ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 34 จากทั้งหมด 97 หน้า แสดงรายการที่ 661 - 680 จากข้อมูลทั้งหมด 1930 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
661 | ร่างพระราชบัญญัติมาตรการแทนการฟ้องคดีอาญา พ.ศ. .... ของกระทรวงยุติธรรม และร่างพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยคดีอาญาในชั้นการสอบสวน ของเจ้าพนักงานตำรวจ พ.ศ. .... ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ร่างพระราชบัญญัติมาตรการแทนการฟ้องคดีอาญา พ.ศ. .... ของกระทรวงยุติธรรม) | ยธ | 02/12/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติมาตรการแทนการฟ้องคดีอาญา พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการนำมาตรการที่สำคัญมารวมไว้ในร่างพระราชบัญญัติฯ คือ (๑) มาตรการไกล่เกลี่ยคดีอาญาซึ่งเป็นมาตรการในชั้นของพนักงานสอบสวน และ (๒) มาตรการชะลอการฟ้องซึ่งเป็นมาตรการในชั้นของพนักงานอัยการ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ๒. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยคดีอาญาในชั้นการสอบสวนของเจ้าพนักงานตำรวจ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีการไกล่เกลี่ยคดีอาญาในชั้นสอบสวนของเจ้าพนักงานตำรวจที่เกี่ยวกับความผิดอันยอมความได้ ความผิดลหุโทษ และความผิดที่มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงไม่เกินห้าปี เนื่องจากเป็นคดีอาญาที่ลักษณะของการกระทำเป็นความผิดที่ไม่ร้ายแรงซึ่งผู้ต้องหาอาจกลับตนเป็นคนดีได้ และผู้เสียหายอาจได้รับการชดเชยเยียวยาตามสมควร อันจะเป็นการนำไปสู่การยอมความและยุติคดีด้วยความสมานฉันท์ ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน ๓. ให้รวมร่างพระราชบัญญัติทั้งสองฉบับเป็นฉบับเดียวกัน และให้ใช้ร่างพระราชบัญญัติมาตรการแทนการฟ้องคดีอาญา พ.ศ. .... ของกระทรวงยุติธรรมเป็นหลักในการพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป |
|||||||||||||||||||||
662 | ร่างพระราชบัญญัติกองทุนยุติธรรม พ.ศ. .... | ยธ | 25/11/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติกองทุนยุติธรรม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการจัดตั้งกองทุนยุติธรรมเป็นแหล่งเงินทุนเพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเข้าถึงความยุติธรรม การประกันตัวบุคคล การช่วยเหลือประชาชนในคดีอาญา การช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการละเมิดสิทธิมนุษยชน และการให้ความรู้ทางกฎหมายแก่ประชาชน ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมเงินรายได้ของกองทุนยุติธรรม โดยอาจมาจากแหล่งรายได้อื่น ๆ เช่น การจัดเก็บจากผู้มีหน้าที่เสียภาษีตามกฎหมายว่าด้วยสุราและกฎหมายว่าด้วยยาสูบ รวมทั้งให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับการกำหนดให้กองทุนยุติธรรมมีรายได้จากเงินกู้โดยอนุมัติคณะรัฐมนตรี ตามร่างมาตรา ๙ (๑๐) ซึ่งตามพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ มาตรา ๘ บัญญัติให้หน่วยงานของรัฐนอกจากกระทรวงการคลังจะกู้เงินมิได้ จึงเห็นสมควรตัดความในร่างมาตราดังกล่าวออก และเห็นควรกำหนดกรอบเงินรายได้ของกองทุนยุติธรรมจากเงินค่าธรรมเนียม เงินที่ได้จากการบังคับหลักประกันตัวผู้ต้องหาและจำเลยในคดีอาญาที่หลบหนีการปล่อยชั่วคราว และเงินค่าปรับในคดีอาญาในอัตราไม่เกินร้อยละ ๒ โดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง พร้อมทั้งตัดความในมาตรา ๑๐ วรรคสองที่กำหนดให้สำนักงานศาลยุติธรรมนำเงินรายได้ข้างต้นส่งให้กองทุนเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางดำเนินการดังกล่าว และในการดำเนินการเกี่ยวกับกองทุนยุติธรรมตามร่างพระราชบัญญัติฯ ให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอจัดตั้ง การดำเนินงาน และการประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน พ.ศ. ๒๕๕๗ นอกจากนี้ การจัดตั้งกองทุนยุติธรรมขึ้นใหม่ในกระทรวงยุติธรรม ควรสอบถามความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม และดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ รวมทั้งการกำหนดองค์ประกอบของคณะกรรมการกองทุนยุติธรรมและการกำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการดังกล่าว ควรพิจารณาบุคคลที่จะมาเป็นกรรมการ และจำนวนของกรรมการให้สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการด้วย เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมนำเรื่องการจัดตั้งกองทุนยุติธรรมเสนอคณะกรรมการกลั่นกรองการจัดตั้งทุนหมุนเวียน ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอจัดตั้ง การดำเนินงาน และการประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน พ.ศ. ๒๕๕๗ ข้อ ๘ และให้แจ้งผลการดำเนินการตามระเบียบดังกล่าวไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป |
|||||||||||||||||||||
663 | เสนอขอแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (กระทรวงยุติธรรม) | ยธ | 18/11/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
664 | รายงานประจำปี พ.ศ. 2556 คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ | ยธ | 18/11/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๖ ของคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ประธานกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลงานที่สำคัญ ประกอบด้วย การจัดทำแผนและการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การบริหารงานยุติธรรม การส่งเสริมและประสานความร่วมมือเพื่อพัฒนาระบบการบริหารงานยุติธรรม การศึกษา วิจัย และพัฒนากฎหมายและระบบงานยุติธรรม การประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้สู่สังคม และการพัฒนาบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม ๒. สถิติประเภทเรื่องที่เข้าสู่คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ ประกอบด้วย ๒.๑ เรื่องเพื่อพิจารณา เช่น เรื่อง โครงการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การดำเนินงานของคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ และการนำเสนอแผนแม่บทการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๕๙ เรื่อง การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกำหนดยุทธศาสตร์และแผนงานในการเตรียมความพร้อมและรองรับการจัดตั้งศาลชั้นต้นและแผนกคดีในศาลยุติธรรม เรื่อง แนวทางการดำเนินงานของคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติตามนโยบายรัฐบาล และเรื่อง ร่างแผนแม่บทการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๖๐ ร้อยละ ๔๓ ๒.๒ เรื่องเพื่อทราบ เช่น เรื่อง ความคืบหน้าในการจัดทำร่างแผนแม่บทการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๕๙ และร่างแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๕๙ เรื่อง รายงานข้อมูลผลการสำรวจสถิติอาชญากรรมในภาคประชาชนปี พ.ศ. ๒๕๕๕ เรื่อง การปรับปรุงและแต่งตั้งคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ และเรื่อง โครงการสำรวจข้อมูลการกระทำผิดซ้ำของผู้ที่เคยตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา เป็นต้น ร้อยละ ๕๗ ๓. รายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ของคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ ประกอบด้วย ด้านภารกิจ งานเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ ด้านการจัดทำแผนและการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การบริหารงานยุติธรรม ด้านการศึกษาวิจัยและพัฒนากฎหมายและระบบงานยุติธรรม ด้านการส่งเสริมและประสานความร่วมมือเพื่อพัฒนาระบบการบริหารงานยุติธรรม ด้านการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้สู่สังคม และด้านพัฒนาบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม งบประมาณรายจ่ายรวมทั้งสิ้น ๘๒,๘๗๑,๗๕๐.๗๘ บาท
|
|||||||||||||||||||||
665 | แผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2557 - 2561) นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา | ยธ | 12/11/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบและประกาศใช้แผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๖๑) พร้อมทั้งสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติไปสู่การปฏิบัติด้วยการแปลงแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติไปสู่แผนบริหารราชการแผ่นดิน แผนปฏิบัติราชการกระทรวง กรม แผนพัฒนาจังหวัด แผนพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนแผนพัฒนาองค์กรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง แล้วจัดทำเป็นโครงการ/กิจกรรม เพื่อรองรับการดำเนินงานตามแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยใช้งบประมาณของหน่วยงานมาดำเนินการในการพิจารณานำมิติด้านสิทธิมนุษยชนมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของหน่วยงาน ๑.๒ กำหนดให้หน่วยงานต่าง ๆ รายงานผลการปฏิบัติงานตามแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฉบับที่ ๓ เมื่อสิ้นปีงบประมาณ ปีละ ๑ ครั้ง ภายในเดือนพฤศจิกายนของทุกปี และมอบหมายให้กระทรวงยุติธรรมรับผิดชอบการกำหนดแนวทาง วิธีการรายงานผลและแบบรายงานผลการดำเนินงาน พร้อมแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบและถือปฏิบัติ ๑.๓ มอบหมายให้กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จัดทำคำแปลบทสรุปแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฉบับที่ ๓ เป็นภาษาอังกฤษ สำหรับเผยแพร่นานาประเทศ โดยการจัดทำคำแปล จะประสานผู้ทรงคุณวุฒิและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพิจารณา ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมชี้แจงทำความเข้าใจกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการจัดทำแผนปฏิบัติการ (Action Plan) และการรายงานผลตามแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติดังกล่าวให้ถูกต้องชัดเจนต่อไป ๓. ให้กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการตามข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติและของนายกรัฐมนตรี รวมทั้งมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาสิทธิมนุษยชน เช่น มติคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ) ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เกี่ยวกับปัญหาการค้ามนุษย์ มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง สถานการณ์การค้ามนุษย์และการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทย) และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ (เรื่อง รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย และรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี ๒๕๕๕) เป็นต้น เพื่อสนับสนุนให้การดำเนินการตามแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติบังเกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป |
|||||||||||||||||||||
666 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดจำนวน ที่ตั้ง เขตศาล และวันเปิดทำการของศาลแรงงานภาค (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 04/11/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดจำนวน ที่ตั้ง เขตศาล และวันเปิดทำการของศาลแรงงานภาค (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเปลี่ยนแปลงที่ตั้งศาลแรงงานภาค ๑ จากจังหวัดลพบุรีไปยังจังหวัดสระบุรี ตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๘ เป็นต้นไป เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและความยุติธรรมให้แก่ประชาชนในส่วนภูมิภาคได้อย่างทั่วถึง ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
667 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคดีพิเศษ (จำนวน 9 คน) | ยธ | 04/11/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคดีพิเศษ จำนวน ๙ คน แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคดีพิเศษชุดปัจจุบันที่พ้นวาระ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๗) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ นายวิรัช ชินวินิจกุล ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย ๑.๒ นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย ๑.๓ นายสุเจตน์ จันทรังษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ๑.๔ รองศาสตราจารย์ เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐศาสตร์ ๑.๕ นายธวัชชัย ยงกิตติกุล ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงินการธนาคาร ๑.๖ นายฉัตรพงศ์ ฉัตราคม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านความมั่นคงประเทศ ๑.๗ นายสันทัด สมชีวิตา ผู้ทรงคุณวุฒิด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๑.๘ นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ผู้ทรงคุณวุฒิด้านอุตสาหกรรม ๑.๙ นายประมนต์ สุธีวงศ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ๒. ยกเว้น นายวิรัช ชินวินิจกุล ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะกรรมการตุลาการอนุมัติเป็นต้นไป ซึ่งต้องไม่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
|
|||||||||||||||||||||
668 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงยุติธรรม) (จำนวน 3 ราย) (1. นางสุวณา สุวรรณจูฑะ ฯลฯ) | ยธ | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงยุติธรรม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓ ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างและผู้เกษียณอายุราชการ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
๑. นางสุวณา สุวรรณจูฑะ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ๒. นายวีระยุทธ สุขเจริญ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ๓. นายพสิษฐ์ อัศววัฒนาพร ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||
669 | แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม | ยธ | 01/10/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติมอบหมายให้มีผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยให้ครอบคลุมถึงกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมด้วย ตามลำดับ ดังนี้
๑. นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ๒. หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
|
|||||||||||||||||||||
670 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (พลตำรวจเอก ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์) | ยธ | 01/10/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งพลตำรวจเอก ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป แทนนายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ซึ่งโอนไปส่วนราชการอื่น ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
671 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (นายอดุลย์ ขันทอง นายธนวีร์ ประวัติ) | ยธ | 23/09/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน ๒ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๓ กันยายน ๒๕๕๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
๑. นายอดุลย์ ขันทอง ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ๒. นายธนวีร์ ประวัติ ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
|
|||||||||||||||||||||
672 | ขอเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อจ่ายเป็นค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา | ยธ | 16/09/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้โอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น งบรายจ่ายอื่น รายการค่าใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรม สำหรับผู้ที่ถูกดำเนินคดีจากเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง (พ.ศ. ๒๕๔๘-๒๕๕๓) ที่คาดว่ามีเงินเหลือจ่ายประมาณ ๑๗๙,๒๑๑,๔๘๖ บาท เพื่อจ่ายเป็นค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้กระทรวงยุติธรรม (กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ) ขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
673 | ขอความเห็นชอบหลักการเกี่ยวกับการเสนอร่างพระราชบัญญัติไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ [ร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กำหนดสัญญาณจราจรเพิ่มเติม)] | ยธ | 16/09/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เสนอร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กำหนดสัญญาณจราจรเพิ่มเติม) ของกระทรวงยุติธรรม ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติมีมติเห็นชอบให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้ว และให้เสนอคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
674 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 02/09/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติรับทราบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๘ โดยเปลี่ยนชื่อกองนิติการเป็นกองกฎหมาย และกำหนดให้มีกลุ่มตรวจสอบภายในและกลุ่มพัฒนาระบบบริหารเพื่อทำหน้าที่ในการตรวจสอบการดำเนินงานสนับสนุนการปฏิบัติงาน และพัฒนาการบริหารงานของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอร่างกฎกระทรวงดังกล่าวให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมพิจารณาลงนามและประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
675 | งบการเงินของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด | ยธ | 02/09/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ
๑. รับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้รับรองแล้ว ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ งบแสดงฐานะการเงิน กองทุนฯ มีสินทรัพย์ ๕๙๕,๐๓๑,๖๕๕.๑๒ บาท หนี้สิน ๔๕,๙๒๒,๑๒๐.๙๗ บาท รวมสินทรัพย์ ๕๔๙,๑๐๙,๕๓๔.๑๕ บาท ๑.๒ งบรายได้และค่าใช้จ่าย กองทุนฯ มีรายได้ ๑๘๐,๓๔๕,๑๒๔.๔๘ บาท ค่าใช้จ่าย ๑๔๑,๑๙๔,๓๘๒.๗๗ บาท รวมรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย ๓๙,๑๕๐,๗๔๑.๗๑ บาท ๒. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมรับไปพิจารณาความเหมาะสมและเป็นไปได้ในการนำเงินคงเหลือของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดหลังจากนำไปใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแล้วมีเงินคงเหลือจำนวนมาก นำส่งเข้าคลังเป็นรายได้แผ่นดินให้มากยิ่งขึ้น แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
676 | การจัดทำความตกลงประเทศเจ้าภาพสำหรับการประชุมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญนานาชาติเพื่อหารือแนวทางและวิธีการในการป้องกัน สืบสวน สอบสวน ดำเนินคดี และลงโทษการฆ่าผู้หญิงและเด็กผู้หญิงอันเนื่องมาจากความเป็นเพศหญิง | ยธ | 26/08/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติเห็นชอบการจัดทำความตกลงประเทศเจ้าภาพสำหรับการประชุมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญนานาชาติเพื่อหารือแนวทางและวิธีการในการป้องกัน สืบสวน สอบสวน ดำเนินคดี และลงโทษการฆ่าผู้หญิงและเด็กผู้หญิงอันเนื่องมาจากความเป็นเพศหญิง ระหว่างรัฐบาลไทยและสำนักงานสหประชาชาติว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรม (United Nations Office on Drugs and Crime-UNODC) ทั้งนี้ จะมีการประชุมดังกล่าวระหว่างวันที่ ๑๑-๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ณ กรุงเทพมหานคร ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
677 | การแต่งตั้งคณะทำงานระดับชาติเพื่อเตรียมการสำหรับการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา สมัยที่ 13 | ยธ | 26/08/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะทำงานระดับชาติเพื่อเตรียมการสำหรับการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา สมัยที่ ๑๓ (National Preparatory Committee-NPC) โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานคณะทำงาน เพื่อเตรียมการด้านสารัตถะในการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา (United Nations Congress on Crime Prevention and Criminal Justice-Criminal Congress) สมัยที่ ๑๓ โดยกราบทูลเชิญพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงดำรงตำแหน่งองค์ที่ปรึกษาคณะทำงาน ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติมีมติ (๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๗) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||
678 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันเกินวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 และขออนุมัติงบประมาณรายจ่าย งบกลาง เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อชำระหนี้ค่าวัสดุอาหาร ปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 และ พ.ศ. 2557 | ยธ | 19/08/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. อนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่ให้กรมราชทัณฑ์ก่อหนี้ผูกพันก่อนได้รับอนุมัติเงินประจำงวด เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายชำระหนี้ค่าวัสดุอาหารของผู้ต้องขังและผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ และปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๓,๔๑๗,๔๔๑,๓๑๐ บาท เพื่อชำระเป็นค่าวัสดุอาหารของผู้ต้องขังและผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ตามรายจ่ายจริงในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ จำนวน ๘๙๐,๔๐๒,๕๐๐ บาท และปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ จำนวน ๒,๕๒๗,๐๓๘,๘๑๐ บาท ทั้งนี้ ให้กรมราชทัณฑ์ดำเนินการตามประกาศหรือคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ รวมทั้งปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และมาตรฐานของทางราชการโดยขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงยุติธรรม (กรมราชทัณฑ์) รับไปพิจารณาแนวทางการดำเนินการเพื่อลดภาระงบประมาณที่ต้องจัดสรรเป็นค่าวัสดุอาหาร โดยให้กรมราชทัณฑ์พิจารณานำเงินรายได้ของกรมราชทัณฑ์ที่ได้รับจากการดำเนินกิจกรรม หรือจากผลผลิตของผู้ต้องขังมาสนับสนุนค่าใช้จ่ายเพื่อการนี้ รวมทั้งให้ประสานงานกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อจัดหาข้าวสารจากสต็อก (Stock) ของรัฐบาล เพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ และพิจารณานำผลผลิตทางการเกษตรและการเลี้ยงสัตว์ที่ผู้ต้องขังได้ดำเนินการภายในเรือนจำต่าง ๆ มาใช้เป็นวัสดุอาหารของผู้ต้องขังเอง ทดแทนการจัดซื้อจัดหาจากภายนอกด้วย นอกจากนี้ ให้กรมราชทัณฑ์พิจารณาแนวทางการลดจำนวนผู้ต้องขัง เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของกรมราชทัณฑ์ เช่น การเปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังซึ่งใกล้พ้นโทษไปฝึกงานกับหน่วยงานภายนอก การสร้างความรู้ความเข้าใจ และปรับเปลี่ยนทัศนคติของผู้ต้องขังและฝึกอาชีพผู้ต้องขังให้สามารถออกไปประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองได้โดยไม่กลับมากระทำความผิดซ้ำอีก |
|||||||||||||||||||||
679 | การพิจารณาบำเหน็จความชอบประจำปี (กรณีพิเศษ) แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด | ยธ | 22/07/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ
๑. เห็นชอบในหลักการการพิจารณาบำเหน็จความชอบประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็นกรณีพิเศษ ให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้มีผลการปฏิบัติงานด้านยาเสพติดดีเด่นในอัตราไม่เกิน ๑๐,๖๓๖ คน ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้มีการพิจารณาบำเหน็จความชอบประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็นกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้มีผลการปฏิบัติงานด้านยาเสพติดดีเด่น ไม่เกินร้อยละ ๒.๕ ของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดโดยตรง จำนวน ๓๕๐,๙๑๐ คน คิดเป็นอัตราไม่เกิน ๘,๗๗๒ คน ๑.๒ ให้มีการพิจารณาบำเหน็จความชอบประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็นกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้มีผลการปฏิบัติงานด้านยาเสพติดดีเด่น ไม่เกินร้อยละ ๐.๕ ของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเกื้อกูลต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติด จำนวน ๓๗๒,๘๗๒ คน คิดเป็นอัตราไม่เกิน ๑,๘๖๔ คน ๒. สำหรับงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดังกล่าว ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของส่วนราชการต้นสังกัดในโอกาสแรกก่อน หากไม่สามารถดำเนินการได้ ให้เบิกจ่ายจากงบกลาง รายการเงินเลื่อนเงินเดือนและเงินปรับวุฒิข้าราชการเป็นลำดับต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๓. มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดแนวทาง มาตรการ และหลักเกณฑ์ในการวัดผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้สะท้อนถึงผลสัมฤทธิ์ของการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านยาเสพติดที่มีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรมชัดเจน เพื่อใช้สำหรับการพิจารณาบำเหน็จความชอบประจำปี (กรณีพิเศษ) ในปีต่อ ๆ ไป เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์ของปัญหายาเสพติดในหลายพื้นที่ยังคงมีความรุนแรงอยู่อย่างต่อเนื่อง |
|||||||||||||||||||||
680 | ขออนุมัติจัดจ้างก่อสร้างเรือนจำจังหวัดภูเก็ต ตามแผนการจัดจ้างของกรมราชทัณฑ์1.2 | ยธ | 02/07/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการให้กระทรวงยุติธรรม (กรมราชทัณฑ์) ดำเนินการก่อสร้างเรือนจำจังหวัดภูเก็ต พร้อมส่วนประกอบ ๑ แห่ง ในลักษณะก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗-พ.ศ. ๒๕๖๐ ในวงเงิน ๑,๐๕๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท รวมวงเงินเผื่อเหลือเผื่อขาด จำนวน ๕๒,๖๐๐,๐๐๐ บาท รวมทั้งสิ้น ๑,๑๐๔,๖๐๐,๐๐๐ บาท โดยให้ดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และเมื่อกรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าวครบถ้วนและต่อรองราคาจนถึงที่สุดแล้ว ให้ขอทำความตกลงกับคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ และสำนักงบประมาณเพื่อพิจารณาความเหมาะสมของราคาค่าก่อสร้างตามนัยระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติมต่อไป ทั้งนี้ ให้กรมราชทัณฑ์ดำเนินการตามประกาศหรือคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ รวมทั้งปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และมาตรฐานของทางราชการด้วย ๒. ในส่วนของการใช้ประโยชน์พื้นที่เรือนจำจังหวัดภูเก็ตเดิมเมื่อย้ายไปแล้ว ให้กรมราชทัณฑ์รับไปประสานกับจังหวัดภูเก็ตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการจัดทำเป็นสวนสาธารณะเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนโดยรวม และสอดคล้องกับมติของคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๗ [เรื่อง การชี้แจงของคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.)] เกี่ยวกับโครงการลงทุนที่มีวงเงินเกินรวม ๑,๐๐๐ ล้านบาท ที่ให้ดำเนินการต่อไปได้ ซึ่งรวมถึงโครงการก่อสร้างเรือนจำจังหวัดภูเก็ต ทั้งนี้ ให้กรมราชทัณฑ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้กรมราชทัณฑ์จัดเตรียมแผนอัตรากำลังบุคลากรเพื่อรองรับภารกิจงานที่เพิ่มมากขึ้นของเรือนจำแห่งใหม่ และสำหรับพื้นที่เรือนจำเดิมเมื่อย้ายไปแล้ว ควรมีการจัดทำแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินของเรือนจำเดิมให้เกิดประโยชน์สูงสุด และควรให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาจัดทำมาตรการควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินโดยรอบเรือนจำแห่งใหม่อย่างเหมาะสม ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
.....