ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 39 จากทั้งหมด 97 หน้า แสดงรายการที่ 761 - 780 จากข้อมูลทั้งหมด 1930 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
761 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเจ้าหน้าที่ของรัฐและผู้มีอำนาจออกบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. 2542 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 20/05/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเจ้าหน้าที่ของรัฐและผู้มีอำนาจออกบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. ๒๕๔๒ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างพระราชกฤษฎีกาฯ มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกากำหนดเจ้าหน้าที่ของรัฐและผู้มีอำนาจออกบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. ๒๕๔๒ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๔๕ ดังต่อไปนี้
๑. กำหนดให้ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ และกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ตามพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามกฎหมายว่าด้วยบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ ๒. กำหนดให้ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเป็นผู้มีอำนาจออกบัตรประจำตัว
|
||||||||||||||||||||||||||||||
762 | รายงานประจำปี พ.ศ. 2553 คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ | ยธ | 20/05/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ของคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง) ประธานกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลงานสำคัญในช่วงระหว่าง พ.ศ. ๒๕๕๓ มีดังนี้ ๑.๑ การจัดทำแผนและการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนาระบบงานยุติธรรม ได้แก่ แผนแม่บทการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๒ -๒๕๕๕ และแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๕๒ - ๒๕๕๕ ๑.๒ การประสานข้อมูล เครือข่ายการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาระบบการบริหารงานยุติธรรม ได้แก่ โครงการป้องกันและควบคุมอาชญากรรมในเขตเมืองด้วยกระบวนการมีส่วนร่วม โครงการคืนคนดีสู่สังคม โครงการศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลกระบวนการยุติธรรม และการส่งเสริมประสานความร่วมมือเพื่อพัฒนาระบบการบริหารงานยุติธรรม ๑.๓ การศึกษา วิจัยและพัฒนากฎหมาย และระบบงานยุติธรรม ได้แก่ การพัฒนาการกำหนดความผิด โทษ และมาตรการทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญาของไทย การพัฒนาระบบราชทัณฑ์ การพัฒนางานด้านนิติวิทยาศาสตร์ โครงการสำรวจข้อมูลการกระทำผิดด้วยการรายงานตนเอง (Self Reported Crime Survey) และการประชุมทางวิชาการระดับชาติว่าด้วยงานยุติธรรม ครั้งที่ ๘ เรื่อง “นิติรัฐและพลเมือง : ทางออกประเทศไทย” ๑.๔ การประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้สู่สังคม ได้แก่ การเสวนาทางวิชาการ “ยุติธรรม : ความสำเร็จของกระบวนการยุติธรรมระดับพื้นที่” โครงการยกย่องผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับกระบวนการยุติธรรม “รางวัลยุติธรรมธร” การเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม และการเผยแพร่ข้อมูลคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ ๑.๕ การพัฒนาบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม ได้แก่ การจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม และการฝึกอบรมหลักสูตรการบริหารงานยุติธรรมระดับสูง (ยธส.) ๒. รายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ ของคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ ประกอบด้วย ด้านการจัดทำแผนและขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การบริหารงานยุติธรรม ด้านการส่งเสริมประสานความร่วมมือเพื่อพัฒนาระบบการบริหารงานยุติธรรม ด้านการวิจัย พัฒนากฎหมาย และการบริหารงานยุติธรรม ด้านการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการบริหารงานยุติธรรม ด้านการพัฒนาบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม ด้านการส่งเสริมพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมระดับพื้นที่ และภารกิจด้านงานเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแหงชาติ รวมค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน ๔๗,๐๑๗,๙๗๕.๐๑ บาท
|
||||||||||||||||||||||||||||||
763 | ขอต่อเวลาการดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรม (นักบริหารระดับสูง) (กระทรวงยุติธรรม) | ยธ | 14/05/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของนายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรม (นักบริหารระดับสูง) ซึ่งดำรงตำแหน่งดังกล่าวเมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๕๑ ครบกำหนด ๔ ปี ในวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ต่อไปอีก ๑ ปี (ครั้งที่ ๑) ตั้งแต่วันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ถึงวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
764 | ขออัตรากำลังข้าราชการเพิ่ม | ยธ | 01/05/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๒ (ฝ่ายกระบวนการยุติธรรม กฎหมาย แรงงาน และประชาสัมพันธ์) ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง) เป็นประธานกรรมการ ในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๕ ที่อนุมัติเพิ่มอัตรากำลังข้าราชการให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) อีกจำนวน ๑๕๐ อัตรา เพื่อปฏิบัติภารกิจในการปราบปรามยาเสพติด และภารกิจบังคับโทษปรับตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ. ๒๕๕๐ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๕๓ [เรื่อง มาตรการบริหารกำลังคนภาครัฐ (พ.ศ. ๒๕๕๒ - ๒๕๕๖)]
|
||||||||||||||||||||||||||||||
765 | ขอต่อเวลาการดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบัน (นักบริหารระดับสูง) สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ (กระทรวงยุติธรรม) | ยธ | 01/05/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ซึ่งดำรงตำแหน่งติดต่อกันครบ ๔ ปี ในวันที่ ๘ เมษายน ๒๕๕๕ ออกไปอีก ๑ ปี (ครั้งที่ ๑) ตั้งแต่วันที่ ๙ เมษายน ๒๕๕๕ ถึงวันที่ ๘ เมษายน ๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
766 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงยุติธรรม) | ยธ | 17/04/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายณรงค์ รัตนานุกูล ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๔ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
767 | การจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ "โครงการหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มหาราชินี" | ยธ | 17/04/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง) ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. การจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ “โครงการหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน เฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา มหาราชินี” สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ โครงการหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน เฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา มหาราชินี” มีวัตถุประสงค์เพื่อเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ในวันที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยมีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อระดมประชาชนสาขาอาชีพต่าง ๆ ทั่วประเทศร่วมกันแสดงออกซึ่งความจงรักภักดี ด้วยการขับเคลื่อนกิจกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่าต่อเนื่อง ภายใต้ “กองทุนแม่ของแผ่นดิน” และเพื่อใช้แนวทางกองทุนแม่ของแผ่นดิน ลดสถานการณ์ปัญหายาเสพติด สร้างความเข้มแข็งพลังแผ่นดิน สร้างความยั่งยืนให้กับหมู่บ้าน/ชุมชนทั่วประเทศ โดยมีแนวทางและกลยุทธการดำเนินการ ประกอบด้วย ๖ แนวทางหลัก ได้แก่ ๑.๑.๑ แนวทางที่ ๑ การสร้างกระแสความตื่นตัวและประชาสัมพันธ์ผ่านช่องสื่อต่าง ๆ เช่น โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น เพื่อรณรงค์กระตุ้นจิตสำนึก สร้างกระแสการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน และประชาชน ให้เกิดความตื่นตัวกระทำความดีต่อต้านยาเสพติด และร่วมเป็นส่วนหนึ่ง เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี สืบสานปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และปณิธานกองทุนแม่ของแผ่นดิน ๑.๑.๒ แนวทางที่ ๒ การสร้างความมั่นคงให้กับหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดินที่ได้รับแต่เดิม ให้สามารถลดและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ได้ โดยเน้นบทบาทภาคประชาชนสมานฉันท์ และสามัคคี เสริมบทบาทแกนนำหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน ก่อนที่จะพัฒนาไปสู่ความยั่งยืน ๑.๑.๓ แนวทางที่ ๓ สร้างศูนย์เรียนรู้กองทุนแม่ของแผ่นดินให้เป็นแบบอย่างการพัฒนาและการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน โดยการสร้าง ๑ อำเภอ ๑ ศูนย์เรียนรู้กองทุนแม่ของแผ่นดิน และให้มีการบูรณาการกับเศรษฐกิจพอเพียงอย่างยั่งยืน โดยกำหนดหมู่บ้านตัวอย่าง ๘๐ แห่ง เทิดพระเกียรติ ๘๐ พรรษา มหาราชินี ๑.๑.๔ แนวทางที่ ๔ ขยายหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดินเพิ่มใหม่ในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ จังหวัดละ ๒๐ - ๕๐ แห่ง โดยยึดหลักคุณภาพในทุกกระบวนการ เพื่อให้ได้หมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดินที่จะเข้ารับพระราชทานเชิงคุณภาพ ๑.๑.๕ แนวทางที่ ๕ สร้างกระแส สร้างกิจกรรมกองทุนแม่ของแผ่นดินในระดับพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นการสร้างความยั่งยืนให้กับกองทุนแม่ของแผ่นดิน หากทุกหมู่บ้าน/ชุมชนทั่วประเทศได้กระทำอย่างพร้อมเพรียงกันแล้วย่อมเกิดเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ ทั้งพลังแห่งความสามัคคี พลังแห่งความดี และพลังแห่งความจงรักภักดี ๑.๑.๖ แนวทางที่ ๖ การพัฒนาความพร้อมการดำเนินงานเชิงคุณภาพทั้งการพัฒนาวิทยากรกระบวนการกองทุนแม่ของแผ่นดิน การพัฒนาประสิทธิภาพของเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดิน ระดับอำเภอ จังหวัด ภาค ประเทศ การพัฒนากลไกผู้ประสานงานกลางกองทุนแม่ของแผ่นดินในระดับพื้นที่ และการพัฒนาองค์ความรู้ และจัดระบบข้อมูล เพื่อให้โครงการกองทุนแม่ของแผ่นดิน เฉลิมฉลอง ๘๐ พรรษา มหาราชินี อย่างสมพระเกียรติ และเปี่ยมไปด้วยความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ๑.๒ โครงสร้างการบริหารจัดการ ๑.๒.๑ ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ เป็นกลไกบริหารจัดการโครงการหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน มีบทบาทหน้าที่การวางกรอบนโยบาย มาตรการ กลยุทธ์ แนวทางปฏิบัติ ๑.๒.๒ ระดับส่วนกลาง มีคณะกรรมการอำนวยการโครงการหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน เฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา มหาราชินี (คณะกรรมการกองทุนแม่ของแผ่นดิน ๘๐ พรรษา) ๑.๒.๓ ระดับจังหวัด โดยศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดระดับจังหวัด/กรุงเทพมหานคร เป็นกลไกบริหารจัดการสูงสุดในงานกองทุนแม่ของแผ่นดินในระดับจังหวัด และมีการจัดตั้งกลไกเพิ่มเติม ได้แก่ คณะกรรมการกองทุนแม่ของแผ่นดิน ๘๐ พรรษา ระดับจังหวัด หรือคณะกรรมการขับเคลื่อนกองทุนแม่ของแผ่นดินระดับจังหวัด ๑.๒.๔ ระดับอำเภอ โดยศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดระดับอำเภอ/เขต เป็นกลไกบริหารจัดการในงานกองทุนแม่ของแผ่นดินในระดับอำเภอ/เขต และมีการจัดตั้งกลไกเพิ่มเติม ได้แก่ คณะกรรมการกองทุนแม่ของแผ่นดิน ๘๐ พรรษาระดับอำเภอ/เขต หรือคณะกรรมการขับเคลื่อนกองทุนแม่ของแผ่นดินระดับอำเภอ/เขต ๑.๓ งบประมาณในการดำเนินโครงการ ประกอบด้วย งบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด งบประมาณจากกระทรวงมหาดไทย งบประมาณจากจังหวัด งบประมาณจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น งบประมาณสมทบจากหมู่บ้าน/ชุมชน และงบกลางของรัฐบาล ๑.๔ ระยะเวลาการปฏิบัติงาน ตั้งแต่เดือนมีนาคม ๒๕๕๕ - ธันวาคม ๒๕๕๕ ๒. ให้หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และองค์กรต่าง ๆ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุน เผยแพร่ รณรงค์ประชาสัมพันธ์การดำเนินงาน “โครงการหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน เฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา มหาราชินี”
|
||||||||||||||||||||||||||||||
768 | ร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการของหน่วยงานที่ปฏิบัติงานด้านปฏิบัติการพิเศษของกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. .... | ยธ | 10/04/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการของหน่วยงานที่ปฏิบัติงานด้านปฏิบัติการพิเศษของกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดลักษณะ ชนิด และประเภทของเครื่องแบบพิเศษเฉพาะสำหรับข้าราชการของหน่วยงานที่ปฏิบัติงานด้านปฏิบัติการพิเศษของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
769 | การเสนอรายชื่อบุคคลเพื่อให้คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย | ยธ | 10/04/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย จำนวน ๖ คน ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
๑. ศาสตราจารย์พิเศษชัยเกษม นิติสิริ ประธานกรรมการ ๒. คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. นายรอยล จิตรดอน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๔. คุณหญิงลักษณาจันทร เลาหพันธุ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. นายวิทยา สุริยะวงศ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๖. ศาสตราจารย์สุรศักดิ์ ลิขสิทธิ์วัฒนกุล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
770 | การบริจาคเงินสมทบกองทุนสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา | ยธ | 10/04/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติงบกลางเพื่อการจ่ายเงินสมทบแก่กองทุนด้านอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา (United Nations Crime Prevention and Criminal Justice Fund CPCJ Fund) ทั้งนี้ เพื่อให้ทันกับกำหนดการจัดประชุมคณะกรรมาธิการว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา สมัยปัจจุบันระหว่างวันที่ ๒๓ - ๒๗ เมษายน ๒๕๕๕ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ประกอบด้วย ๑.๑ เงินบริจาคซึ่งระบุวัตถุประสงค์เป็นการเฉพาะ (Specific Purpose Fund) เพื่อสนับสนุนการดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการ (Technical Assistance) เพื่อส่งเสริมการอนุวัติข้อกำหนดกรุงเทพ (Bangkok Rules) ในกลุ่มประเทศอาเซียน จำนวน ๖,๓๖๐,๐๐๐ บาท หรือประมาณ ๒๐๕,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ ๑.๒ เงินซึ่งระบุวัตถุประสงค์เป็นการเฉพาะ เพื่อสนับสนุนการเผยแพร่และประยุกต์ใช้ “แม่แบบฉบับปรับปรุงว่าด้วยกลยุทธ์และมาตรการเชิงปฏิบัติในการขจัดความรุนแรงต่อผู้หญิงในงานด้านการป้องกันอาชญากรรมและกระบวนการยุติธรรมทางอาญา (Updated Model Strategies and Practical Measures on the Elimination of Violence Against Women in the Field of Crime Prevention and Criminal Justice) จำนวน ๓,๑๘๐,๐๐๐ บาท หรือประมาณ ๑๐๒,๕๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ ๑.๓ เงินสนับสนุนทั่วไป (General - purpose funds) ซึ่งเป็นงบประมาณส่วนสำคัญที่สำนักงาน UNODC ใช้ในการบริหารจัดการการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพ จำนวน ๓,๑๐๐,๐๐๐ บาท หรือประมาณ ๑๐๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๑๒,๖๔๐,๐๐๐ บาท
|
||||||||||||||||||||||||||||||
771 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการที่ใช้ในการจำกัดการเดินทางและอาณาเขต พ.ศ. .... | ยธ | 02/04/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการที่ใช้ในการจำกัดการเดินทางและอาณาเขต พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎกระทรวงฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กำหนดบทนิยามคำว่า “การจำกัดการเดินทางและอาณาเขต” “อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์” “เจ้าพนักงาน” “พนักงานเจ้าหน้าที่” และ “ผู้ถูกจำกัด” ๒. กำหนดให้กฎกระทรวงฉบับนี้ใช้บังคับในกรณีการจำคุกโดยวิธีการอื่นที่สามารถจำกัดการเดินทางและอาณาเขตตามมาตรา ๘๙/๒ วรรคหนึ่ง (๓) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ๓. กำหนดให้ผู้ถูกจำกัดจะต้องชำระค่าธรรมเนียม และวางเงินประกันในการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตามอัตราที่ระเบียบกระทรวงยุติธรรมกำหนด ๔. กำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจและหน้าที่ในการปฏิบัติตามกฎกระทรวงนี้ เช่น ตรวจสอบข้อเท็จจริง รายงานข้อเท็จจริง เรียกผู้ถูกจำกัดมาสอบถาม เป็นต้น |
||||||||||||||||||||||||||||||
772 | การเสนอรายชื่อบุคคลที่สมควรได้รับการเสนอชื่อให้เป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ | ยธ | 02/04/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการเสนอชื่อนายอุดม มั่งมีดี ให้เป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบตามลำดับต่อไป ทั้งนี้ เมื่อสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาได้ให้ความเห็นชอบแล้ว ให้กระทรวงยุติธรรมรับไปดำเนินการตามมาตรา ๗ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๕๑ แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อแต่งตั้งบุคคลดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง
|
||||||||||||||||||||||||||||||
773 | การพิจารณาบำเหน็จความชอบประจำปี 2554 (กรณีพิเศษ) ให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด | ยธ | 13/03/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง) ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้มีการพิจารณาบำเหน็จความชอบประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็นกรณีพิเศษ ให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้มีผลการปฏิบัติงานด้านยาเสพติดดีเด่นไม่เกินร้อยละ ๒.๕ ของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดโดยตรง จำนวน ๒๙๙,๗๘๙ คน คิดเป็นอัตราไม่เกิน ๗,๔๙๔ คน ๑.๒ ให้มีการพิจารณาบำเหน็จความชอบประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็นกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้มีผลการปฏิบัติงานด้านยาเสพติดดีเด่นไม่เกินร้อยละ ๐.๕ ของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเกื้อกูลต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติด จำนวน ๔๓๑,๑๑๘ คน คิดเป็นอัตราไม่เกิน ๒,๑๕๕ คน ๑.๓ ในกรณีของผู้ที่เงินเดือนเต็มขั้นให้ได้รับค่าตอบแทนเป็นไปตามระเบียบที่กระทรวงการคลังกำหนด ๒. สำหรับงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดังกล่าว ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ของส่วนราชการต้นสังกัด หากไม่สามารถดำเนินการได้ ให้เบิกจ่ายจากงบกลาง รายการเงินเลื่อนเงินเดือนและเงินปรับวุฒิข้าราชการ เป็นลำดับต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๓. ให้กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการปฏิบัติงานด้านยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ควรดำเนินการให้มีความสมดุลกันทั้งในเรื่องของการปราบปรามยาเสพติดและการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดเพื่อให้การแก้ไขปัญหาทั้งสองด้านเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และให้ลงโทษทางวินัยอย่างเคร่งครัดกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||
774 | การแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของกระทรวงยุติธรรมและส่วนราชการที่อยู่ในบังคับบัญชาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม | ยธ | 22/02/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายชื่อผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของกระทรวงยุติธรรม และส่วนราชการที่อยู่ในบังคับบัญชาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.) ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. แต่งตั้งให้ นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็น ปคร. ของกระทรวงยุติธรรม ๒. แต่งตั้งให้ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เป็น ปคร. ของสำนักงาน ป.ป.ส. ๓. แต่งตั้งให้ พันตำรวจเอก ดุษฎี อารยวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เป็น ปคร. ของสำนักงาน ป.ป.ท.
|
||||||||||||||||||||||||||||||
775 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันเกินวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 และขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่าย เพิ่มเติม งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อชำระหนี้ค่าวัสดุอาหาร ปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 | ยธ | 22/02/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้
๑. ให้กรมราชทัณฑ์ก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายวัสดุอาหารผู้ต้องขังและผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ๒. สำหรับงบประมาณรายจ่ายเพื่อชำระหนี้ค่าวัสดุอาหารค้างชำระที่เกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ จำนวน ๓๑๘,๙๒๕,๑๗๐ บาท นั้น เมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ประกาศใช้บังคับแล้ว เห็นสมควรให้กรมราชทัณฑ์เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ที่ได้รับจัดสรรงบประมาณเป็นค่าวัสดุอาหารไว้แล้ว จำนวน ๒,๕๘๗,๐๔๔,๐๐๐ บาท ไปก่อน หากงบประมาณที่ได้รับจัดสรรดังกล่าวมีไม่เพียงพอ ให้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่าย งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพิ่มเติมในระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ตามความจำเป็นต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
776 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง | ยธ | 22/02/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งพลตำรวจตรี เกษม รัตนสุนทร ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
777 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน) | ยธ | 22/02/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน) ใช้จ่ายงบประมาณจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๑๙๘,๙๖๒,๕๐๐ บาท เพื่อเป็นทุนประเดิมในการจัดตั้งสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย จำนวน ๙๘,๙๖๒,๕๐๐ บาท และเป็นค่าดำเนินการอนุวัติข้อกำหนดสหประชาชาติว่าด้วยการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิงและมาตรการที่มิใช่การคุมขัง หรือ “Bangkok Rules” จำนวน ๑๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยให้สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน) ขอทำความตกลงในรายละเอียดค่าใช้จ่ายกับสำนักงบประมาณโดยตรงต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
778 | ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 13/02/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช .... ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยร่างรัฐธรรมนูญฯ มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ดังต่อไปนี้ ๑.๑ กำหนดให้รัฐสภาประชุมร่วมกันในกรณีการให้ความเห็นชอบสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญซึ่งมาจากการคัดเลือกโดยที่ประชุมรัฐสภา และกรณีการให้ความเห็นชอบญัตติให้มีการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ๑.๒ กำหนดให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญเพื่อทำหน้าที่จัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และกำหนดกระบวนการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมรับข้อสังเกตเพิ่มเติมของรองนายกรัฐมนตรี (ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง) ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วเสนอร่างรัฐธรรมนูญฯ ให้รัฐสภาพิจารณาต่อไป ดังนี้ ๒.๑ ควรกำหนดลักษณะต้องห้ามมิให้พนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของหน่วยงานของรัฐ ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อให้สอดคล้องกับการกำหนดลักษณะต้องห้ามของบุคคลผู้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามมาตรา ๑๐๒ (๑๑) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ๒.๒ ควรกำหนดระยะเวลาให้คณะกรรมการการเลือกตั้งจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญให้ชัดเจน เช่น ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเจ็บสิบห้าวันนับแต่วันสิ้นสุดการรับสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ๒.๓ กรณีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญว่างลงเหลือไม่ถึงกึ่งหนึ่งหรือระยะเวลาการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญเหลือไม่ถึงเก้าสิบวัน จะต้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งหรือรัฐสภาดำเนินการเลือกตั้งหรือคัดเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นแทนตำแหน่งที่ว่างหรือไม่ ควรกำหนดให้มีความชัดเจน ๒.๔ กรณีที่สภาร่างรัฐธรรมนูญไม่สามารถจัดทำร่างรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จภายในกำหนดระยะเวลาหนึ่งร้อยแปดสิบวัน คณะรัฐมนตรีหรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสามารถเสนอญัตติต่อรัฐสภาเพื่อให้รัฐสภามีมติให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้หรือไม่ ควรกำหนดให้มีความชัดเจน และในการกำหนดให้สภาร่างรัฐธรรมนูญจะต้องจัดทำร่างรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จภายในกำหนดระยะเวลาหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันถัดจากวันที่มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญครบจำนวน นั้น ควรกำหนดให้เริ่มนับระยะเวลาดังกล่าวเป็นให้นับแต่วันที่มีการประชุมสภาร่างรัฐธรรมนูญครั้งแรก และควรกำหนดระยะเวลาในการประชุมสภาร่างรัฐธรรมนูญครั้งแรกไว้ด้วย ๒.๕ ควรกำหนดให้สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญชุดเดิมมีสิทธิเสนอญัตติต่อรัฐสภาเพื่อให้รัฐสภามีมติให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วย ๒.๖ ควรกำหนดให้มีฝ่ายเลขานุการของสภาร่างรัฐธรรมนูญด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
779 | ขอให้คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐชุดใหม่ | ยธ | 13/02/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ ชุดใหม่ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ทรงคุณวุฒิเป็นกรรมการ และเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เป็นกรรมการและเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลให้องค์กรในภาครัฐจัดทำแผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการให้สอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ดำเนินการจัดสรรทรัพยากรสนับสนุนแผนงาน โครงการ ตามแผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการที่สอดรับกับยุทธศาสตร์ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ อำนวยการและประสานการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ รวมทั้งติดตามประเมินผลและแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ ๑.๒ ให้ส่วนราชการหน่วยงานภาครัฐจัดสรร/เจียดจ่ายเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ในโครงการต่าง ๆ แบ่งไปใช้จ่ายดำเนินการสนับสนุนในโครงการ/กิจกรรมตามแผนมาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของส่วนราชการและหน่วยงานภาครัฐ ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายสนับสนุนการดำเนินการตามแผนมาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของส่วนราชการและหน่วยงานภาครัฐในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ให้ส่วนราชการและหน่วยงานภาครัฐพิจารณาปรับแผนการดำเนินงานและแผนใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ของหน่วยงานมาดำเนินการ โดยให้ถือปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และรายงานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ฯ ทราบ และความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ฯ ควรเน้นส่งเสริมให้ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามาเป็นพลังร่วมในการแก้ไขปัญหาทุจริตคอรัปชั่นทั้งในระดับนโยบายและระดับปฏิบัติการ โดยเฉพาะการส่งเสริมบทบาทของภาคธุรกิจเอกชนในการป้องปรามการทุจริตคอรัปชั่น และการสร้างภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่นระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมต่าง ๆ การเร่งพัฒนาช่องทางให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารการปฏิบัติงานภาครัฐ การดำเนินโครงการขนาดใหญ่ การจัดสรรทรัพยากร และมีส่วนร่วมในการตรวจสอบค่าใช้จ่ายภาครัฐในทุกระดับ และให้ความสำคัญกับการพัฒนาตัวชี้วัดใหม่ ๆ ที่มีความสอดคล้องกับบริบทของสังคมและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งสนับสนุนให้ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการติดตามและประเมินผลการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ฯ ไปดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
780 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขายทอดตลาด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 24/01/2555 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขายทอดตลาด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยร่างกฎกระทรวงฯ มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขายทอดตลาด พ.ศ. ๒๕๕๔ ดังต่อไปนี้ ๑.๑ แก้ไขปรับปรุงรายการที่ต้องระบุไว้ในประกาศขายทอดตลาดเพื่อให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติ ๑.๒ แก้ไขปรับปรุงให้อธิบดีมีอำนาจออกหลักเกณฑ์ในการกำหนดราคาเริ่มต้นและราคาสมควรขายในการขายทอดตลาด ๑.๓ แก้ไขปรับปรุงวิธีการส่งประกาศการขายทอดตลาดให้สอดคล้องกับมาตรา ๓๐๖ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง และแนวการวินิจฉัยตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๖๔๘/๒๕๔๔ และ ๗๓๘๖/๒๕๕๒ ๑.๔ แก้ไขปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการกำหนดราคาทรัพย์ และกำหนดให้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกำหนดราคาทรัพย์ประจำจังหวัดขึ้นในทุกจังหวัด รวมทั้งปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการกำหนดราคาทรัพย์ให้เป็นไปตามแนวทางปฏิบัติเดิมของกรมบังคับคดี เพื่อให้การดำเนินการประชุมและกำหนดราคาทรัพย์เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ๑.๕ ยกเลิกวิธีการดำเนินการในกรณีมีผู้เสนอราคาในการขายทอดตลาดเพียงรายเดียว ๒. ให้เพิ่มผู้แทนกรมธนารักษ์เป็นอนุกรรมการในคณะอนุกรรมการกำหนดราคาทรัพย์ประจำจังหวัด และส่งร่างกฎกระทรวงฯ ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
.....