ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 180 จากทั้งหมด 483 หน้า แสดงรายการที่ 3581 - 3600 จากข้อมูลทั้งหมด 9659 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 3581 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณค่าปรับปรุงที่จอดเรือภายนอกเกาะสีชัง กรมศุลกากร | กค | 03/06/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรมศุลกากรเปลี่ยนแปลงรายการ จากค่าปรับปรุงที่จอดเรือภายนอกเกาะ
สีชัง เป็นรายการก่อสร้างท่าเทียบเรือศุลกากรเกาะสีชัง และขยายระยะเวลาการก่อหนี้ผูกพันจากปี พ.ศ. 2551- พ.ศ. 2552 เป็น พ.ศ. 2551-พ.ศ. 2554 ภายในวงเงินทั้งสิ้น 194,999,500 บาท โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณ รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 จำนวน 50,000,000 บาท งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 จำนวน 47,500,000 บาท และส่วนที่เหลือให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553-พ.ศ. 2554 จำนวน 97,499,500 บาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3582 | มาตรการให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ | กค | 26/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ
โดยให้ส่วนราชการในภูมิภาค หรือส่วนราชการในส่วนกลางที่มีหน่วยงานตั้งอยู่ในส่วนภูมิภาค ซึ่งอยู่ในเขตพัฒนา พิเศษเฉพาะกิจที่จะทำการจัดซื้อในวงเงินเกิน 100,000 บาท แต่ไม่เกิน 15,000,000 บาท หรือจัดจ้างในวงเงิน เกิน 100,000 บาท แต่ไม่เกิน 30,000,000 บาท ให้สามารถจัดซื้อ จัดจ้าง โดยวิธีพิเศษตามระเบียบสำนักนายก รัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ได้โดยอนุโลม ทั้งนี้ โดยให้อยู่ในอำนาจของหัวหน้าส่วน ราชการนั้น หรือผู้ว่าราชการจังหวัด แล้วแต่กรณี ที่จะพิจารณาให้ความเหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อทางราชการ เป็นสำคัญ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3583 | การจ่ายเงินชดเชยการดำเนินการตามมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนกรณีองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ | กค | 19/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้จ่ายเงินชดเชยเพื่อเป็นรายได้ชดเชยส่วนต่างระหว่างเงินชดเชยที่
ใช้หลักต้นทุนในการคำนวณและเงินชดเชยที่ใช้หลักรายได้เฉลี่ยในการคำนวณ ตามกรอบวงเงินที่องค์การขนส่งมวล ชนกรุงเทพได้จัดทำประมาณการต้นทุนช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2552-กรกฎาคม 2552 วงเงินประมาณ 639.13 ล้าน บาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่างประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น |
|||||||||||||||||||||||||||
| 3584 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการปกครอง ดูแล บำรุงรักษา ใช้และจัดหาประโยชน์เกี่ยวกับที่ราชพัสดุ (ฉบับที่ .. ) พ.ศ. .... | กค | 19/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการปกครอง ดูแล บำรุงรักษา
ใช้และจัดหาประโยชน์เกี่ยวกับที่ราชพัสดุ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎกระทรวง ฯ มีสาระสำคัญดังนี้ 1. กำหนดให้ใช้ที่ราชพัสดุเพื่อประโยชน์แก่การจัดสวัสดิการภายในส่วนราชการได้ 2. กำหนดให้ผู้ใช้ที่ราชพัสดุจัดทำรายงานเกี่ยวกับที่ราชพัสดุที่อยู่ในความครอบครองหรือประโยชน์ ต่อกรมธนารักษ์ 3. กำหนดให้ที่ราชพัสดุที่กระทรวง ทบวง กรม สงวนไว้แต่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ในทางราชการ หรือที่ ราชพัสดุที่ใช้ประโยชน์เป็นสนามบินและยังไม่ได้ใช้ประโยชน์เพื่อดำเนินการท่าอากาศยาน นำมาจัดหาประโยชน์ โดยการจัดให้เช่าหรือโดยวิธีการจัดทำสัญญาต่างตอบแทนอื่น 4. กำหนดให้ผู้ใช้ที่ราชพัสดุส่งที่ราชพัสดุที่มีที่ว่างหรือมีการใช้ประโยชน์ไม่เหมาะสมหรือไม่คุ้มค่าคืน กรมธนารักษ์ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในทางราชการตามนโยบายรัฐบาลและภารกิจอื่นที่เหมาะสมและมีความคุ้ม ค่ากว่าต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3585 | แต่งตั้งผู้แทนกระทรวงการคลังเป็นกรรมการในคณะกรรมการบริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ชลสิน จำกัด | กค | 19/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติให้แต่งตั้งผู้แทนจากกระทรวงการคลังเป็นกรรมการผู้แทนภาครัฐบาลในคณะกรรมการบริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ชลสิน จำกัด ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ 1.1 แต่งตั้งนายจักรกฤศฏ์ พาราพันธกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวง การคลัง เป็นกรรมการผู้แทนภาครัฐบาลในคณะกรรมการบริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน) 1.2 แต่งตั้งนายสุวิชญ์ โรจนนานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการ คลัง เป็นกรรมการผู้แทนภาครัฐบาลในคณะกรรมการบริษัท ชลสิน จำกัด 2. สำหรับการขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2551 ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรม เสนอโดยขอให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาแต่งตั้งผู้แทนกระทรวงการคลังเป็นผู้แทนฝ่ายรัฐบาลในคณะกรรม การบริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ชลสิน จำกัด ในโอกาสต่อไป นั้น อาจมีปัญหาเกี่ยวกับข้อ กำหนดในสัญญาให้ผลประโยชน์พิเศษตอบแทนในการอนุญาตทำเหมืองแร่ในทะเล ข้อ 5(2) ซึ่งกำหนดให้นายก รัฐมนตรีแต่งตั้งผู้แทนเป็นกรรมการบริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน) อย่างน้อย 1 คน และข้อกำหนดใน สัญญาเกี่ยวกับการสำรวจและทำเหมืองแร่ทองคำ ข้อ 7(9) ซึ่งกำหนดให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท ชลสิน จำกัด แต่งตั้งผู้แทนของรัฐบาลเข้ามาเป็นกรรมการในคณะกรรมการของบริษัท ฯ จำนวน 1 คน และในทางปฏิบัติที่ผ่าน มากระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงการคลังได้เสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณามาโดยตลอด และโดยที่เป็นเรื่อง เกี่ยวกับสัญญา จึงให้กระทรวงการคลังรับไปหารือร่วมกับสำนักงานอัยการสูงสุด แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง หนึ่ง
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3586 | รายงานการนำเข้าสินค้าที่ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (ประจำไตรมาสที่ 2 ไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 ของปี พ.ศ. 2551) | กค | 19/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานการนำเข้าสินค้าที่ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษี
ศุลกากรจากประเทศสมาชิกใหม่อาเซียน [กัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และ พม่า] ประจำไตรมาสที่ 2 ไตรมาสที่ 3 และไตรมาศที่ 4 ของปี พ.ศ. 2551 สรุปได้ดังนี้ 1. ในไตรมาสที่ 2 ปี พ.ศ. 2551 (เมษายน-มิถุนายน) มีการนำเข้าสินค้าที่ได้รับสิทธิพิเศษทาง ภาษีศุลกากร มีมูลค่ารวม 269,055,071 บาท แยกเป็นมูล มูลค่าสินค้าที่ยกเว้นอากร 268,764,841 บาท และมูลค่าสินค้าที่ลดหย่อนอากร 290,230 บาท ลดลงจากไตรมาสที่ 1 ปี พ.ศ. 2551 จำนวน 69,343,058 บาท 2. ในไตรมาสที่ 3 ปี พ.ศ. 2551 (กรกฎาคม-กันยายน) มีการนำเข้าสินค้าที่ได้รับสิทธิพิเศษทาง ภาษีศุลกากร มีมูลค่ารวม 788,922,636 บาท แยกเป็น มูลค่าสินค้าที่ยกเว้นอากร 788,542,696 บาท และ มูลค่าสินค้าที่ลดหย่อนอากร 379,940 บาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2 ปี พ.ศ. 2551 จำนวน 519,867,565 บาท 3. ในไตรมาสที่ 4 ปี พ.ศ. 2551 (ตุลาคม - ธันวาคม) มีการนำเข้าสินค้าที่ได้รับสิทธิพิเศษทาง ภาษีศุลกากร มีมูลค่ารวม 635,855,267 บาท แยกเป็น มูลค่าสินค้าที่ยกเว้นอากร 635,780,836 บาท และ มูลค่าสินค้าที่ลดหย่อนอากร 74,431 บาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 3 ปี พ.ศ. 2551 จำนวน 153,067,369 บาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3587 | การดำเนินงานโครงการนำร่องการประกันภัยพืชผลโดยใช้ดัชนีภูมิอากาศ | กค | 19/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอผลการดำเนินงานโครงการนำร่องการประกันภัยพืชผลโดย ใช้ดัชนีภูมิอากาศของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สรุปได้ดังนี้ ผลการดำเนินงานใน ปี พ.ศ. 2551 ในพื้นที่โครงการนำร่อง 9 อำเภอ 5 จังหวัด ได้แก่ อำเภอบึงสามพัน วิเชียรบุรี ศรีเทพ จังหวัดเพชร บูรณ์ อำเภอตากฟ้า ตาคลี ไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์ อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี อำเภอมวกเหล็ก จังหวัด สระบุรี และอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา สามารถขายกรมธรรม์ได้จำนวน 388 ราย คิดเป็นพื้นที่ 7,238 ไร่ ส่วนการจ่ายสินไหมทดแทน ผลการคุ้มครองช่วงการคุ้มครองที่ 1 (ช่วงเพาะปลูก) ระยะเวลาคุ้มครอง 30 วัน บริษัทประกันภัยจ่ายค่าสินไหมให้เกษตรกรผู้เอาประกัน จำนวน 21 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 43,188.46 บาท ประกอบด้วย เกษตรกรผู้เอาประกัน แผนที่ 1 (80 บาทต่อไร่) จำนวน 7 ราย พื้นที่ 99 ไร่ จ่ายค่าสินไหม ม.ม. ละ 2.05 บาทต่อไร่ รวมเป็นเงิน 9,498.06 บาท และเกษตรกรผู้เอาประกัน แผนที่ 2 (120 บาทต่อไร่) จำนวน 14 ราย พื้นที่ 230 ไร่ จ่ายค่าสินไหม ม.ม. ละ 3.13 บาทต่อไร่ รวมเป็นเงิน 33,690.40 บาท โดยได้มีการจ่าย ชดเชยให้แก่เกษตรกรไปแล้วเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2551 สำหรับแผนการดำเนินงานปีการผลิต 2552 ธ.ก.ส. มีเป้าหมายที่จะขยายพื้นที่ในการรับประกันภัยพืชผล ประเภทภัยแล้ง การเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปีการผลิต 2552 จำนวน 100,000 ไร่ ในจังหวัดที่มีพื้นที่การปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตั้งแต่ 60,000 ไร่ขึ้นไป รวมทั้งมีสถานี ตรวจวัดอากาศอุตุนิยมวิทยาตั้งอยู่ 18 จังหวัด 2. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งรัดเสนอระบบประกันภัยพืชผลอันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติ ต่อ คณะรัฐมนตรีโดยเร็ว เนื่องจากเป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาล
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3588 | เงินกู้ Public Sector Reform Development Policy Loan (PSRDPL) จากธนาคารโลก | กค | 13/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. รับหลักการของร่างสัญญาเงินกู้ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง และนำเสนอร่างสัญญาดังกล่าวต่อรัฐสภา เพื่อให้ความเห็นชอบ 2. อนุมัติให้กระทรวงการคลังในนามรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย ดำเนินการกู้เงิน Public Sector Reform Development Policy Loan จากธนาคารโลก วงเงิน 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ 3. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบหมายเป็น ผู้ลงนามในสัญญากู้เงิน รวมทั้งเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในนามรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย 4. มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจัดเตรียมทำความเห็นทางกฎหมายโดยด่วนต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3589 | การขอคืนที่ดินราชพัสดุที่ยกให้กับทางราชการ รายนางเครือพันธ์ พงศ์สถาพร | กค | 13/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินราชพัสดุตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก.)
เลขที่ 3404 ตำบลป่าแมต อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ คืนให้กับนางเครือพันธ์ พงศ์สถาพร ผู้ยกให้ โดยนางเครือ พันธ์ ฯ ต้องเป็นผู้รับภาระค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินราชพัสดุ ตลอด จนค่าอากรแสตมป์ ภาษีธุรกิจเฉพาะ ภาษีเงินได้ รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนดแทนกระทรวง การคลังทั้งสิ้น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3590 | มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก | กค | 13/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีการวม 3 ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้
ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ 1. ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการของสถาบันคุ้ม ครองเงินฝาก 2. ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการกำหนดกิจการที่ได้รับการยกเว้น ภาษีธุรกิจเฉพาะ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้กิจการสถาบันคุ้มครองเงินฝากเป็นกิจการที่ได้ รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ 3. ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยกเว้นอากรแสตม์ให้แก่สถาบันคุ้มครองเงินฝาก
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3591 | รายงานผลการพิจารณากลั่นกรองโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 | กค | 06/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. รับทราบแผนการลงทุนสำหรับโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 (Stimulus Package 2 : SP2) "โครงการ SP2" ในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2553-พ.ศ. 2555 วงเงินลงทุนรวม 1,431,330 ล้านบาท ซึ่ง คณะกรรมการกลั่นกรองโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 ได้พิจารณาโครงการ SP2 ภายใต้กรอบการ ลงทุนที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติ จำนวน 1,566,867 ล้านบาท พบว่า มีโครงการ SP2 ที่มีความเหมาะสมที่จะอนุมัติ ให้ดำเนินการได้ในวงเงินลงทุน 1,431,330 ล้านบาท โดยมีโครงการลงทุนที่มีลำดับความสำคัญและมีความพร้อม ในการดำเนินงานสูง (กลุ่มโครงการประเภทที่ 1) ที่สามารถเริ่มดำเนินงานได้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 จำนวน 1,063,673 ล้านบาท รวม 13 สาขา 2. อนุมัติให้ดำเนินโครงการ SP2 ประเภทที่ 1 มีความพร้อมที่จะดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 วงเงินลงทุนรวม 1,063,673 ล้านบาท โดยในกรณีที่โครงการใดที่เข้าข่ายต้องดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบ และกฎหมายใด ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเคร่ง ครัดต่อไป และหากหน่วยงานเจ้าของโครงการสามารถเริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ก็ให้ดำเนินการ ได้ สำหรับโครงการ SP2 ประเภทที่ 2 และ 3 เมื่อหน่วยงานดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ เรียบร้อยและพร้อม ดำเนินงาน ให้เสนอคณะกรรมการ ฯ พิจารณากลั่นกรองและนำเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ดำเนินโครงการ 3. อนุมัติแผนการระดมทุนและกลยุทธ์การระดมทุนสำหรับโครงการ SP2 ในส่วนที่รัฐบาลเป็นผู้รับภาระ ในการลงทุน และให้กระทรวงการคลังพิจารณาดำเนินการในการจัดหาเงินลงทุน 4. เห็นชอบแนวทางการดำเนินโครงการ SP2 ประกอบด้วย การเตรียมการด้านการจัดซื้อจัดจ้าง การ เตรียมความพร้อมในการเบิกจ่ายงบลงทุน และการกำกับดูแล เร่งรัด และติดตามประเมินผลโครงการ และให้หน่วย งานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการให้เรียบร้อยโดยเร็ว 5. เห็นชอบแนวทางการพิจารณากลั่นกรองโครงการที่เสนอขอบรรจุเข้าโครงการ SP2 เพิ่มเติม ประกอบ ด้วย การกำหนดหลักเกณฑ์การเสนอโครงการ รวมทั้งระยะเวลาการพิจารณากลั่นกรองโครงการ และการนำเสนอ โครงการให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ 6. สำหรับกรอบระยะเวลาการพิจารณาโครงการที่เสนอขอบรรจุเข้าในโครงการ SP2 เพิ่มเติม นั้น ให้ ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และคณะกรรมการ ฯ เร่งรัดการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยให้คณะ กรรมการ ฯ นำเสนอโครงการที่พิจารณากลั่นกรองแล้วต่อคณะรัฐมนตรีภายในเดือนมิถุนายน 2552
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3592 | กรอบการเจรจากู้เงินจากต่างประเทศ | กค | 06/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. อนุมัติกรอบการเจรจากู้เงินจากต่างประเทศและพิจารณานำเสนอรัฐสภาเพื่อให้ความเห็นชอบกรอบ การเจรจากู้เงินดังกล่าว 2. มอบหมายให้กระทรวงการคลังดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้ที่เกี่ยวข้องก่อนที่จะ นำเสนอสัญญาเงินกู้และเอกสารที่เกี่ยวข้องให้รัฐสภาเพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3593 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินและขยายระยะเวลาทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีรายการก่อสร้างอาคารชุดพักอาศัยของสำนักงานสรรพากรพื้นที่สงขลา 1 | กค | 06/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างอาคารชุดพักอาศัย ขนาด 39 หน่วย ของสำนักงานสรรพา
กรพื้นที่สงขลา 1 จำนวน 4,243,600 บาท จากที่ได้รับอนุมัติ 36,000,000 บาท เป็น 40,243,600 บาท และ ขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปี รายการก่อสร้างอาคารชุดพักอาศัยดังกล่าว จากปีงบประมาณ พ.ศ. 2551- พ.ศ. 2552 เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. 2551-พ.ศ. 2553 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ หากกรมสรรพากรได้ ดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งกฎหมายและ มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องแล้วให้กรมสรรพากรดำเนินการก่อสร้างอาคารชุดพักอาศัยดังกล่าวได้ โดยให้เบิกจ่าย จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 จำนวนเงิน 7,200,000 บาท งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 จำนวนเงิน 28,800,000 บาท และงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 จำนวนเงิน 4,243,600 บาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3594 | การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (นายธนศักดิ์ วหาวิศาล) | กค | 06/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายธนศักดิ์ วหาวิศาล เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคาร
เพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย แทนนายสุภัค ศิวะรักษ์ ที่ลาออก ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรี มีมติ (6 พฤษภาคม 2552) เป็นต้นไป โดยให้ผู้ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทนอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่ เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้งไว้แล้ว ตามนัยมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติธนาคารเพื่อการส่งออกและนำ เข้าแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2536 ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3595 | ปรับปรุงภาษีน้ำมันเพื่อเสริมฐานะทางการคลังของรัฐบาล | กค | 06/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ มีสาระสำคัญคือ ปรับเพิ่มอัตราภาษีน้ำมันเบนซินและน้ำมันที่ คล้ายกัน แนพทา รีฟอร์เมท ไพโรลายลิสก๊าซโซลีน และของเหลวที่คล้ายกัน น้ำมันดีเซลและน้ำมันอื่น ๆ ที่คล้าย กัน ก๊าซธรรมชาติเหลว (เอ็น.จี.แอล.) และก๊าซเหลวที่คล้ายกัน และอื่น ๆ ตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดในราชกิจ จานุเบกษา และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดย คณะรัฐมนตรีเห็นว่า การดำเนินการตราพระราชกำหนดในเรื่องนี้เป็นกรณีที่มีความจำเป็นต้องมีกฎหมายเกี่ยวด้วย ภาษีอากร ซึ่งต้องได้รับการพิจารณาโดยด่วนและลับเพื่อรักษาประโยชน์ของแผ่นดินตามมาตรา 186 ของรัฐธรรม นูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2. เห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ลดอัตราและยกเว้นภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ มีสาระสำคัญคือ กำหนดอัตราภาษีที่ใช้ในการจัดเก็บภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน และส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วนแล้วดำเนินการต่อไปได้เมื่อร่างพระราชกำหนด ในเรื่องนี้ประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายแล้ว 3. ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน และกระทรวงพาณิชย์กำหนดมาตรการป้องกันและควบคุมดูแล มิให้มีการกักตุนและลักลอบการนำเข้าสินค้าน้ำมันต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3596 | ปรับปรุงอัตราค่าแสตมป์ยาสูบ | กค | 06/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ มีสาระสำคัญคือ ปรับเพิ่มอัตราค่าแสตมป์ยาสูบ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการ กฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยคณะรัฐมนตรีเห็นว่าการดำเนินการตราพระราช กำหนดในเรื่องนี้เป็นกรณีที่มีความจำเป็นต้องมีกฎหมายเกี่ยวด้วยภาษีอากร ซึ่งจะต้องได้รับการพิจารณาโดยด่วน และลับเพื่อรักษาประโยชน์ของแผ่นดินตามมาตรา 186 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงอัตราค่าแสตมป์ยาสูบ สำหรับยาสูบชนิดบุหรี่ซิกาแรต และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้แก้ ไขอัตราภาษีรายการ 2.1 บุหรี่ซิกาแรต จาก "ตามมูลค่าร้อยละ 82" เป็น "ตามมูลค่าร้อยละ 85" แล้วดำเนินการ ต่อไปได้เมื่อร่างพระราชกำหนดในเรื่องนี้ประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายแล้ว 3. ให้กระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ กำหนดมาตรการป้องกันและควบคุมดูแลมิให้มีการกักตุน และลักลอบการนำเข้าสินค้ายาสูบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3597 | ปรับเพิ่มอัตราภาษีสุราเพื่อเสริมสร้างฐานะการคลังของรัฐบาล | กค | 06/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดชนิดของสุราและอัตราภาษีสุรา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่ กระทรวงการคลังเสนอ มีสาระสำคัญ แก้ไขเพิ่มเติมอัตราภาษีของสุราแช่ ชนิดเบียร์ และสุรากลั่นชนิดสุราขาว ชนิดสุราผสม และชนิดสุราพิเศษ ประเภทบรั่นดีให้สูงขึ้น เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน และเพิ่มรายได้ของประเทศ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้แก้ ไขอัตราภาษีในรายการ 1.1 ชนิดเบียร์จาก "ตามมูลค่าร้อยละ 58" เป็น "ตามมูลค่าร้อยละ 60" แล้วดำเนิน การต่อไปได้ 2. ให้กระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์กำหนดมาตรการป้องกันและควบคุมดูแลมิให้มีการกัก ตุนและลักลอบการนำเข้าสินค้าสุราต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3598 | ร่างกฎหมายให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน | กค | 06/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกำหนดและร่างพระราชบัญญัติรวม 2 ฉบับ ตามที่กระทรวง
การคลังเสนอ ดังนี้ 1. ร่างพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้มีกฎหมายว่าด้วยการให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่น คงทางเศรษฐกิจ และให้เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ 2. ร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้มี กฎหมายว่าด้วยการให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และให้เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3599 | มาตรการสินเชื่อชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม | กค | 28/04/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอมาตรการสินเชื่อเพื่อชำระภาษีเงินได้นิติบุคคล
ของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) โดยให้ธนาคาร (สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และธนาคาร พาณิชย์) ปล่อยสินเชื่อให้แก่ SMEs ที่เป็นลูกค้าของธนาคารเพื่อชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลประจำปี พ.ศ. 2551 ระยะเวลาการให้สินเชื่อ 1 ปี ระยะเวลาปลอดหนี้ 3 เดือน อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี จ่ายชำระเป็นรายเดือน โดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เป็นผู้ค้ำประกันสินเชื่อเต็มจำนวนของผู้กู้แต่ละราย วง เงินค้ำประกันรวมประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยคิดค่าธรรมเนียมตามปกติ และให้ บสย. จ่ายเงินในส่วนที่ค้ำ ประกันให้กับธนาคารทันทีที่ค้างชำระ (ค้างชำระเกิน 3 เดือน) โดยไม่ต้องรอฟ้องร้องต่อศาล หรือมีเงื่อนไขใด
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3600 | การให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจและปัญหาภายในประเทศ | กค | 28/04/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. อนุมัติหลักการโครงการประกันภัยคุ้มครองชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยในกรณีเกิด จลาจล เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชาวต่างชาติ โดยรัฐบาลเป็นผู้ซื้อกรมธรรม์จากบริษัทประกันในประเทศไทย เพื่อประกันภัยคุ้มครองชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทยในกรณีเกิดจลาจล 2. อนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการประกันภัยคุ้มครองชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามา ในประเทศไทยในกรณีเกิดจลาจล จำนวน 190.75 ล้านบาท โดยเบิกจ่ายจากงบกลาง รายจ่ายสำรองเพื่อกรณี ฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 และให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาตกลงในรายละเอียด กับสำนักงบประมาณต่อไป 3. อนุมัติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ) เสนอขอแก้ไขปรับปรุงถ้อยคำในหนังสือ กระทรวงการคลัง ด่วนที่สุด ที่ กค 1006/6832 ลงวันที่ 27 เมษายน 2552 หน้า 3 จากเดิม "(10) ขั้นตอน การพิจาารณา : ผู้ประกอบการที่ขอสินเชื่อยื่นคำขอสินเชื่อโดยตรงต่อ ธพว. และสำเนาให้สมาคมโรงแรมไทย สมาคมภัตตาคารไทย สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือ ..." เป็น "(10) ขั้นตอนการพิจารณา : ผู้ประกอบ การที่ขอสินเชื่อยื่นคำขอสินเชื่อโดยตรงต่อ ธพว. และสำเนาให้สมาพันธ์ธุรกิจท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคม ภัตตาคารไทย สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือ ..." |
|||||||||||||||||||||||||||
.....
