ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1808 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 36141 - 36160 จากข้อมูลทั้งหมด 124240 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
36141 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลบ้านฉาง ตำบลบางปรอก ตำบลบางหลวง ตำบลบางเดื่อ ตำบลบางคูวัด อำเภอเมืองปทุมธานี ตำบลคูบางหลวง ตำบลคลองพระอุดม อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี และตำบลคลองข่อย ตำบลบางพลับ อำเภอปากเกร็ด ตำบลละหาร ตำบลบางบัวทอง ตำบลพิมลราช ตำบลโสนลอย อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี พ.ศ. .... | คค | 02/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่
ตำบลบ้านฉาง ตำบลบางปรอก ตำบลบางหลวง ตำบลบางเดื่อ ตำบลบางคูวัด อำเภอเมืองปทุมธานี ตำบลคูบาง หลวง ตำบลคลองพระอุดม อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี และตำบลคลองข่อย ตำบลบางพลับ อำเภอปาก เกร็ด ตำบลละหาร ตำบลบางบัวทอง ตำบลพิมลราช ตำบลโสนลอย อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่ตำบลบ้านฉาง ตำบลบางปรอก ตำบลบางหลวง ตำบลบางเดื่อ ตำบลบางคูวัด อำเภอเมืองปทุมธานี ตำบลคูบางหลวง ตำบลคลองพระอุดม อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี และตำบลคลองข่อย ตำบลบางพลับ อำเภอปากเกร็ด ตำบลละหาร ตำบลบางบัวทอง ตำบล พิมลราช ตำบลโสนลอย อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี เพื่อสร้างและขยายทางหลวงชนบท สายถนนราช พฤกษ์ ตอนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 346-ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 345 กับสร้างและขยายถนนสายเชื่อม ระหว่างถนนราชพฤกษ์กับถนนกาญจนาภิเษก ที่แยกต่างระดับสาลิโข-แยกต่างระดับโค้งสามวัง และแยกต่างระดับ ไพร่ฟ้า-แยกต่างระดับบางโพธิ์ใต้ รวมทั้งถนนต่อเชื่อม ตามโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมต่อถนนราชพฤกษ์-ถนน กาญจนาภิเษก ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้ว ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
36142 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 02/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขา
วิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการ ต่อไปได้ โดยร่างพระราชกฤษฎีกาฯ มีสาระสำคัญดังนี้ 1. กำหนดปริญญาในสาขาวิชา และอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาเทคโนโลยี สาขาวิชานิติศาสตร์ สาขาวิชา นิเทศศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์ และกำหนดปริญญาในสาขาวิชา และอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาสาธารณสุข ศาสตร์ในระดับปริญญาตรีเพิ่มขึ้น 2. กำหนดสีประจำสาขาวิชาเทคโนโลยี สาขาวิชานิติศาสตร์ สาขาวิชานิเทศศาสตร์ และสาขาวิชาวิศว กรรมศาสตร์
|
|||||||||||||||||||||||||||
36143 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าคาร์บอนทรงแบนรีดร้อน สำหรับงานโครงสร้างเครื่องจักรกลต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... | อก | 02/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าคาร์บอน
ทรงแบนรีดร้อน สำหรับงานโครงสร้างเครื่องจักรกลต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรม เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างพระราชกฤษฎีกาฯ มีสาระสำคัญดังนี้ 1. ยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าคาร์บอนรีดร้อน แผ่นม้วน แผ่นแถบ แผ่นหนา และแผ่นบาง สำหรับงานโครงสร้างเครื่องจักรกลต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. 2544 2. กำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าคาร์บอนทรงแบนรีดร้อนสำหรับงานโครงสร้างเครื่องจักรกล ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน เลขที่ มอก. 1501-2552 ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 4135 (พ.ศ. 2552) ออกตามความในพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 เรื่อง ยกเลิกมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสา หกรรมเหล็กกล้าคาร์บอนรีดร้อนแผ่นม้วน แผ่นแถบ แผ่นหนา และแผ่นบาง สำหรับงานโครงสร้างเครื่องจักรกล และ กำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าคาร์บอนทรงแบนรีดร้อน สำหรับงานโครงสร้างเครื่องจักรกล ลง วันที่ 29 ธันวาคม 2552
|
|||||||||||||||||||||||||||
36144 | การลงนามสัญญาเช่าพื้นที่บริเวณด้านหน้าอุโบสถวัดไทยลุมพินี ประเทศเนปาล | พศ | 02/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ ดังนี้ 1.1 การเช่าที่ดินเพิ่มเติม หมายเลขที่ดินแปลงที่ EC-3 เนื้อที่ขนาด 80 เมตร x 80 เมตร บริเวณด้าน หน้าอุโบสถวัดไทยลุมพินี เพื่อดำเนินการก่อสร้างสวนป่า ศาลาเจดีย์ สระน้ำ ธรรมจักร และสวนหิน โดยวัดไทยลุม พินีรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการก่อสร้าง 1.2 อนุญาตให้เอกอัครราชทูต ณ กรุงกาฐมาณฑุ ลงนามในสัญญาเช่าพื้นที่ดินดังกล่าว แทนสำนักงาน พระพุทธศาสนาแห่งชาติ 2. ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุด ที่เห็นควรพิจารณาตรวจ สอบและทำความเข้าใจบทกฎหมายทั้งที่อ้างถึงในร่างสัญญาฉบับนี้ ตลอดจนกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องของประเทศ เนปาล เพื่อที่จะสามารถปฏิบัติได้โดยถูกต้อง ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
36145 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงการคลัง) (นางดนุชา ยินดีพิธ) | กค | 02/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางดนุชา ยินดีพิธ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาการคลัง (นักวิชาการคลัง
ทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2553 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติ ครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
36146 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงการเช่ารถยนต์ราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 - 2557 | สธ | 02/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบตามที่ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเสนอว่าคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติให้ส่วนราชการ ต่าง ๆ เช่ารถยนต์ในระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี จึงเห็นควรให้กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรคติดต่อรับไป พิจารณาว่าหากดำเนินการเช่ารถยนต์ในระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี โดยไม่ขัดต่อกฎหมายหรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง ก็ ให้ดำเนินการเช่าในระยะเวลา 3 ปี 2. อนุมัติในหลักการการเช่ารถโดยสาร 12 ที่นั่ง ชนิดเครื่องยนต์เบนซินที่สามารถใช้ก๊าซ NGV ใน อัตราค่าเช่าต่อคันต่อเดือน 24,900 บาท โดยให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง ระยะเวลาการเช่ารถยนต์ จากเดิม 5 ปี เป็น 4 ปี 9 เดือน เนื่องจากขณะนี้สำนักงบประมาณอยู่ระหว่างการ ศึกษาเปรียบเทียบความคุ้มค่าระหว่างการเช่ากับการซื้อรถยนต์ จึงเห็นควรให้กรมควบคุมโรคดำเนินการเช่า รถยนต์ในระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี โดยมีอัตราค่าเช่าไม่เกินอัตราที่กำหนดไว้ในระยะเวลา 5 ปี โดยให้ขอทำความ ตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป ไปดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
36147 | รายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลกรณีพิเศษ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ครั้งที่ 1 ที่ครบกำหนดเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2552 | กค | 02/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตร
รัฐบาลกรณีพิเศษในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ครั้งที่ 1 ที่ครบกำหนดเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2552 จำนวน 10,000 ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้โดยออกตั๋วสัญญาใช้เงินอายุ 5 ปี จำนวน 10,000 ล้านบาท จากสถาบันการเงิน 2 แห่ง ประกอบด้วยธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารแห่ง โตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ จำกัด สาขากรุงเทพฯ แห่งละ 5,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเท่ากับอัตราต่ำสุดของ อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 6 เดือน ประเภทบุคคลธรรมดาของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 4 แห่ง (FDR) เฉลี่ย ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นฐานในการคำนวณอัตราดอกเบี้ยเงินกู้บวกด้วยส่วนต่าง (Spread) ร้อย ละ 0.89 ต่อปี โดยปรับอัตราดอกเบี้ย ทุกงวด 6 เดือน หากอัตรา FDR มีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง ได้เบิกเงินกู้จากตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าว จำนวน 10,000 ล้านบาท ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2552 เพื่อนำมาชำระ คืนต้นเงินกู้พันธบัตรรัฐบาลกรณีพิเศษฯ ที่ครบกำหนดเรียบร้อยแล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||
36148 | การรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การทำลายลำไยอบแห้ง ปี 2546 และปี 2547 โดยการรีไซเคิลเป็นพลังงานชีวมวล ตามข้อเสนอโครงการของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | กษ | 02/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.)
รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การทำลายลำไยอบแห้งปี 2546 และปี 2547 โดยการรีไซ เคิลเป็นพลังงานชีวมวลตามข้อเสนอโครงการของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งมีผลการดำเนินงานดังนี้ 1. ดำเนินการส่งมอบลำไยอบแห้งให้แก่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อทำการบดทำลายแล้ว จำนวน 42,195.75 ตัน (4,219,575 กล่อง) คิดเป็นร้อยละ 90.11 ของเป้าหมาย 2. จำหน่ายกล่องลำไยอบแห้ง จำนวนเงินทั้งสิ้น 24,054,176.25 บาท 3. การดำเนินการส่งมอบลำไยอบแห้งให้แก่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีใช้งบประมาณจากกอง ทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) จำนวน 1,821,385.72 บาท 4. การดำเนินการส่งมอบลำไยอบแห้งปี 2546 และปี 2547 ที่เก็บในคลังสินค้าของสหกรณ์การเกษตร ในจังหวัดลำพูน จำนวน 2 แห่ง และจังหวัดลำปาง จำนวน 1 แห่ง ตรวจพบลำไยอบแห้งในกล่องบางส่วนมีปริมาณ และน้ำหนักน้อยกว่าปกติ จึงได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้เป็นหลักฐานในเบื้องต้น รวมทั้งได้แต่งตั้งคณะกรรมการคัดแยก และตรวจนับปริมาณลำไยอบแห้งที่ได้รับความเสียหาย ประกอบด้วย ผู้แทนส่วนราชการในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ผู้แทน เกษตรกร และผู้แทน อ.ต.ก. เพื่อจะได้ทราบปริมาณลำไยอบแห้งที่เสียหาย และ อ.ต.ก. จะได้ดำเนินการเรียกร้อง ค่าเสียหายตามสัญญาหรือฟ้องร้องดำเนินคดีต่อไป 5. การดำเนินการส่งมอบและบดทำลายลำไยอบแห้งจะแล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม 2553
|
|||||||||||||||||||||||||||
36149 | รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรม ประจำเดือนเมษายน 2553 | อก | 02/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรม ประจำ
เดือนเมษายน 2553 สรุปได้ดังนี้ 1. อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า 1.1 สมาคมเหล็กโลก (World Steel Association) ได้ปรับตัวเลขประมาณการการบริโภคเหล็กของโลก (global apparent steel use) ในปี พ.ศ. 2553 ว่าจะมีการขยายตัวร้อยละ 10.7 เป็นผลมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐ กิจและความต้องการเหล็กที่เกิดขึ้นรวดเร็วและแข็งแกร่งกว่าที่คาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีนและอินเดีย 1.2 แนวโน้มของราคาแร่เหล็กจะเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว จึงทำให้ความต้องการใช้ที่ เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้กำลังการผลิตของเหมืองแร่เหล็กขยายตัวไม่ทันต่อความต้องการ 2. อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 2.1 แนวโน้มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ประมาณการว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 27.68 จากการปรับ ตัวเพิ่มขึ้นของเครื่องปรับอากาศและตู้เย็นเป็นหลัก โดยประมาณการว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 57.29 และ 40.91 ตามลำดับ จากกำลังซื้อเริ่มกลับมาของตลาด EU และตลาดออสเตรเลีย ประกอบกับสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิสูงขึ้น 2.2 แนวโน้มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ประมาณการว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 38.09 จากการปรับ ตัวขึ้นของชิ้นส่วน IC ส่วนประกอบ HDD และเซมิคอนดักเตอร์เริ่มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะการผลิต HDD ที่ปรับ ตัวสูงขึ้น ซึ่งมีความต้องการจากสินค้าสำเร็จรูปค่อนข้างมาก โดยประมาณการว่า HDD และ IC จะปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 51.71 และ 33.55 ตามลำดับ
|
|||||||||||||||||||||||||||
36150 | รายงานผลการสอบบัญชีของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) สำหรับปีบัญชี 2552 และ 2551 | อก | 02/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอรายงานผลการสอบบัญชีของการนิคม
อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) สำหรับปีบัญชี 2552 และ 2551 ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ตรวจสอบรับรองแล้ว สำหรับปีบัญชี 2552 และ 2551 โดยเห็นว่า งบการเงินที่แสดงเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้ เสียและงบการเงินเฉพาะกิจการ แสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 30 กันยายน 2552 และ 2551 ผลการดำเนิน งานและกระแสเงินสด สำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของแต่ละปีของ กนอ. โดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตาม หลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
36151 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตโฆษณายาเสพติดให้โทษ และโฆษณาเกี่ยวกับการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. .... | สธ | 02/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการ
ออกใบอนุญาตโฆษณายาเสพติดให้โทษ และโฆษณาเกี่ยวกับการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. .... ที่สำนัก งานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยร่าง กฎกระทรวงฯ มีสาระสำคัญดังนี้ 1. กำหนดให้การโฆษณายาเสพติดให้โทษให้โฆษณาได้เฉพาะยาเสพติดให้โทษประเภท 2 หรือประเภท 3 2. กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการพิจารณาอนุญาต การขออนุญาต การออกใบอนุญาต และการขอรับใบแทนใบอนุญาตโฆษณายาเสพติดให้โทษ และการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดให้โทษ 3. กำหนดวิธีปฏิบัติของผู้รับอนุญาตโฆษณายาเสพติดให้โทษและผู้รับอนุญาตโฆษณาเกี่ยวกับการบำบัด รักษาผู้ติดยาเสพติดให้โทษ
|
|||||||||||||||||||||||||||
36152 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการยื่นอุทธรณ์ และวิธีพิจารณาอุทธรณ์คำสั่งเกี่ยวกับการโฆษณายาเสพติดให้โทษ และการโฆษณาการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. .... | สธ | 02/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการยื่นอุทธรณ์ และวิธีพิจารณา
อุทธรณ์คำสั่งเกี่ยวกับการโฆษณายาเสพติดให้โทษ และการโฆษณาการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ดำเนินการต่อไป ได้ โดยร่างกฎกระทรวงฯ มีสาระสำคัญดังนี้ 1. กำหนดให้การอุทธรณ์คำสั่งต้องทำเป็นหนังสือตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดโดยยื่นอุทธรณ์ด้วยตนเอง หรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนภายในระยะเวลาที่กำหนด และผู้อุทธรณ์อาจขอแก้ไขเพิ่มเติมอุทธรณ์ตลอดจนการ ขอถอนอุทธรณ์ก็ได้ ตามเงื่อนไขที่กำหนด 2. กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาอุทธรณ์ของคณะกรรมการการทำคำวินิจฉัยอุทธรณ์ รวมทั้ง การแจ้งผลการวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการให้ผู้อุทธรณ์
|
|||||||||||||||||||||||||||
36153 | การขายที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท. 3102 โฉนดเลขที่ 121502 | กค | 02/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้โอนกรรมสิทธิ์ขายที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท. 3102 โฉนด
เลขที่ 121502 แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร ตามเนื้อที่ที่ระบุในโฉนดพร้อมอาคารราชพัสดุเลขที่ 4477 ให้กับนายพินิจ ตั้งศิริวัฒนกุล ในราคาที่เสนอขอซื้อเป็นจำนวนเงิน 3,688,000 บาท โดยนายพินิจ ตั้งศิริวัฒนกุล ต้องเป็นผู้รับภาระค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุดังกล่าวตลอดจนอากร แสตมป์ ภาษีธุรกิจเฉพาะ ภาษีเงินได้ รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนดแทนกระทรวงการคลังทั้งสิ้น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
36154 | บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการขยายความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกระทรวงการต่างประเทศของสาธารณรัฐอิตาลีกับกระทรวงการต่างประเทศของราชอาณาจักรไทย | กต | 02/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการขยายความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ ของสาธารณรัฐอิตาลีกับกระทรวงการต่างประเทศของราชอาณาจักรไทย (Memorandum of Understanding on the Enhancement of Bilateral Cooperation between the Ministry of Foreign Affairs of the Italian Republic and the Ministry of Foreign Affairs of the Kingdom of Thailand) ซึ่งมีสาระสำคัญโดยสรุปเพื่อกระชับความ สัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกัน โดยสลับกันจัดการปรึกษาหารือในประเด็นความสัมพันธ์ทวิภาคีทุกด้านเป็น ประจำทุกปีที่กรุงโรมและที่กรุงเทพฯ ในระดับการเมืองหรือระหว่างเจ้าหน้าที่อาวุโส โดยบันทึกความเข้าใจฯ จะมี ผลบังคับใช้ในวันที่มีการลงนามและมีอายุการบังคับใช้เป็นเวลา 3 ปี รวมทั้งจะได้รับการต่ออายุโดยอัตโนมัติเป็น ระยะเวลาเท่ากัน (3 ปี) ต่อไป เว้นแต่จะมีการบอกเลิกด้วยการแจ้งอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้า 3 เดือน โดยภาคีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ทั้งนี้ ให้กระทรวงการต่างประเทศสามารถเปลี่ยนแปลงถ้อยคำในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ ของร่างบันทึกความเข้าใจฯ โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีก 2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ลงนามบันทึกความเข้าใจฯ
|
|||||||||||||||||||||||||||
36155 | รัฐบาลสาธารณรัฐเช็กเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย [นายมิลาน เซ็ดลาเช็ก (Mr. Milan Sedlacek)] | กต | 02/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายมิลาน เซ็ดลาเช็ก (Mr. Milan Sedlacek) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัคร
ราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐเช็กประจำประเทศไทยคนใหม่ สืบแทน นายอีแวน โฮเต็ก (Mr. Ivan Hotek) โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
36156 | แต่งตั้งข้าราชการ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายพนมพันธ์ ศิริวัฒนานุกุล และนางเพชรศรี ศิรินิรันดร์) | สธ | 02/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่ง
ระดับ 10 จำนวน 2 ราย ตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2551 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวง สาธารณสุขเสนอ ดังนี้ 1. นายพนมพันธ์ ศิริวัฒนานุกุล ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ 10 วช. ด้านเวชกรรมป้องกัน สาขา โรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม สำนักโรคจากการ ประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค 2. นางเพชรศรี ศิรินิรันดร์ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ 10 วช. (ด้านเวชกรรมป้องกัน) กลุ่ม งานวิจัยการให้บริการทางการแพทย์และสังคม กลุ่มโรคเอดส์ สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรม ควบคุมโรค
|
|||||||||||||||||||||||||||
36157 | สรุปผลการประชุมการประสานงานด้านนิติบัญญัติ | นร | 02/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบตามที่สำนักประสานงานการเมือง สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เสนอสรุปผลการประชุม การประสานงานด้านนิติบัญญัติ วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤษภาคม 2553 ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้ แทนราษฎร วันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม 2553 และวันอังคารที่ 1 มิถุนายน 2553 เรื่องด่วนที่ 1 ญัตติขอเปิดอภิ ปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และเรื่องด่วนที่ 2 ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ รัฐมนตรีเป็นรายบุคคล โดยมีความเห็นดังนี้ 1.1 ให้มีการถ่ายทอดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย 1.2 ให้คณะรัฐมนตรี และ ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาลอยู่ในห้องประชุม และให้พร้อมลงมติในวันถัดไปหลัง อภิปรายเสร็จแล้ว 1.3 ให้พรรคร่วมรัฐบาลคอยฟังคำอภิปราย โดยให้อยู่ในกรอบข้อบังคับการประชุมและรัฐธรรมนูญ 2. แจ้งให้สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยดำเนินการถ่ายทอดการประชุมสภาผู้แทนราษฎรดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2553 จนกว่าการพิจารณาญัตติดังกล่าวจะแล้วเสร็จ และแจ้งให้รัฐมนตรีทุกท่านทราบ ตามข้อ 1.2 และข้อ 1.3 แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบในวันพุธที่ 2 มิถุนายน 2553 ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
36158 | ผลการประชุมระดับผู้นำว่าด้วยความมั่นคงทางนิวเคลียร์ (ระหว่างวันที่ 12 - 13 เมษายน 2553 ณ กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา) | นร | 02/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอผลการประชุมระดับผู้นำว่าด้วย
ความมั่นคงทางนิวเคลียร์ (Nuclear Security Summit) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-13 เมษายน 2553 ณ ก รุงวอชิง ตัน โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) เป็นผู้แทนพิเศษ (Specia Envoy) เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ โดยสาระสำคัญของการประชุมสรุปได้ดังนี้ 1. ที่ประชุมพิจารณาเห็นว่ามาตรการที่มีประสิทธิผลในการป้องกันมิให้กลุ่มผู้ก่อการร้ายได้มาซึ่งวัสดุ นิวเคลียร์ ได้แก่ การเสริมสร้างความมั่นคงทางนิวเคลียร์ให้เข้มแข็ง โดยการคุ้มครองวัสดุนิวเคลียร์อย่างรัดกุม และ การป้องกันการลักลอบซื้อขายวัสดุนิวเคลียร์ รวมทั้งส่งเสริมบทบาทของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency : IAEA) ในเรื่องนี้โดยการจัดหาทรัพยากรและงบประมาณที่เพียงพอ 2. ที่ประชุมได้แสดงเจตนารมณ์ที่จะบรรลุเป้าหมายการเสริมสร้างความมั่นคงต่อวัสดุนิวเคลียร์ทั่วโลก ภายใน 4 ปี โดยยึดมั่นต่อพันธกรณีระหว่างประเทศ ส่งเสริมความเข็งแกร่งของกฎหมายในประเทศ และนโยบาย ระดับประเทศในเรื่องนี้ 3. ที่ประชุมรับทราบมาตรการที่ประเทศต่าง ๆ ได้ดำเนินการไปแล้วแ ละจะดำเนินการต่อไป รวมถึง การออกกฎระเบียบและการดำเนินมาตรการระดับประเทศ และการดำเนินการตามพันธกรณีระหว่างประเทศ โดย เฉพาะกรอบข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (United Nations Security Council : UNSC) ที่ 1540 (ค.ศ. 2004) อนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองทางกายภาพต่อวัสดุนิวเคลียร์ (Convention on the Physical Protec tion of Nuclear Material) และอนุสัญญาเพื่อปราบปรามการก่อการร้ายที่ใช้นิวเคลียร์ (International Convention for the Suppression of Acts Nuclear Terrorism) 4. ที่ประชุมรับทราบการประกาศมาตรการและข้อเสนอในเรื่องความมั่นคงทางนิวเคลียร์ของประเทศ ต่าง ๆ อาทิ แคนาดา ชิลี เม็กซิโก และยูเครน ซึ่งประกาศจะกำจัดแร่ยูเรเนียมเสริมสรรถนะสูง (highly enriched uranium) ที่อยู่ในครอบครอง โดยไทยประกาศจะเข้าร่วมความริเริ่มระดับโลกเพื่อต่อต้านการก่อการร้าย 5. ที่ประชุมได้รับรองแถลงการณ์การประชุมระดับผู้นำว่าด้วยความมั่นคงทางนิวเคลียร์ ณ กรุงวอชิง ตัน (Communique of the Washington Nuclear Security Summit) เพื่อแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองในการเสริม สร้างความแข็งแกร่งความมั่นคงทางนิวเคลียร์และลดภัยคุมคามจากการก่อการร้ายที่ใช้นิวเคลียร์
|
|||||||||||||||||||||||||||
36159 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 6/2552 | ทส | 02/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในฐานะฝ่ายเลขานุการ
คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเสนอมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ 6/2552 เมื่อ วันที่ 24 ธันวาคม 2552 ดังนี้ 1. ที่ประชุมเห็นชอบกับร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดหลัก เกณฑ์ วิธีการ ระเบียบปฏิบัติ และแนวทางในการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมสำหรับโครง การหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพตามข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของฝ่ายเลขานุการ รวมทั้งข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของคณะกรรม การแก้ไขปัญหาการปฏิบัติตามมาตรา 67 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่ได้เสนอให้มีการ ทบทวน ทั้งนี้ ให้ปรับแก้ถ้อยคำในข้อ 3 และข้อ 6 ให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่ง แวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 2. ที่ประชุมเห็นชอบให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยสำนักงานนโยบายและแผน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนำประกาศกระทรวงตามข้อ 1 เสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อพิจารณาลงนามต่อไป 3. ให้นำประเด็นข้อสังเกตและข้อห่วงใยของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเสนอต่อคณะกรรมการ แก้ไขปัญหาการปฏิบัติตามมาตรา 67 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
36160 | การรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง โครงการสนับสนุนการจัดตั้งห้องเรียนวิทยาศาสตร์ในโรงเรียน โดยการกำกับดูแลของมหาวิทยาลัย | วท | 02/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสำนักงานปลัดกระทรวงวิทยา ศาสตร์และเทคโนโลยี รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง โครงการสนับสนุนการจัดตั้งห้องเรียน วิทยาศาสตร์ในโรงเรียน (โครงการ วมว.) โดยการกำกับดูแลของมหาวิทยาลัย ครั้งที่ 6 ซึ่งมีผลการดำเนินงานดังนี้ 1. สนับสนุนนักเรียนห้องเรียนวิทยาศาสตร์ของโครงการไปแล้ว 2 รุ่น (ปีการศึกษา 2551 และ 2552) รวม 8 ห้องเรียน คือ ชั้น ม. 4 และ ม. 5 ใน 4 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โรงเรียนราช สีมาวิทยาลัย โรงเรียนดรุณสิกขาลัย และโรงเรียน มอ. วิทยานุสรณ์ และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ได้ดำเนินคัด เลือกนักเรียนรุ่นที่ 3 (ปีการศึกษา 2553) เสร็จเรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2553 โดยเพิ่มห้องเรียนวิทยา ศาสตร์อีก 1 แห่งในโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 2. สำหรับผลการดำเนินงานในส่วนของคณะกรรมการ/คณะทำงานของมหาวิทยาลัย-โรงเรียนที่เข้าร่วม โครงการ วมว. อาทิ 2.1 พัฒนาหลักสูตรการจัดการเรียนการสอนห้องเรียนวิทยาศาสตร์โครงการ วมว. ประจำปีการศึกษา 2551 และ 2552 ของทั้ง 4 โรงเรียน 2.2 จัดทำมาตรฐานหลักสูตรห้องเรียนวิทยาศาสตร์โครงการ วมว. 2.3 การจัดกิจกรรมร่วมระหว่างวิทยาลัย-โรงเรียน ในโครงการ วมว. 2.4 จัดสัมมนา "การบริหารโครงการ วมว." จำนวน 2 ครั้ง 2.5 ดำเนินงานสนับสนุนและส่งเสริมให้นักเรียนโครงการ วมว. เข้าสู่ระดับ World Class 3. ปัญหาและอุปสรรค รวมทั้งแนวทางแก้ไข โครงการ วมว. ยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทำให้นักเรียน กลุ่มเป้าหมายและผู้ปกครองยังมีความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิด เป้าหมายโครงการและการจัดการหลักสูตรที่ไม่ชัดเจน หรือคลาดเคลื่อน จึงได้เพิ่มช่องทางการประชาสัมพันธ์โครงการให้ทั่วถึง โดยเฉพาะให้เข้าถึงโรงเรียนในต่างจังหวัด มากขึ้น รวมทั้งจัดปฐมนิเทศและปัจฉิมนิเทศแก่นักเรียนในโครงการรวมทั้งผู้ปกครอง เป็นต้น
|