ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 173 จากทั้งหมด 484 หน้า แสดงรายการที่ 3441 - 3460 จากข้อมูลทั้งหมด 9662 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 3441 | ขออนุมัติรายละเอียดและเงื่อนไขการกู้เงินตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 สำหรับไตรมาสที่ 2/2553 (ม.ค. - มี.ค. 2553) | กค | 29/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรายละเอียดและเงื่อนไขการกู้เงินสำหรับไตรมาสที่ 2/2553 ด้วยวิธีการทำสัญญา
กู้เงิน (Term Loan) วงเงิน 90,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับขั้นตอนการกู้เงินตามพระราชกำหนดให้ อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3442 | เป้าหมายของนโยบายการเงินประจำปี 2553 | กค | 22/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป้าหมายของนโยบายการเงินประจำปี 2553 ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
การคลังเสนอ ดังนี้ 1. กำหนดเป้าหมายของนโยบายการเงินประจำปี 2553 ไว้ที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยรายไตรมาส ระหว่างร้อยละ 0.5-3.0 ต่อปี 2. กำหนดให้มีการหารือร่วมกันระหว่างกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นประจำทุก ไตรมาส และเมื่อมีเหตุจำเป็นอื่นใดตามที่ทั้งสองหน่วยงานจะเห็นสมควรเพื่อติดตามความเคลื่อนไหว และเพื่อให้ บรรลุเป้าหมายของนโยบายการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนเป็นกลไกประสานงานร่วมกันเพื่อบูรณาการ นโยบายการคลังและนโยบายการเงินในการบริหารจัดการเศรษฐกิจ 3. กำหนดให้คณะกรรมการนโยบายการเงินชี้แจงเมื่ออัตราเงินเฟ้อพื้นฐานออกนอกเป้าหมาย โดยให้ ชี้แจงถึงสาเหตุ แนวทางแก้ไขและระยะเวลาที่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะกลับเข้าสู่ช่วงที่กำหนดไว้โดยเร็ว รวม ทั้งรายงานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาเป็นระยะตามสมควร 4. กำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและคณะกรรมการนโยบายการเงินตกลงร่วมกันเพื่อแก้ ไขเป้าหมายของนโยบายการเงิน ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3443 | มาตรการภาษีเพื่อช่วยเหลือคนพิการ | กค | 22/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อช่วยเหลือคนพิการและอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา รวม 2 ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ 1.1 ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้น รัษฎากร ฉบับที่ 428 (พ.ศ. 2548) กรณีการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับ เงินได้เท่าจำนวนเงินที่บริจาคให้แก่กองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริม และพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 1.2 ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยกเว้นรัษฎากร ในกรณีดังต่อไปนี้ 1.2.1 ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับเงินได้ของนายจ้างหรือ เจ้าของสถานประกอบการซึ่งรับคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและพัฒนา คุณภาพชีวิตคนพิการเข้าทำงานเป็นจำนวนร้อยละร้อยของรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการจ้างคนพิการ 1.2.2 ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับเงินได้ของผู้จัดให้มีอุป กรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวก หรือบริการในอาคาร สถานที่ ยานพาหนะ บริการขนส่ง หรือบริการสาธารณะอื่น ให้คนพิการใช้ประโยชน์ได้ ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เป็นจำนวนร้อยละ ร้อยของรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดให้มีอุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวก หรือบริการ 2. ให้กระทรวงแรงงานเร่งรัดดำเนินการออกกฎกระทรวงกำหนดจำนวนที่นายจ้างหรือเจ้าของสถาน ประกอบการ และหน่วยงานของรัฐจะต้องรับคนพิการเข้าทำงานตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพ ชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3444 | ร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากร ตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 (ฉบับที่ ..) (การปรับปรุงโครงสร้างพิกัดอัตราศุลกากรปัจจัยการผลิตเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทย) | กค. | 22/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการการปรับปรุงโครงสร้างพิกัดอัตราศุลกากรปัจจัยการผลิตเพื่อเพิ่มขีด ความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งร่างประกาศกระทรวง การคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 (ฉบับที่ ..) (การปรับปรุงโครงสร้างพิกัดอัตราศุลกากรปัจจัยการผลิต ฯ) ให้คณะกรรมการตรวจสอบ ร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3445 | รายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 18 ธันวาคม 2552 | กค | 22/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครง
การ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 18 ธันวาคม 2552 สรุปได้ดังนี้ 1. อนุมัติแล้ว จำนวน 21,897 โครงการ วงเงิน 199,960.60 ล้านบาท 2. การจัดสรร 2.1 รอการจัดสรร จำนวน 7,755 โครงการ วงเงิน 80,505.57 ล้านบาท 2.2 จัดสรรแล้ว จำนวน 14,142 โครงการ วงเงิน 119,059.70 ล้านบาท 3. การจัดซื้อจัดจ้าง 3.1 ยอดจัดสรรที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อ จำนวน 9,047 โครงการ วงเงิน 56,281.74 ล้าน บาท 3.2 ยอดจัดสรรที่จัดซื้อแล้ว จำนวน 5,095 โครงการ วงเงิน 62,777.96 ล้านบาท 3.3 มูลค่าจัดซื้อตามสัญญา จำนวน 5,095 โครงการ วงเงิน 62,645.07 ล้านบาท 4. การดำเนินการ 4.1 ยังไม่ได้เบิกจ่าย จำนวน 1,089 โครงการ วงเงิน 39,597.62 ล้านบาท 4.2 เบิกจ่ายบางส่วนแล้ว (ยังไม่เสร็จ) จำนวน 3,852 โครงการ วงเงิน 7,588.49 ล้านบาท 4.3 เสร็จสมบูรณ์แล้ว จำนวน 154 โครงการ วงเงิน 15,458.96 ล้านบาท 4.4 เบิกจ่ายทั้งหมด จำนวน 4,006 โครงการ วงเงิน 23.047.45 ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3446 | การขยายระยะเวลาการให้สิทธิประโยชน์ในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้และการปรับปรุงโครงสร้างองค์กร | กค | 22/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา ร่างกฎกระทรวง และเห็นชอบในหลักการร่าง
ประกาศ รวม 5 ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา เป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ 1. อนุมัติหลักการ 1.1 ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ขยายระยะเวลาการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ให้แก่ผู้ ประกอบกิจการ ซึ่งเป็นบริษัทมหาชนจำกัดหรือบริษัทจำกัดที่มีความสัมพันธ์กัน สำหรับมูลค่าของฐานภาษี ราย รับ หรือการกระทำตราสารที่เกิดขึ้นหรือเนื่องมาจากการที่ผู้ประกอบกิจการดังกล่าวโอนกิจการบางส่วนให้แก่กัน ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด ทั้งนี้ เฉพาะการโอนกิจการที่ได้กระทำ ในระหว่างวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2553 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2553 1.2 ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการจำหน่าย หนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ มีสาระสำคัญคือ ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ ของเจ้าหนี้ ซึ่งเป็นสถาบันการเงินหรือของเจ้าหนี้อื่นที่เจรจาและตกลงปรับปรุงโครงสร้างหนี้ร่วมกับสถาบันการ เงินออกไปอีก สำหรับส่วนของหนี้ที่ได้ปลดหนี้ให้แก่ลูกหนี้ในระหว่างวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2553 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2553 2. เห็นชอบในหลักการ 2.1 ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิ และนิติกรรมเป็นพิเศษ ตามประมวลกฎหมายที่ดินสำหรับกรณีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ (ฉบับที่ ..) 2.2 ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิ และนิติกรรมเป็นพิเศษ ตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุดสำหรับกรณีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ (ฉบับที่ ..) 2.3 ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิ และนิติกรรมเป็นพิเศษ ตามประมวลกฎหมายที่ดินสำหรับกรณีการปรับปรุงโครงสร้างองค์กร (ฉบับที่ ..)
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3447 | มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการออมเพื่อการชราภาพกรณีกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ | กค | 22/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการออมเพื่อการชราภาพกรณีกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราช การ 2. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการ ยกเว้นรัษฎากร และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎ กระทรวง ฯ มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมความในข้อ 2(44) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509) ออก ตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร กำหนดให้เงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ได้รับจากกอง ทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เนื่องจาก (ก) ออกจากราชการเพราะเหตุสูงอายุ เหตุทุพพลภาพ เหตุทดแทน หรือตาย ไม่ว่าจะรับทั้งจำนวน เมื่อออกจากราชการ หรือได้คงไว้ในกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการเพื่อขอรับคืนทั้งจำนวน ทยอยรับ หรือ โอนไปกองทุนสำรองเลี้ยงชีพหรือกองทุนอื่นที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นหลักประกันกรณีการออกจากงาน หรือชรา ภาพ (ข) ออกจากราชการที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ตาม (ก) แต่ได้คงเงินหรือผลประโยชน์ไว้ทั้งจำนวนในกอง ทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการเพื่อขอรับคืนทั้งจำนวน ทยอยรับ หรือโอนไปกองทุนสำรองเลี้ยงชีพหรือกองทุน อื่นที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นหลักประกันกรณีการออกจากงานหรือชราภาพ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนด เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้อง นำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3448 | มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการออมเพื่อการชราภาพกรณีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ | กค | 22/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการออมเพื่อการชราภาพกรณีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 2. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยก เว้นรัษฎากร มีสาระสำคัญคือ ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ลูกจ้างได้รับจาก กองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กรณีลูกจ้างสิ้นสมาชิกภาพเนื่องจากออกงาน หรือ เนื่องจากการเกษียณอายุ ทุพพลภาพ หรือตาย ทั้งกรณีที่ขอรับทั้งจำนวนหรือคงไว้ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพื่อขอ รับเป็นงวด หรือขอรับทั้งจำนวนในภายหลัง และกรณีมีการโอนย้ายเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเดิมไปยังกองทุน สำรองเลี้ยงชีพใหม่ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3449 | มาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชน (ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2551 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2552) | กค | 15/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบแนวทางการชดเชยให้รัฐวิสาหกิจ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ 1.1 ให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพคำนวณค่าใช้จ่ายในการดำเนินการลดภาระค่าครองชีพของประชา ชน ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2551 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2552 1.2 ให้รัฐวิสาหกิจกู้เงินเพื่อชดเชยยอดค้างชำระสำหรับนโยบาย 6 มาตรการ 6 เดือน ฝ่าวิกฤตเพื่อคน ไทยทุกคน จำนวน 3,803.218 ล้านบาท และกรอบวงเงินชดเชยสำหรับมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชา ชน ระยะที่ 2 จำนวน 11,117.000 ล้านบาท โดยให้สำนักงบประมาณตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 เพื่อชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยเงินกู้ของรัฐวิสาหกิจดังกล่าวต่อไป 1.3 ขยายกรอบวงเงินสำหรับมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนระยะแรก เพิ่มเติม ให้แก่การ ไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค ในกรอบวงเงินงบประมาณ 62.151 ล้านบาท 37.418 ล้านบาท และ 39.407 ล้านบาท ตามลำดับ รวมทั้งสิ้น 138.976 ล้านบาท โดยให้สำนักงบประมาณจัด สรรจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือ จำเป็นที่ได้รับอนุมัติจากกรมบัญชีกลางให้กันไว้เบิกเหลื่อมปี ทั้งนี้ ในส่วนของเงินที่ได้จัดสรรงบประมาณให้แก่องค์ การขนส่งมวลชนกรุงเทพที่สูงกว่าค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงตามหลักเกณฑ์การคำนวณในข้อ 1.1 จำนวน 21.934 ล้าน บาท ให้นำยอดเงินดังกล่าวไปหักออกจากการชดเชยภาระค่าใช้จ่ายขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพสำหรับมาตร การลดภาระค่าครองชีพของประชาชนระยะที่ 2 2. เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาในการดำเนินการตามมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนต่อไปอีก เป็นเวลา 3 เดือน (1 มกราคม-31 มีนาคม 2553) และให้กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณร่วมกันพิจารณา แนวทางการจัดสรรเงินเพื่อสนับสนุนการขยายระยะเวลาการดำเนินตามมาตรการดังกล่าว ให้แก่หน่วยงานที่รับผิด ชอบดำเนินการ ได้แก่ การประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และการรถไฟแห่งประเทศไทย ตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ส่วนการดำเนิน การขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ใช้จากงบประมาณที่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลเพื่อชดเชยรายได้ที่ลดค่าน้ำ ให้แก่ประชาชนในท้องถิ่นของตน ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3450 | รายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 11 ธันวาคม 2552 | กค | 15/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครง
การ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 11 ธันวาคม 2552 สรุปได้ดังนี้ 1. อนุมัติแล้ว จำนวน 21,897 โครงการ วงเงิน 199,960.60 ล้านบาท 2. การจัดสรร 2.1 รอการจัดสรร จำนวน 11,256 โครงการ วงเงิน 108,048.92 ล้านบาท 2.2 จัดสรรแล้ว จำนวน 10,641 โครงการ วงเงิน 90,318.64 ล้านบาท 3. การจัดซื้อจัดจ้าง 3.1 ยอดจัดสรรที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อ จำนวน 7,478 โครงการ วงเงิน 36,311.77 ล้าน บาท 3.2 ยอดจัดสรรที่จัดซื้อแล้ว จำนวน 3,163 โครงการ วงเงิน 54,006.87 ล้านบาท 3.3 มูลค่าจัดซื้อตามสัญญา จำนวน 3,163 โครงการ วงเงิน 53,877.09 ล้านบาท 4. การดำเนินการ 4.1 ยังไม่ได้เบิกจ่าย จำนวน 1,207 โครงการ วงเงิน 32,484.13 ล้านบาท 4.2 เบิกจ่ายบางส่วนแล้ว (ยังไม่เสร็จ) จำนวน 1,802 โครงการ วงเงิน 5,934.00 ล้านบาท 4.3 เสร็จสมบูรณ์แล้ว จำนวน 154 โครงการ วงเงิน 15,458.96 ล้านบาท 4.4 เบิกจ่ายทั้งหมด จำนวน 1,956 โครงการ วงเงิน 21,392.96 ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3451 | การแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์) | กค | 15/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการบรรษัท
บริหารสินทรัพย์ไทย แทนนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้งเป็นต้นไป โดย ให้ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งแทนอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้งไว้แล้วตามนัยมาตรา 14 วรรคสาม แห่งพระราชกำหนดบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย พ.ศ. 2544 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3452 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือการศึกษาของบุตรของข้าราชการและลูกจ้างประจำที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติงานในเขตพื้นที่จังหวัดยะลา จังหวัดปัตตานี จังหวัดนราธิวาส และในเขตพื้นที่อำเภอจะนะ อำเภอเทพา อำเภอนาทวี และอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา พ.ศ. .... | กค | 08/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือการศึกษาของ
บุตรของข้าราชการและลูกจ้างประจำที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติงานในเขตพื้นที่จังหวัดยะลา จังหวัดปัตตานี จังหวัด นราธิวาส และในเขตพื้นที่อำเภอจะนะ อำเภอเทพา อำเภอนาทวี และอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา พ.ศ. .... ที่ คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6 ตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่ กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างระเบียบ ฯ มีสาระสำคัญคือ 1. ขยายสิทธิการให้การช่วยเหลือเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตรของข้าราชการและลูกจ้าง ประจำที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติงาน จากเดิมในเขตพื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส เป็นในเขตพื้นที่ จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา ในพื้นที่อำเภอจะนะ อำเภอเทพา อำเภอนาทวี และสะบ้าย้อย 2. ให้ผู้มีอำนาจในการตรวจสอบเอกสารหลักฐานและการอนุมัติการเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือการศึกษา ของบุตรในกรณีส่วนราชการในราชการบริหารส่วนกลางและส่วนราชการในราชการบริหารส่วนภูมิภาคให้สอด คล้องกับพระราชบัญญัติระเบียบบริหารข้าราชการพลเรือน 3. ให้ส่วนราชการผู้เบิกจัดทำคำขอเบิกเงินช่วยเหลือการศึกษาของบุตร จากเงินงบประมาณรายจ่าย งบดำเนินงาน รายการค่าตอบแทนของส่วนราชการในระบบการบริหารการเงินการคลังภาครัฐด้วยระบบอิเล็ก ทรอนิกส์ (GFMIS)
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3453 | รายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 4 ธันวาคม 2552 | กค | 08/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (ราย
โครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 4 ธันวาคม 2552 สรุปได้ดังนี้ 1. อนุมัติแล้วจำนวน 21,897 โครงการ วงเงิน 199,960.60 ล้านบาท 2. การจัดสรร 2.1 รอจัดสรร 12,208 โครงการ วงเงิน 115,332.92 ล้านบาท 2.2 จัดสรรแล้ว 9,689 โครงการ วงเงิน 84,272.56 ล้านบาท 3. การจัดซื้อจัดจ้าง 3.1 ยอดจัดสรรที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อ 7,199 โครงการ วงเงิน 36,297.01 ล้านบาท 3.2 ยอดจัดสรรที่จัดซื้อแล้ว 2,490 โครงการ วงเงิน 47,975.55 ล้านบาท 3.3 มูลค่าจัดซื้อตามสัญญา 2,490 โครงการ วงเงิน 47,845.77 ล้านบาท 4. การดำเนินการ 4.1 ยังไม่ได้เบิกจ่าย 1,271 โครงการ วงเงิน 26,975.28 ล้านบาท 4.2 เบิกจ่ายบางส่วนแล้ว (ยังไม่เสร็จ) 1,065 โครงการ วงเงิน 5,411.53 ล้านบาท 4.3 เบิกจ่ายเสร็จสมบูรณ์แล้ว 154 โครงการ วงเงิน 15,458.96 ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3454 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (จำนวน 4 ราย 1. นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ฯลฯ) | กค | 08/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการคลัง ให้ดำรงตำแหน่ง
ประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 4 ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวง การคลังเสนอ ดังนี้ 1. นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการคลัง 2. นายสมชาย พูลสวัสดิ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการคลัง 3. นายประสงค์ พูนธเนศ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการคลัง 4. นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3455 | รายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 27 พฤศจิกายน 2552 | กค | 01/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (ราย
โครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 27 พฤศจิกายน 2552 สรุปได้ดังนี้ 1. อนุมัติแล้ว จำนวน 21,889 โครงการ วงเงิน 199,960.60 ล้านบาท 2. การจัดสรร 2.1 รอจัดสรร จำนวน 13,349 โครงการ วงเงิน 126,027.13 ล้านบาท 2.2 จัดสรรแล้ว จำนวน 8,540 โครงการ วงเงิน 59,151.57 ล้านบาท 3. การจัดซื้อจัดจ้าง 3.1 ยอดจัดสรรที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อ จำนวน 6,415 โครงการ วงเงิน 30,216.14 ล้านบาท 3.2 ยอดจัดสรรที่จัดซื้อแล้ว จำนวน 2,125 โครงการ วงเงิน 43,428.43 ล้านบาท 3.3 มูลค่าจัดซื้อตามสัญญา จำนวน 2,125 โครงการ วงเงิน 43,298.65 ล้านบาท 4. การดำเนินการ 4.1 ยังไม่ได้เบิกจ่าย จำนวน 1,101 โครงการ วงเงิน 23,326.53 ล้านบาท 4.2 เบิกจ่ายบางส่วนแล้ว (ยังไม่เสร็จ) จำนวน 870 โครงการ วงเงิน 4,513.16 ล้านบาท 4.3 เสร็จสมบูรณ์แล้ว จำนวน 154 โครงการ วงเงิน 15,458.96 ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3456 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารออมสิน (จำนวน 12 คน 1. นายวินัย วิทวัสการเวช ฯลฯ) | กค | 01/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารออมสิน
จำนวน 12 คน เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการชุดเดิมได้ขอลาออกและพ้นจากตำแหน่งเพราะมีอายุ ครบ 65 ปีบริบูรณ์ ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (1 ธันวาคม 2552) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวง การคลังเสนอ ดังนี้ 1. นายวินัย วิทวัสการเวช ประธานกรรมการ 2. นายอำนวย ปรีมนวงศ์ กรรมการ 3. นางดนุชา ยินดีพิธ กรรมการ 4. นายวัชรา ตันตริยานนท์ กรรมการ 5. นายจตุพร บุรุษพัฒน์ กรรมการ 6. ผู้ช่วยศาสตราจารย์พัชราวลัย ชัยปาณี กรรมการ 7. พลตำรวจโทเจตน์ มงคลหัตถี กรรมการ 8. นายวิเชษฐ บัณฑุวงศ์ กรรมการ 9. นายอรรถพล ใหญ่สว่าง กรรมการ (ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะกรรมการอัยการอนุมัติ) 10. นายไพบูลย์ ศิริภาณุเสถียร กรรมการ 11. ผู้ตรวจศาสตราจารย์พันตำรวจเอกสุรเชษฐ ชีรวินิจ กรรมการ 12. รองศาสตราจารย์ชิต เหล่าวัฒนา กรรมการ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3457 | ร่างพระราชบัญญัติการกำกับและพัฒนานโยบายรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. .... | กค | 24/11/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงการคลังรับร่างพระราชบัญญัติการกำกับและพัฒนานโยบายรัฐวิสาหกิจ
พ.ศ. .... ไปพิจารณาร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงคมนาคม กระทรวงพลังงาน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม แล้วเสนอคณะรัฐมนตรี พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง |
|||||||||||||||||||||||||||
| 3458 | มาตรการประหยัดในการเบิกค่าใช้จ่าย | กค | 24/11/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการประหยัดในการเบิกค่าใช้จ่ายและขอความร่วมมือจากส่วนราชการให้
ใช้ดุลพินิจในการเบิกค่าใช้จ่ายในอัตราต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ 1. ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ ขอความร่วมมือให้หัวหน้าส่วนราชการระดับกรมทุกแห่งใช้อำนาจ ตามกฎหมายข้อ 3.1 (มาตรา 6) โดยขอความร่วมมือให้ออกระเบียบภายในให้ผู้ดำรงตำแหน่งระดับ 9 ขึ้นไป หรือ ตำแหน่งที่เทียบเท่าเบิกค่าโดยสารเครื่องบินในประเทศในอัตราชั้นประหยัด เว้นแต่ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี ประธานศาลฎีกา รองประธานศาลฎีกา ประธานรัฐสภา รองประธานรัฐสภา ประธานวุฒิ สภารองประธานวุฒิสภา ประธานสภาผู้แทนราษฎร รองประธานสภาผู้แทนราษฎร รัฐมนตรี ปลัดกระทรวงและ อธิบดี หรือผู้ดำรงตำแหน่งที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าปลัดกระทรวง หรืออธิบดี จะเบิกค่าโดยสารเครื่อง บินในอัตราที่ตนมีสิทธิหรือในอัตราต่ำกว่าที่ตนเองมีสิทธิได้รับก็ได้ 2. ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่มในการฝึกอบรม ขอความร่วมมือให้เบิกในอัตรา 25 บาทต่อมื้อต่อคน ส่วน ค่าอาหารในการฝึกอบรม กรณีจัดฝึกอบรมในสถานที่ราชการ ขอความร่วมมือให้เบิกไม่เกินคนละ 150 บาทต่อมื้อ และกรณีจัดฝึกอบรมในสถานที่เอกชน ถ้าจัดเลี้ยงอาหารมื้อเดียว เช่น มื้อกลางวันขอความร่วมมือให้เบิกได้ไม่เกิน คนละ 400 บาท (ถ้าเลี้ยงเกิน 1 มื้อ ให้เบิกไม่เกินอัตราตามระเบียบ) 3. ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่มในการประชุม ให้เบิกในอัตรา 25 บาทต่อมื้อต่อคน ส่วนค่าอาหารในการ ประชุม ไม่เกิน 80 บาทต่อมื้อต่อคน โดยขอความร่วมมือให้จัดประชุมภายในสถานที่ราชการ ทั้งนี้ การเบิกค่าใช้จ่ายดังกล่าวข้างต้น หากส่วนราชการไม่สามารถเบิกจ่ายตามอัตราที่ขอความร่วมมือ ไว้ได้ ให้อยู่ในดุลพินิจของหัวหน้าส่วนราชการที่จะพิจารณาเบิกจ่าย โดยให้คำนึงถึงความจำเป็น เหมาะสม และ ประหยัดภายใต้หลักเกณฑ์ของระเบียบเกี่ยวกับเรื่องนั้น ๆ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3459 | มาตรการและแนวทางการเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงินโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 | กค | 24/11/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบมาตรการและแนวทางการเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงินโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติ การไทยเข้มแข็ง 2555 ตามมติคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ในคราวประชุมเมื่อวัน ที่ 13 พฤศจิกายน 2552 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ 1.1 กำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายไม่น้อยกว่าร้อยละ 100.00 ของวงเงินตามแผนที่ได้รับอนุมัติให้ ดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 1.2 ให้หน่วยงานส่งข้อมูลให้สำนักงบประมาณพิจารณาเพื่อขอจัดสรรเงินให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2552 1.3 ให้หน่วยงานที่ได้รับเงินโครงการ ฯ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ดำเนินการลงนามในสัญญา ให้แล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 1 และบันทึกข้อมูลแผนงาน งวดงานและงวดเงิน ตามระเบียบที่กระทรวงการคลัง กำหนด และให้รายงานผลความก้าวหน้าตามแผนงาน งวดงานและงวดเงินที่สอดคล้องกับความสำเร็จของงาน ในแต่ละเดือนไตรมาส เพื่อเป็นข้อมูลในการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายเงินให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมาย ของโครงการ 1.4 ให้นำอัตราการเบิกจ่ายเงินโครงการ ฯ ตามเป้าหมายที่คณะรัฐมนตรีกำหนดเป็นตัวชี้วัดในคำ รับรองการปฏิบัติราชการของหน่วยงาน 1.5 ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดกำกับหน่วยงานในสังกัดที่ได้รับเงินโครงการ ฯ ให้ปฏิบัติตามแผนการ ปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินอย่างเคร่งครัด 1.6 ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเพิ่มบทบาทให้คลังจังหวัดดำเนินการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินโครง การ ฯ ของส่วนราชการในจังหวัดเพื่อให้การเบิกจ่ายเป็นไปตามเป้าหมาย 2. เว้นแต่กรณีหน่วยงานใดไม่สามารถส่งข้อมูลให้สำนักงบประมาณพิจารณาเพื่อขอจัดสรรเงินให้แล้ว เสร็จได้ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2552 ตามที่กำหนดตามมาตรการ ฯ ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดนำเรื่องดังกล่าว เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติเป็นกรณีไป |
|||||||||||||||||||||||||||
| 3460 | การขออนุมัติเปลี่ยนแปลงการดำเนินการและหลักเกณฑ์ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 | กค | 24/11/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติและรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ 1.1 อนุมัติการเปลี่ยนแปลงหน่วยงานดำเนินโครงการและแนวทางการปรับปรุงเพิ่มเติมโครงการใหม่ ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามความเห็นของคณะกรรมการกลั่นกรองและบริหารโครงการภายใต้แผนปฏิบัติ การไทยเข้มแข็ง 2555 (คณะกรรมการ ฯ) 1.2 อนุมัติการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการ ฯ โครงการศูนย์ 3 วัยสาน สายใยรักแห่งครอบครัว ของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 1.3 รับทราบแนวทางการดำเนินงานกรณีหน่วยงานเจ้าของโครงการที่ได้รับจัดสรรเงินกู้ภายใต้แผน ปฏิบัติการ ฯ ไม่สามารถดำเนินการเองได้ต้องมอบหมายให้หน่วยงานอื่นดำเนินการและเบิกเงินกู้แทน 1.4 รับทราบหลักเกณฑ์ข้อกำหนดการใช้จ่ายเงินโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการ ฯ และหลักเกณฑ์ และวิธีปฏิบัติขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสำหรับโครงการที่ได้รับอนุมัติภายใต้แผนปฏิบัติการ ฯ 2. กรณีของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว) และกระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ (กรมชลประทาน) ซึ่งเป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการที่ได้รับจัดสรรเงินกู้ภายใต้แผนปฏิบัติการ ฯ แต่ไม่ สามารถดำเนินการเองได้ และมีความประสงค์จะมอบหมายให้หน่วยงานอื่นเข้ามาดำเนินการและเบิกเงินกู้แทน นั้น โดยที่คณะรัฐมนตรีมีนโยบายให้โครงการภายใต้แผนปฏิบัติการ ฯ สามารถดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์โดยรวด เร็ว ประกอบกับโครงการดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลงเฉพาะหน่วยงานที่จะเข้ามาดำเนินโครงการเท่านั้น จึงให้ดำเนิน การต่อไปได้ 3. ให้คณะกรรมการ ฯ ถือเป็นหลักการว่าหากมีโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการ ฯ ในลักษณะดังกล่าว ตามข้อ 2. ก็ให้ดำเนินการต่อไปได้เช่นเดียวกัน แล้วให้นำผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ เสนอคณะ รัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
.....
