ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 171 จากทั้งหมด 484 หน้า แสดงรายการที่ 3401 - 3420 จากข้อมูลทั้งหมด 9662 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 3401 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสที่องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) ทูลเกล้าฯ ถวาย "รางวัลผู้นำโลกด้านทรัพย์สินทางปัญญา" พ.ศ. .... | กค | 23/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเฉลิมพระ
เกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสที่องค์การทรัพย์สินทางปัญญา (WIPO) ทูลเกล้า ฯ ถวาย "รางวัลผู้นำโลกด้านทรัพย์สินทางปัญญา" พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ จัดทำเหรียญกษาปณ์ทอง คำ ราคาหนึ่งหมื่นหกพันบาท หนึ่งชนิด เหรียญกษาปณ์เงิน ราคาแปดร้อยบาท หนึ่งชนิด และเหรียญกษาปณ์ โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ราคายี่สิบบาท หนึ่งชนิด ออกใช้เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสองค์การทรัพย์ สินทางปัญญาโลก (WIPO) ทูลเกล้า ฯ ถวาย "รางวัลผู้นำโลกด้านทรัพย์สินทางปัญญา" แด่พระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2552 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนัก งานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3402 | รายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 (ไตรมาสที่ 1 ตุลาคม - ธันวาคม 2552) | กค | 23/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอรายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำ
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 โดยผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณในภาพรวมทั้งประเทศ ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเบิก จ่ายเงินจากคลังแล้ว จำนวน 396,155.16 ล้านบาท หรือร้อยละ 23.30 ของวงเงินงบประมาณ (1,700,000.00 ล้านบาท) สูงกว่าเป้าหมาย (ร้อยละ 20.00) คิดเป็นร้อยละ 3.30 ได้แก่ รายจ่ายประจำ จำนวน 352,545.75 ล้าน บาท หรือร้อยละ 23.82 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำหลังโอนเปลี่ยนแปลง (1,480,072.47 ล้านบาท) และรายจ่ายลงทุน จำนวน 43,609.41 ล้านบาท หรือร้อยละ 19.83 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุนหลังโอน เปลี่ยนแปลง (219,927.53 ล้านบาท) โดยหน่วยงานที่มีอัตราการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายภาพรวมต่ำกว่า เป้าหมาย (ร้อยละ 20.00) มีจำนวน 13 กระทรวง และหน่วยงานที่มีอัตราการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายลง ทุนต่ำกว่าเป้าหมาย (ร้อยละ 12.00) มีจำนวน 16 กระทรวง
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3403 | รายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2553 | กค | 23/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ)
ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2553 สรุปได้ดังนี้ 1. อนุมัติแล้ว จำนวน 20,525 โครงการ วงเงิน 199,960.60 ล้านบาท 2. การจัดสรร 2.1 รอจัดสรร จำนวน 4,475 โครงการ วงเงิน 38,292.27 ล้านบาท 2.2 จัดสรรแล้ว จำนวน 16,050 โครงการ วงเงิน 159,830.11 ล้านบาท 3. การจัดซื้อจัดจ้าง 3.1 ยอดจัดสรรที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อ 3.1.1 ทั้งหมด จำนวน 8,370 โครงการ วงเงิน 41,427.60 ล้านบาท 3.1.2 ยังไม่เกิน 15 วันทำการ จำนวน 2,521 โครงการ วงเงิน 11,793.20 ล้านบาท 3.1.3 เกิน 15 วันทำการ จำนวน 5,849 โครงการ วงเงิน 29,634.40 ล้านบาท 4. ยอดจัดสรรที่จัดซื้อแล้ว จำนวน 7,680 โครงการ วงเงิน 118,402.51 ล้านบาท 5. มูลค่าจัดซื้อตามสัญญา จำนวน 7,680 โครงการ วงเงิน 118,260.70 ล้านบาท 6. การดำเนินการ 6.1 ยังไม่ได้เบิกจ่าย จำนวน 365 โครงการ วงเงิน 8,078.05 ล้านบาท 6.2 เบิกจ่ายบางส่วนแล้ว จำนวน 6,649 โครงการ วงเงิน 20,290.02 ล้านบาท 6.3 เสร็จสมบูรณ์แล้ว จำนวน 666 โครงการ วงเงิน 19,338.08 ล้านบาท 6.4 เบิกจ่ายทั้งหมด จำนวน 7, 315 โครงการ วงเงิน 39,628.10 ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3404 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (จำนวน 4 คน 1. นายอนันต์ สิริแสงทักษิณ ฯลฯ) | กค | 23/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่
อยู่อาศัย จำนวน 4 คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดเดิมได้ดำรงตำแหน่งมาครบกำหนดวาระ ตามที่กระทรวง การคลังเสนอ ทั้งนี้ บุคคลลำดับที่ 1, 3 และ 4 ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (23 กุมภาพันธ์ 2553) เป็น ต้นไป ส่วนลำดับที่ 2 หากคณะกรรมการอัยการอนุมัติหลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะกรรมการ อัยการมีมติอนุมัติ ดังนี้ 1. นายอนันต์ สิริแสงทักษิณ ผู้แทนกระทรวงการคลัง 2. นายวิชาญ ธรรมสุจริต 3. นางชาลอต โทณวณิก ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชน 4. นายรัฐนิติ์ พัฒนกุล ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชน
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3405 | การแต่งตั้งรองประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (จำนวน 13 คน 1. นายยุคล ลิ้มแหลมทอง ฯลฯ) | กค | 23/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งรองประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อ
การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จำนวน 13 คน ตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร พ.ศ. 2509 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เนื่องจากรองประธานกรรมการและกรรมการชุดเดิมได้ ดำรงตำแหน่งมาครบกำหนดสามปี ตามวาระแล้ว ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (23 กุมภาพันธ์ 2553) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ 1. นายยุคล ลิ้มแหลงทอง รองประธานกรรมการ ผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 2. นายวินัย กสิรักษ์ กรรมการอื่น ผู้แทนกรมส่งเสริมสหกรณ์ 3. นายเฉลิมพร พิรุณสาร กรรมการอื่น ผู้แทนสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม 4. นายวิชาญ อมรโรจนาวงศ์ กรรมการอื่น ผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทย 5. นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ กรรมการอื่น ผู้แทนกระทรวงการคลัง 6. นายประยูร รัตนเมธางกูร กรรมการอื่น ผู้แทนสหกรณ์การเกษตรผู้ถือหุ้น 7. นายจุลยุทธ หิรัณยะวสิต กรรมการอื่น 8. นายอัชพร จารุจินดา กรรมการอื่น 9. นายวิเชฐ ตันติวานิช กรรมการอื่น 10. นายวิโรจ อิ่มพิทักษ์ กรรมการอื่น 11. นายอำนวย ปะติเส กรรมการอื่น 12. นางจิรพร มีหลีสวัสดิ์ กรรมการอื่น 13. นายอำนวย ทงก๊ก กรรมการอื่น
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3406 | รายงานผลการดำเนินการตามมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ | กค | 23/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3407 | รายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2553 | กค | 16/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ)
ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2553 สรุปได้ดังนี้ 1. อนุมัติแล้ว จำนวน 20,525 โครงการ วงเงิน 199,960.60 ล้านบาท 2. การจัดสรร 2.1 รอจัดสรร จำนวน 4,542 โครงการ วงเงิน 38,830.15 ล้านบาท 2.2 จัดสรรแล้ว จำนวน 15,983 โครงการ วงเงิน 159,398.73 ล้านบาท 3. การจัดซื้อจัดจ้าง 3.1 ยอดจัดสรรที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อ 3.1.1 ทั้งหมด จำนวน 8,998 โครงการ วงเงิน 42,705.61 ล้านบาท 3.1.2 ยังไม่เกิน 15 วันทำการ จำนวน 2,452 โครงการ วงเงิน 10,959.65 ล้านบาท 3.1.3 เกิน 15 วันทำการ จำนวน 6,546 โครงการ วงเงิน 31,745.96 ล้านบาท 4. ยอดจัดสรรที่จัดซื้อแล้ว จำนวน 6,985 โครงการ วงเงิน 116,693.12 ล้านบาท 5. มูลค่าจัดซื้อตามสัญญา จำนวน 6,985 โครงการ วงเงิน 116,551.33 ล้านบาท 6. การดำเนินการ 6.1 ยังไม่ได้เบิกจ่าย จำนวน 423 โครงการ วงเงิน 79,316.86 ล้านบาท 6.2 เบิกจ่ายบางส่วนแล้ว จำนวน 6,006 โครงการ วงเงิน 18,705.82 ล้านบาท 6.3 เสร็จสมบูรณ์แล้ว จำนวน 556 โครงการ วงเงิน 18,528.65 ล้านบาท 6.4 เบิกจ่ายทั้งหมด จำนวน 6, 582 โครงการ วงเงิน 37,234.47 ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3408 | ขออนุมัติกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 | กค | 16/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดให้
อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 วงเงินไม่เกิน 100,000 ล้านบาท โดยการออกพันธบัตรออมทรัพย์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3409 | มาตรการเร่งรัดหน่วยงานที่ได้รับอนุมัติเงินโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 (วงเงิน 199,960.60 ล้านบาท) | กค | 16/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการเร่งรัดหน่วยงานที่ได้รับอนุมัติเงินโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติ
การไทยเข้มแข็ง 2555 (วงเงิน 199,960.60 ล้านบาท ) ดังนี้ 1. กรณีหน่วยงานยังไม่ได้เสนอขอจัดสรร ให้เร่งดำเนินการจัดส่งข้อมูลให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัด สรรเงินโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการ ฯ ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2553 ยกเว้นโครงการที่ อยู่ระหว่างดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างหรือที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองและบริหารโครงการ ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ให้ขยายเวลาการจัดส่งข้อมูลให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรเงินไป เป็นภายในวันที่ 31 มีนาคม 2553 2. กรณีหน่วยงานได้รับการจัดสรรเงินแล้วแต่ยังไม่ได้ลงนามในสัญญาให้เร่งดำเนินการลงนามในสัญญา ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มีนาคม 2553 3. หากไม่สามารถดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนดตามข้อ 1 และ 2 ให้ยุติโครงการเพื่อสามารถ นำเงินไปให้โครงการที่มีความพร้อมในการดำเนินการมากกว่าแต่ไม่ได้รับอนุมัติ (ยกเว้นกระทรวงสาธารณสุข และ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2553 ให้ขยายเวลาการยื่นคำ ขอจัดสรรต่อสำนักงบประมาณต่อไปก่อน) 4. ให้ทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการบันทึกข้อมูล แผนงาน งวดงานและงวดเงินตามระบบ Projects Financial Monitoring System (PFMS) ที่กระทรวงการคลังกำหนดทุกโครงการ ภายหลังจากได้รับจัดสรรเงินแล้ว และ/หรือลงนามในสัญญาแล้ว และให้กระทรวงการคลังใช้ข้อมูลการรายงานจากระบบ PFMS เป็นข้อมูลพิจารณา ความก้าวหน้าของโครงการ หากไม่มีการบันทึกข้อมูลถือว่าโครงการดังกล่าวยังไม่มีการดำเนินงาน และให้ยุติโครง การ เพื่อสามารถนำเงินจากโครงการดังกล่าวไปให้โครงการที่มีความพร้อมในการดำเนินการมากกว่า แต่ไม่ได้รับ อนุมัติต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังกำหนดกรอบระยะเวลาที่หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการ ต้องดำเนินการ บันทึกข้อมูลให้ชัดเจน เหมาะสม และแจ้งให้ทุกหน่วยงานทราบเพื่อถือปฏิบัติต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3410 | ขออนุมัติหลักการขอใช้เงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 | กค | 09/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) พิจารณาจ่ายค่าดอกเบี้ยค้างชำระ ในวงเงิน 110,000 ล้านบาท ให้แก่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำผลิต ผลการเกษตร ปี 2551/52 ตามนโยบายของรัฐบาล จากงบประมาณค่าใช้จ่ายในการบริหารโครงการรับจำนำ ผลผลิตการเกษตรปีการผลิต 2551/2552 ซึ่งได้รับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 จำนวน 3,523.08 ล้านบาท และจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรที่ได้รับอนุมัติจากโครงการ ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 (วงเงินตามพระราชกำหนด ฯ 149,999.8371 ล้านบาท) จำนวน 1,706 ล้านบาท ไปก่อน โดยคำนวณดอกเบี้ยจากเงินและระยะเวลาที่จ่ายจริง ทั้งนี้ หากการใช้จ่ายในกรณีดังกล่าวจ่ายแล้ว มีผลให้ค่าบริหารโครงการไม่เพียงพอ ให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ 2. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรเร่งรัดการดำเนินการระบายผลิตผลทางการเกษตรภายใต้โครงการรับจำนำ ฯ เพื่อลดภาระเงินต้นและ ดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้เป็นภาระของภาครัฐในการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนให้ทุกปี ไปพิจารณาดำเนิน การต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3411 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. .... | กค | 09/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. .... ที่
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างพระราชกฤษฎีกา ฯ มีสาระสำคัญคือ 1. กำหนดสิทธิในการได้รับเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลในการเข้ารับการรักษาพยาบาล ในสถานพยาบาลของทางราชการ สถานพยาบาลของเอกชนตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด ประเภท ผู้ป่วยใน และที่มิใช่ตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด ประเภทผู้ป่วยใน เฉพาะกรณีที่ผู้มีสิทธิหรือบุคคล ในครอบครัวประสบอุบัติเหตุ อุบัติภัย หรือมีความจำเป็นรีบด่วน ซึ่งหากมิได้รับการรักษาพยาบาลในทันทีทันใด อาจเป็นอันตรายต่อชีวิต รวมไปถึงสถานพยาบาลของเอกชนตามที่กระทรวงการคลังกำหนด ประเภทผู้ป่วยนอก 2. กำหนดให้กรณีผู้มีสิทธิได้พ้นจากสภาพความเป็นข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชาวต่างประเทศ ผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ หรือถูกสั่งพักราชการ หรือถูกสั่งให้ออกราชการไว้ก่อน หรือบุคคลในครอบครัวพ้นสภาพ ความเป็นบุคคลในครอบครัวตามพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ ก่อนการรักษาพยาบาลจะสิ้นสุดลง ให้ผู้มีสิทธิมีสิทธิ ได้รับเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลสำหรับตนเองหรือบุคคลในครอบครัวจนสิ้นสุดการรักษาพยาบาล ในคราวนั้น 3. กำหนดให้กรณีที่บุคคลในครอบครัวเป็นผู้อาศัยสิทธิของผู้อื่น ซึ่งมีสิทธิได้รับเงินค่ารักษาพยาบาล ได้รับเงินค่ารักษาพยาบาลสำหรับบุคคลในครอบครัวจากหน่วยงานอื่นในขณะเดียวกันให้ผู้มีสิทธิมีสิทธิได้รับเงิน สวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลสำหรับบุคคลในครอบครัวตามพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ 4. กำหนดให้ผู้มีสิทธิอาจนำหลักฐานการรับเงินที่สถานพยาบาลซึ่งตนเองหรือบุคคลในครอบครัวได้ เข้ารับการรักษาพยาบาลออกให้มายื่นต่อส่วนราชการเจ้าสังกัดเพื่อเบิกเงินค่ารักษาพยาบาล หรืออาจให้สถาน พยาบาลนั้นเบิกเงินค่ารักษาพยาบาลแทนโดยระบบการเบิกจ่ายตรงก็ได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3412 | รายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2553 | กค | 09/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ)
ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2553 สรุปได้ดังนี้ 1. อนุมัติแล้ว จำนวน 20,525 โครงการ วงเงิน 199,960.60 ล้านบาท 2. การจัดสรร 2.1 รอจัดสรร จำนวน 4,673 โครงการ วงเงิน 39,721.46 ล้านบาท 2.2 จัดสรรแล้ว จำนวน 15,852 โครงการ วงเงิน 158,784.59 ล้านบาท 3. การจัดซื้อจัดจ้าง 3.1 ยอดจัดสรรที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อ 3.1.1 ทั้งหมด จำนวน 9,614 โครงการ วงเงิน 48,604.79 ล้านบาท 3.1.2 ยังไม่เกิน 15 วันทำการ จำนวน 2,226 โครงการ วงเงิน 12,787.82 ล้านบาท 3.1.3 เกิน 15 วันทำการ จำนวน 7,388 โครงการ วงเงิน 35,816.97 ล้านบาท 4. ยอดจัดสรรที่จัดซื้อแล้ว จำนวน 6,238 โครงการ วงเงิน 110,179.80 ล้านบาท 5. มูลค่าจัดซื้อตามสัญญา จำนวน 6,238 โครงการ วงเงิน 110,044.66 ล้านบาท 6. การดำเนินการ 6.1 ยังไม่ได้เบิกจ่าย จำนวน 470 โครงการ วงเงิน 75,277.51 ล้านบาท 6.2 เบิกจ่ายบางส่วนแล้ว จำนวน 5,212 โครงการ วงเงิน 16,238.50 ล้านบาท 6.3 เสร็จสมบูรณ์แล้ว จำนวน 556 โครงการ วงเงิน 18,528.65 ล้านบาท 6.4 เบิกจ่ายทั้งหมด จำนวน 5,768 โครงการ วงเงิน 34,767.15 ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3413 | ร่างพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 09/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไข
เพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยศุลกากรในการกำหนดวงเงินขั้นต่ำในการเรียกเก็บภาษีอากรขาด กำหนดฐานความผิดและ อัตราโทษ เพื่อให้การจัดเก็บภาษีอากรมีประสิทธิภาพและเกิดความเป็นธรรมยิ่งขึ้น และกำหนดวงเงินสูงสุดในการ เรียกเก็บเงินเพิ่ม ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้ พิจารณาด้วยว่าจะสมควรรวมกับร่างพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [ว่าด้วยการอนุวัติการตามความ ตกลง ว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งข้ามพรมแดนภายในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน (The GMS Agreement)] ร่างพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ว่าด้วยการอนุวัติการให้เป็นไปตามอนุสัญญาสห ประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1982) และร่างพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [ว่าด้วยการ อนุวัติการตามอนุสัญญาเกียวโต (ฉบับแก้ไข) และว่าด้วยการนำวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการศุลกากร] ซึ่ง อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นฉบับเดียวกัน หรือไม่ แล้วส่งให้คณะกรรมการ ประสานงานด้านนิติบัญญัติพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3414 | อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยพิธีการศุลกากรที่เรียบง่ายและสอดคล้องกันหรืออนุสัญญาเกียวโต (ฉบับแก้ไข) ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 02/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบให้ส่งอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยพิธีการศุลกากรที่เรียบง่ายและสอดคล้อง (The International Convention on the Simplification and Harmonization of Customs Procedures) หรืออนุ สัญญาเกียวโต (ฉบับแก้ไข) (The Revised Kyoto Convention) ให้คณะกรรมการประสานงานด้านนิติบัญญัติ พิจารณา แล้วเสนอรัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป 2. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติ รวม 2 ฉบับ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณา แล้วให้เสนอคณะกรรมการประสานงานด้านนิติบัญญัติพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาต่อไปเมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบอนุสัญญา ฯ แล้ว ดังนี้ 2.1 ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [ว่าด้วยการอนุวัติการให้เป็นไปตามอนุสัญญาเกียวโต (ฉบับแก้ไข) ฯลฯ] มีสาระสำคัญคือ 2.1.1 กำหนดนิยามคำว่า "อธิบดีกรมศุลกากร" หรือ "อธิบดี" หมายความว่า อธิบดีกรม ศุลกากรหรือผู้ซึ่งอธิบดีกรมศุลกากรมอบหมาย 2.1.2 กำหนดให้คำวินิจฉัยเกี่ยวกับถิ่นกำเนิดหรือกฎหมายว่าด้วยถิ่นกำเนิดของสินค้า และ การออกคำวินิจฉัยพิกัดศุลกากรมีผลผูกพันตามระยะเวลาที่กำหนด เว้นแต่ข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายเปลี่ยน แปลงไป 2.1.3 แก้ไขช่องรายการประเภท 2 ประเภท 10 ประเภท 12 และเพิ่มช่องรายการประเภท 19 ในภาค 4 ของที่ได้รับยกเว้นอากร 2.2 ร่างพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [ว่าด้วยการอนุวัติการตามอนุสัญญาเกียว โต (ฉบับแก้ไข) และว่าด้วยการนำวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการศุลกากร] มีสาระสำคัญคือ 2.2.1 เพิ่มเติมบทนิยาม "อิเล็กทรอนิกส์" และคำอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำวิธีการทางอิ เล็กทรอนิกส์มาใช้ในกระบวนการศุลกากร 2.2.2 กำหนดให้พนักงานศุลกากรเป็นผู้ทำการชั่ง การสอบ การตีราคา ฯลฯ เพื่อประเมิน ค่าภาษีหรือเพื่อประโยชน์อย่างอื่นทางราชการ รวมทั้งให้อำนาจอธิบดีวินิจฉัยราคาของผู้นำเข้าเพื่อความมุ่ง หมายในการจัดเก็บอากร และกำหนดให้กรมศุลกากรสามารถเรียกค่าธรรมเนียมในการวินิจฉัยได้ 2.2.3 กำหนดให้นำหลักบริหารจัดการความเสี่ยงมาใช้ในการควบคุมในการศุลกากร 2.2.4 กำหนดให้นำวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการศุลกากร
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3415 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพิจารณาชดเชยค่าภาษีอากรสินค้าส่งออกที่ผลิตในราชอาณาจักร (จำนวน 5 คน 1. นายชาญชัย มุสิกนิศากร ฯลฯ) | กค | 02/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพิจารณาชดเชยค่าภาษีอากร
สินค้าส่งออกที่ผลิตในราชอาณาจักรชุดเดิม ซึ่งได้ดำรงตำแหน่งมาครบวาระแล้ว ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ ทรงคุณวุฒิต่ออีกวาระหนึ่ง จำนวน 5 คน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมี มติ (2 กุมภาพันธ์ 2553) เป็นต้นไป ดังนี้ 1. นายชาญชัย มุกสิกนิศากร 2. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ 3. นางหิรัญญา สุจินัย 4. นายไพโรจน์ เกษแม่นกิจ 5. นายสถาพร โคธีรานุรักษ์
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3416 | รายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 29 มกราคม 2553 | กค | 02/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ)
ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 29 มกราคม 2553 สรุปได้ดังนี้ 1. อนุมัติแล้ว จำนวน 21,888 โครงการ วงเงิน 199,960.60 ล้านบาท 2. การจัดสรร 2.1 รอจัดสรร จำนวน 5,078 โครงการ วงเงิน 40,508.48 ล้านบาท 2.2 จัดสรรแล้ว จำนวน 16,810 โครงการ วงเงิน 158,274.99 ล้านบาท 3. การจัดซื้อจัดจ้าง 3.1 ยอดจัดสรรที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อ 3.1.1 ทั้งหมด จำนวน 9,164 โครงการ วงเงิน 58,186.60 ล้านบาท 3.1.2 ยังไม่เกิน 15 วันทำการ จำนวน 1,789 โครงการ วงเงิน 14,125.10 ล้านบาท 3.1.3 เกิน 15 วันทำการ จำนวน 7,375 โครงการ วงเงิน 44,061.50 ล้านบาท 4. ยอดจัดสรรที่จัดซื้อแล้ว จำนวน 7,646 โครงการ วงเงิน 100,088.39 ล้านบาท 5. มูลค่าจัดซื้อตามสัญญา จำนวน 7,646 โครงการ วงเงิน 99,955.50 ล้านบาท 6. การดำเนินการ 6.1 ยังไม่ได้เบิกจ่าย จำนวน 495 โครงการ วงเงิน 67,629.38 ล้านบาท 6.2 เบิกจ่ายบางส่วนแล้ว จำนวน 6,595 โครงการ วงเงิน 13,797.47 ล้านบาท 6.3 เสร็จสมบูรณ์แล้ว จำนวน 556 โครงการ วงเงิน 18,528.65 ล้านบาท 6.4 เบิกจ่ายทั้งหมด จำนวน 7,151 โครงการ วงเงิน 32,326.12 ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3417 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายปรีชา วัชราภัย) | กค | 02/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายปรีชา วัชราภัย เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารอง
นายกรัฐมนตรี (รองนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ โดยให้มี ผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (2 กุมภาพันธ์ 2553) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3418 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (คพพ.) (จำนวน 4 ราย 1. รองศาสตราจารย์ วรากรณ์ สามโกเศศ ฯลฯ) | กค | 26/01/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหาร
สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้านชุดใหม่ จำนวน 4 ราย เนื่องจากประธานกรรมการ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดเดิมได้ดำรงตำแหน่งมาครบกำหนด 4 ปีตามวาระ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (26 มกราคม 2553) เป็นต้นไป ดังนี้ 1. รองศาสตราจารย์ วรากรณ์ สามโกเศศ ประธานกรรมการ 2. นายกุศล แย้มสอาด กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 3. นายณรงค์ ป้อมหลักทอง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 4. นายเพ็ญศักดิ์ ชลารักษ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3419 | รายงานผลการดำเนินงานของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย | กค | 26/01/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอรายงานผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือน ณ ปี 2552
ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ซึ่งมีผลการดำเนิน งานสรุปได้ดังนี้ 1. สำนักงาน คปภ. ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงแนวทางการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัย โดยนำแนว ทางการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยตามระดับความเสี่ยงมาปรับใช้เพื่อยกระดับมาตรฐานธุรกิจประกันภัยในประเทศ ไทย สำหรับการตรวจสอบบริษัทประกันภัย ปี 2552 สำนักงาน คปภ. ได้พัฒนาปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการในการ วิเคราะห์ และการกำกับบริษัทประกันภัย โดยมุ่งเน้นที่ความเสี่ยงของบริษัท (Risk Focused Monitoring and Exami nation) พร้อมทั้งนำระบบสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้า (Early Warning System : EWS) มาใช้เพื่อเฝ้าระวังความเสี่ยง ที่อาจกระทบต่อฐานะการเงิน หรือความมั่นคงของบริษัทประกันภัย ในส่วนของการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ 2. ด้านการส่งเสริม และพัฒนาธุรกิจประกันภัย สำนักงาน คปภ. ได้ดำเนินนโยบายส่งเสริม สร้างความ ตระหนักถึงประโยชน์ของการประกันภัยและพัฒนาให้ธุรกิจประกันภัยทั่วราชอาณาจักรสามารถตอบสนองต่อความ ต้องการของประชาชนในทุกระดับ และเป็นหลักประกันความมั่นคงให้แก่ประชาชนอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประชาชนระดับฐานรากและผู้สูงอายุเพื่อลดภาระภาครัฐ เช่น การประกันภัยพืชผลโดยใช้ดัชนีภูมิอากาศ (Weather Index) การประกันชีวิตแบบบำนาญ (Annuity) และการประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit-Linked) ซึ่งเป็นประเภท การประกันภัยที่มีส่วนในการพัฒนาตลาดทุน
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3420 | รายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 22 มกราคม 2553 | กค | 26/01/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ)
ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 22 มกราคม 2553 สรุปได้ดังนี้ 1. อนุมัติแล้ว จำนวน 21,888 โครงการ วงเงิน 199,960.60 ล้านบาท 2. การจัดสรร 2.1 รอจัดสรร จำนวน 5,259 โครงการ วงเงิน 44,087.58 ล้านบาท 2.2 จัดสรรแล้ว จำนวน 16,629 โครงการ วงเงิน 154,829.03 ล้านบาท 3. การจัดซื้อจัดจ้าง 3.1 ยอดจัดสรรที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อ 3.1.1 ทั้งหมด จำนวน 9,404 โครงการ วงเงิน 60,192.44 ล้านบาท 3.1.2 ยังไม่เกิน 15 วันทำการ จำนวน 1,405 โครงการ วงเงิน 12,668.97 ล้านบาท 3.1.3 เกิน 15 วันทำการ จำนวน 7,999 โครงการ วงเงิน 47,523.47 ล้านบาท 4. ยอดจัดสรรที่จัดซื้อแล้ว จำนวน 7,225 โครงการ วงเงิน 94,636.59 ล้านบาท 5. มูลค่าจัดซื้อตามสัญญา จำนวน 7,225 โครงการ วงเงิน 94,503.70 ล้านบาท 6. การดำเนินการ 6.1 ยังไม่ได้เบิกจ่าย จำนวน 590 โครงการ วงเงิน 64,286.40 ล้านบาท 6.2 เบิกจ่ายบางส่วนแล้ว จำนวน 6,471 โครงการ วงเงิน 14,404.05 ล้านบาท 6.3 เสร็จสมบูรณ์แล้ว จำนวน 164 โครงการ วงเงิน 15,813.25 ล้านบาท 6.4 เบิกจ่ายทั้งหมด จำนวน 6,635 โครงการ วงเงิน 30,217.30 ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
.....
