ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 179 จากทั้งหมด 484 หน้า แสดงรายการที่ 3561 - 3580 จากข้อมูลทั้งหมด 9662 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 3561 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนนอกเหนือจากเงินเดือนของข้าราชการและลูกจ้างประจำของส่วนราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 09/07/2552 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนนอกเหนือ
จากเงินเดือนของข้าราชการและลูกจ้างประจำของส่วนราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่คณะกรรมการตรวจสอบร่าง กฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดย ให้แก้ไขวันใช้บังคับร่างระเบียบฉบับนี้ เป็น "ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป" ตามข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างระเบียบ ฯ มีสาระ สำคัญ ดังนี้ 1. กำหนดให้ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการประเภทอื่น และข้าราชการครูหรือบุคลากรทางการศึกษา ได้รับเงินค่าตอบแทนรายเดือนในอัตราเท่ากับอัตราเงินประจำตำแหน่งหรือเงินวิทยฐานะที่ได้รับเว้นแต่ข้าราชการ ที่ได้รับเงินประจำตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการ ซึ่งเดิมเคยดำรงตำแหน่งข้าราชการระดับ 7 ตามพระ ราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 ข้าราชการซึ่งได้รับเงินประจำตำแหน่งระดับ 7 หรือตำแหน่ง ที่เทียบเท่าข้าราชการครูหรือบุคลากรทางการศึกษาซึ่งได้รับเงินวิทยฐานะชำนาญการ 2. กำหนดให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาซึ่งมีสิทธิได้รับเงินประจำตำแหน่งประเภทบริหาร และเงินประจำตำแหน่งประเภทวิชาการ ได้รับเงินค่าตอบแทนรายเดือนในอัตราเท่ากับเงินประจำตำแหน่งประเภท บริหารหรือเงินประจำตำแหน่งประเภทวิชาการที่สูงกว่าเพียงทางเดียว 3. กำหนดตำแหน่งของข้าราชการ ข้าราชการทหาร และข้าราชการตำรวจ ซึ่งไม่มีสิทธิได้รับเงินประจำ ตำแหน่งตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 และองค์กรกลางบริหารงานบุคคลของข้าราช การนั้นเห็นสมควรให้ตำแหน่งดังกล่าวมีสิทธิได้รับเงินค่าตอบแทนเป็นรายเดือนในอัตราเดือนละ 3,500 บาท โดย เสนอคณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติพิจารณาให้ความเห็นชอบแล้วได้รับค่าตอบแทนพิเศษเป็นรายเดือน ในอัตราเดือนละ 3,500 บาท
|
|||||||||||||||||||||
| 3562 | การปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2552 ครั้งที่ 3 | กค | 09/07/2552 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอเรื่อง การปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ครั้งที่ 3 ตามมติคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ เมื่อวัน ที่ 30 เมษายน 2552 โดยการปรับปรุงแผน ฯ เป็นการปรับปรุงแผนงานย่อย จำนวน 2 แผน ดังนี้ 1. แผนการบริหารและจัดการเงินกู้ในประเทศของรัฐบาล เป็นการเพิ่มวงเงินกู้ จำนวน 94,000 ล้านบาท เพื่อชดเชยการขาดดุลหรือกรณีรายจ่ายสูงกว่ารายได้ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2552 ที่อนุมัติให้ กระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อรองรับกรณีรายจ่ายสูงกว่ารายได้ จำนวน 94,000 ล้านบาท ซึ่งดำเนินการตามมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยกำหนดให้ในปีงบประมาณ หนึ่ง ๆ กระทรวงการคลังจะกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล หรือกรณีรายจ่ายสูงกว่ารายได้เป็นเงินบาทได้ไม่เกินวงเงิน (1) ร้อยละ 20 ของงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น และงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม และ (2) ร้อยละ 80 ของงบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้สำหรับชำระคืนเงินต้น ซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 มีกรอบวงเงินตาม กฎหมายดังกล่าวเท่ากับ 441,280.88 ล้านบาท จึงมีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มวงเงินกู้ดังกล่าวในแผน ฯ เพื่อให้ กระทรวงการคลังสามารถดำเนินการกู้เงินได้ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ 2. แผนการบริหารและจัดการเงินกู้เพื่อชดใช้ความเสียหายให้ FIDF เป็นการปรับลดวงเงินการทำ Swap Arrangement พันธบัตร FIDF1 จำนวน 10,000 ล้านบาท ในแผนการบริหารและจัดการเงินกู้เพื่อชดใช้ความเสีย หายให้ FIDF สำหรับพันธบัตรรัฐบาล เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 จำนวน 10,000 ล้าน บาท ซึ่งเป็นแผนการทำ Interest Rate Swap จากอัตราดอกเบี้ยคงที่เป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว เนื่องจากพันธบัตร รุ่นนี้มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่ารุ่นอื่น ๆ 3. จากการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ครั้งที่ 3 จะทำให้วง เงินรวมของแผน ฯ เพิ่มขึ้น 84,000.00 ล้านบาท จากวงเงินเดิม 1,312,882.70 ล้านบาท เพิ่มเป็น 1,396,882.70 ล้านบาท ซึ่งวงเงินดังกล่าวยังคงอยู่ภายใต้กรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไว้เพื่อเป็นกรอบสำหรับการปรับปรุง แผน ฯ จำนวน 1,400,000 ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||
| 3563 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 30/06/2552 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยา บาล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยร่างระเบียบ ฯ มีสาระสำคัญคือ 1.1 กำหนดให้ผู้มีอำนาจอนุมัติการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล เป็นผู้มี อำนาจออกหนังสือรับรองการมีสิทธิรับเงินค่ารักษาพยาบาล 1.2 กำหนดวิธีการในการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการ 1.3 กำหนดตำแหน่งผู้มีอำนาจรับรองการใช้สิทธิ และผู้มีอำนาจอนุมัติการเบิกจ่ายเงินสวัสดิ การ ฯ 1.4 กำหนดวิธีการเบิกเงินค่ารักษาพยาบาลกรณีเข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาล ของทางราชการประเภทผู้ป่วยใน 1.5 กำหนดให้การเบิกจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลกับสำนักงานคลังจังหวัดให้เบิกได้โดยไม่ต้อง ขอโอนเงินจัดสรร 2. ให้แก้ไขวันใช้บังคับของร่างระเบียบ ฯ เป็น "ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป" ตามข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และให้ดำเนินการต่อไป ได้
|
|||||||||||||||||||||
| 3564 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 23/06/2552 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของ บุตร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยร่างระเบียบ ฯ มีสาระสำคัญดังนี้ 1.1 ยกเลิกสำนักงานคลังจังหวัด ณ อำเภอ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง พ.ศ. 2551 1.2 แก้ไขเพิ่มเติมให้หัวหน้าส่วนราชการระดับกรม หรือผู้ที่หัวหน้าส่วนราชการระดับกรมมอบ หมาย ซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าตำแหน่งประเภททั่วไป ระดับชำนาญงาน ประเภทวิชาการ ระดับชำนาญ การหรือตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับ 6 หรือเทียบเท่าเป็นผู้มีอำนาจอนุมัติให้เบิกจ่ายเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการ ศึกษาของบุตร 1.3 ยกเลิกการยื่นขอเบิกเงิน การอนุมัติ และการเบิกจ่ายและจ่ายเงินในส่วนที่เกี่ยวกับสำนัก งานคลังจังหวัด ณ อำเภอ 2. ให้กระทรวงยุติธรรมแก้ไขวันใช้บังคับร่างระเบียบ ฯ โดยแก้ไขเป็น "ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่ วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป" ตามข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และ ให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
| 3565 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (จำนวน 3 ราย 1. นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณฯ) | กค | 23/06/2552 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการคลัง ให้ดำรงตำแหน่ง
ประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 3 ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวง การคลังเสนอ ดังนี้ 1. นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมศุลกากร (นักบริหารระดับสูง) 2. นายอุทิศ ธรรมวาทิน ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการคลัง 3. นายสาธิต รังคสิริ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการคลัง
|
|||||||||||||||||||||
| 3566 | ผลการเข้าร่วมงาน Roadshow ณ สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา และการประชุมของธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (Spring Meeting) | กค | 16/06/2552 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอผลการเข้าร่วมงาน Roadshow ณ กรุง
ลอนดอน สหราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 22-23 เมษายน 2552 และกรุงวอชิงตัน ดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกา ใน วันที่ 24 เมษายน 2552 และการเข้าร่วมการประชุมของธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (Spring Meeting) และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 24-26 เมษายน 2552 ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ คลัง สรุปได้ดังนี้ 1. การเข้าร่วมงาน Roadshow ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร และกรุงวอชิงตัน ดีซี ประเทศสหรัฐ อเมริกา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ชี้แจงต่อนักลงทุนให้ทราบถึงภาพรวมสถานการณ์เศรษฐกิจ และการ เมืองล่าสุดของประเทศเศรษฐกิจของไทย และสร้างความเข้าใจในแนวนโนยบายของรัฐบาล พร้อมทั้งให้นักลงทุน ต่างชาติได้รับทราบในข้อเท็จจริง อุปสรรคและโอกาสในการลงทุนในประเทศไทย 2. การประชุมอย่างไม่เป็นทางการของกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (South East Asia Voting Group : SEA Group) ของธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ที่ประชุมได้มีการหารือแนวโน้มเศรษฐ กิจและผลกระทบของวิกฤติเศรษฐกิจโลกต่อประเทศด้อยพัฒนา 3. การประชุมคณะกรรมการพัฒนาการของธนาคารโลก ครั้งที่ 79 (79th Development Committee Meeting) ที่ประชุมได้หารือถึงผลกระทบของวิกฤตเศรษฐกิจและการเงินโลกต่อประเทศสมาชิก โดยเฉพาะประเทศ กำลังพัฒนา และกำลังจะส่งผลกระทบต่อประชากรโลกโดยเกิดเป็นวิกฤตด้านมนุษย์และวิฤตด้านสิ่งแวดล้อม 4. การประชุม Bali Brunch ที่ประชุมได้หารือถึงเรื่อง Climate Change Financing โดยธนาคารโลกได้ รายงานความคืบหน้าการดำเนินการจัดให้มีแหล่งเงินกู้เพื่อการแก้ไขปัญหา Climate Change โดยการจัดตั้งกอง ทุน Clean Technology Fund ที่จะให้ความช่วยเหลือทางการเงินในรูปแบบเงินกู้ดอกเบี้ยผ่อนปรนเพื่อจูงใจให้เกิด โครงการพัฒนาต่าง ๆ ที่ส่งเสริมเทคโนโลยีในการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในภาคพลังงาน คมนาคม อุตสาห กรรม และการเกษตร
|
|||||||||||||||||||||
| 3567 | รายงานผลการพบปะหารือกับฝ่ายญี่ปุ่นเกี่ยวกับปัญหาการนำเข้าเหล็ก Q11 ภายใต้ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย - ญี่ปุ่น (JTEPA) และปัญหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | กค | 16/06/2552 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการพบปะหารือระหว่างรัฐมนตรีช่วยว่า
การกระทรวงการคลัง (นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์) กับนาง Sciko Hashimoto รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการ ต่างประเทศญี่ปุ่น เกี่ยวกับปัญหาการนำเข้าแผ่นเหล็กรีดร้อนสำหรับนำไปรีดเย็น (Q11) เพื่อใช้ในอุตสาหกรรม ยานยนต์ ระหว่างวันที่ 8-10 มิถุนายน 2552 ผลการหารือสรุปได้ว่า ปัญหาการให้สิทธิประโยชน์ภายใต้ความ ตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) แก่ผู้นำเข้าเหล็ก Q11 ได้มีความเข้าใจร่วมกันในระหว่างทั้งสองฝ่าย แล้วว่า ผู้นำเข้าควรได้รับการพิจารณาให้สามารถได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีศุลกากรภายใต้กรอบ JTEPA และมี ผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่นมีผลบังคับใช้ และนอกเหนือจากปัญหาดังกล่าวแล้ว ฝ่ายไทยได้หยิบยกปัญหาการส่งออกสับปะรดและปลาทูน่ากระป๋องไปยังญี่ปุ่น เพื่อขอให้ฝ่ายญี่ปุ่นพิจารณาแก้ไข ปัญหาสินค้าไทยทั้งสองรายการที่ไม่สามารถใช้สิทธิภายใต้กรอบความตกลง JTEPA ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งรัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นตอบรับคำขอของไทย โดยให้ไทยหยิบยกเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาอย่าง เป็นรูปธรรมในชั้นของคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องภายใต้ JTEPA ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
| 3568 | โครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 (เพิ่มเติมครั้งที่ 1) (นัดพิเศษ) | กค | 15/06/2552 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. อนุมัติให้ดำเนินโครงการด้านการพัฒนาการท่องเที่ยว (กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา) วงเงิน 2,459 ล้านบาท และโครงการยกระดับคุณภาพการศึกษาท้องถิ่นในส่วนของการก่อสร้างอาคารเรียนศูนย์เด็ก เล็ก (กระทรวงมหาดไทย) วงเงิน 1,950 ล้านบาท รวมเป็นวงเงินทั้งสิ้น 4,409 ล้านบาท โดยให้บรรจุในแผน ปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 2. ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการเร่งดำเนินการตามข้อเสนอของคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการ ภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 ด้วย และในกรณีที่โครงการใดที่เข้าข่ายจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของ ระเบียบและกฎหมายใด ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยว ข้องโดยเคร่งครัดต่อไป และหากหน่วยงานเจ้าของโครงการสามารถเริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ก็ให้ดำเนินการได้
|
|||||||||||||||||||||
| 3569 | กรอบการใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 (นัดพิเศษ) | กค | 15/06/2552 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. กรอบการใช้จ่ายเงินกู้ในวงเงิน 400,000 ล้านบาท ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลัง กู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 ทั้งนี้ สำหรับโครงการที่อยู่ภายใต้แผนปฏิบัติ การไทยเข้มแข็ง 2555 หากมีการเปลี่ยนแปลงโครงการและวงเงินโครงการ ให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการกลั่น กรองโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 ในการกลั่นกรองความเหมาะสม และนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อ อนุมัติต่อไป 2. ให้นำเสนอกรอบการใช้จ่ายเงินกู้ดังกล่าวต่อรัฐสภาเพื่อทราบในวันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน 2552 เพื่อ ให้กระทรวงการคลังสามารถเริ่มดำเนินการกู้เงินตามกฎหมายได้ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
| 3570 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีกรณีการบริจาคเงินให้แก่พรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550) | กค | 09/06/2552 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวง การคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ต่อไป โดยร่างพระราชบัญญัติ ฯ มีสาระสำคัญดังนี้ 1.1 กำหนดให้บุคคลธรรมดาที่มีการบริจาคเงินให้แก่พรรคการเมือง ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรม นูญว่าด้วยพรรคการเมือง สามารถนำมาหักเป็นค่าลดหย่อนในการคำนวณภาษีได้เท่ากับจำนวนเงินที่บริจาค แต่ ไม่เกิน 5,000 บาท แต่ทั้งนี้ เมื่อรวมกับเงินบริจาคในกรณีอื่นแล้ว ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้พึงประเมิน หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่น ๆ 1.2 กำหนดให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีการบริจาคเงินให้แก่พรรคการเมือง ตามกฎหมาย ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง สามารถนำเงินที่บริจาคมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิได้ เท่ากับจำนวนเงินที่บริจาค แต่ไม่เกิน 20,000 บาท แต่ทั้งนี้ เมื่อรวมกับรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อ การสาธารณประโยชน์ตามมาตรา 65 ตรี (3) แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว จะต้องไม่เกินร้อยละ 2 ของกำไรสุทธิ 2. คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550 ได้กำหนดวงเงินการบริจาคให้แก่พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งได้ไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อปี (มาตรา 59) แต่ผู้บริจาคมีสิทธินำจำนวนเงินที่บริจาคไปหักเป็นค่าลดหย่อนตามที่กำหนดในประมวลรัษฎากรได้ในกรณีบุคคล ธรรมดาไม่เกินปีละ 5,000 บาท และกรณีนิติบุคคลไม่เกินปีละ 20,000 บาท (มาตรา 61) ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อย เมื่อเทียบกับจำนวนเงินที่บริจาคเพื่อเป็นการเพิ่มแรงจูงใจให้กับผู้บริจาคสามารถสนับสนุนพรรคการเมืองได้อย่าง เปิดเผยตามรูปแบบและแนวทางการปกครองในระบอบประชาธิปไตย สมควรแก้ไขปรับปรุงสิทธิในการหักค่าลด หย่อนทางภาษี จึงมีมติมอบให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลังเพื่อแก้ ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าว แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
| 3571 | รายงานผลการกู้เงินจากรัฐบาลญี่ปุ่นสำหรับโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ - รังสิต | กค | 09/06/2552 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. รับทราบการลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยนว่าด้วยความร่วมมือทางการเงินระหว่างรัฐบาลไทยกับ รัฐบาลญี่ปุ่น โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นาย ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์) เป็นผู้ลงนามในนามรัฐบาลไทย และเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยเป็นผู้ลง นามในนามรัฐบาลญี่ปุ่น รวมทั้งได้มีการลงนามในสัญญาเงินกู้โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นาย ประดิษฐ์ ฯ) ซึ่งได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้ลงนามในนามรัฐบาลไทย และผู้ อำนวยการความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น (JICA) ประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2552 สำหรับ โครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ของการรถไฟแห่งประเทศไทย วงเงิน 63,018 ล้านเยน 2. ให้ลงประกาศกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการกู้เงินดังกล่าวในราชกิจจานุเบกษา ภายในวันที่ 30 พฤษภาคม 2552 และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจัดทำความเห็นทางกฎหมาย สำหรับสัญญาเงินกู้ โครงการดังกล่าวต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
| 3572 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์) | กค | 03/06/2552 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัด
กระทรวง กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
| 3573 | ค่าใช้จ่ายสำหรับโครงการรับจำนำผลิตผลทางการเกษตร ปีการผลิต 2551/2552 | กค | 03/06/2552 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้องค์การคลังสินค้า (อ.ค.ส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) กู้เงิน
สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายจำนวน 4,918.94 ล้านบาท และ 179.48 ล้านบาท ตามลำดับ โดยให้กระทรวงการคลังเป็น ผู้ค้ำประกันเงินกู้ดังกล่าว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
| 3574 | ขอต่ออายุเงินกู้ในรูป Euro Commercial Paper (ECP) | กค | 03/06/2552 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการขยายระยะเวลาสิ้นสุดการกู้เงินภายใต้ Euro Commercial Paper
หรือ ECP Programme จากปี พ.ศ. 2552 ต่อไปอีก 10 ปี โดยมีเงื่อนไขการกู้เงินและการเบิกจ่ายเงินกู้ตามที่ กระทรวงการคลังเสนอ |
|||||||||||||||||||||
| 3575 | ผลการประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ ครั้งที่ 1/2552 | กค | 03/06/2552 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบผลการประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ (กนร.) ครั้งที่ 1/2552 เมื่อวัน ที่ 9 มีนาคม 2552 ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาเรื่อง การปรับโครงสร้างการบริหารจัดการเพื่อฟื้นฐานะทางการเงิน ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ) ประธานกรรมการ กนร. เสนอ 2. อนุมัติในหลักการเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างการบริหารจัดการเพื่อฟื้นฟูฐานะทางการเงินของ รฟท. ที่กระทรวงคมนาคมเสนอ (หนังสือกระทรวงคมนาคม ด่วนที่สุด ที่ คค (ปคร.) 0804/143 ลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2552 และหนังสือกระทรวงคมนาคม ด่วนที่สุด ที่ คค (ปคร.) 0804/149 ลงวันที่ 18 พฤษภาคม 2552) ส่วนเงิน ทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัทเดินรถและบริษัทบริหารสินทรัพย์นั้น อนุมัติงบประมาณให้เฉพาะบริษัท เดินรถ จำนวน 140 ล้านบาท เพื่อใช้จ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 เท่านั้น และให้ รฟท. ปรับแผนปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ไปดำเนินการ ส่วนปีต่อ ๆ ไป ให้ใช้จ่าย จากรายได้ที่จะเกิดขึ้นตามประมาณการทางการเงินของบริษัทต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ 3. ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการตามข้อสังเกตของรองนายกรัฐมนตรี (นายกอร์ปศักดิ์ ฯ) ประธาน กรรมการ กนร. ที่ให้กระทรวงคมนาคมกำกับดูแลการดำเนินงานของ รฟท. อย่างใกล้ชิดและรายงานความคืบหน้า ต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป และให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการ พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ให้ รฟท. พิจารณาทบทวนโครงสร้างอัตรากำลังสำหรับหน่วยธุรกิจเดิน รถโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Airport Rail Link : ARL) ให้สอดคล้องกับกรณี การจ้างบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ โดยเฉพาะฝ่ายปฏิบัติการ และจัดทำแผนในการโอนหน่วยธุรกิจ การเดินรถโดยสารและสินค้าให้ชัดเจนเพื่อให้สามารถดำเนินการได้ภายในปี พ.ศ. 2554 และให้กระทรวงคมนาคม พิจารณาแนวทางและกลไกกำกับดูแลระบบขนส่งทางรางทำหน้าที่กำหนดหลักเกณฑ์ มาตรฐานการให้บริการ และ การกำกับการให้บริการระบบขนส่งทางรางเพื่อคุ้มครองผู้ใช้บริการ และเพื่อสร้างความเป็นธรรมระหว่างผู้มีส่วนได้ ส่วนเสียทั้งรัฐบาล ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานและผู้ให้บริการเดินรถ และให้ รฟท. เร่งจัดเตรียมรายละเอียดของ โครงการลงทุนภายใต้แผนยุทธศาสตร์การปรับปรุงโครงสร้างการบริหารจัดการเพื่อฟื้นฟูฐานะการเงิน ของ รฟท. โดยให้ศึกษาความเหมาะสมของโครงการทั้งทางด้านเทคนิค เศรษฐกิจ การเงิน แผนธุรกิจและแผนการตลาด ทาง เลือกการเพิ่มบทบาทของภาคเอกชน เพื่อให้โครงการมีรายละเอียดที่สมบูรณ์ และนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา ตามขั้นตอนต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||
| 3576 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 03/06/2552 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ผู้ได้รับหรือมีสิทธิได้รับเบี้ยหวัดตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหม ผู้ได้รับหรือมีสิทธิได้รับบำนาญปกติ บำนาญพิเศษเพราะเหตุทุพพลภาพ บำนาญพิเศษหรือบำนาญตกทอดในฐานะทายาทหรือผู้อุปการะหรือผู้อยู่ ในอุปการะ ตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ถ้าได้รับเบี้ยหวัดหรือบำนาญรวมกันทุกประเภท เมื่อรวมกับ ช.ค.บ. แล้วต่ำกว่าเดือนละหกพันบาท ให้ได้รับ ช.ค.บ. เพิ่มอีกในอัตราเดือนละเท่ากับส่วนต่างของ จำนวนเงินหกพันบาทหักด้วยจำนวนเบี้ยหวัดหรือบำนาญทุกประเภท และ ช.ค.บ. ที่ได้รับหรือมีสิทธิได้รับ และ ให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
| 3577 | ร่างพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 03/06/2552 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่ กระทรวงการคลังเสนอ มีสาระสำคัญคือ เพิ่มเติมวัตถุประสงค์การให้กู้ยืมแก่นิสิตหรือนักศึกษาที่ศึกษาในสาขา วิชาที่ขาดแคลนจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ รวมทั้งเพิ่มอำนาจของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาในการจัด หาประโยชน์จากทรัพย์สินของกองทุน และการระดมเงินทุนโดยการกู้ยืมเงิน การออกตราสารหนี้ การแปลงสิน ทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ ตลอดจนแก้ไขอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการกองทุน และส่งสำนักงานคณะกรรมการ กฤษฎีกาตรวจพิจารณา ทั้งนี้ ให้แก้ไขวัตถุประสงค์การให้กู้ยืมเงินของกองทุน โดยเห็นควรให้ความช่วยเหลือนัก เรียนหรือนักศึกษาในสาขาวิชาที่ขาดแคลน ฯ เฉพาะค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา โดยไม่ รวมถึงค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการครองชีพระหว่างการศึกษา เนื่องจากนักเรียน หรือนักศึกษาในสาขาวิชาที่ขาด แคลน ฯ อาจไม่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ตามความเห็นของคณะรัฐมนตรี และเพิ่มเติมเลขาธิการคณะกรรมการการ ศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นกรรมการในคณะกรรมการกองทุน รวมทั้งรับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการ เพิ่มอำนาจของกองทุนในส่วนที่เกี่ยวกับการจัดหาประโยชน์จากทรัพย์สินของกองทุนและการระดมเงินทุน เพื่อ ป้องกันความเสี่ยงในการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน ควรจะกำหนดมาตรการที่รอบคอบและรัดกุม โดยออกระเบียบ หลักเกณฑ์เพิ่มเติมกรณีที่มีความจำเป็นต้องทำธุรกรรมทางการเงิน ไปพิจารณา แล้วนำเสนอสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาต่อไป 2. ให้กระทรวงการคลัง คณะกรรมการกองทุนเพื่อการศึกษา และคณะกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืม เพื่อการศึกษาร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ เพื่อให้มีการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา ทันสำหรับภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2552 และกรณีมีเงินเหลือควรจัดสรรให้กับนักเรียนหรือนักศึกษาที่ตก ค้างการกู้ยืมเงินด้วย โดยไม่ให้กระทบต่อสถานะของกองทุน |
|||||||||||||||||||||
| 3578 | ผลการประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ ครั้งที่ 2/2552 | กค | 03/06/2552 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบและเห็นชอบผลการประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ
(กนร.) ครั้งที่ ๒/๒๕๕๒ เมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๕๒ โดยที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องต่าง
ๆ ได้แก่ ผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๑ ร่างหลักการและแนวทางการกำกับดูแลที่ดีในรัฐวิสาหกิจ
ปี.... แผนธุรกิจเพื่อพลิกฟื้นฐานะทาง การเงินของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)
(บมจ.ทีโอที) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) (บมจ. กสท.)
ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ) ประธานกรรมการ กนร. เสนอ ๒. ให้คณะกรรมการ
กนร. รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. ที่ควรเพิ่มเรื่องการมีส่วนร่วมของประชา
ชนในกิจการรัฐวิสาหกิจ (Participation) ในร่างหลักการและแนวทางการกำกับดูแลที่ดีในรัฐวิสาหกิจ
ปี.... โดย แยกไว้เป็นการเฉพาะ
เนื่องจากเป็นหลักการสำคัญของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี โดยพิจารณาเพิ่มเติมว่า
ควรเปิดโอกาสให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในสังคมกลุ่มใดได้เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น
และในเรื่องใดบ้าง และพิจารณาทบทวน
ความถูกต้องสอดคล้องของหลักการและแนวทางในแต่ละหมวด เช่น หมวดที่ ๒ ว่าด้วยสิทธิและความเท่าเทียมกัน
ของเจ้าของกิจการ/ผู้ถือหุ้น ได้กำหนดว่าคณะกรรมการ กนร.
ควรมีมาตรการป้องกันกรณีกรรมการผู้บริหารใช้
ข้อมูลภายในเพื่อหาผลประโยชน์ให้แก่ตนเองหรือผู้อื่นในทางมิชอบ....
ควรย้ายไปบรรจุไว้ในหมวดที่ ๓ ความรับ ผิดชอบของคณะกรรมการ กนร. เป็นต้น
รวมทั้งทบทวนแนวทางปฏิบัติที่ดีในแต่ละหมวดให้สอดคล้องกัน เช่น หมวดที่ ๔ ว่าด้วยบทบาทของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแนวทางปฏิบัติที่ดี
ส่วนใหญ่มิได้แสดงถึงบทบาทของผู้มีส่วนได้ ส่วนเสีย แต่เป็นบทบาทของคณะกรรมการ
กนร. ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
๓. ปัจจุบันรัฐวิสาหกิจหลายแห่งยังไม่มีผู้บริหารสูงสุดเนื่องจากไม่มีผู้สมัคร
จึงมอบหมายให้คณะกรรม การ กนร.
รับไปพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์การสรรหาผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้มีความ
รู้ความสามารถสมัครเป็นผู้บริหารสูงสุดได้มากขึ้น
|
|||||||||||||||||||||
| 3579 | มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล | กค | 03/06/2552 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิ และนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน กรณีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด และ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามกฎหมายว่าด้วย อาคารชุด กรณีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด รวม 2 ฉบับ ตามที่กระทรวงการ คลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา 2. ให้แก้ไขวันใช้บังคับของร่างประกาศทั้ง 2 ฉบับ จาก "...ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2552 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2552" เป็น "...ตั้งแต่วันที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยลงนามในประกาศกระทรวงมหาดไทย เป็นต้นไป ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2552" แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
| 3580 | แจ้งการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย | กค | 03/06/2552 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังแจ้งการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกัน
วินาศภัยของบริษัทสัมพันธ์ประกันภัย จำกัด เนื่องจากบริษัท ฯ ไม่สามารถดำรงเงินกองทุนประกันวินาศภัยให้ ครบถ้วนตามกฎหมายได้ มีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน ประวิงการชำระค่าสินไหมทดแทน และฝ่าฝืนบทบัญญัติของ กฎหมาย หากบริษัท ฯ ประกอบธุรกิจต่อไปจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน โดยให้ กระทรวงการคลังรายงานผลการจ่ายเงินจากกองทุนประกันวินาศภัยให้แก่เจ้าหน้าที่ของบริษัท ฯ (โดยเฉพาะผู้ เอาประกันภัย) และผลกระทบต่อกองทุนให้คณะรัฐมนตรีทราบด้วย
|
|||||||||||||||||||||
