ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1295 จากทั้งหมด 6213 หน้า แสดงรายการที่ 25881 - 25900 จากข้อมูลทั้งหมด 124251 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
25881 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคดีพิเศษ (จำนวน 9 คน) | ยธ | 04/11/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคดีพิเศษ จำนวน ๙ คน แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคดีพิเศษชุดปัจจุบันที่พ้นวาระ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๗) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ นายวิรัช ชินวินิจกุล ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย ๑.๒ นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย ๑.๓ นายสุเจตน์ จันทรังษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ๑.๔ รองศาสตราจารย์ เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐศาสตร์ ๑.๕ นายธวัชชัย ยงกิตติกุล ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงินการธนาคาร ๑.๖ นายฉัตรพงศ์ ฉัตราคม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านความมั่นคงประเทศ ๑.๗ นายสันทัด สมชีวิตา ผู้ทรงคุณวุฒิด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๑.๘ นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ผู้ทรงคุณวุฒิด้านอุตสาหกรรม ๑.๙ นายประมนต์ สุธีวงศ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ๒. ยกเว้น นายวิรัช ชินวินิจกุล ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะกรรมการตุลาการอนุมัติเป็นต้นไป ซึ่งต้องไม่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
|
|||||||||||||||||||||
25882 | การอนุมัติแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (จำนวน 9 คน) (1. นายประพันธ์ เทียนวิหาร ฯลฯ) | กษ | 04/11/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จำนวน ๙ คน เนื่องจากกรรมการชุดเดิมได้ครบวาระการดำรงตำแหน่ง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๗) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายประพันธ์ เทียนวิหาร ผู้แทนเกษตรกร ๒. นายตระกูล สว่างอารมย์ ผู้แทนเกษตรกร ๓. นายกันยา จักร์นารายณ์ ผู้แทนเกษตรกร ๔. นายโชคดี ปรโลกานนท์ ผู้แทนเกษตรกร ๕. นายขวัญชัย รักษาพันธ์ ผู้แทนเกษตรกร ๖. นายประยงค์ รณรงค์ ผู้แทนเกษตรกร ๗. นายเกษมสันต์ จิณณวาโส ผู้ทรงคุณวุฒิ ๘. นางสาวลดาวัลย์ คำภา ผู้ทรงคุณวุฒิ ๙. ผู้ช่วยศาสตราจารย์อิทธิพล ศรีเสาวลักษณ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ
|
|||||||||||||||||||||
25883 | การรายงานผลการบริหารราชการแผ่นดินและการผลักดันนโยบายของคณะรัฐมนตรี ด้านกฎหมาย | นร | 04/11/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) รายงานผลการบริหารราชการแผ่นดินและการผลักดันนโยบายของคณะรัฐมนตรี ด้านกฎหมาย ประกอบด้วย งานด้านกระทรวงยุติธรรม งานด้านกฎหมาย ในส่วนของคณะรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ สภาปฏิรูปแห่งชาติ และคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ รวมทั้งข้อเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีพิจารณา ได้แก่ การแต่งตั้งคณะทำงานติดตามการยกร่างรัฐธรรมนูญ และแนวทางสนับสนุนให้ผู้ที่มิได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ๒. เห็นชอบหลักการให้มีคณะทำงานติดตามการยกร่างรัฐธรรมนูญ โดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) รับไปพิจารณากำหนดแนวทางการแต่งตั้งคณะทำงานดังกล่าว ซึ่งอาจให้มีผู้แทนจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คณะรัฐมนตรี ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนภาคประชาชน เข้าร่วมเป็นคณะทำงานดังกล่าวด้วย เพื่อทำหน้าที่ติดตามความคืบหน้าและสนับสนุนการทำงานของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ๓. เห็นชอบแนวทางสนับสนุนให้ผู้ที่สมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติซึ่งมิได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติมีส่วนร่วมในการปฏิรูป โดยแบ่งออกเป็น ๔ กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ ๑ แต่งตั้งเป็นผู้ช่วยดำเนินการ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชำนาญการของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ กลุ่มที่ ๒ แต่งตั้งเป็นกรรมาธิการในคณะต่าง ๆ ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ กลุ่มที่ ๓ แต่งตั้งเป็นคณะกรรมการที่ปรึกษาการปฏิรูป ๓ ด้าน และกลุ่มที่ ๔ แต่งตั้งเป็นเครือข่ายการปฏิรูปของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ๔. ให้ทุกส่วนราชการถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี) ในการเร่งเสนอร่างกฎหมายที่มีความจำเป็นเร่งด่วนโดยเร็ว และให้เร่งรัดจัดกลุ่มกฎหมาย (กฎหมายที่ล้าสมัย กฎหมายที่ลดความเหลื่อมล้ำของสังคมหรือให้สังคมดีขึ้น และกฎหมายที่เกี่ยวกับการค้า การลงทุน หรืออนุวัติการตามหนังสือสัญญาระหว่างประเทศ ซึ่งร่างกฎหมายดังกล่าวต้องเป็นกฎหมายที่ค้างการดำเนินการ หรือเป็นการปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้น) ทั้งนี้ ในการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่ล้าสมัย กฎหมายที่ไม่เป็นสากล หรือกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการค้าหรือการลงทุน ให้ทุกส่วนราชการศึกษารายละเอียด เปรียบเทียบกับกฎหมายของต่างประเทศเพื่อประกอบการพิจารณาด้วย เพื่อให้กฎหมายเป็นที่ยอมรับและสามารถบังคับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนร่างกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะ ร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ร่างกฎหมายเกี่ยวกับการค้างาช้าง และร่างกฎหมายว่าด้วยประมง ให้เร่งรัดดำเนินการให้มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมายโดยเร็ว ๕. ให้หน่วยงานที่มีความจำเป็นต้องปรับโครงสร้างเพื่อให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น (เช่น กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น) จัดทำแผนการปรับโครงสร้าง โดยแบ่งออกเป็น ๓ ระยะ คือ ระยะที่ ๑ เป็นระยะเร่งด่วน ให้ปรับปรุงการทำงานภายในเพื่อให้สามารถทำงานได้ทันที ระยะที่ ๒ เป็นการปรับโครงสร้าง และระยะที่ ๓ เป็นช่วงการส่งต่อและเปลี่ยนผ่าน ทั้งนี้ ให้เร่งดำเนินการสร้างการรับรู้และสร้างความเข้าใจในเรื่องการปรับโครงสร้างแก่สาธารณะด้วย ๖. ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี) โดยร่วมกับฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมเร่งพิจารณาหาแนวทางในการดำเนินการเพื่อให้รัฐบาลสามารถขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนหรือนโยบายสำคัญตามแนวทางที่สอดคล้องกับร่างกฎหมายต่าง ๆ ที่รัฐบาลเสนอและอยู่ในระหว่างการพิจารณาในขั้นตอนทางนิติบัญญัติซึ่งอาจต้องใช้ระยะเวลานาน เพื่อบรรเทาผลกระทบจากปัญหาเร่งด่วนได้อย่างรวดเร็ว เช่น ปัญหาขยะ การประมงชายฝั่ง ป่าไม้ หรือสิ่งแวดล้อม เป็นต้น แล้วรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
25884 | ผลการประชุมรัฐมนตรีว่าด้วยความมั่นคงอาหารเอเปค ครั้งที่ 3 | กษ | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีว่าด้วยความมั่นคงอาหารเอเปค ครั้งที่ ๓ เมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๕๗ ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีรองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นางจิราวรรณ แย้มประยูร) เข้าร่วมการประชุมฯ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล) เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ที่ประชุมฯ ได้ร่วมรับรองปฏิญญาปักกิ่งว่าด้วยความมั่นคงอาหารเอเปคฉบับสมบูรณ์ ประกอบด้วยสาระสำคัญ ๓ ประเด็นหลัก คือ (๑) ส่งเสริมผลิตภาพทางการเกษตร และการผลิตและความเพียงพอของอาหาร บนพื้นฐานของการพัฒนาที่ยั่งยืน นวัตกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งสภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจ (๒) ปรับปรุงการจัดการภายหลังการเก็บเกี่ยวเพื่อลดการสูญเสียอาหาร และ (๓) สร้างความเข้มแข็งความร่วมมือในภูมิภาคเพื่อส่งเสริมความมั่นคงอาหาร ๒. รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นางจิราวรรณ แย้มประยูร) ได้กล่าวถ้อยแถลงว่า ประเทศไทยให้ความสำคัญกับความมั่นคงอาหาร สืบเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของประชากรโลก ความต้องการอาหารและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ทำให้เกิดผลกระทบต่อการผลิตสินค้าเกษตร ประเทศไทยได้น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมทั้งส่งเสริมการใช้ปัจจัยการผลิตทางการเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสม สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาว่าด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยเฉพาะเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวเพื่อลดการสูญเสียอาหาร และการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรม (Zoning) ๓. ถ้อยแถลงของสมาชิกเอเปคอื่นที่สำคัญ ได้แก่ จีนให้ความสำคัญกับการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ การส่งเสริมการลงทุน การเพิ่มความปลอดภัยอาหาร และการลดการสูญเสียอาหาร ญี่ปุ่นเน้นในเรื่องการสร้างมูลค่าเพิ่มตลอดห่วงโซ่อุปทานของโลก สหรัฐอเมริกาให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีชีวภาพทางการเกษตร ความปลอดภัยอาหาร เกษตรกรรมที่เท่าทันต่อภูมิอากาศ (Climate Smart Agriculture) และการอำนวยความสะดวกทางการค้า ฟิลิปปินส์เน้นเรื่องการปรับตัวต่อภัยพิบัติ การใช้ทรัพยากรน้ำและที่ดินทางการเกษตร มาเลเซียเน้นเรื่องการดำเนินการด้านภัยพิบัติ การส่งเสริมบทบาทเกษตรกรโดยเฉพาะสตรีและเยาวชน และบทบาทของภาคเอกชน โดยประเด็นที่สมาชิกเอเปคส่วนใหญ่ให้ความสำคัญคือ การลดการสูญเสียตลอดห่วงโซ่อาหาร
|
|||||||||||||||||||||
25885 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน และร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่ง มวลชน เพื่อดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) | คค | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่เขตห้วยขวาง เขตบางกะปิ เขตสะพานสูง และเขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชน ในท้องที่เขตห้วยขวาง เขตบางกะปิ เขตสะพานสูง และเขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเพื่อดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
25886 | รายงานผลการตรวจสอบงบการเงินของกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2554 และ 2553 | กษ | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการตรวจสอบงบการเงินของกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๔ และ ๒๕๕๓ ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๔ และ ๒๕๕๓ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป ดังนี้
๑. สินทรัพย์หมุนเวียน ปี ๒๕๕๓ รวม ๕,๒๐๐,๗๙๒,๙๐๓.๓๕ บาท ปี ๒๕๕๔ รวม ๖,๐๙๖,๒๖๐,๘๑๒.๐๒ บาท ๒. สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน ปี ๒๕๕๓ รวม ๓,๕๙๐,๓๙๔,๗๓๔.๙๘ บาท ปี ๒๕๕๔ รวม ๒,๘๐๑,๔๘๘,๕๐๖.๘๘ บาท ๓. รวมสินทรัพย์ ปี ๒๕๕๓ รวม ๘,๗๙๑,๑๘๗,๖๓๘.๓๓ บาท ปี ๒๕๕๔ รวม ๘,๘๙๗,๗๔๙,๓๑๘.๙๐ บาท ๔. หนี้สินหมุนเวียน ปี ๒๕๕๓ รวม ๒,๓๔๐.๐๐ บาท ปี ๒๕๕๔ รวม ๕๘,๘๕๐.๐๐ บาท ๕. รวมสินทรัพย์สุทธิ/ส่วนทุน ปี ๒๕๕๓ รวม ๘,๗๙๑,๑๘๕,๒๙๘.๓๓ บาท ปี ๒๕๕๔ รวม ๘,๘๙๗,๖๙๐,๔๖๘.๙๐ บาท
|
|||||||||||||||||||||
25887 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (ร่างพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ พ.ศ. ....) | นร | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เสนอร่างพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||||||||
25888 | ร่างพระราชกฤษฎีกาให้นำราคาปานกลางของที่ดินที่ใช้อยู่ในการประเมินภาษีบำรุงท้องที่ ประจำปี พ.ศ. 2521 ถึง พ.ศ. 2524 มาใช้ในการประเมินภาษีบำรุงท้องที่สำหรับปี พ.ศ. 2557 พ.ศ. .... | มท | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาให้นำราคาปานกลางของที่ดินที่ใช้อยู่ในการประเมินภาษีบำรุงท้องที่ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๒๑ ถึง พ.ศ. ๒๕๒๔ มาใช้ในการประเมินภาษีบำรุงท้องที่สำหรับปี พ.ศ. ๒๕๕๗ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้นำราคาปานกลางของที่ดินที่ใช้อยู่ในการประเมินภาษีบำรุงท้องที่ประจำปี พ.ศ. ๒๕๒๑ ถึง พ.ศ. ๒๕๒๔ มาใช้ในการประเมินภาษีบำรุงท้องที่สำหรับปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยให้ยกเว้นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๕ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงการคลังเร่งรัดดำเนินการจัดทำราคาปานกลางของที่ดิน เพื่อให้สะท้อนถึงราคาที่ดินที่แท้จริงในปัจจุบันตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๕ ให้เล้วเสร็จโดยเร็วเพื่อใช้ให้ทันในการประเมินภาษีบำรุงท้องที่สำหรับปี พ.ศ. ๒๕๕๘ |
|||||||||||||||||||||
25889 | ร่างพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อก | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเกี่ยวกับการอนุญาต การออกใบอนุญาต ใบแทนใบอนุญาต การโอนใบอนุญาต การมีคำสั่งไม่อนุญาต และการสั่งเพิกถอนใบอนุญาต ตามกฎหมายว่าด้วยมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ไปเป็นอำนาจของเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และแก้ไขเพิ่มเติมให้รัฐมนตรีมีอำนาจในการยกเว้นค่าธรรมเนียม ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
25890 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ | นร | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๗ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน จำนวน ๔ ฉบับ คือ
๑. ร่างพระราชบัญญัติสถาบันวิทยาลัยชุมชน พ.ศ. .... ๒. ร่างพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ พ.ศ. .... ๓. ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แบ่งส่วนราชการในกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) ๔. ร่างพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. ....
|
|||||||||||||||||||||
25891 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (ร่างพระราชบัญญัติสถาบันวิทยาลัยชุมชน พ.ศ. ....) | นร | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เสนอร่างพระราชบัญญัติสถาบันวิทยาลัยชุมชน พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||||||||
25892 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนวัตกรรมแห่งชาติ (จำนวน 7 คน) | วท | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนวัตกรรมแห่งชาติแทนคณะกรรมการเดิมที่ครบวาระการดำรงตำแหน่ง จำนวน ๗ คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๗) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ ดังนี้
๑. นายสมเจตน์ ทิณพงษ์ ประธานกรรมการ ๒. นายไพโรจน์ สัญญะเดชากุล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. นายสุภาพ อัจฉริยศรีพงศ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๔. นายธนารักษ์ พงษ์เภตรา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. นายเชิญพร เต็งอำนวย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๖. นายกลินท์ สารสิน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๗. นายณรงค์ ศิริเลิศวรกุล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
|||||||||||||||||||||
25893 | รายงานสรุปผลการประชุมสุดยอดความมั่นคงด้านสุขภาพของโลก | สธ | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานสรุปผลการประชุมสุดยอดความมั่นคงด้านสุขภาพของโลก จัดขึ้นที่ทำเนียบขาว กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๕๗ ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเดินทางเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว โดยประเด็นที่การประชุมให้ความสำคัญ ได้แก่ ยุทธศาสตร์การสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพโลก ๓ ด้าน คือ การป้องกัน เฝ้าระวัง และตอบโต้ต่อโรคระบาดข้ามพรมแดน และการสร้างสมรรถนะของประเทศสมาชิกองค์การอนามัยโลกในการดำเนินการตามกฎอนามัยระหว่างประเทศอย่างเข้มแข็ง รวมทั้งการสนับสนุนช่วยเหลือประเทศในแถบแอฟริกาตะวันตกในการควบคุมการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ รวมถึงการที่ประเทศไทย โดยกระทรวงสาธารณสุขจะร่วมกับประเทศสหรัฐอเมริกาจัดการประชุมวาระความมั่นคงด้านสุขภาพในระดับเทคนิคครั้งต่อไปในประเทศไทยในช่วงเดือนมีนาคม ๒๕๕๘ โดยกระทรวงสาธารณสุขได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก United States Agency For International Development (USAIDS) จำนวน ๑๕๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ และได้ตั้งงบประมาณสำหรับการดำเนินการเรื่องนี้รองรับไว้แล้ว โดยจะไม่ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อการนี้อีก ๒. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแจ้งข้อมูลรายละเอียดที่ถูกต้องชัดเจนเกี่ยวกับข้อกำหนดและเงื่อนไขการนำเข้าอาหารที่มีความเสี่ยงจากสารปนเปื้อนกัมมันตรังสีจากประเทศญี่ปุ่นของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข เช่น ประเภทของอาหารและแหล่งการผลิต เป็นต้น ให้กระทรวงการต่างประเทศทราบโดยด่วนเพื่อแจ้งให้เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศญี่ปุ่นเร่งชี้แจงทำความเข้าใจเรื่องดังกล่าวกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศญี่ปุ่นก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปเยือนประเทศญี่ปุ่นต่อไป |
|||||||||||||||||||||
25894 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน และร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชน เพื่อดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว รวม 4 ฉบับ | คค | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกา รวม ๔ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว โดยมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน และกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชน เพื่อดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่อำเภอเมืองนนทบุรี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี และเขตหลักสี่ เขตบางเขน เขตบึงกุ่ม เขตคันนายาว เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... ๒. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชน ในท้องที่อำเภอเมืองนนทบุรี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี และเขตหลักสี่ เขตบางเขน เขตบึงกุ่ม เขตคันนายาว เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... (โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู) ๓. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่เขตจตุจักร เขตบางเขน เขตหลักสี่ เขตสายไหม เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร และอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี พ.ศ. .... ๔. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชน ในท้องที่เขตจตุจักร เขตบางเขน เขตหลักสี่ เขตสายไหม เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร และอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี พ.ศ. .... (โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว) |
|||||||||||||||||||||
25895 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่เขตจตุจักร เขตห้วยขวาง เขตวังทองหลาง และเขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตประเวศ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร และอำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชน ในท้องที่เขตจตุจักร เขตห้วยขวาง เขตวังทองหลาง และ เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตประเวศ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร และอำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. .... จำนวน 2 ฉบับ (โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง) | คค | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา จำนวน ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่เขตจตุจักร เขตห้วยขวาง เขตวังทองหลาง เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตประเวศ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร และอำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. .... เพื่อดำเนินกิจการรถไฟฟ้าในส่วนที่เกี่ยวกับการจัดสร้างโครงการขนส่งด้วยระบบรถไฟฟ้า สถานที่จอดรถสำหรับผู้โดยสาร และกิจการอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการรถไฟฟ้า ตามโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ๒. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชน ในท้องที่เขตจตุจักร เขตห้วยขวาง เขตวังทองหลาง เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตประเวศ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร และอำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. .... เพื่อประโยชน์ในการดำเนินกิจการขนส่งมวลชน ตามโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง |
|||||||||||||||||||||
25896 | ขอความเห็นชอบให้สัตยาบันภาคผนวก 10 แนบท้ายความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง | คค | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบการให้สัตยาบันภาคผนวก ๑๐ เงื่อนไขการขนส่งแนบท้ายความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS Cross-Border Transport Agreement : CBTA) มีสาระสำคัญเป็นเรื่องเกี่ยวกับสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบในทางแพ่งของผู้รับขนส่ง และให้นำภาคผนวก ๑๐ ดังกล่าวเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาให้ความเห็นชอบการให้สัตยาบันต่อไป ๑.๒ มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการจัดทำสัตยาบันสารเพื่อดำเนินการให้สัตยาบันภาคผนวก ๑๐ ดังกล่าวให้มีผลผูกพันประเทศไทยต่อไป เมื่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติมีมติเห็นชอบภาคผนวก ๑๐ ตามข้อ ๑.๑ แล้ว ๒. ให้เสนอภาคผนวก ๑๐ แนบท้ายความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (CBTA) ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนการให้สัตยาบันต่อไป ๓. อนุมัติให้นำวิธีการอนุญาโตตุลาการมาใช้ในการระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นจากภาคผนวก ๑๐ แนบท้ายความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (CBTA) ทั้งนี้ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๒ (เรื่อง การทำสัญญาระหว่างหน่วยงานของรัฐกับเอกชน) |
|||||||||||||||||||||
25897 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ โครงการก่อสร้างทางสายเชิงเขาตะนาวศรี - กอกะเร็ก พร้อมปรับปรุงทางเดิมสายเมียวดี - เชิงเขาตะนาวศรี ของกรมทางหลวง | คค | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ โครงการก่อสร้างทางสายเชิงเขาตะนาวศรี-กอกะเร็ก พร้อมปรับปรุงทางเดิมสายเมียวดี-เชิงเขาตะนาวศรี ของกรมทางหลวง รวมทั้งสิ้น ๑,๓๒๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ๑.๒ ขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔-พ.ศ. ๒๕๕๘ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมอบให้กรมทางหลวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณาแนวทางการบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดบนสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ ๑ และศึกษาความเหมาะสมของการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ ๒ รวมทั้งประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับพิธีการศุลกากรและการพัฒนาศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้า เพื่อให้สามารถรองรับปริมาณการขนส่งสินค้า และการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจและสังคมในบริเวณดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||
25898 | การบริหารโครงการลงทุนภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 | กค | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบ เห็นชอบ และอนุมัติ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบการรายงานการติดตามและเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. ๒๕๕๒ (พ.ร.ก.) และวงเงินกู้เหลือจ่ายภายใต้ พ.ร.ก. ตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ๑.๒ พิจารณาการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะ ๓ เดือนแรก) ๑.๒.๑ รับทราบวงเงินเหลือจ่ายภายใต้ พ.ร.ก. ที่ไม่มีภาระผูกพัน วงเงิน ๑๕,๒๐๐ ล้านบาท และอนุมัติให้ใช้วงเงินเหลือจ่ายดังกล่าวสำหรับเป็นเงินสำรองจ่ายเพื่อจัดสรรให้แก่ แผนงาน/โครงการตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะ ๓ เดือนแรก วงเงิน ๑๕,๒๐๐ ล้านบาท ๑.๒.๒ อนุมัติกรอบการใช้จ่ายเงินกู้ตาม พ.ร.ก. และนำเสนอกรอบการใช้จ่ายเงินกู้ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อทราบก่อนเริ่มดำเนินการ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา ๓ ของ พ.ร.ก. ๑.๒.๓ เห็นชอบแนวทางการบริหารโครงการ และให้ส่วนราชการที่ได้รับจัดสรรเงินกู้ภายใต้ พ.ร.ก. ดำเนินการตามมาตรการเพิ่มความคล่องตัวในการปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๙ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๒ โดยให้ลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้างให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม ๒๕๕๗ และเบิกจ่ายเงินกู้ให้แล้วเสร็จไม่เกินวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ ๑.๒.๔ เห็นชอบแนวทางการติดตาม การประเมินผล และการรายงานผลการดำเนินโครงการมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะ ๓ เดือนแรก (ระหว่างเดือนตุลาคม-ธันวาคม ๒๕๕๗) สำหรับมาตรการเพื่อการสร้างงาน วงเงิน ๒๓,๐๐๐ ล้านบาท ทั้งในส่วนที่ใช้จากงบกลางที่กันไว้เบิกเหลื่อมปี (๗,๘๐๐ ล้านบาท) และเงินกู้เหลือจ่ายภายใต้ พ.ร.ก. (๑๕,๒๐๐ ล้านบาท) ๑.๒.๕ อนุมัติโครงการสนับสนุนการวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศโครงการของสำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง วงเงิน ๓ ล้านบาท และโครงการติดตามและประเมินผลโครงการของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ วงเงิน ๑๒ ล้านบาท และอนุมัติจัดสรรเงินสำรองจ่ายภายใต้เงินกู้ พ.ร.ก. วงเงิน ๑๕ ล้านบาท ๑.๓ รับทราบการขยายระยะเวลาการดำเนินงานและการเบิกจ่ายเงินกู้ พ.ร.ก. ภายหลังปีงบประมาณ ๒๕๕๖ โดยขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินให้สามารถดำเนินการเบิกจ่ายเงิน พ.ร.ก. ได้จนกว่าโครงการจะแล้วเสร็จ แต่ต้องไม่เกินปีงบประมาณ ๒๕๕๗ สำหรับโครงการที่ได้มีการผูกพันสัญญาแล้ว และสามารถดำเนินการและเบิกจ่ายเงินกู้ได้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน ๒๕๕๗ จำนวน ๕ โครงการ วงเงิน ๑๘๖,๔๔๙,๗๙๓.๑๑ บาท ๑.๔ อนุมัติให้ขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการและเบิกจ่ายเงินกู้สำหรับโครงการที่มีการผูกพันสัญญาและอยู่ระหว่างดำเนินโครงการที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาทางการเมืองในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ทำให้ไม่สามารถดำเนินโครงการได้ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว จนถึงไม่เกินเดือนธันวาคม ๒๕๕๗ สำหรับโครงการ จำนวน ๑๕ โครงการ วงเงิน ๑,๒๑๑,๔๖๙,๙๑๙.๒๕ บาท ๑.๕ อนุมัติการจัดสรรเงินสำรองจ่ายเพื่อเป็นเงินชดเชยค่างานสิ่งก่อสร้างตามสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่า K) และค่างานในส่วนที่เหลือ จำนวน ๔ หน่วยงาน วงเงิน ๕๕,๓๙๘,๔๒๘.๗๔ บาท ๑.๖ อนุมัติการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕ ของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ๒. ให้กระทรวงการคลังเสนอกรอบการใช้จ่ายเงินกู้ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อทราบก่อนดำเนินการ โดยรายละเอียดของกรอบการใช้จ่ายเงินกู้ดังกล่าวให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ การใช้จ่ายเงินกู้ในการดำเนินโครงการตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ระยะ ๓ เดือนแรก ให้ส่วนราชการเจ้าของโครงการขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป และเร่งดำเนินโครงการตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฯ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๗ และรายงานความก้าวหน้าการเบิกจ่ายเงินกู้ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฯ ให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นรายเดือนด้วย |
|||||||||||||||||||||
25899 | ขออนุมัติดำเนินการตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 โดยการเจรจาตรงกับบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - บางซื่อ (งานสัญญาที่ 5) | คค | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกเอกชนร่วมงานหรือดำเนินการตามมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๓๕ (คณะกรรมการตามมาตรา ๑๓) โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ดำเนินการเจรจาตรงกับบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-บางซื่อ (งานสัญญาที่ ๕) ด้วยรูปแบบการลงทุนที่มีความเหมาะสมและเกิดประโยชน์ต่อภาครัฐ โดยมีระยะเวลาของสัญญาเท่ากับระยะเวลาที่เหลืออยู่ของสายเฉลิมรัชมงคล ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๗๒ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓ กันยายน ๒๕๕๖ [เรื่อง รายงานผลการศึกษาเพิ่มเติม เพื่อคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนฯ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-บางซื่อ (สัญญาที่ ๕) (ฉบับปรับปรุง-มีนาคม ๒๕๕๖)] ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการจัดเตรียมข้อมูลในการเจรจาในส่วนของต้นทุนและรายได้ทั้งในรูปแบบ PPP Net Cost รูปแบบ PPP Gross Cost หรือรูปแบบอื่น ๆ ที่มีความเหมาะสมและเกิดประโยชน์ต่อภาครัฐ ตลอดจนแนวทางในการเจรจา ให้มีความพร้อมก่อนการเริ่มต้นเจรจา โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลที่เกี่ยวกับการกำหนดส่วนแบ่งรายได้ การกำกับ ควบคุม และเร่งรัดให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยดำเนินการศึกษาวิเคราะห์รายละเอียดและประมาณการวงเงินลงทุน ค่าใช้จ่ายในการเดินรถและบำรุงรักษาบนพื้นที่ของการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคลในปัจจุบันมาเป็นฐานข้อมูลประกอบการพิจารณาโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-บางซื่อ (งานสัญญาที่ ๕) การศึกษารายละเอียดและประมาณการวงเงินลงทุน ค่าใช้จ่ายเดินรถและบำรุงรักษา (O&M) บนพื้นฐานของการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล และประมาณการปริมาณผู้โดยสารในอนาคต รวมทั้งเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของการบริหารจัดการและกำกับดูแลสัญญาสัมปทานโครงการ ระหว่างกรณีแยกสัญญาและกรณีรวมสัญญา การศึกษารูปแบบการลงทุนและการบริหารจัดการเดินรถที่เหมาะสมและเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาในคราวเดียวกันกับการดำเนินการก่อสร้างงานโยธาเพื่อให้สามารถเปิดให้บริการโครงการได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ รวมทั้งการกำหนดรูปแบบการลงทุนและการบริหารจัดการเดินรถในคราวเดียวกันทั้งเส้นทางเพื่อลดข้อจำกัดทางเทคนิคและการลงทุน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
25900 | ร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างกิจการรถไฟฟ้า โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ ในท้องที่อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. .... | คค | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างกิจการรถไฟฟ้า โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ในท้องที่อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างกิจการรถไฟฟ้า โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ในท้องที่อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
|
.....