ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1806 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 36101 - 36120 จากข้อมูลทั้งหมด 124240 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
36101 | การแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามและเร่งรัดการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกร (เพิ่มเติม) (จำนวน 10 คน 1. นายนิพนธ์ วงษ์ตระหง่าน ฯลฯ) | นร | 08/06/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามและเร่งรัดการดำเนินงานโครงการประกัน
รายได้เกษตรกร (เพิ่มเติม จำนวน 10 คน ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) เสนอ ดังนี้ 1. นายนิพนธ์ วงษ์ตระหง่าน เป็นกรรมการและที่ปรึกษา 2. นายอำนวย ปะติเส เป็นกรรมการและที่ปรึกษา 3. นายนิพนธ์ พัวพงศกร เป็นกรรมการและที่ปรึกษา 4. นายอภิชาต พงษ์ศรีหดุลชัย เป็นกรรมการและที่ปรึกษา 5. ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณหรือผู้แทน เป็นกรรมการ 6. อธิบดีกรมการข้าวหรือผู้แทน เป็นกรรมการ 7. อธิบดีกรมวิชาการเกษตรหรือผู้แทน เป็นกรรมการ 8. ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ และภูมิสารสนเทศหรือผู้แทน เป็นกรรมการ 9. เจ้าหน้าที่ สปน. ที่ได้รับมอบหมาย เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ 10. เจ้าหน้าที่ สปน. ที่ได้รับมอบหมาย เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
|
|||||||||||||||||||||
36102 | รายงานผลการดำเนินงานโครงการการใช้เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศเพื่อการติดตามและประเมินพื้นที่ปลูกข้าวปี 2552/53 รอบที่ 2 ครั้งที่ 2 | วท | 08/06/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยี
อวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (สทอภ.) รายงานผลการดำเนินงานโครงการการใช้เทคโนโลยีภูมิ สารสนเทศเพื่อการติดตามและประเมินพื้นที่ปลูกข้าว ปี 2552/53 ครั้งที่ 2 ครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก รวม 48 จังหวัด สรุปผลการดำเนินงานได้ดังนี้ 1. ทำการถ่ายภาพและผลิตข้อมูล ระหว่างเดือนธันวาคม 2552 ถึงมีนาคม 2553 เพื่อนำมาใช้ในการ ประเมินพื้นที่เพาะปลูกข้าวในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก ประกอบด้วย ภาพจากดาวเทียมธีออสของประเทศไทย 813 ภาพ ภาพจากดาวเทียม LANDSAT ของสหรัฐอเมริกา 245 ภาพ และภาพจากดาวเทียม ALOS ของญี่ปุ่น 123 ภาพ รวมทั้งสิ้น 1,181 ภาพ 2. ทำการวิเคราะห์ข้อมูลภาพถ่ายจากดาวเทียมและจัดทำแผนที่พื้นที่เพาะปลูกข้าวปี 2552-53 รอบที่ 2 โดยดำเนินการแล้วเสร็จครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด ภาคตะวัน ออก 8 จังหวัด และภาคตะวันตก 4 จังหวัด พร้อมทั้งจัดทำเป็นแผนที่แสดงพื้นที่เพาะปลูกมาตราส่วน 1 : 25,000 (digital map) ลงรายละเอียดระดับตำบล โดยแบ่งตามระวางแผนที่ของกรมแผนที่ทหาร จำนวน 997 ระวาง และ รายงานข้อมูลพื้นที่ปลูกข้าวเป็นรายจังหวัด อำเภอ ตำบล และได้จัดส่งข้อมูลภาคเหนือให้กับกระทรวงเกษตรและ สหกรณ์แล้วเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2553 ข้อมูลภาคตะวันออกเฉียงเหนือจัดส่งเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2553 ภาค ตะวันออกและภาคตะวันตกจัดส่งเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2553 ตามลำดับ 3. จัดทำฐานข้อมูลพื้นที่ปลูกข้าวปี 2552/53 รอบที่ 2 และระบบแสดงแผนที่ทางอินเทอร์เน็ต โดยได้ ดำเนินการจัดทำฐานข้อมูลสำหรับโครงการ มีข้อมูลประกอบด้วยข้อมูลภาพถ่ายจากดาวเทียมที่ใช้ในโครงการ ข้อ มูลพื้นที่ และแผนที่แสดงพื้นที่ปลูกข้าว พร้อมทั้งพัฒนาระบบเรียกดูข้อมูลแผนที่ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (Web Map Service : WMS) เพื่อให้หน่วยงานร่วมโครงการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียกดูข้อมูลแผนที่ผ่านอินเทอร์เน็ต ได้ที่ http://203.146.189.125/rice/ 4. คณะทำงานเฉพาะกิจโครงการสำรวจพื้นที่การปลูกข้าวปี 2552/53 รอบที่ 2 ได้ร่วมกันตรวจสอบ ความถูกต้องของแผนที่ในพื้นที่ปลูกข้าว โดยการออกสำรวจข้อมูลภาคพื้นที่ดิน ทั้งนี้ จากผลการประเมินความถูก ต้องของแผนที่ พบว่า ข้อมูลแผนที่ปลูกข้าวจากการแปลตีความภาพถ่ายจากดาวเทียมมีความสอดคล้องกับข้อมูล ภาคพื้นดินบริเวณพื้นที่ที่ได้มีการสุ่มตรวจ และสอดคล้องกับการแจ้งขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรไว้แล้ว
|
|||||||||||||||||||||
36103 | สรุปประเด็นอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เมื่อวันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม 2553 ถึงวันอังคารที่ 1 มิถุนายน 2553 | นร | 08/06/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอเอกสารสรุปประเด็นอภิปราย
ทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ วันที่ 31 พฤษภาคม 2553 ถึงวันที่ 1 มิถุนายน 2553
|
|||||||||||||||||||||
36104 | รายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 4 มิถุนายน 2553 | กค | 08/06/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครง
การ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 4 มิถุนายน 2553 สรุปได้ดังนี้ 1. อนุมัติแล้ว จำนวน 41,572 โครงการ วงเงิน 349,960.44 ล้านบาท 2. การจัดสรร 2.1 รอจัดสรร จำนวน 4,490 โครงการ วงเงิน 44,543.74 ล้านบาท 2.2 จัดสรรแล้ว จำนวน 37,082 โครงการ วงเงิน 299,247.45 ล้านบาท 3. การจัดซื้อจัดจ้าง 3.1 ยอดจัดสรรที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อ 3.1.1 ทั้งหมด จำนวน 13,137 โครงการ วงเงิน 39,542.11ล้านบาท 3.1.2 ยังไม่เกิน 15 วันทำการ จำนวน 1,042 โครงการ วงเงิน 12,178.58 ล้านบาท 3.1.3 เกิน 15 วันทำการ จำนวน 12,095 โครงการ วงเงิน 27,363.53 ล้านบาท 4. ยอดจัดสรรที่จัดซื้อแล้ว จำนวน 23,945 โครงการ วงเงิน 259,705.34 ล้านบาท 5. มูลค่าจัดซื้อตามสัญญา จำนวน 23,945 โครงการ วงเงิน 235,622.07 ล้านบาท 6. การดำเนินการ 6.1 ยังไม่เริ่มเบิกจ่าย จำนวน 3,394 โครงการ วงเงิน 19,127.51 ล้านบาท 6.2 เบิกจ่ายแล้วบางส่วน (ยังไม่เสร็จ) จำนวน 19,230 โครงการ วงเงิน 130,383.36 ล้านบาท 6.3 เสร็จสมบูรณ์แล้ว จำนวน 1,321 โครงการ วงเงิน 26,755.80 ล้านบาท 6.4 เบิกจ่ายทั้งหมด จำนวน 20,551 โครงการ วงเงิน 157,139.16 ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||
36105 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายชีวเวช เวชชาชีวะ และนายขภัช นิมมานเหมินท์) | รง | 08/06/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน 2 ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรี
มีมติ (8 มิถุนายน 2553) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้ 1. นายชีวเวช เวชชาชีวะ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน 2. นายขภัช นิมมานเหมินท์ ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
|
|||||||||||||||||||||
36106 | ขออนุมัติหลักการและเห็นชอบแต่งตั้งประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ศาสตราจารย์ ดร. คณิต ณ นคร) (เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติหลักการและเห็นชอบแต่งตั้งประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ) | กห | 08/06/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการและแต่งตั้งให้ศาสตราจารย์ ดร. คณิต ณ นคร เป็นประธาน
คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ โดยมอบหมายให้ประธานกรรม การฯ ไปดำเนินการสรรหาคณะกรรมการในจำนวนที่เหมาะสม พร้อมกับเสนออำนาจหน้าที่และกระบวนการ ดำเนินการของคณะกรรมการ เพื่อให้ได้มาซึ่งการตรวจสอบและค้นหาความจริงของเหตุการณ์ความไม่สงบของ ประเทศที่เกิดขึ้น เพื่อนำไปสู่แผนงานและวิธีการปรองดองของบ้านเมือง ทั้งนี้ กระบวนการตรวจสอบข้อเท็จ จริงจะต้องมีความเป็นอิสระในการดำเนินการอย่างชัดเจน และเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบภายใน 15 วัน โดยระหว่างนี้ให้สำนักงานกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม รับผิดชอบเป็นฝ่ายเลขานุการของประธาน กรรมการไปก่อนจนกว่าจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการอีกครั้งหนึ่ง ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือก สุบรรณ) ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
36107 | รายงานสรุปสถานการณ์น้ำและมาตรการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง (วันที่ 7 มิถุนายน 2553) | กษ | 08/06/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานสรุปสถานการณ์น้ำและมาตรการ
แก้ไขปัญหาภัยแล้ง ดังนี้ 1. สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ ณ วันที่ 7 มิถุนายน 2553 มีปริมาตร น้ำทั้งหมดรวม 34,691 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 47 ของความจุรวม คิดเป็นปริมาตรน้ำใช้การได้ 10,846 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 15 ซึ่งน้อยกว่าปี พ.ศ. 2552 (มีปริมาตรน้ำรวม 41,066 ล้านลูกบาศก์เมตร คิด เป็นร้อยละ 56) รวม 6,375 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาณน้ำเท่ากับหรือน้อยกว่า ร้อยละ 30 รวม 12 อ่าง จากทั้งหมด 33 อ่าง และอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่มีปริมาณน้ำเท่ากับหรือน้อยกว่าร้อยละ 30 รวม 160 อ่าง จากทั้งหมด 367 อ่าง 2. มาตรการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง มีดังนี้ 2.1 มาตรการเฉพาะกิจ ได้ประกาศเลื่อนการทำนาปีในเขตโครงการชลประทานทุกโครงการที่รับน้ำ จากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ จากปกติเดือนพฤษภาคมเป็นประมาณกลางเดือนกรกฎาคม 2553 และได้บริหาร จัดการน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาในฤดูแล้งปีหน้า โดยน้ำที่ใช้สำหรับการอุปโภค-บริโภค และรักษาระบบนิเวศน์ จะจัด สรรน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 500 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนแควน้อย 500 ล้านลูกบาศก์เมตร และผันน้ำจากลุ่ม น้ำแม่กลองอีก 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมทั้งได้เสนอแผนที่จะเปลี่ยนระบบการปลูกพืชใหม่เพื่อลดปัญหาการ ขาดแคลนน้ำและปัญหาการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในนาข้าว เป็นต้น 2.2 มาตรการระยะกลางและระยะยาว ได้สั่งการให้กรมพัฒนาที่ดินวางแผนขุดสระเก็บน้ำในไร่นาเพื่อ ใช้เก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง และสั่งการให้กรมชลประทานจัดทำกรอบการพัฒนาการชลประทานให้เป็นไปตามมติ คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2550 ที่มอบหมายให้กรมชลประทานเป็นหน่วยงานกลางร่วมกับหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องดำเนินการตามแผนพัฒนาพื้นที่ชลประทานให้เต็มศักยภาพ 60 ล้านไร่
|
|||||||||||||||||||||
36108 | ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเปลี่ยนแปลงการมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่และมอบอำนาจการบังคับบัญชา | นร | 08/06/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเปลี่ยน
แปลงการมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่และมอบอำนาจการบังคับบัญชากรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี จำนวน 2 ราย คือ 1. กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (นายณัฐวุฒ จิตะสมบัติ) ปฏิบัติหน้าที่กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและอยู่ในบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี 2. กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม (นายสรยุทธ เพ็ชรตระกูล) ปฏิบัติหน้าที่กรรม การผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและอยู่ในบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี
|
|||||||||||||||||||||
36109 | การดำเนินงานฟื้นฟูเศรษฐกิจและสร้างภาพลักษณ์ของประเทศ (วันที่ 28 - 29 พฤษภาคม 2553 ณ ถนนสีลม) | พณ | 08/06/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการดำเนินงานฟื้นฟูเศรษฐกิจและสร้างภาพ
ลักษณ์ของประเทศ สรุปผลการดำเนินงานได้ดังนี้ 1. กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัดงาน "มหกรรมรวมพลังเพื่อวันใหม่ Together We Can Grand Sales" ระหว่างวันที่ 28-29 พฤษภาคม 2553 ณ บริเวณถนนสีลม กรุงเทพมหานคร ซึ่งผลการจัดงาน สามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทั้งสิ้น 1,650 ราย มีประชาชนเข้าร่วมชมงานกว่า 400,000 คน ยอดการจำหน่ายสินค้า 2 วัน ประมาณ 140 ล้านบาท 2. กระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการ ชุมนุมทางการเมือง ได้แก่ 2.1 การจัดงานมหกรรมธงฟ้าเฉลิมพระเกียรติ ระหว่างวันที่ 15-21 พฤษภาคม 2553 ณ อาคารชา เลนเจอร์ 2 เมืองทองธานี โดยเชิญผู้ประกอบการย่านราชประสงค์ที่ได้รับผลกระทบเข้าร่วมงาน จำนวน 200 ราย มียอดจำหน่ายสินค้าประมาณ 55.65 ล้านบาท 2.2 การจัดรถโมบายธงฟ้า (Mobile Unit) เพื่อจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นให้กับชุมชนที่ได้ รับผลกระทบในชุมชนต่าง ๆ (มักกะสัน ประตูน้ำ บ่อนไก่ หลังวัดปทุมวนาราม) 2.3 การมอบถุงยังชีพบรรจุข้าวสาร อาหารแห้งและน้ำดื่ม เพื่อช่วยเหลือประชาชนบริเวณที่ได้รับความ เดือดร้อนในชุมชนต่าง ๆ (มักกะสัน ประตูน้ำ บ่อนไก่ หลังวัดปทุมวนาราม)
|
|||||||||||||||||||||
36110 | ผลการจัดงานกระตุ้นเศรษฐกิจ "มหกรรมธงฟ้า...มหาชน เฉลิมพระเกียรติ" (ระหว่างวันที่ 15 - 21 พฤษภาคม 2553) | พณ | 08/06/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอผลการจัดงานกระตุ้นเศรษฐกิจ "มหกรรมธงฟ้า
...มหาชน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสบรมราชาภิเษกปีที่ 60" ระหว่างวันที่ 15- 21 พฤษภาคม 2553 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจตาม โครงการธงฟ้า...มหาชน ได้แก่ การจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสบรม ราชาภิเษกปีที่ 60 และเฉลิมพระชนมพรรษา และการจำหน่ายสินค้าราคาถูกภายใต้โครงการธงฟ้า-ราคาประหยัด ประกอบด้วย สินค้าขายตรงจากฟาร์มและโรงงาน สินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพราคาถูกกว่าตลาดร้อยละ 20-40 สินค้าอุตสาหกรรมคุณภาพส่งออกในราคาธงฟ้า สินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนที่มีชื่อเสียงของแต่ละจังหวัด (OTOP) สินค้า จากธุรกิจแฟรนไชส์ และสินค้าทรัพย์สินทางปัญญา รวมทั้งเพิ่มช่องทางการจำหน่ายระบายสินค้าให้แก่ผู้ประกอบ การย่านราชประสงค์ ผ่านฟ้า และพื้นที่ใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบจากการชุมชนทางการเมืองด้วย สำหรับผลการ จัดงานครั้งนี้ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย มีประชาชนเข้าชมงานกว่า 6.74 แสนคน เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ ประชาชนสามารถลดรายจ่ายได้รวมทั้งสิ้นกว่า 130 ล้านบาท มียอดการจำหน่ายสินค้ารวม 445 ล้านบาท เกิน เป้าหมายที่ตั้งไว้ 145 ล้านบาท มีเงินหมุนเวียนกว่า 570 ล้านบาท เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 270 ล้านบาท มียอด เงินรับฝากจากประชาชน 10 ล้านบาท และมีการขออนุมัติสินเชื่อแก่ภาคธุรกิจและประชาชนสูงถึง 114 ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||
36111 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ (ค.ต.ป.) (จำนวน 9 ท่าน 1. ศาสตราจารย์เกียรติคุณเกษรี ณรงค์เดช ฯลฯ) | นร | 08/06/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาค
ราชการ (ค.ต.ป.) ตามที่เลขาธิการ ก.พ.ร. (นายทศพร ศิริสัมพันธ์) กรรมการและเลขานุการ ค.ต.ป. เสนอ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (8 มิถุนายน 2553) เป็นต้นไป ดังนี้ 1. ศาสตราจารย์เกียรติคุณเกษรี ณรงค์เดช ผู้มีความรู้และประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ด้านการบัญชี 2. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประวิตร นิลสุวรรณากุล ผู้มีความรู้และประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ด้านการตรวจสอบและประเมินผล 3. นายวัฒนา รัตนวิจิตร ผู้มีความรู้และประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ด้านกฎหมาย 4. ศาสตราจารย์โกวิทย์ โปษยานนท์ ผู้มีความรู้และประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ด้านการเงิน 5. นายอรัญ ธรรมโน ผู้มีความรู้และประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ด้านเศรษฐศาสตร์ 6. นายสารสิน วีระผล ผู้มีความรู้และประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ด้านการบริหารและการจัดการ การวางแผน 7. นายบุญญรักษ์ นิงสานนท์ ผู้มีความรู้และประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ด้านการบริหารและการจัดการ การวางแผน 8. รองศาสตราจารย์ครรชิต มาลัยวงศ์ ผู้มีความรู้และประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ 9. ศาสตราจารย์ปกรณ์ อดุลพันธุ์ ผู้มีความรู้และประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ด้านวิศวกรรมศาสตร์
|
|||||||||||||||||||||
36112 | ผลการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ครั้งที่ 6/2553 | นร | 08/06/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการและเลขา
นุการคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจเสนอ ดังนี้ 1. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (รศก.) ครั้งที่ 6/2553 เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2553 2. เห็นชอบการถ่ายโอนภารกิจกำกับดูแลขับเคลื่อนความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) ของ ฝ่ายไทยจากกระทรวงการต่างประเทศไปยังกระทรวงพาณิชย์ และนำเรื่องการเปลี่ยนจุดติดต่อจากกระทรวงการต่าง ประเทศเป็นกระทรวงพาณิชย์รวมไว้กับประเด็นอื่นๆ ที่จะนำเข้าสู่การเจรจากับญี่ปุ่นในรอบต่อไป และในช่วงระหว่าง รอการเจรจา ให้กระทรวงการต่างประเทศทำหน้าที่จุดติดต่อในการประสานงานการจัดประชุมระดับประเทศไปก่อน และให้กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานเจ้าภาพหลักในขั้นตอนปฏิบัติงานภายในประเทศ โดยจัดประชุมหารือหน่วย งานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนไทย เพื่อกำหนดกลยุทธ์และท่าทีของฝ่ายไทยสำหรับการประชุมคณะกรรมการ ร่วมว่าด้วยหุ้นส่วนเศรษฐกิจ ครั้งที่ 3 ต่อไป 3. เห็นชอบมาตรการฟื้นฟูด้านการท่องเที่ยวและการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้ รับผลกระทบจากวิกฤตปัญหาทางการเมืองภายในประเทศ ได้แก่ มาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาปัญหาสภาพคล่อง มาตรการลดค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว และมาตรการส่งเสริมการตลาดด้านท่องเที่ยว ตามผล การพิจารณาของคณะกรรมการ รศก. 4. เห็นชอบการปรับปรุงแก้ไขมาตรการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ย่านราช ประสงค์และพื้นที่ใกล้เคียง ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ ให้กำหนดวงเงินสินเชื่อเพิ่มเติมสำหรับการกู้ยืมแบบมีหลักประกันรายละไม่เกิน 3 ล้านบาท รวมเป็นผู้กู้ราย หนึ่งสามารถกู้ได้ทั้งแบบมีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน (Clean Loan) โดยวงเงินสินเชื่อต่อรายรวมทั้งสิ้นต้อง ไม่เกิน 4 ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||
36113 | ร่างปฏิญญาของรัฐมนตรีพลังงานเอเปค ครั้งที่ 9 | พน | 08/06/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบร่างปฏิญญาของรัฐมนตรีพลังงานเอเปค ครั้งที่ 9 (Fukui Declaration on Low Carbon Paths to Energy Security : Cooperative Energy Solutions for a Sustainable APEC) 2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานหรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลัง งาน เป็นผู้ให้การรับรองในร่างปฏิญญาร่วมกับรัฐมนตรีพลังงานประเทศสมาชิกในเขตเศรษฐกิจเอเปค 3. อนุมัติให้กระทรวงพลังงานร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศสามารถพิจารณาปรับปรุงถ้อยคำในร่าง ปฏิญญาในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญได้ตามความเหมาะสม ก่อนที่จะมีการรับรองโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นผู้ให้การรับรองร่างปฏิญญาดังกล่าว
|
|||||||||||||||||||||
36114 | รายงานผลกระทบและความเสียหายกรณีการตัดไม้จากการดำเนินการก่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2090 (ถนนธนะรัชต์) | ทส | 08/06/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบการดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพทางหลวงหมายเลข 2090 (ถนนธนะรัชต์) ตอนแยก ทางหลวงหมายเลข 2-ต่อเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ช่วงระหว่าง กม. 2+000-กม. 10+100 ตามที่กระทรวง คมนาคมเสนอ 2. สำหรับการดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพทางหลวงหมายเลข 2090 (ถนนธนะรัชต์) ตอนแยก ทางหลวงหมายเลข 2-ต่อเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่ดำเนินการไปแล้ว ให้กระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวง) ประสานกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการจัดทำแผนฟื้นฟู สภาพภูมิทัศน์และระบบนิเวศ เช่น การปลูกต้นไม้เพื่อฟื้นฟูพื้นที่เสียหาย และการปลูกหญ้าแฝกเพื่อป้องกันการ พังทลายของดิน เป็นต้น ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ส่วนต้นไม้ที่ได้ตัดฟันไปแล้วนั้น ให้ใช้เพื่อประโยชน์ของทางราชการ เฉพาะในเขตอุทยานแห่งชาติเท่านั้น 3. ให้จัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้นคณะหนึ่ง โดยมีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นกรรมการเพื่อ ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการตัดฟันต้นไม้ไหล่ทางบนทางหลวงหมายเลข 2090 (ถนนธนะรัชต์) ตอนแยก ทางหลวงหมายเลข 2-ต่อเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ช่วงระหว่าง กม. 2+000-กม. 10+100 ให้แล้วเสร็จโดย เร็ว และรายงานนายกรัฐมนตรีต่อไป 4. ให้กระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวง) ยุติการดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพทางหลวงฯ ในส่วน ที่ตัดต่อจาก กม.10+100 และให้สำนักงบประมาณรับไปปรับลดงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ที่ เตรียมจัดสรรไว้เพื่อการดำเนินโครงการในส่วนนี้ของกรมทางหลวงให้สอดคล้องกันด้วย 5. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมศึกษาและกำหนดมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม เพื่อ กำหนดให้พื้นที่โดยรอบพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ รวมทั้งป่าอนุรักษ์ใกล้เคียงให้เป็นพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม ตามมาตรา 45 ของพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 6. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเร่งดำเนินการจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการ และ ระยะเวลาในการจัดทำการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (Initial Environmental Examination : IEE) ให้ แล้วเสร็จ แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติอย่างถูกต้องต่อไป 7. ส่วนการดำเนินโครงการก่อสร้างและปรับปรุงทางหลวงและทางอื่นใดต่อไปในอนาคต ให้กระทรวง คมนาคมประสานงานกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อ ให้สามารถดำเนินโครงการได้อย่างเหมาะสมถูกต้องตามข้อกฎหมาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
|
|||||||||||||||||||||
36115 | มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการซึ่งได้รับผลกระทบเกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์ชุมนุม | นร | 08/06/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการศูนย์การค้าสยามสแควร์ และอนุมัติมาตรการช่วยเหลือผู้ ประกอบการย่านราชประสงค์ กรณีค่าเช่า มาตรการช่วยเหลือลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมเพิ่มเติม กรณี ค่าจ้าง รวมทั้งการช่วยเหลือผู้ค้ารายย่อยของศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วัน กรณีการจัดสถานที่ค้าขาย ตามมติคณะกรรม การช่วยเหลือผู้ประกอบการและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2553 ตามที่สำนัก เลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ 2. สำหรับการช่วยเหลือผู้ค้ารายย่อยของศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วัน กรณีการจัดสถานที่ค้าขาย นั้น มอบ ให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาต่อรองกับธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เพื่อขอให้ยกเว้นการเก็บค่าเช่าของ ห้างสรรพสินค้าแฟชั่นมอลล์ เป็นเวลา 6 เดือน เช่นเดียวกับกรณียกเว้นการเก็บค่าเช่าของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยา ลัยด้วย ทั้งนี้ ในกรณีที่ต้องสนับสนุนงบประมาณเป็นค่าเช่าให้แก่ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) อนุมัติในหลัก การงบประมาณเพื่อเป็นค่าเช่าดังกล่าวตามที่จ่ายจริงในวงเงิน 2.5 ล้านบาทต่อเดือน
|
|||||||||||||||||||||
36116 | มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการส่งออก | กค | 08/06/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการส่งออก ตามที่กระทรวงการ คลังเสนอ 2. อนุมัติหลักการร่างกฎหมายจำนวน 6 ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่ วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (8 มิถุนายน 2553) และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่อง ด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ 2.1 ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ มีสาระสำคัญคือ 2.1.1 ยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับเงินได้เป็นจำนวนร้อยละ หนึ่งของรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายเป็นค่าเช่าพื้นที่ ค่าก่อสร้างสถานที่จัดแสดง ค่าระวาง ค่าประกันภัย ค่า ขนส่งสินค้าและอุปกรณ์ที่ใช้ในการเข้าร่วมงานออกร้าน งานนิทรรศการ งานแสดงสินค้าทั้งในประเทศและต่าง ประเทศ ตั้งแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้มีผลใช้บังคับจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2554 ทั้งนี้ เฉพาะกรณีที่ได้รับ การรับรองจากหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องว่าได้เข้าร่วมงานจริง 2.2.2 ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับรายจ่ายที่ได้ จ่ายไปเป็นค่าห้องสัมมนา ค่าห้องพัก ค่าใช้จ่ายเพื่อการจัดการ การขนส่ง หรือรายจ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องในการอบรม สัมมนาภายในประเทศที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลได้จัดขึ้นให้แก่ลูกจ้าง หรือที่ได้จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจ นำเที่ยวตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์เพื่อการอบรมสัมมนาดังกล่าว ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ของกิจ การของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น เป็นเวลาสองรอบระยะเวลาบัญชีสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มใน หรือหลังวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2553 2.2 ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อม ราคาของทรัพย์สิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ มีสาระสำคัญคือ 2.2.1 กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และอัตราการหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของ ทรัพย์สินที่เป็นสังหาริมทรัพย์ประเภทอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ เครื่องตกแต่ง และเฟอร์นิเจอร์ ไม่รวมถึงทรัพย์ สินประเภทที่เป็นยานพาหนะ ที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งเป็นผู้ประกอบอุตสาหกรรมท่องเที่ยวตามกฎ หมายว่าด้วยการท่องเที่ยวซื้อหรือได้รับโอนกรรมสิทธิ์เพื่อมีไว้ในการประกอบกิจการของตนเอง สำหรับทรัพย์สิน ที่ได้มาและอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตั้งแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้มีผลใช้บังคับจนถึงวันที 31 ธันวาคม พ.ศ. 2554 2.2.2 ปรับปรุงการหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินประเภทรถยนต์นั่งหรือรถยนต์ โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกินสิบคนตามกฎหมายพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต สำหรับธุรกิจให้เช่ารถยนต์ 2.3 ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยรายจ่ายที่ไม่ให้ถือเป็นรายจ่าย ในการคำนวณกำไรสุทธิ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงรายจ่ายที่ไม่ให้ถือเป็นรายจ่ายในการ คำนวณกำไรสุทธิ กรณีรายจ่ายค่าเช่าทรัพย์สินประเภทรถยนต์นั่ง และรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกินสิบคนตาม กฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต สำหรับธุรกิจให้เช่ารถยนต์ 2.4 ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. พ.ศ. .... ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎา กร มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้เงินได้ที่ผู้มีเงินได้จ่ายเป็นค่าบริการนำเที่ยวเป็นการเหมาภายในประเทศให้แก่ผู้ ประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 เป็นจำนวนไม่เกิน 15,000 บาท เป็นเงินได้ที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับปีภาษี 2553 3. เห็นชอบในหลักการให้บริษัทประกันภัยที่จ่ายเงินช่วยเหลือให้กับผู้เอาประกันภัยที่กรมธรรม์ประกัน ภัยไม่ได้ครอบคลุม บริษัทประกันภัยสามารถนำไปลงบัญชีเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ เพื่อเสียภาษีเงิน ได้นิติบุคคล และให้ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล โดยไม่ต้องนำเงินที่ได้ รับการช่วยเหลือมาคำนวณเป็นรายได้ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังรับไปดำเนินการยกร่างกฎหมายในเรื่องนี้ แล้ว นำเสนอคณะรัฐมนตรีเป็นเรื่องด่วนต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
36117 | มาตรการเร่งรัดการดำเนินงานสำหรับหน่วยงานที่ได้รับอนุมัติเงินโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 | นร | 08/06/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบมาตรการเร่งรัดการดำเนินงานสำหรับหน่วยงานที่ได้รับอนุมัติเงินโครงการลงทุนภายใต้แผน ปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) ประธานกรรมการติดตามเร่งรัด การใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐเสนอ 2. ให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาด้วยว่ากรณีที่รัฐบาลจำเป็นต้องกู้เงินตามกำหนดเวลาเพื่อใช้รองรับ การดำเนินโครงการของหน่วยงานที่ได้รับการจัดสรรเงินลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ที่เป็นโครง การซึ่งมีระยะเวลาการดำเนินการมากกว่า 1 ปี จะสามารถดำเนินการประการใดเพื่อลดภาระดอกเบี้ยของรัฐบาล
|
|||||||||||||||||||||
36118 | รายงานเหตุการณ์สารเคมีรั่วไหลในพื้นที่ บริษัท อดิตยา เบอร์ล่า เคมีคัลส์ (ประเทศไทย) จำกัด | นร | 08/06/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมรายงานเหตุการณ์สารเคมีรั่วไหลในพื้นที่บริษัท อดิตยา เบอร์ล่า เคมีคัลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ณ นิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก (มาบตาพุด) จังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2553 สาเหตุเบื้องต้นเกิดจากถังเก็บโซเดียมไฮเปอร์คลอไรท์เกิดรั่วไหล โดยทางบริษัทฯ ได้ จัดการโดยใช้การฉีดม่านน้ำเพื่อควบคุมปัญหาเรื่องกลิ่น รวมทั้งดำเนินการระงับการรั่วไหลของสารเคมีดังกล่าวและ สามารถควบคุมเหตุการณ์ให้อยู่ในวงจำกัดแล้ว อย่างไรก็ตาม ได้มีปัญหาเรื่องกลิ่นก๊าซคลอรีนบริเวณโรงงานและ พื้นที่โรงงานใกล้เคียง ทำให้มีผู้ปฏิบัติในโรงงานได้รับผลกระทบและเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมาบตาพุด และ โรงพยาบาลเครือข่าย จำนวน 200 คน ส่วนใหญ่กลับบ้านได้แล้ว มีผู้ป่วยที่ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล จำนวน 41 คน ทั้งนี้ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้สั่งการให้ระงับการประกอบกิจการโรงงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง แล้ว 2. เห็นชอบให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับเรื่องนี้ ไปพิจารณาทบทวนแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการช่วยเหลือ และอพยพผู้ซึ่งได้รับผลกระทบจากการเกิดอุบัติเหตุในบริเวณโรงงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ด้วย ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
36119 | มาตรการในการป้องกัน ปราบปราม และแนวทางการแก้ไขปัญหาการมีและใช้อาวุธสงคราม | นร | 08/06/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการมอบหมายให้กระทรวงกลาโหมและกระทรวงมหาดไทยรับไปพิจารณา
กำหนดมาตรการในการป้องกัน ปราบปราม และแนวทางการแก้ไขปัญหาการมีและใช้อาวุธสงคราม ตลอดจน วัตถุระเบิด และวัตถุที่ใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตวัตถุระเบิด แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน 2 สัปดาห์ ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
36120 | โครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ | นร | 08/06/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงการคลังรับรายงานผลการดำเนินการโครงการแก้ไขปัญหาหนี้
นอกระบบของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีลูกหนี้และเจ้าหนี้เข้าสู่กระบวนการเจรจาหนี้นอกระบบและสามารถตกลง กันได้ประมาณ 700,000 ราย แต่ได้รับการร้องเรียนว่าธนาคารอนุมัติสินเชื่อและโอนเงินให้ลูกหนี้เพียงประมาณ 11,000 ราย หรือคิดเป็นอัตราร้อยละ 2 ไปติดตาม ตรวจสอบ และเร่งรัดให้ธนาคารดำเนินการในขั้นตอนการ อนุมัติสินเชื่อให้ลูกหนี้ที่ประสงค์จะขอสินเชื่อกับธนาคารโดยเร็ว ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ
|
.....