ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 32 จากทั้งหมด 97 หน้า แสดงรายการที่ 621 - 640 จากข้อมูลทั้งหมด 1937 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 621 | ขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2542 ประกอบกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2550 เพื่อขอบัญญัติ การจัดตั้งสำนักงานกองทุนยุติธรรมไว้ในพระราชบัญญัติกองทุนยุติธรรม พ.ศ. .... | ยธ | 12/05/2558 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้กระทรวงยุติธรรมยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๔๒ (เรื่อง ข้อสังเกตของ ก.พ. เกี่ยวกับการกำหนดตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการไว้ในกฎหมาย) ประกอบกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๐ (เรื่อง การซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการจัดตั้งหน่วยงานของรัฐ) เพื่อขอให้มีการบัญญัติการจัดตั้งสำนักงานกองทุนยุติธรรม ปรากฏไว้ในร่างพระราชบัญญัติกองทุนยุติธรรม พ.ศ. .... เพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ เป็นการเฉพาะราย ๒. กรณีมีภาระงบประมาณเพิ่มขึ้นจากการปรับปรุงโครงสร้างภายในกระทรวงยุติธรรม ให้กระทรวงยุติธรรมพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับจัดสรรไว้แล้วเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดังกล่าว สำหรับค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป ให้กระทรวงยุติธรรมขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีรองรับตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
||||||||||||||||||
| 622 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขายทอดตลาด พ.ศ. .... | ยธ | 12/05/2558 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขายทอดตลาด พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขายทอดตลาด พ.ศ. ๒๕๕๔ กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขายทอดตลาด (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๕ และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขายทอดตลาด (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๗
ปรับปรุงกระบวนการขยายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดี การปรับปรุงข้อความในประกาศขายทอดตลาดให้ชัดเจน ปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำหนดราคาเริ่มต้นในการขายทอดตลาด และหลักเกณฑ์การวางหลักประกันก่อนเข้าเสนอราคา และเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เข้าเสนอราคาในการขายทอดตลาดมากยิ่งขึ้น ปรับปรุงคณะกรรมการกำหนดราคาทรัพย์ให้มีความเหมาะสมแก่การปฏิบัติงาน ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||
| 623 | รายงานสรุปผลการเข้าร่วมประชุมการออกแบบและก่อสร้าง อาคาร สถานที่ และสถานควบคุมแห่งเอเชีย ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 23 - 28 กุมภาพันธ์ 2558 ณ นครย่างกุ้ง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา | ยธ | 12/05/2558 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการเข้าร่วมประชุมการออกแบบและก่อสร้าง อาคาร สถานที่ และสถานควบคุมแห่งเอเชีย ครั้งที่ ๔ (4th Asian Conference of Correctional Facilities Architects and Planners, 2015 : 4th ACCFA) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๓-๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ณ นครย่างกุ้ง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. สาระสำคัญของการประชุมได้มีการนำเสนอข้อมูลในการออกแบบและก่อสร้าง อาคาร สถานที่ สถานควบคุม ประกอบด้วยหัวข้อสำคัญ ได้แก่ (๑) สถานการณ์ปัจจุบันและประเด็นในด้านสถานควบคุม (๒) บทบาทของนักวางแผนสถานควบคุม (๓) การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในการออกแบบสถานควบคุม (๔) ความประสงค์ของการวิเคราะห์แผนงานก่อนการบริหารจัดการโครงการของสถานควบคุม และ (๕) สุขอนามัยเรือนจำ (ความมั่นคง การเยียวยาและการฟื้นฟูส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อมุ่งสู่สุขอนามัยในเรือนจำอย่างไร?) รวมทั้งศึกษาดูงาน ณ เรือนจำกลาง INSEIN (อินเซน) นครย่างกุ้ง ซึ่งเป็นเรือนจำกลางที่ใหญ่ที่สุดของเมียนมา ๒. การประชุมในครั้งนี้ ฝ่ายไทยได้รับประโยชน์เป็นอย่างดียิ่งในด้านทักษะ องค์ความรู้ การออกแบบในด้านต่าง ๆ ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาการออกแบบก่อสร้าง อาคาร สถานที่ สถานควบคุมในประเทศไทยให้มีความทันสมัยกับยุคปัจจุบัน รวมถึงการได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในด้านการออกแบบและก่อสร้างในระดับนานาชาติของหน่วยงานรัฐ อีกทั้งยังทำให้มีโอกาสพัฒนาความสัมพันธ์และแสวงหาแนวทางการร่วมมือในการแก้ปัญหาในระดับนานาชาติของกระทรวงยุติธรรมในด้านการบริหารจัดการ การออกแบบและก่อสร้างอาคารสถานที่ สถานควบคุม ตลอดจนเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ถูกต้องตามหลักสากล สำหรับการประชุมการออกแบบและก่อสร้าง อาคาร สถานที่ สถานควบคุมแห่งเอเชีย ครั้งที่ ๕ (Asian Conference of Correctional Facilities Architects and Planners, 2016 : 5th ACCFA) กำหนดจัดขึ้น ณ สาธารณรัฐเกาหลีในห้วงเดือนมีนาคม ๒๕๕๙
|
||||||||||||||||||
| 624 | การประชุมสภากระบวนการยุติธรรมสำหรับเด็กและเยาวชน ระดับภาคพื้น เอเชีย - แปซิฟิก ครั้งที่ 2 (The 2nd Meeting of ASIA - PACIFIC Council for Juvenile Justice) | ยธ | 07/05/2558 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการประชุมสภากระบวนการยุติธรรมสำหรับเด็กและเยาวชน ระดับภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ ๒ (The 2nd Meeting of ASIA-PACIFIC Council for Juvenile Justice) ซึ่งกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนร่วมกับสถาบันกำกับดูแลกระบวนการยุติธรรมเด็กและเยาวชนระหว่างประเทศ (International Juvenile Justice Observatory : IJJO) สำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nation Office on Drugs and Crime : UNODC) จัดการประชุมดังกล่าวขึ้นในระหว่างวันที่ ๕-๘ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ณ โรงแรมกะตะบีช รีสอร์ท แอนด์ สปา จังหวัดภูเก็ต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทางการปฏิบัติที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมเด็กและเยาวชนระหว่างประเทศ พัฒนายกระดับมาตรฐานการปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชนในกระบวนการยุติธรรมของไทยและประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคอาเซียน และเพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการดูแลเด็กและเยาวชนที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมระหว่างประเทศในระดับนานาชาติและประเทศในภูมิภาคอาเซียน สำหรับรูปแบบของการประชุมมี ๒ รูปแบบ คือ วันที่ ๕-๗ พฤษภาคม ๒๕๕๘ เป็นการประชุมเชิงปฏิบัติการ หัวข้อการประชุมประกอบด้วย การป้องกันและตอบสนองต่อความรุนแรงต่อเด็กและเยาวชน การหันเหคดีและมาตรการทางเลือก ยุติธรรมเชิงสมานฉันท์จากทฤษฎีสู่แนวทางปฏิบัติ และในวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๘ เป็นการประชุมวิชาการ เพื่อร่วมกันกำหนดภารกิจและแผนงานของสภากระบวนการยุติธรรมสำหรับเด็กและเยาวชนในภาคพื้นอาเซียน ร่วมกันหาวิธีการประเมินผลการดำเนินงานด้านมาตรฐานสิทธิเด็กและเยาวชนในภูมิภาค และร่วมกันจัดทำมาตรการในการดูแลเด็กและเยาวชนที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมที่เป็นการกระทำความผิดข้ามพรมแดน เพื่อปกป้องสิทธิเด็กและเยาวชนที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||
| 625 | ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการส่งเสริมการให้บริการด้านนิติวิทยาศาสตร์ พ.ศ. .... | ยธ | 28/04/2558 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการส่งเสริมการให้บริการด้านนิติวิทยาศาสตร์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีกลไกทางกฎหมายในรูปของคณะกรรมการส่งเสริมการให้บริการด้านนิติวิทยาศาสตร์ขึ้น เพื่อกำหนดมาตรฐานการให้บริการด้านนิติวิทยาศาสตร์ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และกำหนดการเรียกเก็บ งด หรือลดค่าธรรมเนียมการให้บริการด้านนิติวิทยาศาสตร์ของสถาบันฯ ตลอดจนกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการเก็บรักษา ทำลาย และเปิดเผยข้อมูล รวมทั้งกำหนดแนวทางในการส่งเสริมการให้บริการด้านนิติวิทยาศาสตร์ของภาคเอกชน ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับร่างมาตรา ๕ ที่ให้สถาบันมีหน้าที่ในการให้บริการและส่งเสริมงานด้านนิติวิทยาศาสตร์ ปัจจุบันมีหลายหน่วยงานที่ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว อาจทำให้เกิดความซ้ำซ้อนในการปฏิบัติงานได้ ร่างมาตรา ๙ ในส่วนการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ควรกำหนดหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขในการเปิดเผยข้อมูลไว้ในร่างพระราชบัญญัติแทนการใช้ข้อความว่า “ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด” และร่างมาตรา ๑๑ ในส่วนของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ควรกำหนดคุณสมบัติหรือคุณลักษณะของบุคคลที่จะได้รับการแต่งตั้งไว้ด้วยเพื่อให้เกิดความชัดเจน และควรมีคณะกรรมการที่มาจากภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมด้วย เช่น ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือผู้แทนจากสถานพยาบาลที่มีการให้บริการด้านนิติเวชศาสตร์หรือนิติวิทยาศาสตร์ เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งร่างพระราชบัญญัติฯ ให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป |
||||||||||||||||||
| 626 | ร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | ยธ | 28/04/2558 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๕๘ และให้เสนอร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
||||||||||||||||||
| 627 | รายงานความคืบหน้าการไกล่เกลี่ยชั้นบังคับคดีหนี้ครัวเรือน หนี้รายย่อย หนี้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาของกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ | ยธ | 07/04/2558 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานความคืบหน้าการไกล่เกลี่ยชั้นบังคับคดีหนี้ครัวเรือน หนี้รายย่อย หนี้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ของกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ โดยได้จัดมหกรรมการไกล่เกลี่ยร่วมกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย กยศ. บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด และธนาคารออมสิน รวม ๖ หน่วยงาน โดยมุ่งเน้นการยุติข้อพิพาทชั้นบังคับคดีด้วยความสมานฉันท์และช่วยแก้ไขปัญหาหนี้ภาคครัวเรือน ซึ่งสามารถไกล่เกลี่ยเป็นผลสำเร็จจำนวน ๒,๑๘๘ ราย คิดเป็นทุนทรัพย์จำนวน ๘๘๒,๘๘๙,๕๑๕.๘๕ บาท ๒. มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ๒.๑ กยศ. ควรพิจารณาปรับฐานข้อมูลของลูกหนี้ให้เป็นปัจจุบัน ชี้แจงรายละเอียดของเงื่อนไขของการกู้ยืมให้กับลูกหนี้อย่างชัดเจน และพิจารณาปรับปรุงระเบียบคณะกรรมการกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ว่าด้วยการไกล่เกลี่ยลูกหนี้ตามคำพิพากษาชั้นบังคับคดี พ.ศ. ๒๕๕๗ ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษาเข้าร่วมโครงการไกล่เกลี่ยชั้นบังคับคดี และให้การไกล่เกลี่ยชั้นบังคับคดีของลูกหนี้ทั้งหลายมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งให้ผู้กู้/ลูกหนี้มีความเข้าใจในสถานะของการกู้ยืมเงินจาก กยศ. ๒.๒ ให้กระทรวงการคลังพิจารณาความเหมาะสมในการแจ้งให้สถาบันการเงินต่าง ๆ ที่เป็นรัฐวิสาหกิจพิจารณานำการไกล่เกลี่ยชั้นบังคับคดีของกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม เป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับลูกหนี้ในการยุติข้อพิพาทเพื่อให้การไกล่เกลี่ยชั้นบังคับคดีครอบคลุมลูกหนี้ครัวเรือน หนี้รายย่อย และหนี้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของสถาบันการเงินต่าง ๆ ที่เป็นรัฐวิสาหกิจมากยิ่งขึ้น ๒.๓ ให้ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย ให้ความอนุเคราะห์ในการประชาสัมพันธ์โครงการการไกล่เกลี่ยชั้นบังคับคดีของกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ให้กับประชาชนที่มาติดต่อได้ทราบ เพื่อให้การประชาสัมพันธ์ครอบคลุมถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขวางขึ้น |
||||||||||||||||||
| 628 | ร่างพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. .... | ยธ | 07/04/2558 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พุทธศักราช ๒๔๗๙ เพื่อกำหนดบทบัญญัติและกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ขึ้นใหม่ เพื่อให้การบริหารงานของกรมราชทัณฑ์ การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ กระบวนการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังและการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและเกิดประสิทธิผลสูงสุด ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ๒. ให้รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการควบคุมและการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังจะต้องดำเนินการตามหลักทัณฑวิทยา หลักสิทธิมนุษยชน และหลักกฎหมาย ตลอดจนข้อกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นต่อนานาประเทศ และส่งเสริมให้ครอบครัว ชุมชน และเอกชนที่มีวัตถุประสงค์ด้านการบำบัด ฟื้นฟู พัฒนาระบบพฤตินิสัยผู้ต้องขังเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการดังกล่าวด้วย ตลอดจนมุ่งเน้นการอบรมแก้ไขพฤตินิสัยและสร้างโอกาสให้ผู้ต้องขังที่พ้นโทษแล้วกลับคืนสู่สังคมได้อย่างเป็นปกติสุข โดยไม่หวนกลับไปกระทำความผิดซ้ำอีก และข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการกำหนดองค์ประกอบของคณะอนุกรรมการตรวจเรือนจำและคณะอนุกรรมการรับเรื่องราวร้องทุกข์ การกำหนดตำแหน่งเจ้าพนักงาน การกำหนดค่าตอบแทนของเจ้าพนักงาน การกำหนดอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงาน การจำแนกและมาตรฐานเรือนจำ การทำสัญญาจ้างเอกชนเพื่อดำเนินการใด ๆ ที่เป็นภารกิจและอยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ สิทธิของผู้ต้องขัง การลดวันต้องโทษจำคุก อนามัยของผู้ต้องขัง รวมถึงวินัยและบทลงโทษผู้ต้องขัง เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งร่างพระราชบัญญัติฯ ดังกล่าวให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป |
||||||||||||||||||
| 629 | สรุปผลการเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในวันที่ 23 มีนาคม 2558 | ยธ | 07/04/2558 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านกิจการยุติธรรมและกฎหมายระหว่างกระทรวงยุติธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงยุติธรรมแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และหารือข้อราชการกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ในประเด็นด้านยาเสพติด เมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๕๘ ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
๑. ทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบและลงนามในแผนปฏิบัติการความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ไทย-เวียดนาม พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๖๑ (Plan of Action Implementing the Thailand-Viet Nam Strategic Partnership) ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการยืนยันเจตนารมณ์ร่วมของไทยและเวียดนามในการส่งเสริมและกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันอย่างครอบคลุมรอบด้าน อันนำมาซึ่งประโยชน์แก่ประชาชนของทั้งสองประเทศ รวมทั้งเพื่อส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาคและระหว่างประเทศโดยรวม ๒. ภายหลังการลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านกิจการยุติธรรมและกฎหมายระหว่างกระทรวงยุติธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงยุติธรรมแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้ดำเนินการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม แลกเปลี่ยนข้อมูลด้านกฎหมาย จัดทำสนธิสัญญาการส่งผู้ร้ายข้ามแดน และการปฏิบัติในเรื่องการโอนตัวนักโทษ ๓. ทั้งสองฝ่ายเห็นว่าปัญหายาเสพติดไม่สามารถดำเนินการได้เพียงประเทศเดียว ต้องร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ เพื่อขจัดปัญหายาเสพติด และในความร่วมมือสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่แหล่งผลิตสามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการทำงานร่วมกับลาว เมียนมา เป็นอย่างดี อีกทั้งฝ่ายไทยยินดีที่จะสนับสนุนงบประมาณให้แก่ประเทศเพื่อนบ้านเพื่อพัฒนาศักยภาพในการปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ นอกจากนี้ ฝ่ายไทยขอความร่วมมือฝ่ายเวียดนามในการควบคุมและสกัดกั้นสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ โดยฝ่ายไทยยินดีที่จะจัดศึกษาดูงานเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับฝ่ายเวียดนาม
|
||||||||||||||||||
| 630 | ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งราชอาณาจักรไทยกับสำนักงานกลางเพื่อการควบคุมยาเสพติด แห่งสหพันธรัฐรัสเซีย ว่าด้วยความร่วมมือในการต่อต้านการลักลอบค้ายาเสพติดวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ และการใช้ยาเสพติดในทางที่ผิด เสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ และอนุมัติให้เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เป็นผู้ลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ฝ่ายไทยรวมทั้งขออนุมัติให้มีการแก้ไขในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ หากมีความจำเป็นในภายหน้า | ยธ | 07/04/2558 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งราชอาณาจักรไทยกับสำนักงานกลางเพื่อการควบคุมยาเสพติดแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย ว่าด้วยความร่วมมือในการต่อต้านการลักลอบค้ายาเสพติด วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ และการใช้ยาเสพติดในทางที่ผิด มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการกำหนดกรอบความร่วมมือในภาพกว้าง ด้านการปราบปรามยาเสพติดและด้านวิชาการที่เกี่ยวข้อง มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศในการมีความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ๒. อนุมัติให้เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในฐานะหัวหน้าหน่วยงานกลางด้านยาเสพติดของไทยเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ๓. อนุมัติให้กระทรวงยุติธรรม โดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดหารือร่วมกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาปรับแก้ไขบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ หากมีความจำเป็น โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบอีกครั้ง
|
||||||||||||||||||
| 631 | องค์ประกอบคณะผู้แทนไทยในการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา สมัยที่ 13 | ยธ | 27/03/2558 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบองค์ประกอบคณะผู้แทนไทยในการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา สมัยที่ ๑๓ (Thirteenth United Nations Congress on Crime Prevention and Criminal Justice) ระหว่างวันที่ ๑๒-๑๙ เมษายน ๒๕๕๘ ณ กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ โดยมีพลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงเป็นองค์ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ พร้อมด้วยผู้แทนจากกระทรวงยุติธรรม กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงาน ป.ป.ช. กระทรวงวัฒนธรรม สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย และวังสุโขทัย รวม ๘๓ ราย ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||
| 632 | รายงานผลการสัมมนาเพื่อส่งเสริมการปฏิบัติต่อผู้กระทำผิดในชุมชนในภูมิภาคอาเซียน | ยธ | 17/03/2558 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการสัมมนาเพื่อส่งเสริมการปฏิบัติต่อผู้กระทำผิดในชุมชนในภูมิภาคอาเซียน ระหว่างวันที่ ๒๔-๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ณ กรุงเทพมหานคร ของกระทรวงยุติธรรม สรุปได้ ดังนี้
๑. กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรมร่วมมือกับสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย สถาบันการป้องกันอาชญากรรมและการปฏิบัติต่อผู้กระทำผิดของสหประชาชาติ ภาคพื้นเอเชียและตะวันออกไกล และองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น จัดการสัมมนาเพื่อส่งเสริมการปฏิบัติต่อผู้กระทำผิดในชุมชนในภูมิภาคอาเซียนขึ้น เพื่อเป็นเวทีวิชาการในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ปัญหาและความท้าทายที่พบในการปฏิบัติต่อผู้กระทำผิดในชุมชนในภูมิภาคอาเซียน ตลอดจนเพื่อสนับสนุนให้ประเทศสมาชิกอาเซียนที่ยังไม่มีระบบการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในชุมชนได้เริ่มการพัฒนาระบบดังกล่าวในประเทศของตนเอง ๒. การสัมมนาในครั้งนี้ก่อให้เกิดประโยชน์ในระดับอาเซียน คือ สามารถนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดในการวางระบบและการพัฒนางานในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม กัมพูชา ลาว และเมียนมา และมีแนวทางการพัฒนาบุคลากรด้านงานคุมประพฤติและพักการลงโทษในอาเซียนอย่างต่อเนื่อง สำหรับประโยชน์ที่ได้กับประเทศไทย คือ ส่งเสริมความร่วมมือในการส่งตัวผู้กระทำผิดกลุ่มประเทศอาเซียนกลับภูมิลำเนาเพื่อรับการแก้ไขฟื้นฟูในอนาคต สร้างบทบาทการเป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียนด้านการปฏิบัติต่อผู้กระทำผิดในชุมชน และเปิดโอกาสให้บุคลากรของไทยสามารถเรียนรู้งานและประสบการณ์จากประเทศอื่น ๆ ได้
|
||||||||||||||||||
| 633 | สรุปผลการเยือนประเทศญี่ปุ่นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระหว่างวันที่ 25 - 28 กุมภาพันธ์ 2558 | ยธ | 17/03/2558 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
๑. สรุปผลการเยือนประเทศญี่ปุ่นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ตามโครงการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและคณะเยือนหน่วยงานด้านพัฒนาพฤตินิสัยและแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำความผิด ณ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ ๒๕-๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและคณะได้เยี่ยมคารวะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมญี่ปุ่น ณ กระทรวงยุติธรรมญี่ปุ่น และเข้าศึกษาดูงาน ณ สำนักงานคุมประพฤติโตเกียว ศูนย์สนับสนุนอาสาสมัครคุมประพฤติ เขตเซตากายะ บ้านกึ่งวิถีโคชินไค สถาบัน UNAFEI และเรือนจำฟูชู โดยได้เรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมของประเทศญี่ปุ่นที่สามารถตอบสนองในด้านการควบคุมป้องกัน ปราบปรามอาชญากรรม และการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดให้กลับสู่สังคม และอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างเป็นปกติสุข โดยไม่หวนกลับไปกระทำความผิดซ้ำอีกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีการตระหนักถึงการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญด้วยการเน้นการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนทั้งหลายแบบเสมอภาคและสะดวกรวดเร็ว ๒. กระทรวงยุติธรรมจะผลักดันนโยบายเชิงรุกในการปรับโครงสร้างงานด้านการพัฒนาพฤตินิสัยทั้งระบบ โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของกรอบแนวคิดเชิงปรัชญาใหม่ที่มุ่งเน้นการใช้มาตรการทางเลือกแทนการจำคุก การคุมประพฤติและฟื้นฟูผู้กระทำผิดเพื่อสามารถปรับตัวกลับคืนสู่สังคม และการลดอัตราการกระทำผิดซ้ำ ซึ่งจะมีแนวทางในการดำเนินงาน ประกอบด้วย ๒.๑ ปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องของกรมราชทัณฑ์ (เริ่มดำเนินการแล้ว) กรมคุมประพฤติ และกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนที่เน้นรูปแบบการฟื้นฟูและการคุมประพฤติเพื่อติดตามให้ความช่วยเหลือผู้กระทำผิดภายหลังการพ้นโทษ ๒.๒ ผลักดันการบูรณาการเชิงรุกระหว่างกระทรวงยุติธรรมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในกระบวนการคุมประพฤติและฟื้นฟูผู้กระทำผิด ๒.๓ พัฒนากรอบการหารือระหว่างกระทรวงยุติธรรมกับส่วนราชการฝ่ายตุลาการเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการทบทวน “นโยบายกำหนดโทษ” สำหรับผู้กระทำผิด (โดยเฉพาะคดียาเสพติด) และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ๒.๔ มอบหมายกรมราชทัณฑ์จัดทำหลักสูตรผู้บริหารด้านการฟื้นฟูผู้กระทำผิด (Executive Course on Rehabilitation) เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่ในระดับบริหารให้มุ่งเน้นแนวคิดในการใช้มาตรการทางเลือกแทนการจำคุก การคุมประพฤติ และฟื้นฟูผู้กระทำผิด และการลดอัตราการกระทำผิดซ้ำ ๒.๕ รณรงค์ผ่านสื่อในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างความตระหนักของสังคมในอันที่จะปรับทัศนคติและให้โอกาสกับผู้พ้นโทษ/ผู้กระทำผิดให้กลับเข้าสู่สังคมได้อย่างปกติสุข และสนับสนุนนโยบายคุมประพฤติ รวมทั้งส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคม และภาคเอกชนในบริบทนี้ บนหลักการ “ความรับผิดชอบต่อสังคม” (corporate social responsibility : CSR)
|
||||||||||||||||||
| 634 | ขอรับการสนับสนุนงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเบิกจ่ายค่าปรับปรุงและซ่อมแซมบ้านพักข้าราชการ อาคารที่ทำการ และสิ่งก่อสร้างประกอบของกรมราชทัณฑ์และกรมพินิจและคุ้มครองเด็ก และเยาวชน | ยธ | 17/03/2558 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติในหลักการให้กระทรวงยุติธรรมเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่กรมบัญชีกางอนุมัติให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีได้ถึงวันทำการสุดท้ายของเดือนมีนาคม ๒๕๕๘ แล้ว จำนวน ๑๒๖,๒๐๗,๘๗๒ บาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้ ๑.๑ กรมราชทัณฑ์ จำนวน ๘๘,๓๓๕,๒๗๒ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมผู้ต้องขังในเรือนจำและสิ่งเกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติงาน ๑.๒ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จำนวน ๓๗,๘๗๒,๖๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินโครงการปรับปรุงอาคารที่ทำการและสิ่งก่อสร้างประกอบ ทั้งนี้ ให้กรมราชทัณฑ์และกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณตามนัยระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยตรงต่อไป ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐที่เห็นควรเร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ และให้เป็นไปตามระเบียบของทางราชการด้วยความโปร่งใส ถูกต้อง และพร้อมรับการตรวจสอบจากหน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||
| 635 | ร่างพระราชบัญญัติความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 10/03/2558 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขบทบัญญัติในพระราชบัญญัติความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา พ.ศ. ๒๕๓๕ ให้สอดคล้องกับอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ. ๒๐๐๓ และสนธิสัญญาว่าด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในเรื่องทางอาญาของภูมิภาคอาเซียน ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
||||||||||||||||||
| 636 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมความผิดเกี่ยวกับเจ้าพนักงานของรัฐบาลต่างประเทศและเจ้าพนักงานขององค์การระหว่างประเทศ และหลักเกณฑ์เกี่ยวกับอายุความ เพื่อให้สอดคล้องตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ. 2003) | ยธ | 10/03/2558 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอขอถอนร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมความผิดเกี่ยวกับเจ้าพนักงานของรัฐบาลต่างประเทศและเจ้าพนักงานขององค์การระหว่างประเทศ และหลักเกณฑ์เกี่ยวกับอายุความ เพื่อให้สอดคล้องตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ. ๒๐๐๓) เพื่อนำกลับไปพิจารณาทบทวนอีกครั้งหนึ่ง
|
||||||||||||||||||
| 637 | แผนยุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด พ.ศ. 2558 - 2562 | ยธ | 10/03/2558 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบแผนยุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๒ เพื่อใช้เป็นกรอบทิศทางการดำเนินงาน เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการประสานการปฏิบัติ จัดสรรทรัพยากร และติดตามประเมินผลของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยแผนยุทธศาสตร์ฯ ประกอบด้วย ๘ ยุทธศาสตร์หลัก คือ (๑) การป้องกันกลุ่มผู้มีโอกาสเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด (๒) การควบคุมตัวยาและผู้ค้ายาเสพติด (๓) การแก้ไขปัญหาผู้เสพผู้ติดยาเสพติด (๔) ความร่วมมือระหว่างประเทศ (๕) การสร้างและพัฒนาระบบรองรับการคืนคนดีให้สังคม (๖) การสร้างสภาพแวดล้อมเพื่อป้องกันปัญหายาเสพติด (๗) การมีส่วนร่วมภาคประชาชน และ (๘) การบริหารจัดการอย่างบูรณาการ ๑.๒ ให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดประจำปีให้สอดคล้องรองรับกับแผนยุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๒ ตั้งแต่ปีงบประมาณ ๒๕๕๘ เป็นต้นไป ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมบูรณาการการดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๒ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และให้จัดทำตารางแสดงแผนการดำเนินการในความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานเสนอนายกรัฐมนตรีทราบต่อไปด้วย ๓. มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) กำกับดูแลให้กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานด้านความมั่นคงต่าง ๆ ให้ความสำคัญในเรื่องการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพิเศษด้วย |
||||||||||||||||||
| 638 | รายงานความคืบหน้าการดำเนินการของกรมบังคับคดีเรื่องการประเมินผลจัดอันดับความยาก - ง่ายในการประกอบธุรกิจของธนาคารโลก (Doing Business 2016) | ยธ | 10/03/2558 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินการของกรมบังคับคดี เรื่อง การประเมินผลจัดอันดับความยาก-ง่าย ในการประกอบธุรกิจของธนาคารโลก (Doing Business 2016) ในส่วนที่เกี่ยวกับด้านการบังคับให้เป็นไปตามข้อตกลง (Enforcing Contract) และด้านการแก้ไขปัญหาการล้มละลาย (Resolving Insolvency) และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาดำเนินการส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||
| 639 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา (จำนวน 5 คน 1. นายดาวิน นารูลา ฯลฯ) | ยธ | 03/03/2558 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา จำนวน ๕ คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓ มีนาคม ๒๕๕๘) ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
๑. นายดาวิน นารูลา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์ ๒. นางเพทาย ปทุมจันทรัตน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านสังคมสงเคราะห์ ๓. พันตำรวจเอก ณรัชต์ เศวตนันทน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ๔. นางสาวศุภมาศ พยัฆวิเชียร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. นายไพฑูรย์ สว่างกมล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
||||||||||||||||||
| 640 | ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านกิจการยุติธรรมและกฎหมายระหว่างกระทรวงยุติธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงยุติธรรม แห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม | ยธ | 03/03/2558 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านกิจการยุติธรรมและกฎหมายระหว่างกระทรวงยุติธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงยุติธรรมแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (MEMORANDUM OF UNDERSTANDING ON JUSTICE AND LEGAL AFFAIRS COOPERATION BETWEEN THE MINISTER OF JUSTICE OF THE KINGDOM OF THALAND AND THE MINISTRY OF JUSTICE OF THE SOCIALIST REPUBLIC OF VIET NAM) มีสาระสำคัญเป็นการส่งเสริมความร่วมมือในสาขากิจการยุติธรรมและกฎหมายระหว่างกระทรวงยุติธรรมของทั้งสองประเทศ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||
.....
