ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 43 จากทั้งหมด 97 หน้า แสดงรายการที่ 841 - 860 จากข้อมูลทั้งหมด 1930 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
841 | รายงานการดำเนินการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เอาประกันภัยที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม | ยธ | 14/12/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงานการดำเนินการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้
เอาประกันภัยที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม ดังนี้ ๑. ขั้นตอนการดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม ๑.๑ กรณีที่ผู้เอาประกันภัยเรียกร้องให้บริษัทผู้รับประกันภัยชดใช้ค่าสินไหม แต่บริษัทฯ ยังไม่ สามารถจ่ายให้ได้เนื่องจากมีข้อพิพาทเกี่ยวกับสิทธิเรียกร้องตามกรมธรรม์ประกันภัย บริษัทฯ ตกลงจะจ่าย เงินช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัย โดยไม่เป็นการตัดสิทธิเรียกร้องตามกรมธรรม์ ประกันภัย และในการรับเงินช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยสามารถใช้แบบบันทึกข้อตกลงที่กรมคุ้มครองสิทธิและ เสรีภาพ และสมาคมประกันวินาศภัย ตกลงร่วมกัน (แบบ กคส-ปภ.๑) ๑.๒ กรณีที่ผู้เอาประกันภัยที่ได้รับเงินช่วยเหลือแล้ว หากยังไม่สามารถหาข้อยุติเกี่ยวกับสิทธิ เรียกร้องตามกรมธรรม์ประกันภัยกับผู้รับประกันภัยได้ สามารถขอให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพจัดการ ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างผู้เอาประกันภัยและบริษัทผู้รับประกันภัยได้ ๑.๓ หากผลการไกล่เกลี่ยคู่กรณียังไม่สามารถตกลงกันได้ ผู้เอาประกันภัยอาจขอการสนับสนุน เงินกองทุนยุติธรรม เพื่อนำกรณีพิพาทเสนอต่ออนุญาโตตุลาการเพื่อวินิจฉัยชี้ขาด หรือฟ้องคดีต่อศาลโดย กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพจะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เอาประกันภัยที่ได้รับผลกระทบตามหลักเกณฑ์และวิธี การที่กำหนดไว้ในระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยกองทุนยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๕๓ ๒. ดำเนินการให้ช่วยเหลือตามแนวทางการให้ความช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยที่ทรัพย์สินเสียหายใน ช่วงเหตุการณ์ความไม่สงบเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๓ จำนวน ๔๑ ราย ความเสียหายตามคำร้องทุกข์รวมทั้งสิ้น ประมาณ ๖๑๖,๐๑๐,๙๗๘ บาท (ข้อมูล ณ วันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๓) โดยได้แจ้งสิทธิตามขั้นตอนการดำเนิน การให้ความช่วยเหลือแล้วทั้ง ๔๑ ราย ทั้งนี้ ผู้เอาประกันติดต่อเจรากับบริษัทผู้รับประกันภัย และได้รับเงิน ช่วยเหลือโดยพอใจขอยุติเรื่อง จำนวน ๓ ราย ไม่พอใจและประสงค์ให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพจัดการ ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท จำนวน ๓ ราย และอยู่ระหว่างการติดต่อเจรจา จำนวน ๑๓ ราย
|
|||||||||||||||||||||
842 | รายงานผลการลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอุซเบกิสถานว่าด้วยความร่วมมือในการควบคุมยาเสพติด วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท และสารตั้งต้น | ยธ | 14/12/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงานผลการลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่าง
รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอุซเบกิสถานว่าด้วยความร่วมมือในการควบคุมยาเสพติด วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท และสารตั้งต้น โดยเมื่อวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๓ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ฝ่ายไทย กับ Mr. Rakhmatulla Mukhamedov, Director of the National the Republic of Uzbekistan ซึ่งมีตำแหน่งเทียบเท่ารัฐมนตรี เป็นผู้ลงนามฝ่ายสาธารณ รัฐอุซเบกิสถาน โดยสาระสำคัญของบันทึกความเข้าใจฯ จะมีความร่วมมือกันภายใต้กฎหมายและระเบียบข้อบังคับ ของแต่ละประเทศในเรื่องต่าง ๆ ได้แก่ มาตรการเพื่อการป้องกันการใช้ยาเสพติดในทางที่ผิด มาตรการเพื่อบังคับ การให้เป็นไปตามกฎหมาย มาตรการเพื่อการควบคุมพืชเสพติด มาตรการเพื่อการควบคุมวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและ ประสาท เคมีภัณฑ์ ที่เป็นสารตั้งต้น มาตรการเพื่อการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ รวมทั้งการปฏิบัติให้เป็น ไปตามโครงการความช่วยเหลือร่วมทางวิชาการ และการแลกเปลี่ยนข้อสนเทศทางวิชาการและทั่วไป
|
|||||||||||||||||||||
843 | ขอปรับปรุงโครงสร้างกรมสอบสวนคดีพิเศษ | ยธ | 25/11/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการให้กระทรวงยุติธรรมปรับปรุงโครงสร้างกรมสอบสวนคดีพิเศษ
โดยให้ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวัน ที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ (เรื่อง นโยบายการพัฒนาระบบราชการ) และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๕๓ (เรื่อง การขยายระยะเวลาของมาตรการระงับการขอจัดตั้งหน่วยงานใหม่ หรือขยายหน่วยงานมติคณะ รัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒) โดยให้ปรับปรุงโครงสร้างกรมสอบสวนคดีพิเศษให้เป็นไปตามมติคณะ กรรมการพัฒนาระบบราชการ ครั้งที่ ๗/๒๕๕๓ และครั้งที่ ๘/๒๕๕๓ ซึ่งได้ให้ความเห็นชอบร่างกฎกระทรวงแบ่ง ส่วนราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม พ.ศ. .... ด้วยแล้ว ทั้งนี้ การยุบรวมสำนัก/กอง ตามที่คณะ กรรมการพัฒนาระบบราชการเสนอ ให้คงกรอบอัตรากำลังเพิ่มใหม่จำนวน ๓๐๐ อัตรา ตามนัยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๓ (เรื่อง ขออนุมัติการปรับปรุงโครงสร้างกรมสอบสวนคดีพิเศษขออัตราข้าราชการ และพนักงานราชการ) และคงภารกิจเดิม รวมทั้งคงสิทธิประโยชน์ของข้าราชการไม่ให้น้อยไปกว่าเดิมด้วยโดยให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการเรื่องนี้ให้แล้วเสร็จโดยด่วนต่อไปเพื่อกรมสอบสวนคดีพิเศษจะได้เริ่มปฏิบัติ งานตามโครงสร้างที่ปรับปรุงนี้ก่อน หากมีปัญหาหรืออุปสรรคในการดำเนินการประการใด ให้นำเสนอคณะ รัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง |
|||||||||||||||||||||
844 | ความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับร่างกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจค้าปลีกหรือค้าส่ง | ยธ | 25/11/2553 | ||||||||||||||||||
845 | ขอรับการสนับสนุนกรอบอัตรากำลังข้าราชการเพื่อดำเนินภารกิจแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2552 | ยธ | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) ประธานกรรมการกำหนดเป้าหมาย และนโยบายกำลังคนภาครัฐรับเรื่องขอรับการสนับสนุนกรอบอัตรากำลังข้าราชการเพื่อดำเนินภารกิจแผนสิทธิ มนุษยชนแห่งชาติ ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๒ (เรื่อง ร่างแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติฉบับที่ ๒ ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน) ไปประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อตรวจสอบให้ได้ข้อ ยุติว่ากระทรวงการต่างประเทศจะให้การสนับสนุนอัตรากำลังข้าราชการ รวม ๒๐ อัตรา แก่กระทรวงยุติธรรม เพื่อดำเนินภารกิจแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติดังกล่าว ได้เพียงใด หากกระทรวงการต่างประเทศให้การสนับ สนุนอัตรากำลังดังกล่าวได้ก็ให้กระทรวงยุติธรรมประสานในรายละเอียดกับกระทรวงการต่างประเทศและหน่วย งานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. ในกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศไม่สามารถให้การสนับสนุนอัตรากำลังจำนวนดังกล่าวได้ ก็ อนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยว ข้องเพื่อบรรจุแต่งตั้งผู้มีคุณสมบัติและความรู้ความสามารถให้สอดคล้องกับภารกิจที่จะปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ให้คณะ กรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ และสำนักงาน ก.พ. รับไปพิจารณาการปรับลดกรอบ อัตรากำลังข้าราชการของกระทรวงการต่างประเทศที่ขอรับการจัดสรรในโอกาสต่อไป ตามความเหมาะสมด้วย |
|||||||||||||||||||||
846 | ขอกำหนดกรอบอัตรากำลังเพิ่มใหม่ | ยธ | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ กำหนดกรอบอัตรากำลังเพิ่มใหม่ เพื่อปฏิบัติงานในกรมสอบสวนคดีพิเศษ รวม ๒๖๙ อัตรา จากเดิม ๓๐๐ อัตรา (คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ ได้กำหนดกรอบอัตรากำลังให้แล้ว จำนวน ๓๑ อัตรา ซึ่งเป็นตำแหน่งเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ ประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ/ชำนาญการ) ๑.๒ ให้สำนักงบประมาณจัดสรรเงินงบประมาณ งบบุคลากร เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายด้านบุคคล ได้แก่ เงินเดือน และเงินสิทธิประโยชน์อื่น ตามที่กฎหมายกำหนดสำหรับตำแหน่งตามกรอบอัตราข้าราชการ ๓๐๐ อัตรา และพนักงานราชการ ๑๗๐ อัตรา ในคราวเดียวกัน ๒. ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเปลี่ยนแปลงเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปีและปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ เพื่อรองรับการบรรจุแต่งตั้งอัตราเพิ่มใหม่ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||
847 | การแก้ไขปัญหาราคาไข่ไก่ตกต่ำตามมติคณะรัฐมนตรี (ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม - 30 พฤศจิกายน 2553) | ยธ | 09/11/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรม โดยกรมราชทัณฑ์ รายงานความคืบหน้าในการดำเนินการแก้ไขปัญหาไข่ไก่ตกต่ำตามมติคณะรัฐมนตรี โดยกำหนดให้เรือนจำ/ทัณฑสถานปรับเปลี่ยนรายการอาหารให้ผู้ต้องขังบริโภคไข่ไก่เฉลี่ยจากเดิมคนละ ๒ ฟองต่อสัปดาห์ เป็นคนละ ๕ ฟองต่อสัปดาห์ ตามหลักโภชนาการของกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมราชทัณฑ์สามารถสั่งซื้อไข่ไก่ได้เพิ่มขึ้นจำนวน ๔.๒ ล้านฟองต่อเดือน ทั้งนี้ เมื่อปรับเปลี่ยนรายการอาหารให้ผู้ต้องขังบริโภคไข่ไก่ปริมาณ ๕ ฟองต่อสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๓-๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ จะสามารถช่วยรับซื้อไข่ไก่ได้ประมาณ ๕.๒๕ ล้านฟอง ในราคาระหว่างฟองละ ๒.๐๐-๓.๑๐ บาท หรือเฉลี่ยราคาฟองละ ๒.๕๐ บาท ซึ่งจะช่วยลดปริมาณไข่ไก่ออกจากตลาดได้ในระดับหนึ่ง
|
|||||||||||||||||||||
848 | การสัมมนาและการประชุมนานาชาติว่าด้วยการพัฒนาทางเลือกที่ยั่งยืน การแลกเปลี่ยนวิธีการปฏิบัติที่ดีที่สุด และการสร้างแนวทางปฏิบัติสากล | ยธ | 02/11/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. เห็นชอบบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding on Marine Cooperation) ระหว่าง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และ State Oceanic Admin stration โดยบันทึกความเข้าใจฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้าง ส่งเสริม และพัฒนาความร่วมมือทางด้านทะเลบน พื้นฐานความเท่าเทียมกันและประโยชน์ร่วมกัน และอนุมัติการลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ และให้นำเสนอรัฐ สภาเพื่อขอความเห็นชอบต่อไปโดยมอบอำนาจให้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นผู้ลงนาม ในบันทึกความเข้าใจฯ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขถ้อยคำที่มิใช่สาระสำคัญในบันทึกความเข้าใจฯ ให้ผู้ลงนามสามารถใช้ดุลพินิจในเรื่องนั้น ๆ แทนคณะรัฐมนตรีได้ และมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัด ทำหนังสือมอบอำนาจ (Full Powers) ในการลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ให้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมเป็นผู้ลงนาม โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินการต่อไปได้ เมื่อรัฐสภาได้ให้ความเห็นชอบในบันทึกความเข้าใจฯ แล้ว ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. ทั้งนี้ หากรัฐสภาไม่ได้พิจารณาบันทึกความเข้าใจฯ ใ นการประชุมร่วมกันของรัฐสภา (สมัยสามัญ นิติบัญญัติ) นี้ ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนินการเสนอบันทึกความเข้าใจฯ ไปยังรัฐสภาในสมัยประชุม ถัดไป โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีก
|
|||||||||||||||||||||
849 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อชำระหนี้ค่าจัดซื้อที่ดินและอาคารของสภาทนายความ | ยธ | 26/10/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
๑. การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่ออุดหนุนให้แก่สภาทนายความสำหรับชำระหนื้เงินกู้การจัดซื้อที่ดินและอาคาร บริเวณถนนพหลโยธิน เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร เพื่อพัฒนาเป็นที่ทำการถาวรของสภาทนายความ แทน การเช่าที่ทำการเดิมที่ถนนราชดำเนินกลาง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร จำนวน ๓๑,๓๙๔,๕๐๐ บาท ๒. ให้กระทรวงยุติธรรม (สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม) จ่ายเงินก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าหรือนอก เหนือไปจากที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี หรือพระราชบัญญัติงบประมาณราย จ่ายเพิ่มเติมก่อนได้รับเงินประจำงวด เพื่อเป็นเงินอุดหนุนให้แก่สภาทนายความในการชำระหนี้การจัดซื้อที่ดิน และอาคารของสภาทนายความ
|
|||||||||||||||||||||
850 | การจัดทำบันทึกความเข้าใจเรื่องความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลธุรกรรมทางการเงินกับหน่วยข่าวกรองทางการเงินประเทศอาร์เมเนีย | ยธ | 12/10/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. อนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในฐานะบังคับบัญชาสำนักงานป้องกันและปราบปราม การฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) เสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้สำนักงาน ปปง. จัดทำความตกลงกับ The Financial Monitoring Center ประเทศอาร์เมเนีย โดยใช้ร่างบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding (MOU)) เรื่อง ความร่วมมือในการแลกเปลี่ยน ข้อมูลธุรกรรมทางการเงินเพื่อการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และปรับรูปแบบตอนท้ายก่อนส่วนลงนาม เนื่องจากจะเป็นการลงนามเอกสารแลกเปลี่ยนกันทางไปรษณีย์ ดังนี้ Done in duplicate in the English language. Signed in Bangkok on ………………….Signed in Yerevan on ………………………… ๑.๒ ให้เลขาธิการ ปปง. เป็นผู้ลงนาม MOU ฝ่ายไทย ๒.ให้สำนักงาน ปปง. รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศในส่วนของประเด็นถ้อยคำ เพื่อความ กระจ่างชัดในการตีความและเพื่อให้สอดคล้องกับการที่ไทยและอาร์มาเนียจะลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ณ เวลาที่ ต่างกันผ่านทางไปรษณีย์ ส่วนราชการเจ้าของเรื่องอาจพิจารณาปรับแก้ถ้อยคำในข้อ ๙ ของร่างบันทึกความเข้าใจฯ เป็น “This MOU Shall enter into force on the date of its the last signature and shall continue to be in force until …” ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
851 | รายงานประจำปี พ.ศ. 2551 - 2552 คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ | ยธ | 12/10/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) ประธานกรรมการพัฒน
าการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติเสนอรายงานประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๑-๒๕๕๒ ของคณะกรรมการพัฒนาการบริหาร งานยุติธรรมแห่งชาติ โดยรายงานดังกล่าวประกอบด้วย ๑. ส่วนที่ ๑ รวบรวมเนื้อหาเกี่ยวกับโครงสร้าง อำนาจหน้าที่ และองค์ประกอบของคณะกรรมการพัฒนา การบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ และคณะอนุกรรมการที่ได้แต่งตั้งภายใต้คณะกรรมการฯ จำนวน ๑๒ คณะ ๒. ส่วนที่ ๒ รวบรวมผลงานสำคัญของคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติและคณะอนุ กรรมการที่ได้แต่งตั้งภายใต้คณะกรรมการ ในช่วงระหว่าง พ.ศ. ๒๕๕๑-๒๕๕๒ จำแนกเป็น ๕ ด้าน ดังนี้ ๒.๑ การจัดทำแผนและการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การบริหารงานยุติธรรม ๒.๒ การส่งเสริมประสานความร่วมมือเพื่อพัฒนาระบบการบริหารงานยุติธรรม ๒.๓ การวิจัย พัฒนากฎหมาย และการบริหารงานยุติธรรม ๒.๔ การประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการบริหารงานยุติธรรม ๒.๕ การส่งเสริมพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมระดับพื้นที่ ๓. ส่วนที่ ๓ การรายงานข้อมูลสถิติด้านกระบวนการยุติธรรม ประกอบด้วย ๓.๑ ข้อมูลพื้นฐานของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ๓.๒ ข้อมูลสถิติการดำเนินงานกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ๓.๓ ข้อมูลสถิติการดำเนินงานกระบวนการยุติธรรมทางแพ่ง ๓.๔ ข้อมูลสถิติการดำเนินงานกระบวนการยุติธรรมทางปกครอง
|
|||||||||||||||||||||
852 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางสุรีย์ประภา ตรัยเวช) | ยธ | 12/10/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางสุรีย์ประภา ตรัยเวช ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้อง
กันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่ วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๓ เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
853 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (จำนวน 5 ราย 1.นายแพทย์ดาวิน นารูลา ฯลฯ) | ยธ | 12/10/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญาชุดใหม่ จำนวน ๕ คน เนื่องจากกรรมการชุดเดิมได้ดำรงตำแหน่งมาครบกำหนดสองปีตามวาระ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
๑. นายดาวิน นารูลา กรรมการ ๒. นางเพทาย ปทุมจันทรัตน์ กรรมการ ๓. นางสุวณา สุวรรณจูฑะ กรรมการ ๔. รองศาสตราจารย์ชนิตา รักษ์พลเมือง กรรมการ ๕. นางสาวศุภมาศ พยัฆวิเชียร กรรมการ
|
|||||||||||||||||||||
854 | สรุปผลการดำเนินงานปฏิบัติการประเทศไทยเข้มแข็ง ชนะยาเสพติดยั่งยืนภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกัน ระยะที่ 2 | ยธ | 05/10/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเสนอเพิ่มเติมว่า ได้หารือกับกระทรวงการคลังในการ กันเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือ จำเป็นไว้เบิกเหลื่อมปีเพื่อดำเนินการตามปฏิบัติการ “ประเทศไทยเข้มแข็งชนะยาเสพติดยั่งยืน ภายใต้ยุทธศาสตร์ ๕ รั้วป้องกัน ระยะที่ ๒” แล้ว มีความเห็นสอดคล้องกันว่าไม่ให้มีการโอนหรือนำไปใช้ในรายการอื่น ๒. รับทราบและเห็นชอบในหลักการตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) ประธาน กรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเสนอ ดังนี้ ๒.๑ รับทราบผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติดตามปฏิบัติการฯ ๕ รั้วป้องกัน ระยะที่ ๒ (พฤศจิกายน ๒๕๕๒-กันยายน ๒๕๕๓) ซึ่งมีผลการจับกุมยาเสพติดได้มากที่สุด เมื่อเทียบกับหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยาบ้า ไอซ์ ยาแก้หวัด กระท่อม ฯลฯ และมียอดผู้เข้าบำบัดรักษาได้สูงที่สุดในรอบหลายปีที่ ผ่านมาเช่นกัน ๒.๒ รับทราบและเห็นชอบในหลักการของปฏิบัติการฯ ๕ รั้วป้องกัน ระยะที่ ๓ ในขั้นต้น ซึ่งได้ จากหน่วยต่าง ๆ และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเพื่อให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ไปจัดทำรายละเอียด และเริ่มดำเนินการใน ต้นพฤศจิกายน ๒๕๕๓ ทั้งนี้ หลักการของปฏิบัติการฯ ๕ รั้วป้องกัน ระยะที่ ๓ จะมีสาระสำคัญ ๗ ประการ ที่จะ ลดการขยายตัวของปัญหายาเสพติดในภาพรวมให้ได้ มิให้ปัญหายาเสพติดส่งผลกระทบต่อประชาชน ประกอบ ด้วย (๑) การกำหนดพื้นที่เป้าหมายสำคัญในการแก้ไขปัญหา (๒) การใช้ยุทธศาสตร์ ๕ รั้วป้องกันต่อเนื่อง (๓) การกำหนด critical point ที่เป็นจุดวิกฤติในแต่ละรั้ว/โครงการ (๔) การแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการ (๕) การ ปรับปรุงประสิทธิภาพของมาตรการหลักที่ใช้แก้ไขปัญหา (๖) การใช้นโยบายกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ใหม่เพื่อลดจำนวนผู้กระทำความผิด และ (๗) การให้ความสำคัญในการแปลงแผนไปสู่การปฏิบัติ ๒.๓ สนับสนุนทรัพยากรและงบประมาณการแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อให้หน่วยงานใช้ในการแก้ ไขปัญหา ทั้งงบกลางที่ยังคงเหลือในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ และจะมีการขอรับการสนับสนุนงบกลางในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ เพิ่มเติม หากเมื่อจัดทำแผนบูรณาการแล้ว ไม่เพียงพอต่อการแก้ไขปัญหาที่สำคัญ ๒.๔ สนับสนุนความดีความชอบพิเศษแก่ผู้ปฏิบัติงานดีเด่น ในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ซึ่งเป็นสิ่งที่คณะ รัฐมนตรีอนุมัติอยู่แล้ว ๓. ให้ สำนักงาน ป.ป.ส. ดำเนินการกันเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ งบ กลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ไว้เบิกเหลื่อมปีเพื่อดำเนินการตามปฏิบัติการฯ ๕ รั้ว ป้องกัน ระยะที่ ๒” ส่วนปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้สำนักงาน ป.ป.ส. ประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ และ เร่งรัดการจัดทำแผนงบประมาณเชิงบูรณาการเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ตามปฏิบัติการฯ ระยะที่ ๓ โดยใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ที่ได้จัดสรร ก่อน หากไม่เพียงพอต่อการแก้ไขปัญหาที่สำคัญ ให้สำนักงาน ป.ป.ส. ประเมินสถานการณ์และผลการดำเนิน งานเพื่อประกอบการขอรับการสนับสนุนงบกลางในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ เพิ่มเติมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบ ประมาณ |
|||||||||||||||||||||
855 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงยุติธรรม) (นายพสิษฐ์ อัศววัฒนาพร) | ยธ | 28/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายพสิษฐ์ อัศววัฒนาพร ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านกฎหมาย (นิติกร
ทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2553 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบ ถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
856 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงยุติธรรม) (นายพิทยา จินาวัฒน์) | ยธ | 28/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายพิทยา จินาวัฒน์ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาการป้องกันและปราบ
ปรามยาเสพติด (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม ยาเสพติด กระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 2553 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตาม ที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
857 | การลงนามเอกสารโครงการเสริมสร้างประสิทธิภาพด้านการสืบสวนการข่าวกรอง และการอุตสาหกรรม เพื่อตอบสนองต่อการลักลอบค้ายาเสพติดและเคมีภัณฑ์ สารตั้งต้น | ยธ | 28/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้แทนฝ่ายไทยในการลงนามในเอกสาร
โครงการเสริมสร้างประสิทธิภาพด้านการสืบสวน การข่าวกรอง และการอุตสาหกรรมเพื่อตอบสนองต่อการลักลอย ค้ายาเสพติดและเคมีภัณฑ์ สารตั้งต้น (Strengthening Investigative Intelligence, and Industry Based Responses to the Trafficking of Illicit Drugs and Precursor Chemical) ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยให้รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการต่างประเทศออกหนังสือมอบอำนาจ (Full Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้ลงนาม ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
858 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันเกินวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 งบดำเนินงาน และขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 (เพิ่มเติม) งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อชำระหนี้ค่าวัสดุอาหาร ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 | ยธ | 28/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรมราชทัณฑ์ก่อหนี้ผูกพันก่อนได้รับการจัดสรรงบประมาณ เพื่อชำระหนี้ค่าวัสดุอาหารผู้ต้องขัง จำนวน 689,438,980 บาท โดยให้ใช้จ่ายจากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||
859 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ) | ยธ | 28/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหารระดับสูง)
กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวง ยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
860 | การจัดระบบการจัดซื้ออาหาร เครื่องบริโภค และวัสดุเพื่อการหุงหาอาหาร กระทรวงยุติธรรม | ยธ | 28/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
1. ยกเลิกข้อเสนอเกี่ยวกับการจัดระบบการจัดซื้ออาหาร เครื่องบริโภค และวัสดุเพื่อการหุงหาอาหาร กระทรวงยุติธรรม ข้อ 1 กรณีขอยกเว้นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2553 ในส่วน ของกรมราชทัณฑ์ในการจัดซื้ออาหารสดประเภทสัตว์น้ำ (ปลา ฯลฯ) จากองค์การสะพานปลา เพื่อการประกอบ เลี้ยงนักโทษและผู้ต้องขังในเรือนจำ ทัณฑสถาน และสถานกักขัง โดยวิธีกรณีพิเศษเป็นเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่วัน ที่ 1 ตุลาคม 2553-30 มีนาคม 2554 ตามหนังสือกระทรวงยุติธรรม ที่ ยธ 0100/3955 ลงวันที่ 28 กันยายน 2553 2. ขยายระยะเวลาการยกเว้นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2552 (เรื่อง ขอให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบการจัดระบบการจัดซื้ออาหาร เครื่องบริโภค และวัสดุเพื่อการ หุงหาอาหาร) ในส่วนของการจัดซื้ออาหารสด (ปลา เนื้อสัตว์ พืชผัก) และวัสดุปรุงอาหารต่อไปเป็นเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 ถึงวันที่ 30 มีนาคม 2554 โดยในระหว่างระยะเวลาดังกล่าวให้ใช้วิธีการจัด ซื้อที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันและตามที่ได้รับยกเว้นอยู่ต่อไป
|
.....