ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1810 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 36181 - 36200 จากข้อมูลทั้งหมด 124240 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
36181 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลแจระแม ตำบลในเมือง และตำบลปทุม อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี พ.ศ. .... | คค | 25/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบล
แจระแม ตำบลในเมือง และตำบลปทุม อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่ตำบลแจระแม ตำบลในเมือง และตำบลปทุม อำเภอเมืองอุบลราช ธานี จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อสร้างและขยายทางหลวงชนบท สายเชื่อมระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 231 กับถนนสาย ค 3 ตามโครงการผังเมืองรวมเมืองอุบลราชธานี-วารินชำราบ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
36182 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลในเมือง อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ พ.ศ. .... | คค | 25/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบล
ในเมือง อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้อง ที่ตำบลในเมือง อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ เพื่อสร้างทางหลวงชนบทตามโครงการผังเมืองรวมเมืองชัยภูมิ ที่ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
36183 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดการขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวมต่อไปอีกหนึ่งปี จำนวน 11 ฉบับ และต่อไปอีกห้าปี จำนวน 1 ฉบับ) | มท | 25/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดการขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวม
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวมต่อไปอีก 1 ปี จำนวน 11 ฉบับ และ ต่อไปอีก 5 ปี จำนวน 1 ฉบับ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ พิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
36184 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบรรทุกของรถที่ใช้บรรทุกคน สัตว์ หรือสิ่งของ พ.ศ. .... | มท | 25/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบรรทุกของรถที่ใช้บรรทุกคน สัตว์ หรือ สิ่งของ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดย ร่างกฎกระทรวงฯ มีสาระสำคัญดังนี้ 1.1 กำหนดหลักเกณฑ์การบรรทุกตามประเภทของรถ ได้แก่ รถโรงเรียน รถบรรทุก รถบรรทุกคน โดยสาร รถยนต์ที่ประกอบตัวถังสำเร็จรูปจากต่างประเทศ และรถยนต์ประเภทอื่น โดยกำหนดขนาดความกว้าง ความยาว และความสูงของการบรรทุก 1.2 กำหนดหลักเกณฑ์การบรรทุกของรถพ่วงของรถยนต์ตามขนาดความกว้าง ความยาว และความ สูงของการบรรทุก 1.3 กำหนดอัตราการบรรทุกตามน้ำหนักของประเภทรถ ได้แก่ รถจักรยานยนต์ และรถจักรยาน ยนต์ที่มีพ่วงข้าง 1.4 กำหนดอัตราการบรรทุกตามน้ำหนักของรถจักรยานตั้งแต่สามล้อขึ้นไป ได้แก่ รถจักรยานตั้ง แต่สามล้อขึ้นไปสำหรับบรรทุกสิ่งของ และรถจักรยานตั้งแต่สามล้อขึ้นไปสำหรับบรรทุกคน 1.5 กำหนดหลักเกณฑ์การบรรทุกของรถม้าสี่ล้อบรรทุกสิ่งของตามขนาดความกว้าง ความยาว และ ความสูงของการบรรทุก 1.6 กำหนดอัตราการบรรทุกของรถม้าสองล้อ และรถม้าสี่ล้อ 2. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงคมนาคมเกี่ยวกับการกำหนดความสูงของการบรร ทุกสิ่งของ หรือบรรทุกรถยนต์ การกำหนดหลักเกณฑ์การบรรทุกสำหรับรถบรรทุกและรถพ่วง และการกำหนด ความสูงของรถที่ประกอบตัวถังสำเร็จรูปจากต่างประเทศ รวมทั้งการกำหนดความหมายของคำว่า "รถยนต์อื่น" ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
36185 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอรับใบอนุญาต การอนุญาต อายุใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาต ให้เข้าไปดำเนินการในแหล่งซากดึกดำบรรพ์ที่ขึ้นทะเบียนที่อยู่ในที่ดินของรัฐ พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการส่งหรือนำซากดึกดำบรรพ์ หรือซากดึกดำบรรพ์ที่ได้ถูกแปรสภาพหรือเปลี่ยนแปลงเป็นรูปลักษณะอื่นซึ่งเป็นซากดึกดำบรรพ์ที่พบในราชอาณาจักรออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ. .... จำนวน 2 ฉบับ | ทส | 25/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงจำนวน 2 ฉบับ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ดังนี้ 1.1 ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอรับใบอนุญาต การอนุญาต อายุใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาต ให้เข้าไปดำเนินการในแหล่งซากดึกดำ บรรพ์ที่ขึ้นทะเบียนที่อยู่ในที่ดินของรัฐ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการ ขอรับใบอนุญาต การอนุญาต อายุใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาต ให้เข้าไป ดำเนินการในแหล่งซากดึกดำบรรพ์ที่ขึ้นทะเบียนที่อยู่ในที่ดินของรัฐ ตามมาตรา 5 และมาตรา 24 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ พ.ศ. 2551 กำหนดให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ กำหนดในกฎกระทรวง 1.2 ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการส่งหรือนำซากดึกดำบรรพ์ หรือ ซากดึกดำบรรพ์ที่ได้ถูกแปรสภาพหรือเปลี่ยนแปลงเป็นรูปลักษณะอื่นซึ่งเป็นซากดึกดำบรรพ์ที่พบในราชอาณา จักรออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการส่งหรือนำ ซากดึกดำบรรพ์ หรือซากดึกดำบรรพ์ที่ได้ถูกแปรสภาพ หรือเปลี่ยนแปลงเป็นรูปลักษณะอื่น ซึ่งเป็นซากดึกดำ บรรพ์ที่พบในราชอาณาจักรออกนอกราชอาณาจักร ตามมาตรา 5 และมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครอง ซากดึกดำบรรพ์ พ.ศ. 2551 กำหนดให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง 2. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปพิจารณา ด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ 2.1 ร่างกฎกระทรวงตามข้อ 1.1 เกี่ยวกับการกำหนดเงื่อนไขในการขอรับใบอนุญาตเข้าไปดำเนิน การในแหล่งซากดึกดำบรรพ์ที่ขึ้นทะเบียนที่อยู่ในที่ดินของรัฐ ควรกำหนดให้ชัดเจนว่า ต้องเป็นการอนุญาตเป็น หนังสือจากหน่วยงาน และควรกำหนดประเภทของการดำเนินการที่สามารถอนุญาตให้เข้าไปดำเนินการในเขต แหล่งซากดึกดำบรรพ์ที่ขึ้นทะเบียนได้ เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมการศึกษาและเผยแพร่แหล่งซากดึกดำบรรพ์ ที่ขึ้นทะเบียนที่อยู่ในที่ดินของรัฐ รวมทั้งเป็นการจำกัดประเภทของการดำเนินการที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับ แหล่งซากดึกดำบรรพ์ให้สามารถกระทำได้เท่าที่จะเป็นและเหมาะสมเท่านั้น 2.2 ร่างกฎกระทรวงตามข้อ 1.2 เกี่ยวกับการส่งหรือนำออกนอกราชอาณาจักรซึ่งซากดึกดำบรรพ์ ว่าจะต้องมีการตรวจพิสูจน์โดยเจ้าหน้าที่ก่อนการอนุญาตเพื่อให้เกิดความชัดเจน ควรกำหนดตำแหน่งข้าราชการ ในสังกัดกรมทรัพยากรธรณีที่สามารถทำการตรวจพิสูจน์ หรือกำหนดผู้ทำหน้าที่ตรวจพิสูจน์ในลักษณะของคณะ กรรมการ ส่วนกรณีที่กำหนดให้ผู้ขอรับใบอนุญาตต้องจัดหาหลักประกันเป็นจำนวนร้อยละห้าของราคาประเมิน ซากดึกดำบรรพ์กลับเข้ามาในราชอาณาจักรตามระยะเวลาที่กำหนดในใบอนุญาต โดยมิได้ระบุถึงที่มาของราคา ประเมิน หรือผู้กำหนดราคาประเมินของซากดึกดำบรรพ์ว่า ได้ถูกกำหนดขึ้นอย่างเป็นธรรมจากบุคคลที่มีความรู้ /ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับซากดึกดำบรรพ์ ไม่ใช่การประเมินโดยปราศจากหลักการ หรือผู้มีความรู้/ความสามารถ |
|||||||||||||||||||||||||||
36186 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันตามมาตรา 23 งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 | กก | 25/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ดังนี้ 1. ค่าเช่าสำนักงาน จำนวน 3 แห่ง (ททท. สำนักงานหาดใหญ่ ททท. สำนักงานตรัง และ ททท. สำนัก งานชุมพร) ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ 2. ค่าเช่ารถบรรทุก ขนาด 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ แบบดับเบิลแค็ป จำนวน 3 แห่ง (ททท. สำนักงาน ชุมพร ททท. สำนักงานตรัง และ ททท. สำนักงานนราธิวาส) ระยะเวลาเช่าไม่เกิน 3 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553-2555 ปีละ 626,400 บาท ภายในวงเงินรวม 1,879,200 บาท โดยมีอัตราค่าเช่าไม่เกินอัตราที่ กระทรวงการคลังกำหนดไว้ในระยะเวลา 5 ปี ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์และแนวทางการดำเนิน การแล้ว โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 เนื่องจากเป็นการเช่าต่อเนื่อง ทั้งนี้ ยกเว้นการเช่ารถของ ททท. สำนักงานนราธิวาส ให้จัดทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันหลังจากที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้ว เนื่องจากเป็นการ เช่าสัญญาใหม่ 3. ค่าเช่ารถนั่งส่วนกลาง (รถยนต์ส่วนบุคคล 4 ประตู ขนาดปริมาตรกระบอกสูบไม่เกิน 1,600 ซีซี.) จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ ททท. สำนักงานเชียงราย ททท. สำนักงานชุมพร และ ททท. สำนักงานตรัง ระยะเวลาเช่า ไม่เกิน 3 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553-2555 ปีละ 738,000 บาท ภายในวงเงินรวม 2,214,000 บาท โดยมีอัตราค่าเช่าไม่เกินอัตราที่กระทรวงการคลังกำหนดไว้ในระยะเวลา 5 ปี ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลัก เกณฑ์และแนวทางการดำเนินการแล้ว โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 4. ทั้งนี้ ททท. จะต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์ กฎหมาย ระเบียบ ตลอดจนมาตรฐานของทางราช การ โดยคำนึงถึงความคุ้มค่าและประหยัดก่อนลงนามในสัญญาด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
36187 | การกำหนดหลักเกณฑ์การเข้าร่วมทุนกับนิติบุคคลอื่นของสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) | วท | 25/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบหลักเกณฑ์การเข้าร่วมทุนกับนิติบุคคลอื่นของสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ โดยหลักเกณฑ์การเข้าร่วมทุนกับนิติบุคคลอื่นของสถาบันฯ มีสาระ สำคัญดังนี้ 1.1 กำหนดความหมายของคำว่า "สถาบัน" "คณะกรรมการ" "รัฐมนตรี" และ "การเข้าร่วมทุน" 1.2 ในแต่ละปีงบประมาณ การเข้าร่วมทุนของสถาบัน ให้มีวงเงินรวมทั้งสิ้นไม่เกินร้อยละสิบของเงินอุด หนุนทั่วไปที่รัฐบาลจัดสรรให้ในปีงบประมาณนั้น 1.3 กำหนดหลักเกณฑ์การเข้าร่วมทุนกับนิติบุคคลที่มีภาคเอกชนร่วมอยู่ด้วยและนิติบุคคลที่เป็นหน่วย งานของรัฐ 1.4 กำหนดให้ต้องพิจารณาข้อเสนอโครงการในรายละเอียดในการเข้าร่วมทุนกับนิติบุคคลที่มีภาคเอก ชนร่วมอยู่ด้วย 1.5 กำหนดให้ตั้งคณะทำงานขึ้นคณะหนึ่งเพื่อทำหน้าที่ศึกษาและวิเคราะห์โครงการ 1.6 ให้มีการติดตามและกำกับดูแลโดยให้มีการดำเนินงานตามที่กำหนดในสัญญา และรายงานผลการ ดำเนินงาน ความคืบหน้า ปัญหา และแนวทางแก้ไข 1.7 ต้องจัดให้มีการลงนามสัญญาเข้าร่วมทุนกับนิติบุคคลอื่นที่มีภาคเอกชนร่วมอยู่ด้วย และต้องส่งร่าง สัญญาเข้าร่วมทุนให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจก่อนลงนามในสัญญา 2. ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นว่า ในการเข้าร่วมทุน กับนิติบุคคลอื่นของสถาบันฯ ต้องมีวงเงินที่สูงกว่า เนื่องจากการวิจัยและให้บริการเกี่ยวกับแสงซินโครตรอนจำเป็น จะต้องมีการจัดหาและบำรุงรักษาอุปกรณ์และครุภัณฑ์วิจัยชั้นสูงในการดำเนินงาน เช่น โครงการร่วมทุนสร้างสถาน ร่วมวิจัยเกี่ยวกับการสร้างระบบลำเลียงแสงซินโครตรอนนั้น จำเป็นต้องมีครุภัณฑ์ระบบลำเลียงแสง ครุภัณฑ์ประจำ ห้องปฏิบัติการ และครุภัณฑ์เพื่อการคำนวณและประมวลผล เป็นต้น รวมทั้งปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์การเข้าร่วมทุน กับนิติบุคคลอื่นฯ บางประการ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
36188 | การเปลี่ยนชื่อหน่วยงานในคณะกรรมการต่างๆ ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง (กระทรวงคมนาคม) (จำนวน 5 คณะ) | คค | 25/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการเปลี่ยนชื่อหน่วยงานในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง
(กระทรวงคมนาคม) จำนวน 5 คณะ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ 1. คณะกรรมการขนส่งแห่งอาเซียน 2. คณะกรรมการแห่งชาติเพื่อประสานงานกับองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ 3. คณะกรรมการแห่งชาติในการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานและเรือที่ประสบภัย 4. คณะกรรมการนโยบายการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบแห่งชาติ 5. คณะกรรมการผู้แทนรัฐบาลเพื่อพิจารณาทำความตกลงว่าด้วยการขนส่งทางอากาศกับรัฐบาล ต่างประเทศเป็นประจำ
|
|||||||||||||||||||||||||||
36189 | รายงานผลการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา (ระหว่างวันที่ 1 - 31 มกราคม 2553) | พณ | 25/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทาง
ปัญญา ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระหว่างวันที่ 1-31 มกราคม 2553 สามารถจับกุมได้ 252 คดี ยึดของกลาง ได้ 56,417 ชิ้น
|
|||||||||||||||||||||||||||
36190 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี พ.ศ. .... | ศธ | 25/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับ
สาขาวิชาของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดปริญญาในสาขาวิชา และอักษร ย่อสำหรับสาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ เพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการ กฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
36191 | การจัดทำสัญญาเช่าบ้านพัก สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ | พณ | 25/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการเช่าบ้านพักของนายสุทธิชาติ นิลคูหา ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริม
การค้าระหว่างประเทศ ณ นครมุมไบ ประเทศสาธารณรัฐอินเดีย เกินกว่า 3 ปีงบประมาณ โดยมีระยะเวลาการเช่า ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน 2553 ถึงวันที่ 14 เมษายน 2557 รวมระยะเวลาเช่า 4 ปี อัตราค่าเช่าเดือนละ 260,000 รูปี หรือปีละ 3,120,000 รูปี ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงพาณิชย์จัดทำสัญญาก่อหนี้ผูกพัน หลังจากที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี โดยอัตราค่าเช่าและเงื่อนไขต่าง ๆ ให้เป็นไปตามสัญญาที่กรมส่งเสริมการ ส่งออกจะได้ทำความตกลงไว้กับผู้ให้เช่า สำหรับค่าเช่าที่ต้องจ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 จำนวน 6,240,000 รูปี หรือเท่ากับ 5,616,000 บาท ให้กรมส่งเสริมการส่งออกเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายที่ได้รับการจัดสรร แล้ว ส่วนงบประมาณที่เหลือให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 ต่อไป ตามความ เห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
36192 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนา (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) (สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ) (นางสาวสุนทรี ศรีปรัชญากุล) | กร | 25/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางสาวสุนทรี ศรีปรัชญากุล ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนา
(นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมา จากพระราชดำริ ตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน 2552 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงานคณะ กรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
36193 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) (นางนันทวรรณ ชื่นศิริ) | วท | 25/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางนันทวรรณ ชื่นศิริ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนัก
งานปลัดกระทรวง กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
36194 | การใช้ประโยชน์ข้อมูลพื้นที่เพาะปลูกข้าว ปี 2552/53 รอบที่ 2 จากเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ | กษ | 25/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานสรุปผลการนำข้อมูลจากโครงการ
"การใช้เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศเพื่อติดตามและประเมินพื้นที่ข้าว ปี 2552/53 รอบที่ 2" ไปใช้ประโยชน์ในกระบวน การตรวจสอบข้อมูลการขึ้นทะเบียนพื้นที่เพาะปลูกข้าว ในโครงการประกันรายได้เกษตรกร สรุปได้ว่า 1. การตรวจสอบเปรียบเทียบข้อมูลในระดับแปลง ข้อมูลพื้นที่เพาะปลูกข้าว ปี 2552/53 รอบที่ 2 จาก เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ มาตราส่วน 1: 25,000 เป็นข้อมูลที่มีความละเอียด แต่ไม่สามารถนำไปตรวจสอบเปรียบ เทียบกับข้อมูลการทำประชาคมที่ขึ้นทะเบียนพื้นที่เพาะปลูกข้าวของเกษตรกรเป็นรายครัวเรือนได้เนื่องจากไม่มีขอบ เขตแปลงที่ดินของเกษตรกรในรูปของแผนที่สำหรับนำมาซ้อนทับกับข้อมูลภูมิสารสนเทศเพื่อทำการเปรียบเทียบใน ระดับรายแปลง 2. การตรวจสอบเปรียบเทียบข้อมูลในระดับตำบล ข้อมูลพื้นที่เพาะปลูกข้าว ปี 2552/53 จากเทคโนโล ยีภูมิสารสนเทศ มีรายละเอียดของข้อมูลถึงระดับตำบล แต่ไม่สามารถเปรียบเทียบได้ทั้งหมด เนื่องจากบางขอบเขต ตำบลในแผนที่ไม่สอดคล้องกับขอบเขตจริงในภาคพื้นดิน ซึ่งทำให้ข้อมูลที่คำนวณได้คลาดเคลื่อน และพบว่าในพื้นที่ ระดับตำบลบางพื้นที่มีข้อมูลการขึ้นทะเบียนแต่ไม่พบพื้นที่เพาะปลูกในการจำแนกจากข้อมูลภูมิสารสนเทศ 3. การตรวจสอบเปรียบเทียบข้อมูลระหว่างพื้นที่เพาะปลูกข้าว ปี 2552/53 รอบที่ 2 จากเทคโนโลยี ภูมิสารสนเทศและการขึ้นทะเบียนเกษตรกรในระดับอำเภอและจังหวัด (ยกเว้นภาคใต้) สามารถดำเนินการและเป็น ที่ยอมรับได้ เนื่องจากมีข้อมูลแผนที่ขอบเขตการปกครองที่มีมาตรฐานในการคำนวณเนื้อที่ ซึ่งผลของการตรวจสอบ เปรียบเทียบ พบว่าข้อมูลมีความแตกต่างกันค่อนข้างสูงโดยมีจังหวัดที่มีเนื้อที่แตกต่างกันมากกว่าร้อยละ 20 จำนวน 34 จังหวัด จาก 64 จังหวัด
|
|||||||||||||||||||||||||||
36195 | ผลการเยือนประเทศมาเลเซีย (ระหว่างวันที่ 27 - 30 มีนาคม 2553) | นร | 25/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานผู้แทนการค้าไทยรายงานสรุปผลการเยือนประเทศมาเลเซีย
ของประธานผู้แทนการค้าไทย และคณะนักธุรกิจไทย ระหว่างวันที่ 27-30 มีนาคม 2553 โดยวัตถุประสงค์ของการ เยือนประเทศมาเลเซียเพื่อพบหารือกับผู้แทนระดับสูงทั้งภาครัฐและภาคเอกชนของไทยและมาเลเซีย สรุปได้ดังนี้ 1. การพบหารือกับข้าราชการไทยและนักธุรกิจไทยในมาลาเซีย ประธานผู้แทนการค้าไทยได้สอบถาม ถึงปัญหาในการอาศัยและทำธุรกิจในมาเลเซียรวมทั้งลู่ทางและโอกาสในการประกอบธุรกิจในมาเลเซีย ซึ่งนักธุรกิจ ไทยเห็นว่า ยังมีโอกาสอีกมากในตลาดมาเลเซีย เช่น การผลิตสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคชาว มุสลิมเพื่อขยายตลาดในตะวันออกกลางหรือประเทศมุสลิมทั่วโลกเนื่องจากชาวมุสลิมทั่วโลกมีความเชื่อถือในอาหาร ฮาลาลของมาเลเซียและยอมรับในรสนิยมการบริโภคอาหารของชาวมุสลิมมาเลเซีย ประกอบกับตลาดมาเลเซียยังมี ความต้องการข้าวในรูปอาหารแช่แข็งที่สามารถเก็บไว้ได้นาน ซึ่งหากสามารถนำเข้าข้าวหอมมะลิเพื่อไปจำหน่ายใน ตลาดมาเลเซียได้ก็จะสามารถขยายตลาดข้าวไทยได้อีกมาก 2. การพบหารือกับ Dato'' Sri Mustapa Mohamed รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าระหว่างประเทศและ อุตสาหกรรมมาเลเซีย โดยมีประเด็นหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์และความร่วมมือทางการค้า การลงทุนระหว่างไทย กับมาเลเซีย โดยประธานผู้แทนการค้าไทยได้เสนอแนวคิดในการร่วมมือกันสองประเทศในการกำหนดยุทธศาสตร์ การค้าสินค้า บริการ และการลงทุนร่วมกัน เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาและขยายโอกาส โดยเลือกสาขาที่ทั้งสอง ฝ่ายจะได้รับประโยชน์ร่วมกัน และขอให้มาเลเซียพิจารณาส่งเสริมและจัดซื้อสินค้าเกษตรของไทยมากขึ้น โดยเฉพาะ ข้าว นอกจากนี้ ยังได้เสนอขอให้มีการจัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาธุรกิจร่วมไทย-มาเลเซีย (Thailand-Malaysia Joint Business Development Fund) ไปขยายตลาดในประเทศที่สาม เป็นต้น 3. การพบหารือกับ Tan Sri Bernard Giluk Dompok รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมการเพาะ ปลูกและโภคภัณฑ์มาเลเซีย เพื่อหารือเกี่ยวกับการร่วมมือด้านปาล์มน้ำมัน โดยทั้งสองฝ่ายเห็นควรให้มีความร่วมมือ ด้านปาล์มน้ำมันในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะการพัฒนาพันธุ์ วิธีการจัดการฟาร์ม และกฎเกณฑ์เกี่ยวกับพลังงานทด แทนและสิ่งแวดล้อม 4. การพบหารือกับ Datuk Ir. (Dr.) Mohamed Al Amin Hj. Abd Maji ประธาน Small and Medium Enterprise Corporation Malaysia (SME Corp.) โดยมีประเด็นหารือเกี่ยวกับการลงนามในบันทึกความเข้าใจเพื่อ พัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (MOU) ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นควรผลักดันให้มีการลงนามในบันทึกความเข้า ใจดังกล่าวเพื่อผลประโยชน์ของสองประเทศและคำนึงถึงการร่วมกันขยายตลาดในประเทศที่สาม รวมทั้งได้หารือใน เรื่องการแลกเปลี่ยนข้อมูลและการจัดกิจกรรมร่วมกัน เพื่อประโยชน์ต่อนักธุรกิจกลุ่ม SME ของทั้งสองประเทศ โดย มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน การช่วยประชาสัมพันธ์งาน SME ที่ทั้งสองฝ่ายจัดขึ้น และการจัดกิจกรรมร่วม กันเพื่อเพิ่มศักยภาพของทั้งสองกลุ่มให้มีความเข้มแข็งขึ้น 5. การพบหารือกับ Datuk Rohana Tan Sri Mahmood ประธาน Kuala Lumpur Business Club (KLBC) ผลการหารือมีความเห็นร่วมกันว่า หากมีสิ่งใดที่ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันได้ควรผลักดันให้มีการดำเนินการ โดยธุรกิจอุตสาหกรรมที่ไทยให้ความสนใจร่วมมือกับมาเลเซีย เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ สิ่งทอ อาหาร การท่องเที่ยว ปาล์มน้ำมัน เป็นต้น โดยเฉพาะความร่วมมือเรื่องอาหารฮาลาล เนื่องจากไทยและมาเลเซียมีศักยภาพ จึงควรมีการ ผลักดันให้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
|
|||||||||||||||||||||||||||
36196 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (สำนักนายกรัฐมนตรี) (นายสมชาย ศักดาเวคีอิศร) | นร | 25/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายสมชาย ศักดาเวคีอิศร ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านนโยบายและ
แผนงาน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2552 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
36197 | สถานการณ์เศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/2553 และแนวโน้มปี 2553 | นร | 25/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||
36198 | ผลการประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของมาบตาพุด ครั้งที่ 1/2553 | นร | 25/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอผล
การประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของมาบตาพุด ครั้งที่ 1/2553 เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2553 โดยคณะ ทำงานฯ ได้มีมติดังนี้ 1. รับทราบความก้าวหน้าโครงการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของมาบตาพุดและบริเวณใกล้เคียงจังหวัดระยอง 2. มอบหมายให้เทศบาลเมืองมาบตาพุดเสนอเรื่องให้กระทรวงมหาดไทยขอผ่อนผันระยะเวลาการดำเนิน โครงการขนถ่ายขยะมูลฝอยออกจากบ่อฝังกลบขยะของเทศบาลเมืองมาบตาพุดต่อคณะรัฐมนตรี พร้อมทั้งนำเสนอ เรื่องดังกล่าวต่อปลัดกระทรวงการคลังในฐานะประธานกรรมการกลั่นกรองโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะ ที่ 2 ควบคู่กันไปด้วย 3. มอบหมายให้สาธารณสุขจังหวัดระยองจัดทำรายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อจะ ได้ทราบจำนวนบุคลากรในปัจจุบันและประมาณความต้องการในอนาคตเพื่อรองรับการให้บริการประชาชนได้อย่าง พอเพียง และจัดทำสรุปผลการตรวจสุขภาพประชาชน เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการแก้ไขปัญหาและจัดบริการสาธารณ สุขในพื้นที่ 4. มอบหมายฝ่ายเลขานุการ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาทบทวนรายละเอียดเกี่ยวกับแผนงาน พัฒนาระบบเฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อมในประเด็นความชัดเจนในการบริหารจัดการศูนย์ข้อมูลชุมชนและระบบราย งานคุณภาพสิ่งแวดล้อม และความเป็นไปได้ในการขยายขอบเขตการดำเนินงาน ในกรอบวงเงินเท่าเดิม (34.5 ล้าน บาท) เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐเป็นไปอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด แล้วให้นำเสนอคณะทำงานฯ พิจารณาอีกครั้งในการประชุมครั้งต่อไป 5. มอบหมายการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กรมโรงงานอุตสาหกรรม จังหวัดระยอง และหน่วย งานที่เกี่ยวข้องประสานความร่วมมือภาคเอกชน ผู้ประกอบอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้ร่วมรับผิดชอบต่อสังคม (CSRs) โดยดำเนินการพัฒนาศักยภาพระบบเฝ้าระวังในสถานีตรวจวัดของภาคเอกชน เพื่อความสำเร็จในการแก้ปัญหาของ พื้นที่มาบตาพุดและบริเวณใกล้เคียง
|
|||||||||||||||||||||||||||
36199 | ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ฉบับที่ 4 ในเขตท้องที่จังหวัดกาฬสินธุ์ และจังหวัดมุกดาหาร และข้อกำหนดห้ามบุคคลออกนอกเคหสถาน | นร | 25/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ฉบับที่ 4 ในเขตท้องที่จังหวัดกาฬสินธุ์ และ จังหวัดมุกดาหาร 2. รับทราบข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 (1) แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการใน สถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 2 ซึ่งห้ามมิให้บุคคลออกนอกเคหสถานในเขตพื้นที่ประกาศสถานการณ์ ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ระหว่างเวลาตั้งแต่ 20.00 น. ของวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 ถึงเวลา 06.00 น. ของวัน ที่ 20 พฤษภาคม 2553
|
|||||||||||||||||||||||||||
36200 | แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปาส่วนภูมิภาค (นางดนุชา ยินดีพิธ) | มท | 25/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้แต่งตั้งนางดนุชา ยินดีพิธ เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปาส่วน
ภูมิภาค แทนพลตำรวจโท สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่ลาออก ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (25 พฤษภาคม 2553) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
.....