ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 35 จากทั้งหมด 97 หน้า แสดงรายการที่ 681 - 700 จากข้อมูลทั้งหมด 1930 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
681 | การแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง กระทรวงยุติธรรม | ยธ | 17/06/2557 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติเห็นว่า
๑. เพื่อให้การพัฒนางานด้านนิติวิทยาศาสตร์และแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของกระทรวงยุติธรรมมีความเหมาะสมยิ่งขึ้น ตลอดจนสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการกำหนดนโยบายระดับชาติ รวมทั้งเป็นการปรับย้ายหมุนเวียนบุคลากรภายในของกระทรวงยุติธรรม จึงมีมติ ๑.๑ ให้ พันโท เอนก ยมจินดา ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มาปฏิบัติหน้าที่ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม โดยให้รับเงินเดือนทางสังกัดเดิมไปพลางก่อน ๑.๒ ให้ คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรมมาปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โดยให้รับเงินเดือนทางสังกัดเดิมไปพลางก่อน ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติมีมติ (๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๗) เป็นต้นไป ๒. ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๗ อนุมัติโอนนายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งปลัดกระทรวง (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ (นักบริหารระดับสูง) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป และอนุมัติแต่งตั้งนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองปลัดกระทรวง (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม เป็นผู้รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงยุติธรรม เมื่อนายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ พ้นจากตำแหน่งปลัดกระทรวงแล้วนั้น โดยที่การสับเปลี่ยนหน้าที่ ย้าย หรือโอนข้าราชการพลเรือนสามัญ (นักบริหารระดับสูง) ที่ปฏิบัติหน้าที่เดียวกันครบ ๔ ปีแล้ว ให้ไปปฏิบัติหน้าที่อื่นจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน ๖๐ วัน นับแต่วันครบกำหนด ซึ่งกรณีของนายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ จะครบกำหนดในวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติราชการของกระทรวงยุติธรรมเป็นไปอย่างต่อเนื่อง จึงมีมติ ๒.๑ ให้นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ไปช่วยราชการในตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ (นักบริหารระดับสูง) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ๒.๒ ให้นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวง (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม เป็นผู้รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่วันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๗
|
|||||||||||||||||||||||||||
682 | การโอนข้าราชการ (นายธงทอง จันทรางศุ) | ยธ | 06/05/2557 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงยุติธรรมรับโอนนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี มาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรม (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้มีผลดำเนินการต่อไปได้เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||
683 | ขอต่อเวลาการดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงาน (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานกิจการยุติธรรม (กระทรวงยุติธรรม) (นายวิทยา สุริยะวงค์) | ยธ | 01/04/2557 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของนายวิทยา สุริยะวงค์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม ซึ่งดำรงตำแหน่งดังกล่าวเมื่อวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๒ ครบกำหนด ๔ ปี ในวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๖ ต่อไปอีก ๑ ปี ครั้งที่ ๑ ตั้งแต่วันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ทั้งนี้ ให้มีผลดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งให้ความเห็นชอบตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๑๘๑ (๑) แล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||
684 | งบการเงินของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด | ยธ | 25/03/2557 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๔ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้รับรองแล้ว โดย ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๔ กองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดมีสินทรัพย์ ๕๔๔,๔๐๕,๗๕๒.๖๐ บาท และหนี้สิน ๓๑,๒๐๒,๐๑๑.๑๖ บาท รวมสินทรัพย์ ๕๑๓,๒๐๓,๗๔๑.๔๔ บาท ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
685 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด อีกตำแหน่ง (พลตำรวจเอก พงศพัศ พงษ์เจริญ) | ยธ | 11/03/2557 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งพลตำรวจเอก พงศพัศ พงษ์เจริญ ข้าราชการตำรวจ ตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงยุติธรรม อีกตำแหน่งหนึ่ง เป็นเวลา ๑ ปี ตั้งแต่วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๗ เป็นต้นไป ตามมาตรา ๑๑ (๕) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ขัดข้อง โดยให้ยังคงดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อยู่ต่อไป และให้นับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งต่อเนื่อง ส่วนกรณีเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และสิทธิประโยชน์อันพึงมีพึงได้ให้คงได้รับตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
686 | การจัดทำความตกลงประเทศเจ้าภาพสำหรับการประชุมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญนานาชาติโดยสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน) ร่วมกับสำนักงานสหประชาชาติว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรม (UNODC) | ยธ | 28/01/2557 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการจัดทำความตกลงให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพสำหรับการประชุมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญนานาชาติในเรื่องเกี่ยวกับการยุติความรุนแรงต่อเด็ก โดยสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน) (Thailand Institute of Justice : สถาบัน TIJ) ร่วมกับสำนักงานสหประชาชาติว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรม (UNODC) ระหว่างวันที่ ๑๘-๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ โดยการจัดทำความตกลงสำหรับจัดการประชุมดังกล่าวจะใช้วิธีการแลกเปลี่ยนหนังสือระหว่างกัน (Exchange of Letters) ระหว่างรัฐบาลไทยกับสหประชาชาติ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
687 | การจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายพัฒนากฎหมายเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนและเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน | ยธ | 03/12/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติการจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายพัฒนากฎหมายเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนและเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานกรรมการ ๑.๒ ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาตินำกรอบแนวทางการพัฒนากฎหมาย ๓ ด้าน ที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ได้แก่ กรอบที่ ๑ การพัฒนากฎหมายที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานในการประกอบธุรกิจเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันอันเป็นการทั่วไป กรอบที่ ๒ การพัฒนากฎหมายเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของกลุ่มธุรกิจ/อุตสาหกรรมเป้าหมาย และกรอบที่ ๓ การพัฒนาองคาพยพ/ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย ไปใช้เป็นแนวทางการปฏิรูปกฎหมายในกรอบยุทธศาสตร์ประเทศ (Country Strategy) ๑.๓ ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาจัดช่องทางพิเศษสำหรับการพิจารณาและผลักดันร่างกฎหมายทั้งในกรอบของรัฐบาลและกรอบของรัฐสภา โดยในกรอบของรัฐบาลควรจัดช่องทางพิเศษสำหรับร่างกฎหมายที่จะได้รับการตรวจพิจารณาจากคณะกรรมการกฤษฎีกา และขอความร่วมมือให้มีการพิจารณาโดยคณะพิเศษของคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อให้ร่างกฎหมายผ่านไปตามวัตถุประสงค์และทันตามระยะเวลาที่กำหนด และพิจารณาแนวทางร่วมมือเพื่อให้รัฐสภากำหนดเป็นวาระเร่งด่วน และจัดกลไกเฉพาะในการดูแลให้ความเห็นชอบต่อร่างกฎหมายตามแผนงานโดยเร็ว ๒. ให้ปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการนโยบายพัฒนากฎหมายเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนและเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน โดยเพิ่มอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เป็นกรรมการ ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และกำหนดให้มีเฉพาะหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องที่มีอยู่ในปัจจุบัน ตามความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. |
|||||||||||||||||||||||||||
688 | การแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคดีพิเศษ | ยธ | 03/12/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคดีพิเศษแทนกรรมการที่พ้นจากตำแหน่ง จำนวน ๒ คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓ ธันวาคม ๒๕๕๖) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
๑. ศาสตราจารย์ (พิเศษ) จุลสิงห์ วสันตสิงห์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงินการธนาคาร ๒. นายอุดม มั่งมีดี ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายและการพิจารณาพิพากษาคดี
|
|||||||||||||||||||||||||||
689 | รายงานผลการปฏิบัติงานของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 | ยธ | 25/11/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ประกอบด้วย รายงานผลการปฏิบัติราชการตามอำนาจหน้าที่ และปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะในการปฏิบัติงานของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในฐานะบังคับบัญชาสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเสนอ ๒. เห็นชอบให้นำความเห็นของสำนักงาน ก.พ. และสำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นควรเทียบเคียงการกำหนดเงินเพิ่มพิเศษอื่น ๆ ที่มีลักษณะงานใกล้เคียงกัน เพื่อให้เกิดความเสมอภาคและเป็นธรรมในภาพรวมของระบบราชการ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินควรมีการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มพูนความรู้ ทักษะในการปฏิบัติงานโดยเฉพาะด้านการกำกับ ตรวจสอบ และวิเคราะห์ธุรกรรมทางการเงิน เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานตามกฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี และให้นำรายงานผลการปฏิบัติงานของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ พร้อมทั้งข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีดังกล่าวเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
690 | การกำหนดอัตราเงินเดือนและประโยชน์ตอบแทนอื่นของผู้อำนวยการสถาบันอนุญาโตตุลาการ | ยธ | 29/10/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๒ (ฝ่ายสังคมและกฎหมาย) ในการประชุมครั้งที่ ๘/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๕๖ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา) ประธานกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๒ (ฝ่ายสังคมและกฎหมาย) เสนอ ดังนี้
๑. จัดให้สถาบันอนุญาโตตุลาการอยู่ในกลุ่มองค์การมหาชน กลุ่มที่ ๒ กลุ่มบริการที่ใช้เทคนิควิชาการเฉพาะด้านหรือสหวิทยาการ ซึ่งกำหนดอัตราเงินเดือนผู้อำนวยการองค์การมหาชน ขั้นต่ำและขั้นสูง อยู่ระหว่าง ๑๐๐,๐๐๐-๒๕๐,๐๐๐ บาท ประโยชน์ตอบแทน และค่าตอบแทนพิเศษให้เป็นไปตามกฎหมายและหลักเกณฑ์ที่สำนักงาน ก.พ.ร. กำหนด ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๔๗ (เรื่อง การปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราเงินเดือนฯ หลักเกณฑ์การกำหนดเบี้ยประชุมฯ และการพัฒนาการดำเนินงานและการประเมินผลองค์การมหาชน) ๒. ให้สถาบันอนุญาโตตุลาการรับข้อสังเกตของสำนักงาน ก.พ.ร. เมื่อสถาบันอนุญาโตตุลาการมีผลการปฏิบัติงานครบ ๑ ปี สมควรให้เข้าสู่ระบบการประเมินผลตามกรอบการประเมินผลหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งตามพระราชบัญญัติเฉพาะตามที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบเมื่อวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๔๗ (เรื่อง การปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราเงินเดือนฯ หลักเกณฑ์การกำหนดเบี้ยประชุมฯ และการพัฒนาการดำเนินงานและการประเมินผลองค์การมหาชน) และเมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๕๒ (เรื่อง กรอบการประเมินผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติเฉพาะ) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
691 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม รวม 4 ฉบับ | ยธ | 08/10/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม รวม ๔ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญ แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๕ เพื่อแก้ไขชื่อ “คณะกรรมการการยุติธรรมแห่งชาติ” เป็น “คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ” กำหนดให้มีกลุ่มตรวจสอบภายในและกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร ในสำนักงานกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม และปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของสำนักงานเลขานุการกรม ๒. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงการแบ่งส่วนราชการกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม ๓. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงการแบ่งส่วนราชการกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ๔. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๕ เพื่อจัดตั้งกองบริหารทรัพยากรบุคคลและกำหนดให้มีกลุ่มตรวจสอบภายในและกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร รวมทั้งแก้ไขเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของสำนักงานเลขานุการกรมในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม |
|||||||||||||||||||||||||||
692 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น | ยธ | 01/10/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรมราชทัณฑ์ใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่กระทรวงการคลังได้อนุมัติขยายเวลาการกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีแล้ว จำนวน ๔๙๗,๔๗๑,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายรายการค่าวัสดุอาหาร ในเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนมิถุนายน ๒๕๕๖ ทั้งนี้ ให้กรมราชทัณฑ์ขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณโดยตรงต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
693 | รายงานประจำปี พ.ศ. 2555 คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ | ยธ | 24/09/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๕ คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ มีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. ส่วนที่ ๑ รวบรวมเนื้อหาเกี่ยวกับโครงสร้าง อำนาจหน้าที่ และองค์ประกอบของคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ แผนการดำเนินงานของคณะกรรมการและฝ่ายเลขานุการ และโครงสร้างของสำนักงานกิจการยุติธรรมในฐานะเลขานุการ ๒. ส่วนที่ ๒ รวบรวมผลงานสำคัญของคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติและคณะอนุกรรมการฯ จำแนกเป็น ๕ ด้าน ดังนี้ ๒.๑ การจัดทำแผนและการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การบริหารงานยุติธรรม ๒.๒ การส่งเสริมและประสานความร่วมมือเพื่อพัฒนาระบบการบริหารงานยุติธรรม ๒.๓ การศึกษา วิจัยและพัฒนากฎหมายและระบบงานยุติธรรม ๒.๔ การประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้สู่สังคม ๒.๕ การพัฒนาบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม ๓. ส่วนที่ ๓ รวบรวมเนื้อหาเกี่ยวกับข้อมูลสถิติ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ และรายละเอียดของคณะอนุกรรมการฯ
|
|||||||||||||||||||||||||||
694 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 17/09/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ ในส่วนของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จากเดิมที่กำหนดให้มีจำนวนไม่เกิน ๑๒ คน เป็นให้มีจำนวนไม่เกิน ๑๕ คน และให้ขยายระยะเวลาการใช้บังคับระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรม พ.ศ. ๒๕๕๔ อีก ๒ ปี จากเดิมที่กำหนดระยะเวลาใช้บังคับไว้ ๒ ปี ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ ซึ่งจะสิ้นสุดการใช้บังคับในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาโดยด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. อนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๑๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติในส่วนที่จะต้องดำเนินการในปี ๒๕๕๗ โดยให้สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรมขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณโดยตรง สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะต้องใช้ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความเหมาะสมและจำเป็นต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||||||||
695 | ข้อเสนอแนะ "แนวทางที่จะสร้างความปรองดองของคนในชาติ" | ยธ | 17/09/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อเสนอแนะ “แนวทางที่จะสร้างความปรองดองของคนในชาติ” ของศาสตราจารย์ อุกฤษ มงคลนาวิน ประธานกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติเสนอ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาดำเนินการตามข้อเสนอแนะฯ ดังนี้
๑. หลักนิติธรรม การออกกฎหมาย การใช้การบังคับใช้กฎหมาย การตีความกฎหมายและการดำเนินการในกระบวนการยุติธรรมต้องอยู่ภายใต้หลักนิติธรรม หรือกฎหมายต้องไม่ขัดต่อหลักนิติรัฐหรือนิติธรรม หากกฎหมายใดขัดต่อหลักดังกล่าวจำเป็นที่จะต้องยกเลิกและแก้ไขปรับปรุงให้เป็นไปตามหลักนิติธรรม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระทรวงยุติธรรม และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๒. หลักความยุติธรรม กระบวนการยุติธรรมหรือการบังคับใช้กฎหมายตามหลักนิติธรรมที่ให้ความเป็นธรรมอย่างเท่าเทียม ซึ่งสังคมไทยมีปัญหาที่สำคัญ คือ ปัญหาความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมและปัญหาประสิทธิภาพของกระบวนการยุติธรรม โดยมีสาเหตุจากระบบกฎหมายไทยนำโทษทางอาญามาใช้เกินความจำเป็น การเน้นวิธีการลงโทษทางอาญาด้วยการจำคุก และปัญหาจากการกำหนดโทษปรับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระทรวงยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ๓. หลักเมตตาธรรม เป็นหลักการอีกประการหนึ่งที่จะช่วยสร้างความสามัคคีปรองดองของคนในชาติได้ โดยเฉพาะหากศาลยุติธรรมหรือหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมซึ่งเป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญยิ่งในการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน จะได้ทบทวนแนวทางในการบังคับใช้กฎหมายด้วยการยึดมั่นในหลักความยุติธรรม ความเสมอภาค และคำนึงถึงสิทธิผู้ต้องหาและจำเลยในคดีอาญา โดยเฉพาะการใช้ดุลพินิจเพื่อปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจำเลยที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดโดยเฉพาะการกระทำความผิดซึ่งไม่ได้เป็นอาชญากรรมแต่เกิดจากความคิดเห็นทางการเมืองแตกต่างกัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระทรวงยุติธรรม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
|
|||||||||||||||||||||||||||
696 | สรุปผลการประชุมระดับรัฐมนตรีภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจ 7 ฝ่ายฯ | ยธ | 10/09/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมระดับรัฐมนตรีภายใต้กรอบความร่วมมือ ๗ ฝ่าย เพื่อการควบคุมยาเสพติดในอนุภูมิภาคระหว่าง ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ราชอาณาจักรไทย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และสำนักงานยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime : UNODC) ระหว่างวันที่ ๗-๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ณ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยมีผลการประชุมที่สำคัญสรุปได้ ดังนี้
๑. ที่ประชุมระดับรัฐมนตรีได้ให้การรับรองผลการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสซึ่งได้จัดขึ้นก่อนหน้าการประชุมระดับรัฐมนตรี (ระหว่างวันที่ ๖-๗ พฤษภาคม ๒๕๕๖) ณ กรุงย่างกุ้ง โดยมีผลการประชุมที่สำคัญ ได้แก่ ๑.๑ ที่ประชุมรับทราบสถานการณ์ยาเสพติดที่เปลี่ยนแปลงในประเทศภาคีบันทึกความเข้าใจ ๑.๒ ที่ประชุมรับทราบการดำเนินงานภายใต้แผนปฏิบัติการในอนุภูมิภาคในสาขาการลดอุปสงค์ยาเสพติด ยาเสพติดและเอชไอวี/เอดส์ การพัฒนาทางเลือกที่ยั่งยืน การปราบปรามยาเสพติด และความร่วมมือระหว่างประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม โดยให้ขยายระยะเวลาของแผนปฏิบัติการในอนุภูมิภาค ฉบับที่ ๘ ให้ครอบคลุมถึงปี พ.ศ. ๒๕๕๗ และในระหว่างนี้ให้มีการพิจารณาทบทวนและปรับแผนปฏิบัติการฯ ฉบับที่ ๘ ให้สอดคล้องกับการดำเนินงานและสภาพปัญหายาเสพติดในปัจจุบันและจัดทำเป็นแผนปฏิบัติการในอนุภูมิภาคเพื่อการควบคุมยาเสพติดฉบับที่ ๙ เพื่อเสนอต่อที่ประชุมระดับรัฐมนตรีครั้งต่อไปในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อให้ความเห็นชอบ ๑.๓ ที่ประชุมเห็นชอบกับการพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนให้ยังคงดำเนินการต่อไปและให้จัดทำโครงการพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนขึ้นใหม่เพื่อทดแทนโครงการเดิมคือ โครงการ H15 ซึ่งจะสิ้นสุดการดำเนินงานในปี พ.ศ. ๒๕๕๖ และพัฒนารูปแบบการนำเสนอเพื่อดึงดูดความสนใจของประเทศผู้ให้ ๑.๔ ที่ประชุมได้หารือถึงอนาคตของความร่วมมือในกรอบบันทึกความเข้าใจ ๗ ฝ่ายฯ และแผนปฏิบัติการในอนุภูมิภาคว่าด้วยการควบคุมยาเสพติด โดย UNODC เสนอให้มีการเชื่อมโยงแผนงานความร่วมมือในระดับภูมิภาคของ UNODC (UNODC Regional Programme) กับแผนปฏิบัติการในอนุภูมิภาคว่าด้วยการควบคุมยาเสพติด โดยจะร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จัดการประชุมหารือเพื่อยกร่างแผนงานความร่วมมือดังกล่าวในเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๖ ณ กรุงเทพมหานคร ๑.๕ ที่ประชุมเห็นชอบให้เสนอร่างปฏิญญาเนปิดอว์ที่ได้มีการปรับแก้ไขในบางประเด็นเพื่อให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้นแต่ไม่กระทบเนื้อหาของร่างเดิมต่อที่ประชุมระดับรัฐมนตรีเพื่อให้มีการลงนามเพื่อเป็นการยืนยันเจตนารมณ์ที่จะดำเนินความร่วมมือร่วมกันในกรอบบันทึกความเข้าใจ ๗ ฝ่ายฯ และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ ๒๐ ปีของความร่วมมือในกรอบบันทึกความเข้าใจ ๗ ฝ่ายฯ ๑.๖ ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองความร่วมมือครบรอบ ๒๐ ปีของความร่วมมือในกรอบบันทึกความเข้าใจ ๗ ฝ่ายฯ ในลักษณะของการจัดกิจกรรมพิเศษคู่ขนาน (Side Event) ในระหว่างการประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติด สมัยที่ ๕๗ ในเดือนมีนาคม ๒๕๕๗ ๑.๗ ประเทศไทยเสนอให้มีการพัฒนาระบบการตรวจพิสูจน์คุณลักษณะสารเสพติดประเภท ATS เพื่อค้นหาแหล่งที่มาของสารเสพติด การพัฒนาหลักสูตรการปราบปรามยาเสพติดทางคอมพิวเตอร์ การสร้างความสอดคล้องทางด้านกฎหมายระหว่างประเทศ การสัมมนาระหว่างประเทศเพื่อพัฒนากระบวนการยุติธรรมอย่างเป็นระบบ การเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านการพัฒนาทางเลือก และการจัดการสัมมนาด้านการพัฒนาทางเลือก ๑.๘ สาธารณรัฐประชาชนจีนรับที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสครั้งต่อไปในปี ค.ศ. ๒๐๑๔ (พ.ศ. ๒๕๕๗) ๒. ที่ประชุมระดับรัฐมนตรีได้ให้การรับรองร่างแถลงการณ์เนปิดอว์ ซึ่งมีเนื้อหายืนยันเจตนารมณ์ของการร่วมมือกันแก้ไขปัญหายาเสพติดในอนุภูมิภาคภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจ ๗ ฝ่ายฯ และแผนปฏิบัติการในอนุภูมิภาคเพื่อการควบคุมยาเสพติด ฉบับที่ ๘ ซึ่งได้ขยายระยะเวลาให้ครอบคลุม ปี ค.ศ. ๒๐๑๔ (พ.ศ. ๒๕๕๗) โดยจะครอบคลุมการดำเนินงานใน ๕ สาขา ได้แก่ การปราบปรามยาเสพติด การลดอุปสงค์ยาเสพติดและการบำบัดรักษา การป้องกันยาเสพติดและเอชไอวีที่เป็นผลจากการใช้ยาเสพติด การพัฒนาทางเลือกที่ยั่งยืน การเสริมสร้างความร่วมมือทางด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมระหว่างประเทศ ๓. สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีครั้งต่อไปในปี ค.ศ. ๒๐๑๕ (พ.ศ. ๒๕๕๘)
|
|||||||||||||||||||||||||||
697 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการลงทัณฑ์แก่เด็กและเยาวชน พ.ศ. .... | ยธ | 10/09/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการลงทัณฑ์แก่เด็กและเยาวชน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการในการลงทัณฑ์แก่เด็กและเยาวชน ที่ละเมิดกฎหมาย ประพฤติชั่ว หรือกระทำผิดวินัย ที่อยู่ในความควบคุมของสถานพินิจ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
698 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น | ยธ | 10/09/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๕๔,๓๕๗,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าตอบแทนผู้เสียหาย ค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญาเฉพาะรายการค่าใช้จ่ายที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔ ซึ่งมีการแจ้งคำวินิจฉัยและมีผู้มาแสดงตนเพื่อขอรับเงินตามสิทธิแล้ว ณ วันที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๖ จำนวน ๑,๐๘๐ ราย สำหรับค่าใช้จ่ายรายการดังกล่าวที่จะเกิดขึ้นภายหลังจากวันที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ตลอดจนค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องนั้น ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ที่สำนักงบประมาณได้เสนอตั้งงบประมาณรองรับไว้แล้ว จำนวน ๒๕๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
699 | ขอต่อเวลาการดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหารระดับสูง) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (กระทรวงยุติธรรม) (นายธาริต เพ็งดิษฐ์) | ยธ | 10/09/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งดำรงตำแหน่งดังกล่าวเมื่อวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๒ จะครบกำหนด ๔ ปี ในวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๖ ต่อไปอีก ๑ ปี (ครั้งที่ ๑) ตั้งแต่วันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๗ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
700 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (พันตำรวจเอก ประเวศน์ มูลประมุข , พันตำรวจโท พงษ์ธร ธัญญสิริ) | ยธ | 27/08/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงยุติธรรม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
๑. พันตำรวจเอก ประเวศน์ มูลประมุข ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ๒. พันตำรวจโท พงษ์ธร ธัญญสิริ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม สำนักงานปลัดกระทรวง
|
.....