ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1805 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 36081 - 36100 จากข้อมูลทั้งหมด 124240 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
36081 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายมารุต มัสยวาณิช) | นร | 15/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งนายมารุต มัสยวาณิช เป็นข้าราชการการเมืองตำแหน่งรองโฆษกประจำ
สำนักนายกรัฐมนตรี ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (15 มิถุนายน 2553) เป็น ต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||
36082 | แต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี และประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเปลี่ยนแปลงการมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่และมอบอำนาจการบังคับบัญชา (นายฉัตรเฉลิม เฉลิมชัยวัฒน์) | นร | 15/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบการแต่งตั้ง นายฉัตรเฉลิม เฉลิมชัยวัฒน์ เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้งและมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งเป็นต้น ไป เพื่อให้ผู้ได้รับแต่งตั้งลาออกจากตำแหน่งอื่น ๆ ที่เป็นลักษณะต้องห้ามได้ดำเนินการให้เรียบร้อย 2. รับทราบประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเปลี่ยนแปลงการมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่และมอบอำนาจการ บังคับบัญชาโดยให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสรยุทธ เพ็ชรตระกูล) และอยู่ในบังคับ บัญชาของนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทยและอยู่ในบังคับบัญชาของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
|
||||||||||||||||||||||||
36083 | การรายงานการรับและการใช้จ่ายเงินรายได้ที่ไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 170 | นร | 15/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบตามที่สำนักงบประมาณรายงานการรับและการใช้จ่ายเงินรายได้ที่ไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่น ดินตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 170 โดยมีหน่วยงานของรัฐ ได้แจ้งการจัดทำรายงานการรับและการใช้จ่ายเงินรายได้ที่ไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินรวมทั้งสิ้น 307 หน่วยงาน และ 107 กองทุนและเงินทุนหมุนเวียน ทั้งนี้ จากการรวบรวมรายงานการรับและการใช้จ่ายเงินรายได้ที่ไม่ต้องนำส่ง เป็นรายได้แผ่นดินที่หน่วยงานต่างๆ จัดทำ มีบางหน่วยงานจัดทำรายละเอียดไม่ครบถ้วน และ/หรือไม่เป็นไปตาม รูปแบบมาตรฐานของการรายงานที่กระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลางกำหนดให้หน่วยงานดำเนินการตามที่คณะ รัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังเป็นผู้รับผิดชอบตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2551 2. ให้กระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลาง ตรวจสอบและติดตามให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุงรูปแบบ รายงานฯ ดังกล่าว ให้ถูกต้อง ครบถ้วน และนำเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาทราบ ตามนัยที่กำหนดไว้ใน มาตรา 170 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
|
||||||||||||||||||||||||
36084 | การปรับปรุงการแบ่งส่วนราชการในกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร | ทก | 15/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการการจัดตั้งสำนักป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางเทค
โนโลยีสารสนเทศ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ โดยให้ถือ เป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 (เรื่อง นโยบายการพัฒนาระบบราชการ) และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2553 (เรื่อง การขยาย ระยะเวลาของมาตรการระงับการขอจัดตั้งหน่วยงานใหม่หรือขยายหน่วยงานตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 กุมภา พันธ์ 2552) ทั้งนี้ ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการเรื่องนี้ ให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน
|
||||||||||||||||||||||||
36085 | ผลการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ครั้งที่ 6/2553 (เพิ่มเติม) | นร | 15/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการและเลขา
นุการคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการ รศก.) เสนอ ดังนี้ 1. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการ รศก. ครั้งที่ 6/2553 (เพิ่มเติม) 2. เห็นชอบการแก้ไขมติคณะกรรมการ รศก. ในการประชุมครั้งที่ 6/2553 เรื่อง มาตรการฟื้นฟูด้านการ ท่องเที่ยว และการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตปัญหาทางการเมืองภาย ในประเทศ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอขอแก้ไข ดังนี้ "เห็นชอบในหลักการของแผนงาน กระตุ้นตลาดท่องเที่ยวในประเทศ โดยมีกรอบวงเงิน 360 ล้านบาท จากงบกลางรายการฉุกเฉินปีงบประมาณ 2553 และให้สำนักงบประมาณจัดลำดับความสำคัญของกิจกรรมและความเหมาะสมของวงเงินโครงการอีกครั้งหนึ่ง" 3. ให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กระทรวงคมนาคม เป็นหน่วยงานรับผิดชอบศึกษาจัด ทำแผนแม่บทการพัฒนาท่าเรือฝั่งอันดามัน โดยประสานกับสำนักงบประมาณเพื่อพิจารณาค่าใช้จ่ายในการศึกษาและ แหล่งเงินที่เหมาะสม ทั้งนี้ ให้นำความเห็นของคณะกรรมการ รศก. ที่เห็นว่า การศึกษาความเหมาะสมของการพัฒนา ท่าเรือฝั่งทะเลอันดามันยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน จึงควรจัดงบประมาณจำนวนหนึ่งเพื่อทำการศึกษาและจัดทำแผนแม่บท การพัฒนาท่าเรือฯ ในรายละเอียด โดยนำผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องการกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาท่าเรือและการ พัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจในระดับสากลทำการศึกษาโดยอาจเริ่มจากพิจารณาทางเลือกของการลงทุนในกรณีต่าง ๆ ดังนี้ (1) กรณีพัฒนาท่าเรือสินค้าฝังอันดามันเพียงอย่างเดียว (2) กรณีพัฒนาท่าเรือสินค้าฝั่งอันดามันร่วมกับการพัฒนา สะพานเศรษฐกิจเพื่อขนส่งน้ำมันดิบไปยังฝั่งอ่าวไทย และ (3) กรณีพัฒนาท่าเรือสินค้าฝั่งอันดามันร่วมกับการพัฒนา พื้นที่อุตสาหกรรมในภาคใต้ นอกจากนี้ ควรพิจารณาทิศทางการพัฒนาท่าเรือของประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะการ ใช้ประโยชน์ท่าเรือทวายเป็นประตูการค้าฝั่งตะวันตก ไปประกอบการพิจารณาการศึกษาดังกล่าว และรายงานผลการ ศึกษาความเหมาะสมของทางเลือก และความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจของการพัฒนาในกรณีต่าง ๆ ให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน และนำเสนอคณะกรรมการ รศก. พิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
36086 | ผลการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ ครั้งที่ 4/2553 | นร | 15/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทาง
เศรษฐกิจ (กรอ.) เรื่อง ข้อเสนอแนวทางและมาตรการการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย จากความขัดแย้งทางการเมือง ในการประชุมครั้งที่ 4/2553 เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2553 ตามที่เลขาธิการคณะ กรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการ กรอ. เสนอ ดังนี้ 1. เห็นชอบกรณีให้ประชาชนสามารถนำค่าใช้จ่ายในส่วนค่าที่พักในโรงแรมที่มีใบอนุญาตถูกต้องตามพระ ราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 มาหักภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไม่เกิน 15,000 บาท โดยขยายขอบเขตตามที่คณะ รัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2553 และให้สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) มี ส่วนร่วมในการตรวจสอบความถูกต้อง และให้กระทรวงการคลังดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป 2. มอบหมายกระทรวงแรงงาน ดำเนินโครงการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มทักษะด้านภาษาให้กับพนักงาน และลูก จ้างในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระตามแนวทางของโครงการต้นกล้าอาชีพ โดยให้ ประสาน สทท. ในการใช้ฐานข้อมูลจากทะเบียนของศูนย์ประสานการช่วยเหลือผู้ประกอบอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จากวิกฤต เป็นฐานกลุ่มเป้าหมาย 3. มอบหมายกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับ สทท. ดำเนินโครงการศึกษาโครงสร้างอาชีพอิสระ ด้านการท่องเที่ยวที่อยู่นอกระบบประกันสังคม ตามที่ สทท. เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
36087 | การเสนอขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 | นร | 15/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทาง หลักเกณฑ์ และขั้นตอนการเสนอขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปี
งบประมาณ พ.ศ. 2554 ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ทั้งนี้ ให้สำนักงบประมาณแก้ไขถ้อยคำในหนังสือสำนักงบ ฃประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร 0716/22476 ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2553 หน้า 2 บรรทัดที่ 17 จากเดิม "2. ไม่ควร ผูกพันงบประมาณรายจ่ายข้ามปีในปีต่อ ๆ ไป" เป็น "2. ไม่ผูกพันงบประมาณรายจ่ายข้ามปีในปีต่อ ๆ ไป" ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
36088 | การประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ปี 2553/54 | พณ | 15/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการให้ดำเนินมาตรการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ปี 2553/54 โดย
วิธีการประกันรายได้เกษตรกร ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) ประธานกรรมการนโยบายมันสำ ปะหลังเสนอ ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลังรับไปพิจารณาปรับปรุงแนวทางบริหารจัดการ ตลอดจน หลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินการในประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องก่อนการดำเนินการต่อไปด้วย ดังนี้ 1. การขึ้นทะเบียนเกษตรกร ให้ใช้ข้อมูลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังที่เข้าร่วมโครงการฯ ปี 2552/53 ที่มีอยู่แล้วมาเป็นฐานข้อมูลในการดำเนินการ โดยเปิดให้ขึ้นทะเบียนเฉพาะเกษตรกรรายใหม่ที่มีพื้นที่ เพาะปลูกเพิ่มกว่าที่เคยจดทะเบียนไว้เท่านั้น และให้มีมาตรการเพื่อดำเนินการสุ่มตรวจความถูกต้องของการเพาะปลูก ของเกษตรกรเป็นกรณี ๆ ไปตามความเหมาะสมและจำเป็นด้วย 2. งบประมาณดำเนินโครงการฯ ให้ปรับปรุงประมาณการค่าใช้จ่ายของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ เหมาะสมและสอดคล้องกับจำนวนเกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการจริง ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนลดลงจากที่ได้เคยมีการขึ้น ทะเบียนไว้แล้วมาก ทั้งนี้ ในส่วนของค่าบริหารโครงการเหมาจ่ายของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ให้ปรับอัตราเหมาจ่าย จากเดิมคนละ 350 บาท เป็นคนละ 200 บาท
|
||||||||||||||||||||||||
36089 | ขอรับการสนับสนุนเงินเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2553 เป็นต้นไป | พม | 15/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เบิกจ่ายค่าใช้
จ่ายในการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2553 เป็นต้นไป ตามหลักเกณฑ์และวิธีการเยียวยาให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ความไม่สงบ เมื่อ วันที่ 7 ตุลาคม 2551 และเหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่อง จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 งบ กลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในวงเงิน 100,000,000 บาท ตามที่กระทรวงการพัฒนา สังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ โดยให้ขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป ตามความเห็นของ สำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||
36090 | มาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบจากการชุมนุมทางการเมือง และผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวผ่านบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม | กค | 15/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบการปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์โครงการค้ำประกันสินเชื่อในลักษณะ Portfolio Guarantee Scheme ระยะที่ 2 โดยให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) แบ่งวงเงินจำนวนไม่เกิน 5,000 ล้านบาท จากวงเงินค้ำประกันรวม 30,000 ล้านบาท จากโครงการฯ เพื่อให้การค้ำประกันสินเชื่อของผู้ประกอบการที่ได้รับ ผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบจากการชุมนุมทางการเมืองและผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ทั้งนี้ ให้ บสย. สามารถกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมเพื่อให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น รวมทั้งการยกเว้นค่าธรรมเนียมการค้ำประกันในปี พ.ศ. 2553 ให้กับผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับการค้ำประกันจาก บสย. อยู่เดิมแล้ว และทรัพย์สินได้รับความเสีย หายในเหตุเพลิงไหม้จากเหตุการณ์ความไม่สงบจากการชุมนุมทางการเมือง สำหรับเงื่อนไขอื่น ๆ ให้ บสย. ดำเนิน การตามหลักเกณฑ์ที่ได้รับอนุมัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2553 ต่อไปเช่นเดิม 2. เห็นชอบการชดเชยค่าธรรมเนียมการค้ำประกันที่ บสย. ยกเว้นการเรียกเก็บจากลูกค้าตามข้อ 1 ในวง เงินไม่เกิน 37.5 ล้านบาท และให้เบิกตามที่เสียหายจริง โดยให้ บสย. ทำความตกลงกับสำนักงบประมาณเพื่อขอรับ การจัดสรรเป็นงบประมาณชดเชยรายได้ค่าธรรมเนียมค้ำประกันต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
36091 | ขออนุมัติดำเนินการโครงการส่งเสริมการผลิตเพื่อบริโภคและเสริมรายได้ในครัวเรือน | กษ | 15/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการการดำเนินงานโครงการส่งเสริมการผลิตเพื่อบริโภคและเสริมรายได้
ในครัวเรือน มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยสร้างงานให้เกษตรกรในช่วงที่รอการทำนา ทำให้มีการผลิตอาหารบริโภคในครัว เรือน ช่วยลดรายจ่ายในครัวเรือน และสร้างรายได้เสริมให้แก่เกษตรกร โดยมีเป้าหมายคือ เกษตรกรที่ยังไม่ทำการ ปลูกข้าวทั้งในเขตชลประทานและนอกเขตชลประทาน ประมาณ 1 ล้านครัวเรือน ใน 62 จังหวัด ตามที่กระทรวง เกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจจำนวนครัวเรือนใน เขตพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งในเขตชลประทานและนอกเขตชลประทานที่เป็นเป้าหมายของโครงการฯ ให้ถูกต้องครบถ้วนเพื่อ ประกอบการดำเนินการต่อไป สำหรับงบประมาณที่ใช้จะดำเนินโครงการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขอตกลงใน รายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
36092 | ขออนุมัติงบประมาณสนับสนุนโครงการจัดหาระบบบริหารจัดการและควบคุมภัยคุกคามทางอินเทอร์เน็ต | นร | 15/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงยุติธรรมได้เข้าร่วมในการดำเนินโครงการจัดหาระบบบริหารจัดการ
และควบคุมภัยคุกคามทางอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นอีกหน่วยงานหนึ่ง ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
36093 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การให้ความช่วยเหลือ การส่งเสริม หรือการสนับสนุน วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือองค์การเอกชน จากกองทุนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. .... | ปง | 08/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การให้ความช่วย
เหลือ การส่งเสริม หรือการสนับสนุน วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือองค์การเอกชน จากกองทุนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. .... ตามที่ประธานกรรมการส่งเสริม วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการ ต่อไปได้ โดยร่างกฎกระทรวงฯ มีสาระสำคัญดังนี้ 1. กำหนดบทนิยาม "วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม" เพื่อให้ครอบคลุมถึงผู้ที่ประสงค์จะขอรับความ ช่วยเหลือ ส่งเสริม หรือสนับสนุน 2. กำหนดคุณสมบัติผู้ยื่นคำขอรับความช่วยเหลือ ส่งเสริม หรือสนับสนุนคำขอฯ โดยแยกเป็น 3 ประเภท คือ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และองค์การเอกชน เพื่อให้เกิดความ ชัดเจนในคุณสมบัติของผู้ยื่นคำขอแต่ละประเภท 3. กำหนดหลักเกณฑ์การยื่นคำขอฯ และแบบคำขอฯ เพื่ออำนวยความสะดวกและไม่ก่อภาระแก่ผู้ยื่นคำขอ 4. กำหนดเงื่อนไขการขอรับความช่วยเหลือ ส่งเสริม หรือสนับสนุน โดยคำนึงถึงความจำเป็นทางเศรษฐ กิจและสถานะทางการเงินการลงทุน เป็นธุรกิจที่ก่อให้เกิดการจ้างงานหรือรายได้ หรือเชื่อมโยงกับธุรกิจอื่น เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||
36094 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ (นักวิเคราะห์งบประมาณทรงคุณวุฒิ) (สำนักนายกรัฐมนตรี) (นางสาวลินดา สุจิกุล) | นร | 08/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางสาวลินดา สุจิกุล ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ
(นักวิเคราะห์งบประมาณทรงคุณวุฒิ) สำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2552 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
36095 | ขอความเห็นชอบการทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการรับคำร้องขอรับประโยชน์ทดแทนเงินบำนาญแห่งชาติ สาธารณรัฐเกาหลี | รง | 08/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการรับคำร้องขอรับประโยชน์ทดแทนเงิน
บำนาญแห่งชาติกับสำนักงานเงินบำนาญแห่งชาติ สาธารณรัฐเกาหลี โดยปลัดกระทรวงแรงงานเป็นผู้ลงนามร่วมกับ ประธานสำนักงานเงินบำนาญแห่งชาติ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดผลดีต่อการขอรับเงินคืนของแรงงานไทยที่ถูกหักเงินรายได้ เข้ากองทุนบำนาญแห่งชาติ สาธารณรัฐเกาหลี ทำให้มีความสะดวกรวดเร็ว ลดโอกาสสูญเสียชีวิตในการได้รับเงินคืน ซึ่งจะมีผลทำให้มีรายได้จากการทำงานของแรงงานไทยที่ทำงานในสาธารณรัฐเกาหลีกลับประเทศเพิ่มมากขึ้น ตามที่ กระทรวงแรงงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
36096 | การดำเนินการเพื่อรองรับการเปิดตลาด AFTA | พณ | 08/06/2553 | |||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||
36097 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลทรายมูล ตำบลบางปลากด ตำบลโพธิ์แทน อำเภอองครักษ์ และตำบลบ้านพริก อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก พ.ศ. .... | คค | 08/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่
ตำบลทรายมูล ตำบลบางปลากด ตำบลโพธิ์แทน อำเภอองครักษ์ และตำบลบ้านพริก อำเภอบ้านนา จังหวัดนคร นายก พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลทรายมูล ตำบลบางปลากด ตำบลโพธิ์แทน อำเภอองครักษ์ และตำบลบ้านพริก อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก เพื่อขยายทางหลวงชนบท นย. 3007 ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนิน การต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
36098 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการขอใบสำคัญสมควรเดินอากาศ พ.ศ. .... | คค | 08/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการขอใบสำคัญสมควร
เดินอากาศ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งให้สำนักงานคณะกรรม การกฤษฎีกาจำหน่ายเรื่องนี้ออกจากสารบบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
36099 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1356 สายทางแยกเข้าสะพานข้ามแม่น้ำโขงที่อำเภอเชียงของ ในเขตท้องที่อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | คค | 08/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริม
ทรัพย์เพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1356 สายทางแยกเข้าสะพานข้ามแม่น้ำโขงที่อำเภอเชียงของ ในเขตท้อง ที่อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้การเวนคืนอสังหา ริมทรัพย์เพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1356 สายทางแยกเข้าสะพานข้ามแม่น้ำโขง ในท้องที่อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ระหว่าง กม. 0+000-5+220 รวมระยะทาง 5.220 กิโลเมตร เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อเชื่อมต่อกับโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงตามแนวเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ (ห้วยทราย-เชียงของ) ซึ่งเป็นส่วน หนึ่งของโครงการพัฒนาแนวเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ ของกลุ่มประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ตามที่กระทรวงคมนาคม เสนอ และส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนิน การต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
36100 | ผลการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนและการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 16 | พณ | 08/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนและการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในช่วง
การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 16 ระหว่างวันที่ 6-9 เมษายน 2553 ณ กรุงฮานอย และมอบหมายหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยในส่วนของการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนได้มี การพิจารณาประเด็นการมีผลบังคับใช้ของความตกลงด้านเศรษฐกิจของอาเซียน ได้แก่ 1. ASEAN Trade In Goods Agreement (ATIGA) ไทยและฟิลิปปินส์ได้จัดทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) เรื่อง ข้าว และรัฐมนตรีเศรษฐกิจทั้งสองประเทศได้ลงนามใน MOU ดังกล่าว เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2553 ทำให้ไทยสามารถ ดำเนินการภายในประเทศเพื่อให้สัตยาบัน ATIGA ได้ภายในเดือนพฤษภาคม 2553 2. Vietnam''s Petroleum Products เวียดนามอยู่ระหว่างปรับปรุงตารางการลดภาษีสินค้าปิโตรเลียมที่เดิม อยู่ในรายการยกเว้นทั่วไป (General Exclusion List : GE) โดยเวียดนามต้องดำเนินการเช่นเดียวกับประเทศสมาชิก อื่นที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน เช่น กัมพูชา ซึ่งจะต้องเริ่มลดภาษีในปี พ.ศ. 2554 รวมถึงการทบทวนตารางการลด ภาษีดังกล่าวในช่วงเวลาที่เหมาะสมด้วย โดยเวียดนามจะเสนอตารางการลดภาษีดังกล่าวให้ที่ประชุม AEM ครั้งที่ 42 ในเดือนสิงหาคม 2553 ให้การรับรองต่อไป 3. ASEAN Comprehensive Investment Agreement (ACIA) อินโดนีเซียยืนยันที่จะปฏิบัติตามข้อผูกพันใน การปรับปรุงรายการข้อสงวนด้านการลงทุน โดยจะเร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในเดือนพฤษภาคมศกนี้ 4. AEM Road Show อาเซียน 8 ประเทศตกลงจะเข้าร่วม Road Show ณ เมือง Seattle และ Washington DC โดยมีรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน 5 ประเทศ (มาเลเซีย บรูไน ลาว อินโดนีเซีย ไทย) รัฐมนตรีช่วยว่าการของเวียด นามและฟิลิปปินส์ ส่วนสิงคโปร์จะส่งเอกอัครราชทูตที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ร่วมเดินทางไปจัด AEM Road Show โดยมี ภาคเอกชนที่จะร่วมคณะ ได้แก่ อุตสาหกรรมสิ่งทอ โลจิสติกส์ ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า และอาหาร และให้มีการ หารือ TIFA Council อย่างไม่เป็นทางการ ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี โดยให้มีการหารือระหว่างอาเซียนก่อนพบกับฝ่าย สหรัฐฯ
|
.....