ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 114 จากทั้งหมด 483 หน้า แสดงรายการที่ 2261 - 2280 จากข้อมูลทั้งหมด 9647 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2261 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเนื่องในโอกาสครบ 80 ปี วันสถาปนามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ. .... | กค | 10/03/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเนื่องในโอกาสครบ ๘๐ ปี วันสถาปนามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดชนิด ราคา โลหะ อัตราเนื้อโลหะ น้ำหนัก ขนาด อัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด ลวดลาย และลักษณะอื่น ๆ ของเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ราคายี่สิบบาท หนึ่งชนิด ออกใช้เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสครบ ๘๐ ปี วันสถาปนามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในวันที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๗ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
2262 | ร่างพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 10/03/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. ๒๕๑๗ เพื่อรองรับให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลมีอำนาจในการดำเนินการออกสลากรูปแบบวิธีการต่าง ๆ ตามแบบสากล และเปลี่ยนสัดส่วนการจัดสรรรายได้จากการจำหน่ายสลากดังกล่าวให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับความหมายของคำว่า “สลากกินแบ่ง” และ “สลากกินแบ่งเพื่อสาธารณประโยชน์” ยังไม่มีความชัดเจน การแก้ไขวัตถุประสงค์ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลให้มีวัตถุประสงค์ในการจัดการระบบบริหารสลากกินแบ่งรัฐบาลและช่องทางการจำหน่าย ควรพิจารณาถึงความซ้ำซ้อนกับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลในเรื่องเกี่ยวกับการกำหนดราคา วิธีการจำหน่าย และการคัดเลือกตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล รวมทั้งการจัดตั้งกองทุนบริหารจัดการสลาก ยังขาดบทบัญญัติเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของกองทุน ทรัพย์สินของกองทุน การบริหารจัดการกองทุน และการกำกับดูแลกองทุน ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. ให้กระทรวงการคลัง (สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล) รับความเห็นของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาดำเนินการ และรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบต่อไปด้วย ดังนี้ ๒.๑ การแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. ๒๕๑๗ จะต้องมีหลักการเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้แก่ทุกกลุ่มและทุกพื้นที่ สร้างกลไกจัดระบบบริหารสลากที่มีประสิทธิภาพ เพิ่มช่องทางจำหน่ายสลากมากขึ้น มิให้มีการผูกขาด เพื่อให้ราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลสามารถจำหน่ายได้ในราคา ๘๐ บาท ทั้งนี้ การปรับสัดส่วนการจัดสรรที่ได้รับจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลใหม่จะต้องไม่กระทบหรือเปลี่ยนแปลงเงินรางวัล และไม่กระทบสิทธิหรือโควตาของผู้ได้รับการจัดสรรรายย่อย เช่น คนพิการ ทหารผ่านศึก ตลอดจนสร้างกลไกให้สามารถซื้อคืนสลากกินแบ่งรัฐบาลที่จำหน่ายไม่หมดได้ เพื่อลดภาระแก่ผู้จำหน่ายสลาก ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังสร้างการรับรู้ให้ประชาชนทราบและเข้าใจตามหลักการข้างต้นด้วย ๒.๒ ให้กำหนดแผนปฏิบัติการที่จะดำเนินการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคา ๘๐ บาท ในช่วงระยะเวลา ๓ เดือน และ ๖ เดือนในเรื่องนี้ให้ชัดเจนตามหลักการข้างต้น ๒.๓ ให้กำหนดวิธีการจัดระบบบริหารสลาก และช่องทางการจำหน่ายสลาก เช่น ผ่านเครื่องจำหน่าย ร้านสะดวกซื้อ เคาน์เตอร์เซอร์วิส หรือผู้แทนจำหน่าย โดยให้สามารถดำเนินการได้จริงและไม่มีผลกระทบต่อประชาชน โดยจัดทำให้แล้วเสร็จภายใน ๑ เดือน |
|||||||||||||||||||||||||||
2263 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร รวม 5 ฉบับ (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนกิจการโรงเรียนเอกชนและปรับปรุงการจัดเก็บภาษีโรงเรียนกวดวิชา) | กค | 10/03/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างกฎกระทรวง รวม ๕ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิหรือผลตอบแทนจากกิจการของโรงเรียนเอกชน หรือกิจการสถาบันอุดมศึกษาเอกชน) ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่มูลนิธิหรือสมาคม สำหรับเงินได้หรือผลตอบแทนจากกิจการของโรงเรียนเอกชน) ๑.๓ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์บางกรณี) ๑.๔ ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (การยกเว้นภาษีเงินได้จากผลตอบแทนที่ผู้รับใบอนุญาตได้รับจัดสรรจากโรงเรียนเอกชน แต่ไม่รวมถึงเงินได้ที่ได้รับจากกิจการโรงเรียนเอกชนประเภทกวดวิชา) ๑.๕ ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (การยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่ผู้อำนวยการ ผู้บริหาร ครู หรือบุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียนเอกชน สำหรับเงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ได้รับจากกองทุนสงเคราะห์) ๒. มอบให้กระทรวงศึกษาธิการเร่งรัดดำเนินการทบทวนและแก้ไขประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนเกี่ยวกับโรงเรียนสอนกวดวิชา โดยให้มีการจำแนกประเภทที่ชัดเจนเพื่อเป็นฐานข้อมูลของกระทรวงการคลังในการจัดเก็บภาษี ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ [เรื่อง (ร่าง) แผนการขับเคลื่อนกรอบคุณวุฒิแห่งชาติสู่การปฏิบัติ] และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อเสนอแนะในการจัดเก็บภาษีโรงเรียนสอนกวดวิชาที่มีลักษณะเป็นการประกอบธุรกิจ) |
|||||||||||||||||||||||||||
2264 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ (การปรับปรุง มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศและมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการจัดตั้งบริษัทการค้าระหว่างประเทศ) | กค | 10/03/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ (การปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศและมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการจัดตั้งบริษัทการค้าระหว่างประเทศ) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
2265 | การจัดทำเหรียญเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสพระราชพิธีฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 | กค | 03/03/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเหรียญเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสพระราชพิธีฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญให้มีเหรียญเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสพระราชพิธีฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเผยแพร่พระเกียรติคุณของพระองค์ท่านให้แผ่ไพศาลทั้งในประเทศและนานาประเทศ ตลอดจนน้อมนำจิตใจของปวงชนชาวไทยให้แสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อประชาชนทุกหมู่เหล่า ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
2266 | การดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2558 | กค | 03/03/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๘ เกี่ยวกับแนวทางในการปฏิรูปทุนหมุนเวียนในกรณีที่จะต้องดำเนินการปรับปรุง พัฒนา ยุบรวม หรือยุบเลิกกองทุน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลางได้จัดทำกรอบในการจัดทำ “แผนปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินงาน ระยะเวลา ๓ ปี” ของกองทุนหมุนเวียนที่อยู่ในข่าย “ปรับปรุง/พัฒนา” และจัดทำ “แผนทบทวนและฟื้นฟูประสิทธิภาพการดำเนินงาน ระยะเวลา ๑ ปี” ของทุนหมุนเวียนที่อยู่ในข่าย “ไม่ผ่าน” โดยเทียบเคียงกับการจัดทำแผนฟื้นฟูของรัฐวิสาหกิจ ๒. จัดประชุมหัวหน้าหน่วยงานเจ้าของทุนหมุนเวียน จำนวน ๓๐ ทุน เมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ เพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการนำเงินของทุนหมุนเวียนที่มีสภาพคล่องส่วนเกินความจำเป็นส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน โดยมีขั้นตอนและวิธีการ คือ ๒.๑ หน่วยงานเจ้าของทุนหมุนเวียนจัดทำแผนปฏิบัติการฯ จำแนกตามลักษณะของกรณีเป็นเงินฝากที่กระทรวงการคลัง หรือเงินฝากประเภทออมทรัพย์ในธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ให้นำส่งเข้าคลังเป็นรายได้แผ่นดินภายในสัปดาห์แรกของเดือนมีนาคม ๒๕๕๘ และกรณีเป็นเงินฝากธนาคารพาณิชย์ ประเภทประจำ หรือลงทุนในตราสารทางการเงิน ให้นำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินภายใน ๕ วันทำการ นับจากวันที่ครบกำหนดของเงินฝากประจำหรือวันครบกำหนดไถ่ถอนตราสารทางการเงิน ทั้งนี้ ให้นำส่งจนครบวงเงินที่ต้องนำส่งตามมติคณะรัฐมนตรีของแต่ละทุนหมุนเวียน ภายในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ ๒.๒ กระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลาง ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๘ อาศัยอำนาจตามข้อบังคับกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการให้องค์การของรัฐบาลที่ใช้ทุนหรือทุนหมุนเวียนนำทุนหรือผลกำไรเข้าบัญชีเงินคงคลังบัญชีที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยมีหนังสือสั่งการไปยังหัวหน้าหน่วยงานเจ้าของทุนหมุนเวียนให้ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ ๒.๓ หน่วยงานเจ้าของทุนหมุนเวียนจัดส่งรายงานผลการนำเงินสภาพคล่องส่วนเกินส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินตามแบบที่กรมบัญชีกลางกำหนด ๓. สรุปผลการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ ณ วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ มีทุนหมุนเวียนที่นำส่งตามแผนปฏิบัติการฯ จำนวน ๒๙ ทุน โดยมีประเด็นรอความชัดเจนในข้อกฎหมาย ๑ ทุน ได้แก่ กองทุนพัฒนาการเมืองภาคพลเมือง สถาบันพระปกเกล้า ยอดเงินเรียกนำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน รวม ๒๘,๑๐๗.๑๗ ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
2267 | รายงานสถานภาพ ภาพรวมด้านงบประมาณ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 | กค | 03/03/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานสถานภาพ ภาพรวมด้านงบประมาณ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยภาพรวมงบประมาณ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗-๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ มีการเบิกจ่ายเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจแล้วทั้งสิ้น ๑,๔๓๐,๐๖๒ ล้านบาท (รวมเงินลงทุนของรัฐวิสาหกิจและเงินทุนหมุนเวียนที่ไม่ได้เบิกจ่ายจากเงินงบประมาณ) เพิ่มขึ้นจากวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ จำนวน ๑๐๔,๗๔๘ ล้านบาท ตามที่สำนักงบประมาณและกระทรวงการคลังเสนอ ๒. ให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเจ้าสังกัดกำกับดูแลให้หัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอื่นของรัฐ และผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งรัดการดำเนินงานและการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณที่กำหนดไว้ แล้วให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเจ้าสังกัดนำผลการดำเนินการในเรื่องนี้ไปใช้ประกอบการประเมินผลการปฏิบัติราชการของหัวหน้าส่วนราชการตั้งแต่ระดับอธิบดีขึ้นไป ทั้งนี้ ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ (เรื่อง การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ)
|
|||||||||||||||||||||||||||
2268 | ขอความเห็นชอบและลงนามพิธีสารอนุวัติข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงิน ฉบับที่ 6 ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน | กค | 03/03/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบการให้สัตยาบันพิธีสารอนุวัติข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงิน ฉบับที่ ๖ ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน และตารางข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงินซึ่งเป็นภาคผนวกแนบท้ายพิธีสารฯ ๑.๒ เห็นชอบและอนุมัติการลงนามในพิธีสารอนุวัติข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงิน ฉบับที่ ๖ ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน โดยมอบอำนาจให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนาม ทั้งนี้ หากมีการแก้ไขถ้อยคำที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้กระทรวงการคลังดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง ๑.๓ นำเสนอพิธีสารอนุวัติข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงิน ฉบับที่ ๖ ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน และตารางข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงินซึ่งเป็นภาคผนวกแนบท้ายพิธีสารฯ เข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติให้ความเห็นชอบให้ประเทศไทยให้สัตยาบันพิธีสารดังกล่าว โดยจะมีผลบังคับใช้เมื่อประเทศไทยมอบสัตยาบันสารของพิธีสารฯ ให้แก่สำนักเลขาธิการอาเซียน ๑.๔ มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในพิธีสารดังกล่าว เมื่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติให้ความเห็นชอบให้ประเทศไทยให้สัตยาบันพิธีสารฯ แล้ว ๑.๕ มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการมอบสัตยาบันสารของพิธีสารอนุวัติข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงิน ฉบับที่ ๖ ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน ให้แก่สำนักเลขาธิการอาเซียนเพื่อรับทราบการให้สัตยาบันพิธีสารฯ เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายลงนามในพิธีสารฯ แล้ว โดยพิธีสารและข้อผูกพันดังกล่าวมีสาระสำคัญเป็นการเปิดตลาดการค้าบริการด้านการเงินเพิ่มเติมในสาขาธนาคารพาณิชย์และสาขาประกันภัย ซึ่งเป็นการผูกพันไม่เกินไปกว่าอำนาจตามที่กฎหมายภายในกำหนดไว้ และจะเป็นส่วนหนึ่งของกรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน ๒. ให้นำพิธีสารอนุวัติข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงิน ฉบับที่ ๖ ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน และตารางข้อผูกพันเฉพาะสำหรับการค้าบริการด้านการเงินภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน เสนอคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
2269 | ร่างกฎหมายและการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับกองทุนการออมแห่งชาติ | กค | 03/03/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามมติเห็นชอบตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ในคราวประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๕๘ เมื่อวันพุธที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการของกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบประเภทของประโยชน์ทดแทน ตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนของบุคคลซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงที่ออกตามพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๔ จำนวน ๗ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ได้แก่ ๑.๒.๑ ร่างกฎกระทรวงกำหนดการเป็นสมาชิกกองทุนหรืออยู่ในระบบบำนาญอื่นที่ไม่มีสิทธิเป็นสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. .... ๑.๒.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดคุณสมบัติของผู้รับมอบหมายให้จัดการเงินของกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. .... ๑.๒.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราการจ่ายเงินสะสมและเงินสมทบ พ.ศ. .... ๑.๒.๔ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์การคำนวณเงินบำนาญและจำนวนเงินบำนาญขั้นต่ำ พ.ศ. .... ๑.๒.๕ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการจ่ายเงินให้กับสมาชิก หรือผู้รับบำนาญ หรือผู้รับเงินดำรงชีพ ตามมาตรา ๔๐ ของกฎหมายว่าด้วยกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. .... ๑.๒.๖ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดการเงินของกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. .... ๑.๒.๗ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการจ่ายเงินชดเชย พ.ศ. .... ๒. เห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์และอัตราค่าตอบแทนของคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. สำหรับการขอจัดสรรงบประมาณจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น กรณีที่มีผู้เข้าเป็นสมาชิก กอช. จำนวนมากเกินกว่างบประมาณคงเหลือจะรองรับได้ นั้น ให้กระทรวงการคลังดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติกรณีการขออนุมัติใช้เงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๗ ต่อไป ๔. ให้กระทรวงการคลังรับข้อสังเกตของคณะกรรมการรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการดำเนินงานของ กอช. จะต้องมีความพร้อมที่จะรับโอนผู้ประกันตนและเงินของผู้ประกันตนตามมาตรา ๔๐ แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๓๓ กรณีบำนาญชราภาพไปเข้า กอช. ทั้งด้านงบประมาณ สำนักงานและบุคลากร เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้การดำเนินภารกิจและการบริหารงานของ กอช. เป็นไปตามวัตถุประสงค์ มีความคล่องตัว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ที่สามารถเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย สร้างความตระหนักให้แรงงานนอกระบบเห็นถึงความสำคัญของการออม สร้างการรับรู้ และความเข้าใจเกี่ยวกับการโอนย้ายของผู้ประกันตนตามมาตรา ๔๐ กรณีชราภาพของกองทุนประกันสังคมมาที่ กอช. การเพิ่มช่องทางรับสมัครการรับเงินสะสมจากสมาชิกและการหาสมาชิกใหม่ โดยพัฒนาระบบเชื่อมต่อกับ กอช. และมีการกำกับดูแลการปฏิบัติงานในระดับพื้นที่อย่างเข้มงวด การปรับเพิ่มเป้าหมายการดำเนินงานของ กอช. ให้รับสมาชิกเพิ่มจากเฉลี่ยปีละ ๕ แสนราย เป็นไม่ต่ำกว่าปีละ ๑ ล้านราย ตลอดจนการสรรหาเลขาธิการคณะกรรมการ กอช. ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
2270 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงการคลัง) (นายยุทธนา หยิมการุณ) | กค | 03/03/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายยุทธนา หยิมการุณ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร (นักวิชาการศุลกากรทรงคุณวุฒิ) กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
2271 | รายงานกิจการ งบดุล บัญชีกำไรและขาดทุน ประจำปีบัญชี 2556 (1 เมษายน 2556 - 31 มีนาคม 2557) ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร | กค | 03/03/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานกิจการ งบดุล บัญชีกำไรและขาดทุน ประจำปีบัญชี ๒๕๕๖ (๑ เมษายน ๒๕๕๖-๓๑ มีนาคม ๒๕๕๗) ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ งบดุลและงบกำไรขาดทุน ธ.ก.ส. มีสินทรัพย์รวมสิ้นปีบัญชี ๒๕๕๖ (วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๗) มีจำนวน ๑.๓๓๘,๕๒๕ ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีบัญชี ๒๕๕๕ (วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๖) จำนวน ๑๔๗,๕๐๙ ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๒.๓๙ และมีกำไรสุทธิ จำนวน ๙,๘๙๑ ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีบัญชี ๒๕๕๕ จำนวน ๘๐๔ ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ ๘.๘๕ สำหรับอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงสิ้นปีบัญชี ๒๕๕๖ ธ.ก.ส. มีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ร้อยละ ๑๒.๓๙ ลดลงจากสิ้นปีบัญชี ๒๕๕๕ ซึ่งมีกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ร้อยละ ๑๓.๖๒ ๑.๒ กิจการของ ธ.ก.ส. ประจำปีบัญชี ๒๕๕๖ ธ.ก.ส. มีโครงการที่สำคัญ เช่น โครงการบัตรสินเชื่อเกษตรกร โครงการรับจำนำผลิตผลการเกษตรกร และโครงการพักหนี้เกษตรกรรายย่อยและประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่มีหนี้คงค้างต่ำกว่า ๕๐๐,๐๐๐ บาท ๑.๓ นโยบายสำคัญในปีบัญชี ๒๕๕๗ ธ.ก.ส. กำหนดนโยบายสำคัญ ๓ นโยบาย ได้แก่ พัฒนาชุมชนเพื่อสร้างความเข้มแข็งภาคชนบท พัฒนาองค์การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (Asean Economics Community : AEC) และยกระดับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วยการสร้างองค์การสีเขียว (Green Bank) ๒. ให้กระทรวงการคลังรายงานกิจการ งบดุล บัญชีกำไรและขาดทุน ของ ธ.ก.ส. ในครั้งต่อไป ให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้
|
|||||||||||||||||||||||||||
2272 | ร่างพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 24/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พ.ศ. ๒๕๓๐ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและแก้ปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานของกองทุนและเพื่อให้ลูกจ้างสามารถออมเงินได้อย่างเพียงพอต่อการดำรงชีพเมื่อชราภาพ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ แล้วให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
2273 | ขออนุมัติใช้เงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น (โครงการก่อสร้างด่านศุลกากรเชียงของแห่งใหม่) | กค | 24/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่กระทรวงการคลังได้อนุมัติให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีแล้ว ในวงเงิน ๒๕๕,๗๘๘,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นงบลงทุนค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง โครงการก่อสร้างด่านศุลกากรเชียงของแห่งใหม่และสิ่งปลูกสร้างประกอบ จังหวัดเชียงราย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้กรมศุลกากรขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ๒. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างด่านศุลกากรเชียงของแห่งใหม่อยู่ภายใต้เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ จึงเห็นควรพิจารณาดำเนินการปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณและตั้งงบประมาณในลักษณะบูรณาการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ เรื่อง การบูรณาการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษให้สอดคล้องกับแผนฯ ที่ปรับใหม่ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
2274 | ขออนุมัติโอนเปลี่ยนแปลงเงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ที่กันไว้เบิกเหลื่อมปีเพื่อเป็น ค่าใช้จ่ายในการออกแบบปรับปรุงพื้นที่ และก่อสร้างอาคารที่ทำการใหม่ของกระทรวงการคลัง | กค | 24/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กระทรวงการคลังเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นที่กระทรวงการคลังได้อนุมัติให้กันไว้เบิกเหลื่อมปีแล้ว เพื่อเป็นค่าออกแบบก่อสร้างอาคารที่ทำการใหม่ศูนย์คอมพิวเตอร์ และสำนักงานชั่วคราว โดยค่าก่อสร้างศูนย์คอมพิวเตอร์และสำนักงานชั่วคราวให้เบิกจ่ายลักษณะงบลงทุน จำนวน ๘๕,๗๗๒,๔๐๐ ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีกจำนวน ๑๕๐,๔๐๙,๘๕๓ บาท ให้สำนักงานปลัดกระทรวงการคลังดำเนินการส่งคืนสำนักงบประมาณ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ในกรณีที่กระทรวงการคลังมีความจำเป็นจะต้องก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
2275 | การลงนามในหนังสือยินยอมเพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้กู้ของธนาคารพัฒนาเอเชีย โดยการปรับโครงสร้างการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาเอเชีย | กค | 24/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ การปรับโครงสร้างการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาเอเชีย (Asian Development Fund : ADF) โดยการรวมมูลค่าเงินให้กู้ (Loans) ทั้งหมด รวมถึงสินทรัพย์บางส่วนของกองทุน ADF เข้าไว้ที่แหล่งเงินทุนสามัญ (Ordinary Capital Resource : OCR) และให้คงสถานะการดำเนินงานของกองทุน ADF ในการให้เงินช่วยเหลือแบบให้เปล่า (Grants) แก่ประเทศสมาชิก ๑.๒ การลงนามในหนังสือยินยอมเพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้กู้ของธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank : ADB) โดยการปรับโครงสร้างการดำเนินงานของกองทุน ADF โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในฐานะผู้ว่าการของไทยใน ADB เป็นผู้ลงนามในหนังสือยินยอมดังกล่าว ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับหลักประกันในการให้ประเทศสมาชิกชำระหนี้ที่ได้กู้ยืมภายใต้กองทุน ADF และแนวทางการดำเนินการหากไม่มีการชำระคืน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
2276 | ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ | กค | 24/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ในการประชุมเมื่อเดือนธันวาคม ๒๕๕๗ และเดือนมกราคม ๒๕๕๘ และเห็นชอบมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการและรายงานผลการดำเนินงานให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจทราบภายใน ๑ เดือน ในเรื่องเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ตามที่คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รฟท. ๑.๑.๑ สร้างความชัดเจนของนโยบายและทิศทางระบบขนส่งทางราง โดยให้มีการกำกับดูแลการขนส่งทางรางที่ชัดเจนและมีความเชื่อมโยงของระบบขนส่งรูปแบบอื่น ๑.๑.๒ สร้างความชัดเจนระหว่างบทบาทของกรมรางและ รฟท. ในการก่อสร้างและบำรุงรักษาทางรถไฟ รวมถึงให้จัดทำแนวทางการให้เอกชนมาร่วมในการเดินรถไฟฟ้าสายสีแดงและรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Airport Rail Link) ๑.๑.๓ กำกับติดตามการดำเนินการของโครงการสำคัญให้สำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะความสำเร็จของโครงการก่อสร้างทางคู่ ๖ เส้นทางที่มีกำหนดแล้วเสร็จทั้งหมดในปี ๒๕๖๓ และการเสริมสร้างความมั่นคงของระบบขนส่งทางราง โดยการเปลี่ยนหมอนรองจากหมอนไม้เป็นหมอนคอนกรีตราง ๑๐๐ ปอนด์ ที่มีกำหนดแล้วเสร็จในปี ๒๕๕๙ ๑.๒ ขสมก. ๑.๒.๑ กำหนดให้ ขสมก. ดำเนินการในฐานะผู้ประกอบการเท่านั้น และให้กรมการขนส่งทางบกทำหน้าที่เป็นผู้กำกับดูแล (Regulator) ผู้ให้บริการรถโดยสารสาธารณะแทน และสำหรับการให้ใบอนุญาตเดินรถ หากสัญญาในเส้นทางใดสิ้นสุดลง ให้กรมการขนส่งทางบกจัดให้มีการประมูลใบอนุญาตในแต่ละเส้นทางต่อไป นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบกจะต้องจัดให้มีกลไกในการกำกับดูแลผู้ให้บริการ (Operator) ทั้ง ขสมก. และรถร่วมบริการเอกชนให้ดำเนินการเดินรถให้มีคุณภาพได้ตามมาตรฐาน ๑.๒.๒ สร้างความชัดเจนของการปรับปรุงเส้นทางการเดินรถและการจัดสรรเส้นทางระหว่าง ขสมก. และเอกชนร่วมบริการ รวมทั้งการจัดซื้อรถโดยสาร NGV ให้สอดคล้องกับเส้นทางที่ได้รับจัดสรรและมีสถานี NGV ที่เพียงพอต่อไป ๑.๒.๓ เรื่องการจัดการภาระหนี้สินของ รฟท. และ ขสมก. โดยหารือร่วมกับกระทรวงการคลังในการโอนสิทธิในการใช้ที่ดินของ รฟท. เพื่อให้กระทรวงการคลังรับภาระหนี้สิน และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้บริหารที่ดินดังกล่าวต่อไป และกระทรวงการคลังจะพิจารณาการรับภาระหนี้สินของ ขสมก. ก็ต่อเมื่อกระทรวงคมนาคมมีความชัดเจนในนโยบายด้านการเดินรถโดยสารสาธารณะตามข้อ ๑.๒.๒ ๒. ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ความสำคัญในเรื่องกรอบระยะเวลา และการติดตามประเมินผลการดำเนินงานตามนโยบายและแนวทางปฏิบัติเพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจได้กำหนดไว้ นอกจากนี้ ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบในการดำเนินการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจที่เหลืออีก ๕ แห่ง ได้แก่ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เร่งดำเนินการและรายงานผลการดำเนินงานตามมติคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจโดยเร็ว เพื่อให้คณะอนุกรรมการกำหนดยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจใช้เป็นข้อมูลประกอบในการกำหนดโครงสร้างการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
2277 | รายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ภายใต้พระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 ที่ดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 | กค | 10/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ภายใต้พระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ ที่ดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลภายใต้พระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ ที่ครบกำหนดในวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ จำนวน ๑๒๑,๐๓๕ ล้านบาท เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๗ ได้แก่ (๑) กู้เงินล่วงหน้าเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ (Pre-funding) จำนวน ๕๘,๐๐๐ ล้านบาท ประกอบด้วย ตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (R-bill) รุ่นอายุ ๙๑ วัน จำนวนรวม ๑๘,๐๐๐ ล้านบาท และพันธบัตรรัฐบาล รุ่นอายุ ๕ ปี (LB196A) จำนวนรวม ๔๐,๐๐๐ ล้านบาท และ (๒) กู้เงินในวันที่พันธบัตรรัฐบาลครบกำหนด (๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗) จำนวน ๖๓,๐๓๕ ล้านบาท ประกอบด้วย เงินกู้ระยะสั้น อายุ ๔ เดือน จำนวน ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท ตั๋วสัญญาใช้เงิน อายุ ๔ ปี จำนวน ๑๓,๐๓๕ ล้านบาท และ R-bill จำนวนรวม ๔๐,๐๐๐ ล้านบาท ๒. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนดในวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๗ จำนวน ๘,๐๐๐ ล้านบาท เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๕๗ ประกอบด้วย กู้เงินระยะสั้น อายุ ๑ เดือน จำนวน ๘,๐๐๐ ล้านบาท และออกพันธบัตรรัฐบาล รุ่นอายุ ๓๐ ปี (LB446A) จำนวน ๘,๐๐๐ ล้านบาท ๓. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ตั๋วเงินคลังเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗ โดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ครั้งที่ ๕ จำนวน ๑๑,๖๓๕ ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ทดแทนวงเงินตั๋วเงินคลังงวดที่ ๑/๗/๕๗ ซึ่งจัดให้มีการประมูลเมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๕๗ แต่จำหน่ายได้ไม่ครบตามวงเงินที่ประกาศไว้ โดยมีวงเงินส่วนที่ขาดอยู่จำนวน ๑๑,๖๓๕ ล้านบาท ๔. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกประกาศกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการกู้เงินดังกล่าว จำนวน ๑๗ ฉบับ และลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||
2278 | ร่างพระราชบัญญัติหลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | กค | 10/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ รวม ๒ ฉบับ ที่คณะกรรมการพัฒนากฎหมาย (สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา) ตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ดังนี้
๑. ร่างพระราชบัญญัติหลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการรองรับการนำทรัพย์สินที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจมาใช้เป็นหลักประกันการชำระหนี้ในลักษณะที่ไม่ต้องส่งมอบการครอบครองแก่เจ้าหน้าที่ และสร้างระบบการบังคับหลักประกันที่มีความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพและเป็นธรรมอันจะเป็นประโยชน์ต่อการประกอบธุรกิจ ๒. ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขให้สิทธิตามสัญญาหลักประกันทางธุรกิจเหนือสิทธิเรียกร้องที่นำมาเป็นหลักประกัน ตกไปเป็นของผู้รับโอนเมื่อมีการโอนสิทธิเรียกร้องนั้นไปเช่นเดียวกับสิทธิจำนอง จำนำ หรือค้ำประกัน |
|||||||||||||||||||||||||||
2279 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสพระราชพิธีฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 พ.ศ. .... | กค | 10/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสพระราชพิธีฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสพระราชพิธีฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
2280 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงการคลัง) (นายพิพัฒน์ ขันทอง) | กค | 10/02/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายพิพัฒน์ ขันทอง ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านประสิทธิภาพ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
.....