ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | ร่างแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฉบับที่ 2 ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน | ยธ | 20/10/2552 |
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบและประกาศใช้แผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2552-2556) โดยเป็นแผนระดับ ชาติ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้ในการส่งเสริม และคุ้มครองสิทธิเสรีภาพให้แก่ประชาชน พร้อมทั้งยังเป็นการสร้างหลักประกันสิทธิเสรีภาพให้แก่ประชาชน และพัฒนาระบบงานด้านสิทธิมนุษยชนในภาพ รวมอย่างมีเอกภาพของประเทศไทยให้ทัดเทียมกับหลักสิทธิมนุษยชนสากล โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำแผนดัง กล่าวไปสู่การปฏิบัติด้วยการแปลงแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติไปสู่แผนบริหารราชการแผ่นดิน แผนปฏิบัติราชการ กระทรวง กรม แผนพัฒนาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แผนพัฒนาองค์กรชุมชน แผนพัฒนาขององค์กรในระดับ ภูมิภาค แผนพัฒนาองค์กรสาธารณะ ตลอดจนแผนอื่นที่เกี่ยวข้อง แล้วจัดทำเป็นโครงการ/กิจกรรมเพื่อรองรับการ ดำเนินภารกิจแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ 2. ให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาสนับสนุนอัตรากำลังข้าราชการ จำนวน 20 คน เพื่อดำเนินการ ภารกิจแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในการจัดทำและพัฒนาแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ การส่งเสริมให้มีการปฏิบัติ ตามแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ การสร้างกลไก มาตรการ กฎหมาย หรือเครื่องมือเพื่อรองรับการดำเนินงานและ การติดตามประเมินผลแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ให้แก่กระทรวงยุติธรรม โดยให้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป 3. ให้กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวง เกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงแรงงาน กระทรวง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนัก งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงาน ป.ป.ช. ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการจัดสภาพแวด ล้อมทางกายภาพระบบขนส่งสาธารณะ และการจัดสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ที่ตอบสนองต่อการให้บริการแก่ผู้ สูงอายุ และคนพิการในด้านต่าง ๆ รวมทั้งควรมีการสร้างเครือข่ายเฝ้าระวังการละเมิดสิทธิมนุษยชนในทุกจังหวัด และใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็นเครื่องมือ เพื่อให้เกิดการประสานงานและการใช้ประโยชน์จากฐาน ข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องการป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชน ส่วนการนำแผนไปสู่การปฏิบัติโดยเฉพาะในพื้นที่ พิเศษ ซึ่งเป็นพื้นที่อ่อนไหวและมีปัญหากระทบต่อความมั่นคง ควรมีการกำกับดูแลให้มีการดำเนินการอย่างเหมาะ สม และเป็นไปอย่างระมัดระวัง เพื่อมิให้เกิดข้อจำกัดต่อการปฏิบัติของภาครัฐในการแก้ปัญหาภายใต้กรอบของกฎ หมาย และให้ความสำคัญกับการสร้างความตระหนักเรื่องสิทธิมนุษยชนต่อภาคประชาชนโดยตรงควบคู่ไปกับการ ดำเนินการต่อองค์กรเครือข่ายสิทธิมนุษยชนอย่างเหมาะสม ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย |
.....