่นของไทยในการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และขนาดย่อย (MSMEs) ให้ดำเนินธุรกิจอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน สอดคล้องกับ APEC Strategy for Green, Sustainable and Innovative MSMEs ซึ่งไทยมีบทบาทนำในการยกร่างและผลักดันให้มีการรับรองยุทธศาสตร์ดังกล่าวในการประชุมรัฐมนตรีเอเปคประจำปี ๒๕๖๐ และการส่งเสริมความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ไทยมีบทบาทนำในกลุ่ม APEC Telecommunications and Information Working Group (TELWG) ในการยกร่าง APEC Framework for Securing the Digital Economy ซึ่งได้รับการรับรองโดย TELWG เมื่อเดือนกุมภาพันธุ์ ๒๕๖๒ รวมทั้งข้อสังเกตที่ว่า หากการจัดทำร่างแถลงการณ์ฯ ไม่สามารถหาฉันทามติได้ในประเด็นที่มีข้อขัดแย้ง เช่น ระบบการค้าพหุภาคี ก็อาจพิจารณายืดหยุ่น โดยนำประเด็นดังกล่าวแยกออกมาหารือเป็นการเฉพาะ เพื่อให้ที่ประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปคสามารถหาข้อสรุปได้ ไปดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12758 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินงบประมาณรายจ่าย รายการเงินอุดหนุนสำนักเลขาธิการอาเซียนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการจัดทำระบบรักษาความลับข้อมูลเกี่ยวกับ RCEP | พณ | 14/05/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติเพิ่มวงเงินงบประมาณรายจ่าย รายการเงินอุดหนุนสำนักเลขาธิการอาเซียนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการจัดทำระบบรักษาความลับข้อมูลเกี่ยวกับ Regional Comprehensive Economic Partnership (RCEP) (RCEP Secured Online Platform) สำหรับ ๒ ปีแรก (๒๕๖๒-๒๕๖๓) จากเดิมจำนวน ๑,๖๒๕ ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ ๕๓,๖๒๕ บาท) เป็นจำนวน ๒,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ ๖๖,๐๐๐ บาท) ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจะปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สำหรับภาระงบประมาณที่จะเพิ่มขึ้นจากการดำเนินโครงการดังกล่าว ให้กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ เป็นลำดับแรก ส่วนค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ ไป ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นควรให้ความสำคัญในการกำกับดูแลการจ่ายเงินอุดหนุนสำนักเลขาธิการอาเซียนให้เป็นไปตามระเบียบและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12759 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดธุรกิจบริการที่ไม่ต้องขออนุญาตในการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | พณ | 14/05/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดธุรกิจบริการที่ไม่ต้องขออนุญาตในการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นธุรกิจบริการอื่น จำนวน ๓ ธุรกิจ เป็นธุรกิจที่ไม่ต้องขออนุญาตในการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวในบัญชีสาม (๒๑) ท้ายพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๔๒ ได้แก่ (๑) ธุรกิจบริการให้กู้ยืมเงินแก่บริษัทในเครือในกลุ่มในประเทศ (๒) ธุรกิจบริการให้เช่าพื้นที่อาคารสำนักงาน พร้อมสาธารณูปโภคให้แก่บริษัทในเครือในกลุ่ม และ (๓) ธุรกิจบริการให้คำปรึกษาแนะนำให้แก่บริษัทในเครือในกลุ่มเฉพาะด้านบริหารจัดการ ด้านการตลาด ด้านทรัพยากรบุคคล และด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และธนาคารแห่งประเทศไทยที่เห็นควรมีการติดตามระดับความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยอย่างต่อเนื่อง และดูแลมิให้ผู้ประกอบการต่างชาติมีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำกว่าผู้ประกอบการไทย ควรกำหนดเวลาซึ่งกฎหมายจะมีผลใช้บังคับที่ชัดเจน และควรมีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการไทยที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ และนำมาประกอบการพิจารณาเพื่อให้เกิดความรอบคอบและชัดเจน อีกทั้งควรมีการสื่อสาร ส่งเสริม และสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้มีความรู้ความเข้าใจด้านดิจิทัล เพื่อการเตรียมความพร้อมและรองรับการแข่งขันที่สูงขึ้นควบคู่ไปด้วย รวมทั้งควรต้องติดตามระดับการแข่งขันของธุรกิจบริการให้กู้ยืมเงินในประเทศแก่บริษัทในเครือในกลุ่มตามความเหมาะสมเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจการเงินอื่น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12760 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ (นักวิเคราะห์งบประมาณทรงคุณวุฒิ) (จำนวน 5 ราย 1. นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ฯลฯ) | นร07 | 14/05/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือน สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๕ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้
๑. นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ (นักวิเคราะห์งบประมาณทรงคุณวุฒิ) สำนักงบประมาณ ตั้งแต่วันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ๒. นายอนันต์ แก้วกำเนิด ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ (นักวิเคราะห์งบประมาณทรงคุณวุฒิ) สำนักงบประมาณ ตั้งแต่วันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ๓. นางอลิสา ปิ่นประเสริฐ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ (นักวิเคราะห์งบประมาณทรงคุณวุฒิ) สำนักงบประมาณ ตั้งแต่วันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ๔. นายสาลี่ สุขเกิด ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ (นักวิเคราะห์งบประมาณทรงคุณวุฒิ) สำนักงบประมาณ ตั้งแต่วันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ๕. หม่อมราชวงศ์รณจักร จักรพันธุ์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ (นักวิเคราะห์งบประมาณทรงคุณวุฒิ) สำนักงบประมาณ ตั้งแต่วันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒
|
.....