ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 35 จากทั้งหมด 97 หน้า แสดงรายการที่ 681 - 700 จากข้อมูลทั้งหมด 1937 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 681 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 02/09/2557 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติรับทราบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๘ โดยเปลี่ยนชื่อกองนิติการเป็นกองกฎหมาย และกำหนดให้มีกลุ่มตรวจสอบภายในและกลุ่มพัฒนาระบบบริหารเพื่อทำหน้าที่ในการตรวจสอบการดำเนินงานสนับสนุนการปฏิบัติงาน และพัฒนาการบริหารงานของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอร่างกฎกระทรวงดังกล่าวให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมพิจารณาลงนามและประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 682 | งบการเงินของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด | ยธ | 02/09/2557 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ
๑. รับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้รับรองแล้ว ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ งบแสดงฐานะการเงิน กองทุนฯ มีสินทรัพย์ ๕๙๕,๐๓๑,๖๕๕.๑๒ บาท หนี้สิน ๔๕,๙๒๒,๑๒๐.๙๗ บาท รวมสินทรัพย์ ๕๔๙,๑๐๙,๕๓๔.๑๕ บาท ๑.๒ งบรายได้และค่าใช้จ่าย กองทุนฯ มีรายได้ ๑๘๐,๓๔๕,๑๒๔.๔๘ บาท ค่าใช้จ่าย ๑๔๑,๑๙๔,๓๘๒.๗๗ บาท รวมรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย ๓๙,๑๕๐,๗๔๑.๗๑ บาท ๒. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมรับไปพิจารณาความเหมาะสมและเป็นไปได้ในการนำเงินคงเหลือของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดหลังจากนำไปใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแล้วมีเงินคงเหลือจำนวนมาก นำส่งเข้าคลังเป็นรายได้แผ่นดินให้มากยิ่งขึ้น แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 683 | การจัดทำความตกลงประเทศเจ้าภาพสำหรับการประชุมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญนานาชาติเพื่อหารือแนวทางและวิธีการในการป้องกัน สืบสวน สอบสวน ดำเนินคดี และลงโทษการฆ่าผู้หญิงและเด็กผู้หญิงอันเนื่องมาจากความเป็นเพศหญิง | ยธ | 26/08/2557 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติเห็นชอบการจัดทำความตกลงประเทศเจ้าภาพสำหรับการประชุมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญนานาชาติเพื่อหารือแนวทางและวิธีการในการป้องกัน สืบสวน สอบสวน ดำเนินคดี และลงโทษการฆ่าผู้หญิงและเด็กผู้หญิงอันเนื่องมาจากความเป็นเพศหญิง ระหว่างรัฐบาลไทยและสำนักงานสหประชาชาติว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรม (United Nations Office on Drugs and Crime-UNODC) ทั้งนี้ จะมีการประชุมดังกล่าวระหว่างวันที่ ๑๑-๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ณ กรุงเทพมหานคร ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 684 | การแต่งตั้งคณะทำงานระดับชาติเพื่อเตรียมการสำหรับการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา สมัยที่ 13 | ยธ | 26/08/2557 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะทำงานระดับชาติเพื่อเตรียมการสำหรับการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา สมัยที่ ๑๓ (National Preparatory Committee-NPC) โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานคณะทำงาน เพื่อเตรียมการด้านสารัตถะในการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา (United Nations Congress on Crime Prevention and Criminal Justice-Criminal Congress) สมัยที่ ๑๓ โดยกราบทูลเชิญพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงดำรงตำแหน่งองค์ที่ปรึกษาคณะทำงาน ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติมีมติ (๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๗) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 685 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันเกินวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 และขออนุมัติงบประมาณรายจ่าย งบกลาง เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อชำระหนี้ค่าวัสดุอาหาร ปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 และ พ.ศ. 2557 | ยธ | 19/08/2557 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. อนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่ให้กรมราชทัณฑ์ก่อหนี้ผูกพันก่อนได้รับอนุมัติเงินประจำงวด เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายชำระหนี้ค่าวัสดุอาหารของผู้ต้องขังและผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ และปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๓,๔๑๗,๔๔๑,๓๑๐ บาท เพื่อชำระเป็นค่าวัสดุอาหารของผู้ต้องขังและผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ตามรายจ่ายจริงในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ จำนวน ๘๙๐,๔๐๒,๕๐๐ บาท และปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ จำนวน ๒,๕๒๗,๐๓๘,๘๑๐ บาท ทั้งนี้ ให้กรมราชทัณฑ์ดำเนินการตามประกาศหรือคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ รวมทั้งปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และมาตรฐานของทางราชการโดยขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงยุติธรรม (กรมราชทัณฑ์) รับไปพิจารณาแนวทางการดำเนินการเพื่อลดภาระงบประมาณที่ต้องจัดสรรเป็นค่าวัสดุอาหาร โดยให้กรมราชทัณฑ์พิจารณานำเงินรายได้ของกรมราชทัณฑ์ที่ได้รับจากการดำเนินกิจกรรม หรือจากผลผลิตของผู้ต้องขังมาสนับสนุนค่าใช้จ่ายเพื่อการนี้ รวมทั้งให้ประสานงานกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อจัดหาข้าวสารจากสต็อก (Stock) ของรัฐบาล เพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ และพิจารณานำผลผลิตทางการเกษตรและการเลี้ยงสัตว์ที่ผู้ต้องขังได้ดำเนินการภายในเรือนจำต่าง ๆ มาใช้เป็นวัสดุอาหารของผู้ต้องขังเอง ทดแทนการจัดซื้อจัดหาจากภายนอกด้วย นอกจากนี้ ให้กรมราชทัณฑ์พิจารณาแนวทางการลดจำนวนผู้ต้องขัง เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของกรมราชทัณฑ์ เช่น การเปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังซึ่งใกล้พ้นโทษไปฝึกงานกับหน่วยงานภายนอก การสร้างความรู้ความเข้าใจ และปรับเปลี่ยนทัศนคติของผู้ต้องขังและฝึกอาชีพผู้ต้องขังให้สามารถออกไปประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองได้โดยไม่กลับมากระทำความผิดซ้ำอีก |
||||||||||||||||||||||||
| 686 | การพิจารณาบำเหน็จความชอบประจำปี (กรณีพิเศษ) แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด | ยธ | 22/07/2557 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ
๑. เห็นชอบในหลักการการพิจารณาบำเหน็จความชอบประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็นกรณีพิเศษ ให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้มีผลการปฏิบัติงานด้านยาเสพติดดีเด่นในอัตราไม่เกิน ๑๐,๖๓๖ คน ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้มีการพิจารณาบำเหน็จความชอบประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็นกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้มีผลการปฏิบัติงานด้านยาเสพติดดีเด่น ไม่เกินร้อยละ ๒.๕ ของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดโดยตรง จำนวน ๓๕๐,๙๑๐ คน คิดเป็นอัตราไม่เกิน ๘,๗๗๒ คน ๑.๒ ให้มีการพิจารณาบำเหน็จความชอบประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็นกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้มีผลการปฏิบัติงานด้านยาเสพติดดีเด่น ไม่เกินร้อยละ ๐.๕ ของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเกื้อกูลต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติด จำนวน ๓๗๒,๘๗๒ คน คิดเป็นอัตราไม่เกิน ๑,๘๖๔ คน ๒. สำหรับงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดังกล่าว ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของส่วนราชการต้นสังกัดในโอกาสแรกก่อน หากไม่สามารถดำเนินการได้ ให้เบิกจ่ายจากงบกลาง รายการเงินเลื่อนเงินเดือนและเงินปรับวุฒิข้าราชการเป็นลำดับต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๓. มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดแนวทาง มาตรการ และหลักเกณฑ์ในการวัดผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้สะท้อนถึงผลสัมฤทธิ์ของการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านยาเสพติดที่มีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรมชัดเจน เพื่อใช้สำหรับการพิจารณาบำเหน็จความชอบประจำปี (กรณีพิเศษ) ในปีต่อ ๆ ไป เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์ของปัญหายาเสพติดในหลายพื้นที่ยังคงมีความรุนแรงอยู่อย่างต่อเนื่อง |
||||||||||||||||||||||||
| 687 | ขออนุมัติจัดจ้างก่อสร้างเรือนจำจังหวัดภูเก็ต ตามแผนการจัดจ้างของกรมราชทัณฑ์1.2 | ยธ | 02/07/2557 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการให้กระทรวงยุติธรรม (กรมราชทัณฑ์) ดำเนินการก่อสร้างเรือนจำจังหวัดภูเก็ต พร้อมส่วนประกอบ ๑ แห่ง ในลักษณะก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗-พ.ศ. ๒๕๖๐ ในวงเงิน ๑,๐๕๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท รวมวงเงินเผื่อเหลือเผื่อขาด จำนวน ๕๒,๖๐๐,๐๐๐ บาท รวมทั้งสิ้น ๑,๑๐๔,๖๐๐,๐๐๐ บาท โดยให้ดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และเมื่อกรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าวครบถ้วนและต่อรองราคาจนถึงที่สุดแล้ว ให้ขอทำความตกลงกับคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ และสำนักงบประมาณเพื่อพิจารณาความเหมาะสมของราคาค่าก่อสร้างตามนัยระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติมต่อไป ทั้งนี้ ให้กรมราชทัณฑ์ดำเนินการตามประกาศหรือคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ รวมทั้งปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และมาตรฐานของทางราชการด้วย ๒. ในส่วนของการใช้ประโยชน์พื้นที่เรือนจำจังหวัดภูเก็ตเดิมเมื่อย้ายไปแล้ว ให้กรมราชทัณฑ์รับไปประสานกับจังหวัดภูเก็ตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการจัดทำเป็นสวนสาธารณะเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนโดยรวม และสอดคล้องกับมติของคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๗ [เรื่อง การชี้แจงของคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.)] เกี่ยวกับโครงการลงทุนที่มีวงเงินเกินรวม ๑,๐๐๐ ล้านบาท ที่ให้ดำเนินการต่อไปได้ ซึ่งรวมถึงโครงการก่อสร้างเรือนจำจังหวัดภูเก็ต ทั้งนี้ ให้กรมราชทัณฑ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้กรมราชทัณฑ์จัดเตรียมแผนอัตรากำลังบุคลากรเพื่อรองรับภารกิจงานที่เพิ่มมากขึ้นของเรือนจำแห่งใหม่ และสำหรับพื้นที่เรือนจำเดิมเมื่อย้ายไปแล้ว ควรมีการจัดทำแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินของเรือนจำเดิมให้เกิดประโยชน์สูงสุด และควรให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาจัดทำมาตรการควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินโดยรอบเรือนจำแห่งใหม่อย่างเหมาะสม ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
| 688 | การแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง กระทรวงยุติธรรม | ยธ | 17/06/2557 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรักษาความสงบแห่งชาติเห็นว่า
๑. เพื่อให้การพัฒนางานด้านนิติวิทยาศาสตร์และแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของกระทรวงยุติธรรมมีความเหมาะสมยิ่งขึ้น ตลอดจนสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการกำหนดนโยบายระดับชาติ รวมทั้งเป็นการปรับย้ายหมุนเวียนบุคลากรภายในของกระทรวงยุติธรรม จึงมีมติ ๑.๑ ให้ พันโท เอนก ยมจินดา ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มาปฏิบัติหน้าที่ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม โดยให้รับเงินเดือนทางสังกัดเดิมไปพลางก่อน ๑.๒ ให้ คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรมมาปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โดยให้รับเงินเดือนทางสังกัดเดิมไปพลางก่อน ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติมีมติ (๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๗) เป็นต้นไป ๒. ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๗ อนุมัติโอนนายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งปลัดกระทรวง (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ (นักบริหารระดับสูง) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป และอนุมัติแต่งตั้งนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองปลัดกระทรวง (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม เป็นผู้รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงยุติธรรม เมื่อนายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ พ้นจากตำแหน่งปลัดกระทรวงแล้วนั้น โดยที่การสับเปลี่ยนหน้าที่ ย้าย หรือโอนข้าราชการพลเรือนสามัญ (นักบริหารระดับสูง) ที่ปฏิบัติหน้าที่เดียวกันครบ ๔ ปีแล้ว ให้ไปปฏิบัติหน้าที่อื่นจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน ๖๐ วัน นับแต่วันครบกำหนด ซึ่งกรณีของนายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ จะครบกำหนดในวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติราชการของกระทรวงยุติธรรมเป็นไปอย่างต่อเนื่อง จึงมีมติ ๒.๑ ให้นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ไปช่วยราชการในตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ (นักบริหารระดับสูง) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ๒.๒ ให้นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวง (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม เป็นผู้รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่วันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๗
|
||||||||||||||||||||||||
| 689 | การโอนข้าราชการ (นายธงทอง จันทรางศุ) | ยธ | 06/05/2557 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงยุติธรรมรับโอนนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี มาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรม (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้มีผลดำเนินการต่อไปได้เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||
| 690 | ขอต่อเวลาการดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงาน (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานกิจการยุติธรรม (กระทรวงยุติธรรม) (นายวิทยา สุริยะวงค์) | ยธ | 01/04/2557 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของนายวิทยา สุริยะวงค์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม ซึ่งดำรงตำแหน่งดังกล่าวเมื่อวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๒ ครบกำหนด ๔ ปี ในวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๖ ต่อไปอีก ๑ ปี ครั้งที่ ๑ ตั้งแต่วันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ทั้งนี้ ให้มีผลดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งให้ความเห็นชอบตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๑๘๑ (๑) แล้ว
|
||||||||||||||||||||||||
| 691 | งบการเงินของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด | ยธ | 25/03/2557 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๔ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้รับรองแล้ว โดย ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๔ กองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดมีสินทรัพย์ ๕๔๔,๔๐๕,๗๕๒.๖๐ บาท และหนี้สิน ๓๑,๒๐๒,๐๑๑.๑๖ บาท รวมสินทรัพย์ ๕๑๓,๒๐๓,๗๔๑.๔๔ บาท ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 692 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด อีกตำแหน่ง (พลตำรวจเอก พงศพัศ พงษ์เจริญ) | ยธ | 11/03/2557 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งพลตำรวจเอก พงศพัศ พงษ์เจริญ ข้าราชการตำรวจ ตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงยุติธรรม อีกตำแหน่งหนึ่ง เป็นเวลา ๑ ปี ตั้งแต่วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๗ เป็นต้นไป ตามมาตรา ๑๑ (๕) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ขัดข้อง โดยให้ยังคงดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อยู่ต่อไป และให้นับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งต่อเนื่อง ส่วนกรณีเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และสิทธิประโยชน์อันพึงมีพึงได้ให้คงได้รับตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 693 | การจัดทำความตกลงประเทศเจ้าภาพสำหรับการประชุมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญนานาชาติโดยสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน) ร่วมกับสำนักงานสหประชาชาติว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรม (UNODC) | ยธ | 28/01/2557 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการจัดทำความตกลงให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพสำหรับการประชุมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญนานาชาติในเรื่องเกี่ยวกับการยุติความรุนแรงต่อเด็ก โดยสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน) (Thailand Institute of Justice : สถาบัน TIJ) ร่วมกับสำนักงานสหประชาชาติว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรม (UNODC) ระหว่างวันที่ ๑๘-๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ โดยการจัดทำความตกลงสำหรับจัดการประชุมดังกล่าวจะใช้วิธีการแลกเปลี่ยนหนังสือระหว่างกัน (Exchange of Letters) ระหว่างรัฐบาลไทยกับสหประชาชาติ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 694 | การจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายพัฒนากฎหมายเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนและเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน | ยธ | 03/12/2556 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติการจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายพัฒนากฎหมายเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนและเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานกรรมการ ๑.๒ ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาตินำกรอบแนวทางการพัฒนากฎหมาย ๓ ด้าน ที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ได้แก่ กรอบที่ ๑ การพัฒนากฎหมายที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานในการประกอบธุรกิจเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันอันเป็นการทั่วไป กรอบที่ ๒ การพัฒนากฎหมายเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของกลุ่มธุรกิจ/อุตสาหกรรมเป้าหมาย และกรอบที่ ๓ การพัฒนาองคาพยพ/ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย ไปใช้เป็นแนวทางการปฏิรูปกฎหมายในกรอบยุทธศาสตร์ประเทศ (Country Strategy) ๑.๓ ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาจัดช่องทางพิเศษสำหรับการพิจารณาและผลักดันร่างกฎหมายทั้งในกรอบของรัฐบาลและกรอบของรัฐสภา โดยในกรอบของรัฐบาลควรจัดช่องทางพิเศษสำหรับร่างกฎหมายที่จะได้รับการตรวจพิจารณาจากคณะกรรมการกฤษฎีกา และขอความร่วมมือให้มีการพิจารณาโดยคณะพิเศษของคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อให้ร่างกฎหมายผ่านไปตามวัตถุประสงค์และทันตามระยะเวลาที่กำหนด และพิจารณาแนวทางร่วมมือเพื่อให้รัฐสภากำหนดเป็นวาระเร่งด่วน และจัดกลไกเฉพาะในการดูแลให้ความเห็นชอบต่อร่างกฎหมายตามแผนงานโดยเร็ว ๒. ให้ปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการนโยบายพัฒนากฎหมายเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนและเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน โดยเพิ่มอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เป็นกรรมการ ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และกำหนดให้มีเฉพาะหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องที่มีอยู่ในปัจจุบัน ตามความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. |
||||||||||||||||||||||||
| 695 | การแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคดีพิเศษ | ยธ | 03/12/2556 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคดีพิเศษแทนกรรมการที่พ้นจากตำแหน่ง จำนวน ๒ คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓ ธันวาคม ๒๕๕๖) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
๑. ศาสตราจารย์ (พิเศษ) จุลสิงห์ วสันตสิงห์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงินการธนาคาร ๒. นายอุดม มั่งมีดี ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายและการพิจารณาพิพากษาคดี
|
||||||||||||||||||||||||
| 696 | รายงานผลการปฏิบัติงานของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 | ยธ | 25/11/2556 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ประกอบด้วย รายงานผลการปฏิบัติราชการตามอำนาจหน้าที่ และปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะในการปฏิบัติงานของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในฐานะบังคับบัญชาสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเสนอ ๒. เห็นชอบให้นำความเห็นของสำนักงาน ก.พ. และสำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นควรเทียบเคียงการกำหนดเงินเพิ่มพิเศษอื่น ๆ ที่มีลักษณะงานใกล้เคียงกัน เพื่อให้เกิดความเสมอภาคและเป็นธรรมในภาพรวมของระบบราชการ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินควรมีการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มพูนความรู้ ทักษะในการปฏิบัติงานโดยเฉพาะด้านการกำกับ ตรวจสอบ และวิเคราะห์ธุรกรรมทางการเงิน เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานตามกฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี และให้นำรายงานผลการปฏิบัติงานของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ พร้อมทั้งข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีดังกล่าวเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
| 697 | การกำหนดอัตราเงินเดือนและประโยชน์ตอบแทนอื่นของผู้อำนวยการสถาบันอนุญาโตตุลาการ | ยธ | 29/10/2556 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๒ (ฝ่ายสังคมและกฎหมาย) ในการประชุมครั้งที่ ๘/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๕๖ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา) ประธานกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๒ (ฝ่ายสังคมและกฎหมาย) เสนอ ดังนี้
๑. จัดให้สถาบันอนุญาโตตุลาการอยู่ในกลุ่มองค์การมหาชน กลุ่มที่ ๒ กลุ่มบริการที่ใช้เทคนิควิชาการเฉพาะด้านหรือสหวิทยาการ ซึ่งกำหนดอัตราเงินเดือนผู้อำนวยการองค์การมหาชน ขั้นต่ำและขั้นสูง อยู่ระหว่าง ๑๐๐,๐๐๐-๒๕๐,๐๐๐ บาท ประโยชน์ตอบแทน และค่าตอบแทนพิเศษให้เป็นไปตามกฎหมายและหลักเกณฑ์ที่สำนักงาน ก.พ.ร. กำหนด ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๔๗ (เรื่อง การปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราเงินเดือนฯ หลักเกณฑ์การกำหนดเบี้ยประชุมฯ และการพัฒนาการดำเนินงานและการประเมินผลองค์การมหาชน) ๒. ให้สถาบันอนุญาโตตุลาการรับข้อสังเกตของสำนักงาน ก.พ.ร. เมื่อสถาบันอนุญาโตตุลาการมีผลการปฏิบัติงานครบ ๑ ปี สมควรให้เข้าสู่ระบบการประเมินผลตามกรอบการประเมินผลหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งตามพระราชบัญญัติเฉพาะตามที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบเมื่อวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๔๗ (เรื่อง การปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราเงินเดือนฯ หลักเกณฑ์การกำหนดเบี้ยประชุมฯ และการพัฒนาการดำเนินงานและการประเมินผลองค์การมหาชน) และเมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๕๒ (เรื่อง กรอบการประเมินผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติเฉพาะ) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
| 698 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม รวม 4 ฉบับ | ยธ | 08/10/2556 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม รวม ๔ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญ แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๕ เพื่อแก้ไขชื่อ “คณะกรรมการการยุติธรรมแห่งชาติ” เป็น “คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ” กำหนดให้มีกลุ่มตรวจสอบภายในและกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร ในสำนักงานกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม และปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของสำนักงานเลขานุการกรม ๒. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงการแบ่งส่วนราชการกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม ๓. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงการแบ่งส่วนราชการกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ๔. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๕ เพื่อจัดตั้งกองบริหารทรัพยากรบุคคลและกำหนดให้มีกลุ่มตรวจสอบภายในและกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร รวมทั้งแก้ไขเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของสำนักงานเลขานุการกรมในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม |
||||||||||||||||||||||||
| 699 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น | ยธ | 01/10/2556 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรมราชทัณฑ์ใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่กระทรวงการคลังได้อนุมัติขยายเวลาการกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีแล้ว จำนวน ๔๙๗,๔๗๑,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายรายการค่าวัสดุอาหาร ในเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนมิถุนายน ๒๕๕๖ ทั้งนี้ ให้กรมราชทัณฑ์ขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณโดยตรงต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||
| 700 | รายงานประจำปี พ.ศ. 2555 คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ | ยธ | 24/09/2556 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๕ คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ มีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. ส่วนที่ ๑ รวบรวมเนื้อหาเกี่ยวกับโครงสร้าง อำนาจหน้าที่ และองค์ประกอบของคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ แผนการดำเนินงานของคณะกรรมการและฝ่ายเลขานุการ และโครงสร้างของสำนักงานกิจการยุติธรรมในฐานะเลขานุการ ๒. ส่วนที่ ๒ รวบรวมผลงานสำคัญของคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติและคณะอนุกรรมการฯ จำแนกเป็น ๕ ด้าน ดังนี้ ๒.๑ การจัดทำแผนและการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การบริหารงานยุติธรรม ๒.๒ การส่งเสริมและประสานความร่วมมือเพื่อพัฒนาระบบการบริหารงานยุติธรรม ๒.๓ การศึกษา วิจัยและพัฒนากฎหมายและระบบงานยุติธรรม ๒.๔ การประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้สู่สังคม ๒.๕ การพัฒนาบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม ๓. ส่วนที่ ๓ รวบรวมเนื้อหาเกี่ยวกับข้อมูลสถิติ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ และรายละเอียดของคณะอนุกรรมการฯ
|
||||||||||||||||||||||||
.....
