ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1219 จากทั้งหมด 6218 หน้า แสดงรายการที่ 24361 - 24380 จากข้อมูลทั้งหมด 124347 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
24361 | การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณสำหรับรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป รายการโครงการบูรณะโครงข่ายสายหลักระหว่างภาครวม 6 รายการ ของกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม [รายการโครงการบูรณะโครงข่ายสายหลักระหว่างภาคทางหลวงหมายเลข 4 อ.ปราณบุรี - ประจวบคีรีขันธ์ (เป็นตอน ๆ)] | คค | 28/04/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณสำหรับรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป รายการโครงการบูรณะโครงข่ายสายหลักระหว่างภาค รวม ๖ รายการ วงเงินรวม ๗,๑๑๕,๗๔๔,๓๗๒ บาท ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
๑. ทางหลวงหมายเลข ๔ สาย อำเภอปราณบุรี-ประจวบคีรีขันธ์ (เป็นตอน ๆ) วงเงิน ๑,๓๔๐,๑๑๕,๐๐๕ บาท ๒. ทางหลวงหมายเลข ๑ สายนครสรรค์-ตาก ตอน ๑ ส่วนที่ ๑ และส่วนที่ ๓ (นครสวรรค์-กำแพงเพชร) (เป็นตอน ๆ) วงเงิน ๑,๔๘๐,๑๐๐,๐๐๐ บาท ๓. ทางหลวงหมายเลข ๔๑ สายท่าโรงช้าง-ท่าชี-ถ้ำพรรณรา-ทุ่งส่ง (เป็นตอน ๆ) ตอน ๑ วงเงิน ๑,๓๔๐,๕๐๒๒๔๐ บาท ๔. ทางหลวงหมายเลข ๔ สายประจวบคีรีขันธ์-แยกปฐมพร ตอน ๒ (บางสะพาน-แยกปฐมพร) (เป็นตอน ๆ) ส่วนที่ ๑ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ วงเงิน ๙๗๗,๓๐๑,๙๐๐ บาท ๕. ทางหลวงหมายเลข ๔ สายประจวบคีรีขันธ์-แยกปฐมพร ตอน ๒ (บางสะพาน-แยกปฐมพร) (เป็นตอน ๆ) ส่วนที่ ๒ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ วงเงิน ๙๖๓,๔๒๕,๒๒๗ บาท ๖. ทางหลวงหมายเลข ๑ สายตาก-พะเยา ตอน ๑ (ตาก-บ้านตาก) (เป็นตอน ๆ) วงเงิน ๑,๐๑๔,๓๐๐,๐๐๐ บาท |
|||||||||||||||
24362 | ร่างยุทธศาสตร์การส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจ ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2558 - 2560) | พม | 28/04/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการของร่างยุทธศาสตร์การส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจ ฉบับที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๐) ประกอบด้วย วิสัยทัศน์ที่มุ่งส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจเพื่อการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน โดยการรวมพลังของทุกภาคส่วน และ ๕ ยุทธศาสตร์ คือ (๑) การสร้างวัฒนธรรมความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจ (๒) การสร้างเอกภาพในการบริหารยุทธศาสตร์การส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจ (๓) การส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนของภาคธุรกิจ (๔) การรวมพลังเพื่อพัฒนาสังคม สิ่งแวดล้อมและสร้างความมั่นคงของมนุษย์ และ (๕) การส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจระหว่างประเทศ รวมทั้งการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ฯ สู่การปฏิบัติ จะมีการจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจขึ้นในอนาคตเพื่อทำหน้าที่เป็นกลไกในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงาน ป.ป.ช. และสำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการเร่งรัดการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ฯ โดยหน่วยงานของภาครัฐและเอกชนที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยอาจไม่จำเป็นต้องก่อตั้งหน่วยงานใหม่เพิ่มเติม และควรประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในรายละเอียดของการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ฯ สู่การปฏิบัติเพื่อให้เกิดความชัดเจน รวมทั้งควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบฐานข้อมูลด้านการส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรธุรกิจเพื่อใช้ประโยชน์ในการติดตามประเมินผลการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ฯ และการจัดทำรายงานสถานการณ์ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจในประเทศไทย เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๓. ในส่วนของการกำหนดกลไกในการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจที่จะจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจแห่งชาติ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ชะลอการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าว โดยพิจารณากลไกอื่นที่มีอยู่เพื่อดำเนินการในเรื่องนี้แทน ๔. การกำหนดมาตรการจูงใจภาคธุรกิจในการปฏิบัติด้านความรับผิดชอบต่อสังคมควรเน้นการให้รางวัลหรือการยกย่องเชิดชูเพื่อเป็นตัวอย่างแก่สังคมมากกว่าการกำหนดมาตรการทางภาษี |
|||||||||||||||
24363 | ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดยาเสพติดตามยุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติด (มีนาคม พ.ศ. 2558) | ทก | 28/04/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดยาเสพติดตามยุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติด (มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๘) ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ซึ่งทำการสำรวจภายหลังการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดมาแล้ว ๖ เดือน (ตุลาคม ๒๕๕๗-มีนาคม ๒๕๕๘) ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติดในชุมชน/หมู่บ้าน ประชาชนร้อยละ ๕๒.๓ ระบุว่าชุมชน/หมู่บ้านในปัจจุบัน (มีนาคม ๒๕๕๘) ไม่มีปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติด ขณะที่ร้อยละ ๔๗.๗ ระบุว่ามีปัญหา ๒. ปัญหายาเสพติด ประชาชนเกือบครึ่งเห็นว่า ปัญหายาเสพติดที่มีในเดือนมีนาคม ๒๕๕๘ เทียบกับช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม ๒๕๕๗ มีการแพร่ระบาดลดลงร้อยละ ๔๖.๒ ๓. ปัญหาด้านผู้ค้า/ผู้ลักลอบค้ายาเสพติดในชุมชน/หมู่บ้าน ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ ๗๖.๒ ระบุว่าไม่มีปัญหา ขณะที่ร้อยละ ๒๓.๘ ระบุว่ามีปัญหา ๔. ปัญหาด้านผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดในชุมชน/หมู่บ้าน ประชาชนร้อยละ ๕๔.๙ ระบุว่าไม่มีปัญหา ขณะที่ร้อยละ ๔๕.๑ ระบุว่ามีปัญหา ๕. ปัญหายาเสพติดในชุมชน/หมู่บ้านที่มีโรงเรียน/สถานศึกษา ประชาชนร้อยละ ๘๑.๗ ระบุว่าไม่มีปัญหา ขณะที่ร้อยละ ๑๘.๓ ระบุว่ามีปัญหา ส่วนการแพร่ระบาดยาเสพติดในบริเวณรอบ ๆ โรงเรียน/สถานศึกษา ประชาชนร้อยละ ๗๔.๖ ระบุว่าไม่มีปัญหา ขณะที่ร้อยละ ๒๕.๔ ระบุว่ามีปัญหา สำหรับการจัดกิจกรรมป้องกัน เฝ้าระวัง และแก้ไขปัญหายาเสพติดให้แก่นักเรียน/นักศึกษา ประชาชนร้อยละ ๙๔.๕ ระบุว่าโรงเรียน/สถานศึกษามีการจัดกิจกรรมดังกล่าวให้แก่นักเรียน/นักศึกษา ๖. แหล่งมั่วสุมยาเสพติดในชุมชน/หมู่บ้าน ประชาชนร้อยละ ๔๕.๔ ระบุว่าในชุมชน/หมู่บ้านมีแหล่งมั่วสุมเสพยาเสพติด/ค้ายาเสพติด โดยแหล่งมั่วสุมที่สำคัญ คือ สถานที่ปลอดคน เช่น บ้านร้าง ป่าเขา ฯลฯ รองลงมา ได้แก่ บ้าน/คอนโด/แฟลต/หอพัก ใต้สะพานที่รถวิ่ง ชุมชนแออัด และศาลาที่พักริมทาง สำหรับการซื้อยาเสพติดในชุมชน/หมู่บ้านที่มีปัญหายาเสพติด ประชาชนร้อยละ ๒๒.๙ ระบุว่าหาซื้อยาเสพติดได้ง่าย ๗. เจ้าหน้าที่รัฐสนับสนุน/กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในชุมชน/หมู่บ้านที่มีปัญหายาเสพติด ประชาชนร้อยละ ๑๑.๗ ระบุว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐสนับสนุน/เข้าไปกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ขณะที่ร้อยละ ๔๗.๖ ระบุว่าไม่มี ในส่วนของการประสานงาน/ร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐ ประชาชนร้อยละ ๙๗.๘ ระบุว่ามีหน่วยงานภาครัฐประสานงาน/ร่วมมือในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด มีเพียงร้อยละ ๒.๒ ที่ระบุว่าไม่มีเลย ๘. การยอมรับหรือให้โอกาสผู้เลิกยาเสพติด/ผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ประชาชนร้อยละ ๙๖.๖ ระบุว่ามีการยอมรับหรือให้โอกาสผู้เลิกยาเสพติด/ผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด มีเพียงร้อยละ ๓.๔ ที่ระบุว่าไม่ยอมรับ/ไม่ให้โอกาส ๙. ความพึงพอใจต่อผลการดำเนินงานโดยรวมของรัฐบาลในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประชาชนร้อยละ ๙๙.๗ ระบุว่ามีความพึงพอใจต่อผลการดำเนินงานโดยรวมของรัฐบาลในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด สำหรับความพึงพอใจต่อการดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกด้าน ประชาชนมากกว่าร้อยละ ๙๙ มีความพึงพอใจ รวมทั้งประชาชนมากกว่าร้อยละ ๙๙ มีความเชื่อมั่นต่อการดำเนินงานในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกเรื่อง ๑๐. ข้อเสนอแนะแนวทางป้องกัน/แก้ไขปัญหายาเสพติดและปัญหาอาชญากรรมที่สำคัญ ประชาชนได้ให้ข้อเสนอแนะ ๕ อันดับแรก คือ การปราบปรามอย่างจริงจังและต่อเนื่อง การใช้กฎหมายลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาด การประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับยาเสพติด การจัดกิจกรรมรณรงค์ สร้างจิตสำนึก และการจัดตั้งเวรยามเฝ้าระวัง
|
|||||||||||||||
24364 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายสมปอง เจริญวัฒน์) | สธ | 28/04/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายสมปอง เจริญวัฒน์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม) กลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลชัยภูมิ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||
24365 | รายงานความคืบหน้าการหาพื้นที่ควบคุมผู้อพยพแห่งใหม่ | พม | 28/04/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความคืบหน้าการหาพื้นที่ควบคุมผู้อพยพแห่งใหม่ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. สำนักงานการตรวจคนเข้าเมืองได้ให้การดูแลกลุ่มผู้ลักลอบเข้าเมือง รวมทั้งสิ้น ๖๓๘ คน เป็นชาวโรฮีนจา จำนวน ๓๖๓ คน และชาวมุสลิมไม่ทราบสัญชาติ (อุยกูร์) จำนวน ๒๗๕ คน มีสถานที่ควบคุม (ห้องกัก) จำนวน ๑๑ แห่ง ปัญหาที่พบคือ จำนวนสถานที่ควบคุมไม่เพียงพอ สภาพห้องไม่มั่นคงแข็งแรง คับแคบ งบประมาณและกำลังพลไม่เพียงพอ ในส่วนของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ให้การดูแลกลุ่มผู้ลักลอบเข้าเมืองที่เป็นเด็ก ผู้หญิง และกลุ่มที่เป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ รวมทั้งสิ้น ๑๗๔ คน เป็นผู้ลักลอบเข้าเมืองชาวโรฮีนจา จำนวน ๑๓๙ คน และชาวมุสลิมไม่ทราบสัญชาติ (อุยกูร์) จำนวน ๓๕ คน มีสถานที่คุ้มครองหลัก จำนวน ๒ แห่ง ได้แก่ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสงขลา และสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพภาคใต้ (บ้านศรีสุราษฎร์) ปัญหาที่พบคือ สถานที่ดังกล่าวเปิดให้บริการ ๒๔ ชั่วโมง สำหรับให้บริการประชาชนที่ประสบปัญหาทางสังคม จึงทำให้กลุ่มคนดังกล่าวหลบหนีได้ง่าย รวมทั้งงบประมาณและกำลังพลไม่เพียงพอ ๒. การดำเนินการเพื่อการแก้ไขปัญหาชาวโรฮีนจาและกลุ่มมุสลิมไม่ทราบสัญชาติ (อุยกูร์) และการจัดหาสถานที่ควบคุมกลุ่มผู้ลักลอบเข้าเมืองแห่งใหม่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๘ ซึ่งที่ประชุมได้มีมติให้การปฏิบัติงานยึดหลักสิทธิมนุษยชนเป็นสำคัญ ส่วนการผลักดัน การสกัดกั้น และการเข้าประเทศของกลุ่มผู้ลักลอบเข้าเมือง รวมถึงการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับสาธารณรัฐประชาชนจีน ให้หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบดำเนินงานตามภารกิจอย่างเคร่งครัด และในการจัดหาพื้นที่ในระยะยาวได้มอบหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรพิจารณาพื้นที่ควบคุมผู้ลักลอบเข้าเมือง โดยให้ยึดกรอบและระยะเวลาการทำงานที่ชัดเจน และการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ ที่ประชุมมีมติมอบหมายให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนร่วมกันพิจารณาหาพื้นที่ใหม่ที่เหมาะสม โดยให้เสนอต่อที่ประชุมภายใน ๑ เดือน และมีมติให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เพิ่มมาตรการที่เหมาะสมในการควบคุมผู้ลักลอบเข้าเมืองที่อยู่ในความดูแล
|
|||||||||||||||
24366 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนเด่นชัย - แม่จั๊วะ จังหวัดแพร่ พ.ศ. .... | มท | 28/04/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนเด่นชัย-แม่จั๊วะ จังหวัดแพร่ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลปงป่าหวาย ตำบลแม่จั๊วะ และตำบลเด่นชัย อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||
24367 | ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการส่งเสริมการให้บริการด้านนิติวิทยาศาสตร์ พ.ศ. .... | ยธ | 28/04/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการส่งเสริมการให้บริการด้านนิติวิทยาศาสตร์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีกลไกทางกฎหมายในรูปของคณะกรรมการส่งเสริมการให้บริการด้านนิติวิทยาศาสตร์ขึ้น เพื่อกำหนดมาตรฐานการให้บริการด้านนิติวิทยาศาสตร์ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และกำหนดการเรียกเก็บ งด หรือลดค่าธรรมเนียมการให้บริการด้านนิติวิทยาศาสตร์ของสถาบันฯ ตลอดจนกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการเก็บรักษา ทำลาย และเปิดเผยข้อมูล รวมทั้งกำหนดแนวทางในการส่งเสริมการให้บริการด้านนิติวิทยาศาสตร์ของภาคเอกชน ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับร่างมาตรา ๕ ที่ให้สถาบันมีหน้าที่ในการให้บริการและส่งเสริมงานด้านนิติวิทยาศาสตร์ ปัจจุบันมีหลายหน่วยงานที่ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว อาจทำให้เกิดความซ้ำซ้อนในการปฏิบัติงานได้ ร่างมาตรา ๙ ในส่วนการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ควรกำหนดหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขในการเปิดเผยข้อมูลไว้ในร่างพระราชบัญญัติแทนการใช้ข้อความว่า “ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด” และร่างมาตรา ๑๑ ในส่วนของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ควรกำหนดคุณสมบัติหรือคุณลักษณะของบุคคลที่จะได้รับการแต่งตั้งไว้ด้วยเพื่อให้เกิดความชัดเจน และควรมีคณะกรรมการที่มาจากภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมด้วย เช่น ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือผู้แทนจากสถานพยาบาลที่มีการให้บริการด้านนิติเวชศาสตร์หรือนิติวิทยาศาสตร์ เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งร่างพระราชบัญญัติฯ ให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป |
|||||||||||||||
24368 | การให้สัตยาบันพิธีสารเพื่ออนุวัติข้อผูกพันชุดที่ 8 ของบริการขนส่งทางอากาศภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยบริการของอาเซียน | คค | 28/04/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการให้สัตยาบันพิธีสารเพื่ออนุวัติข้อผูกพันชุดที่ ๘ ของบริการขนส่งทางอากาศภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยบริการของอาเซียน โดยสาระสำคัญในพิธีสารฯ ประเทศไทยได้เสนอปรับปรุงหลักเกณฑ์การจัดตั้งสถานประกอบการของบริการซ่อมและบำรุงรักษาอากาศยาน ในส่วนของหน่วยซ่อมอากาศยานประเภทที่ ๒ สำหรับการบำรุงรักษาส่วนประกอบสำคัญของอากาศยาน และประเภทที่ ๓ สำหรับการบำรุงรักษาบริภัณฑ์และชิ้นส่วนของอากาศยาน โดยเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของสมาชิกอาเซียน จากเดิมที่เสนอไว้ร้อยละ ๕๑ เป็นร้อยละ ๗๐ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งพิธีสารฯ ให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. มอบให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการมอบสัตยาบันสารของพิธีสารเพื่ออนุวัติข้อผูกพันชุดที่ ๘ ให้แก่เลขาธิการอาเซียนเพื่อรับทราบการให้สัตยาบันพิธีสารฯ เมื่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติให้ความเห็นชอบพิธีสารดังกล่าวแล้ว |
|||||||||||||||
24369 | การจัดทำตราสารยอมรับการแก้ไขพิธีสารเกียวโตและภาคผนวกของพิธีสารเกียวโต | ทส | 28/04/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบตัวบทสุดท้ายของการแก้ไขพิธีสารเกียวโตและภาคผนวกของพิธีสารเกียวโต โดยมีประเด็นที่สำคัญคือ กำหนดให้ประเทศภาคีในภาคผนวกที่ ๑ ต้องมีเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกร่วมกัน ในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๖๓ (ค.ศ. ๒๐๑๓-๒๐๒๐) ในระดับที่ต่ำกว่าปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปี พ.ศ. ๒๕๓๓ (ค.ศ. ๑๙๙๐) อันเป็นปีฐานอย่างน้อยร้อยละ ๑๘ โดยที่สาระอื่น ๆ ในพิธีสารเกียวโตยังคงไว้เช่นเดิมตามที่ประเทศไทยได้เคยให้สัตยาบันไว้แล้ว ๑.๒ มอบหมายให้กระทรวงการต่างประทศจัดทำและส่งตราสารยอมรับการแก้ไขพิธีสารเกียวโตและภาคผนวกของพิธีสารเกียวโตต่อเลขาธิการสหประชาชาติในฐานะผู้เก็บรักษาเอกสาร ๒. สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินการดังกล่าวให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||
24370 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองยะลา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองยะลา พ.ศ. 2554) | มท | 28/04/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองยะลา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองยะลา พ.ศ. ๒๕๕๔ เพื่อปรับปรุงข้อกำหนดเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ที่ดิน แผนผังกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดิน และรายการประกอบแผนผังกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดิน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||
24371 | ปฏิญญาร่วมว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐมนตรีประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงว่าด้วยการต่อต้านการค้ามนุษย์ ฉบับที่ 3 และแผนปฏิบัติการ ระดับอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ ฉบับที่ 4 | พม | 28/04/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบปฏิญญาร่วมว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐมนตรีประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงว่าด้วยการต่อต้านการค้ามนุษย์ ฉบับที่ ๓ (The Third Joint Declaration of the Coordinated Mekong Ministerial Initiative against Human Trafficking) และแผนปฏิบัติการระดับอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ ฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๑) โดยปฏิญญาร่วมฯ มีสาระสำคัญเป็นการยืนยันเจตนารมณ์ต่อเนื่องจากสองฉบับแรกว่าประเทศสมาชิกจะร่วมกันต่อต้านการค้ามนุษย์ในทุกรูปแบบ และยืนยันความมุ่งมั่นที่มีต่อบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงว่าด้วยการต่อต้านการค้ามนุษย์ (บันทึกความเข้าใจ COMMIT) ซึ่งลงนามเมื่อวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๔๗ สำหรับแผนปฏิบัติการฯ มีวัตถุประสงค์ที่จะเติมเต็มศักยภาพของบันทึกความเข้าใจ COMMIT ในเรื่องกลไกการคุ้มครองและการส่งต่อระหว่างประเทศในระดับอนุภูมิภาค รวมถึงมาตรการด้านนโยบาย ความร่วมมือ และการป้องกันที่จำเป็นในการต่อต้านการค้ามนุษย์ ๒. เห็นชอบและอนุมัติให้ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นผู้ลงนามในปฏิญญาร่วมว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐมนตรีประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงว่าด้วยการต่อต้านการค้ามนุษย์ ฉบับที่ ๓ ๓. เห็นชอบให้ปรับปรุงแก้ไขถ้อยคำในปฏิญญาร่วมว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐมนตรีประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงว่าด้วยการต่อต้านการค้ามนุษย์ ฉบับที่ ๓ และแผนปฏิบัติการระดับอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ ฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๑) ในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญก่อนการลงนาม โดยหารือกับกระทรวงการต่างประเทศ |
|||||||||||||||
24372 | การดำเนินการตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับสาธารณรัฐแอฟริกากลาง | กต | 28/04/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบรับรองการดำเนินการตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ จำนวน ๓ ฉบับ ได้แก่ ข้อมติที่ ๒๑๒๗ (ค.ศ. ๒๐๑๓) ที่ ๒๑๓๔ (ค.ศ. ๒๐๑๔) และที่ ๒๑๙๖ (ค.ศ. ๒๐๑๕) เกี่ยวกับการกำหนดมาตรการต่าง ๆ ที่จำเป็น รวมถึงการคว่ำบาตรทางอาวุธ การห้ามเดินทาง และการอายัดทรัพย์สิน เพื่อช่วยฟื้นฟูและสนับสนุนการเสริมสร้างสันติภาพและความมั่นคงในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง ๒. มอบหมายให้กระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และธนาคารแห่งประเทศไทย ถือปฏิบัติ และแจ้งผลการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้กระทรวงการต่างประเทศทราบเพื่อประโยชน์ในการรายงานต่อสหประชาชาติต่อไป |
|||||||||||||||
24373 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี พ.ศ. .... | มท | 28/04/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลเขาบายศรี ตำบลเขาวัว ตำบลท่าใหม่ ตำบลยายร้า ตำบลพลอยแหวน ตำบลตะกาดเง้า และตำบลบ่อพุ อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||
24374 | การดำเนินการตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการก่อการร้าย | กต | 28/04/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. รับทราบและรับรองการดำเนินการตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่ ๒๑๙๙ (ค.ศ. ๒๐๑๕) เกี่ยวกับการต่อต้านการก่อการร้าย ๒. มอบหมายให้ส่วนราชการผู้บังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติ และแจ้งผลการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้กระทรวงการต่างประเทศทราบ เพื่อประโยชน์ในการรายงานต่อสหประชาชาติต่อไป นอกจากนี้ หากพบข้อขัดข้องหรืออุปสรรคในการปฏิบัติตามข้อมติดังกล่าว ให้แจ้งกระทรวงการต่างประเทศทราบต่อไปด้วย |
|||||||||||||||
24375 | การขอโอนสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ 1/2547/67 แปลงสำรวจบนบกหมายเลข L10/43 และ L11/43 | พน | 28/04/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้บริษัท จีเอส เอนเนอร์จี คอร์ปอเรชั่น โอนสิทธิ ประโยชน์ และพันธะซึ่งบริษัทฯ ถืออยู่ในอัตราร้อยละ ๓๐ ของสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ ๑/๒๕๔๗/๖๗ ให้แก่บริษัท สยามโมเอโกะ จำกัด โดยอาศัยความตามมาตรา ๕๐ แห่งพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. ๒๕๑๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติปิโตรเลียม (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๕๐ และให้ออกเป็นสัมปทานปิโตรเลียมเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๔) ของสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ ๑/๒๕๔๗/๖๗ ตามแบบ ชธ/ป๓/๑ ที่กำหนดในกฎกระทรวงกำหนดแบบสัมปทานปิโตรเลียม พ.ศ. ๒๕๕๕ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
|||||||||||||||
24376 | โครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2558 | กค | 28/04/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการการดำเนินโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต ๒๕๕๘ ภายใต้กรอบวงเงิน ๔๗๖,๔๘๓,๒๕๐ บาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ที่มีเหลือจ่ายจากโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต ๒๕๕๗ จำนวน ๑๐๘,๔๗๑,๐๒๔.๗๔ บาท และเงินทุนที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส. ) จะต้องสำรองจ่ายไปก่อน ในวงเงิน ๒๖๘,๐๑๒,๒๒๕.๒๖ บาท โดยให้ ธ.ก.ส. เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีในปีงบประมาณถัดไปตามความจำเป็นและเหมาะสม เพื่อชดเชยเงินต้นและดอกเบี้ยในอัตรา FDR+1% ซึ่งเป็นอัตราเดียวกับปีการผลิตที่ผ่านมา ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมส่งเสริมการเกษตร) ประสานงานกับสมาคมประกันวินาศภัยไทย ธ.ก.ส. และกระทรวงมหาดไทย (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) ดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๓. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงพาณิชย์ สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรสนใจเข้าร่วมโครงการ และเร่งประชาสัมพันธ์โครงการให้เกษตรกรทราบอย่างทั่วถึง เพื่อป้องกันปัญหาความล่าช้า และ ธ.ก.ส. สามารถดำเนินโครงการได้ทันฤดูกาลเพาะปลูกที่จะเริ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๘ นอกจากนี้ การดำเนินโครงการจะต้องมีการบูรณาการกับโครงการอื่น ๆ ในการให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่เกษตรกรอย่างทั่วถึง เท่าเทียม และไม่ซ้ำซ้อน มีการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรรับทราบถึงโครงการและประโยชน์ที่จะได้รับจากการดำเนินโครงการ รวมทั้งใช้โครงการประกันภัยข้าวนาปีเป็นเครื่องมือหนึ่งในการส่งเสริมการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรม (Zoning) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและมีหลักประกันความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
|||||||||||||||
24377 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสถานพยาบาลสัตว์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 28/04/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสถานพยาบาลสัตว์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และผลการดำเนินการตามข้อสังเกตที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป สำหรับผลการดำเนินการตามข้อสังเกตฯ สรุปได้ ดังนี้
๑. การกำหนดให้ผู้รับอนุญาตแสดงรายการอัตราค่ารักษาพยาบาลและค่าบริการ รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ ควรพิจารณาลักษณะและรายละเอียดของรายการอัตราค่ารักษาพยาบาลที่ผู้รับอนุญาตจะต้องแสดงโดยให้มีมาตรฐาน มีความรอบคอบ ชัดเจนและครอบคลุมก่อนการออกประกาศกำหนด นั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์รับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ไว้เป็นแนวทางในการดำเนินการกำหนดลักษณะและรายละเอียดของรายการอัตราค่ารักษาพยาบาล และค่าบริการให้มีมาตรฐาน มีความรอบคอบ ชัดเจน ครอบคลุมและเกิดความเป็นธรรม ส่วนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นว่า ข้อสังเกตดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ซึ่งเป็นผู้รักษาการตามกฎหมายในการพิจารณาออกประกาศตามมาตรา ๑๖ วรรคหนึ่ง (๓) แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาลสัตว์ฯ ๒. กรณีตามที่ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ได้กำหนดหลักการไว้ตามมาตรา ๑๔ วรรคสอง ที่ว่า “การดำเนินการออกกฎกระทรวง หรือประกาศตามวรรคหนึ่ง ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ หากไม่สามารถดำเนินการได้ให้รัฐมนตรีรายงานเหตุผลที่ไม่อาจดำเนินการได้ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ” นั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ ได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณายกร่างกฎหมายที่ออกตามความในร่างพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติสถานพยาบาลสัตว์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. .... เพื่อเร่งรัดการยกร่างกฎหมายที่ออกตามความในพระราชบัญญัติทั้ง ๔ ฉบับดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน ๑ ปี นับแต่วันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับแล้ว ส่วนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นว่า การบัญญัติบทเฉพาะกาลในลักษณะดังกล่าวเป็นการกำหนดบทเร่งรัดให้หน่วยงานที่รับผิดชอบต้องดำเนินการออกกฎหมายลำดับรองมาใช้บังคับภายในกรอบระยะเวลาที่กำหนดเพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการตราพระราชบัญญัติใหม่ ทั้งนี้ ได้กำหนดแบบกฎหมายของการเขียนบทเฉพาะกาล สำหรับใช้เป็นแนวทางปฏิบัติในการร่างกฎหมายไว้แล้ว
|
|||||||||||||||
24378 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะขององค์กรตามรัฐธรรมนูญหรือ องค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ และข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา | นร05 | 28/04/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการของส่วนราชการตามข้อเสนอแนะขององค์กรตามรัฐธรรมนูญ หรือองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ (คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) และข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ซึ่งส่วนราชการที่ไดรับมอบหมายจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน ๓๐ วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้ง ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง แนวทงปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการตามข้อเสนอแนะขององค์กรตามรัฐธรรมนูญหรือองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับญัตติ รายงาน และข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการองสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา) แต่ปรากฏว่า ยังมีเรื่องคงค้างการดำเนินการอยู่ ซึ่งในส่วนของกระทรวงกลาโหมยังมีเรื่องคงค้าง จำนวน ๑ เรื่อง คือ เรื่อง แจ้งผลการพิจารณาเรื่องร้องเรียน (ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย หรือข้อเสนอแนะในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง สิทธิในกระบวนการยุติธรรม กรณีขอความเป็นธรรมและขอให้ฟ้องคดีแทนผู้เสียหายจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมและควบคุมตัวผู้ชุมนุมที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๔๗) ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ และให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเร่งรัดจัดทำรายงานผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||
24379 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเพื่อเป็นค่าเช่าระบบคอมพิวเตอร์ให้บริการประชาชนด้านทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อทดแทน ระบบเดิม 455 แห่ง | มท | 28/04/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้กรมการปกครองดำเนินการเช่าระบบคอมพิวเตอร์ให้บริการประชาชนด้านทะเบียนและประจำตัวประชาชน เพื่อทดแทนระบบเดิม ๔๕๕ แห่ง ในวงเงิน ๙๘๘,๗๔๘,๔๘๐ บาท ตามผลประกวดราคา โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ จำนวน ๑๗๔,๑๐๘,๓๐๐ บาท ที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงการคลังให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีแล้ว และผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘-พ.ศ. ๒๕๖๔ จำนวน ๘๑๔,๖๔๐,๑๘๐ บาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับกระบวนการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปตามระเบียบของทางราชการอย่างเคร่งครัดและดำเนินการอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ รวมทั้งในการทำสัญญาควรพิจารณาข้อกำหนดที่ทางราชการได้ประโยชน์สูงสุด ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๒. ระบบคอมพิวเตอร์ให้บริการประชาชนด้านทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชนควรจะต้องรองรับและสามารถจัดเก็บฐานข้อมูลของประชาชนเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการเชื่อมโยงกับข้อมูลทะเบียนราษฎร สำมะโนประชากร ทะเบียนเกษตรกร ตลอดจนประชาชนผู้มีรายได้น้อย เพื่อให้สอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาลที่ให้มีการจัดทำฐานข้อมูลต่าง ๆ ต่อไป |
|||||||||||||||
24380 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 สายสระบุรี - หนองคาย (เขตแดน) ที่บ้านห้วยตะคร้อ และเพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 290 สายถนนวงแหวนรอบเมืองนครราชสีมา ตอนบ้านห้วยตะคร้อ - บ้านบึงขามทะเลสอ และเพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2068 สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 (โคกกรวด) - บรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 205 (โนนไทย) ที่บ้านบึงขามทะเลสอ พ.ศ. .... | คค | 28/04/2558 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒ สายสระบุรี-หนองคาย (เขตแดน) ที่บ้านห้วยตะคร้อ และเพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๙๐ สายถนนวงแหวนรอบเมืองนครราชสีมา ตอนบ้านห้วยตะคร้อ-บ้านบึงขามทะเลสอ และเพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๐๖๘ สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒ (โคกกรวด)-บรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๐๕ (โนนไทย) ที่บ้านบึงขามทะเลสอ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจร และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจาณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
.....