ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1300 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 25981 - 26000 จากข้อมูลทั้งหมด 124013 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
25981 | ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สลธ.คสช. | 02/09/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ..... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ และให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป โดยร่างพระราชบัญญัติฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กำหนดให้คณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (ก.ศป.) ประกอบด้วยประธานศาลปกครองสูงสุดเป็นประธานกรรมการ กรรมการตุลาการศาลปกครองผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นตุลาการในศาลปกครองจำนวนเก้าคน ได้แก่ ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดจำนวนหกคนซึ่งได้รับเลือกจากตุลาการในศาลปกครองสูงสุด และตุลาการในศาลปกครองชั้นต้นจำนวนสามคนซึ่งได้รับเลือกจากตุลาการในศาลปกครองชั้นต้น และกรรมการตุลาการศาลปกครองผู้ทรงคุณวุฒิที่ไม่เป็นตุลาการศาลปกครองจำนวนสามคนซึ่งได้รับเลือกจากวุฒิสภาจำนวนสองคนและได้รับเลือกจากคณะรัฐมนตรีจำนวนหนึ่งคน รวมทั้งกำหนดผู้ที่ทำหน้าที่เป็นเลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการของ ก.ศป. ๒. กำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมการตุลาการศาลปกครองผู้ทรงคุณวุฒิที่ไม่เป็นตุลาการศาลปกครอง ๓. กำหนดวิธีการเลือกกรรมการตุลาการศาลปกครองผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นตุลาการในศาลปกครอง และกรรมการตุลาการศาลปกครองผู้ทรงคุณวุฒิที่ไม่เป็นตุลาการศาลปกครอง ๔. กำหนดวาระการดำรงตำแหน่งและการพ้นจากตำแหน่งของกรรมการตุลาการศาลปกครองผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. กำหนดให้ในกรณีที่ไม่มีกรรมการตุลาการศาลปกครองผู้ทรงคุณวุฒิที่ไม่เป็นตุลาการศาลปกครอง หรือมีแต่ไม่ครบสามคน ถ้าคณะกรรมการตุลาการศาลปกครองจำนวนไม่น้อยกว่าหกคนเห็นว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องให้ความเห็นชอบ ให้คณะกรรมการตุลาการศาลปกครองจำนวนดังกล่าวเป็นองค์ประกอบและองค์ประชุมพิจารณาเรื่องเร่งด่วนนั้นได้ ๖. กำหนดให้มีการดำเนินการเลือกกรรมการตุลาการศาลปกครองผู้ทรงคุณวุฒิโดยต้องแล้วเสร็จภายในหกสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับ หากในระหว่างที่ยังมิได้มาซึ่ง ก.ศป. ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดทำหน้าที่เป็น ก.ศป. ไปพลางก่อน
|
||||||||||||||||||||||||
25982 | ร่างพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 02/09/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของกระทรวงการคลัง มีสาระสำคัญคือ ให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้กับผู้กระทำความผิดควบคู่กับมาตรการลงโทษทางอาญา และปรับปรุงบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดฐานความผิดในส่วนของการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ ตลอดจนปรับปรุงบทบัญญัติเพื่อรองรับการเชื่อมโยงตลาดทุนไทยกับตลาดทุนโลก ตามที่ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
25983 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สลธ.คสช. | 02/09/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติรับทราบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๕๑ โดยเพิ่มกองยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ เพื่อทำหน้าที่กำหนดแนวทาง มาตรการ และยุทธศาสตร์ เกี่ยวกับการพัฒนาระบบโลจิสติกส์และเครือข่ายโลจิสติกส์ของประเทศ และเพิ่มกลุ่มตรวจสอบภายใน เพื่อทำหน้าที่หลักในการตรวจสอบการดำเนินงานภายในและสนับสนุนการปฏิบัติงานของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รับผิดชอบงานขึ้นตรงต่อเลขาธิการ สศช. รวมทั้งเพิ่มกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร เพื่อทำหน้าที่หลักในการพัฒนาการบริหารของ สศช. ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ มีประสิทธิภาพ และคุ้มค่า รับผิดชอบงานขึ้นตรงต่อเลขาธิการ สศช. ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอร่างกฎกระทรวงดังกล่าวให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาลงนามและประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
25984 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอจัดตั้ง การดำเนินงาน และการประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน พ.ศ. .... | สลธ.คสช. | 02/09/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติเห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอจัดตั้ง การดำเนินงาน และการประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดแนวปฏิบัติในการขอจัดตั้งและการดำเนินงานกองทุนหมุนเวียนเป็นมาตรฐานเดียวกัน รวมทั้งการประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียนมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
25985 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 เพิ่มเติม (เงินชดเชยให้ผู้ได้รับผลกระทบจากการปรับเงินเดือนแรกบรรจุเข้ารับราชการเป็นทหาร) | กห | 02/09/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๑๘๐,๗๓๘,๒๙๕ บาท เพื่อจ่ายเป็นเงินชดเชยให้ผู้ได้รับผลกระทบจากการปรับเงินเดือนแรกบรรจุเข้ารับราชการเป็นทหารในส่วนของกองบัญชาการกองทัพไทย ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ๒. รายละเอียดเกี่ยวกับงบประมาณให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ของกองบัญชาการกองทัพไทยในส่วนของงบบุคลากรที่คงเหลืออยู่ จำนวน ๔๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ส่วนที่ขาดอีก จำนวน ๑๔๐,๗๓๘,๒๙๕ บาท ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ทั้งนี้ ให้กระทรวงกลาโหม โดยกองบัญชาการกองทัพไทยขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
25986 | งบการเงินของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด | ยธ | 02/09/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ
๑. รับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้รับรองแล้ว ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ งบแสดงฐานะการเงิน กองทุนฯ มีสินทรัพย์ ๕๙๕,๐๓๑,๖๕๕.๑๒ บาท หนี้สิน ๔๕,๙๒๒,๑๒๐.๙๗ บาท รวมสินทรัพย์ ๕๔๙,๑๐๙,๕๓๔.๑๕ บาท ๑.๒ งบรายได้และค่าใช้จ่าย กองทุนฯ มีรายได้ ๑๘๐,๓๔๕,๑๒๔.๔๘ บาท ค่าใช้จ่าย ๑๔๑,๑๙๔,๓๘๒.๗๗ บาท รวมรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย ๓๙,๑๕๐,๗๔๑.๗๑ บาท ๒. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมรับไปพิจารณาความเหมาะสมและเป็นไปได้ในการนำเงินคงเหลือของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดหลังจากนำไปใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแล้วมีเงินคงเหลือจำนวนมาก นำส่งเข้าคลังเป็นรายได้แผ่นดินให้มากยิ่งขึ้น แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
25987 | ขอความเห็นชอบและอนุมัติเพิ่มวงเงินและขยายเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ (สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา) | นร09 | 02/09/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. อนุมัติเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบลงทุน หมวดค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง รายการค่าก่อสร้างอาคารสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา อาคารเทเวศร์ (หลังใหม่) จากวงเงิน ๗๒,๓๖๐,๐๐๐ บาท เป็น ๙๐,๑๖๒,๐๐๐ บาท และขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ จากเดิมปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕-พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕-พ.ศ. ๒๕๕๙ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ๒. รายละเอียดเกี่ยวกับงบประมาณให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่อนุมัติในหลักการตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอได้เป็นกรณีเฉพาะราย ตามนัยระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และมติคณะรัฐมนตรี โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕-พ.ศ. ๒๕๕๖ ซึ่งได้รับจัดสรรงบประมาณไว้แล้ว จำนวน ๒๗,๙๐๐,๕๐๐ บาท และผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘-พ.ศ. ๒๕๕๙ จำนวน ๖๒,๒๖๑,๕๐๐ บาท โดยให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอผลการจัดซื้อจัดจ้างที่ได้ดำเนินการแล้วให้สำนักงบประมาณพิจารณาความเหมาะสมของราคาก่อนทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันตามนัยระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี หนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง และมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้องครบถ้วน โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
25988 | ขออนุมัติจัดซื้อรถจักรยานยนต์ (ทดแทน) ขนาด 250 ซีซี (งานสายตรวจ) จำนวน 14,442 คัน ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ | ตช | 02/09/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดซื้อรถจักรยานยนต์ (ทดแทน) ขนาด ๒๕๐ ซีซี (งานสายตรวจ) ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น CBR 300 R ผลิตในประเทศไทย จำนวน ๑๔,๔๔๒ คัน ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม คันละ ๑๑๙,๕๗๒.๕๐ บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๑,๗๒๖,๘๖๖,๐๔๕ บาท จากบริษัทผู้ขาย กำหนดส่งมอบภายใน ๖๙๐ วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญา รวม ๒๑ งวด ตามที่ทางราชการกำหนด โดยวิธีการประกวดราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามระเบียบว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๙ ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ ๒. งบประมาณค่าใช้จ่ายเพื่อการนี้ให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่ให้ดำเนินการในลักษณะก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๕๙ โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ที่ได้รับจัดสรรงบประมาณไว้แล้ว จำนวน ๒๕๙,๙๕๗,๕๐๐ บาท ส่วนที่เหลืออีก จำนวน ๑,๔๖๖,๙๐๘,๕๔๕ บาท ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๕๙ รองรับให้ครบวงเงินตามสัญญาต่อไป รวมทั้งปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ประกาศหรือคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ระเบียบข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
25989 | อนุมัติดำเนินการงานบริหารจัดการน้ำ ของกระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตามแผนงานงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2557 | มท | 02/09/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการงานบริหารจัดการน้ำประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ จำนวน ๕๘๑ โครงการ วงเงิน ๑,๘๕๐,๓๕๓,๖๓๑ บาท ๑.๒ ให้กระทรวงมหาดไทยปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ของกระทรวงมหาดไทย จากงบประมาณตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จำนวน ๔๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท และจากงบประมาณโครงการพัฒนาและแก้ไขปัญหาของประชาชนในความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทย รายการค่าใช้จ่ายในการจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ของสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย จำนวน ๑,๔๕๐,๓๕๓,๖๓๑ บาท ไปเป็นค่าใช้จ่ายตามข้อ ๑.๑ โดยสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นหน่วยรับผิดชอบโครงการ และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นหน่วยเบิกจ่ายงบประมาณ ๒. งบประมาณสำหรับการดำเนินการให้กระทรวงมหาดไทยขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ แล้วเร่งรัดดำเนินการต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
25990 | แต่งตั้งผู้แทนองค์กรเอกชนเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ตามมาตรา 4 (5) ในคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ | พม | 02/09/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติเห็นชอบการแต่งตั้งผู้แทนองค์กรเอกชนเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ตามมาตรา ๔ (๕) แห่งพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. ๒๕๔๖ ในคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ จำนวน ๕ ราย ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติมีมติ (๒ กันยายน ๒๕๕๗) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. ศาสตราจารย์พงษ์ศิริ ปรารถนาดี ๒. นายบรรลุ ศิริพานิช ๓. พันเอก (พิเศษ) หญิง พิกุล ไพศาลเวชกรรม ๔. นายบุญเสริม ดวงจันทร์ ๕. นายเขิม แทนทวี
|
||||||||||||||||||||||||
25991 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินและขอขยายระยะเวลาการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณค่าก่อสร้างอาคารเรียน โรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค จังหวัดสระบุรี | ศธ | 02/09/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้กระทรวงศึกษาธิการ (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน) เพิ่มวงเงินและขยายระยะเวลาค่าก่อสร้างอาคารเรียน แบบ ๓๒๔ ล ตอกเข็ม โรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค จังหวัดสระบุรี จำนวน ๑ หลัง เป็นวงเงินรวม ๒๑,๑๙๖,๙๗๗.๔๘ บาท ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔-พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔-พ.ศ. ๒๕๕๕ วงเงิน ๑๗,๕๐๐,๐๐๐ บาท ส่วนที่ขาดอีก วงเงิน ๓,๖๙๖,๙๗๗.๔๘ บาท เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงศึกษาธิการ (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน) ดำเนินการใช้สิทธิ์ของผู้ว่าจ้างภายหลังบอกเลิกสัญญาเพื่อบังคับเอาจากผู้รับจ้างรายเดิม รวมทั้งให้ดำเนินการเกี่ยวกับความรับผิดชอบทางละเมิดด้วย |
||||||||||||||||||||||||
25992 | มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 | นร07 | 02/09/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ
๑. เห็นชอบมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ และให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐถือปฏิบัติต่อไป ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ส่งให้สำนักงบประมาณพิจารณาภายในวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๗ ๑.๒ การจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณจะต้องดำเนินการภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้ ๑.๒.๑ รายจ่ายประจำ ให้ความสำคัญกับการจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ให้สอดคล้องกับเป้าหมายการเบิกจ่ายงบประมาณรายไตรมาส โดยในส่วนของการดำเนินงานตามภารกิจยุทธศาสตร์ ภารกิจหน่วยงาน จะต้องเร่งรัดให้เริ่มดำเนินงานและเริ่มเบิกจ่ายงบประมาณภายในไตรมาสที่ ๑ ๑.๒.๒ รายจ่ายลงทุน กรณีจัดหาครุภัณฑ์ ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ จะต้องมีความพร้อมเกี่ยวกับคุณลักษณะเฉพาะ ผลการสืบราคา และสถานที่/พื้นที่รองรับครุภัณฑ์ รวมถึงการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายหรือระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้องครบถ้วน กรณีสิ่งก่อสร้าง ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ ต้องพิจารณาให้มีความพร้อมเกี่ยวกับข้อกำหนดและขอบเขตของงาน (TOR) แบบรูปรายการ ประมาณราคา สถานที่/พื้นที่ก่อสร้าง รวมถึงการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายหรือระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้องครบถ้วน ๑.๒.๓ ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐเตรียมการจัดซื้อจัดจ้างให้พร้อมเมื่อร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ผ่านการพิจารณาในวาระที่ ๒ ประมาณวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๕๗ ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ ดำเนินกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๙ โดยมีเงื่อนไขว่าจะก่อหนี้ผูกพันได้ก็ต่อเมื่อได้รับการจัดสรรงบประมาณจากสำนักงบประมาณแล้ว ทั้งนี้ จะต้องก่อหนี้ผูกพันให้แล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ ๑ ยกเว้นรายการที่มีวงเงินเกิน ๕๐๐ ล้านบาท ให้ก่อหนี้ผูกพันอย่างช้าภายในไตรมาสที่ ๒ ๑.๓ เมื่อสำนักงบประมาณเห็นชอบแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ และจัดสรรงบประมาณแล้ว ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ เร่งดำเนินการโอนจัดสรรงบประมาณที่ดำเนินการในเขตพื้นที่จังหวัดไปยังสำนักเบิกส่วนภูมิภาคนั้น ๆ ตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณที่กำหนดไว้โดยเร็ว อย่างช้าไม่เกินเจ็ดวัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ ๑.๔ ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐรายงานผลการปฏิบัติงานและผลการใช้จ่ายงบประมาณตามตัวชี้วัดผลผลิต และตามขั้นตอนการปฏิบัติงาน พร้อมทั้งระบุปัญหา อุปสรรคและแนวทางแก้ไข โดยให้จัดส่งผลการปฏิบัติงานและผลการใช้จ่ายงบประมาณด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐเป็นรายเดือนและรายไตรมาส เพื่อสำนักงบประมาณจะได้ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินการของแผนงาน/โครงการเป็นรายเดือน และรวบรวมรายงานผลการปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบประมาณเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเป็นรายไตรมาสต่อไป ๑.๕ เมื่อสิ้นสุดไตรมาสที่ ๒ ของปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ หากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ ตรวจสอบแล้วพบว่าผลการปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบประมาณไม่เป็นไปตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณที่สำนักงบประมาณเห็นชอบแล้ว ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ พิจารณาทบทวนแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ที่สนองตอบต่อแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล เสนอต่อรัฐมนตรีเจ้าสังกัดและส่งสำนักงบประมาณพิจารณาให้ความเห็นชอบ ได้แก่ ๑.๕.๑ กรณีที่ยืนยันการดำเนินการตามแผนที่กำหนดไว้เดิม ให้ชี้แจงเหตุผลความจำเป็นและแนวทางแก้ไขปัญหาเพื่อให้มีความพร้อมและเร่งรัดการดำเนินการ ๑.๕.๒ กรณีที่ไม่ดำเนินการต่อ เนื่องจากหมดความจำเป็น ไม่เป็นประโยชน์ต่อทางราชการ ให้เปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงเพื่อดำเนินรายการที่มีความพร้อมสามารถดำเนินการได้จริงภายใต้วัตถุประสงค์ที่สนองตอบต่อแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ๒. ให้รับข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วยว่า ให้พิจารณาการกระจายการใช้จ่ายตามแผนงาน/โครงการของรัฐให้มีเม็ดเงินมาใช้จ่ายทุกรายไตรมาส โดยให้สำนักงบประมาณประสานทุกหน่วยงานให้เบิกจ่ายตามนโยบายการสร้างงาน สร้างรายได้แก่ประชาชนและมีเงินหมุนเวียนโดยไม่ให้มีการทุจริตอย่างเด็ดขาด
|
||||||||||||||||||||||||
25993 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางสาวจิรพรรณ ปุณเกษม) | ศธ | 02/09/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติแต่งตั้งนางสาวจิรพรรณ ปุณเกษม ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการสภาการศึกษา สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่วันที่ ๒ กันยายน ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติมีมติเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ทั้งนี้ เมื่อมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีแล้ว ให้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการดังกล่าวพ้นจากตำแหน่งเดิม และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งใหม่ เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
|
||||||||||||||||||||||||
25994 | ข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ | สลธ.คสช. | 02/09/2557 | |||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. เร่งรัดการดำเนินการตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ๑.๑ ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๗ และวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๕๗ ให้ฝ่ายเศรษฐกิจ โดยกระทรวงการคลัง ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณาทบทวนมาตรการสร้างแรงจูงใจทั้งมาตรการทางภาษีและมาตรการที่ไม่ใช่ภาษี (Non-tax) เพื่อจูงใจให้ภาคเอกชนทั้งจากในและต่างประเทศทำการลงทุนและส่งเสริมให้เกิดการจัดตั้งสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคหรือสำนักงานใหญ่ในประเทศไทย (Regional Operation Headquarters : ROH) เพื่อให้กรุงเทพมหานครเป็นศูนย์กลางด้านการค้า การเงิน และการลงทุนของประชาคมอาเซียน นั้น ให้กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเร่งดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมตามมติดังกล่าวโดยเร็ว ๑.๒ ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๗ ให้คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเร่งดำเนินการผลักดันโครงการต่าง ๆ โดยคำนึงถึงผลตอบแทนที่ประเทศจะได้รับเป็นสำคัญ เช่น การจ้างงานในประเทศ การใช้วัตถุดิบภายในประเทศ สนับสนุนให้เกิดวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของคนไทย ส่งเสริมการประหยัดพลังงานและไม่ก่อให้เกิดมลพิษ และมีการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีให้กับคนไทย นั้น ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเร่งดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายในปี ๒๕๕๘ โดยเน้นการส่งเสริมนักลงทุนต่างชาติที่มีแผนการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีให้กับคนไทยเป็นลำดับแรก ๑.๓ ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มีมติเมื่อวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๕๗ วันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๗ และวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๗ ให้ฝ่ายเศรษฐกิจ โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และฝ่ายความมั่นคง โดยกระทรวงมหาดไทยส่งเสริมการปลูกพืชทดแทนตามแผนการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรม (Zoning) ของพืชเกษตร และเร่งดำเนินโครงการต้นแบบเพื่อสร้างความรู้ให้แก่เกษตรกรเกี่ยวกับการปลูกพืชทดแทน พืชหมุนเวียน และเกษตรผสมผสาน โดยนำองค์ความรู้จากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ศูนย์การเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ และปราชญ์ชาวบ้านมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรม นั้น ในการดำเนินโครงการต้นแบบศูนย์การเรียนรู้เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปลูกพืชของเกษตรกรจะต้องขยายให้ครอบคลุมพื้นที่เกษตรกรรมทั่วประเทศ จึงมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์คำนึงถึงความสอดคล้องกับแนวทางการบริหารจัดการน้ำ ระบบการขนส่ง และการเชื่อมโยงกับตลาด รวมทั้งระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ ในพื้นที่ด้วย ๑.๔ ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๗ และวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๗ ให้ฝ่ายสังคมจิตวิทยา โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพิจารณากำหนดรูปแบบการประกันภัยให้แก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติผ่านกองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพื่อให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้รับความคุ้มครองในทุกกรณี โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน ๒๕๕๗ นั้น เพื่อให้การดำเนินการในเรื่องดังกล่าวแล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนด จึงมอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเร่งประสานงานกับกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำระเบียบรองรับการดำเนินการของกองทุนฯ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ๑.๕ ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๗ [เรื่อง ผลการประชุมคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ ๑/๒๕๕๗] ให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำพิจารณาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ในการนำเทคนิคการฝังท่อลงไปในท้องน้ำเพื่อให้น้ำจากแหล่งน้ำระหว่างประเทศซึมไหลไปสู่แหล่งน้ำในประเทศที่มีระดับต่ำกว่าเพื่อนำน้ำไปใช้ประโยชน์ได้ เช่น กรณีแม่น้ำโขงและแม่น้ำสาละวิน นั้น ให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) ศึกษาวิธีการใช้เทคนิคดังกล่าวจากประเทศที่ประสบความสำเร็จในการใช้เทคนิคนี้ โดยให้ส่งบุคลากรไปศึกษาข้อมูลเพื่อนำมาแก้ไขปัญหาน้ำแล้งในแหล่งน้ำธรรมชาติ โดยให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี ๒๕๕๘ ๒. ด้านเศรษฐกิจ ๒.๑ ให้ฝ่ายเศรษฐกิจ โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาหาแนวทางการพัฒนาบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าเพื่อการส่งออก เช่น ผลไม้ กล้วยไม้ ให้สามารถรักษาคุณภาพ ความสดใหม่ให้คงอยู่ได้เป็นระยะเวลานาน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้าส่งออกของไทยด้วย ๒.๒ ให้ฝ่ายความมั่นคง โดยกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง) พิจารณากำหนดช่องทางพิเศษในการตรวจลงตราสำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาร่วมประชุม/สัมมนานานาชาติในประเทศไทย เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและส่งเสริมการจัดประชุม/สัมมนานานาชาติที่จัดขึ้นในประเทศไทย ทั้งนี้ ให้ประสานสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) เกี่ยวกับกำหนดการประชุม/สัมมนานานาชาติเพื่อนำไปประกอบการดำเนินการในเรื่องนี้ด้วย ๒.๓ จากการที่มีผู้ประกอบการก่อสร้างที่รับจ้างดำเนินโครงการต่าง ๆ ของหน่วยงานภาครัฐ และไม่สามารถดำเนินการได้ตามกำหนดในสัญญาจนละทิ้งงาน ส่งผลให้หน่วยงานภาครัฐได้รับผลกระทบนั้น ให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐประสานงานกับทุกหน่วยงานและทุกจังหวัดเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ประกอบการเหล่านี้และนำมาจัดทำบัญชีรายชื่อผู้ทิ้งงานแจ้งให้ทุกหน่วยงานนำไปใช้ประกอบการพิจารณาในการว่าจ้างต่อไป ๒.๔ ตามที่ได้มีการปรับลดราคาน้ำมันและก๊าซตามมาตรการเร่งด่วนในการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันและก๊าซ นั้น ให้ฝ่ายเศรษฐกิจ โดยกระทรวงพาณิชย์กำกับดูแลระดับราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคให้มีความเหมาะสม และสอดคล้องกับสถานการณ์ราคาน้ำมันและก๊าซในปัจจุบันด้วย ๓. ด้านกฎหมาย ในการเสนอร่างกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ให้ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาเสนอร่างกฎหมายที่ยังไม่เคยบัญญัติไว้และมีลักษณะเป็นสากล เช่น กฎหมายที่มีวัตถุประสงค์มุ่งแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม และปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน เป็นต้น ๔. ด้านสังคม ให้ฝ่ายสังคมจิตวิทยา โดยกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาจัดตั้งสถาบันการศึกษาที่มีการสอนหลักสูตรเฉพาะทางที่สอดคล้องกับแนวทางการผลิตของภาคเศรษฐกิจและการพัฒนาของประเทศในอนาคต รวมทั้งสอดคล้องกับความต้องการในตลาดแรงงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้ผู้ที่จบการศึกษาสามารถมีงานทำได้ทันที ๕. ด้านอื่น ๆ ๕.๑ ให้ฝ่ายกิจการพิเศษ โดยสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเร่งสรุปผลการดำเนินการของศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติใช้เป็นศูนย์ขจัดปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งประชาชนได้ส่งข้อร้องเรียนต่าง ๆ กว่า ๕๘,๐๐๐ ราย นั้น ให้จัดกลุ่มประเภทของข้อร้องเรียนและจำนวนข้อร้องเรียนที่อยู่ระหว่างการดำเนินการหรือดำเนินการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว เพื่อเสนอหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติทราบต่อไป และให้ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์เชื่อมโยงการทำงานกับศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศเพื่อให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นไปอย่างครบวงจร และสามารถแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ๕.๒ ให้ทุกฝ่ายจัดให้มีการประชุมชี้แจงกลุ่มย่อยเพื่อเป็นเวทีให้ประชาชน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และทุกภาคส่วนได้รับทราบข้อเท็จจริงในการดำเนินการในเรื่องสำคัญต่าง ๆ ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เช่น การบริหารจัดการพลังงาน การแก้ไขปัญหาขยะ โดยดำเนินการทุกเดือนเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ประชาชน รวมทั้งเป็นการรับฟังความคิดเห็นจากนักวิชาการ ภาคเอกชน ภาคประชาชนไปพร้อมกันด้วย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการนำข้อคิดเห็นเหล่านี้มาพิจารณาประกอบการดำเนินการในระยะต่อไป อันจะทำให้การขับเคลื่อนประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ๕.๓ ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๗ ให้ฝ่ายความมั่นคง โดยกระทรวงมหาดไทย (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) เร่งดูแลให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะอุทกภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนโดยเร็วนั้น โดยที่ปัจจุบันแต่ละพื้นที่ในภูมิภาคของไทยยังประสบปัญหาอุทกภัยอันเนื่องมาจากลมมรสุม โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งส่งผลให้เกิดน้ำท่วมอย่างฉับพลัน หรือน้ำล้นตลิ่ง จึงมีข้อสั่งการ ดังนี้ ๕.๓.๑ ให้ฝ่ายความมั่นคง โดยกระทรวงมหาดไทย (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบโดยเร็ว และให้ประสานข้อมูลสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด รวมทั้งแจ้งเตือนภัยผ่านทุกช่องทางการสื่อสารให้ประชาชนผู้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงทราบเพื่อจะได้เตรียมความพร้อมได้โดยเร็ว ๕.๓.๒ ให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำพิจารณาหามาตรการแก้ไขปัญหาน้ำล้นตลิ่งโดยเฉพาะในบริเวณลุ่มแม่น้ำยม
|
||||||||||||||||||||||||
25995 | การขอลดหย่อนค่ารายปีภาษีโรงเรือนและที่ดิน ประจำปีภาษี 2554 - 2555 (การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย) | คค | 02/09/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ลดหย่อนค่ารายปีภาษีโรงเรือนและที่ดิน ประจำปีภาษี ๒๕๕๔-๒๕๕๕ ให้แก่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ตามแนวทางของมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง ขอลดหย่อนค่ารายปีภาษีโรงเรือนและที่ดิน ประจำปีภาษี ๒๕๕๖) ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง ๒. เพื่อให้การประเมินค่ารายปีและค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินของรัฐวิสาหกิจทุกแห่งเป็นระบบและมีมาตรฐานเดียวกัน จึงให้กระทรวงการคลังเร่งรัดดำเนินการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินภาษีโรงเรือนและที่ดินของรัฐวิสาหกิจให้มีมาตรฐานเดียวกัน เป็นธรรมและมีผลบังคับใช้ทั่วไปกับทุกรัฐวิสาหกิจ และให้นำเสนอฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ พิจารณาก่อนนำเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ตามนัยมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง ขอลดหย่อนค่ารายปีและค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินเขื่อนรัชชประภาประจำปี ๒๕๕๖) โดยเร็วต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
25996 | บันทึกความเข้าใจว่าด้วยเรื่องการขจัดโรคคาลา อาซา (Kala-azar) ให้หมดไปจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ | สธ | 02/09/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบและอนุมัติการลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการขจัดโรคคาลา อาซา (Kala-azar) ให้หมดไปจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายอื่นเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงหรือแก้ไขถ้อยคำที่มิใช่สาระสำคัญในบันทึกความเข้าใจฯ ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติมอบหมายให้ผู้ลงนามเป็นผู้ใช้ดุลยพินิจตามสถานการณ์ ตามความเหมาะสมที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยต่อไป ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ทั้งนี้ ไม่ต้องจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ในการลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ตามความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งรัดดำเนินการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคชิคุนกุนยา (Chikungunya) หรือโรคไข้ปวดข้อยุงลาย ที่มีการแพร่ระบาดมากในภาคใต้ของประเทศไทยด้วย |
||||||||||||||||||||||||
25997 | ขอความเห็นชอบในการแต่งตั้งผู้แทนและผู้แทนสำรองของไทยในกองทุนร่วมเพื่อสินค้าโภคภัณฑ์ | กษ | 02/09/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติเห็นชอบให้รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่กำกับดูแลด้านการต่างประเทศเป็นผู้ว่าการ และเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเป็นผู้ว่าการสำรอง เพื่อปฏิบัติงานในคณะมนตรีผู้ว่าการตามที่กำหนดไว้ในความตกลงกองทุนร่วมเพื่อสินค้าโภคภัณฑ์ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติมีมติ (๒ กันยายน ๒๕๕๗) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||
25998 | การเลื่อนเงินเดือนข้าราชการผู้ได้รับการพิจารณาบำเหน็จความชอบเป็นกรณีพิเศษนอกเหนือโควตาปกติในวันที่ 1 เมษายน 2557 (สำนักงานผู้แทนการค้าไทย) (จำนวน 7 คน 1. นายธีระพงษ์ วัฒนวงษ์ภิญโญ ฯลฯ) | นร04 | 02/09/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติอนุมัติการเลื่อนเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษนอกเหนือโควตาปกติในวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๗ ให้แก่ข้าราชการผู้ไปช่วยปฏิบัติราชการในงานของผู้แทนการค้าไทย จำนวน ๗ คน ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. โควตาผู้แทนการค้าไทย (นายพิเชษฐ สถิรชวาล) ๑.๑ นายธีระพงษ์ วัฒนวงษ์ภิญโญ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ สำนักประสานงานการเมือง สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ๑.๒ นางพัชรี อุส่าห์ เจ้าพนักงานธุรการชำนาญงาน สำนักบริหารกลาง สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ๒. โควตาผู้แทนการค้าไทย (นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์) ๒.๑ นางกมลพรรณ เทพอาวุธ นักวิชาการสรรพากรชำนาญการ สำนักบริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่ กรมสรรพากร ๒.๒ นายศักดิ์นรินทร์ อินภิรมย์ นักตรวจสอบภาษีชำนาญการ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สงขลา ๒ กรมสรรพากร ๓. โควตาผู้แทนการค้าไทย (นางนลินี ทวีสิน) ๓.๑ นางสาวพุทธชาติ วงษ์มงคล นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการพิเศษ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ๓.๒ นางสาวสุภาวดี เชิดมณี นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ กรมการค้าต่างประเทศ ๔. โควตาผู้แทนการค้าไทย (นายพฤฒิชัย วิริยะโรจน์) - นายศิริเทพ ทั่งศิริ นักวิชาการพาณิชย์ปฏิบัติการ กรมการค้าต่างประเทศ
|
||||||||||||||||||||||||
25999 | ขออนุมัติหลักการในการขอใช้เงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 [ค่าชดใช้เงินให้แก่บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน)] | กค | 02/09/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. รับทราบความจำเป็นเร่งด่วนที่กระทรวงการคลังจะต้องจ่ายเงินชำระหนี้ตามคำพิพากษาศาลฎีกาคดีหมายเลขแดงที่ ๔๙๔๘/๒๕๕๗ เมื่อวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๕๗ ให้แก่บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) เป็นเงินจำนวน ๒๒๔,๗๗๔,๑๙๓ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วันมีคำพิพากษาเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระหนี้เสร็จ จำนวน ๒๔๗ วัน (คำนวณจากวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗) เป็นเงินจำนวน ๑๑,๔๐๘,๐๖๐.๐๖ บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๒๓๖,๑๘๒,๒๕๓.๐๖ บาท ซึ่งกระทรวงการคลังจะต้องปฏิบัติตามชำระหนี้ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เนื่องจากมีภาระดอกเบี้ยที่จะต้องรับผิดชอบเพิ่มมากขึ้นตามช่วงระยะเวลา แต่กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง มิได้ตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ. ๒๕๕๗ เพื่อการดังกล่าวไว้ จึงมีความจำเป็นต้องขออนุมัติใช้เงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการชำระหนี้ตามคำพิพากษาศาลฎีกาให้แก่บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) และจะดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดตามระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไปเมื่อชำระหนี้เสร็จสิ้นแล้ว ๒. อนุมัติในหลักการการขอใช้เงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ในกรอบวงเงิน ๒๓๖,๑๘๒,๒๕๓.๐๖ บาท เพื่อชำระหนี้ดังกล่าวพร้อมค่าดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วันมีคำพิพากษาจนกว่าจะชำระหนี้เสร็จ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๓. ให้กระทรวงการคลังเร่งดำเนินการเจรจากับบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อขอผ่อนปรนและลดภาระค่าใช้จ่ายในการชำระหนี้ตามคำพิพากษาและดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นดังกล่าวให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว เพื่อมิให้เป็นภาระทางด้านงบประมาณของราชการ |
||||||||||||||||||||||||
26000 | ขอลดหย่อนค่ารายปีและค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินโรงไฟฟ้าจะนะประจำปี 2556 | พน | 02/09/2557 | |||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้องค์การบริหารส่วนตำบลคลองเปียะลดหย่อนค่ารายปีและค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินประจำปี ๒๕๕๖ ให้แก่โรงไฟฟ้าจะนะ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยให้คิดค่ารายปี จาก ๑๒๗,๘๑๖,๓๗๖.๔๐ บาท เป็น ๔๘,๐๓๖,๘๑๑.๕๑ บาท และค่าภาษีโรงเรือนและที่ดิน จาก ๒๑,๒๒๕,๒๕๐.๒๐ บาท เป็น ๖,๐๐๔,๖๐๑.๔๔ บาท ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ๒. เพื่อให้การประเมินค่ารายปีและค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินของรัฐวิสาหกิจทุกแห่งเป็นระบบและมีมาตรฐานเดียวกัน จึงให้กระทรวงการคลังเร่งรัดดำเนินการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินภาษีโรงเรือนและที่ดินของรัฐวิสาหกิจให้มีมาตรฐานเดียวกัน เป็นธรรม และมีผลบังคับใช้ทั่วไปกับทุกรัฐวิสาหกิจ และให้นำเสนอฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติพิจารณาก่อนนำเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ตามนัยมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง ขอลดหย่อนค่ารายปีและค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินเขื่อนรัชชประภา ประจำปี ๒๕๕๖) โดยเร็วต่อไป |
.....