ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1299 จากทั้งหมด 6213 หน้า แสดงรายการที่ 25961 - 25980 จากข้อมูลทั้งหมด 124251 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
25961 | แนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (ร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ รวม 2 ฉบับ) | นร | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เสนอร่างพระราชบัญญัติต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน จำนวน ๒ ฉบับ คือ
๑. ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กำหนดความผิดเกี่ยวกับเพศ) ๒. ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กำหนดนิยามคำว่า “เจ้าพนักงาน”)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
25962 | แนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (ร่างพระราชบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ รวม 3 ฉบับ) | นร | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เสนอร่างพระราชบัญญัติต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน จำนวน ๓ ฉบับ คือ
๑. ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดนิติบุคคลเฉพาะกิจเพื่อการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๔๐ พ.ศ. .... ๒. ร่างพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๓. ร่างพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาระบบสถานบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. ....
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
25963 | รัฐบาลฮังการีเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย (นายเปเตอร์ ยาค็อบ) | กต | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายเปเตอร์ ยาค็อบ (Mr. Peter Jakab) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐฮังการีประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายเดแนช โทมอย (Mr. Denes Tomaj) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
25964 | รัฐบาลไอร์แลนด์เสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย (นายเบร็นดัน รอเจอรส์) | กต | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายเบร็นดัน รอเจอรส์ (Mr. Brendan Rogers) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งไอร์แลนด์ประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายเดคลัน เคลลี (Mr. Declan Kelly) ซึ่งมีถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
25965 | แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นกรรมการในคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ และเมืองเก่า | ทส | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเป็นกรรมการในคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ และเมืองเก่า จำนวน ๗ คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๗) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. นายสุวิชญ์ รัศมิภูติ ๒. นายภราเดช พยัฆวิเชียร ๓. นายบวรเวท รุ่งรุจี ๔. รองศาสตราจารย์ บรรณโศภิษฐ์ เมฆวิชัย ๕. รองศาสตราจารย์ ศิริวรรณ ศิลาพัชรนันท์ ๖. รองศาสตราจารย์ โรจน์ คุณเอนก ๗. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ยงธนิศร์ พิมลเสถียร
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
25966 | สรุปผลการเดินทางไปราชการ ณ ประเทศญี่ปุ่น ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | วท | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการเดินทางไปราชการ ณ ประเทศญี่ปุ่น ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อเข้าร่วมประชุมประจำปี STS forum ครั้งที่ ๑๑ [The 11th Annual Meeting of the Science and Technology in Society (STS) forum] การประชุมโต๊ะกลมระดับรัฐมนตรีด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (The Science and Technology Ministers’ Roundtable Meeting) และการประชุมหารือกับหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมของประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ ๓-๖ ตุลาคม ๒๕๕๗ ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้เข้าร่วมการประชุมร่วมกับผู้นำระดับสูงและผู้กำหนดนโยบายด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม นักธุรกิจ และสื่อมวลชนชั้นนำจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ประมาณ ๑,๐๐๐ คน จาก ๑๐๐ ประเทศ โดยได้พบปะหารือกับผู้บริหารระดับสูงและเยี่ยมชมหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมของประเทศญี่ปุ่น เพื่อขยายความร่วมมือทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทยกับญี่ปุ่น ได้แก่ การพบปะหารือกับผู้บริหารระดับสูงของ Miraikan National Museum of Emerging Science and Innovation, Honda Research Institute (HRI) การพบปะหารือกับ Minister of Education, Culture, Sports, Science and Technology (MEXT) ของญี่ปุ่น ประธานของ Japan Science and Technology Agency (JST) และผู้บริหารระดับสูงของ Nidec Corporation Japan (NCJ) พร้อมกันนี้ ยังได้พบปะหารือกับนักศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของไทยในประเทศญี่ปุ่น และร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกับ Advanced Industrial Science and Technology (AIST) ๒. ประโยชน์ที่ได้รับจากการเดินทางไปราชการ ได้แก่ ได้ขยายความร่วมมือทางด้านนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมกับรัฐมนตรีวิทยาศาสตร์ และผู้นำองค์กรจากทั่วโลก ได้ขยายความร่วมมือกับผู้นำและองค์กรรัฐบาลด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งส่งเสริมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมญี่ปุ่นที่มีการลงทุนในประเทศไทยให้ขยายฐานการผลิตที่เน้นการวิจัยและพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่ใช้นวัตกรรมระดับสูงเพิ่มขึ้นด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
25967 | การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซีย ประจำประเทศไทยและการลดหย่อนค่าใช้จ่าย ของผู้ขายเป็นกรณีเฉพาะ | กต | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุญาตให้จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินซึ่งใช้เป็นตั้งของสถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย เนื้อที่ ๑๔ ไร่ ๓๖ ตารางวา ๑.๒ เห็นชอบให้ลดหย่อนภาระค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินรายนี้ ในอัตราร้อยละ ๐.๐๑ เป็นการเฉพาะ ๑.๓ เห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเป็นพิเศษตามประมวลกฎหมายที่ดิน สำหรับกรณีการโอนอสังหาริมทรัพย์อันเป็นที่ตั้งของสถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย มีสาระสำคัญคือ ลดหย่อนและเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการโอนในกรณีนี้ในอัตราร้อยละ ๐.๐๑ ในส่วนที่เจ้าของที่ดินมีหน้าที่ต้องชำระ ๑.๔ เห็นชอบในหลักการต่อการลดอัตราหรือยกเว้นค่าอากรแสตมป์และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหัก ณ ที่จ่าย เพื่อให้กระทรวงการคลังพิจารณาดำเนินการออกพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา ๓ (๑) แห่งประมวลรัษฎากรและกำหนดในรายละเอียดต่อไป ๒. ให้ส่งร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเป็นพิเศษตามประมวลกฎหมายที่ดิน สำหรับกรณีการโอนอสังหาริมทรัพย์อันเป็นที่ตั้งของสถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย ให้คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา และเมื่อกระทรวงการต่างประเทศได้หารือสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าการดำเนินการดังกล่าวไม่ขัดต่อกฎหมายและข้อตกลงระหว่างประเทศ แล้วจึงจะสามารถดำเนินการต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
25968 | แผนการดำเนินงานโครงการลงทุนพัฒนาด้านคมนาคมขนส่ง ปี พ.ศ. 2558 | คค | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมรายงานสรุปแผนการดำเนินงานโครงการลงทุนพัฒนาด้านคมนาคมขนส่งที่สำคัญในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ประกอบด้วย การพัฒนารถไฟทางคู่ การพัฒนารถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล การพัฒนาทางหลวงสายหลัก การพัฒนาโครงข่ายการขนส่งทางน้ำ การเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการขนส่งทางอากาศ และการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี) ในเรื่องการนำโครงการต่าง ๆ ในแผนไปประมวลในแผนปฏิบัติการที่จะส่งให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และการพิจารณาจ้างหรือเพิ่มสัดส่วนการจ้างที่ปรึกษาที่เป็นนักวิชาการหรือผู้เชี่ยวชาญชาวไทยในโครงการที่มีการจัดซื้อจัดจ้าง หรือจ้างที่ปรึกษาโครงการด้วย ๓. ในการดำเนินโครงการตามแผนดังกล่าว ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบราชการ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องด้วย โดยเฉพาะพระราชบัญญัติพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๒๑ และพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ รวมทั้งหากโครงการใดเป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรีให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาด้วย ๔. ให้กระทรวงคมนาคมเร่งดำเนินการนำระบบตั๋วร่วม (e-ticket) มาใช้ในการเชื่อมการเดินทางของประชาชนที่สัญจรโดยเรือโดยสาร รถไฟฟ้า และรถประจำทาง และให้คำนึงถึงการให้บริการแก่ผู้มีรายได้น้อยให้สามารถเข้าถึงระบบบริการขนส่งสาธารณะ รวมทั้งการอำนวยความสะดวกในการใช้บริการของผู้พิการและผู้สูงอายุด้วย ๕. ให้กระทรวงคมนาคมประสานงานกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อจัดเตรียมแผนพัฒนากำลังคนด้านคมนาคมขนส่งให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของประเทศด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
25969 | ผลการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยประเทศกำลังพัฒนาที่เป็นหมู่เกาะขนาดเล็ก ครั้งที่ 3 | กต | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบผลการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยประเทศกำลังพัฒนาที่เป็นหมู่เกาะขนาดเล็ก ครั้งที่ ๓ ระหว่างวันที่ ๑-๔ กันยายน ๒๕๕๗ ณ กรุงอาปีอา รัฐเอกราชซามัว โดยมีนายมนัสวี ศรีโสดาพล รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้แทนพิเศษของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมฯ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ กลุ่มประเทศหมู่เกาะขนาดเล็กได้ผลักดันให้ข้อตกลงด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศฉบับใหม่ในปี ๒๕๕๘ ตั้งอยู่บนหลักการความรับผิดชอบร่วมกันในระดับที่แตกต่าง และเรียกร้องให้วาระการพัฒนาภายหลังปี ค.ศ. ๒๐๑๕ คำนึงถึงความเปราะบางและความต้องการของประเทศหมู่เกาะ สำหรับกลุ่มประเทศผู้ให้ อาทิ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เยอรมนี มาเลเซีย และสหรัฐอเมริกา ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การแก้ไขปัญหาที่คล้ายกับประเทศหมู่เกาะขนาดเล็ก อาทิ การสูญเสียพื้นดินชายฝั่ง การลดความเสี่ยงและผลกระทบจากภัยพิบัติ การปรับตัวต่อสภาพภูมิอากาศ การเสริมสร้างระบบสาธารณสุข และการป้องกันโรคไม่ติดต่อ และให้คำมั่นที่จะช่วยเหลือด้านการเงินเพื่อการพัฒนาและการเสริมสร้างขีดความสามารถแก่ประเทศหมู่เกาะขนาดเล็ก ๑.๒ ที่ประชุมฯ ได้รับรองเอกสาร Samoa Pathway โดยไม่มีการแก้ไข ซึ่งยืนยันเจตนารมณ์ทางการเมืองของรัฐสมาชิกและหุ้นส่วนในการดำเนินการให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนในประเทศหมู่เกาะขนาดเล็ก ซึ่งที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ สมัยที่ ๖๙ จะให้การรับรองต่อไป ๑.๓ หัวหน้าคณะผู้แทนไทยกล่าวถ้อยแถลงเกี่ยวกับการรับมือต่อภัยพิบัติธรรมชาติของไทยอันเป็นปัญหาร่วมกับประเทศกำลังพัฒนาที่เป็นหมู่เกาะขนาดเล็ก พร้อมทั้งย้ำบทบาทของไทยในการส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนในสาขาที่ไทยมีความเชี่ยวชาญ อาทิ การเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในการรองรับภัยพิบัติและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเกษตรอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานของแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน การแปรรูปปลาทูน่า การพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก และโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ เป็นต้น นอกจากนี้ หัวหน้าคณะผู้แทนไทยได้พบหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีและผู้แทนระดับสูงจาก ๖ ประเทศ ได้แก่ เซนต์คิตส์และเนวิส เกรเนดา เซเชลส์ เบลีซ ฟิจิ และแอนติกาและบาร์บูดา เพื่อกระชับความสัมพันธ์ ชี้แจงพัฒนาการในการปฏิรูปการเมืองของไทย และรณรงค์การสมัครรับเลือกตั้งของไทยในคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (วาระปี ๒๕๕๘-๒๕๖๐) สมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (วาระปี ๒๕๖๐-๒๕๖๑) และสมาชิกสภาบริหารสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (วาระปี ๒๕๕๘-๒๕๖๑) ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศประสานงานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาแนวทางการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการแก่ประเทศหมู่เกาะขนาดเล็กในเรื่องต่าง ๆ ที่ไทยมีศักยภาพและเป็นที่สนใจร่วมกัน เช่น การพัฒนาอุตสาหกรรมการประมง เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
25970 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเพื่อรองรับการเปิดทำการศาลจังหวัดฮอด รวม 3 ฉบับ | ศย | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเพื่อรองรับการเปิดทำการศาลจังหวัดฮอด รวม ๓ ฉบับ ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเปิดทำการศาลจังหวัดฮอด พ.ศ. .... โดยกำหนดให้เปิดทำการศาลจังหวัดฮอด ตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๘ เป็นต้นไป ๒. ร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงเขตอำนาจศาลแขวงเชียงใหม่ พ.ศ. .... โดยนำคดีแขวงที่เกิดขึ้นในท้องที่อำเภอกัลยาณิวัฒนามาอยู่ในเขตอำนาจศาลแขวงเชียงใหม่ และเปลี่ยนแปลงเขตอำนาจของศาลแขวงเชียงใหม่ในบางท้องที่ที่ทับซ้อนกับศาลจังหวัดฮอด ๓. ร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้บทบัญญัติมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด พ.ศ. ๒๕๒๐ บังคับสำหรับคดีที่เกิดขึ้นในบางท้องที่ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยกำหนดให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัดฮอด สำหรับคดีอาญาที่อยู่ในอำนาจศาลแขวงซึ่งเกิดขึ้นในท้องที่อำเภอฮอด อำเภอจอมทอง อำเภอดอยเต่า อำเภออมก๋อย และอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
25971 | แนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (ร่างพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. ....) | นร | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เสนอร่างพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
25972 | ร่างพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. .... | อก | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการนำกฎหมายว่าด้วยแร่ และกฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราค่าภาคหลวงแร่มาบัญญัติไว้ในฉบับเดียวกัน และปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ปัจจุบัน เช่น การบริหารจัดการทรัพยากรแร่ หลักเกณฑ์การอนุญาตและการควบคุมกำกับดูแลการทำเหมือง การส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการแร่ กลไกการรองรับในการที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนและการกำหนดวิธีการจัดเก็บค่าภาคหลวงแร่ เป็นต้น ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน ๒. ให้รับความเห็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับการทำเหมืองแร่ที่อาจมีผลกระทบต่อแหล่งต้นน้ำและแหล่งน้ำใต้ดิน กับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ที่เป็นแหล่งต้นน้ำหรือป่าน้ำซึมซับ เพื่อรักษาระบบนิเวศและความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งน้ำธรรมชาติ และให้รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานศาลยุติธรรม เกี่ยวกับค่าธรรมเนียมในการออกใบอาชญาบัตรและประทานบัตรควรกำหนดให้เป็นรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นทั้งจำนวน การดำเนินการศึกษาถึงความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจของการทำเหมืองแร่แต่ละประเภทเพื่อเป็นแนวทางในการออกประกาศกฎกระทรวงเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ของการทำเหมืองแร่ประเภทต่าง ๆ การกำหนดนโยบายที่ชัดเจนให้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้น ๑ เอ เป็นพื้นที่ห้ามมิให้ใช้ประโยชน์ในการทำเหมืองแร่ การผลักดันให้เกิดการพัฒนาเหมืองสีเขียวอย่างเป็นรูปธรรม โดยสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตั้งแต่ระดับนโยบายจนถึงระดับปฏิบัติ รวมถึงสนับสนุนให้ภาคเอกชนนำแนวคิดความรับผิดชอบต่อสังคมและหลักการของผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่ายมาใช้ในการประกอบธุรกิจ เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งร่างพระราชบัญญัติฯ ให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
25973 | การแต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (ปนช.) | นร | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๕๙/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ โดยมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ ดังนี้
๑. องค์ประกอบ ๑.๑ คณะที่ปรึกษา (๑) นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ที่ปรึกษา/กรรมการ (๒) นายพีระศักดิ์ พอจิต ที่ปรึกษา/กรรมการ (๓) นางโฉมศรี อารยะศิริ ที่ปรึกษา/กรรมการ (๔) นายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ ที่ปรึกษา/กรรมการ (๕) พลโท เยาวดนัย ภู่เจริญยศ ที่ปรึกษา/กรรมการ ๑.๒ คณะกรรมการ (๑) นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ประธานกรรมการ (๒) นายสุรชัย ภู่ประเสริฐ รองประธานกรรมการ คนที่หนึ่ง (๓) พลเอก สกล ชื่นตระกูล รองประธานกรรมการ คนที่สอง (๔) นายกิตติ วะสีนนท์ กรรมการ (๕) พลเรือเอก จักรชัย ภู่เจริญยศ กรรมการ (๖) ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเศษธำรง ทัศนาญชลี กรรมการ (๗) รองศาสตราจารย์ประดิษฐ์ วรรณรัตน์ กรรมการ (๘) พลเอก โปฎก บุนนาค กรรมการ (๙) พันตำรวจโท พงษ์ชัย วราชิต กรรมการ (๑๐) นายมหรรณพ เดชวิทักษ์ กรรมการ (๑๑) พลตำรวจเอก วัชรพล ประสานราชกิจ กรรมการ (๑๒) นายวิทวัส บุญญสถิตย์ กรรมการ (๑๓) นายสมพล พันธุ์มณี กรรมการ (๑๔) นายสุธรรม พันธุศักดิ์ กรรมการ (๑๕) นางเสาวณี สุวรรณชีพ กรรมการ (๑๖) พลอากาศเอก อาคม กาญจนหิรัญ กรรมการ (๑๗) พลโท อำพน ชูประทุม กรรมการ (๑๘) นางฐะปะณีย์ อาจารวงศ์ กรรมการและเลขานุการ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ๑.๓ ผู้แทนจากส่วนราชการ (๑) ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กรรมการ (๒) ผู้แทนสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี กรรมการ ๑.๔ ฝ่ายเลขานุการ (๑) ผู้อำนวยการสำนักประสานงานการเมือง กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (๒) ผู้อำนวยการกลุ่มประสานงานการเมือง ๑ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ สำนักประสานงานการเมือง สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (๓) เจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ที่ได้รับมอบหมาย จำนวน ๒ คน ๒. อำนาจหน้าที่ ๒.๑ พิจารณาดำเนินการในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อให้สอดคล้องกับการบริหารราชการแผ่นดินของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเป็นไปด้วยความราบรื่นและเหมาะสม ๒.๒ ประสานงานกับสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อให้มีความเข้าใจที่สอดคล้องกันในเรื่องหรือญัตติใดๆ ในที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ การเสนอร่างกฎหมายและดำเนินการอื่นที่เกี่ยวข้องกัลงานด้านนิติบัญญัติให้ดำเนินการอย่างราบรื่น ๒.๓ พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อกำหนดแนวทางการทำงานและมีมติเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีรับทราบหรือเห็นชอบแล้วแต่กรณี ทั้งนี้ มติของคณะกรรมการต้องสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลหรือของนายกรัฐมนตรีหรือมติคณะรัฐมนตรี ๒.๔ เชิญส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงข้อเท็จจริง และจัดส่งเอกสารข้อมูลให้แก่คณะกรรมการ ๒.๕ ให้ประธานกรรมการมีอำนาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อช่วยเหลือปฏิบัติงานในเรื่องต่างๆ ของคณะกรรมการได้ตามความจำเป็น ๒.๖ ปฏิบัติงานอื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
25974 | แผนการดำเนินโครงการรถไฟทางคู่ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 | คค | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบแผนการดำเนินโครงการรถไฟทางคู่ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ โครงการที่พร้อมดำเนินการก่อสร้าง ๑ โครงการ คือ โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ระยะทาง ๑๐๖ กิโลเมตร วงเงิน ๑๑,๒๗๒.๓๔ ล้านบาท ๑.๒ โครงการที่อยู่ระหว่างนำเสนอขออนุมัติโครงการ จำนวน ๒ โครงการ ได้แก่ โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง ๑๘๕ กิโลเมตร วงเงิน ๒๖,๐๐๗ ล้านบาท และโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง ๑๖๗ กิโลเมตร วงเงิน ๑๗,๒๙๒ ล้านบาท ๑.๓ โครงการที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านคมนาคมของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือโครงการร่วมกับเอกชน ภายใต้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ จำนวน ๓ โครงการ ได้แก่ โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง ๑๔๘ กิโลเมตร วงเงิน ๒๔,๘๔๒ ล้านบาท โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง ๑๓๒ กิโลเมตร วงเงิน ๒๙,๘๕๕ ล้านบาท และโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง ๑๖๕ กิโลเมตร วงเงิน ๒๐,๐๓๘ ล้านบาท ๒. ให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี) ในเรื่องการนำโครงการต่าง ๆ ในแผนไปประมวลในแผนปฏิบัติการที่จะส่งให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และการพิจารณาจ้างหรือเพิ่มสัดส่วนการจ้างที่ปรึกษาที่เป็นนักวิชาการหรือผู้เชี่ยวชาญชาวไทยในโครงการที่มีการจัดซื้อจัดจ้างหรือจ้างที่ปรึกษาโครงการด้วย ๓. ในการดำเนินโครงการตามแผนดังกล่าว ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบราชการ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องด้วย โดยเฉพาะพระราชบัญญัติพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๒๑ และพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ รวมทั้งหากโครงการใดเป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรี ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
25975 | แนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. ....) | นร | 21/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
25976 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์) | ทก | 14/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) กลุ่มที่ปรึกษา สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ตั้งแต่วันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
25977 | แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | ทส | 14/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติมอบหมายให้ พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ และไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง ตามนัยมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
25978 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายนพดล กรรณิกา) | รง | 14/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง นายนพดล กรรณิกา ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๗) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
25979 | แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน | พน | 14/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในกรณีที่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามนัยมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ โดยให้ครอบคลุมถึงกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานด้วย ตามลำดับ ดังนี้
๑. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (นายพรชัย รุจิประภา) ๒. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
25980 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (ศาสตราจารย์ สิทธิชัย โภไคยอุดม) | นร04 | 14/10/2557 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ศาสตราจารย์ สิทธิชัย โภไคยอุดม ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล) ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๗) เป็นต้นไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
.....