ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1296 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 25901 - 25920 จากข้อมูลทั้งหมด 124013 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
25901 | กรอบและงบประมาณของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ 2558 | นร11 | 23/09/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบประมาณการงบทำการประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๘ ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิประมาณ ๘๓,๒๖๙ ล้านบาท โดยสามารถจัดหาเงินสดเพื่อใช้ลงทุนได้ประมาณ ๒๕๓,๒๕๕ ล้านบาท และรับทราบประมาณการแนวโน้มการดำเนินงานช่วงปี ๒๕๕๙-๒๕๖๑ ของรัฐวิสาหกิจที่คาดว่าผลประกอบการจะมีกำไรสุทธิ รวม ๓๐๑,๕๘๖ ล้านบาท หรือเฉลี่ยประมาณปีละ ๑๐๐,๕๒๙ ล้านบาท และการเบิกจ่ายลงทุน รวม ๑,๙๖๘,๒๐๕ ล้านบาท หรือเฉลี่ยประมาณปีละ ๖๕๖,๐๖๘ ล้านบาท ๒. เห็นชอบกรอบและงบประมาณของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๘ วงเงินดำเนินการ จำนวน ๑,๓๙๗,๔๑๒ ล้านบาท และวงเงินเบิกจ่ายลงทุน จำนวน ๖๕๗,๙๐๑ ล้านบาท ประกอบด้วย ๒.๑ กรอบการลงทุนสำหรับงานตามภารกิจปกติและโครงการต่อเนื่องที่ได้รับอนุมัติให้ดำเนินการแล้ว วงเงินดำเนินการ จำนวน ๑,๐๙๗,๔๑๒ ล้านบาท และวงเงินเบิกจ่ายลงทุน จำนวน ๕๙๗,๙๐๑ ล้านบาท ๒.๒ กรอบการลงทุนสำหรับการเพิ่มเติมระหว่างปี วงเงินดำเนินการ จำนวน ๓๐๐,๐๐๐ ล้านบาท และวงเงินเบิกจ่ายลงทุน จำนวน ๖๐,๐๐๐ ล้านบาท สำหรับรองรับโครงการลงทุนที่คณะรัฐมนตรีจะมีมติอนุมัติเพิ่มเติมระหว่างปี และงบลงทุนปกติที่อาจต้องปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมตามความจำเป็นระหว่างปี เพื่อให้รัฐวิสาหกิจสามารถดำเนินการได้ทันทีภายในปีงบประมาณ สำหรับโครงการที่ยังไม่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีและการลงทุนที่ใช้เงินงบประมาณตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ให้ดำเนินการได้เมื่อได้รับอนุมัติตามขั้นตอนแล้ว ทั้งนี้ กำหนดเป้าหมายให้รัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายลงทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ ๙๕ ของกรอบวงเงินอนุมัติเบิกจ่ายลงทุน ๓. มอบหมายให้คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นผู้พิจารณาอนุมัติการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมงบลงทุนระหว่างปี ในส่วนของงบลงทุนเพื่อการดำเนินงานปกติและโครงการต่อเนื่องที่การเปลี่ยนแปลงไม่มีผลกระทบต่อสาระสำคัญและกรอบวงเงินโครงการที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไว้แล้วแทนคณะรัฐมนตรี เพื่อความคล่องตัวในการบริหารจัดการ ๔. เห็นชอบให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติปรับวงเงินลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๘ ที่ใช้แหล่งเงินดำเนินงานจากเงินงบประมาณให้สอดคล้องกับผลการจัดสรรงบประมาณตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ และมติคณะรัฐมนตรีที่อนุมัติการลงทุนเพิ่มเติมระหว่างปีของรัฐวิสาหกิจ ๕. ให้รัฐวิสาหกิจรายงานความก้าวหน้าของการดำเนินงานและการเบิกจ่ายลงทุนประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๘ ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติทราบภายในทุกวันที่ ๕ ของเดือนอย่างเคร่งครัด และให้กระทรวงเจ้าสังกัดรับข้อเสนอแนะเชิงนโยบายระดับกระทรวงและระดับองค์กรตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอไปพิจารณาดำเนินการ รวมทั้งให้รายงานผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะและรายงานความก้าวหน้าการดำเนินโครงการลงทุนทุกไตรมาส ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการติดตามประเมินผลการดำเนินงานและการลงทุนของรัฐวิสาหกิจได้อย่างต่อเนื่อง ๖. ให้รัฐวิสาหกิจให้ความสำคัญและสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา โดยในเบื้องต้นให้พิจารณานำเงินเหลือจ่ายปี ๒๕๕๗ มาใช้สนับสนุนการดำเนินการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาตามนโยบายรัฐบาลของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ๗. ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๗ ให้ทุกส่วนราชการเตรียมความพร้อมเพื่อสามารถเริ่มเบิกจ่ายงบประมาณได้ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ ๒๕๕๘ นั้น ให้รัฐวิสาหกิจจัดทำแผนปฏิบัติการ (Action plan) ระยะ ๑ ปี ของโครงการในความรับผิดชอบเสนอส่วนราชการต้นสังกัดและรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับการบริหารราชการพิจารณา โดยในระยะ ๓ เดือนแรกให้เร่งเบิกจ่ายงบประมาณสำหรับโครงการขนาดเล็กที่สามารถเริ่มดำเนินการได้ทันที ๘. ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงเจ้าสังกัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันดำเนินการจัดทำแผนฟื้นฟูรัฐวิสาหกิจที่ประสบปัญหาต่าง ๆ อย่างเร่งด่วน โดยให้นำข้อสังเกตของคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในเรื่องการปรับบทบาทการเป็นรัฐวิสาหกิจให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ข้อเท็จจริง และปัจจัยแวดล้อมในปัจจุบัน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
25902 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร (นักบริหาร ระดับสูง) | นร04 | 23/09/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางสาวปราณี ศรีประเสริฐ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
25903 | รายงานแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 | นร07 | 23/09/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ๑.๑ รับทราบแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ ได้จัดทำแผนฯ ครบทั้ง ๔๑๙ หน่วยงาน/รายการ ตามวงเงินงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นเงิน ๒,๕๗๕,๐๐๐ ล้านบาท โดยจำแนกเป็นรายจ่ายประจำ จำนวน ๒,๑๒๕,๕๒๔.๒๔ ล้านบาท และรายจ่ายลงทุน จำนวน ๔๔๙,๔๗๕.๗๖ ล้านบาท ทั้งนี้ ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ ได้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ในมิติบูรณาการ ๑๔ แผนบูรณาการ วงเงินงบประมาณทั้งสิ้น ๔๘๖,๖๘๑.๙๗ ล้านบาท ๑.๒ เห็นชอบการเร่งรัด และกำกับดูแลการบริหารงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ และให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐถือปฏิบัติต่อไป ดังนี้ ๑.๒.๑ ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดกำกับดูแลให้หัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอื่นของรัฐ และผู้ว่าราชการจังหวัด ติดตามและกำกับดูแลการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ที่กำหนดไว้ รวมทั้งรายงานผลการปฏิบัติงานและผลการใช้จ่ายงบประมาณเป็นรายเดือน ส่งให้สำนักงบประมาณเพื่อใช้ในการติดตามความก้าวหน้าของการปฏิบัติงาน และสรุปรายงานต่อคณะรัฐมนตรีเป็นรายไตรมาสต่อไป ๑.๒.๒ หากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ มีเหตุผลความจำเป็นที่จะต้องปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๑ และนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ก็ให้เสนอรัฐมนตรีเจ้าสังกัดพิจารณาให้ความเห็นชอบ และส่งสำนักงบประมาณเห็นชอบการปรับแผนฯ ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติมต่อไป ๑.๒.๓ ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ นำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ที่สำนักงบประมาณได้ให้ความเห็นชอบแล้ว ไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของการจัดทำแผนการปฏิบัติราชการประจำปีของหน่วยงาน ๒. สำหรับการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ทั้งในส่วนราชการที่มีการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณมูลค่าโครงการไม่เกิน ๑,๐๐๐ ล้านบาท และที่เกิน ๑,๐๐๐ ล้านบาท รวมทั้งงบประมาณรายจ่ายก่อนปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ซึ่งไม่สามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ทันภายในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗ ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐเร่งดำเนินการขอกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีกรณีไม่มีหนี้ผูกพันกับกระทรวงการคลังทุกงบรายจ่ายโดยด่วน ๓. ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐดำเนินการจัดทำแผนการใช้จ่ายเงินงบประมาณที่ได้ขอกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีดังกล่าวตามข้อ ๒ และส่งสำนักงบประมาณภายในวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๗ เพื่อนำเสนอรองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล) พิจารณารายการที่มีความจำเป็นและเหมาะสมสอดคล้องกับการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งนโยบายของรัฐบาล ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
25904 | ขอแจ้งผลการพิจารณาในเบื้องต้นเกี่ยวกับประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ | นร09 | 23/09/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการายงานผลการพิจารณาในเบื้องต้นเกี่ยวกับสถานะของประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติบางฉบับที่มิให้นำบทบัญญัติเกี่ยวกับองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการตามกฎหมายและระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีมาใช้บังคับ รวมทั้งแนวทางการดำเนินการในการแก้ไของค์ประกอบ รายชื่อ หรืออำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการตามประกาศและคำสั่งดังกล่าว ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ ๑) พิจารณาแล้วเห็นว่า สามารถแบ่งประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติในเรื่องดังกล่าวออกเป็น ๒ ประเภท คือ ประกาศหรือคำสั่งที่มีผลทางกฎหมาย และประกาศหรือคำสั่งที่เป็นการใช้อำนาจในทางบริหาร โดยหากเป็นประกาศหรือคำสั่งที่มีผลทางกฎหมาย การแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับองค์ประกอบหรืออำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการก็จะต้องดำเนินการโดยการตรากฎหมาย ส่วนประกาศหรือคำสั่งที่เป็นการใช้อำนาจในทางบริหาร การแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับองค์ประกอบหรืออำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการก็ดำเนินการแก้ไขโดยคำสั่งหรือระเบียบทางบริหารเท่านั้น ๒. เห็นชอบให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติตามองค์ประกอบในมาตรา ๑๒ แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๓๕ ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ส่วนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิไม่เกิน ๘ คน ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง ซึ่งในจำนวนนี้จะต้องมีผู้แทนภาคเอกชนร่วมอยู่ด้วยไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง ให้ใช้รายชื่อกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๙๐/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๑๐ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ รวม ๘ คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๓ กันยายน ๒๕๕๗) เป็นต้นไป ทั้งนี้ ให้ยกเว้นการนำระเบียบ แนวทาง หรือหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการเสนอชื่อกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติมาใช้บังคับกับการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในครั้งนี้ โดยรายชื่อกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ประกอบด้วย ๒.๑ นางนันทริกา ชันซื่อ ๒.๒ นายชัชชม อรรฆภิญญ์ ๒.๓ นายพิจิตต รัตตกุล ๒.๔ นายสุวิชญ์ รัศมิภูติ ๒.๕ นายอนรรฆ พัฒนวิบูลย์ ๒.๖ นายสุรศักดิ์ ฐานีพานิชสกุล ๒.๗ นายประเสริฐ ตปนียางกูร ๒.๘ นายอดิศร์ อิศรางกูร ณ อยุธยา |
|||||||||||||||||||||
25905 | แต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายชินชัย ชี้เจริญ) | พม | 23/09/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายชินชัย ชี้เจริญ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาวิชาการพัฒนาสังคม (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตั้งแต่วันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||
25906 | การต่อเวลาการดำรงตำแหน่งและการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งของเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สำนักนายกรัฐมนตรี) | นร10 | 23/09/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของนายอำพน กิตติอำพน ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งได้ดำรงตำแหน่งและปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวมาจะครบกำหนด ๔ ปี ในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗ ต่อไปอีก ๑ ปี ครั้งที่ ๑ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
25907 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (จำนวน 7 ราย) (1. นายประสิทธิ์ สืบชนะฯ) | กค | 23/09/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการคลัง ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๗ ราย ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการและตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. นายประสิทธิ์ สืบชนะ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายอำนวย ปรีมนวงศ์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายจุมพล ริมสาคร ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นายนรินทร์ กัลยาณมิตร ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๕. นายสุวิชญ โรจนวานิช ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๖. นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๗. นายกฤษฎา อุทยานิน ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ |
|||||||||||||||||||||
25908 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (จำนวน 2 ราย) (1. ว่าที่ร้อยตรี ศรัณย์ สมานพันธ์ฯ) | พม | 23/09/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ดังนี้
๑. ว่าที่ร้อยตรี ศรัณย์ สมานพันธ์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ
|
|||||||||||||||||||||
25909 | การต่อเวลาการดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ก.พ. (นายนนทิกร กาญจนะจิตรา) | นร10 | 23/09/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของนายนนทิกร กาญจนะจิตรา ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งเลขาธิการ ก.พ. ซึ่งได้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวจะครบ ๔ ปี ในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗ ต่อไปอีก ๑ ปี ครั้งที่ ๑ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ
|
|||||||||||||||||||||
25910 | การพิจารณาอนุมัติให้นำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเลขาธิการ กปร. | กร | 23/09/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งหม่อมหลวงจิรพันธุ์ ทวีวงศ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
25911 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ (นักบริหารระดับสูง) และตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ (นักบริหารระดับสูง) (จำนวน 2 ราย) | นร06 | 23/09/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ตามที่สำนักข่าวกรองแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. นายฉัตรพงศ์ ฉัตราคม ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ๒. นายเชิดศักดิ์ สันติวรวุฒิ ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ |
|||||||||||||||||||||
25912 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางปัทมา เธียรวิศิษฎ์สกุล) | นร11 | 23/09/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางปัทมา เธียรวิศิษฎ์สกุล ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
25913 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (จำนวน 4 ราย) (1. นางอัมพวัน พิชาลัย ฯ) | พณ | 23/09/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงพาณิชย์ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๔ ราย ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการและตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
๑. นางอัมพวัน พิชาลัย ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการค้าภายใน ๓. นายธวัชชัย โสภาเสถียรพงศ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ๔. นางมาลี โชคล้ำเลิศ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา
|
|||||||||||||||||||||
25914 | การแต่งตั้งข้าราชการ (นายคุรุจิต นาครทรรพ) | พน | 23/09/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายคุรุจิต นาครทรรพ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงพลังงาน ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
25915 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงแรงงาน (นายนคร ศิลปอาชา) | รง | 23/09/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายนคร ศิลปอาชา ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงแรงงาน ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
25916 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ (นักบริหารระดับสูง) ทดแทนข้าราชการที่เกษียณอายุ | นร07 | 23/09/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายธวัชชัย กิจรัตนะกุล ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
25917 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (จำนวน 4 ราย 1. พลอากาศโท บรรจง คลายนสูตร์ ฯ) | คค | 18/09/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน ๔ ราย ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๖ กันยายน ๒๕๕๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
๑. พลอากาศโท บรรจง คลายนสูตร์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ๒. นายภูมิใจ อัตตะนันทน์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ) ๓. ผู้ช่วยศาสตราจารย์นพปฎล สุนทรนนท์ ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ๔. นายอารักษ์ โพธิทัต ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ)
|
|||||||||||||||||||||
25918 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (รวม 2 ตำแหน่ง) (นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ นายสรร วิเทศพงษ์) | กค | 18/09/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน ๒ ราย ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๖ กันยายน ๒๕๕๗) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ๒. นายสรร วิเทศพงษ์ ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
|
|||||||||||||||||||||
25919 | การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและการแก้ไขปัญหาอุทกภัย | พณ | 16/09/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในฐานะประธานกรรมการกำหนดนโยบายและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำรายงาน ดังนี้ ๑.๑ คณะกรรมการกำหนดนโยบายและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำได้ดำเนินการจัดทำแผนการบริหารจัดการน้ำ (Roadmap) ของประเทศเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำในทุกมิติครอบคลุมถึงปัญหาน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค การดูแลคุณภาพน้ำ รวมทั้งปัญหาภัยแล้งและอุทกภัย โดยได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นรวม ๕ คณะ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในด้านต่าง ๆ ได้แก่ การจัดทำแผนบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ต่าง ๆ จัดเตรียมข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจ จัดตั้งองค์กรและออกกฎระเบียบ และการประชาสัมพันธ์ ๑.๒ Roadmap แบ่งออกเป็น ๓ ระยะ ได้แก่ ระยะที่ ๑ การจัดทำร่างโครงการต่าง ๆ ระยะที่ ๒ การจัดทำรายละเอียดของโครงการ และระยะที่ ๓ การจัดทำแผนบริหารจัดการน้ำฉบับสมบูรณ์และงบประมาณที่ใช้ในการดำเนินการตามแผน ทั้งนี้ ปัจจุบันอยู่ในขั้นการดำเนินการระยะที่ ๒ ซึ่งกำหนดจะแล้วเสร็จในปลายเดือนกันยายนนี้ ส่วนการดำเนินการระยะที่ ๓ มีกำหนดแล้วเสร็จในปลายเดือนตุลาคม ๒๕๕๗ ๑.๓ ในการจัดทำ Roadmap ทั้ง ๓ ระยะดังกล่าวได้มีการบูรณาการงบประมาณและการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ๗ หน่วยงาน ได้แก่ กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมเจ้าท่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกองทัพบก โดยในระยะที่ ๑ เป็นการดำเนินการเร่งด่วนโดยใช้งบประมาณเหลือจ่ายในปีงบประมาณ ๒๕๕๗ จำนวน ๑๗,๐๐๐ ล้านบาท และในปีงบประมาณ ๒๕๕๘ จะใช้งบประมาณจำนวนประมาณ ๗๐,๐๐๐ ล้านบาท ๑.๔ สำหรับปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในช่วงนี้เกิดจากการที่มีฝนตกอย่างกระจุกตัวในบางพื้นที่ แต่โดยที่สภาวะฝนตกดังกล่าวมักเกิดในพื้นที่หลังเขื่อนต่าง ๆ ทำให้สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางมีปริมาตรน้ำในอ่างเป็นจำนวนน้อยเทียบกับปีที่ผ่านมา และคาดหมายได้ว่าในระยะต่อไปอาจจะเกิดภาวะขาดแคลนน้ำและปัญหาภัยแล้งขึ้นได้ในบางพื้นที่อันเนื่องจากการมีน้ำในแหล่งกักเก็บน้ำในปริมาณน้อยดังกล่าว ๒. มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการดังต่อไปนี้ ๒.๑ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการให้ความช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติให้ทั่วถึงและเป็นไปตามระเบียบหลักเกณฑ์ของทางราชการ โดยให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน ๓ เดือน ๒.๒ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการจัดทำแผนการดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับปัญหาภัยแล้งที่คาดว่าจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้พิจารณาเตรียมการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน เช่น การจัดทำฝนเทียม การขุดลอกคูคลอง หนองบึง แหล่งน้ำธรรมชาติ คลองระบายน้ำ การจัดทำพื้นที่แก้มลิงเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ การบริหารจัดการน้ำสำหรับการอุปโภคบริโภค การบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรม (Zoning) และการส่งเสริมการปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย เป็นต้น ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งรัดดำเนินการเกี่ยวกับการขุดลอกแม่น้ำสายหลักต่าง ๆ และให้กระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวง) เร่งดำเนินการเกี่ยวกับปัญหาถนนขวางทางระบายน้ำ ตามนัยมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ ๒ กันยายน ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ) ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ๒.๓ ในการดำเนินโครงการเกี่ยวกับการขุดลอกคูคลอง หนองบึง แหล่งน้ำธรรมชาติ รวมถึงการขุดบ่อบาดาล ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการพิจารณาใช้แรงงานจากประชาชนในพื้นที่เพื่อสร้างรายได้แก่ประชาชนในพื้นที่นั้น ๆ โดยให้ดำเนินการให้ถูกต้องเป็นไปตามระเบียบหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ๒.๔ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความจำเป็นในการกักเก็บ การใช้น้ำ การส่งเสริมการเพาะปลูก และการปรับเปลี่ยนพันธุ์พืชให้เหมาะสมกับพื้นที่ด้วย
|
|||||||||||||||||||||
25920 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | ทส | 16/09/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง พลเอก เอกชัย จันทร์ศรี ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๖ กันยายน ๒๕๕๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
.....