ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 81 จากทั้งหมด 483 หน้า แสดงรายการที่ 1601 - 1620 จากข้อมูลทั้งหมด 9647 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1601 | การแต่งตั้งรองประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (จำนวน 4 คน 1. นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ฯลฯ) | กค | 24/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งรองประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร แทนผู้ที่ลาออก ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (วันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๐) เป็นต้นไป และให้ผู้ซึ่งได้รับการแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งตามวาระของผู้ซึ่งตนแทน จำนวน ๔ คน ดังนี้
๑. นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ รองประธานกรรมการ แทน นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ๒. นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ กรรมการ แทน นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้แทนกระทรวงการคลัง ๓. นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ กรรมการ แทน นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ผู้แทนกรมส่งเสริมสหกรณ์ ๔. นายสุรจิตต์ อินทรชิต กรรมการ แทน นายสมปอง อินทร์ทอง ผู้แทนสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
|
||||||||||||||||||||||||||||||
1602 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (จำนวน 7 คน 1. นายสมพล เกียรติไพบูลย์ ฯลฯ | กค | 24/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย จำนวน ๗ คน ประกอบด้วย ๑.๑ นายสมพล เกียรติไพบูลย์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการประกันภัย ๑.๒ นายอัชพร จารุจินดา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย ๑.๓ นายประสัณห์ เชื้อพานิช กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านบัญชี ๑.๔ นายวิชัย อัศรัสกร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านบริหารธุรกิจ ๑.๕ นายอำพน กิตติอำพน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐศาสตร์ ๑.๖ นางสาววิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐศาสตร์ ๑.๗ นายวัชรา ตันตริยานนท์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงิน ๒. การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ตามข้อ ๑. ให้มีผลนับแต่วันที่กระทรวงการคลังมีคำสั่งแต่งตั้ง
|
||||||||||||||||||||||||||||||
1603 | ร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดประเภทสินค้าที่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมมีสิทธิได้รับคืนหรือยกเว้นภาษี ตามมาตรา 23 วรรคหนึ่ง ได้รับยกเว้นจากบทบังคับแห่งมาตรา 23 | กค | 17/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดประเภทสินค้าที่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมมีสิทธิได้รับคืนหรือยกเว้นภาษี ตามมาตรา ๒๓ วรรคหนึ่ง ได้รับยกเว้นจากบทบังคับแห่งมาตรา ๒๓ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดประเภทสินค้าที่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมได้รับคืนหรือยกเว้นภาษี ตามมาตรา ๑๐๗ (๓) (กรณีจำหน่ายสินค้าให้แก่ผู้ได้รับเอกสิทธิ์ตามข้อผูกพันที่ประเทศไทยมีอยู่ต่อองค์การสหประชาชาติ หรือตามกฎหมายระหว่างประเทศ หรือตามสัญญากับนานาประเทศ หรือทางการทูตตามหลักถ้อยทีถ้อยปฏิบัติต่อกัน) ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีสรรพสามิตแม้จะมีการโอนไปยังบุคคลอื่นที่ไม่มีเอกสิทธิ์ หรือเอกสิทธิ์ของผู้นั้นสิ้นสุดลง โดยเหตุอื่นนอกจากความตาย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
1604 | ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการผ่านแดนสินค้าระหว่างกรมศุลกากรแห่งราชอาณาจักรไทยและกรมศุลกากรและสรรพสามิตแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา | กค | 17/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการผ่านแดนสินค้าระหว่างกรมศุลกากรแห่งราชอาณาจักรไทยและกรมศุลกากรและสรรพสามิตแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ภาคีคู่สัญญาตามบันทึกความเข้าใจฯ แต่ละฝ่ายจะต้องอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าผ่านแดน โดยไม่ทำให้เกิดความล่าช้าในขั้นตอนการผ่านแดน ซึ่งสินค้าที่ดำเนินพิธีการศุลกากรสำหรับผ่านแดนจะไม่ต้องชำระค่าอากรหากปฏิบัติตามกฎหมายหรือระเบียบของประเทศที่มีการผ่านแดน นอกจากค่าธรรมเนียมหรือภาระที่เกี่ยวข้องกับการขนส่ง หรือบริการอื่น ๆ ๑.๒ อนุมัติให้อธิบดีกรมศุลกากรเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ และอนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ในการลงนามร่างบันทึกความเข้าใจฯ ๒. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเร่งรัดการดำเนินการพัฒนาการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างภาครัฐ และระหว่างภาครัฐและเอกชนให้สามารถเชื่อมโยงระบบเครือข่ายข้อมูลในกระบวนการนำเข้าส่งออกและโลจิสติกส์ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ในลักษณะเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ควรพิจารณาแก้ไขชื่อและเนื้อหาของบันทึกความเข้าใจฯ ให้เป็นการทำขึ้นระหว่างรัฐบาลของทั้งสองประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงการคลังได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
1605 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (เพื่อยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับเงินสนับสนุนที่ได้รับจากกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย) | กค | 10/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับเงินได้ที่ได้รับเป็นเงินสนับสนุนจากกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย ทั้งนี้ สำหรับเงินได้ที่ได้รับตั้งแต่วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนที่เห็นควรขยายความการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลในเรื่องนี้ให้ครอบคลุมถึง “นิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย” ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
1606 | ร่างกฎกระทรวง (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560 | กค | 10/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๐ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการขอข้อมูลส่วนบุคคลของผู้กู้ยืมเงิน การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการกู้ยืมเงิน และการชำระเงินคืนกองทุนของผู้กู้ยืมเงิน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับร่างกฎกระทรวงดังกล่าวควรมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่สอดคล้องกับหลักการพื้นฐานของการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่จะต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
1607 | ร่างพระราชกฤษฏีกาออกตามความในประมวลรัษฏากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ (การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มกรณีกรมธนารักษ์นำเข้าเหรียญที่ระลึกจากต่างประเทศ และการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มกรณีกรมธนารักษ์ขายเหรียญที่ระลึกที่นำเข้ามาขายในประเทศ) | กค | 10/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มกรณีกรมธนารักษ์นำเข้าเหรียญที่ระลึกจากต่างประเทศ ๒. ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการประกอบกิจการขายสินค้าประเภทเหรียญที่ระลึกของกรมธนารักษ์ เนื่องในวโรกาสสำคัญต่าง ๆ และนำรายได้จากการขายเหรียญดังกล่าว หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว ขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายหรือถวายบุคคลซึ่งได้รับเงินค่าใช้จ่ายในพระองค์จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี และบุคคลซึ่งได้รับเงินปีพระบรมวงศานุวงศ์ ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการจ่ายเงินเดือนเงินปี เงินบำเหน็จ บำนาญ และเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน พ.ศ. ๒๕๓๕
|
||||||||||||||||||||||||||||||
1608 | การขอกู้เงินของธนาคารอาคารสงเคราะห์ | กค | 10/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์กู้เงินโดยการออกพันธบัตร วงเงินรวมไม่เกิน ๒๒,๓๐๐ ล้านบาท ในปี ๒๕๖๐ โดยแบ่งเป็น (๑) การกู้เงินโดยการออกพันธบัตรใหม่เพิ่มเติม จำนวน ๑๑,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งได้กำหนดไว้ในแผนการจัดหาแหล่งเงินทุนและการปรับสมดุลโครงสร้างเงินทุนในระยะยาวของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (แผนการจัดหาแหล่งเงินทุนฯ) ที่คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจได้ให้ความเห็นชอบแล้ว และ (๒) การกู้เงินโดยการออกพันธบัตรเพื่อ Roll-over จำนวน ๑๑,๓๐๐ ล้านบาท ซึ่งเป็นกรอบวงเงินการออกพันธบัตรเพื่อทดแทนพันธบัตรเดิมที่มีอายุครบกำหนด ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. ให้กระทรวงการคลังร่วมกับธนาคารอาคารสงเคราะห์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณาออกแบบผลิตภัณฑ์เงินฝากหรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่น ๆ ที่มีความสอดคล้องกับการให้สินเชื่อระยะยาว เพื่อเพิ่มสัดส่วนการระดมทุนจากเงินฝากระยะยาว ซึ่งจะช่วยป้องกันปัญหาการขาดสภาพคล่องจากไม่สัมพันธ์กันระหว่างอายุของหนี้สินและสินทรัพย์ (Maturity Mismatch) อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ในการดำเนินการตามแผนการจัดหาแหล่งเงินทุนดังกล่าว ให้คำนึงถึงผลกระทบต่อต้นทุนทางการเงินของธนาคารในภาพรวมด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
1609 | รายงานผลการกู้เงินล่วงหน้าสำหรับรองรับการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาล รุ่น LB17OA ที่จะครบกำหนดในวันที่ 10 ตุลาคม 2560 | กค | 10/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการกู้เงินล่วงหน้าสำหรับรองรับการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลรุ่น LB17OA ที่จะครบกำหนดในวันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๐ จำนวน ๗๕,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังดำเนินการ Pre-funding จำนวน ๓๐.๐๐๐ ล้านบาท เพื่อลดความเสี่ยงในการปรับโครงสร้างหนี้ โดยดำเนินการ ดังนี้
๑. ออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (พ.ร.ก. ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ระยะที่สอง) ในปีงบประมาณ ๒๕๖๐ ครั้งที่ ๔ อายุ ๑๘๒ วัน จำนวนรวม ๒๐,๔๐๐ ล้านบาท ประมูลในวันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๐ จำนวน ๕,๔๐๐ ล้านบาท และประมูลในวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๐ จำนวน ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท โดยมีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยเท่ากับร้อยละ ๑.๔๒๑๕๕ ต่อปี ๒. ออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (พ.ร.ก. ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ระยะ ที่สอง) ในปีงบประมาณ ๒๕๖๐ ครั้งที่ ๕ อายุ ๑๘๒ วัน จำนวนรวม ๙,๖๐๐ ล้านบาท ประมูลในวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๖๐ จำนวน ๙,๖๐๐ ล้านบาท โดยมีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยเท่ากับร้อยละ ๑.๓๕๑๕๑ ต่อปี ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกประกาศกระทรวงการคลังเกี่ยวกับผลการกู้เงิน จำนวน ๒ ฉบับ เพื่อนำลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
1610 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการบริจาคให้แก่กองทุนยุติธรรม) | กค | 03/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการบริจาคให้แก่กองทุนยุติธรรม) มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้ให้กับบุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับการบริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่กองทุนยุติธรรม โดยสามารถนำมาหักเป็นรายจ่ายได้สองเท่าของรายจ่ายที่บริจาค ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบหมายให้กระทรวงการคลังรับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการบริจาคให้แก่กองทุน กระทรวงการคลังได้เคยเสนอมาตรการดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งในครั้งนี้ได้เสนอมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการบริจาคให้แก่กองทุนยุติธรรม และหากเห็นว่าในอนาคตจะมีกองทุนอื่นที่สมควรกำหนดมาตรการเพื่อส่งเสริมการบริจาคอีก ควรกำหนดมาตรการดังกล่าวในภาพรวม และควรนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาในคราวเดียวกัน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
1611 | การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินราชพัสดุคืนให้แก่ผู้ยกให้ ราย นายบุญยง แซ่โง้ว | กค | 03/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้โอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ สน. ๑๓๒๐ โฉนดที่ดินเลขที่ ๙๗๓๘๕ ตำบลห้วยยาง อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร เนื้อที่ประมาณ ๘-๐-๔๕.๗ ไร่ คืนให้แก่ นายบุญยง แซ่โง้ว ผู้ยกให้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
1612 | รายงานกิจการประจำปี งบดุล บัญชีกำไรและขาดทุนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2560 | กค | 26/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานกิจการประจำปี งบดุล บัญชีกำไรและขาดทุนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๐ ที่ผ่านการตรวจสอบและรับรองจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน และได้รับอนุมัติจากที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
1613 | รายงานกิจการประจำปี งบดุล บัญชีกำไรและขาดทุนของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2559 | กค | 26/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานกิจการประจำปี งบดุล บัญชีกำไรและขาดทุนของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ ที่ผ่านการตรวจสอบและรับรองจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินและได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
1614 | รายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (R-Bill) ที่ครบกำหนดเมื่อวันที่ 2 และ 16 สิงหาคม 2560 | กค | 26/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (R-Bill) ที่ครบกำหนดเมื่อวันที่ ๒ และ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๐ วงเงิน ๒๕,๐๐๐ ล้านบาท และ ๒๐,๐๐๐ ล้านบาท ตามลำดับ รวม ๔๕,๐๐๐ ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินระยะสั้นโดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงิน (PN) อายุ ๑ เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ วงเงินรวม ๔๕,๐๐๐ ล้านบาท เพื่อเป็น Bridge Financing สำหรับรองรับการปรับโครงสร้างหนี้ R-Bill ที่ครบกำหนด และออกพันธบัตรรัฐบาล จำนวน ๒ รุ่น วงเงินรวม ๔๕,๐๐๐ ล้านบาท เพื่อนำมาชำระคืนเงินกู้ระยะสั้น ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกประกาศกระทรวงการคลังเกี่ยวกับผลการกู้เงินระยะสั้นเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ ส่งลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งได้ดำเนินการออกประกาศกระทรวงการคลังเกี่ยวกับผลการจำหนายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ จำนวน ๒ ฉบับ เพื่อนำลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
1615 | รายงานการสอบบัญชีและงบการเงินของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการและบริษัทย่อยปี 2559 | กค | 26/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการสอบบัญชีและงบการเงินของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการและบริษัทย่อยปี ๒๕๕๙ (สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙) ซึ่งสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่า มีความถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน พร้อมทั้งข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้รับจากการประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิกประจำปี ๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๐ และประกาศในราชกิจานุเบกษาต่อไป เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา ๘๒ แห่งพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๓๙ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
1616 | การโอนเงินหรือสินทรัพย์ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเพื่อชำระคืนต้นเงินกู้และดอกเบี้ย FIDF 1 และ FIDF 3 | กค | 26/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบและอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการชำระหนี้ต้นเงินกู้และดอกเบี้ยของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน เพื่อชำระคืนต้นเงินกู้และดอกเบี้ยที่กระทรวงการคลังกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินพ.ศ. ๒๕๔๑ (FIDF 1) และตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่สอง พ.ศ. ๒๕๔๕ (FIDF 3) ๑.๒ อนุมัติให้นำส่งเงินของกองทุนฯ เข้าบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ จำนวน ๑๔,๒๐๐ ล้านบาท โดยให้กองทุนฯ ทยอยโอนเงินจำนวนดังกล่าวเข้าบัญชีสะสมฯ ตามปริมาณสภาพคล่องของกองทุนฯ ๒. ให้กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรร่วมกันดำเนินการอย่างต่อเนื่องในการพิจารณาแนวทางการบริหารจัดการเพื่อให้สามารถชำระต้นเงินกู้และลดภาระดอกเบี้ยให้เร็วขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. ในระหว่างปีงบประมาณ ๒๕๖๑ หากกองทุนฯ มีสภาพคล่องคงเหลือเพิ่มเติมจากที่ประมาณการและไม่จำเป็นต้องสำรองไว้ ให้กองทุนฯ เสนอกระทรวงการคลังเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติให้โอนเงินดังกล่าวเข้าบัญชีสะสมฯ เพิ่มเติมต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
1617 | ขอขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันเงินงบประมาณปี พ.ศ. 2557 ที่กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีงบรายจ่ายอื่น รายการเพิ่มทุนสถาบันการเงินเฉพาะกิจ | กค | 26/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันเงินงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ที่กันไว้เบิกเหลื่อมปี งบรายจ่ายอื่น รายการเพิ่มทุนสถาบันการเงินเฉพาะกิจ จำนวน ๒,๔๗๕.๑๐ ล้านบาท จากเดิมคณะรัฐมนตรีมีมติให้ขยายระยะเวลาเบิกจ่ายได้จนถึงวันทำการสุดท้ายของเดือนกันยายน ๒๕๖๐ เป็นจนถึงวันทำการสุดท้ายของเดือนกันยายน ๒๕๖๑ เนื่องจากธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยอยู่ระหว่างการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูองค์กร ในส่วนของการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๗ วรรคสาม และการสรรหาพันธมิตรเพื่อร่วมทุนในธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย โดยกระทรวงการคลังจะดำเนินการเพิ่มทุนในธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยให้ส่วนของทุนไม่ติดลบได้ภายหลังจากธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยดำเนินกิจกรรมดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณและธนาคารแห่งประเทศไทยที่เห็นควรจัดทำแผนการดำเนินการและแผนการเบิกจ่ายงบประมาณที่กันไว้เบิกเหลื่อมปีดังกล่าวให้เหมาะสมกับสถานการณ์อย่างชัดเจน เพื่อการติดตามและเร่งรัดการดำเนินการและเบิกจ่ายงบประมาณให้แล้วเสร็จตามแผนฯ โดยเร็ว รวมทั้งควรเร่งรัดและติดตามการแก้ไขพระราชบัญญัติธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยฯ และเร่งจัดหาพันธมิตรร่วมทุนให้แล้วเสร็จตามกำหนด เพื่อให้สามารถดำเนินการตามแนวทางการฟื้นฟูธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยได้โดยเร็ว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
1618 | ขอขยายระยะเวลาดำเนินมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนด้านการเดินทาง | กค | 26/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบการขอขยายระยะเวลาดำเนินมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนด้านการเดินทางออกไปอีก ๑ เดือน ตั้งแต่วันที่ ๑-๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ วงเงินชดเชยรวมทั้งสิ้น ๔๐๙.๐๕๗ ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ มาตรการลดค่าใช้จ่ายเดินทางรถโดยสารประจำทาง ดำเนินการผ่านองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ โดยรัฐบาลรับภาระค่าใช้จ่ายการจัดรถโดยสารประจำทางธรรมดา จำนวน ๘๐๐ คันต่อวัน ให้บริการแก่ประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ประมาณการค่าใช้จ่ายในวงเงิน จำนวน ๓๒๒.๕๕๗ ล้านบาท ๑.๒ มาตรการลดค่าใช้จ่ายเดินทางโดยรถไฟชั้น ๓ ดำเนินการผ่านการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยรัฐบาลรับภาระค่าใช้จ่ายการจัดหารถไฟชั้น ๓ เชิงสังคม จำนวน ๑๕๒ ขบวนต่อวัน และรถไฟชั้น ๓ ระยะทางไกลในขบวนรถเชิงพาณิชย์ จำนวน ๘ ขบวนต่อวัน ให้บริการแก่ประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ประมาณการค่าใช้จ่ายในวงเงิน จำนวน ๘๖.๕๐๐ ล้านบาท ๒.ให้กระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรจัดทำรายละเอียดค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานตามมาตรการฯ ที่เกิดขึ้นจริงโดยผ่านคณะกรรมการการตรวจสอบที่เกี่ยวข้อง และจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายจากการดำเนินตามมาตรการฯ รวมทั้งควรพิจารณาแนวทางการจัดสรรงบประมาณเพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายจากการดำเนินมาตรการฯ ไม่ให้มีความซ้ำซ้อนกับการให้ความช่วยเหลือลดภาระค่าใช้จ่ายเดินทางของประชาชนผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และกำหนดแผนบูรณาการระบบสวัสดิการของภาครัฐในรูปแบบต่าง ๆ ให้อยู่ภายใต้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อให้การจัดสวัสดิการของภาครัฐเป็นไปตามความจำเป็นและตรงกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึง ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงการคลังได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
1619 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (จำนวน 5 คน 1. นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ ฯลฯ) | กค | 26/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย รวม ๕ คน แทนประธานกรรมการและกรรมการอื่นเดิมที่ดำรงตำแหน่งมาครบวาระสามปีแล้ว เมื่อวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๐ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๖ กันยายน ๒๕๖๐) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ ประธานกรรมการ ผู้แทนกระทรวงการคลัง ๒. นายดามพ์ สุคนธทรัพย์ กรรมการ ๓. นายนพพร เทพสิทธา กรรมการ ๔. นายมาส ตันหยงมาศ กรรมการ ๕. นายกำธร ตติยกวี กรรมการ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
1620 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการประกันสุขภาพ) | กค | 19/09/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการประกันสุขภาพ) มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นเงินได้เท่าที่ผู้มีเงินได้จ่ายเป็นเบี้ยประกันภัยให้แก่บริษัทประกันชีวิตหรือบริษัทประกันวินาศภัยที่ประกอบกิจการในราชอาณาจักร สำหรับการประกันสุขภาพของผู้มีเงินได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน ๑๕,๐๐๐ บาท ทั้งนี้ สำหรับเบี้ยประกันภัยที่ได้จ่ายตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๐ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบหมายให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรคำนึงถึงความเป็นไปได้และความเหมาะสมสำหรับการประกันสุขภาพให้กับบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของผู้มีเงินได้ รวมทั้งสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีปฏิบัติ และประโยชน์ที่จะได้รับให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
.....