ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 45 จากทั้งหมด 97 หน้า แสดงรายการที่ 881 - 900 จากข้อมูลทั้งหมด 1937 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 881 | การแต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (คณะกรรมการ ป.ป.ท.) | ยธ | 11/05/2553 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอรายงานปัญหาข้อขัดข้องและความเป็นมาเกี่ยว
กับเรื่อง การแต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (คณะกรรมการ ป.ป.ท.)
|
||||||||||||||||||||||||
| 882 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติรายการก่อสร้างอาคารชุดที่พักราชการ ขนาด 18 ยูนิต 2 หลัง | ยธ | 11/05/2553 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
รายการก่อสร้างอาคารชุดที่พักราชการ ขนาด 18 ยูนิต 2 หลัง ได้แก่ สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัด นครศรีธรรมราช และจังหวัดสระบุรี แห่งละ 1 หลัง จากวงเงิน 33,520,000 บาท เป็นวงเงิน 33,849,150.42 บาท ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยงบประมาณส่วนที่เพิ่มขึ้นจำนวน 329,151 บาท ให้กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและ เยาวชนพิจารณาใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||
| 883 | การลงนามในเอกสารโครงการความเป็นหุ้นส่วนเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ โดยใช้องค์กรการปราบปรามระดับภูมิภาค - หน่วยที่ 3 (ด้านยาเสพติด) | ยธ | 04/05/2553 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะรัฐมนตรีที่กำกับดูแลงานของสำนัก
งานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) เป็นผู้ลงนามในเอกสารโครงการความเป็น หุ้นส่วนเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ โดยใช้องค์กรการปราบปรามระดับภูมิภาค-หน่วยที่ 3 (ด้านยาเสพติด) [Partnership Against Transnational-crime through Regional Organized Law-enforcement-PATROL : Module 3 (Drugs)] ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 884 | ความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะ | ยธ | 04/05/2553 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายเสนอความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับกฎ
หมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานด้านนิติบัญญัติประกอบการพิจารณาร่างพระ ราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. .... ต่อไป สรุปได้ดังนี้ คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายเห็นว่าจำเป็นต้องตรากฎ หมายว่าด้วยการชุมนุมในที่สาธารณะเพื่อกำหนดอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐในการควบคุม ดูแล และอำนวย ความสะดวกแก่ผู้ชุมนุม ทำหน้าที่จัดสรรการใช้พื้นที่สาธารณะ รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์ ขั้นตอน วิธีการและเงื่อน ไขการยุติหรือสลายการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ และกำหนดขอบเขตการใช้เสรีภาพในการ ชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธของประชาชนและการคุ้มครองสิทธิของประชาชนทั่วไปที่ถูกกระทบอันเนื่องมาจาก การชุมนุมดังกล่าวตามที่รัฐธรรมนูญได้รับรองไว้ ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ครั้งที่ 1/2553 เมื่อ วันที่ 29 มกราคม 2553 ได้เห็นชอบในหลักการบันทึกความเห็นและข้อเสนอแนะของคณะอนุกรรมการพิจารณาร่าง กฎหมายว่าด้วยการชุมนุมในที่สาธารณะ และในการประชุมครั้งที่ 2/2553 เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2553 ที่ประชุม เห็นสมควรผลักดันให้มีพระราชบัญญัติว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะโดยเร็ว
|
||||||||||||||||||||||||
| 885 | ความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับร่างกฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ | ยธ | 04/05/2553 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบความเห็นและข้อเสนอแนะของคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายเกี่ยวกับร่างกฎหมายว่าด้วย แรงงานสัมพันธ์ เพื่อพิจารณาประกอบการปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 ดังนี้ 1.1 ควรพัฒนาหลักการแรงงานสัมพันธ์ให้เป็นรูปแบบใหม่ที่เป็นการยกระดับลูกจ้างและนายจ้าง ให้อยู่ในระดับเดียวกัน 1.2 ปรับปรุงพระราชบัญญัติแรงานสัมพันธ์ฯ ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 และอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ฉบับที่ 87 ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคมและ การคุ้มครองสิทธิในการรวมตัวกัน พ.ศ. 2491 และอนุสัญญาฯ ฉบับที่ 98 ว่าด้วยสิทธิในการรวมตัวกันและการ ร่วมเจรจาต่อรอง พ.ศ. 2492 เกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิการรวมตัวกันได้อย่างเสรีของนายจ้างและลูกจ้าง รวมทั้ง สิทธิในการก่อตั้งและเข้าร่วมสหพันธ์ระดับชาติและเป็นสมาชิกองค์การระหว่างประเทศด้านแรงงาน 1.3 ควรมีการพัฒนาระบบวิธีพิจารณาคดีแรงงาน เนื่องจากผลของคำพิพากษาในคดีแรงงานแตก ต่างไปจากคดีแพ่งทั่วไปซึ่งมีผลผูกพันเฉพาะคู่ความเท่านั้น แต่ในคดีแรงงาน ผลแห่งคำพิพากษามีผลกระทบในวง กว้างถึงนายจ้างและลูกจ้างคนอื่นด้วย นอกจากนี้ ควรกำหนดให้มีระบบชั้นศาลในศาลแรงงานที่สูงกว่าศาลแรง งานในปัจจุบันเพื่อแบ่งเบาภาระของศาลฎีกาแผนกคดีแรงงาน รวมทั้งการกำหนดให้มีผู้พิพากษาที่มีความรู้ความ เชี่ยวชาญด้านคดีแรงงานมาประจำอยู่ในศาลแรงงาน เพื่อจะได้มีบุคลากรที่มีความรู้ความเข้าใจบริบท หรือสภาพ ปัญหาด้านแรงงานมาเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาดตัดสินคดี 2. ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นและข้อเสนอแนะของคณะกรรมการฯ ไปประกอบการพิจารณาใน การปรับปรุงแก้ไขร่างพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่วมกับหน่วยงานที่เสนอความเห็นต่อ ไป |
||||||||||||||||||||||||
| 886 | การขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษกปีที่ 60 วันที่ 5 พฤษภาคม พุทธศักราช 2553 | ยธ | 27/04/2553 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ
พระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ เพื่อเป็นการถวายพระราชกุศล และเพื่อให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นกลับ ประพฤติตนเป็นพลเมืองดี อันจะเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่ง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 887 | ขออนุมัติให้กระทรวงยุติธรรมโดยกรมราชทัณฑ์จัดซื้ออาหารสดประเภทสัตว์น้ำ (ปลา ฯลฯ) จากองค์การสะพานปลาเพื่อการประกอบเลี้ยงนักโทษและผู้ต้องขังในเรือนจำ ทัณฑสถาน และสถานกักขัง โดยวิธีกรณีพิเศษ | ยธ | 07/04/2553 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงยุติธรรมโดยกรมราชทัณฑ์จัดซื้ออาหารสดประเภทสัตว์น้ำ (ปลา ฯลฯ)
จากองค์การสะพานปลาโดยวิธีกรณีพิเศษ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไข เพิ่มเติม ข้อ 26 ในราคาตามที่องค์การสะพานปลาเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2553 และให้สำนักงาน ปลัดกระทรวงยุติธรรมโดยกรมราชทัณฑ์ดำเนินการจัดซื้อให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 20 เมษายน 2553 เว้นแต่ต่อไป จะมีส่วนราชการหรือหน่วยงานตามกฎหมายอื่นเสนอราคาที่ต่ำกว่าราคาขององค์การสะพานปลาโดยไม่มีข้อขัดข้อง เกี่ยวกับการเก็บรักษาอาหารสดนั้นและยังคงประโยชน์ในการช่วยเหลือชาวประมงและเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงปลาและ สัตว์น้ำได้เช่นเดิม หากองค์การสะพานปลาไม่สามารถปรับลดราคาลงให้ได้ตามราคาที่ส่วนราชการหรือหน่วยงาน ตามกฎหมายอื่นนั้นเสนอมา ให้กระทรวงยุติธรรมโดยกรมราชทัณฑ์เปลี่ยนไปจัดซื้อจากส่วนราชการหรือหน่วยงาน ตามกฎหมายอื่นนั้นโดยวิธีกรณีพิเศษแทนการจัดซื้อจากองค์การสะพานปลาได้ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 888 | การจัดระบบการจัดซื้ออาหาร เครื่องบริโภค และวัสดุเพื่อการหุงหาอาหาร | ยธ | 30/03/2553 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
1. อนุมัติยกเว้นการจัดซื้ออาหารดิบและผลไม้สำหรับหน่วยงานในสังกัดกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและ เยาวชน โดยให้จัดซื้อตามวิธีการของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนเมษายน 2553 เป็นต้นไป และอนุมัติเป็นหลักการสำหรับปีงบประมาณต่อไป ทั้งนี้ ไม่รวมการ จัดซื้อข้าวสารและข้าวสารเหนียว และนมสด ให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2552 เป็นการ ถาวรและต่อเนื่อง 2. ให้ดำเนินการจัดซื้อผลไม้และพืชอื่นที่รับประทานแทนผลไม้ ระหว่างกรมราชทัณฑ์กับเกษตรกรโดย ตรงตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2552 เป็นการถาวรและต่อเนื่อง 3. ขยายระยะเวลาการยกเว้นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2552 ในส่วน ของการจัดซื้ออาหารสด (เนื้อสัตว์และพืชผัก) และวัสดุปรุงอาหารต่อไปเป็นเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 1 เมษา ยน 2553-30 กันยายน 2553 โดยในระหว่างเวลาดังกล่าวให้ใช้วิธีการจัดซื้อที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันและตาม ที่ได้รับยกเว้นอยู่ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 889 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดคำร้องขอ การส่งมอบตัวบุคคล และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. .... | ยธ | 23/03/2553 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดคำร้องขอ การส่งมอบตัวบุคคล และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับ
การส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎกระทรวง ฯ มีสาระสำคัญคือ 1. คำร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนของประเทศผู้ร้องขอที่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศไทย ให้ จัดส่งไปยังผู้ประสานงานกลาง หรือตามที่ระบุไว้ในสนธิสัญญา ในกรณีที่ประเทศผู้ร้องขอไม่ได้มีสนธิสัญญา ฯ กับ ประเทศไทย ให้จัดส่งคำร้องขอโดยผ่านวิธีทางการทูต 2. คำร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนให้จัดทำเป็นลายลักษณ์อักษรและต้องแนบเอกสารหลักฐานรายละเอียด ของบุคคลที่ขอให้ส่งข้ามแดน ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดี กฎหมายที่บัญญัติให้การกระทำนั้นเป็นความผิด และหากเป็น คำร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนเพื่อไปดำเนินคดีอาญาหรือเป็นคำร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนกรณีบุคคลที่ถูกพิพากษา ว่ากระทำความผิดแล้วจะต้องแนบเอกสารเพิ่มเติมตามที่กำหนด 3. เอกสารหลักฐานที่นำส่งโดยประเทศผู้ร้องขอจะต้องได้รับการรับรองโดยเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจพร้อมคำ แปลเป็นภาษาไทยและรับรองความถูกต้องด้วย 4. กำหนดให้กรณีที่ประเทศผู้ร้องขอมิได้มีสนธิสัญญา ฯ กับประเทศไทยต้องแสดงให้ชัดแจ้งว่าจะส่งผู้ร้าย ข้ามแดนให้แก่ประเทศไทยในทำนองเดียวกันเมื่อร้องขอ 5. กำหนดวิธีการดำเนินการส่งมอบตัวบุคคลซึ่งถูกร้องขอให้ส่งข้ามแดน 6. กำหนดวิธีการดำเนินการเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการส่งผู้ร้ายข้ามแดน
|
||||||||||||||||||||||||
| 890 | ร่างพระราชบัญญัติมาตรการแทนการฟ้องคดีอาญา พ.ศ. .... | ยธ | 16/02/2553 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติมาตรการแทนการฟ้องคดีอาญา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้มีกฎ หมายว่าด้วยมาตรการแทนการฟ้องคดีอาญา โดยการนำมาตรการชะลอการฟ้องคดีอาญามาใช้เป็นมาตรการแทน การฟ้องคดีอาญา ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับความเห็นของคณะรัฐมนตรี ในประเด็นเรื่องการชะลอการฟ้อง ควรกำหนดให้ เป็นอำนาจของพนักงานอัยการหรือศาล และความเห็นของกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักศาลยุติธรรม ที่เห็นควรกำหนดให้มีบทบัญญัติที่กำหนดให้ คู่กรณีที่มีกรณีพิพาทกันสามารถเลือกใช้มาตรการแทนการฟ้องคดีอาญา หรือเลือกใช้มาตรการไกล่เกลี่ยในอำนาจ หน้าที่ของนายอำเภอตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการแผ่นดินก่อนที่ผลการพิจารณาจะได้ข้อยุติที่ทำให้สิทธิ ในการนำคดีมาฟ้องระงับลง หรือก่อนคดีขาดอายุความ รวมทั้งให้มีการวางระบบการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทออกเป็น 3 ระดับ เช่น ในชั้นตำรวจมีหน้าที่รับผิดชอบไกล่เกลี่ยคดีทั่วไป ส่วนคดีที่มีระดับความขัดแย้งและบทลงโทษสูงขึ้นให้ พนักงานอัยการ และศาลทำหน้าที่ไกล่เกลี่ย นอกจากนี้ การนำหลักการไกล่เกลี่ยคดีอาญามาใช้อาจจะกระทบต่อ การคุ้มครองสิทธิในกระบวนการยุติธรรมตามรัฐธรรมนูญ ระบบกฎหมายอาญาและระบบการดำเนินคดีอาญาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา รวมถึงการใช้มาตรการในการลงโทษผู้กระทำความผิด จึงควรมีการรับฟัง ความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนอย่างกว้างขวางในภาพรวมให้ดีเสียก่อน ไปประกอบการพิจารณา ด้วย แล้วให้ส่งคณะกรรมการประสานงานด้านนิติบัญญัติพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป 2. อนุมัติให้ถอนร่างพระราชบัญญัติไกล่เกลี่ยข้อพิพาทคดีอาญาในชั้นสอบสวน พ.ศ. .... ออกจากการ พิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ |
||||||||||||||||||||||||
| 891 | ร่างพระราชบัญญัติคณะกรรมการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. .... | ยธ | 09/02/2553 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติคณะกรรมการปฏิรูปและพัฒนากระบวนการยุติธรรมแห่งชาติ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และส่งคณะกรรมการประสานงานด้านนิติบัญญัติพิจารณา แล้วเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป โดยร่างพระราชบัญญัติ ฯ มีสาระสำคัญคือ 1.1 ให้มีคณะกรรมการปฏิรูปและพัฒนากระบวนการยุติธรรมแห่งชาติ มีวาระในการดำรงตำแหน่ง คราวละสี่ปีนับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้ง และอาจได้รับแต่งตั้งใหม่อีกได้ 1.2 ให้คณะกรรมการปฏิรูปและพัฒนากระบวนการยุติธรรมแห่งชาติมีอำนาจแต่งตั้งคณะกรรมการ เฉพาะเรื่องหรือคณะอนุกรรมการเพื่อศึกษาเรื่องหนึ่งเรื่องใดเป็นการเฉพาะก่อนที่จะเสนอผลการพิจารณาต่อคณะ กรรมการเพื่อพิจารณาต่อไป 1.3 ให้คณะกรรมการปฏิรูปและพัฒนากระบวนการยุติธรรม มีหน้าที่หลักในเชิงนโยบายที่จะปฏิรูป และพัฒนากระบวนการยุติธรรมในภาพรวม โดยการเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี หรือองค์กรที่เกี่ยวข้องกับกระบวน การยุติธรรมในการกำหนดนโยบาย กลยุทธ์ และแนวทางเกี่ยวกับการปฏิรูปและพัฒนากระบวนการยุติธรรมให้มี ประสิทธิภาพและสัมฤทธิ์ผล จัดทำแผนแม่บทการปฏิรูปและพัฒนากระบวนการยุติธรรมแห่งชาติ และแผนแม่บท เทคโนโลยีสารสนเทศ กระบวนการยุติธรรมแห่งชาติ และเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อกำหนดมาตรการแก้ไข ข้อขัดข้อง ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือกรณีที่เกิดปัญหาในทางปฏิบัติ หรือเกิดข้อขัดข้องที่เป็นอุปสรรคต่อการ ปฏิรูปและพัฒนากระบวนการยุติธรรม 1.4 ให้มีสำนักงานคณะกรรมการปฏิรูปและพัฒนากระบวนการยุติธรรมแห่งชาติเป็นหน่วยงานของ รัฐที่มิใช่ส่วนราชการ ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน และไม่เป็นรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่า ด้วยวิธีการงบประมาณหรือกฎหมายอื่น มีฐานะเป็นนิติบุคคล และอยู่ภายใต้กำกับของประธานกรรมการ รับผิด ผิดชอบเกี่ยวกับงานธุรการและกิจการทั่วไปของคณะกรรมการ ฯ รวมทั้งเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับความรู้และ ผลงานวิจัยด้านการปฏิรูปและการพัฒนากระบวนการยุติธรรมแห่งชาติ 2. โดยที่ความในร่างมาตรา 27 บัญญัติให้รัฐบาลจัดสรรเงินอุดหนุนทั่วไปให้กับสำนักงานคณะกรรม การปฏิรูป ฯ และบทเฉพาะกาลร่างมาตรา 35 บัญญัติให้โอนงบประมาณของกองงานคณะกรรมการยุติธรรมแห่ง ชาติ สำนักงานกิจการยุติธรรมไปเป็นของสำนักงานคณะกรรมการปฏิรูป ฯ ดังนั้น ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ขอให้สำนัก งบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณให้กระทรวงยุติธรรม และสำนักงานคณะกรรมการปฏิรูป ฯ อย่างเหมาะ สมเพียงพอ มิให้กระทบต่อภารกิจอื่นของกระทรวงยุติธรรมด้วย |
||||||||||||||||||||||||
| 892 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พุทธศักราช 2479 | ยธ | 09/02/2553 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติราช
ทัณฑ์ พุทธศักราช 2479 มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้มีคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยบุคคลภายนอกร่วมเป็นคณะ กรรมการพักการลงโทษ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 893 | ขอนำร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอุซเบกิสถานว่าด้วยความร่วมมือในการควบคุมยาเสพติดวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท และสารตั้งต้น เสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบและขออนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามบันทึกความเข้าใจ ฯ ฝ่ายไทย รวมทั้งขออนุมัติให้มีการแก้ไขในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ หากมีความจำเป็น | ยธ | 19/01/2553 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอุซเบกิ สถานว่าด้วยความร่วมมือในการควบคุมยาเสพติด วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท และสารตั้งต้น 2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมหรือผู้ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ ฯ ฝ่ายไทย รวมทั้งอนุมัติให้มีการแก้ไขในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ หากมีความจำเป็น
|
||||||||||||||||||||||||
| 894 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พุทธศักราช 2479 | ยธ | 19/01/2553 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติ
ราชทัณฑ์ พุทธศักราช 2479 ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎกระทรวง ฯ มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงมหาดไทย ออกตามความ ในมาตรา 58 แห่งพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พุทธศักราช 2479 ดังต่อไปนี้ 1. กำหนดระยะเวลาการเลื่อนชั้นนักโทษเด็ดขาดตามปกติในวันสิ้นเดือนมิถุนายน ครั้งหนึ่ง และสิ้นเดือน ธันวาคม ครั้งหนึ่ง 2. กำหนดให้ผู้ต้องขังที่กระทำผิดวินัยโดยมีเครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ หรือเครื่องมือสื่อสารอื่น รวมทั้ง อุปกรณ์สำหรับสิ่งของดังกล่าว ยาเสพติดให้โทษ วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท และสารระเหย และพยายามหลบ หนีหรือหลบหนีไปแล้วแต่ได้ตัวคืนมา ได้รับการลงโทษลดชั้น 3. กำหนดให้นักโทษเด็ดขาดชั้นเลวมาก หรือผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีได้กระทำความผิดได้รับการลง โทษขังเดี่ยว
|
||||||||||||||||||||||||
| 895 | ขออนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (จำนวน 6 คน 1. นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ฯลฯ) | ยธ | 19/01/2553 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
จำนวน 6 คน แทนกรรมการชุดเดิมที่ดำรงตำแหน่งมาครบกำหนด 2 ปีตามวาระ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดย ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (19 มกราคม 2553) เป็นต้นไป ดังนี้ 1. นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม 2. พลเอก อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม 3. พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก 4. นายเฉลียว อยู่สีมารักษ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ 5. พลตำรวจโท ประกาศ ศาตะมาน ภาคเอกชน 6. นายไพศาล พืชมงคล ภาคเอกชน
|
||||||||||||||||||||||||
| 896 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายวัลลภ อธิคมประภา และ พันเอก เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา) | ยธ | 19/01/2553 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายวัลลภ อธิคมประภา ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงยุติธรรม และพันเอก เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ทั้งนี้ ให้การแต่งตั้งมีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (19 มกราคม 2553) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 897 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ของกระทรวงยุติธรรม | ยธ | 29/12/2552 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 งบกลาง รายการ
เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 22,649,000 บาท เพื่อใช้ในโครงการกำลังใจในพระดำริพระเจ้า หลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 898 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 29/12/2552 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัด
กระทรวง กระทรวงยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามแนวปฏิบัติในการเสนอร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราช การภายในกรม ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2549 โดยส่งร่างกฎกระทรวงดังกล่าวให้ ก.พ.ร. พิจารณาภายใน 2 สัปดาห์ แล้วส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 899 | การขอผ่อนผันการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี | ยธ | 29/12/2552 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ 1.1 ขยายระยะเวลาการจัดซื้ออาหารสด (ปลา สัตว์น้ำ เนื้อสัตว์ พืชผัก) และวัสดุสำหรับปรุงอาหาร ด้วยวิธีการเดิมออกไปอีก 3 เดือน (วันที่ 1 มกราคม-31 มีนาคม 2553) ของกรมราชทัณฑ์ 1.2 ขยายระยะเวลาการทดลองนำร่องการซื้อ-ขายผลไม้ ระหว่างกรมราชทัณฑ์กับกรมส่งเสริมการ เกษตร ออกไปอีก 3 เดือน (วันที่ 1 มกราคม-31 มีนาคม 2553) โดยเพิ่มพื้นที่จังหวัดนำร่องให้ครอบคลุมทั่วทั้ง ประเทศ กำหนดให้เกษตรกรสามารถจัดส่งผลไม้ข้ามพื้นที่และข้ามจังหวัดได้ อีกทั้งยังขยายประเภทผลไม้ให้ครอบ คลุมถึงพืชอื่นที่รับประทานแทนผลไม้ได้ เช่น แห้ว มันแกว ข้าวโพด อ้อย มันเทศ เผือก และถั่วลิสง เป็นต้น รวมถึง ประชาสัมพันธ์เพิ่มจำนวนเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการให้มากขึ้น เพื่อประโยชน์ในการศึกษาผลลัพธ์และผลกระทบ ที่แตกต่างกันออกไปตามสภาพทางภูมิศาสตร์ 2. ส่วนการขอยกเว้นการดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และ ที่แก้ไขเพิ่มเติมข้อ 22 วรรคสอง นั้น ให้กระทรวงยุติธรรมรับไปเสนอขออนุมัติต่อคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุต่อ ไป |
||||||||||||||||||||||||
| 900 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (จำนวน 3 ราย 1. นายวิทยา สุริยะวงค์ ฯลฯ) | ยธ | 24/11/2552 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงยุติธรรม ให้ดำรงตำแหน่ง
ประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 3 ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวง ยุติธรรมเสนอ ดังนี้ 1. นายวิทยา สุริยะวงศ์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงาน สำนักงานกิจการ ยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม 2. นางสาวกัญญานุช สอทิพย์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม 3. พ.ต.อ. ดุษฎี อารยวุฒิ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัด กระทรวง กระทรวงยุติธรรม
|
||||||||||||||||||||||||
.....
