ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 44 จากทั้งหมด 97 หน้า แสดงรายการที่ 861 - 880 จากข้อมูลทั้งหมด 1923 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
861 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่พนักงานสอบสวนต้องปฏิบัติในการจัดหาทนายความให้แก่ผู้ต้องหาในคดีอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 06/07/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่พนักงานสอบสวน
ต้องปฏิบัติในการจัดหาทนายความให้แก่ผู้ต้องหาในคดีอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติ ธรรมเสนอ |
|||||||||||||||||||||||||||
862 | การจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ "มหกรรมหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน : รวมใจไทยทั้งชาติ พิทักษ์ราชด้วยภักดี" | ยธ | 06/07/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) ประธานกรรมการป้องกันและ
ปราบปรามยาเสพติดเสนอ ดังนี้ 1. รับทราบการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหา มงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 78 พรรษา 12 สิงหาคม โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดได้มีมติ เห็นชอบให้มีการจัดงานเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ภายใต้ชื่องานว่า "มหกรรมหมู่ บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน : รวมใจไทยทั้งชาติ พิทักษ์ราชด้วยภักดี" ซึ่งมีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อระดมประชาชนสาขา อาชีพต่าง ๆ ทั่วประเทศร่วมกันแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีด้วยการจัดกิจกรรมต่าง ๆ และร่วมระดมทุนเพื่อสมทบ ทุนกองทุนแม่ของแผ่นดิน เพื่อสนับสนุนการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชนสนองพระราชปณิ ธาน โดยกำหนดให้มีการจัดงานตั้งแต่เดือนมิถุนายน-กันยายน 2553 2. ให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และองค์กรต่าง ๆ มีส่วนร่วมในการสนับสนุน เผย แพร่ รณรงค์ประชาสัมพันธ์การดำเนินงาน รวมทั้งการระดมทุนเพื่อสมทบโครงการหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน 3. ให้กระทรวงการคลังพิจารณาอนุมัติหลักเกณฑ์การนำเงินบริจาคสำหรับการนี้ เป็นค่าใช้จ่ายในการ ลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปีตามประมวลรัษฎากร 4. อนุมัติในหลักการของการพิจารณาเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่ผู้ที่บริจาคสมทบทุนตามระเบียบและ หลักเกณฑ์ที่กำหนด
|
|||||||||||||||||||||||||||
863 | การแต่งตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ [จำนวน 9 ราย ดร. กิตติพงษ์ ฯลฯ] | ยธ | 06/07/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการอิสระตรวจ
สอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง เรียกว่า "คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ" ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิที่ คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการ และผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนไม่เกินแปดคนที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากบุคคล ที่มีประสบการณ์ บทบาทและความรู้ ความเข้าใจหลักการและแนวทางเกี่ยวกับการตรวจสอบและค้นหาความจริง และการปรองดอง โดยให้คำนึงถึงความหลากหลายของสาขาวิชา เป็นกรรมการ รวมทั้งกำหนดวาระการดำรงตำแหน่ง และการพ้นจากตำแหน่งของประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และกำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรม การ ตามที่ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติเสนอ และให้ส่ง คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับ ความเห็นของคณะรัฐมนตรีไปประกอบการพิจารณาดำเนินการด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ 1. การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ควรกำหนดให้ประธานกรรมการเป็นผู้แต่งตั้ง 2. ในการจัดทำรายงานและข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี รัฐสภา และสาธารณชน เห็นว่า การจัดทำ รายงานต่อคณะรัฐมนตรีและสาธารณชนก็น่าจะเพียงพอต่อการรับทราบโดยทั่วกันโดยไม่ต้องรายงานไปยังรัฐสภา และเพื่อให้มีการรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการฯ เป็นระยะ สมควรกำหนดให้มีการจัดทำ รายงานต่อคณะรัฐมนตรีและสาธารณชนทุกรอบ 6 เดือน ไว้ในร่างระเบียบฯ ด้วย 3. สำนักงานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติที่จัดตั้งขึ้น มิ ได้จัดตั้งเป็นหน่วยงานของรัฐหรือส่วนราชการ ตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 การจัดสรรงบ ประมาณจึงอาจทำให้มีปัญหาในเรื่องการเสนอและจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรม การฯ สมควรกำหนดให้สำนักงานคณะกรรมการอิสระฯ อยู่ภายในสำนักงานกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม 4. กำหนดให้สำนักงานกิจการยุติธรรมเป็นผู้จัดทำงบประมาณสนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรม การฯ เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติ
|
|||||||||||||||||||||||||||
864 | การพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 | ยธ | 29/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการพิจารณาบำเหน็จความชอบประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 เป็นกรณีพิเศษ
ให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้มีผลการปฏิบัติงานด้านยาเสพติดดีเด่น ไม่เกินร้อยละ 1 ของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ที่ไม่มีรายชื่อบุคคล จำนวน 644,384 คน เป็นการเพิ่มเติม ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเสนอ |
|||||||||||||||||||||||||||
865 | รายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ประจำปี พ.ศ. 2549 - 2551 เสนอต่อคณะรัฐมนตรี | ยธ | 22/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในฐานะผู้บังคับบัญชาสำนักงาน ป.ป.ส. เสนอราย งานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ประจำปี พ.ศ. 2549-2551 และให้เสนอรายงานผลการปฏิบัติ งานดังกล่าวต่อสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป 2. ให้สำนักงาน ป.ป.ส. เร่งรัดจัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ประจำปี เสนอ ต่อคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว เพื่อจะได้เสนอคณะรัฐมนตรี สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา เป็นปี ๆ ไป |
|||||||||||||||||||||||||||
866 | ขออนุมัติขยายเวลาในการสรรหาคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ | ยธ | 22/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการขยายระยะเวลาในการดำเนินการสรรหาคณะกรรมการอิสระตรวจสอบ
และค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ ออกไปอีก 15 วัน ตามที่ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบ และค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ศาสตราจารย์ ดร.คณิต ณ นคร) เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
867 | การแต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (คณะกรรมการ ป.ป.ท.) | ยธ | 11/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอรายงานปัญหาข้อขัดข้องและความเป็นมาเกี่ยว
กับเรื่อง การแต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (คณะกรรมการ ป.ป.ท.)
|
|||||||||||||||||||||||||||
868 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติรายการก่อสร้างอาคารชุดที่พักราชการ ขนาด 18 ยูนิต 2 หลัง | ยธ | 11/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
รายการก่อสร้างอาคารชุดที่พักราชการ ขนาด 18 ยูนิต 2 หลัง ได้แก่ สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัด นครศรีธรรมราช และจังหวัดสระบุรี แห่งละ 1 หลัง จากวงเงิน 33,520,000 บาท เป็นวงเงิน 33,849,150.42 บาท ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยงบประมาณส่วนที่เพิ่มขึ้นจำนวน 329,151 บาท ให้กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและ เยาวชนพิจารณาใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
869 | การลงนามในเอกสารโครงการความเป็นหุ้นส่วนเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ โดยใช้องค์กรการปราบปรามระดับภูมิภาค - หน่วยที่ 3 (ด้านยาเสพติด) | ยธ | 04/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะรัฐมนตรีที่กำกับดูแลงานของสำนัก
งานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) เป็นผู้ลงนามในเอกสารโครงการความเป็น หุ้นส่วนเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ โดยใช้องค์กรการปราบปรามระดับภูมิภาค-หน่วยที่ 3 (ด้านยาเสพติด) [Partnership Against Transnational-crime through Regional Organized Law-enforcement-PATROL : Module 3 (Drugs)] ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
870 | ความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะ | ยธ | 04/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายเสนอความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับกฎ
หมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานด้านนิติบัญญัติประกอบการพิจารณาร่างพระ ราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. .... ต่อไป สรุปได้ดังนี้ คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายเห็นว่าจำเป็นต้องตรากฎ หมายว่าด้วยการชุมนุมในที่สาธารณะเพื่อกำหนดอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐในการควบคุม ดูแล และอำนวย ความสะดวกแก่ผู้ชุมนุม ทำหน้าที่จัดสรรการใช้พื้นที่สาธารณะ รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์ ขั้นตอน วิธีการและเงื่อน ไขการยุติหรือสลายการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ และกำหนดขอบเขตการใช้เสรีภาพในการ ชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธของประชาชนและการคุ้มครองสิทธิของประชาชนทั่วไปที่ถูกกระทบอันเนื่องมาจาก การชุมนุมดังกล่าวตามที่รัฐธรรมนูญได้รับรองไว้ ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ครั้งที่ 1/2553 เมื่อ วันที่ 29 มกราคม 2553 ได้เห็นชอบในหลักการบันทึกความเห็นและข้อเสนอแนะของคณะอนุกรรมการพิจารณาร่าง กฎหมายว่าด้วยการชุมนุมในที่สาธารณะ และในการประชุมครั้งที่ 2/2553 เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2553 ที่ประชุม เห็นสมควรผลักดันให้มีพระราชบัญญัติว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะโดยเร็ว
|
|||||||||||||||||||||||||||
871 | ความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับร่างกฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ | ยธ | 04/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบความเห็นและข้อเสนอแนะของคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายเกี่ยวกับร่างกฎหมายว่าด้วย แรงงานสัมพันธ์ เพื่อพิจารณาประกอบการปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 ดังนี้ 1.1 ควรพัฒนาหลักการแรงงานสัมพันธ์ให้เป็นรูปแบบใหม่ที่เป็นการยกระดับลูกจ้างและนายจ้าง ให้อยู่ในระดับเดียวกัน 1.2 ปรับปรุงพระราชบัญญัติแรงานสัมพันธ์ฯ ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 และอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ฉบับที่ 87 ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคมและ การคุ้มครองสิทธิในการรวมตัวกัน พ.ศ. 2491 และอนุสัญญาฯ ฉบับที่ 98 ว่าด้วยสิทธิในการรวมตัวกันและการ ร่วมเจรจาต่อรอง พ.ศ. 2492 เกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิการรวมตัวกันได้อย่างเสรีของนายจ้างและลูกจ้าง รวมทั้ง สิทธิในการก่อตั้งและเข้าร่วมสหพันธ์ระดับชาติและเป็นสมาชิกองค์การระหว่างประเทศด้านแรงงาน 1.3 ควรมีการพัฒนาระบบวิธีพิจารณาคดีแรงงาน เนื่องจากผลของคำพิพากษาในคดีแรงงานแตก ต่างไปจากคดีแพ่งทั่วไปซึ่งมีผลผูกพันเฉพาะคู่ความเท่านั้น แต่ในคดีแรงงาน ผลแห่งคำพิพากษามีผลกระทบในวง กว้างถึงนายจ้างและลูกจ้างคนอื่นด้วย นอกจากนี้ ควรกำหนดให้มีระบบชั้นศาลในศาลแรงงานที่สูงกว่าศาลแรง งานในปัจจุบันเพื่อแบ่งเบาภาระของศาลฎีกาแผนกคดีแรงงาน รวมทั้งการกำหนดให้มีผู้พิพากษาที่มีความรู้ความ เชี่ยวชาญด้านคดีแรงงานมาประจำอยู่ในศาลแรงงาน เพื่อจะได้มีบุคลากรที่มีความรู้ความเข้าใจบริบท หรือสภาพ ปัญหาด้านแรงงานมาเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาดตัดสินคดี 2. ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นและข้อเสนอแนะของคณะกรรมการฯ ไปประกอบการพิจารณาใน การปรับปรุงแก้ไขร่างพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่วมกับหน่วยงานที่เสนอความเห็นต่อ ไป |
|||||||||||||||||||||||||||
872 | การขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษกปีที่ 60 วันที่ 5 พฤษภาคม พุทธศักราช 2553 | ยธ | 27/04/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ
พระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ เพื่อเป็นการถวายพระราชกุศล และเพื่อให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นกลับ ประพฤติตนเป็นพลเมืองดี อันจะเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่ง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
873 | ขออนุมัติให้กระทรวงยุติธรรมโดยกรมราชทัณฑ์จัดซื้ออาหารสดประเภทสัตว์น้ำ (ปลา ฯลฯ) จากองค์การสะพานปลาเพื่อการประกอบเลี้ยงนักโทษและผู้ต้องขังในเรือนจำ ทัณฑสถาน และสถานกักขัง โดยวิธีกรณีพิเศษ | ยธ | 07/04/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงยุติธรรมโดยกรมราชทัณฑ์จัดซื้ออาหารสดประเภทสัตว์น้ำ (ปลา ฯลฯ)
จากองค์การสะพานปลาโดยวิธีกรณีพิเศษ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไข เพิ่มเติม ข้อ 26 ในราคาตามที่องค์การสะพานปลาเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2553 และให้สำนักงาน ปลัดกระทรวงยุติธรรมโดยกรมราชทัณฑ์ดำเนินการจัดซื้อให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 20 เมษายน 2553 เว้นแต่ต่อไป จะมีส่วนราชการหรือหน่วยงานตามกฎหมายอื่นเสนอราคาที่ต่ำกว่าราคาขององค์การสะพานปลาโดยไม่มีข้อขัดข้อง เกี่ยวกับการเก็บรักษาอาหารสดนั้นและยังคงประโยชน์ในการช่วยเหลือชาวประมงและเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงปลาและ สัตว์น้ำได้เช่นเดิม หากองค์การสะพานปลาไม่สามารถปรับลดราคาลงให้ได้ตามราคาที่ส่วนราชการหรือหน่วยงาน ตามกฎหมายอื่นนั้นเสนอมา ให้กระทรวงยุติธรรมโดยกรมราชทัณฑ์เปลี่ยนไปจัดซื้อจากส่วนราชการหรือหน่วยงาน ตามกฎหมายอื่นนั้นโดยวิธีกรณีพิเศษแทนการจัดซื้อจากองค์การสะพานปลาได้ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
874 | การจัดระบบการจัดซื้ออาหาร เครื่องบริโภค และวัสดุเพื่อการหุงหาอาหาร | ยธ | 30/03/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
1. อนุมัติยกเว้นการจัดซื้ออาหารดิบและผลไม้สำหรับหน่วยงานในสังกัดกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและ เยาวชน โดยให้จัดซื้อตามวิธีการของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนเมษายน 2553 เป็นต้นไป และอนุมัติเป็นหลักการสำหรับปีงบประมาณต่อไป ทั้งนี้ ไม่รวมการ จัดซื้อข้าวสารและข้าวสารเหนียว และนมสด ให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2552 เป็นการ ถาวรและต่อเนื่อง 2. ให้ดำเนินการจัดซื้อผลไม้และพืชอื่นที่รับประทานแทนผลไม้ ระหว่างกรมราชทัณฑ์กับเกษตรกรโดย ตรงตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2552 เป็นการถาวรและต่อเนื่อง 3. ขยายระยะเวลาการยกเว้นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2552 ในส่วน ของการจัดซื้ออาหารสด (เนื้อสัตว์และพืชผัก) และวัสดุปรุงอาหารต่อไปเป็นเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 1 เมษา ยน 2553-30 กันยายน 2553 โดยในระหว่างเวลาดังกล่าวให้ใช้วิธีการจัดซื้อที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันและตาม ที่ได้รับยกเว้นอยู่ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
875 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดคำร้องขอ การส่งมอบตัวบุคคล และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. .... | ยธ | 23/03/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดคำร้องขอ การส่งมอบตัวบุคคล และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับ
การส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎกระทรวง ฯ มีสาระสำคัญคือ 1. คำร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนของประเทศผู้ร้องขอที่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศไทย ให้ จัดส่งไปยังผู้ประสานงานกลาง หรือตามที่ระบุไว้ในสนธิสัญญา ในกรณีที่ประเทศผู้ร้องขอไม่ได้มีสนธิสัญญา ฯ กับ ประเทศไทย ให้จัดส่งคำร้องขอโดยผ่านวิธีทางการทูต 2. คำร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนให้จัดทำเป็นลายลักษณ์อักษรและต้องแนบเอกสารหลักฐานรายละเอียด ของบุคคลที่ขอให้ส่งข้ามแดน ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดี กฎหมายที่บัญญัติให้การกระทำนั้นเป็นความผิด และหากเป็น คำร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนเพื่อไปดำเนินคดีอาญาหรือเป็นคำร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนกรณีบุคคลที่ถูกพิพากษา ว่ากระทำความผิดแล้วจะต้องแนบเอกสารเพิ่มเติมตามที่กำหนด 3. เอกสารหลักฐานที่นำส่งโดยประเทศผู้ร้องขอจะต้องได้รับการรับรองโดยเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจพร้อมคำ แปลเป็นภาษาไทยและรับรองความถูกต้องด้วย 4. กำหนดให้กรณีที่ประเทศผู้ร้องขอมิได้มีสนธิสัญญา ฯ กับประเทศไทยต้องแสดงให้ชัดแจ้งว่าจะส่งผู้ร้าย ข้ามแดนให้แก่ประเทศไทยในทำนองเดียวกันเมื่อร้องขอ 5. กำหนดวิธีการดำเนินการส่งมอบตัวบุคคลซึ่งถูกร้องขอให้ส่งข้ามแดน 6. กำหนดวิธีการดำเนินการเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการส่งผู้ร้ายข้ามแดน
|
|||||||||||||||||||||||||||
876 | ร่างพระราชบัญญัติมาตรการแทนการฟ้องคดีอาญา พ.ศ. .... | ยธ | 16/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติมาตรการแทนการฟ้องคดีอาญา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้มีกฎ หมายว่าด้วยมาตรการแทนการฟ้องคดีอาญา โดยการนำมาตรการชะลอการฟ้องคดีอาญามาใช้เป็นมาตรการแทน การฟ้องคดีอาญา ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับความเห็นของคณะรัฐมนตรี ในประเด็นเรื่องการชะลอการฟ้อง ควรกำหนดให้ เป็นอำนาจของพนักงานอัยการหรือศาล และความเห็นของกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักศาลยุติธรรม ที่เห็นควรกำหนดให้มีบทบัญญัติที่กำหนดให้ คู่กรณีที่มีกรณีพิพาทกันสามารถเลือกใช้มาตรการแทนการฟ้องคดีอาญา หรือเลือกใช้มาตรการไกล่เกลี่ยในอำนาจ หน้าที่ของนายอำเภอตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการแผ่นดินก่อนที่ผลการพิจารณาจะได้ข้อยุติที่ทำให้สิทธิ ในการนำคดีมาฟ้องระงับลง หรือก่อนคดีขาดอายุความ รวมทั้งให้มีการวางระบบการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทออกเป็น 3 ระดับ เช่น ในชั้นตำรวจมีหน้าที่รับผิดชอบไกล่เกลี่ยคดีทั่วไป ส่วนคดีที่มีระดับความขัดแย้งและบทลงโทษสูงขึ้นให้ พนักงานอัยการ และศาลทำหน้าที่ไกล่เกลี่ย นอกจากนี้ การนำหลักการไกล่เกลี่ยคดีอาญามาใช้อาจจะกระทบต่อ การคุ้มครองสิทธิในกระบวนการยุติธรรมตามรัฐธรรมนูญ ระบบกฎหมายอาญาและระบบการดำเนินคดีอาญาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา รวมถึงการใช้มาตรการในการลงโทษผู้กระทำความผิด จึงควรมีการรับฟัง ความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนอย่างกว้างขวางในภาพรวมให้ดีเสียก่อน ไปประกอบการพิจารณา ด้วย แล้วให้ส่งคณะกรรมการประสานงานด้านนิติบัญญัติพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป 2. อนุมัติให้ถอนร่างพระราชบัญญัติไกล่เกลี่ยข้อพิพาทคดีอาญาในชั้นสอบสวน พ.ศ. .... ออกจากการ พิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ |
|||||||||||||||||||||||||||
877 | ร่างพระราชบัญญัติคณะกรรมการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. .... | ยธ | 09/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติคณะกรรมการปฏิรูปและพัฒนากระบวนการยุติธรรมแห่งชาติ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และส่งคณะกรรมการประสานงานด้านนิติบัญญัติพิจารณา แล้วเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป โดยร่างพระราชบัญญัติ ฯ มีสาระสำคัญคือ 1.1 ให้มีคณะกรรมการปฏิรูปและพัฒนากระบวนการยุติธรรมแห่งชาติ มีวาระในการดำรงตำแหน่ง คราวละสี่ปีนับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้ง และอาจได้รับแต่งตั้งใหม่อีกได้ 1.2 ให้คณะกรรมการปฏิรูปและพัฒนากระบวนการยุติธรรมแห่งชาติมีอำนาจแต่งตั้งคณะกรรมการ เฉพาะเรื่องหรือคณะอนุกรรมการเพื่อศึกษาเรื่องหนึ่งเรื่องใดเป็นการเฉพาะก่อนที่จะเสนอผลการพิจารณาต่อคณะ กรรมการเพื่อพิจารณาต่อไป 1.3 ให้คณะกรรมการปฏิรูปและพัฒนากระบวนการยุติธรรม มีหน้าที่หลักในเชิงนโยบายที่จะปฏิรูป และพัฒนากระบวนการยุติธรรมในภาพรวม โดยการเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี หรือองค์กรที่เกี่ยวข้องกับกระบวน การยุติธรรมในการกำหนดนโยบาย กลยุทธ์ และแนวทางเกี่ยวกับการปฏิรูปและพัฒนากระบวนการยุติธรรมให้มี ประสิทธิภาพและสัมฤทธิ์ผล จัดทำแผนแม่บทการปฏิรูปและพัฒนากระบวนการยุติธรรมแห่งชาติ และแผนแม่บท เทคโนโลยีสารสนเทศ กระบวนการยุติธรรมแห่งชาติ และเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อกำหนดมาตรการแก้ไข ข้อขัดข้อง ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือกรณีที่เกิดปัญหาในทางปฏิบัติ หรือเกิดข้อขัดข้องที่เป็นอุปสรรคต่อการ ปฏิรูปและพัฒนากระบวนการยุติธรรม 1.4 ให้มีสำนักงานคณะกรรมการปฏิรูปและพัฒนากระบวนการยุติธรรมแห่งชาติเป็นหน่วยงานของ รัฐที่มิใช่ส่วนราชการ ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน และไม่เป็นรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่า ด้วยวิธีการงบประมาณหรือกฎหมายอื่น มีฐานะเป็นนิติบุคคล และอยู่ภายใต้กำกับของประธานกรรมการ รับผิด ผิดชอบเกี่ยวกับงานธุรการและกิจการทั่วไปของคณะกรรมการ ฯ รวมทั้งเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับความรู้และ ผลงานวิจัยด้านการปฏิรูปและการพัฒนากระบวนการยุติธรรมแห่งชาติ 2. โดยที่ความในร่างมาตรา 27 บัญญัติให้รัฐบาลจัดสรรเงินอุดหนุนทั่วไปให้กับสำนักงานคณะกรรม การปฏิรูป ฯ และบทเฉพาะกาลร่างมาตรา 35 บัญญัติให้โอนงบประมาณของกองงานคณะกรรมการยุติธรรมแห่ง ชาติ สำนักงานกิจการยุติธรรมไปเป็นของสำนักงานคณะกรรมการปฏิรูป ฯ ดังนั้น ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ขอให้สำนัก งบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณให้กระทรวงยุติธรรม และสำนักงานคณะกรรมการปฏิรูป ฯ อย่างเหมาะ สมเพียงพอ มิให้กระทบต่อภารกิจอื่นของกระทรวงยุติธรรมด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
878 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พุทธศักราช 2479 | ยธ | 09/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติราช
ทัณฑ์ พุทธศักราช 2479 มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้มีคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยบุคคลภายนอกร่วมเป็นคณะ กรรมการพักการลงโทษ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
879 | ขอนำร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอุซเบกิสถานว่าด้วยความร่วมมือในการควบคุมยาเสพติดวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท และสารตั้งต้น เสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบและขออนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามบันทึกความเข้าใจ ฯ ฝ่ายไทย รวมทั้งขออนุมัติให้มีการแก้ไขในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ หากมีความจำเป็น | ยธ | 19/01/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอุซเบกิ สถานว่าด้วยความร่วมมือในการควบคุมยาเสพติด วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท และสารตั้งต้น 2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมหรือผู้ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ ฯ ฝ่ายไทย รวมทั้งอนุมัติให้มีการแก้ไขในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ หากมีความจำเป็น
|
|||||||||||||||||||||||||||
880 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พุทธศักราช 2479 | ยธ | 19/01/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติ
ราชทัณฑ์ พุทธศักราช 2479 ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎกระทรวง ฯ มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงมหาดไทย ออกตามความ ในมาตรา 58 แห่งพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พุทธศักราช 2479 ดังต่อไปนี้ 1. กำหนดระยะเวลาการเลื่อนชั้นนักโทษเด็ดขาดตามปกติในวันสิ้นเดือนมิถุนายน ครั้งหนึ่ง และสิ้นเดือน ธันวาคม ครั้งหนึ่ง 2. กำหนดให้ผู้ต้องขังที่กระทำผิดวินัยโดยมีเครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ หรือเครื่องมือสื่อสารอื่น รวมทั้ง อุปกรณ์สำหรับสิ่งของดังกล่าว ยาเสพติดให้โทษ วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท และสารระเหย และพยายามหลบ หนีหรือหลบหนีไปแล้วแต่ได้ตัวคืนมา ได้รับการลงโทษลดชั้น 3. กำหนดให้นักโทษเด็ดขาดชั้นเลวมาก หรือผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีได้กระทำความผิดได้รับการลง โทษขังเดี่ยว
|
.....