ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 46 จากทั้งหมด 97 หน้า แสดงรายการที่ 901 - 920 จากข้อมูลทั้งหมด 1923 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
901 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดสถานที่อื่นที่ใช้ในการขัง จำคุก หรือควบคุมผู้ต้องหา จำเลย หรือผู้ซึ่งต้องจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุด พ.ศ. .... | ยธ | 08/09/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดสถานที่อื่นที่ใช้ในการขัง จำคุก หรือควบคุมผู้ต้องหา
จำเลย หรือผู้ซึ่งต้องจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุด พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ มีสาระสำคัญคือ กำหนดลักษณะของสถานที่อื่นนอกจากสถานีตำรวจหรือสถานที่ ควบคุมผู้ต้องหาของพนักงานสอบสวน เรือนจำ หรือสถานที่ที่กำหนดไว้ในหมายจำคุก เพื่อใช้ขังผู้ต้องหารือจำเลย จำคุกผู้ซึ่งต้องจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุด หรือควบคุมจำเลยที่ได้รับทุเลาการบังคับให้จำคุก และกำหนดวิธีการ ควบคุม มาตรการป้องกันการหลบหนีหรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น และการบำบัดรักษา และให้ดำเนินการต่อ ไปได้ |
||||||||||||||||||||||||
902 | ขอถอนร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม และอายุความการฟ้องคดีบางประเภท) | ยธ | 08/09/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม และอายุความการฟ้องคดีบางประเภท) ซึ่งบรรจุอยู่ในระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่เสนอโดย คณะรัฐมนตรีชุดที่แล้ว เพื่อนำกลับมาพิจารณาปรับปรุงให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ตามที่กระทรวง ยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
903 | รายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย | ยธ | 01/09/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายรายงานผลการปฏิบัติงานตั้งแต่คณะรัฐ
มนตรีเมื่อครั้งพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้มีมติแต่งตั้งจนถึงปัจจุบัน สรุปได้ดังนี้ 1. จัดทำกฎหมายเพื่อจัดตั้งองค์การเพื่อการปฏิรูปกฎหมายตามมาตรา 81 (3) ประกอบมาตรา 308 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย พ.ศ. .... ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร 2. ศึกษาและเสนอแนะการจัดทำร่างกฎหมายที่จำเป็นต้องตราขึ้นเพื่ออนุวัติการตามบทบัญญัติแห่งรัฐ ธรรมนูญ โดยแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ จำนวน 5 คณะ เพื่อดำเนินการตามที่คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายมอบ หมาย 3. การจ้างที่ปรึกษาดำเนินโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการเวทีความคิดเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติ ธรรม (Criminal Justiec Reform Forum) และโครงการเวทีความคิดเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมไทย (Thai Criminal Justice Reform Forum) เป็นต้น 4. การดำเนินกิจกรรมทางวิชาการ เช่น ประชุมติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำกฎหมายที่จำเป็นต้องตราขี้นเพื่ออนุวัติการให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ และ การสัมมนาเรื่อง "ทิศทางองค์กรปฏิรูปกฎหมายตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย" เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||
904 | ขอให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบการจัดระบบการจัดซื้ออาหาร เครื่องบริโภค และวัสดุเพื่อการหุงหาอาหาร | ยธ | 01/09/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการและ
การจัดวางระบบ การจัดซื้อและการชำระราคาค่าอาหาร เครื่องบริโภค และวัสดุเพื่อการหุงหาอาหารให้แก่นัก โทษผู้ต้องขัง รวมทั้งเด็กและเยาวชนที่อยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์และกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน แล้วจัดส่งหรือส่งมอบให้ทั้งสองกรมต่อไป โดยดำเนินการร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สหกรณ์โคนม และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ให้กระทรวงยุติ ธรรมดำเนินการในรูปแบบดังกล่าวตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
905 | ร่างพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 18/08/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งกระทำการทุจริตใน ภาครัฐให้สามารถกล่าวหาได้แม้ผู้ถูกกล่าวหาจะพ้นจากตำแหน่งหรือพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐไปแล้วไม่ว่า โดยเหตุใดโดยไม่จำกัดระยะเวลา รวมทั้งยกเลิกหลักเกณฑ์การห้ามมิให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการ ทุจริตในภาครัฐ (คณะกรรมการ ป.ป.ท.) รับหรือพิจารณาเรื่องที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ก่อนถูกกล่าวหาเกินกว่าห้าปี ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และส่งให้คณะกรรมการประสานงานด้านนิติบัญญัติ พิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีขอความเห็นจากคณะ กรรมการ ป.ป.ท. ไปเพื่อประกอบการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาด้วย 2. ให้กระทรวงยุติธรรมรับข้อสังเกตของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ เห็นว่าการดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำทุจริตในภาครัฐของเจ้าหน้าที่ของรัฐ หากกำหนดระยะ เวลาการดำเนินการไว้ จะทำให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการมิให้เกิดความล่าช้า ซึ่งอาจทำให้พยานหลัก ฐานที่มีอยู่สูญหาย หรือยากแก่การดำเนินคดี และควรวางระเบียบวิธีการพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ชัดเจนและมี ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
906 | ร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรี ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบข้าราชการฝ่ายพลเรือน พุทธศักราช 2478 | ยธ | 11/08/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรี ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่อง แบบข้าราชการฝ่ายพลเรือน พุทธศักราช 2478 ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ มีสาระสำคัญคือ ปรับเปลี่ยนประเภท ข้าราชการกรมราชทัณฑ์ที่จะใช้เครื่องหมายแสดงระดับตำแหน่ง (อินทรธนู) และการประดับเครื่องประกอบต่างๆ กับ ชุดเครื่องแบบพิเศษของข้าราชการกรมราชทัณฑ์ รวมทั้งเพิ่มเติมลักษณะของอินทรธนูสำหรับข้าราชการกรมราชทัณฑ์ ผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร และให้ยกเลิกเครื่องหมายแสดงระดับซึ่งให้ติดที่อินทรธนูประเภทแถบหมอน เพื่อให้มี ความถูกต้องเหมาะสมและสอดคล้องกับระบบจำแนกประเภทตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญที่กำหนดขึ้นใหม่ และ ให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา 2. ให้กระทรวงยุติธรรมรับข้อสังเกตของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีไปประกอบการพิจารณา แล้ว ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ 2.1 ร่างกฎข้อ 1 แก้ไขข้อ 4 ได้กำหนดหมวกทรงหม้อตาลสีกากีไว้และให้ปักดิ้นทองหรือวัสดุเทียมดิ้น ทองเป็นช่อชัยพฤกษ์ที่กระบังหน้าหมวก ตามประเภทตำแหน่งและระดับตำแหน่ง ซึ่งจะแตกต่างกับหมวกทรงหม้อตาล สีกากีของเครื่องแบบข้าราชการประจำการทั่วไป ชนิดเครื่องแบบปฏิบัติราชการตามกฎสำนักนายกรัฐนตรี ฉบับที่ 71 (พ.ศ. 2523) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบข้าราชการฝ่ายพลเรือน พุทธศักราช 2478 ซึ่งกำหนด หมวกทรงหม้อตาลสีกากีไว้ แต่ไม่มีการปักช่อชัยพฤกษ์ที่กระบังหน้าหมวก และให้ใช้กับทุกประเภทตำแหน่งและระดับ ตำแหน่ง 2.2 ร่างกฎข้อ 7 แก้ไขข้อ 18 ได้กำหนดเกี่ยวกับการประดับเครื่องหมายแสดงระดับ โดยมีแบ่งระดับ เป็น 8 ระดับ ซึ่งจะแตกต่างจากข้าราชการพลเรือนสามัญทั่วไปตามร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีที่คณะรัฐมนตรีมีมติ เห็นชอบหลักการแล้วเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2552 ซึ่งกำหนดเกี่ยวกับการประดับอินทรธนูไว้เพียง 4 ระดับเท่านั้น |
||||||||||||||||||||||||
907 | ขอความเห็นชอบในหลักการจากคณะรัฐมนตรีในการจัดตั้งสำนักงานบังคับคดีอาญาและการบังคับใช้กฎหมาย | ยธ | 05/08/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการแนวทางการปรับโครงสร้างแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง
ยุติธรรม โดยจัดตั้งสำนักงานบังคับคดีอาญาและการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อดูแลให้มีการปฏิบัติและมีการบังคับใช้กฎ หมายอย่างถูกต้อง รวดเร็ว และพัฒนากระบวนการยุติธรรมให้มีระบบการอำนวยความยุติธรรมที่มีประสิทธิภาพและ เป็นธรรมกับทุกกลุ่ม และให้ดำเนินการต่อไปได้ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
908 | ร่างพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 28/07/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับร่างพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. .... ที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงยุติธรรม สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานอัยการ สูงสุด สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อให้ ได้ข้อยุติในการแก้ไขปัญหาว่าสมควรแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติฉบับนี้ซึ่งกำหนดห้ามมิให้ใช้วิธีการอนุญาโตตุลา การเพื่อระงับข้อพิพาทในสัญญาระหว่างหน่วยงานของรัฐกับเอกชน หรือไม่ เพียงใด หรือสมควรหาวิธีการเพื่อระงับ ข้อพิพาทในแนวทางอื่น เช่น ระบบไกล่เกลี่ย หรือวิธีการอื่นใดที่จะไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และเป็น วิธีการสากลในการระงับข้อพิพาทที่นานาประเทศยอมรับ แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง |
||||||||||||||||||||||||
909 | ร่างพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการกักขังตามประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 28/07/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมการประสานงานด้านนิติบัญญัติวันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม
2552 และให้แก้ไขร่างพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการกักขังตามประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามสรุปผลการประชุม ฯ ดังกล่าว ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
910 | ร่างพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 28/07/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมาติรับทราบสรุปผลการประชุมการประสานงานด้านนิติบัญญัติวันจันทร์ที่ 27 กรกฎา
คม 2552 และให้แก้ไขร่างพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามสรุปผลการประชุม ฯ ดังกล่าว ก่อน เสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
911 | การขอขยายระยะเวลาการบรรจุ แต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการในตำแหน่งว่างตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2552 | ยธ | 14/07/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบในการขยายระยะเวลาการบรรจุ แต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการในตำแหน่งว่างของส่วนราช การในสังกัดกระทรวงยุติธรรมออกไป โดยยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2552 ที่เห็นชอบการขยายระยะเวลาการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2552 (เรื่อง การ บริหารจัดการตำแหน่งว่างของส่วนราชการ) ทั้งนี้ จนกว่าการจัดตั้งหน่วยบังคับคดีอาญาและบังคับใช้กฎหมาย ทางอาญาจะแล้วเสร็จ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ 2. ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ. ที่เห็นควรกำหนดให้ชัดเจนว่าการจัดกรอบ อัตรากำลังในหน่วยงานที่จะจัดตั้งใหม่ จะเกลี่ยตำแหน่งจากส่วนราชการใด เป็นจำนวนเท่าใดบ้าง โดยให้ระบุ เป็นข้อขัดข้องในการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2552 ตามแบบรายงานตำแหน่ง ว่างที่เหลือยู่ ณ วันที่ 16 มิถุนายน 2552 ซึ่งสำนักงาน ก.พ. ได้กำหนดให้ส่วนราชการต่าง ๆ รายงานการ ดำเนินการบริหารจัดการตำแหน่งว่างของส่วนราชการ ตามหนังสือสำนักงาน ก.พ. ด่วนที่สุด ที่ นร 1008.4/ 87 ลงวันที่ 18 พฤษภาคม 2552 เพื่อสำนักงาน ก.พ. จะได้สรุปผลการดำเนินการในภาพรวมและดำเนินการ ตามแนวทางที่กำหนดตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว
|
||||||||||||||||||||||||
912 | ร่างพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 30/06/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยา
เสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป โดยร่างพระราชบัญญัติ ฯ มีสาระสำคัญคือ 1. ปรับปรุงบทกำหนดโทษกรณีความผิดฐานสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และกรณีผู้ใด ไม่มาให้ถ้อยคำ ไม่ส่งคำชี้แจงเป็นหนังสือ หรือไม่ส่งบัญชีเอกสารหรือหลักฐานตามมาตรา 25 (2) หรือขัดขวาง หรือไม่ให้ความสะดวกตามมาตรา 25 (3) หรือ (4) 2. ปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินและพนักงานเจ้าหน้าที่ 3. กำหนดหลักเกณฑ์ในการยึดหรืออายัดทรัพย์สินเมื่อมีเหตุอันควรสงสัยว่า เป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่อง กับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดก่อนหรือหลังที่คณะกรรมการหรือเลขาธิการมีคำสั่งตรวจสอบทรัพย์สิน ตามมาตรา 19 หรือก่อนที่คณะกรรมการหรือเลขาธิการมีคำสั่งยึดหรืออายัดทรัพย์สินตามมาตรา 22 4. ปรับปรุงระยะเวลาในการยื่นคำร้องเพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด เกี่ยวกับยาเสพติดตกเป็นของกองทุนและระยะเวลาในการยื่นคำร้องเพิ่มเติม และกำหนดให้พนักงานอัยการยื่นคำ ร้องต่อศาลเพื่อไต่สวนทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในกรณีต้องผู้หา หรือจำเลย หลบหนีหรือถึงแก่ความตาย และให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของกองทุน 5. กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการขอให้ศาลสั่งอนุญาตให้นำทรัพย์สิน ตามมาตรา 30 ออกขาย ทอดตลาด หรือไปใช้เพื่อประโยชน์ของทางราชการไปพลางก่อน ก่อนที่ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของกองทุน และ การประเมินราคาทรัพย์สิน ค่าเสียหายหรือค่าเสื่อมสภาพของทรัพย์สิน 6. ให้ทรัพย์สินของกองทุนรวมถึงทรัพย์สินที่ตกเป็นของกองทุนตามมาตา 29 และมาตรา 30/2 7. แก้ไขผู้รับรายงานงบดุลและรายงานการรับจ่ายเงินของกองทุนจากคณะรัฐมนตรีเป็นรัฐมนตรี
|
||||||||||||||||||||||||
913 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพัน เกินกว่าวงเงินและระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ รายการปรับปรุงเรือนจำกลางปัตตานี | ยธ | 30/06/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมถอนเรื่อง ขออนุมัติเพิ่มวงเงินและขยายระยะ
เวลาก่อหนี้ผูกพัน เกินกว่าวงเงินและระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติรายการปรับปรุงเรือนจำกลางปัตตานี คืนไปได้ ตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
914 | ขอความเห็นชอบให้แก้ไขอัตราค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งสำหรับข้าราชการอัยการตำแหน่งอัยการอาวุโสและเห็นชอบให้ข้าราชการอัยการที่รับเงินเดือนชั้น 4 - 5 มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่ง | ยธ | 03/06/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบให้แก้ไขอัตราค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งสำหรับข้าราชการอัยการ ตำแหน่งอาวุโส โดยเทียบเคียงกับหลักเกณฑ์เงื่อนไขและอัตราค่าตอบแทนที่ผู้พิพากษาอาวุโสได้รับ ตามที่สำนักงาน อัยการสูงสุดเสนอ ส่วนค่าใช้จ่ายเพื่อเป็นค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งให้สำนักงานอัยการ สูงสุดดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ 2. ส่วนการขอให้ข้าราชการอัยการที่รับเงินเดือนชั้น 4-5 มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหา รถประจำตำแหน่ง นั้น ให้สำนักงานอัยการสูงสุดจัดทำข้อมูลให้ชัดเจนว่า ข้าราชการอัยการดังกล่าวมีอำนาจหน้าที่ และความเหมาะสมที่จะได้รับรถประจำตำแหน่ง หรือได้รับค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งเมื่อ เทียบกับผู้ที่ดำรงตำแหน่งบริหารอย่างไร ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับข้าราชการประเภทอื่น ๆ และให้จัดทำ การเทียบตำแหน่งข้าราชการตุลาการกับข้าราชการอัยการด้วย แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่งต่อ ไป |
||||||||||||||||||||||||
915 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์เกี่ยวกับอายุความ) | ยธ | 26/05/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่ กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วนำเสนอสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาต่อไป โดยร่างพระราชบัญญัติ ฯ มีสาระสำคัญดังนี้ 1.1 แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 96 แห่งประมวลกฎหมายอาญาในกรณีความผิดอันยอมความได้ ถ้าผู้เสีย หายมิได้ร้องทุกข์ภายใน 6 เดือน (เดิมภายใน 3 เดือน) นับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด เป็น อันขาดอายุความ 1.2 เพิ่มความเป็นมาตรา 98/1 แห่งประมวลกฎหมายอาญา โดยบัญญัติให้ 1.2.1 กรณีได้ตัวผู้กระทำความผิดมาแล้วให้พนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวนหรือเจ้า พนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาดำเนินการให้มีการฟ้องผู้นั้นต่อศาลภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ได้ตัวมา เว้นแต่ ศาลจะอนุญาตให้ขยายเวลา 1.2.2 กรณีมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษผู้กระทำความผิด ถ้าผู้นั้นยังมิได้รับโทษ หรือได้รับ โทษยังไม่ครบถ้วนโดยหลบหนี ถ้ายังมิได้ตัวผู้นั้นมารับโทษนับแต่วันที่มีคำพิพากษาถึงที่สุด หรือนับแต่วันที่หลบ หนี แม้จะเกินกำหนดเวลาในมาตรา 98 ก็ไม่ถือว่าเป็นอันล่วงเลยเวลาการลงโทษ ให้ลงโทษผู้นั้นในโทษที่ยังมิได้ รับหรือที่ได้รับยังไม่ครบถ้วน 2. ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติ ฯ มาตรา 7 ให้เพิ่มความเป็นมาตรา 98/1 แห่งประมวลกฎหมายอาญา โดยกำหนดมิให้นำความในมาตรา 95 และมาตรา 98 มาใช้บังคับกับการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม จึง ถือเป็นการยกเลิกอายุความสำหรับการฟ้องและการรับโทษของผู้กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและความผิด ต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม เพื่อให้ผู้กระทำความผิดไม่สามารถหลบหนีความผิดและโทษที่จะได้รับ และจาก เหตุผลในการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายดังกล่าวความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการมีรูปแบบที่สลับซับซ้อน และยากที่ จะหาหลักฐานมาพิสูจน์ความผิดของผู้กระทำผิดได้ การสอบสวนจึงต้องใช้ระยะเวลาในการแสวงหาหลักฐาน ดังนั้น การที่ร่างมาตรา 98/1 กำหนดให้เจ้าพนักงานในตำแหน่งพนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวน หรือเจ้า พนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา หรือมีอำนาจจัดการให้เป็นไปตามกฎหมาย ดำเนินการให้มีการฟ้องผู้นั้นต่อ ศาลภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ได้มา เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาลให้ขยายระยะเวลานั้น จึงไม่สอดคล้องกับเหตุผล การแก้ไขเพิ่มเติม เนื่องจากเมื่อยกเลิกอายุความการกระทำผิดประเภทนี้แล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะกำหนดระยะ เวลาการฟ้องร้องอีกต่อไป ไปประกอบการพิจารณาด้วย |
||||||||||||||||||||||||
916 | การแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของกระทรวงยุติธรรมและส่วนราชการที่อยู่ในบังคับบัญชาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม | ยธ | 26/05/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
1. รับทราบการแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของกระทรวงยุติธรรม สำนักงาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาค รัฐ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และสำนักงานอัยการสูงสุด ดังนี้ 1.1 นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็น ปคร. ของกระทรวงยุติธรรม 1.2 นายชาติชาย สุทธิกลม ที่ปรึกษาป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เป็น ปคร. ของสำนักงาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด 1.3 นายธาริต เพ็งดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เป็น ปคร. ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 1.4 นายประสิทธิ์ ปทุมารักษ์ รองอธิบดีอัยการฝ่ายการยุติการดำเนินคดีแพ่งและอนุญาโตตุลาการ เป็น ปคร. ของสำนักงานอัยการสูงสุด 2. สำหรับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เนื่องจากยังไม่มีผู้ที่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ซึ่งเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติเป็น ปคร. ได้ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา พ.ศ. 2551 ข้อ 5 ดังนั้น ในระหว่างนายอรรณพ ลิขิตจิตถะ รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการ ฟอกเงิน ซึ่งเป็นผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้เสนอชื่อมาจะเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ ปคร. ของสำนักงาน ฯ ไป พลางก่อน เมื่อมีการแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการแล้ว ให้ดำเนินการแต่งตั้ง คปร. ของสำนักงาน ฯ และ แจ้งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบเพื่อดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
917 | การลงนามในเอกสารแก้ไขเอกสารเพิ่มเติมว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วน (บันทึกความเข้าใจ 7 ฝ่าย ว่าด้วยการควบคุมยาเสพติดในอนุภูมิภาค) | ยธ | 19/05/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะรัฐมนตรีที่กำกับดูแลงานของสำนัก
งาน ป.ป.ส. เป็นผู้ลงนามในเอกสารแก้ไขเอกสารเพิ่มเติมว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนของบันทึกความเข้าใจ 7 ฝ่าย ว่า ด้วยการควบคุมยาเสพติดในอนุภูมิภาค ระหว่างราชอาณาจักรกัมพูชาสาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐประชา ธิปไตยประชาชนลาว สหภาพพม่า ราชอาณาจักรไทย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และ United Nations Office On Drugs and Crime (UNODC) ทั้งนี้ การลงนามในเอกสารแก้ไขเอกสารเพิ่มเติมฯ ดังกล่าวจะเป็นการยืนยันเจตนา รมณ์ของประเทศไทยร่วมกับประเทศภาคีบันทึกความเข้าใจ 7 ฝ่ายฯ ในการช่วยเหลือตนเองในการแก้ไขปัญหายา เสพติดในอนุภูมิภาคอีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนระหว่างประเทศภาคีสมาชิกบันทีกความเข้าใจฯ ใน อีกทางหนึ่ง ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ |
||||||||||||||||||||||||
918 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ พ.ศ. .... | ยธ | 19/05/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการ
จัดการเรื่องราวร้องทุกข์ พ.ศ. .... ไปพิจารณาในประเด็น "ผู้ร้องทุกข์" ควรหมายรวมถึง ทายาทของผู้ได้รับความ เสียหายหรือผู้มีส่วนได้เสีย เพราะอาจไม่ครอบคลุมกรณีผู้ได้รับความเดือดร้อน และไม่อยู่ในภาวะที่สามารถมอบ ฉันทะหรือดำเนินการได้เอง ตามข้อสังเกตของกระทรวงยุติธรรม แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
919 | เสนอรายชื่อผู้สมควรแต่งตั้งให้เป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (จำนวน 6 ราย 1. นายคำภีร์ แก้วเจริญฯ) | ยธ | 13/05/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบรายชื่อบุคคลผู้สมควรได้รับการเสนอชื่อให้เป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ในภาครัฐ จำนวน 6 คน ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาให้ความเห็น ชอบ ดังนี้ 1.1 นายคัมภีร์ แก้วเจริญ ประธานกรรมการ 1.2 นายกนก พรรณรักษา กรรมการ 1.3 นายถวิล อินทรักษา กรรมการ 1.4 นายวิทย์ รายนานนท์ กรรมการ 1.5 นายสมัชชา โพธิ์ถาวร กรรมการ 1.6 นายปรีชา จำปารัตน์ กรรมการ 2. เมื่อสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาให้ความเห็นชอบแล้ว ให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการให้เป็นไป ตามมาตรา 7 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2551 ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อแต่งตั้ง
|
||||||||||||||||||||||||
920 | โครงการจัดทำข้อเสนอประเทศไทยเพื่อผลักดันเป็นข้อกำหนดเพิ่มเติมของสหประชาชาติสำหรับการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิงในเรือนจำ | ยธ | 06/05/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
1. รับทราบการจัดงานเทิดพระเกียรติ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ในวโรกาสที่ได้รับ การทูลเกล้า ฯ ถวายรางวัลเกียรติยศสูงสุดจากสหประชาชาติ ภายใต้หัวข้อหลัก (theme) "เจ้าหญิงนักกฎหมาย" ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ระหว่างวันที่ 7-10 พฤษภาคม 2552 โดยมีกิจกรรมประกอบด้วยการจัดนิทรรศการ จำลองบรรยากาศของเรือนจำ และการใช้สื่อแบบ multimedia ในการถ่ายทอดแง่มุมต่าง ๆ เกี่ยวกับปัญหาของผู้ ต้องขังหญิง และเด็กติดผู้ต้องขัง รวมทั้งเผยแพร่สื่อสิ่งพิมพ์เรื่อง (1) ร่างข้อกำหนดของสหประชาชาติสำหรับการ ปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิงในเรือนจำ (2) โครงการกำลังใจในพระดำริ ฯ และ (3) โครงการหนึ่งเสียงเพื่อยุติความรุน แรงต่อสตรีของพระเจ้าหลานเธอ ฯ ในฐานะทูตสันถวไมตรีของ United Nations Development Fund for Women (UNIFEM) ประจำประเทศไทย 2. เห็นชอบให้กระทรวงยุติธรรม เป็นหน่วยงานหลักในการผลักดันโครงการ ELEI ในพระดำริ ฯ ให้ สำเร็จลุล่วงต่อไป ซึ่งมีกิจกรรมที่ต้องดำเนินการต่อเนื่อง อาทิ การเจรจาโน้มน้าวทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี การเข้าร่วมประชุมในระดับภูมิภาคตามกรอบที่สหประชาชาติกำหนด ไปจนถึงการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชา ชาติประจำปี (UN General Assembly) เพื่อให้ความเห็นชอบร่างข้อกำหนดที่ประเทศไทยนำเสนอ รวมถึงการเดิน ทางไปชี้แจงทำความเข้าใจในการประชุมสมาคมวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติผู้ต้องขัง เช่น American Society of Criminology, International Corrections and Prisons Association ฯลฯ เพื่อให้ผู้ปฏิบัติให้การสนับสนุนต่อไป 3. ให้จัดตั้งคณะทำงานระดับชาติ (National Preparatory Committee) โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ยุติธรรมเป็นประธาน เพื่อเตรียมการด้านสารัตถะในนามประเทศไทยสำหรับการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการ ป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา ครั้งที่ 12 (Twelfth United Nations Congress on Crime Preven tion and Criminal Justice) ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนเมษายน พ.ศ. 2553 ณ ประเทศบราซิล 4. อนุมัติในหลักการให้มีการพิจารณาสนับสนุนงบประมาณให้กับกรมราชทัณฑ์สำหรับการปรับปรุง โครงสร้างพื้นฐานและพัฒนาระบบบริหารจัดการเรือนจำหญิงที่สอดคล้องกับร่างข้อกำหนดเพิ่มเติมของสหประชา ชาติสำหรับการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิงในเรือนจำที่ประเทศไทยนำเสนอ ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นแบบอย่างแก่ประเทศอื่น หรืออาจปรับปรุงเรือนจำที่มีอยู่เดิมให้เป็นเรือนจำต้นแบบ จำนวน 1 แห่ง
|
.....