ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 43 จากทั้งหมด 97 หน้า แสดงรายการที่ 841 - 860 จากข้อมูลทั้งหมด 1937 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 841 | บันทึกความเข้าใจระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษและหน่วยงานต่างประเทศ | ยธ | 08/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบบันทึกความเข้าใจระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษและหน่วยงานต่างประเทศ ๒ หน่วยงาน คือ Serious Organized Crime Agency (SOCA) ของสหราชอาณาจักร และหน่วยงาน Australian Federal Police (AFP) ของออสเตรเลีย โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีสาระสำคัญเป็นการส่งเสริมความร่วมมือระห่วางกรมสอบสวนคดีพิเศษและหน่วยงานต่างประเทศในด้านการบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติและการก่อการร้าย ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 842 | ขอต่อเวลาการดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหารระดับสูง) กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ (นางสุวรรณา สุวรรณจูฑะ) | ยธ | 08/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการขอต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของนางสุวรรณา สุวรรณจูฑะ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ต่อไปอีก ๑ ปี (ครั้งที่ ๑) ตั้งแต่วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๓ ถึงวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๔ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 843 | รายงานผลการดำเนินงานของประเทศไทยตามอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบ | ยธ | 01/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบรายงานผลการดำเนินงานของประเทศไทยตามอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบ (International Convention on the Elimination of All Forms of Racial Discrimination - CERD) ฉบับภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ๑.๒ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการเสนอรายงานผลการดำเนินงานของประเทศไทยตามอนุสัญญาฯ ฉบับภาษาอังกฤษ (ฉบับสมบูรณ์) ต่อคณะกรรมการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติขององค์การสหประชาชาติ ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงการต่างประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ดังนี้ ๒.๑ หน้า ๑ ย่อหน้าที่ ๑ ควรปรับถ้อยคำในประโยค “ทั้งนี้ การลงนามเข้าเป็นภาคีของประเทศไทย มีถ้อยแถลงตีความ...” เป็น “ทั้งนี้ ในการเข้าเป็นภาคีของไทย ไทยได้จัดทำถ้อยแถลงตีความ...” เนื่องจากไทยได้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาฉบับนี้ด้วยการภาคยานุวัติ มิใช่การลงนาม ๒.๒ ในส่วนของเอกสารหลักของรายงานประเทศไทยตามสนธิสัญญาระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน (Common Core Document) ยังมีข้อมูลบางส่วนที่ไม่สอดคล้องกับพัฒนาการในปัจจุบัน ควรใช้เอกสารหลักที่ได้ปรับปรุงเนื้อหาที่สอดคล้องกับพัฒนาการในปัจจุบัน ภายใต้การดำเนินการของคณะกรรมการจัดทำเอกสารหลักของรายงานประเทศไทย เพื่อใช้ประกอบการจัดทำรายงานประเทศตามสนธิสัญญาระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 844 | รายงานผลการปฏิบัติงานของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ประจำปี พ.ศ. 2552 | ยธ | 01/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) โดยการรับรายงานการทำธุรกรรมและการตรวจสอบวิเคราะห์ธุรกรรมในปี พ.ศ. ๒๕๕๒ สำนักงาน ปปง. ได้รับรายงานการทำธุรกรรมจากสถาบันการเงินทั้งสิ้น ๑,๓๘๐,๕๖๔ ธุรกรรม และได้ดำเนินการกับคดีที่ได้รับการแจ้งเบาะแสและจากฐานข้อมูลของสำนักงาน ปปง. จำนวน ๓๖๖ คดี ซึ่งเป็นคดีที่อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบ ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๓ - สิ้นปี พ.ศ. ๒๕๕๒ ได้มีคำสั่งยึดหรืออายัดทรัพย์สิน จำนวน ๖๙๙ คดี มูลค่าทรัพย์สินรวม ๔,๑๓๐,๗๑๗,๗๑๘.๙๑ บาท โดยสำนักงาน ปปง. ได้บริหารจัดการและเก็บรักษาไว้ มีมูลค่ารวม ๓,๑๘๘,๘๖๔,๔๖๕.๙๐ บาท นอกจากนี้ ได้นำทรัพย์สินที่ศาลสั่งตกเป็นของแผ่นดินส่งกระทรวงการคลัง จำนวน ๑๓ คดี มูลค่า ๒๔,๑๐๑,๙๑๑.๑๗ บาท และได้นำทรัพย์สินที่ยึดหรืออายัดในกรณีที่เจ้าของสามารถแสดงได้ว่าตนเป็นเจ้าของที่แท้จริงและทรัพย์สินนั้นไม่ใช่ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ในปี พ.ศ. ๒๕๕๒ ส่งคืนทรัพย์สิน จำนวน ๙ คดี มูลค่าทรัพย์สินที่นำส่งคืน จำนวน ๑๑,๙๗๓,๙๓๓.๕๘ บาท ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในฐานะบังคับบัญชา สำนักงาน ปปง. เสนอ และความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ ระยะเวลาในการจัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานควรให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาไม่เกิน ๙ เดือน เพื่อคณะรัฐมนตรีจะได้นำผลการปฏิบัติงานไปกำหนดนโยบายในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการฟอกเงินได้เหมาะสมและทันการณ์ การรายงานข้อมูลสถิติต่าง ๆ ควรนำเสนอข้อมูลเปรียบเทียบย้อนหลังอย่างน้อย ๑ ปี เพื่อนำไปใช้เป็นข้อมูลในการพิจารณาติดตามและประเมินผลต่อไป การกำหนดลักษณะความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พุทธศักราช ๒๔๖๙ ให้ชัดเจนว่าลักษณะความผิดฐานใดบ้างที่เป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการลักลอบหนีศุลกากร และการจัดฝึกอบรมพนักงานสอบสวนให้เข้าใจถึงลักษณะความผิดมูลฐานและความผิดฐานฟอกเงิน เป็นต้น และให้สำนักงาน ปปง. รับความเห็นดังกล่าวไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๒. เห็นชอบให้นำรายงานผลการปฏิบัติงานของสำนักงาน ปปง. เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป ๓. ให้สำนักงาน ปปง. เร่งรัดจัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานของสำนักงาน ปปง. ในแต่ละปีให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 845 | รายงานการจัดซื้อไข่ไก่ตามมาตรการรองรับผลผลิตไข่ไก่ล้นตลาด (ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2553 - 30 พฤศจิกายน 2553) | ยธ | 01/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงานการจัดซื้อไข่ไก่ตามมาตรการรองรับผลผลิตไข่ไก่ล้นตลาด โดยกรมราชทัณฑ์สามารถรับซื้อไข่ไก่ ตั้งแต่วันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๓ - ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ เป็นจำนวนปริมาณทั้งสิ้น ๔,๐๑๕,๖๒๔ ฟอง เป็นจำนวนเงิน ๑๒,๔๒๑,๘๑๘.๔๙ บาท
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 846 | ขอเสนอชื่อผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (นางสุรีย์ประภา ตรัยเวช) | ยธ | 24/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้งให้นางสุรีย์ประภา ตรัยเวช เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เป็นผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 847 | ขอปรับปรุงโครงสร้างกรมสอบสวนคดีพิเศษ | ยธ | 11/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ซึ่งได้ตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎกระทรวงฯ มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงการแบ่งส่วนราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม เป็น ดังนี้
๑. กำหนดให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีภารกิจเกี่ยวกับการป้องกันการปราบปราม การสืบสวน และการสอบสวนคดีความผิดทางอาญาที่ต้องดำเนินการสืบสวน และสอบสวนโดยใช้วิธีการพิเศษตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษ และให้มีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด ๒. กำหนดให้แบ่งส่วนราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็น ๑๗ สำนัก และให้มีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด ๓. กำหนดให้ในกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีกลุ่มตรวจสอบภายใน และกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร รวมทั้งให้มีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด ๔. กำหนดให้สำนักคดีอาญาพิเศษ ๑ - ๓ มีอำนาจหน้าที่ปฏิบัติงานด้านการป้องกัน การปราบปราม การสืบสวน และการสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดที่มีหรืออาจมีผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนหรือระบบเศรษฐกิจของประเทศ หรือผู้กระทำความผิดที่มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรม ตามรายชื่อกฎหมายที่อธิบดีประกาศกำหนด รวมทั้งดำเนินคดีพิเศษนอกราชอาณาจักรตามที่ได้รับมอบหมาย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 848 | รายงานการดำเนินการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เอาประกันภัยที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม | ยธ | 14/12/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงานการดำเนินการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้
เอาประกันภัยที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม ดังนี้ ๑. ขั้นตอนการดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม ๑.๑ กรณีที่ผู้เอาประกันภัยเรียกร้องให้บริษัทผู้รับประกันภัยชดใช้ค่าสินไหม แต่บริษัทฯ ยังไม่ สามารถจ่ายให้ได้เนื่องจากมีข้อพิพาทเกี่ยวกับสิทธิเรียกร้องตามกรมธรรม์ประกันภัย บริษัทฯ ตกลงจะจ่าย เงินช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัย โดยไม่เป็นการตัดสิทธิเรียกร้องตามกรมธรรม์ ประกันภัย และในการรับเงินช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยสามารถใช้แบบบันทึกข้อตกลงที่กรมคุ้มครองสิทธิและ เสรีภาพ และสมาคมประกันวินาศภัย ตกลงร่วมกัน (แบบ กคส-ปภ.๑) ๑.๒ กรณีที่ผู้เอาประกันภัยที่ได้รับเงินช่วยเหลือแล้ว หากยังไม่สามารถหาข้อยุติเกี่ยวกับสิทธิ เรียกร้องตามกรมธรรม์ประกันภัยกับผู้รับประกันภัยได้ สามารถขอให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพจัดการ ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างผู้เอาประกันภัยและบริษัทผู้รับประกันภัยได้ ๑.๓ หากผลการไกล่เกลี่ยคู่กรณียังไม่สามารถตกลงกันได้ ผู้เอาประกันภัยอาจขอการสนับสนุน เงินกองทุนยุติธรรม เพื่อนำกรณีพิพาทเสนอต่ออนุญาโตตุลาการเพื่อวินิจฉัยชี้ขาด หรือฟ้องคดีต่อศาลโดย กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพจะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เอาประกันภัยที่ได้รับผลกระทบตามหลักเกณฑ์และวิธี การที่กำหนดไว้ในระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยกองทุนยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๕๓ ๒. ดำเนินการให้ช่วยเหลือตามแนวทางการให้ความช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยที่ทรัพย์สินเสียหายใน ช่วงเหตุการณ์ความไม่สงบเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๓ จำนวน ๔๑ ราย ความเสียหายตามคำร้องทุกข์รวมทั้งสิ้น ประมาณ ๖๑๖,๐๑๐,๙๗๘ บาท (ข้อมูล ณ วันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๓) โดยได้แจ้งสิทธิตามขั้นตอนการดำเนิน การให้ความช่วยเหลือแล้วทั้ง ๔๑ ราย ทั้งนี้ ผู้เอาประกันติดต่อเจรากับบริษัทผู้รับประกันภัย และได้รับเงิน ช่วยเหลือโดยพอใจขอยุติเรื่อง จำนวน ๓ ราย ไม่พอใจและประสงค์ให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพจัดการ ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท จำนวน ๓ ราย และอยู่ระหว่างการติดต่อเจรจา จำนวน ๑๓ ราย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 849 | รายงานผลการลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอุซเบกิสถานว่าด้วยความร่วมมือในการควบคุมยาเสพติด วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท และสารตั้งต้น | ยธ | 14/12/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงานผลการลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่าง
รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอุซเบกิสถานว่าด้วยความร่วมมือในการควบคุมยาเสพติด วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท และสารตั้งต้น โดยเมื่อวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๓ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ฝ่ายไทย กับ Mr. Rakhmatulla Mukhamedov, Director of the National the Republic of Uzbekistan ซึ่งมีตำแหน่งเทียบเท่ารัฐมนตรี เป็นผู้ลงนามฝ่ายสาธารณ รัฐอุซเบกิสถาน โดยสาระสำคัญของบันทึกความเข้าใจฯ จะมีความร่วมมือกันภายใต้กฎหมายและระเบียบข้อบังคับ ของแต่ละประเทศในเรื่องต่าง ๆ ได้แก่ มาตรการเพื่อการป้องกันการใช้ยาเสพติดในทางที่ผิด มาตรการเพื่อบังคับ การให้เป็นไปตามกฎหมาย มาตรการเพื่อการควบคุมพืชเสพติด มาตรการเพื่อการควบคุมวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและ ประสาท เคมีภัณฑ์ ที่เป็นสารตั้งต้น มาตรการเพื่อการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ รวมทั้งการปฏิบัติให้เป็น ไปตามโครงการความช่วยเหลือร่วมทางวิชาการ และการแลกเปลี่ยนข้อสนเทศทางวิชาการและทั่วไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 850 | ขอปรับปรุงโครงสร้างกรมสอบสวนคดีพิเศษ | ยธ | 25/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการให้กระทรวงยุติธรรมปรับปรุงโครงสร้างกรมสอบสวนคดีพิเศษ
โดยให้ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวัน ที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ (เรื่อง นโยบายการพัฒนาระบบราชการ) และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๕๓ (เรื่อง การขยายระยะเวลาของมาตรการระงับการขอจัดตั้งหน่วยงานใหม่ หรือขยายหน่วยงานมติคณะ รัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒) โดยให้ปรับปรุงโครงสร้างกรมสอบสวนคดีพิเศษให้เป็นไปตามมติคณะ กรรมการพัฒนาระบบราชการ ครั้งที่ ๗/๒๕๕๓ และครั้งที่ ๘/๒๕๕๓ ซึ่งได้ให้ความเห็นชอบร่างกฎกระทรวงแบ่ง ส่วนราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม พ.ศ. .... ด้วยแล้ว ทั้งนี้ การยุบรวมสำนัก/กอง ตามที่คณะ กรรมการพัฒนาระบบราชการเสนอ ให้คงกรอบอัตรากำลังเพิ่มใหม่จำนวน ๓๐๐ อัตรา ตามนัยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๓ (เรื่อง ขออนุมัติการปรับปรุงโครงสร้างกรมสอบสวนคดีพิเศษขออัตราข้าราชการ และพนักงานราชการ) และคงภารกิจเดิม รวมทั้งคงสิทธิประโยชน์ของข้าราชการไม่ให้น้อยไปกว่าเดิมด้วยโดยให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการเรื่องนี้ให้แล้วเสร็จโดยด่วนต่อไปเพื่อกรมสอบสวนคดีพิเศษจะได้เริ่มปฏิบัติ งานตามโครงสร้างที่ปรับปรุงนี้ก่อน หากมีปัญหาหรืออุปสรรคในการดำเนินการประการใด ให้นำเสนอคณะ รัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 851 | ความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับร่างกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจค้าปลีกหรือค้าส่ง | ยธ | 25/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
| 852 | ขอรับการสนับสนุนกรอบอัตรากำลังข้าราชการเพื่อดำเนินภารกิจแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2552 | ยธ | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) ประธานกรรมการกำหนดเป้าหมาย และนโยบายกำลังคนภาครัฐรับเรื่องขอรับการสนับสนุนกรอบอัตรากำลังข้าราชการเพื่อดำเนินภารกิจแผนสิทธิ มนุษยชนแห่งชาติ ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๒ (เรื่อง ร่างแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติฉบับที่ ๒ ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน) ไปประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อตรวจสอบให้ได้ข้อ ยุติว่ากระทรวงการต่างประเทศจะให้การสนับสนุนอัตรากำลังข้าราชการ รวม ๒๐ อัตรา แก่กระทรวงยุติธรรม เพื่อดำเนินภารกิจแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติดังกล่าว ได้เพียงใด หากกระทรวงการต่างประเทศให้การสนับ สนุนอัตรากำลังดังกล่าวได้ก็ให้กระทรวงยุติธรรมประสานในรายละเอียดกับกระทรวงการต่างประเทศและหน่วย งานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. ในกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศไม่สามารถให้การสนับสนุนอัตรากำลังจำนวนดังกล่าวได้ ก็ อนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยว ข้องเพื่อบรรจุแต่งตั้งผู้มีคุณสมบัติและความรู้ความสามารถให้สอดคล้องกับภารกิจที่จะปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ให้คณะ กรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ และสำนักงาน ก.พ. รับไปพิจารณาการปรับลดกรอบ อัตรากำลังข้าราชการของกระทรวงการต่างประเทศที่ขอรับการจัดสรรในโอกาสต่อไป ตามความเหมาะสมด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 853 | ขอกำหนดกรอบอัตรากำลังเพิ่มใหม่ | ยธ | 16/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ กำหนดกรอบอัตรากำลังเพิ่มใหม่ เพื่อปฏิบัติงานในกรมสอบสวนคดีพิเศษ รวม ๒๖๙ อัตรา จากเดิม ๓๐๐ อัตรา (คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ ได้กำหนดกรอบอัตรากำลังให้แล้ว จำนวน ๓๑ อัตรา ซึ่งเป็นตำแหน่งเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ ประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ/ชำนาญการ) ๑.๒ ให้สำนักงบประมาณจัดสรรเงินงบประมาณ งบบุคลากร เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายด้านบุคคล ได้แก่ เงินเดือน และเงินสิทธิประโยชน์อื่น ตามที่กฎหมายกำหนดสำหรับตำแหน่งตามกรอบอัตราข้าราชการ ๓๐๐ อัตรา และพนักงานราชการ ๑๗๐ อัตรา ในคราวเดียวกัน ๒. ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเปลี่ยนแปลงเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปีและปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ เพื่อรองรับการบรรจุแต่งตั้งอัตราเพิ่มใหม่ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 854 | การแก้ไขปัญหาราคาไข่ไก่ตกต่ำตามมติคณะรัฐมนตรี (ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม - 30 พฤศจิกายน 2553) | ยธ | 09/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรม โดยกรมราชทัณฑ์ รายงานความคืบหน้าในการดำเนินการแก้ไขปัญหาไข่ไก่ตกต่ำตามมติคณะรัฐมนตรี โดยกำหนดให้เรือนจำ/ทัณฑสถานปรับเปลี่ยนรายการอาหารให้ผู้ต้องขังบริโภคไข่ไก่เฉลี่ยจากเดิมคนละ ๒ ฟองต่อสัปดาห์ เป็นคนละ ๕ ฟองต่อสัปดาห์ ตามหลักโภชนาการของกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมราชทัณฑ์สามารถสั่งซื้อไข่ไก่ได้เพิ่มขึ้นจำนวน ๔.๒ ล้านฟองต่อเดือน ทั้งนี้ เมื่อปรับเปลี่ยนรายการอาหารให้ผู้ต้องขังบริโภคไข่ไก่ปริมาณ ๕ ฟองต่อสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๓-๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ จะสามารถช่วยรับซื้อไข่ไก่ได้ประมาณ ๕.๒๕ ล้านฟอง ในราคาระหว่างฟองละ ๒.๐๐-๓.๑๐ บาท หรือเฉลี่ยราคาฟองละ ๒.๕๐ บาท ซึ่งจะช่วยลดปริมาณไข่ไก่ออกจากตลาดได้ในระดับหนึ่ง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 855 | การสัมมนาและการประชุมนานาชาติว่าด้วยการพัฒนาทางเลือกที่ยั่งยืน การแลกเปลี่ยนวิธีการปฏิบัติที่ดีที่สุด และการสร้างแนวทางปฏิบัติสากล | ยธ | 02/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. เห็นชอบบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding on Marine Cooperation) ระหว่าง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และ State Oceanic Admin stration โดยบันทึกความเข้าใจฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้าง ส่งเสริม และพัฒนาความร่วมมือทางด้านทะเลบน พื้นฐานความเท่าเทียมกันและประโยชน์ร่วมกัน และอนุมัติการลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ และให้นำเสนอรัฐ สภาเพื่อขอความเห็นชอบต่อไปโดยมอบอำนาจให้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นผู้ลงนาม ในบันทึกความเข้าใจฯ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขถ้อยคำที่มิใช่สาระสำคัญในบันทึกความเข้าใจฯ ให้ผู้ลงนามสามารถใช้ดุลพินิจในเรื่องนั้น ๆ แทนคณะรัฐมนตรีได้ และมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัด ทำหนังสือมอบอำนาจ (Full Powers) ในการลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ให้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมเป็นผู้ลงนาม โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินการต่อไปได้ เมื่อรัฐสภาได้ให้ความเห็นชอบในบันทึกความเข้าใจฯ แล้ว ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. ทั้งนี้ หากรัฐสภาไม่ได้พิจารณาบันทึกความเข้าใจฯ ใ นการประชุมร่วมกันของรัฐสภา (สมัยสามัญ นิติบัญญัติ) นี้ ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนินการเสนอบันทึกความเข้าใจฯ ไปยังรัฐสภาในสมัยประชุม ถัดไป โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีก
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 856 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อชำระหนี้ค่าจัดซื้อที่ดินและอาคารของสภาทนายความ | ยธ | 26/10/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
๑. การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่ออุดหนุนให้แก่สภาทนายความสำหรับชำระหนื้เงินกู้การจัดซื้อที่ดินและอาคาร บริเวณถนนพหลโยธิน เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร เพื่อพัฒนาเป็นที่ทำการถาวรของสภาทนายความ แทน การเช่าที่ทำการเดิมที่ถนนราชดำเนินกลาง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร จำนวน ๓๑,๓๙๔,๕๐๐ บาท ๒. ให้กระทรวงยุติธรรม (สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม) จ่ายเงินก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าหรือนอก เหนือไปจากที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี หรือพระราชบัญญัติงบประมาณราย จ่ายเพิ่มเติมก่อนได้รับเงินประจำงวด เพื่อเป็นเงินอุดหนุนให้แก่สภาทนายความในการชำระหนี้การจัดซื้อที่ดิน และอาคารของสภาทนายความ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 857 | การจัดทำบันทึกความเข้าใจเรื่องความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลธุรกรรมทางการเงินกับหน่วยข่าวกรองทางการเงินประเทศอาร์เมเนีย | ยธ | 12/10/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. อนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในฐานะบังคับบัญชาสำนักงานป้องกันและปราบปราม การฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) เสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้สำนักงาน ปปง. จัดทำความตกลงกับ The Financial Monitoring Center ประเทศอาร์เมเนีย โดยใช้ร่างบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding (MOU)) เรื่อง ความร่วมมือในการแลกเปลี่ยน ข้อมูลธุรกรรมทางการเงินเพื่อการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และปรับรูปแบบตอนท้ายก่อนส่วนลงนาม เนื่องจากจะเป็นการลงนามเอกสารแลกเปลี่ยนกันทางไปรษณีย์ ดังนี้ Done in duplicate in the English language. Signed in Bangkok on ………………….Signed in Yerevan on ………………………… ๑.๒ ให้เลขาธิการ ปปง. เป็นผู้ลงนาม MOU ฝ่ายไทย ๒.ให้สำนักงาน ปปง. รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศในส่วนของประเด็นถ้อยคำ เพื่อความ กระจ่างชัดในการตีความและเพื่อให้สอดคล้องกับการที่ไทยและอาร์มาเนียจะลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ณ เวลาที่ ต่างกันผ่านทางไปรษณีย์ ส่วนราชการเจ้าของเรื่องอาจพิจารณาปรับแก้ถ้อยคำในข้อ ๙ ของร่างบันทึกความเข้าใจฯ เป็น “This MOU Shall enter into force on the date of its the last signature and shall continue to be in force until …” ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 858 | รายงานประจำปี พ.ศ. 2551 - 2552 คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ | ยธ | 12/10/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) ประธานกรรมการพัฒน
าการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติเสนอรายงานประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๑-๒๕๕๒ ของคณะกรรมการพัฒนาการบริหาร งานยุติธรรมแห่งชาติ โดยรายงานดังกล่าวประกอบด้วย ๑. ส่วนที่ ๑ รวบรวมเนื้อหาเกี่ยวกับโครงสร้าง อำนาจหน้าที่ และองค์ประกอบของคณะกรรมการพัฒนา การบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ และคณะอนุกรรมการที่ได้แต่งตั้งภายใต้คณะกรรมการฯ จำนวน ๑๒ คณะ ๒. ส่วนที่ ๒ รวบรวมผลงานสำคัญของคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติและคณะอนุ กรรมการที่ได้แต่งตั้งภายใต้คณะกรรมการ ในช่วงระหว่าง พ.ศ. ๒๕๕๑-๒๕๕๒ จำแนกเป็น ๕ ด้าน ดังนี้ ๒.๑ การจัดทำแผนและการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การบริหารงานยุติธรรม ๒.๒ การส่งเสริมประสานความร่วมมือเพื่อพัฒนาระบบการบริหารงานยุติธรรม ๒.๓ การวิจัย พัฒนากฎหมาย และการบริหารงานยุติธรรม ๒.๔ การประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการบริหารงานยุติธรรม ๒.๕ การส่งเสริมพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมระดับพื้นที่ ๓. ส่วนที่ ๓ การรายงานข้อมูลสถิติด้านกระบวนการยุติธรรม ประกอบด้วย ๓.๑ ข้อมูลพื้นฐานของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ๓.๒ ข้อมูลสถิติการดำเนินงานกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ๓.๓ ข้อมูลสถิติการดำเนินงานกระบวนการยุติธรรมทางแพ่ง ๓.๔ ข้อมูลสถิติการดำเนินงานกระบวนการยุติธรรมทางปกครอง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 859 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางสุรีย์ประภา ตรัยเวช) | ยธ | 12/10/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางสุรีย์ประภา ตรัยเวช ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้อง
กันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่ วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๓ เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 860 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (จำนวน 5 ราย 1.นายแพทย์ดาวิน นารูลา ฯลฯ) | ยธ | 12/10/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญาชุดใหม่ จำนวน ๕ คน เนื่องจากกรรมการชุดเดิมได้ดำรงตำแหน่งมาครบกำหนดสองปีตามวาระ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
๑. นายดาวิน นารูลา กรรมการ ๒. นางเพทาย ปทุมจันทรัตน์ กรรมการ ๓. นางสุวณา สุวรรณจูฑะ กรรมการ ๔. รองศาสตราจารย์ชนิตา รักษ์พลเมือง กรรมการ ๕. นางสาวศุภมาศ พยัฆวิเชียร กรรมการ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
.....
