ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 631 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 12601 - 12620 จากข้อมูลทั้งหมด 123982 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
12601 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 ว่าด้วยการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ [การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ตามพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2561] | กค | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พ.ศ. ๒๕๑๔ ว่าด้วยการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ตามพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พ.ศ. ๒๕๑๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม (ฉบับที่ ๘) พ.ศ.๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. รับทราบรายงานเหตุผลที่ไม่อาจดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองได้ภายในกำหนดระยะเวลาตามพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๖๑ ซึ่งกระทรวงการคลังรายงานว่า เนื่องจากการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้เป็นเรื่องที่มีความซับซ้อน การจะกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขดังกล่าว จึงจำเป็นต้องใช้เวลาในการพิจารณา ต้องหารือผู้ที่เกี่ยวข้อง และต้องพิจารณาให้เหมาะสมสอดคล้องกับสภาพการประกอบธุรกิจไม่ให้เกิดผลเสียต่อรัฐ รวมทั้งต้องสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ในการจำหน่ายหนี้สูญของภาษีเงินได้นิติบุคคลตามประมวลรัษฎากร ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๘๖ (พ.ศ. ๒๕๓๔) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ ดังนั้น จึงทำให้การดำเนินการไม่อาจแล้วเสร็จภายในระยะเวลา ๙๐ วัน นับแต่วันที่พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๖๑ ใช้บังคับ ได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12602 | การประชุมระดับรัฐมนตรีท่องเที่ยวยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี - เจ้าพระยา - แม่โขง ครั้งที่ 4 และร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีท่องเที่ยวยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี - เจ้าพระยา - แม่โขง ครั้งที่ 4 | กก | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ครั้งที่ ๔ (Draft Joint Statement of the 4th ACMECS Tourism Ministerial Meeting) มีสาระสำคัญเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานภายใต้แผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว อิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ปี พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๕ ในประเด็นต่าง ๆ เช่น (๑) รับทราบสรุปผลการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ครั้งที่ ๘ โดยผู้นำจาก ๕ ประเทศสมาชิก (ไทย เมียนมา ลาว กัมพูชา และเวียดนาม) เกี่ยวกับการรับรองแผนแม่บท ACMECS (พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๖) (๒) รับทราบจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศ ACMECS ในปี ๒๕๖๑ จำนวน ๗๘.๘๓ ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ ๙.๓๖ จากปี ๒๕๖๐ และ (๓) การกำหนดทิศทางการดำเนินความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวภายใต้แผนแม่บทการท่องเที่ยว ACMECS ปี พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๖ ๑.๒ ให้ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (นายโชติ ตราชู) ซึ่งได้รับมอบหมายจากรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในฐานะรัฐมนตรีท่องเที่ยว ACMECS ของไทย ร่วมรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมฯ โดยไม่มีการลงนาม ในการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยว ACMECS ครั้งที่ ๔ ณ จังหวัดเชียงราย ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12603 | ร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมระดับรัฐมนตรี G20 ด้านการเปลี่ยนผ่านพลังงานและสิ่งแวดล้อมโลก เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน | พน | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุม G20 Ministerial Meeting on Energy Transitions and Global Environment for Sustainable Growth (การประชุมระดับรัฐมนตรี G20 ด้านการเปลี่ยนผ่านพลังงานและสิ่งแวดล้อมโลกเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน) ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๕-๑๖ มิถุนายน ๒๕๖๒ ณ เมืองคารุอิซาว่า ประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ (๑) แถลงการณ์ G20 Communique (Joint Part) (๒) แถลงการณ์ G20 Communique (Energy Part) (๓) แผนปฏิบัติการ G20 Innovation Action Plan และ (๔) แผนปฏิบัติการ G20 Energy Innovation Action Plan และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานให้เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยให้การรับรองร่างเอกสารฯ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงพลังงานดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงพลังงานได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12604 | โครงการจัดทำพระไตรปิฎก ฉบับภาษาอังกฤษ (Tipitaka English Version) | วธ | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการการดำเนินโครงการจัดทำพระไตรปิฎก ฉบับภาษาอังกฤษ (Tipitaka English Version) ในนามรัฐบาล โดยการบูรณาการร่วมกันระหว่างกระทรวงวัฒนธรรม มหาเถรสมาคม และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีวัตถุประสงค์เพื่อถวายพระราชกุศลและเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวิชรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสที่พระองค์เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ของประเทศไทย และประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก และเพื่อเป็นการเผยแผ่และสืบทอดพระพุทธศาสนาสู่ประชาคมโลก ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินงานดังกล่าวในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ เห็นควรให้กรมการศาสนาพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณไปดำเนินการก่อน ส่วนค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ ไป เห็นควรให้กรมการศาสนาจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงวัฒนธรรมดำเนินการตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรี (๒๗ มกราคม ๒๕๕๘) เรื่อง แนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12605 | ขอปรับปรุงหลักการของโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 | สกพอ | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการเจรจาต่อรองกับผู้ยื่นข้อเสนอ และเห็นชอบการปรับปรุงหลักการของโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ ๓ ช่วงที่ ๑ โดย (๑) เปลี่ยนแปลงจำนวนเงินร่วมลงทุนของรัฐ หักค่าสิทธิการร่วมลงทุนจากเอกชนสุทธิ ๗๑๐ ล้านบาทต่อปี เป็นระยะเวลา ๓๐ ปี และ (๒) เปลี่ยนแปลงผลตอบแทนทางการเงินขั้นต่ำของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจากการร่วมลงทุนกับเอกชน ช่วงที่ ๑ และช่วงที่ ๒ รวมเท่ากับมูลค่าปัจจุบันสุทธิประมาณ ๖,๗๒๑ ล้านบาท (อัตราคิดลดร้อยละ ๖.๔๘) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงอุตสาหกรรม โดย การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการติดตามผลประกอบการของโครงการฯ โดยเฉพาะในส่วนของรายได้ที่ผันแปรกับปริมาณการขนส่งสินค้าผ่านท่าเทียบเรือ เพื่อให้สามารถกำหนดแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยงทางการเงินของกิจการได้ทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12606 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (เรืออากาศโท อรรถยุทธ์ ศรีสมุทร และคณะ) | กต | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๔ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการและสับเปลี่ยนหมุนเวียน ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. เรืออากาศโท อรรถยุทธ์ ศรีสมุทร ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ๒. นายสุนทร ชัยยินดีภูมิ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก ๔. นายชัยณรงค์ กีรติยุตวงศ์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12607 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายธีรวุธ กลั่นเลี้ยง) | นร04 | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายธีรวุธ กลั่นเกลี้ยง ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำด้านยุทธศาสตร์และการวางแผน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12608 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเป็นพิเศษ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน สำหรับกรณีการโอนและการจำนองอสังหาริมทรัพย์ในภารกิจของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมตรีกำหนด [การลดหย่อนค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามภารกิจของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน)] | อื่นๆ | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเป็นพิเศษ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน สำหรับกรณีการโอนและการจำนองอสังหาริมทรัพย์ในภารกิจของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด มีสาระสำคัญเป็นการลดหย่อนค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามภารกิจของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) (บจธ.) โดยให้ บจธ. และคู่สัญญาได้รับการลดหย่อนค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามภารกิจของ บจธ. กรณีการโอนและการจำนองอสังหาริมทรัพย์ ตามอัตราค่าเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ในอัตราร้อยละ ๒ และร้อยละ ๑ ให้เหลือในอัตราร้อยละ ๐.๐๑ ตามที่ บจธ. เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12609 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) (นายกัมพล ตติยกวี) | วธ | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายกัมพล ตติยกวี เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร แทนผู้ที่ลาออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12610 | ภาวะสังคมไทยไตรมาสหนึ่งปี 2562 | นร11 | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบภาวะสังคมไทยไตรมาสหนึ่งปี ๒๕๖๒ โดยความเคลื่อนไหวทางสังคมไตรมาสหนึ่งปี ๒๕๖๒ การจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น อัตราการว่างงานลดลง รายได้และผลิตภาพแรงงานเพิ่มขึ้น หนี้สินครัวเรือนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย การเจ็บป่วยยังต้องเฝ้าระวังไข้หวัดใหญ่และโรคไข้เลือดออกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่เพิ่มขึ้น คดีอาญารวมเพิ่มจากคดียาเสพติดที่เพิ่มขึ้น และการเกิดอุบัติเหตุและจำนวนผู้เสียชีวิตลดลงทั้งในช่วงปกติและช่วงเทศกาล สำหรับสถานการณ์ทางสังคมที่สำคัญ เช่น เยาวชนมีความเสี่ยงต่อการเป็นภาวะซึมเศร้าและฆ่าตัวตายมากขึ้น ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือป้องกันแก้ไขอย่างจริงจัง เป็นต้น ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12611 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ดังนี้ ตามที่ได้มีข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๙ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย สำรวจความต้องการใช้เครื่องมือและเครื่องจักรกลทางการเกษตรของเกษตรกรกลุ่มต่าง ๆ เช่น กลุ่มเกษตรกรที่ทำการเกษตรแบบแปลงใหญ่ กลุ่มสหกรณ์การเกษตร และให้การสนับสนุนเครื่องมือและเครื่องจักรกลทางการเกษตรแก่กลุ่มเกษตรกรดังกล่าวตามลำดับความพร้อมในการดูแลรักษาและซ่อมบำรุงเครื่องมือเครื่องจักรกลดังกล่าว นั้น ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย และสำนักงบประมาณเร่งรัดและขยายผลการดำเนินมาตรการหรือแผนการสนับสนุนเครื่องจักรกลทางการเกษตรแก่เกษตรกรอย่างครบวงจรมากยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นการให้เกษตรกรใช้เครื่องจักรกลที่ผลิตภายในประเทศ เพื่อเป็นการส่งเสริมผู้ประกอบการและแรงงานไทย โดยอาจพิจารณากำหนดมาตรการทางการเงินการคลังเพื่อสร้างแรงจูงใจให้แก่ผู้ประกอบการมากยิ่งขึ้นด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12612 | การปลูกไม้มีค่าในพื้นที่ต่าง ๆ | นร04 | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอให้กระทรวงกลาโหมเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงมหาดไทยพิจารณากำหนดแนวทางการดำเนินการเพื่อส่งเสริมการปลูกไม้มีค่าเพิ่มเติม ดังนี้
๑. การปลูกไม้มีค่าในพื้นที่สาธารณะ เพื่อเป็นร่มเงาและเป็นทรัพย์สินร่วมกันของชุมชนและท้องถิ่น ๒. การปลูกไม้มีค่าในพื้นที่การเกษตรบริเวณหัวไร่ปลายนาและให้พิจารณาขยายผลไปสู่การทำเกษตรแปลงใหญ่ด้วย ๓. การขึ้นทะเบียนไม้มีค่าจากการปลูกในสถานที่ต่าง ๆ เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลประกอบการกำหนดนโยบายและ/หรือการบริหารจัดการในอนาคตต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12613 | สถานะและมาตรการรองรับการดำเนินการตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 1/2562 เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยสิทธิบัตรและมาตรการด้านสิทธิบัตรเป็นกรณีพิเศษ ลงวันที่ 28 มกราคม 2562 | พณ | 04/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสถานะและมาตรการรองรับการดำเนินการตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑/๒๕๖๒ เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยสิทธิบัตรและมาตรการด้านสิทธิบัตรเป็นกรณีพิเศษ ลงวันที่ ๒๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
๑. มาตรการด้านสิทธิบัตรเป็นกรณีพิเศษที่กำหนดให้การประดิษฐ์ที่มีสารสกัดจากกัญชาธรรมชาติเป็นส่วนประกอบ เป็นการประดิษฐ์ที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน และให้อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาสั่งยกคำขอรับสิทธิบัตรที่ประกาศโฆษณาแล้ว แต่ผู้ขอรับสิทธิบัตรยังไม่ได้ยื่นคำขอให้ตรวจสอบการประดิษฐ์ มาตรการดังกล่าวถูกยกเลิกไปแล้ว เมื่อพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ ๒๕๖๒ มีผลใช้บังคับ โดยเปิดโอกาสให้สามารถนำกัญชาไปทำการศึกษาวิจัยทางการแพทย์ ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังจำเป็นต้องใช้มาตรการดังกล่าวต่อไปได้อีกระยะหนึ่ง เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบคำขอรับสิทธิบัตรเกี่ยวกับกัญชาที่ได้ยื่นก่อนวันที่พระราชบัญญัติดังกล่าวใช้บังคับ จึงไม่จำเป็นต้องเสนอมาตรการระยะยาวเพื่อรองรับมาตรการด้านสิทธิบัตรเป็นกรณีพิเศษอีก ๒. กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๓๐ แห่งพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. ๒๕๒๒ ตามข้อ ๕ ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑/๒๕๖๒ โดยเสนอร่างพระราชบัญญัติสิทธิบัตร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ยกเลิกมาตรา ๓๐ แห่งพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. ๒๕๒๒) และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๒ อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๓. กรณีอื่น ๆ ที่กำหนดไว้ในคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑/๒๕๖๒ ไม่ได้มีสภาพบังคับเป็นมาตรการพิเศษ และไม่ได้มีผลเป็นการแก้ไขกฎหมาย จึงไม่ต้องกำหนดมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรองรับกรณีดังกล่าว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12614 | การขอต่ออายุการกู้เงินภายใต้ Euro Commercial Paper (ECP) Programme ครั้งที่ 3 | กค | 04/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการต่ออายุการกู้เงินภายใต้ Euro Commercial Paper (ECP) Programme ครั้งที่ ๓ วงเงิน ๒,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับตั้งแต่วันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๒ ต่อไปอีก ๑๐ ปี (การต่ออายุการกู้เงินภายใต้ ECP Programme ครั้งที่ ๒ จะครบกำหนดสิ้นสุดในวันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๒) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการกู้เงินและการบริหารหนี้สาธารณะต้องกระทำด้วยความรอบคอบ และคำนึงถึงความคุ้มค่า ความสามารถในการชำระหนี้ เสถียรภาพและความยั่งยืนทางการเงินการคลังตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ อย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12615 | ขออนุมัติขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (Development Policy Loan : เงินกู้ DPL) ของโครงการจัดทำระบบศูนย์บริหารจัดการรายได้กลาง (Central Clearing House: CCH) | กค | 04/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (Development Policy Loan : เงินกู้ DPL) สำหรับโครงการจัดทำระบบศูนย์บริหารจัดการรายได้กลาง (Central Clearing House : CCH) ของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร โดยให้สามารถเบิกจ่ายเงินได้ภายใน ๑ เดือน หลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรมีการติดตามเร่งรัดหน่วยงานเจ้าของโครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินงานให้เร่งดำเนินโครงการและเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๑ โดยเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12616 | การโอนเงินหรือสินทรัพย์ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเพื่อชำระคืนต้นเงินกู้ FIDF 1 และ FIDF 3 | กค | 04/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้โอนเงินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน จำนวน ๓,๑๒๑ ล้านบาท เข้าบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ในปีงบประมาณ ๒๕๖๒ เพิ่มเติม ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12617 | ขออนุมัติกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ | คค | 04/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ รวมจำนวน ๑๑,๓๑๙.๕๘๐ ล้านบาท และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ กำหนดวิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ในการกู้เงิน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมและ ขสมก. รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ควรให้ ขสมก. ดำเนินการขอบรรจุแผนการกู้เงินจำนวนดังกล่าวไว้ในแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ และให้ ขสมก. ดำเนินการกู้เงินได้เมื่อแผนการบริหารหนี้สาธารณะฯ ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี และได้บรรจุวงเงินกู้ของ ขสมก. ที่เสนอในครั้งนี้ไว้ด้วยแล้ว โดยให้การกู้เงินดังกล่าวเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย คำนึงถึงความคุ้มค่า ประโยชน์ที่จะได้รับ ความสามารถในการชำระหนี้ การกระจายภาระการชำระหนี้ที่เหมาะสม ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12618 | ขออนุมัติแผนหลักการฟื้นฟูบึงราชนก จังหวัดพิษณุโลก และแผนหลักการพัฒนาและฟื้นฟูบึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ | นร | 04/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เสนอ ๑.๑ เห็นชอบแผนหลักการฟื้นฟูบึงราชนก จังหวัดพิษณุโลก รวม ๔ ด้าน ระยะเวลาดำเนินการ ๗ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๙) วงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น ๑,๔๕๖.๙๘ ล้านบาท โดยให้เร่งดำเนินการแผนงานเร่งด่วนที่มีความพร้อม จำนวน ๑๑ โครงการ ในระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๕ วงเงินงบประมาณ ๗๕๔.๕๖ ล้านบาท ๑.๒ เห็นชอบแผนหลักการพัฒนาและฟื้นฟูบึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ รวม ๖ ด้าน ระยะเวลาดำเนินการ ๑๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๗๒) วงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น ๕,๗๐๑.๕ ล้านบาท โดยให้เร่งดำเนินการแผนงานเร่งด่วนที่มีความพร้อม จำนวน ๙ โครงการ ในระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๕ วงเงินงบประมาณ ๑,๕๑๓.๕ ล้านบาท ๑.๓ มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินโครงการที่มีความพร้อมสามารถดำเนินการได้ทันทีในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณของหน่วยงานดำเนินการเป็นลำดับแรก หากไม่เพียงพอให้เสนอขอรับการสนับสนุนตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ๑.๔ มอบหมายให้ สทนช. อำนวยการและกำกับดูแลการดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนหลักที่วางไว้ทั้ง ๒ แผน รวมทั้งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมติคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ครั้งที่ ๑/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๖๒ อย่างเคร่งครัด ดังนี้ ๑.๔.๑ การฟื้นฟูบึงราชนก จังหวัดพิษณุโลก (๑) ให้หน่วยงานเร่งดำเนินการตามแผนปฏิบัติการเร่งด่วน จำนวน ๑๑ โครงการ โดยให้ดำเนินการเตรียมความพร้อมให้ชัดเจน พร้อมทั้งวางแผนเยียวยาในเรื่องการจัดหาที่อยู่ให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบต่อไปด้วย และ (๒) ให้ สทนช. ติดตามประเมินผลการดำเนินงาน และรายงานให้ กนช. ทราบเป็นระยะต่อไป ๑.๔.๒ การฟื้นฟูบึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ (๑) ต้องสร้างความเข้าใจและการรับรู้ให้กับประชาชน (๒) ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดเตรียมความพร้อมและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามแผนที่กำหนด และ (๓) ให้ สทนช. ติดตามประเมินผลการดำเนินงาน และรายงานให้ สนทช. ทราบเป็นระระต่อไป ๒. ให้ สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติซึ่งมีความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดของแผน และการบริหารจัดการแผน ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป สำหรับค่าใช้จ่ายและภาระงบประมาณที่จะเกิดขึ้นให้เพื่อขับเคลื่อนแผนหลักดังกล่าว เห็นควรให้ สทนช. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดลำดับความสำคัญ ความจำเป็นเร่งด่วน ความคุ้มค่า ประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ และผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ ตามนัยของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ รวมทั้งจัดเตรียมความพร้อมและจัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้ สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ โดยให้จัดลำดับความสำคัญ ความจำเป็นเร่งด่วนของโครงการ และให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ๓. ให้ สทนช. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามแผนให้ถูกต้อง ทั่วถึงโดยให้คำนึงถึงประโยชน์ที่ได้รับของส่วนรวม พร้อมทั้งให้จัดเตรียมมาตรการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนกลุ่มดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12619 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการอุปกรณ์เครื่องมือสำหรับอาคารประกอบและทดสอบดาวเทียม ภายใต้โครงการระบบดาวเทียมสำรวจเพื่อการพัฒนา (THEOS-2) | อว | 04/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) เปลี่ยนแปลงรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ โครงการระบบดาวเทียมสำรวจเพื่อการพัฒนา (THEOS-2) งบเงินอุดหนุน เงินอุดหนุนทั่วไป ค่าครุภัณฑ์ จากรายการอุปกรณ์เครื่องมือสำหรับอาคารประกอบและทดสอบดาวเทียม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ๑ ระบบ วงเงินทั้งสิ้น ๒๑๖,๐๐๐,๐๐๐ บาท (ไม่รวมเงินสำรองเผื่อเหลือเผื่อขาด) ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๒ ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๐ เป็นรายการอุปกรณ์เครื่องมือสำหรับอาคารประกอบและทดสอบดาวเทียม พร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น และฝุ่น อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ๑ ระบบ วงเงินทั้งสิ้น ๒๑๖,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ จากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๒ เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๓ ตามนัยข้อ ๗ (๒) ของระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ทั้งนี้ ให้สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ดำเนินการตามประกาศหรือคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่เกี่ยวข้อง และปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี หนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญ และให้จัดทำรายละเอียดให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ก่อนเสนอขอความเห็นชอบความเหมาะสมของราคารายการดังกล่าวกับสำนักงบประมาณต่อไป ตามความเห็นของสำนักงปบระมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12620 | สรุปผลการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์/เสนอความคิดเห็นจากประชาชน ไตรมาสที่ 3 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 และในภาพรวมของปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 | นร01 | 04/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปผลการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์/เสนอความคิดเห็นจากประชาชน ไตรมาสที่ ๓ ของปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ และในภาพรวมของปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยภาพรวมสถิติผลการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์/เสนอความคิดเห็นจากประชาชน ไตรมาสที่ ๓ ของปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ สามารถดำเนินการจนได้ข้อยุติแล้วถึงร้อยละ ๘๔.๗๑ และยังคงมีเรื่องที่อยู่ระหว่างการดำเนินการของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร้อยละ ๑๕.๒๙ สำหรับภาพรวมสถิติผลการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์/เสนอความคิดเห็นจากประชาชนในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ สามารถดำเนินการจนได้ข้อยุติแล้วถึงร้อยละ ๘๙.๙๑ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และมอบหมายให้ทุกส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ความสำคัญแก่การแจ้งความคืบหน้าการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์และเร่งรัดการดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้มีผลเป็นที่ยุติด้วยความเป็นธรรมภายในระยะเวลาที่เหมาะสม ๒. ให้ส่วนราชการใช้กลไกของผู้นำการขับเคลื่อนการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์ประจำหน่วยงาน (Chief Complaint Executive Officer : CCEO) ทำหน้าที่ในการกำกับดูแลการดำเนินงานด้านการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ ประสานความร่วมมือ ติดตามและประเมินผลการดำเนินการเรื่องราวร้องทุกข์และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ
|
.....