ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 40 จากทั้งหมด 97 หน้า แสดงรายการที่ 781 - 800 จากข้อมูลทั้งหมด 1930 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
781 | สรุปผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด (ในช่วงระหว่างวันที่ 11 กันยายน 2554 - 30 พฤศจิกายน 2554) | ยธ | 15/01/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติด ตามยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๕๕ รวม ๗ แผนงาน ตั้งแต่เปิดแผนปฏิบัติการวันที่ ๑๑ กันยายน - ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง) ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. แผนงานที่ ๑ การสร้างพลังสังคมและพลังชุมชนเอาชนะยาเสพติด ได้แก่ การดำเนินกิจกรรมการดำเนินการในหมู่บ้าน/ชุมชน ทั้งการทำประชาคม การค้นหาผู้เสพ/ผู้ติด/ผู้ค้า การนำผู้เสพ/ผู้ติดเข้ารับการบำบัดรักษา การดำเนินการกับผู้ค้าตามกฎหมาย การปิดล้อมตรวจค้น ฯลฯ เป้าหมาย ๖๐,๕๘๔ หมู่บ้าน/ชุมชน ดำเนินการแล้ว ๑๓,๙๐๑ หมู่บ้าน/ชุมชน การเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน เป้าหมาย ๑๒,๑๘๙ หมู่บ้าน/ชุมชน ดำเนินการแล้ว ๒,๗๙๔ หมู่บ้าน/ชุมชน การดำเนินการพัฒนาหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดินดีเด่นให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ ๑ อำเภอ ๑ ศูนย์การเรียนรู้ เป้าหมายในการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ ๘๕๐ แห่ง ดำเนินการแล้ว ๕๐๘ แห่ง และการสร้างและพัฒนาความรู้ด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติดแก่ผู้นำชุมชน และเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป้าหมาย ๒๐,๐๐๐ คน ผลการดำเนินการพัฒนาผู้นำและผู้มีรายชื่อ ๔๙๑ คน ๒. แผนงานที่ ๒ การแก้ไขปัญหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด ได้แก่ การดำเนินการแก้ไขปัญหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด โดยการนำเข้าสู่ระบบการบำบัดรักษาในระบบสมัครใจ การบำบัดรักษาในระบบบังคับบำบัด และการบำบัดรักษาในระบบต้องโทษ รวมถึงการบำบัดรักษาในค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมฯ เป้าหมายการนำผู้เสพ/ผู้ติดเข้ารับการบำบัดรักษา ๔๐๐,๐๐๐ คน มีผลการบำบัดรักษา ๒๙,๕๔๗ คน และการจัดตั้งศูนย์ Demand จังหวัด เพื่อเป็นศูนย์ฟื้นฟูฯ ในการบำบัดรักษา โดยมีเป้าหมายให้มีการจัดตั้ง จำนวน ๑ จังหวัด ๑ ศูนย์ รวม ๗๗ จังหวัด มีผลการจัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูฯ แล้ว ๕๗ ศูนย์ ใน ๕๗ จังหวัด ๓. แผนงานที่ ๓ การสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติด ได้แก่ การสร้างระบบป้องกันสถานศึกษา โดยจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าปฏิบัติงานประจำโรงเรียนเพื่อเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดไม่ให้เข้าสู่โรงเรียน จำนวน ๗๓๐ โรงเรียน การดำเนินงานเพื่อขจัดปัจจัยเสี่ยงรอบสถานศึกษา เป้าหมายการดำเนินงานใน ๗๗ จังหวัด ดำเนินการแล้ว ๗๒ จังหวัด โดยจังหวัดที่มีการดำเนินการออกตรวจสูงสุดคือ จังหวัดนครราชสีมา ศรีสะเกษ อุดรธานี เชียงใหม่ และตราด และการจัดกิจกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานประกอบการ/โรงงาน เป้าหมาย ๒,๐๐๐ แห่ง ดำเนินการแล้ว ๘๑ แห่ง ๔. แผนงานที่ ๔ การปราบปรามยาเสพติดและบังคับใช้กฎหมาย ได้แก่ การดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดในคดียาเสพติด เป้าหมาย ๙๙,๗๗๐ คน มีผลการจับกุม จำนวน ๒๙,๕๐๕ คดี ๓๔,๗๐๐ คน แบ่งเป็นข้อหาผลิต จับกุมได้ ๘๒๓ คดี ๑,๔๑๘ คน ข้อหานำเข้า จับกุมได้ ๘๓ คดี ๑๐๑ คน ข้อหาส่งออก จับกุมได้ ๔ คดี ๕ คน ข้อหาจำหน่าย จับกุมได้ ๒,๙๑๗ คดี ๔,๑๕๑ คน ข้อหาครอบครองเพื่อจำหน่าย จับกุมได้ ๗,๘๙๒ คดี ๙,๖๘๕ คน และข้อหาครอบครอง จับกุมได้ ๑๗,๗๘๖ คดี ๑๙,๓๔๐ คน และการดำเนินการตามมาตรการยึดทรัพย์สินนักค้ายาเสพติดทั่วประเทศ เป้าหมาย ๘,๐๐๐ คดี มีผลการดำเนินการทั้งสิ้น ๘๒๓ คดี มูลค่าทรัพย์สิน ๔๐๘.๑ ล้านบาท ๕. แผนงานที่ ๕ ความร่วมมือระหว่างประเทศ ได้แก่ ๕.๑ การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านยาเสพติด ครั้งที่ ๓๒ ณ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นการประชุมตามพันธกรณีภายใต้กรอบความร่วมมืออาเซียนด้านยาเสพติด ๕.๒ การประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านอาชญากรรมข้ามชาติ (AMMTC) ครั้งที่ ๘ ณ ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นประเทศที่มีบทบาทนำ (Lead Shephard) ในสาขายาเสพติด ซึ่งเป็น ๑ ใน ๘ สาขาภายใต้กรอบความร่วมมือด้านอาชญากรรมข้ามชาติ ๕.๓ การจัดสัมมนาระหว่างประเทศว่าด้วยการพัฒนาทางเลือกที่ยั่งยืน ณ จังหวัดเชียงราย และเชียงใหม่ เพื่อพัฒนาทางเลือกที่ยั่งยืนเผยแพร่พระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้านการแก้ปัญหาการปลูกพืชเสพติด สำหรับเป็นแบบอย่าง และนำไปประยุกต์ใช้ในแต่ละประเทศ ๕.๔ การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๑๙ ณ ประเทศอินโดนีเซีย ที่ประชุมได้มีการรับรองและลงนามในเอกสาร “ASEAN - JAPAN PLAN OF ACTION 2011 - 2015” ในประเด็นด้านยาเสพติดจะเสริมสร้างความเข้มแข็งในความร่วมมือด้านอาชญากรรมข้ามชาติระหว่างประเทศอาเซียน อาทิ การลักลอบค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ เป็นต้น ผ่านเวทีการประชุมด้านอาชญากรรมข้ามชาติกับญี่ปุ่น จีน และสาธารณรัฐเกาหลี ๕.๕ การประชุมหัวหน้าหน่วยปราบปรามยาเสพติดสำหรับภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ณ ประเทศอินเดีย เป็นการประชุม Subsidiary Body ของกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิก ภายใต้กรอบสหประชาชาติ ๖. แผนงานที่ ๖ การสกัดกั้นยาเสพติด กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้จัดตั้งชุดพัฒนาสัมพันธ์มวลชน (ชพส.) จำนวน ๑๐๗ ชุด เพื่อเข้าปฏิบัติการมวลชนสัมพันธ์ในพื้นที่เป้าหมาย ๑๐๗ ตำบล ๑,๐๗๐ หมู่บ้าน ซึ่งเป็นหมู่บ้านชายแดนและมีความเสี่ยงเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและความมั่นคง ขั้นตอนแรกของการดำเนินการคือ การสืบสภาพ และค้นหาปัญหายาเสพติดของหมู่บ้านชายแดนเป้าหมาย ๗. แผนงานที่ ๗ การบริหารจัดการแบบบูรณาการ ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดในแต่ละระดับได้จัดประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมและบูรณาการหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
|
||||||||||||||||||||||||
782 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงยุติธรรม) | ยธ | 10/01/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทวงยุติธรรม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไปตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
๑. นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล รองผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. พันตำรวจเอก ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||
783 | ร่างพระราชกฤษฎีกาขยายระยะเวลาการใช้บังคับมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 21) พ.ศ. 2542 พ.ศ. .... | ยธ | 04/01/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาขยายระยะเวลาการใช้บังคับมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๒๑) พ.ศ. ๒๕๔๒ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ขยายระยะเวลาการใช้บังคับมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๒๑) พ.ศ. ๒๕๔๒ ออกไปอีกถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๐ ซึ่งเป็นการขยายระยะเวลาการดำเนินงานชันสูตรพลิกศพตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไปร่วมชันสูตรพลิกศพตามมาตรา ๑๔๘ (๓) (๔) และ (๕) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พ.ศ. ๒๕๕๐ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ผ่านการอบรมทางนิติเวชศาสตร์สามารถออกชันสูตรพลิกศพแทนแพทย์ได้ ทั้งนี้ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๖ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
784 | ร่างพระราชบัญญัติคณะกรรมการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. .... | ยธ | 04/01/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงยุติธรรมนำร่างพระราชบัญญัติคณะกรรมการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. .... ไปศึกษาในรายละเอียด เนื่องจากการกำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมตามร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้บางประการอาจมีความซ้ำซ้อนกับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติตามพระราชบัญญัติพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๙ ซึ่งสมควรที่จะมีคณะกรรมการเพียงคณะเดียวเพื่อทำหน้าที่ปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
|
||||||||||||||||||||||||
785 | ร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการกำหนดเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ พ.ศ. .... | ยธ | 04/01/2555 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการกำหนดเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมนำมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๕๓ [เรื่อง ร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการกำหนดเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....] ในประเด็นข้อสังเกตของคณะกรรมการกลั่นกรองการกำหนดเครื่องแบบพิเศษของส่วนราชการ โดยบางส่วนราชการได้มีการกำหนดรูปดาวเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องหมายแสดงระดับ ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับเครื่องหมายแสดงชั้นยศของข้าราชการฝ่ายทหารหรือข้าราชการตำรวจ ซึ่งการใช้เครื่องหมายรูปดาวของข้าราชการพลเรือนดังกล่าวอาจทำให้เกิดความสับสนระหว่างข้าราชการแต่ละประเภทได้ ดังนั้น หากเป็นกรณีที่ส่วนราชการที่กำหนดรูปดาวเป็นเครื่องหมายแสดงระดับไว้แล้วเห็นควรให้คงเดิม ส่วนกรณีที่ส่วนราชการจะกำหนดเครื่องหมายดาวขึ้นใหม่ เห็นควรให้ใช้เครื่องหมายอื่นแทน โดยไม่สมควรที่จะกำหนดรูปดาวเป็นเครื่องหมายแสดงระดับของข้าราชการฝ่ายพลเรือน ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
786 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดคดีพิเศษเพิ่มเติมตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 19/12/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดคดีพิเศษเพิ่มเติมตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดคดีพิเศษเพิ่มเติมตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. ๒๕๔๗ เพื่อกำหนดคดีพิเศษเพิ่มเติม ประกอบด้วย ๑.๑ คดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ๑.๒ คดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ๑.๓ คดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ๑.๔ คดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยแร่ ๑.๕ คดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน ๑.๖ คดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอาง ๑.๗ คดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตราย ๑.๘ คดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยยา ๑.๙ คดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยอาหาร ๑.๑๐ คดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา เฉพาะความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร คดีความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายและคดีความผิดเกี่ยวกับหนังสือเดินทาง ๒. ให้ตัดคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา เฉพาะความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร คดีความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายและคดีความผิดเกี่ยวกับหนังสือเดินทางออก คงเหลือเพียงจำนวน ๙ คดีความผิดเท่านั้น ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก โกวิท วัฒนะ) เสนอ และส่งร่างกฎกระทรวงฯ ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
787 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ พ.ศ. .... ร่างระเบียบว่าด้วยเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐโดยตำแหน่ง พ.ศ. .... และ ร่างระเบียบว่าด้วยเบี้ยประชุมและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ พ.ศ. .... | ยธ | 19/12/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ สำหรับประธานกรรมการ ป.ป.ท. ให้ได้รับเงินเดือนในอัตรา ๖๒,๐๐๐ บาทต่อเดือน และเงินประจำตำหน่งในอัตรา ๔๒,๕๕๐ บาทต่อเดือน ส่วนกรรมการ ป.ป.ท. ให้ได้รับเงินเดือนในอัตรา ๖๑,๐๐๐ บาทต่อเดือน และเงินประจำตำแหน่งในอัตรา ๔๑,๕๐๐ บาทต่อเดือน และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของคณะรัฐมนตรี ความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติ เกี่ยวกับการพิจารณากำหนดอัตราเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งของคณะกรรมการ ป.ป.ท. ตามแนวทางมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๔๕ การกำหนดสิทธิและอัตราการได้รับเงินค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งสำหรับประธานกรรมการและกรรมการ ป.ป.ท. และการกำหนดสิทธิการได้รับเงินค่ารับรองของประธานกรรมการและกรรมการ ป.ป.ท. ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบว่าด้วยเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐโดยตำแหน่ง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของกรรมการ ป.ป.ท. โดยตำแหน่ง และร่างระเบียบว่าด้วยเบี้ยประชุม และประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดอัตราเบี้ยประชุมและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของอนุกรรมการ ป.ป.ท. รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ สำหรับกรรมการโดยตำแหน่งตามร่างระเบียบว่าด้วยเงินประจำตำแหน่งฯ ให้ได้รับเงินประจำตำแหน่งในอัตรา ๔๑,๕๐๐ บาทต่อเดือน และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของคณะรัฐมนตรี กระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ เกี่ยวกับความหมายของนิยามคำว่า “ค่ารับรอง” ตามร่างระเบียบว่าด้วยเงินประจำตำแหน่งฯ นั้น เนื่องจากกำหนดรายการค่าที่พักและค่ายานพาหนะดังกล่าวเป็นค่าใช้จ่ายที่ซ้ำซ้อนกับค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการที่กำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายไว้ตามพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการและระเบียบกระทรวงการคลังที่ออกตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวไว้แล้ว จึงสมควรตัดข้อความดังกล่าวออก ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณเสนอความเห็นเกี่ยวกับอัตราเบี้ยประชุมและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของอนุกรรมการ ป.ป.ท. ตามร่างระเบียบว่าด้วยเบี้ยประชุมฯ ที่เหมาะสมเพื่อประกอบการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หากมีประเด็นที่ไม่สามารถตกลงได้ ให้ส่งเรื่องดังกล่าวให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง |
||||||||||||||||||||||||
788 | พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา จะเข้าดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและ ความยุติธรรมทางอาญา สมัยที่ 21 ในนามผู้แทนราชอาณาจักรไทย | ยธ | 29/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบและเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบเรื่องพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา จะเป็นผู้แทนประเทศไทยเข้าดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา (United Nations Commission on Crime Prevention and Criminal Justice - CCPCJ) สมัยที่ ๒๑ เริ่มปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่เดือนธันวาคม ๒๕๕๔ - ธันวาคม ๒๕๕๕ อันเป็นการยกระดับการดำเนินการทูตพหุภาคีอย่างสร้างสรรค์และสอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาล และเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ๑.๒ เห็นชอบให้หลักการให้กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงาน ก.พ. ร่วมกันพิจารณาถวายตำแหน่ง “เอกอัครราชทูต” ให้กับพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เป็นกรณีพิเศษ โดยยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องที่อาจไม่เอื้อต่อการแต่งตั้งก่อนที่จะได้รับมอบหมายให้เสด็จไปประจำการที่กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย เพื่อปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้ เพื่อให้มีตำแหน่ง และเอกสิทธิ์/ความคุ้มกันทางการทูตเทียบเท่าเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรแห่งประเทศไทยประจำสำนักงานสหประชาชาติ ณ กรุงเวียนนา พร้อมทั้งให้เร่งรัดดำเนินการโดยด่วน ๒. เห็นชอบการดำเนินการเพื่อสนับสนุนข้อเสนอของกระทรวงยุติธรรมเกี่ยวกับการพิจารณาถวายตำแหน่ง “เอกอัครราชทูต” ให้กับพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เป็นกรณีพิเศษตามความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งนี้ ให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๕๓ [เรื่อง มาตรการบริหารกำลังคนภาครัฐ (พ.ศ. ๒๕๕๒ - ๒๕๕๖)] โดยให้กำหนดตำแหน่งเอกอัครราชทูต (นักบริหารการทูตระดับสูง) เพิ่มใหม่เป็นการชั่วคราวในกระทรวงการต่างประเทศ จำนวน ๑ ตำแหน่ง เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติให้กับพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เป็นกรณีพิเศษ ในการปฏิบัติหน้าที่ประธาน CCPCJ สมัยที่ ๒๑ โดยมีเงื่อนไขว่า ให้ยุบเลิกตำแหน่งเมื่อสิ้นสุดภารกิจในเดือนธันวาคม ๒๕๕๕ ตามความเห็นของสำนักงาน ก.พ. ๓. อนุมัติในหลักการให้เบิกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการทรงปฏิบัติภารกิจและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องจากงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเสด็จพระราชดำเนินและการต้อนรับประมุขต่างประเทศ และงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามที่กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
789 | สรุปผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด (ในช่วงระหว่างวันที่ 11 กันยายน 2554 - 31 ตุลาคม 2554) | ยธ | 22/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ตามยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๕๕ ตั้งแต่เปิดแผนปฏิบัติการวันที่ ๑๑ กันยายน - ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง) ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด (ศพส.) เสนอ ดังนี้
๑. ผลการดำเนินงานกองทุนแม่ของแผ่นดิน ดำเนินการจัดตั้งมูลนิธิกองทุนแม่ของแผ่นดิน และออกคำสั่ง เรื่อง แผนยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๕๔ รวมทั้งจัดประชุมสัมมนาหมู่บ้านและชุมชนศูนย์เรียนรู้กองทุนแม่ของแผ่นดิน จัดประชุมสัมมนาวิทยากรกระบวนการแกนนำกองทุนแม่ของแผ่นดิน ๒. ผลการดำเนินงานที่สำคัญด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ๒.๑ ผลการจับกุมคดียาเสพติดทั่วประเทศ ทั้งคดีผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย ครอบครองเพื่อจำหน่าย ครอบครอง เสพ และอื่น ๆ ห้วงวันที่ ๑ ตุลาคม - ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ มีผลการจับกุมทั่วประเทศ รวม ๑๕,๗๔๕ คดี ผู้ต้องหา ๑๗,๕๑๒ คน ๒.๒ มาตรการยึดทรัพย์สินนักค้ายาเสพติดทั่วประเทศ ห้วงวันที่ ๑๑ กันยายน - ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ จำนวน ๓๗๖ คดี มูลค่าทรัพย์สิน ๑๙๑.๗ ล้านบาท ๒.๓ ผลการบำบัดรักษาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด ทั้งระบบสมัครใจ ระบบบังคับบำบัด และระบบต้องโทษ ห้วงวันที่ ๑๑ กันยายน - ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ มีผลการบำบัดรักษารวม ๑๕,๑๕๒ คน
|
||||||||||||||||||||||||
790 | การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและการดำเนินงานตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล | ยธ | 22/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและการดำเนินงานตามนโยบายสำคัญของรัฐบาลเกี่ยวกับปัญหายาเสพติด ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง) ได้รับมอบหมายตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๖ กันยายน ๒๕๕๔ (เรื่อง การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและการดำเนินงานตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล) ตามที่กระทรวงยุติธรรม โดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) เสนอสรุปได้ ดังนี้
๑. การเปิดปฏิบัติการวาระแห่งชาติพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด เมื่อวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๕๔ เพื่อทำความเข้าใจและบูรณาการแนวความคิดตามยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์หลักในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาล รวมทั้งเพื่อให้เกิดความเข้าใจในแนวทางปฏิบัติให้เป็นไปทิศทางเดียวกัน ๒. การประชุมศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ (ศพส.) ครั้งที่ ๑/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๔ ซึ่งที่ประชุมฯ มีมติ ดังนี้ ๒.๑ เห็นชอบการขับเคลื่อนปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด จำนวน ๔ ภารกิจ ได้แก่ ๒.๑.๑ การจัดตั้งกลไกการดำเนินงาน ประกอบด้วย ศพส. ระดับกระทรวง การจัดตั้งสำนักงาน ศพส. การจัดตั้งกลไกเฉพาะใน ๓ พื้นที่สำคัญ ได้แก่ ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินฯ สกัดกั้นชายแดนภาคเหนือ ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินฯ แก้ไขปัญหากรุงเทพมหานครและปริมณฑล และศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินฯ แก้ไขปัญหา ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ๒.๑.๒ การจัดทำแผนระดับต่าง ๆ รองรับปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ได้แก่ การบูรณาการประสานแผนส่วนกลาง จำนวน ๗ แผนงานหลัก การบูรณาการแผนและงบประมาณลงพื้นที่ และการให้สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับกระทรวงมหาดไทยจัดประชุมชี้แจงแผนระดับจังหวัด ในวันที่ ๒๒ - ๒๓ กันยายน ๒๕๕๔ และให้จังหวัดจัดทำแผนปฏิบัติการฯ ภายในเดือนตุลาคม ๒.๑.๓ การเตรียมการรองรับการปฏิบัติ เช่น การคัดเลือกและอบรมชุดปฏิบัติการมวลชนระดับอำเภอ การจัดหาสถานที่จัดทำค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพ ๑ อำเภอ : ๑ ค่าย การจัดชุดปฏิบัติการปราบปรามนักค้ารายสำคัญตามเป้าหมาย และการเตรียมห้อง Operation Room ของ ศพส. เป็นต้น ๒.๑.๔ การปฏิบัติการ ๖ เร่ง ระหว่างวันที่ ๑๖ กันยายน ถึงเดือนตุลาคม ๒๕๕๔ โดยให้ทุกจังหวัดเร่งหาข้อมูลผู้ค้า ผู้เสพ กลุ่มเสี่ยง/พื้นที่เสี่ยง และเร่งจัดค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพ รวมทั้งให้จังหวัดป้องกัน กวดขันพื้นที่เสี่ยง กลุ่มเสี่ยง และปัจจัยเสี่ยงรอบสถานศึกษา ๒.๒ เห็นชอบแนวทางการดำเนินการปราบปรามยาเสพติดและบังคับใช้กฎหมาย แนวทางการดำเนินงานแก้ไขปัญหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด แนวทางการดำเนินงานสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติดในสถานศึกษา และการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลรองรับแผนปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ๓. การประชุมเชิงปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ชายแดนภาคเหนือตอนบน เมื่อวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๔ เพื่อระดมความคิดเห็นในการดำเนินงานของหน่วยงานต่าง ๆ และวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหายาเสพติดร่วมกัน เพื่อบูรณาการการดำเนินงานให้เป็นเอกภาพโดยเฉพาะด้านการข่าว ส่วนแนวทางการแก้ไขปัญหา ได้แก่ การเน้นการสกัดกั้นตามแนวชายแดนที่เป็นพื้นที่ลักลอบนำเข้ายาเสพติด และสกัดกั้นสารตั้งต้นโดยใช้กลไกระดับอำเภอ โดยแผนบูรณาการระดับอำเภอดำเนินงานในพื้นที่ รวมทั้งเพิ่มและเสริมสร้างความเข้มแข็งของพลังแผ่นดินและพลังประชาชนที่อยู่เดิม ได้แก่ ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ให้มีส่วนในการสกัดกั้นโดยเฉพาะแหล่งข่าวภาคประชาชน ๔. การประชุมผู้นำชุมชนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานครตามแผนยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด เมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๔ เพื่อมอบนโยบายและชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดด้วยการใช้แผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานครให้แก่หน่วยงานทั้งภาคราชการและประชาชนในชุมชนพื้นที่กรุงเทพมหานคร ๕. การประชุมกองบัญชาการตำรวจนครบาลและผู้บริหารสำนักงาน ป.ป.ส. เมื่อวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๕๔ เพื่อเร่งรัดแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจัดทำแผนปฏิบัติการรองรับยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด
|
||||||||||||||||||||||||
791 | โครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 | ยธ | 15/11/2554 | |||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||
792 | รายงานผลการดำเนินการเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชน เพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) | ยธ | 01/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงานผลการดำเนินการเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) โดยกระทรวงยุติธรรมได้มีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร เพื่อขอความอนุเคราะห์ออกทะเบียนบ้านชั่วคราวให้กับผู้ชุมชนหมู่บ้านพิมาน เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร เพื่อใช้ในการขอมิเตอร์น้ำ ไฟฟ้า การศึกษาของบุตรธิดา และสิทธิขอรับสวัสดิการการรักษาพยาบาลของรัฐ ซึ่งต่อมาได้รับการประสานจากทางกรุงเทพมหานครอย่างไม่เป็นทางการว่า การขอออกทะเบียนบ้านของชุมชนหมู่บ้านพิมานฯ ไม่เป็นไปตามระเบียบสำนักทะเบียนกลางว่าด้วยการจัดทำทะเบียนราษฎร พ.ศ. ๒๕๕๓ (รวมฉบับแก้ไขเพิ่มเติมถึงฉบับที่ ๔ พ.ศ. ๒๕๕๔) ข้อ ๒๐ เนื่องจากเป็นการปลูกสร้างในที่ดินของบุคคลอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งมีลักษณะเป็นการบุกรุก มิใช่เป็นการปลูกสร้างบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายอื่น ๆ การแจ้งขอออกทะเบียนชั่วคราวจึงเป็นการแจ้งที่มิชอบด้วยระเบียบฯ จึงไม่อาจดำเนินการออกทะเบียนบ้านชั่วคราวให้ได้
|
||||||||||||||||||||||||
793 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ. 2550 รวม 3 ฉบับ | ยธ | 01/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ. ๒๕๕๐ รวม ๓ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการปฏิบัติการอำพรางเพื่อการสืบสวนความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. .... มีสาระสำคัญ ดังนี้ ๑.๑ กำหนดคำนิยาม “ผู้ขออนุญาต” และ “ผู้มีอำนาจอนุญาต” และกำหนดให้การปฏิบัติทุกขั้นตอนตามกฎกระทรวงนี้เป็นเรื่องลับ รวมทั้งกำหนดลักษณะของการปฏิบัติการอำพราง ๑.๒ กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาต ๑.๓ กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการอนุญาต ๑.๔ กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการดำเนินการต่าง ๆ เพื่อการสืบสวนความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด ๒. ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการครอบครองและให้มีการครอบครองยาเสพติดภายใต้การควบคุมเพื่อการสืบสวนความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. .... มีสาระสำคัญ ดังนี้ ๒.๑ กำหนดคำนิยาม “ผู้ขออนุญาต” และ “ผู้มีอำนาจอนุญาต” และกำหนดให้การปฏิบัติทุกขั้นตอนตามกฎกระทรวงนี้เป็นเรื่องลับ ๒.๒ กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาต ๒.๓ กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการอนุญาต ๒.๔ กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการดำเนินการต่าง ๆ เพื่อการสืบสวนความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด ๓. ร่างกฎกระทรวงกำหนดคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่พนักงานสอบสวนต้องส่งสิ่งของที่อ้างว่าเป็นยาเสพติดและได้ยืดไว้ไปตรวจพิสูจน์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่พนักงานสอบสวนต้องส่งสิ่งของที่อ้างว่าเป็นยาเสพติดและได้ยึดไว้ไปให้ผู้ชำนาญการพิเศษตรวจพิสูจน์ โดยกำหนดจำนวนหรือน้ำหนักของแต่ละประเภทเป็น ๓ ประเภท คือ ยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ ยาเสพติดให้โทษประเภท ๒ และยาเสพติดให้โทษประเภท ๓
|
||||||||||||||||||||||||
794 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง | ยธ | 01/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงยุติธรรม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
๑. นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม ๒. พ.ต.อ.โภคพิบูลย์ โปตระนันทน์ ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม
|
||||||||||||||||||||||||
795 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนแทนตำแหน่งที่ว่าง | ยธ | 25/10/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งนายพิทยา จินาวัฒน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนในคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา แทนนางสุวณา สุวรรณจูฑะ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๔) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||
796 | รายงานความก้าวหน้าโครงการขยายผลโครงการหลวงเพื่อแก้ปัญหาพื้นที่ปลูกฝิ่นอย่างยั่งยืน ประจำปี 2554 | ยธ | 18/10/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความก้าวหน้าโครงการขยายผลโครงการหลวงเพื่อแก้ปัญหาพื้นที่ปลูกฝิ่นอย่างยั่งยืน ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ตามที่กระทรวงยุติธรรม โดยสำนักงาน ป.ป.ส. เสนอ จำแนกผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์โดยสรุป ดังนี้
๑. ยุทธศาสตร์ที่ ๑ ด้านการพัฒนาอาชีพและการตลาด ๑.๑ จัดกิจกรรมศึกษาดูงานเพื่อเรียนรู้จากโครงการหลวงด้านการเพาะปลูกพืชในระบบเศรษฐกิจ อาหารปลอดภัย การเลี้ยงปศุสัตว์ การอนุรักษ์ดินและน้ำ การปลูกป่าชาวบ้าน และกระบวนการการพัฒนาความเข้มแข็งของชุมชน ๑.๒ จัดอบรมและสาธิตเพื่อให้ความรู้และพัฒนาทักษะเกษตรกรด้านการปลูกและเพิ่มผลผลิตพืชเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร และพืชสร้างรายได้ จำนวน ๖ ชนิด ได้แก่ พืชเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร : ข้าวไร่ ข้าวนาดำ และพืชผักสวนครัว เพื่อบริโภค และพืชสร้างรายได้ : พืชตระกูลถั่ว ข้าวโพด กาแฟอราบิก้า และไม้ผลไม้ยืนต้น ๑.๓ จัดอบรมและสาธิตเพื่อให้ความรู้และพัฒนาทักษะเกษตรกรด้านการเลี้ยงและการควบคุมโรคในสัตว์ ได้แก่ ไก่ สุกร และกระบือ ๑.๔ การส่งเสริมการปลูกพืชอาหาร การส่งเสริมการปลูกพืชรายได้ การส่งเสริมการปลูกและเพิ่มผลผลิตไม้ผลไม้ยืนต้น และการส่งเสริมการปลูกและดูแลรักษากาแฟอราบิก้า ๑.๕ การส่งเสริมอาชีพนอกภาคการเกษตร ส่งเสริมการรวมกลุ่มด้านงานหัตถกรรม โดยการจัดตั้งกลุ่มหัตถกรรมเพื่อผลิตงานหัตถกรรมจำหน่ายเป็นรายได้เสริม ๑.๖ การถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เหมาะสม รณรงค์ลดการใช้สารเคมีและให้บริการตรวจวัดระดับสารเคมีตกค้างในกระแสเดือด ๒. ยุทธศาสตร์ที่ ๒ ด้านการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนและการพัฒนาสังคม ๒.๑ จัดทำแผนชุมชนโดยกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนในพื้นที่โครงการขยายผลโครงการหลวงเพื่อแก้ปัญหาพื้นที่ปลูกฝิ่นอย่างยั่งยืน ๒.๒ การส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชนและองค์กรชุมชนโดยสนับสนุนและจัดกิจกรรมวันชนเผ่าสามัคคีบนวิถีความพอเพียงและกิจกรรมประเพณีชนเผ่าในพื้นที่โครงการขยายผลโครงการหลวงเพื่อแก้ปัญหาพื้นที่ปลูกฝิ่นอย่างยั่งยืน ๒.๓ การสนับสนุนกิจกรรมเสริมสร้างความเข้มแข็งของกลุ่มอาชีพและกลุ่มออมทรัพย์ ๒.๔ จัดกิจกรรมการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด ๓. ยุทธศาสตร์ที่ ๓ ด้านการพัฒนากระบวนการชุมชนเพื่อแก้ปัญหายาเสพติด ได้แก่ การบำบัดผู้ติดยาเสพติดในพื้นที่โครงการขยายผลโครงการหลวงเพื่อแก้ปัญหาพื้นที่ปลูกฝิ่นอย่างยั่งยืน การจัดตั้งอาสาสมัครและแกนนำเฝ้าระวังในระดับชุมชน และการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เพื่อการป้องกันยาเสพติดในรูปแบบการจัดวิทยุชุมชนและเสียงตามสายหมู่บ้านร่วมกับภาคเอกชน กลุ่มเสียงสันติ สภาคริสตจักรเชียงใหม่ ในเขตอำเภออมก๋อยและใกล้เคียงจังหวัดเชียงใหม่ ๔. ยุทธศาสตร์ที่ ๔ ด้านการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๔.๑ วางแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินโดยกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อกำหนดขอบเขตการใช้ประโยชน์โดยกระบวนการมีส่วนร่วม ฟื้นฟูพื้นที่ที่บุกรุกบริเวณที่มีความลาดชันสูง และมาตรการหยุดยั้งการบุกรุกทำลายป่าเพิ่มเติมโดยกระบวนการมีส่วนร่วม และนำร่างแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินสู่การประชาคมในพื้นที่ โดยให้เกษตรกรมีส่วนร่วมในการจัดทำโมเดลเพื่อกำหนดพื้นที่หมู่บ้านและพื้นที่ทำกิน ๔.๒ การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการปลูกป่าฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าต้นน้ำลำธาร ๔.๓ ส่งเสริมและรณรงค์การปลูกหญ้าแฝกอย่างมีส่วนร่วมเพื่อลดการชะล้างและป้องกันการพังทลายของหน้าดิน ๕. ยุทธศาสตร์ที่ ๕ ด้านการบริหารจัดการและกำกับดูแล ได้แก่ การสร้างศูนย์ปฏิบัติการเพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และเป็นสถานที่ประชุมร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ การประชุมคณะกรรมการอำนวยการโครงการขยายผลโครงการหลวงเพื่อแก้ปัญหาพื้นที่ปลูกฝิ่นอย่างยั่งยืน การประชุมคณะทำงานบริหารและประสานการดำเนินงานแผนแม่บทโครงการขยายผลโครงการหลวงเพื่อแก้ปัญหาพื้นที่ปลูกฝิ่นอย่างยั่งยืน และการประชุมคณะกรรมการระดับจังหวัดและคณะทำงานระดับอำเภอ
|
||||||||||||||||||||||||
797 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ไปพลางก่อน | ยธ | 18/10/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพิ่มเติม จำนวน ๑,๕๐๐ ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ไปพลางก่อน ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผู้อำนวยการ ศปภ. เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
798 | แต่งตั้งคณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ | ยธ | 11/10/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
๑. แต่งตั้งคณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๙๗/๒๕๕๔ ลงวันที่ ๑๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ โดยองค์ประกอบของคณะกรรมการฯ ประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานกรรมการ ผู้แทนจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการ ผู้แทนภาคประชาชน และผู้แทนผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นกรรมการ โดยมีเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นกรรมการและเลขานุการ และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการและเลขานุการร่วม ๒. ให้คณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และคณะอนุกรรมการที่คณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้แต่งตั้ง ได้รับค่าตอบแทนในการปฏิบัติหน้าที่ในอัตราเดียวกับคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๔๙ (เรื่อง การกำหนดค่าตอบแทนกรรมการและอนุกรรมการในคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ)
|
||||||||||||||||||||||||
799 | การจัดซื้ออาหาร เครื่องบริโภค และวัสดุเพื่อการหุงหาอาหาร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 ของกระทรวงยุติธรรม | ยธ | 04/10/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้กรมราชทัณฑ์ดำเนินการจัดซื้ออาหารสด (ปลา เนื้อสัตว์ และพืชผัก) และวัสดุปรุงอาหาร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยให้ดำเนินการจัดซื้อตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ๒. ให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๕๒ (เรื่อง ขอให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบการจัดระบบการจัดซื้ออาหาร เครื่องบริโภค และวัสดุเพื่อการหุงหาอาหาร)
|
||||||||||||||||||||||||
800 | การพิจารณาลงนามในอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้สูญหาย (International Convention for the Protection of all Persons from Enforced Disappearance) | ยธ | 04/10/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ๑.๑ การลงนามในอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้สูญหาย (International Convention for the Protection of all Persons from Enforced Disapperance) ทั้งนี้อนุสัญญาฯ เป็นหนึ่งในสนธิสัญญาระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนซึ่งรับรองโดยข้อมติสหประชาชาติ สมัยสามัญ สมัยที่ ๖๑ เมื่อวันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๔๙ มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดให้การทำให้บุคคลหายสาบสูญโดยถูกบังคับเป็นฐานความผิดตามกฎหมายอาญา (เน้นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ หรือการกระทำในนามเจ้าหน้าที่รัฐ) รวมทั้งกำหนดโทษของความผิดดังกล่าว โดยรัฐจะต้องกำหนดให้ตนมีเขตอำนาจศาลเหนือความผิดฐานกระทำให้บุคคลหายสาบสูญโดยถูกบังคับ ถึงแม้ว่าบุคคลที่หายสาบสูญ หรือบุคคลที่ประกอบอาชญากรรมดังกล่าวจะไม่ใช่คนชาติของตน และการทำให้หายสาบสูญก็มิได้เกิดขึ้นในดินแดนของรัฐตน รวมทั้งกำหนดให้รัฐมีหน้าที่ปฏิบัติอย่างเป็นธรรมและจัดให้เหยื่อและสมาชิกในครอบครัวได้รับการเยียวยาและชดเชยอย่างเหมาะสม ๑.๒ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการลงนามในอนุสัญญฯ ต่อองค์การสหประชาชาติให้ทันก่อนวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๕๔ ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับการลงนามอนุสัญญาฯ เมื่อได้มีการลงนามแล้วไทยจะต้องละเว้นจากการกระทำใด ๆ ที่ขัดกับวัตถุประสงค์ของอนุสัญญาฯ อันเป็นหลักการที่ระบุไว้ในข้อ ๑๘ วรรค ๑ ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยกฎหมายสนธิสัญญา ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
.....