ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 39 จากทั้งหมด 97 หน้า แสดงรายการที่ 761 - 780 จากข้อมูลทั้งหมด 1937 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 761 | ร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการ กรมคุมประพฤติ พ.ศ. .... | ยธ | 10/07/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมคุมประพฤติ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีฯ มีสาระสำคัญคือ กำหนดลักษณะ ชนิด และประเภทของเครื่องแบบพิเศษเฉพาะสำหรับข้าราชการกรมคุมประพฤติ ดังนี้
๑. กำหนดชนิดหรือประเภทของเครื่องแบบพิเศษไว้สามชนิด ได้แก่ เครื่องแบบปฏิบัติงานปกติ เครื่องแบบปฏิบัติงานลำลอง และเครื่องแบบปฏิบัติงานสนาม ๒. กำหนดสิ่งประกอบหรือส่วนประกอบของเครื่องแบบพิเศษ ได้แก่ การกำหนดรายละเอียดของหมวก การกำหนดชั้นในการประดับเครื่องหมายตำแหน่งบนอินทรธนู การกำหนดเครื่องหมายแสดงระดับส่วนประกอบบนอินทรธนู ๓. การกำหนดเจ้าหน้าที่ผู้มีสิทธิแต่งเครื่องแบบพิเศษ
|
||||||||||||||||||||||||
| 762 | ขออนุมัติในหลักการให้สำนักงาน ป.ป.ส. ดำเนินโครงการความร่วมมือกับพม่าด้านการพัฒนาทางเลือก | ยธ | 10/07/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการหารือร่วมกันระหว่างสำนักงาน ป.ป.ส. กับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (พม่า) ด้านการพัฒนาทางเลือก ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
๑. สาระสำคัญของผลการหารือ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ รัฐบาลพม่าให้ความเห็นชอบข้อเสนอในการดำเนินโครงการความร่วมมือไทย-พม่าด้านการพัฒนาทางเลือก ตามที่สำนักงาน ป.ป.ส. ได้เสนอผ่านคณะกรรมการกลางเพื่อการควบคุมยาเสพติด (Central Committee for Drug Abuse Control : CCDAC) และมอบหมายให้ CCDAC เป็นหน่วยงานรับผิดชอบในการกำหนดแนวทางความร่วมมือกับสำนักงาน ป.ป.ส. โดยมี NATALA และมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ เป็นหน่วยงานผู้ปฏิบัติ ๑.๒ ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกันที่จะเร่งจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการพัฒนาทางเลือกเพื่อใช้เป็นกรอบในการดำเนินความร่วมมือระหว่างกันให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ๑.๓ ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกันที่จะสำรวจพื้นที่ดำเนินโครงการ ๒ จุด ตามที่คณะกรรมการกลางเพื่อการควบคุมยาเสพติด (Central Committee for Drug Abuse Control : CCDAC) เสนอ ๒ พื้นที่ ได้แก่ บ้านจอผละ (Gyaw pha) จังหวัดท่าขี้เหล็ก และบ้านเลพายิน (Lwe pa yin) เมืองสาด ระหว่างวันที่ ๒๑ - ๒๖ มีนาคม ๒๕๕๕ โดยจะจัดตั้งทีมสำรวจพื้นที่ร่วมกัน ๑.๔ ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบกับขั้นตอนการเตรียมการดำเนินงานร่วมกัน โดยขั้นที่ ๑ หลังจากสำรวจพื้นที่แล้วมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ จะจัดการศึกษาดูงานโครงการพัฒนาดอยตุงฯ ให้แก่ทีมสำรวจพื้นที่ของพม่า เป็นเวลา ๗ วัน ภายในเดือนเมษายน ๒๕๕๕ ขั้นที่ ๒ ฝ่ายพม่าจะคัดเลือกผู้แทนชาวบ้านจากหมู่บ้านในพื้นที่โครงการ หมู่บ้านละ ๒ คน และมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ จะให้การฝึกอบรมหลักสูตรการพัฒนาแบบเข้มข้นเป็นเวลา ๑ เดือน ภายในเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๕ ส่วนขั้นที่ ๓ ผู้แทนชาวบ้านที่ได้ผ่านการฝึกอบรมแล้วจะกลับไปดำเนินการสำรวจพื้นที่ในแต่ละหมู่บ้าน ระหว่างเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม ๒๕๕๕ และส่งข้อมูลผลการสำรวจให้แก่มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ภายในเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๕ และขั้นที่ ๔ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ จะใช้เวลา ๑ เดือนในการร่างแผนงานโครงการ และจะเสนอให้ฝ่ายพม่าพิจารณาภายในเดือนสิงหาคม ๑.๕ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะดำเนินโครงการระยะเวลา ๖ ปี โดยแบ่งเป็น ๒ ระยะ ๆ ละ ๓ ปี ทั้งนี้ เพื่อให้ผลอย่างยั่งยืนในการทำให้ชาวบ้านในพื้นที่อยู่ได้ด้วยตัวเองหลังจากที่โครงการสิ้นสุดลงแล้ว ๒. ในการเตรียมการดำเนินงานโครงการความร่วมมือไทย-พม่าด้านการพัฒนาทางเลือก สำนักงาน ป.ป.ส. ได้เตรียมที่จะจัดสรรงบประมาณหมวดเงินอุดหนุน ประเภททั่วไป ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ จำนวน ๑๕ ล้านบาท ให้แก่มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ สำหรับการเตรียมการดำเนินโครงการฯ ที่จะส่งทีมสำรวจฝ่ายไทยเข้าไปสำรวจพื้นที่ในพม่าและจัดการฝึกอบรมให้แก่ฝ่ายพม่า และจะจัดทำร่างบันทึกความเข้าใจฯ เสนอให้ฝ่ายพม่าพิจารณาภายในเดือนมีนาคม ๒๕๕๕ โดยหากทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกันกับร่างบันทึกความเข้าใจฯ สำนักงาน ป.ป.ส. จะเสนอร่างบันทึกความเข้าใจฯ เพื่อขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี และหลังจากที่ร่างบันทึกความเข้าใจฯ ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศแล้ว สำนักงาน ป.ป.ส. จะเสนอแผนงานโครงการฯ ในรายละเอียดพร้อมงบประมาณดำเนินโครงการฯ เพื่อขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีในโอกาสต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
| 763 | ร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กำหนดอุปกรณ์เพื่อช่วยในการแสดงสัญญาณจราจร และกำหนดข้อสันนิษฐานกรณีผู้ขับขี่ไม่ยอมให้ทดสอบโดยไม่มีเหตุอันควร) | ยธ | 10/07/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป โดยร่างพระราชบัญญัติฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ใช้ไฟฉายเรืองแสงหรืออุปกรณ์เรืองแสงอื่นในการแสดงสัญญาณจราจรได้ ๒. กำหนดให้เจ้าพนักงานจราจร พนักงานสอบสวน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งให้มีการทดสอบผู้ขับขี่ว่าหย่อนความสามารถในอันที่จะขับหรือเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น และให้มีอำนาจกักตัวผู้ขับขี่ที่มีพฤติการณ์ดังกล่าวและไม่ยอมให้ทดสอบในกรณีผู้ขับขี่ถูกกักตัวไว้ทดสอบแล้ว หากผู้นั้นไม่ยอมให้ทดสอบโดยไม่มีเหตุอันสมควรให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้นั้นขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น |
||||||||||||||||||||||||
| 764 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคดีพิเศษ (นายประดิษฐ์ เอกมณี) | ยธ | 03/07/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายประดิษฐ์ เอกมณี เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ และกระบวนการดำเนินคดีแพ่งและคดีอาญา ในคณะกรรมการคดีพิเศษ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓ กรกฎาคม ๒๕๕๕) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 765 | ร่างข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม กับหน่วยงานต่างประเทศ | ยธ | 05/06/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม กับหน่วยงานต่างประเทศ จำนวน ๓ แห่ง ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ สถาบันนิติเวชศาสตร์วิคตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย โดยเจตนารมณ์ของบันทึกความเข้าใจฯ คู่ตกลงเห็นพ้องต้องกันในการพัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศในกิจกรรมและหลักสูตรต่าง ๆ เพื่อวัตถุประสงค์ทางด้านมนุษยธรรม ด้านการอำนวยความสะดวกด้านนิติเวชศาสตร์และการแลกเปลี่ยนทางวิชาการและการให้ความร่วมมือด้านนิติวิทยาศาสตร์สาขาต่าง ๆ ๑.๒ ทีมนักมานุษยวิทยา ประเทศอาร์เจนตินา โดยเจตนารมณ์ของบันทึกความเข้าใจฯ คู่ตกลงเห็นพ้องต้องกันในการพัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศในกิจกรรมและหลักสูตรต่าง ๆ ในด้านการพิสูจน์บุคคลสูญหายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องสิทธิมนุษยชน รวมถึงเหตุภัยพิบัติและอาชญากรรม ด้วยการอำนวยความสะดวกด้านนิติมานุษยวิทยาและการแลกเปลี่ยนทางวิชาการและการให้ความร่วมมือด้านนิติวิทยาศาสตร์สาขาต่าง ๆ ๑.๓ หน่วยบัญชาการสอบสวนทางอาญา กระทรวงกลาโหม สาธารณรัฐเกาหลีใต้ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการและความร่วมมือทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยเจตนารมณ์ของบันทึกความเข้าใจฯ คู่ตกลงจะร่วมมือและช่วยเหลือซึ่งกันและกันด้านการเสริมสร้างศักยภาพและการพัฒนาวิชาชีพ ซึ่งรวมถึงการแลกเปลี่ยนบุคลากรเพื่อวัตถุประสงค์ในการศึกษาหาความรู้ การฝึกอบรมในหลักสูตรต่าง ๆ การเข้าร่วมสัมมนา ประชุม และอื่น ๆ การจัดหาเครื่องมือและทรัพยากร การพัฒนาวิธีการวิเคราะห์ รวมทั้งการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมแก้ไขชื่อภาษาไทยของ Memorandum of Understanding ให้เป็นชื่อเดียวกันว่า “บันทึกความเข้าใจ” ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา |
||||||||||||||||||||||||
| 766 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขายทอดตลาด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 29/05/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขายทอดตลาด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมจากร่างที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขายทอดตลาด พ.ศ. ๒๕๕๔ เพื่อปรับปรุงเกี่ยวกับการประกาศขายทอดตลาด การกำหนดราคาทรัพย์ในการขายทอดตลาด และการถอนทรัพย์ออกจากการขายทอดตลาด ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 767 | การถอนคำแถลงตีความข้อบทที่ 6 วรรค 5 และ ข้อบทที่ 9 วรรค 3 ภายใต้กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง | ยธ | 20/05/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบต่อการถอนคำแถลงตีความข้อบทที่ ๖ วรรค ๕ (เรื่อง การพิพากษาประหารชีวิตบุคคลอายุต่ำกว่า ๑๘ ปี) และข้อบทที่ ๙ วรรค ๓ (เรื่อง ระยะเวลาในการนำผู้ถูกจับกุมไปศาล) ภายใต้กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง โดยมีสาระสำคัญดังนี้ ๑.๑ ข้อบทที่ ๖ วรรค ๕ เรื่อง การพิพากษาประหารชีวิตบุคคลอายุต่ำกว่า ๑๘ ปี ซึ่งประเทศไทยได้ทำคำแถลงตีความเพื่อชี้แจงเกี่ยวกับการปฏิบัติของไทยตามประมวลกฎหมายอาญาว่า ตามกฎหมายดังกล่าวในทางปฏิบัติประเทศไทยไม่เคยมีการพิพากษาประหารชีวิตบุคคลอายุต่ำกว่า ๑๘ ปี ทั้งนี้ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๔ บัญญัติว่า เด็กอายุไม่เกิน ๑๔ ปี ไม่ต้องรับโทษสำหรับความผิดที่กระทำ และมาตรา ๗๕ บัญญัติว่า เด็กอายุกว่า ๑๔ ปี แต่ยังไม่เกิน ๑๗ ปี หากศาลจะพิพากษาลงโทษ ศาลต้องลดมาตราส่วนโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดลงกึ่งหนึ่ง ส่วนผู้ที่มีอายุกว่า ๑๗ ปี แต่ไม่เกิน ๒๐ ปี นั้น มาตรา ๗๖ บัญญัติมีผลว่า แม้กระทำความผิดที่มีโทษถึงประหารชีวิต แต่กฎหมายไทยก็ได้ให้อำนาจศาลใช้ดุลยพินิจว่าจะลดมาตราส่วนโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นลงหนึ่งในสามหรือกึ่งหนึ่งก็ได้ และในทางปฏิบัติศาลได้ใช้ดุลยพินิจลดมาตราส่วนโทษให้เสมอ จึงไม่เคยมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ประหารชีวิตบุคคลอายุต่ำกว่า ๑๘ ปี ๑.๒ ข้อบทที่ ๙ วรรค ๓ เรื่อง ระยะเวลาในการนำผู้ถูกจับกุมไปศาล ซึ่งกติกาใช้คำว่า “โดยพลัน” นั้น ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาของไทย (ฉบับที่ ๑๔) พ.ศ. ๒๕๒๕ มาตรา ๘๗ วรรคสาม ได้ให้อำนาจพนักงานสอบสวนควบคุมตัวผู้ต้องหาก่อนนำตัวไปศาลไว้ได้ ๔๘ ชั่วโมง แต่หากการสอบสวนไม่เสร็จสิ้น ก็สามารถควบคุมตัวต่อได้ถึง ๗ วันนั้น ไม่สอดคล้องกับกติกา ดังนั้น ประเทศไทยจึงได้ทำคำแถลงชี้แจงว่า ไทยจะปฏิบัติตามพันธกรณีในข้อนี้ในลักษณะที่กฎหมายไทยกำหนดไว้ในขณะนั้น ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการถอนคำแถลงตีความ ข้อบทที่ ๖ วรรค ๕ และข้อบทที่ ๙ วรรค ๓ ภายใต้กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ
|
||||||||||||||||||||||||
| 768 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเจ้าหน้าที่ของรัฐและผู้มีอำนาจออกบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. 2542 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 20/05/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเจ้าหน้าที่ของรัฐและผู้มีอำนาจออกบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. ๒๕๔๒ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างพระราชกฤษฎีกาฯ มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกากำหนดเจ้าหน้าที่ของรัฐและผู้มีอำนาจออกบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. ๒๕๔๒ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๔๕ ดังต่อไปนี้
๑. กำหนดให้ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ และกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ตามพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามกฎหมายว่าด้วยบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ ๒. กำหนดให้ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเป็นผู้มีอำนาจออกบัตรประจำตัว
|
||||||||||||||||||||||||
| 769 | รายงานประจำปี พ.ศ. 2553 คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ | ยธ | 20/05/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ของคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง) ประธานกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลงานสำคัญในช่วงระหว่าง พ.ศ. ๒๕๕๓ มีดังนี้ ๑.๑ การจัดทำแผนและการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนาระบบงานยุติธรรม ได้แก่ แผนแม่บทการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๒ -๒๕๕๕ และแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๕๒ - ๒๕๕๕ ๑.๒ การประสานข้อมูล เครือข่ายการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาระบบการบริหารงานยุติธรรม ได้แก่ โครงการป้องกันและควบคุมอาชญากรรมในเขตเมืองด้วยกระบวนการมีส่วนร่วม โครงการคืนคนดีสู่สังคม โครงการศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลกระบวนการยุติธรรม และการส่งเสริมประสานความร่วมมือเพื่อพัฒนาระบบการบริหารงานยุติธรรม ๑.๓ การศึกษา วิจัยและพัฒนากฎหมาย และระบบงานยุติธรรม ได้แก่ การพัฒนาการกำหนดความผิด โทษ และมาตรการทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญาของไทย การพัฒนาระบบราชทัณฑ์ การพัฒนางานด้านนิติวิทยาศาสตร์ โครงการสำรวจข้อมูลการกระทำผิดด้วยการรายงานตนเอง (Self Reported Crime Survey) และการประชุมทางวิชาการระดับชาติว่าด้วยงานยุติธรรม ครั้งที่ ๘ เรื่อง “นิติรัฐและพลเมือง : ทางออกประเทศไทย” ๑.๔ การประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้สู่สังคม ได้แก่ การเสวนาทางวิชาการ “ยุติธรรม : ความสำเร็จของกระบวนการยุติธรรมระดับพื้นที่” โครงการยกย่องผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับกระบวนการยุติธรรม “รางวัลยุติธรรมธร” การเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม และการเผยแพร่ข้อมูลคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ ๑.๕ การพัฒนาบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม ได้แก่ การจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม และการฝึกอบรมหลักสูตรการบริหารงานยุติธรรมระดับสูง (ยธส.) ๒. รายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ ของคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ ประกอบด้วย ด้านการจัดทำแผนและขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การบริหารงานยุติธรรม ด้านการส่งเสริมประสานความร่วมมือเพื่อพัฒนาระบบการบริหารงานยุติธรรม ด้านการวิจัย พัฒนากฎหมาย และการบริหารงานยุติธรรม ด้านการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการบริหารงานยุติธรรม ด้านการพัฒนาบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม ด้านการส่งเสริมพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมระดับพื้นที่ และภารกิจด้านงานเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแหงชาติ รวมค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน ๔๗,๐๑๗,๙๗๕.๐๑ บาท
|
||||||||||||||||||||||||
| 770 | ขอต่อเวลาการดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรม (นักบริหารระดับสูง) (กระทรวงยุติธรรม) | ยธ | 14/05/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของนายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรม (นักบริหารระดับสูง) ซึ่งดำรงตำแหน่งดังกล่าวเมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๕๑ ครบกำหนด ๔ ปี ในวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ต่อไปอีก ๑ ปี (ครั้งที่ ๑) ตั้งแต่วันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ถึงวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 771 | ขออัตรากำลังข้าราชการเพิ่ม | ยธ | 01/05/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๒ (ฝ่ายกระบวนการยุติธรรม กฎหมาย แรงงาน และประชาสัมพันธ์) ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง) เป็นประธานกรรมการ ในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๕ ที่อนุมัติเพิ่มอัตรากำลังข้าราชการให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) อีกจำนวน ๑๕๐ อัตรา เพื่อปฏิบัติภารกิจในการปราบปรามยาเสพติด และภารกิจบังคับโทษปรับตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ. ๒๕๕๐ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๕๓ [เรื่อง มาตรการบริหารกำลังคนภาครัฐ (พ.ศ. ๒๕๕๒ - ๒๕๕๖)]
|
||||||||||||||||||||||||
| 772 | ขอต่อเวลาการดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบัน (นักบริหารระดับสูง) สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ (กระทรวงยุติธรรม) | ยธ | 01/05/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ซึ่งดำรงตำแหน่งติดต่อกันครบ ๔ ปี ในวันที่ ๘ เมษายน ๒๕๕๕ ออกไปอีก ๑ ปี (ครั้งที่ ๑) ตั้งแต่วันที่ ๙ เมษายน ๒๕๕๕ ถึงวันที่ ๘ เมษายน ๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 773 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงยุติธรรม) | ยธ | 17/04/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายณรงค์ รัตนานุกูล ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๔ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 774 | การจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ "โครงการหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มหาราชินี" | ยธ | 17/04/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง) ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. การจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ “โครงการหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน เฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา มหาราชินี” สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ โครงการหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน เฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา มหาราชินี” มีวัตถุประสงค์เพื่อเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ในวันที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยมีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อระดมประชาชนสาขาอาชีพต่าง ๆ ทั่วประเทศร่วมกันแสดงออกซึ่งความจงรักภักดี ด้วยการขับเคลื่อนกิจกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่าต่อเนื่อง ภายใต้ “กองทุนแม่ของแผ่นดิน” และเพื่อใช้แนวทางกองทุนแม่ของแผ่นดิน ลดสถานการณ์ปัญหายาเสพติด สร้างความเข้มแข็งพลังแผ่นดิน สร้างความยั่งยืนให้กับหมู่บ้าน/ชุมชนทั่วประเทศ โดยมีแนวทางและกลยุทธการดำเนินการ ประกอบด้วย ๖ แนวทางหลัก ได้แก่ ๑.๑.๑ แนวทางที่ ๑ การสร้างกระแสความตื่นตัวและประชาสัมพันธ์ผ่านช่องสื่อต่าง ๆ เช่น โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น เพื่อรณรงค์กระตุ้นจิตสำนึก สร้างกระแสการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน และประชาชน ให้เกิดความตื่นตัวกระทำความดีต่อต้านยาเสพติด และร่วมเป็นส่วนหนึ่ง เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี สืบสานปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และปณิธานกองทุนแม่ของแผ่นดิน ๑.๑.๒ แนวทางที่ ๒ การสร้างความมั่นคงให้กับหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดินที่ได้รับแต่เดิม ให้สามารถลดและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ได้ โดยเน้นบทบาทภาคประชาชนสมานฉันท์ และสามัคคี เสริมบทบาทแกนนำหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน ก่อนที่จะพัฒนาไปสู่ความยั่งยืน ๑.๑.๓ แนวทางที่ ๓ สร้างศูนย์เรียนรู้กองทุนแม่ของแผ่นดินให้เป็นแบบอย่างการพัฒนาและการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน โดยการสร้าง ๑ อำเภอ ๑ ศูนย์เรียนรู้กองทุนแม่ของแผ่นดิน และให้มีการบูรณาการกับเศรษฐกิจพอเพียงอย่างยั่งยืน โดยกำหนดหมู่บ้านตัวอย่าง ๘๐ แห่ง เทิดพระเกียรติ ๘๐ พรรษา มหาราชินี ๑.๑.๔ แนวทางที่ ๔ ขยายหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดินเพิ่มใหม่ในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ จังหวัดละ ๒๐ - ๕๐ แห่ง โดยยึดหลักคุณภาพในทุกกระบวนการ เพื่อให้ได้หมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดินที่จะเข้ารับพระราชทานเชิงคุณภาพ ๑.๑.๕ แนวทางที่ ๕ สร้างกระแส สร้างกิจกรรมกองทุนแม่ของแผ่นดินในระดับพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นการสร้างความยั่งยืนให้กับกองทุนแม่ของแผ่นดิน หากทุกหมู่บ้าน/ชุมชนทั่วประเทศได้กระทำอย่างพร้อมเพรียงกันแล้วย่อมเกิดเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ ทั้งพลังแห่งความสามัคคี พลังแห่งความดี และพลังแห่งความจงรักภักดี ๑.๑.๖ แนวทางที่ ๖ การพัฒนาความพร้อมการดำเนินงานเชิงคุณภาพทั้งการพัฒนาวิทยากรกระบวนการกองทุนแม่ของแผ่นดิน การพัฒนาประสิทธิภาพของเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดิน ระดับอำเภอ จังหวัด ภาค ประเทศ การพัฒนากลไกผู้ประสานงานกลางกองทุนแม่ของแผ่นดินในระดับพื้นที่ และการพัฒนาองค์ความรู้ และจัดระบบข้อมูล เพื่อให้โครงการกองทุนแม่ของแผ่นดิน เฉลิมฉลอง ๘๐ พรรษา มหาราชินี อย่างสมพระเกียรติ และเปี่ยมไปด้วยความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ๑.๒ โครงสร้างการบริหารจัดการ ๑.๒.๑ ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ เป็นกลไกบริหารจัดการโครงการหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน มีบทบาทหน้าที่การวางกรอบนโยบาย มาตรการ กลยุทธ์ แนวทางปฏิบัติ ๑.๒.๒ ระดับส่วนกลาง มีคณะกรรมการอำนวยการโครงการหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน เฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา มหาราชินี (คณะกรรมการกองทุนแม่ของแผ่นดิน ๘๐ พรรษา) ๑.๒.๓ ระดับจังหวัด โดยศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดระดับจังหวัด/กรุงเทพมหานคร เป็นกลไกบริหารจัดการสูงสุดในงานกองทุนแม่ของแผ่นดินในระดับจังหวัด และมีการจัดตั้งกลไกเพิ่มเติม ได้แก่ คณะกรรมการกองทุนแม่ของแผ่นดิน ๘๐ พรรษา ระดับจังหวัด หรือคณะกรรมการขับเคลื่อนกองทุนแม่ของแผ่นดินระดับจังหวัด ๑.๒.๔ ระดับอำเภอ โดยศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดระดับอำเภอ/เขต เป็นกลไกบริหารจัดการในงานกองทุนแม่ของแผ่นดินในระดับอำเภอ/เขต และมีการจัดตั้งกลไกเพิ่มเติม ได้แก่ คณะกรรมการกองทุนแม่ของแผ่นดิน ๘๐ พรรษาระดับอำเภอ/เขต หรือคณะกรรมการขับเคลื่อนกองทุนแม่ของแผ่นดินระดับอำเภอ/เขต ๑.๓ งบประมาณในการดำเนินโครงการ ประกอบด้วย งบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด งบประมาณจากกระทรวงมหาดไทย งบประมาณจากจังหวัด งบประมาณจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น งบประมาณสมทบจากหมู่บ้าน/ชุมชน และงบกลางของรัฐบาล ๑.๔ ระยะเวลาการปฏิบัติงาน ตั้งแต่เดือนมีนาคม ๒๕๕๕ - ธันวาคม ๒๕๕๕ ๒. ให้หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และองค์กรต่าง ๆ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุน เผยแพร่ รณรงค์ประชาสัมพันธ์การดำเนินงาน “โครงการหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน เฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา มหาราชินี”
|
||||||||||||||||||||||||
| 775 | ร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการของหน่วยงานที่ปฏิบัติงานด้านปฏิบัติการพิเศษของกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. .... | ยธ | 10/04/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการของหน่วยงานที่ปฏิบัติงานด้านปฏิบัติการพิเศษของกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดลักษณะ ชนิด และประเภทของเครื่องแบบพิเศษเฉพาะสำหรับข้าราชการของหน่วยงานที่ปฏิบัติงานด้านปฏิบัติการพิเศษของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 776 | การเสนอรายชื่อบุคคลเพื่อให้คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย | ยธ | 10/04/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย จำนวน ๖ คน ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
๑. ศาสตราจารย์พิเศษชัยเกษม นิติสิริ ประธานกรรมการ ๒. คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. นายรอยล จิตรดอน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๔. คุณหญิงลักษณาจันทร เลาหพันธุ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. นายวิทยา สุริยะวงศ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๖. ศาสตราจารย์สุรศักดิ์ ลิขสิทธิ์วัฒนกุล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
||||||||||||||||||||||||
| 777 | การบริจาคเงินสมทบกองทุนสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา | ยธ | 10/04/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติงบกลางเพื่อการจ่ายเงินสมทบแก่กองทุนด้านอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา (United Nations Crime Prevention and Criminal Justice Fund CPCJ Fund) ทั้งนี้ เพื่อให้ทันกับกำหนดการจัดประชุมคณะกรรมาธิการว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา สมัยปัจจุบันระหว่างวันที่ ๒๓ - ๒๗ เมษายน ๒๕๕๕ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ประกอบด้วย ๑.๑ เงินบริจาคซึ่งระบุวัตถุประสงค์เป็นการเฉพาะ (Specific Purpose Fund) เพื่อสนับสนุนการดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการ (Technical Assistance) เพื่อส่งเสริมการอนุวัติข้อกำหนดกรุงเทพ (Bangkok Rules) ในกลุ่มประเทศอาเซียน จำนวน ๖,๓๖๐,๐๐๐ บาท หรือประมาณ ๒๐๕,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ ๑.๒ เงินซึ่งระบุวัตถุประสงค์เป็นการเฉพาะ เพื่อสนับสนุนการเผยแพร่และประยุกต์ใช้ “แม่แบบฉบับปรับปรุงว่าด้วยกลยุทธ์และมาตรการเชิงปฏิบัติในการขจัดความรุนแรงต่อผู้หญิงในงานด้านการป้องกันอาชญากรรมและกระบวนการยุติธรรมทางอาญา (Updated Model Strategies and Practical Measures on the Elimination of Violence Against Women in the Field of Crime Prevention and Criminal Justice) จำนวน ๓,๑๘๐,๐๐๐ บาท หรือประมาณ ๑๐๒,๕๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ ๑.๓ เงินสนับสนุนทั่วไป (General - purpose funds) ซึ่งเป็นงบประมาณส่วนสำคัญที่สำนักงาน UNODC ใช้ในการบริหารจัดการการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพ จำนวน ๓,๑๐๐,๐๐๐ บาท หรือประมาณ ๑๐๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๑๒,๖๔๐,๐๐๐ บาท
|
||||||||||||||||||||||||
| 778 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการที่ใช้ในการจำกัดการเดินทางและอาณาเขต พ.ศ. .... | ยธ | 02/04/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการที่ใช้ในการจำกัดการเดินทางและอาณาเขต พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎกระทรวงฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กำหนดบทนิยามคำว่า “การจำกัดการเดินทางและอาณาเขต” “อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์” “เจ้าพนักงาน” “พนักงานเจ้าหน้าที่” และ “ผู้ถูกจำกัด” ๒. กำหนดให้กฎกระทรวงฉบับนี้ใช้บังคับในกรณีการจำคุกโดยวิธีการอื่นที่สามารถจำกัดการเดินทางและอาณาเขตตามมาตรา ๘๙/๒ วรรคหนึ่ง (๓) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ๓. กำหนดให้ผู้ถูกจำกัดจะต้องชำระค่าธรรมเนียม และวางเงินประกันในการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตามอัตราที่ระเบียบกระทรวงยุติธรรมกำหนด ๔. กำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจและหน้าที่ในการปฏิบัติตามกฎกระทรวงนี้ เช่น ตรวจสอบข้อเท็จจริง รายงานข้อเท็จจริง เรียกผู้ถูกจำกัดมาสอบถาม เป็นต้น |
||||||||||||||||||||||||
| 779 | การเสนอรายชื่อบุคคลที่สมควรได้รับการเสนอชื่อให้เป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ | ยธ | 02/04/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการเสนอชื่อนายอุดม มั่งมีดี ให้เป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบตามลำดับต่อไป ทั้งนี้ เมื่อสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาได้ให้ความเห็นชอบแล้ว ให้กระทรวงยุติธรรมรับไปดำเนินการตามมาตรา ๗ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๕๑ แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อแต่งตั้งบุคคลดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง
|
||||||||||||||||||||||||
| 780 | การพิจารณาบำเหน็จความชอบประจำปี 2554 (กรณีพิเศษ) ให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด | ยธ | 13/03/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง) ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้มีการพิจารณาบำเหน็จความชอบประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็นกรณีพิเศษ ให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้มีผลการปฏิบัติงานด้านยาเสพติดดีเด่นไม่เกินร้อยละ ๒.๕ ของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดโดยตรง จำนวน ๒๙๙,๗๘๙ คน คิดเป็นอัตราไม่เกิน ๗,๔๙๔ คน ๑.๒ ให้มีการพิจารณาบำเหน็จความชอบประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็นกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้มีผลการปฏิบัติงานด้านยาเสพติดดีเด่นไม่เกินร้อยละ ๐.๕ ของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเกื้อกูลต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติด จำนวน ๔๓๑,๑๑๘ คน คิดเป็นอัตราไม่เกิน ๒,๑๕๕ คน ๑.๓ ในกรณีของผู้ที่เงินเดือนเต็มขั้นให้ได้รับค่าตอบแทนเป็นไปตามระเบียบที่กระทรวงการคลังกำหนด ๒. สำหรับงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดังกล่าว ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ของส่วนราชการต้นสังกัด หากไม่สามารถดำเนินการได้ ให้เบิกจ่ายจากงบกลาง รายการเงินเลื่อนเงินเดือนและเงินปรับวุฒิข้าราชการ เป็นลำดับต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๓. ให้กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการปฏิบัติงานด้านยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ควรดำเนินการให้มีความสมดุลกันทั้งในเรื่องของการปราบปรามยาเสพติดและการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดเพื่อให้การแก้ไขปัญหาทั้งสองด้านเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และให้ลงโทษทางวินัยอย่างเคร่งครัดกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
.....
