ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1217 จากทั้งหมด 6218 หน้า แสดงรายการที่ 24321 - 24340 จากข้อมูลทั้งหมด 124347 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
24321 | การกำหนดค่าตอบแทนสำหรับคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ คณะทำงาน และบุคคลตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการเตรียมการด้านดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. 2558 | ทก | 07/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการการกำหนดค่าตอบแทนสำหรับคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ คณะทำงาน และบุคคลตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการเตรียมการด้านดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ ๒. สำหรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการจ่ายค่าตอบแทน เห็นควรกำหนดค่าตอบแทนของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะทำงานดังกล่าวในแนวทางเช่นเดียวกันกับคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการตามพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. ๒๕๔๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยปรับเปลี่ยนให้ได้รับค่าตอบแทนเป็นรายเดือนแทนรายครั้ง ส่วนอัตราค่าตอบแทนรายเดือนให้ได้รับตามอัตราค่าตอบแทนรายครั้งที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ สำหรับบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญที่มาช่วยปฏิบัติงานนั้น เนื่องจากไม่ได้กำหนดภารกิจ อำนาจหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติไว้อย่างชัดเจน กรมบัญชีกลางจะพิจารณาเทียบเคียงร่วมกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อกำหนดอัตราที่เหมาะสมให้ต่อไป ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง |
|||||||||||||||||||||
24322 | สรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วันที่ 30 มีนาคม - 3 เมษายน 2558) | สผ | 07/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการ จำนวน ๒๔ คณะ และคณะอนุกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วันที่ ๓๐ มีนาคม-๓ เมษายน ๒๕๕๘) ตามที่เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสภาปฏิรูปแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
24323 | ขอรับการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนกรณีพิเศษ 2 ขั้น (นอกเหนือโควตาปกติ) จากงบกลางเพิ่มเติมให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติงานในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ | สลธ.คสช. | 07/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอขอรับการสนับสนุนโควตาการพิจารณาบำเหน็จความชอบประจำปี (๒ ขั้น) กรณีพิเศษ เพิ่มเติมอีกร้อยละ ๓ ของจำนวนเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จำนวน ๑,๐๓๓ นาย โดยให้มีผลในปีงบประมาณ ๒๕๕๘ (๑ ตุลาคม ๒๕๕๗-๓๐ กันยายน ๒๕๕๘) สำหรับงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดังกล่าว ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของส่วนราชการต้นสังกัดในโอกาสแรกก่อน หากไม่เพียงพอก็ให้เบิกจ่ายจากงบกลาง รายการเงินเลื่อนเงินเดือนและเงินปรับวุฒิข้าราชการเป็นลำดับต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||
24324 | รายงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ประจำปี 2556 | ผผ | 07/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ประจำปี ๒๕๕๖ ซึ่งมีสาระสำคัญเกี่ยวกับผลการพิจารณาสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องต่างๆ พร้อมข้อสังเกตหรือข้อเสนอแนะที่เสนอต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น ผลการปฏิบัติของหน่วยงานราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจหรือราชการส่วนท้องถิ่นหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ได้ดำเนินการหรือไม่ดำเนินการตามข้อสังเกตหรือข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดิน ความร่วมมือของหน่วยงานในการชี้แจงข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียน ผลการดำเนินงานด้านจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ผลการดำเนินงานด้านการติดตามประเมินผลการปฏิบัติงานตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ และแนวทางการพัฒนาดำเนินงานของผู้ตรวจการแผ่นดิน ตามที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
24325 | มติคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2558 | ทก | 07/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ ดังนี้
๑. ที่ประชุมได้รับทราบในประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการปรับปรุงแนวทางการพัฒนากิจการอวกาศของประเทศไทย ผลการประชุมกลุ่มเตรียมการครั้งที่ ๔ สำหรับการประชุมใหญ่ระดับโลกว่าด้วยวิทยุคมนาคม ค.ศ. ๒๐๑๕ (APG 15-4) ขององค์การโทรคมนาคมแห่งเอเชียแปซิฟิก (APT) และความคืบหน้าการดำเนินการของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่ได้รายงานต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ ๒. ที่ประชุมได้พิจารณาในประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ ๒.๑ เห็นชอบหลักเกณฑ์การอนุญาตการใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมต่างประเทศ และมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการดำเนินการประสานสำนักกฎหมายในการนำเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ และมอบหมายให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เป็นหน่วยงานดำเนินการและกำกับดูแลภายใต้หลักเกณฑ์ดังกล่าวต่อไป ๒.๒ มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการรับข้อสังเกตจากที่ประชุมเกี่ยวกับการกำหนดสิทธิ์ในการใช้วงโคจรดาวเทียมของประเทศและหลักเกณฑ์การจัดเก็บค่าธรรมเนียมในการให้สิทธิ์การใช้วงโคจรดาวเทียมของประเทศ และวิเคราะห์หาข้อมูลการจัดเก็บค่าธรรมเนียมของต่างประเทศเพิ่มเติม เพื่อเปรียบเทียบและนำมาใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒.๓ เห็นชอบให้ รศ.ดร.สุเจตน์ จันทรังษ์ เป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านกิจการอวกาศ และอธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ เป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านการต่างประเทศ
|
|||||||||||||||||||||
24326 | การกำหนดให้วันที่ 4 กรกฎาคมของทุกปีเป็น "วันอนามัยสิ่งแวดล้อมไทย" | สธ | 07/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบการกำหนดให้วันที่ ๔ กรกฎาคมของทุกปีเป็น “วันอนามัยสิ่งแวดล้อมไทย” เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี และเพื่อสร้างความตระหนักของสังคมและหน่วยงานทุกภาคส่วนให้มีส่วนร่วมในการดำเนินงานอนามัยสิ่งแวดล้อมเพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชน และการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะเป็นหน่วยงานประสานความร่วมมือทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมจัดกิจกรรมรณรงค์ สร้างความตระหนัก และการมีส่วนร่วมในการดำเนินงานอนามัยสิ่งแวดล้อม โดย ๑.๑ กำหนดนโยบายส่งเสริมและรณรงค์ให้ประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกระดับ ตระหนักถึงความสำคัญของวันอนามัยสิ่งแวดล้อมไทย และมีส่วนร่วมดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ๑.๒ ประสานความร่วมมือกับองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคท้องถิ่น ในการจัดกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมงานอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพอย่างยั่งยืน และร่วมแก้ไขหรือลดปัญหาอนามัยสิ่งแวดล้อมของชุมชนและประเทศ โดยสอดคล้องกับสถานการณ์ปัญหาแต่ละปี ๑.๓ ส่งเสริม สนับสนุนการจัดกิจกรรมรณรงค์ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมของภาคีเครือข่าย ตลอดจนชุมชนในการพัฒนาอนามัยสิ่งแวดล้อม การจัดการมลพิษ และการจัดสภาพแวดล้อม ดูแลชุมชนและที่อยู่อาศัยให้สะอาดถูกสุขลักษณะ ๑.๔ ส่งเสริมความรู้ และปลูกจิตสำนึกและความตระหนักให้แก่เด็ก เยาวชน และประชาชนในการร่วมดูแลอนามัยสิ่งแวดล้อม และร่วมกันเฝ้าระวัง แก้ไขปัญหาและพัฒนาชุมชนให้น่าอยู่อย่างยั่งยืน ๒. มอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมจัดกิจกรรมส่งเสริมการอนามัยสิ่งแวดล้อม เนื่องใน “วันอนามัยสิ่งแวดล้อมไทย” ของทุกปีโดยพร้อมเพรียงกัน |
|||||||||||||||||||||
24327 | คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 9/2558 เรื่อง การให้ข้าราชการสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ | สลธ.คสช. | 07/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๙/๒๕๕๘ เรื่อง การให้ข้าราชการสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ ลงวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๕๘ ให้นายพิชิต นิลทองคำ จัดหางานจังหวัดชลบุรี สิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักบริหารแรงงานต่างด้าว เพื่อให้การดำเนินงานแก้ไขปัญหาด้านแรงงานต่างด้าว การป้องกัน ปราบปราม ดำเนินคดี ช่วยเหลือ คุ้มครอง และแก้ไขปัญหาจากการค้ามนุษย์ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และการจัดการกำลังคนของกระทรวงแรงงานเป็นไปตามกรอบอำนาจ ที่กำหนดตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
24328 | คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 10/2558 เรื่อง การแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม | สลธ.คสช. | 07/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๐/๒๕๕๘ เรื่อง การแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม ลงวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๕๘ เพื่อให้สามารถเร่งดำเนินการแก้ปัญหาให้การทำประมงสามารถดำเนินการได้อย่างยั่งยืนและเป็นระบบ และยกระดับมาตรฐานการประมงของประเทศไทยให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล รวมทั้งเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการประมง อุตสาหกรรมต่อเนื่อง และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย หากมิได้มีการป้องกันและแก้ไขโดยเร่งด่วน จะมีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
24329 | รายงานสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2556 | ทส | 07/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๕๖ ซึ่งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติได้มีมติเห็นชอบแล้ว ในคราวประชุมครั้งที่ ๓/๒๕๕๗ เมื่อวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๗ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. สถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อมรายสาขา ประกอบด้วย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภาวะโลกร้อน ความหลากหลายทางชีวภาพ ทรัพยากรน้ำ ทรัพยากรพลังงาน ทรัพยากรดิน การใช้ประโยชน์ที่ดิน และแร่ธาตุ สิ่งแวดล้อมชุมชน สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรม มลพิษ ๒. ประเด็นสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ ประกอบด้วย ภัยแล้งและภาวการณ์ขาดแคลนน้ำ การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศแม่น้ำโขง การสูญพันธุ์และสูญเสียระบบนิเวศกับการฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ ๓. ข้อเสนอแนะเชิงบูรณาการ ประกอบด้วย ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย และข้อเสนอแนะด้านมาตรการ
|
|||||||||||||||||||||
24330 | การประชุมสภากระบวนการยุติธรรมสำหรับเด็กและเยาวชน ระดับภาคพื้น เอเชีย - แปซิฟิก ครั้งที่ 2 (The 2nd Meeting of ASIA - PACIFIC Council for Juvenile Justice) | ยธ | 07/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการประชุมสภากระบวนการยุติธรรมสำหรับเด็กและเยาวชน ระดับภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ ๒ (The 2nd Meeting of ASIA-PACIFIC Council for Juvenile Justice) ซึ่งกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนร่วมกับสถาบันกำกับดูแลกระบวนการยุติธรรมเด็กและเยาวชนระหว่างประเทศ (International Juvenile Justice Observatory : IJJO) สำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nation Office on Drugs and Crime : UNODC) จัดการประชุมดังกล่าวขึ้นในระหว่างวันที่ ๕-๘ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ณ โรงแรมกะตะบีช รีสอร์ท แอนด์ สปา จังหวัดภูเก็ต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทางการปฏิบัติที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมเด็กและเยาวชนระหว่างประเทศ พัฒนายกระดับมาตรฐานการปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชนในกระบวนการยุติธรรมของไทยและประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคอาเซียน และเพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการดูแลเด็กและเยาวชนที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมระหว่างประเทศในระดับนานาชาติและประเทศในภูมิภาคอาเซียน สำหรับรูปแบบของการประชุมมี ๒ รูปแบบ คือ วันที่ ๕-๗ พฤษภาคม ๒๕๕๘ เป็นการประชุมเชิงปฏิบัติการ หัวข้อการประชุมประกอบด้วย การป้องกันและตอบสนองต่อความรุนแรงต่อเด็กและเยาวชน การหันเหคดีและมาตรการทางเลือก ยุติธรรมเชิงสมานฉันท์จากทฤษฎีสู่แนวทางปฏิบัติ และในวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๘ เป็นการประชุมวิชาการ เพื่อร่วมกันกำหนดภารกิจและแผนงานของสภากระบวนการยุติธรรมสำหรับเด็กและเยาวชนในภาคพื้นอาเซียน ร่วมกันหาวิธีการประเมินผลการดำเนินงานด้านมาตรฐานสิทธิเด็กและเยาวชนในภูมิภาค และร่วมกันจัดทำมาตรการในการดูแลเด็กและเยาวชนที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมที่เป็นการกระทำความผิดข้ามพรมแดน เพื่อปกป้องสิทธิเด็กและเยาวชนที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
24331 | รายงานสรุปผลการปฏิบัติของคณะทำงานช่วยเหลือ เยียวยา และส่งกลับแรงงานไทยที่ทำงานที่เกาะอัมบนและเบนจินา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย | พม | 07/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการปฏิบัติของคณะทำงานช่วยเหลือ เยียวยา และส่งกลับแรงงานไทยที่ทำงานที่เกาะอัมบนและเบนจิน่า สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ ๒๗ มีนาคม-๙ เมษายน ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การพิสูจน์ทราบค้นหาคนไทย พิสูจน์ทราบแรงงานได้จำนวนทั้งสิ้น ๑๖๕ คน เป็นคนไทย จำนวน ๗๔ คน เมียนมา จำนวน ๖๖ คน กัมพูชา จำนวน ๑๗ คน และลาว จำนวน ๘ คน ในจำนวนคนไทย ๗๔ คน เป็นแรงงานตกเรือ จำนวน ๔๕ คน และบนเรือไม่มีสังกัด จำนวน ๒๙ คน โดยมีระยะเวลาที่ตกเรือเฉลี่ยประมาณ ๓-๑๐ ปี ยังคงเหลือแรงงานที่ตกเรือที่เกาะอัมบน จำนวน ๑๖ คน เกาะตวล จำนวน ๗๖ คน ๒. การตรวจแรงงานในเรือประมง ตรวจแรงงานบนเรือ จำนวน ๘๐ ลำ ที่เกาะอัมบน จำนวน ๗๓ ลำ เกาะเบนจิน่า จำนวน ๗ ลำ แรงงานทั้งหมด จำนวน ๑,๔๖๖ คน เป็นคนไทย จำนวน ๘๙๕ คน เมียนมา จำนวน ๓๐๐ คน กัมพูชา จำนวน ๒๔๗ คน ลาว จำนวน ๒๑ คน และอินโดนีเซีย จำนวน ๓ คน มีแรงงานไทยที่ประสงค์จะเดินทางกลับโดยสมาคมและบริษัทเอกชนเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ จำนวน ๓๕๙ คน จากการตรวจสอบไม่พบสภาพการถูกบังคับ ขู่เข็ญ หลอกลวงแรงงานแต่อย่างใด ๓. การพิสูจน์ทราบผู้เสียชีวิต ตรวจหลุมฝังศพ จำนวน ๑๑๒ หลุม ที่เกาะอัมบน จำนวน ๒๒ หลุม เกาะเบนจิน่า จำนวน ๙๐ หลุม ส่วนใหญ่ไม่มีระบบการจัดเก็บข้อมูลและไม่มีหลักฐานทางราชการ บางหลุมไม่มีป้ายชื่อหลุมศพ จึงยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับผู้เสียชีวิต ต้องมีการพิสูจน์ทราบต่อไป ๔. การส่งกลับ ดำเนินการส่งกลับแรงงานไทยตกเรือและแรงงานบนเรือไม่มีสังกัด จำนวน ๖๘ คน ในจำนวนนี้พบว่าเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จำนวน ๖ คน ที่เหลืออยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน
|
|||||||||||||||||||||
24332 | ขออนุมัติวงเงินงบประมาณ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อชำระเงินอุดหนุนค่าบำรุงตามที่สหประชาชาติเรียกเก็บ สำหรับปีงบประมาณ 2558 | กต | 07/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการกรอบวงเงินงบประมาณเพื่อชำระค่าบำรุงตามพันธกรณีที่สหประชาชาติเรียกเก็บและค่าบำรุงปฏิบัติการรักษาสันติภาพต่าง ๆ ตามที่สหประชาชาติเรียกเก็บ จำนวน ๑๐๓,๕๘๐,๔๐๐ บาท โดยให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณตามมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ในโอกาสแรกก่อน หากไม่เพียงพอหรือไม่สามารถดำเนินการได้ ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงการคลังให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีแล้ว ภายในกรอบวงเงิน ๑๐๓,๕๘๐,๔๐๐ บาท เพื่อนำมาชำระค่าบำรุงตามพันธกรณี และค่าบำรุงปฏิบัติการรักษาสันติภาพต่าง ๆ ตามที่สหประชาชาติเรียกเก็บ โดยให้ขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||
24333 | รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2558 | นร11 | 07/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจประจำเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ภาพรวมสถานการณ์เศรษฐกิจไทยเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ๑.๑ เศรษฐกิจไทยเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม ๒๕๕๘ ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นร้อยละ ๓.๑ จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นร้อยละ ๓.๑ แต่ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรปรับตัวลดลง ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ ร้อยละ ๐.๑ ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนอยู่ในภาวะทรงตัว และดัชนีปริมาณการส่งออกลดลงร้อยละ ๒.๓ ๑.๒ เศรษฐกิจไทยเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ขยายตัวดีขึ้น ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมขยายตัวร้อยละ ๓.๖ จำนวนนักท่องเที่ยวขยายตัวสูงร้อยละ ๒๙.๖ แต่ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรปรับตัวลดลงร้อยละ ๓.๘ ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวร้อยละ ๐.๕ และการลงทุนภาครัฐปรับตัวดีขึ้น การบริโภคภาคเอกชนยังมีแนวโน้มที่จะขยายตัวต่อเนื่อง ๑.๓ เสถียรภาพทางเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดี อัตราเงินเฟ้อลดลงตามราคาพลังงาน อัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำ ดุลการค้าและดุลบริการเกินดุล ส่งผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล ๑.๔ สถานการณ์ด้านการคลัง การจัดเก็บรายได้สุทธิเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีและงบประมาณกันไว้เบิกเหลื่อมปีในเดือนกุมภาพันธ์ลดลง สัดส่วนหนี้สาธารณะ GDP ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ยังคงอยู่ในระดับที่มั่นคง ๑.๕ สถานการณ์ด้านการเงิน สินเชื่อธนาคารพาณิชย์ขยายตัวร้อยละ ๒.๘ เงินฝากธนาคารพาณิชย์ (รวมตั๋วแลกเงิน) ขยายตัวร้อยละ ๕.๐ ค่าเงินบาทเฉลี่ยอยู่ที่ ๓๒.๕๗ บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแข็งค่าขึ้นร้อยละ ๐.๕ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ปิดที่ ๑,๕๘๗.๐ จุด ส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ร้อยละ ๒.๐๐ ต่อปี (ล่าสุดคณะกรรมการนโยบายการเงินมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเป็นร้อยละ ๑.๗๕ ต่อปีเมื่อวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๕๘) ๒. สถานการณ์เศรษฐกิจโลกในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ยังอยู่ในภาวะชะลอตัวตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเอเชีย ในขณะที่เศรษฐกิจยูโรโซนเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนมากขึ้น การชะลอตัวของเศรษฐกิจของประเทศสำคัญ ๆ ท่ามกลางการลดลงของแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อ ส่งผลให้ประเทศต่าง ๆ ยังคงดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายอย่างต่อเนื่อง
|
|||||||||||||||||||||
24334 | ผลการดำเนินงานตามแผนอำนวยความสะดวกและปลอดภัย รองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2558 ของกระทรวงคมนาคม | คค | 07/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมรายงานผลการดำเนินงานตามแผนอำนวยความสะดวกและปลอดภัย รองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ๒๕๕๘ ระหว่างวันที่ ๙-๑๙ เมษายน ๒๕๕๘ ระยะเวลา ๑๑ วัน ประกอบด้วย การให้บริการและอำนวยความสะดวกในการเดินทาง การดำเนินงานด้านความปลอดภัย และสถิติอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ ๒๕๕๘ ซึ่งหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการให้บริการระบบขนส่งสาธารณะ โดยไม่มีผู้โดยสารตกค้าง ทั้งนี้ จากสถิติอุบัติเหตุบนโครงข่ายของกระทรวงคมนาคม ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ๒๕๕๘ ระยะเวลา ๗ วัน ระหว่างวันที่ ๙-๑๕ เมษายน ๒๕๕๘ พบว่า มีผู้เสียชีวิต ๒๖๒ คน รถโดยสารสาธารณะเกิดอุบัติเหตุ ๒๐ ครั้ง เสียชีวิต ๑๐ คน และรถไฟเกิดอุบัติเหตุ ๓ ครั้ง ไม่มีผู้เสียชีวิต จึงเห็นสมควรดำเนินการในการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางถนนเพิ่มเติม ดังนี้
๑. การบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ๒. การรณรงค์ประชาสัมพันธ์การสร้างจิตสำนึกในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย โดยเฉพาะพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะและรถตู้โดยสาร ๓. การบังคับใช้กฎหมายและการกวดขันวินัยจราจรอย่างเคร่งครัดทั้งช่วงเทศกาลและช่วงวันปกติ รวมทั้งการปลูกฝังค่านิยมการขับขี่ที่ปฏิบัติตามกฎจราจรตั้งแต่ในระดับเยาวชน ๔. การตรวจสอบ ปรับปรุง แก้ไข ซ่อมบำรุง หรือพัฒนาทางกายภาพของโครงข่ายคมนาคมอย่างต่อเนื่อง ๕. การกวดขันพฤติกรรมกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์เป็นกรณีพิเศษ และควบคุมให้ปฏิบัติตามกฎจราจร พร้อมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์ต้องสวมหมวกนิรภัย
|
|||||||||||||||||||||
24335 | ขอความเห็นชอบร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลสาธารณรัฐอินโดนีเซียว่าด้วยความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศ | กห | 07/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้กระทรวงกลาโหมจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลสาธารณรัฐอินโดนีเซียว่าด้วยความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศ (Agreement between the Government of the Kingdom of Thailand and the Government of the Republic of Indonesia on Cooperation in the Field of Defence) มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับความร่วมมือด้านการทหาร และเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกองทัพของทั้งสองประเทศโดยเฉพาะการพัฒนาความร่วมมือด้านความมั่นคงทางทะเลอย่างเป็นรูปธรรม อันมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนความร่วมมือในการจัดระเบียบเรือประมง และทำให้เกิดการป้องกันและป้องปรามการค้ามนุษย์ร่วมกันตามนโยบายรัฐบาล ๑.๒ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย โดยให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นผู้ลงนามในร่างความตกลงฯ ๑.๓ หากมีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของร่างความตกลงฯ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสาระสำคัญของร่างความตกลงฯ ให้กระทรวงกลาโหมพิจารณาดำเนินการได้ตามความเหมาะสม ๒. ให้กระทรวงกลาโหมจัดเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการทำประมงรุกล้ำน่านน้ำและการกำหนดเขตเศรษฐกิจจำเพาะระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ไปร่วมหารือกับรัฐบาลสาธารณรัฐอินโดนีเซียในระหว่างการเดินทางเยือนสาธารณรัฐอินโดนีเซียในครั้งนี้ด้วย |
|||||||||||||||||||||
24336 | คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 11/2558 เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล | สลธ.คสช. | 07/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๑/๒๕๕๘ เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ลงวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยสำนักงานกินแบ่งรัฐบาลและเงื่อนไขสัญญาจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นไปโดยเคร่งครัด อันจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูปประเทศในด้านเศรษฐกิจและสังคม ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
24337 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 07/05/2558 | ||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ๑.๑ ให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาดำเนินการเพื่อให้มีการเปิดเที่ยวบินตรง (Direct Flight) จากเมืองสำคัญในประเทศต่าง ๆ มายังประเทศไทยเพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสามารถเดินทางไปยังจังหวัดต่าง ๆ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทยได้โดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูการท่องเที่ยว ๑.๒ ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบความพร้อมและขึ้นทะเบียนสหกรณ์การเกษตรต่าง ๆ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรในการลดต้นทุนการผลิตและการสนับสนุนปัจจัยการผลิตผ่านการดำเนินงานของสหกรณ์การเกษตรที่มีความพร้อมและมีความเข้มแข็ง รวมทั้งกำหนดแนวทางการสร้างความเข้มแข็งให้แก่สหกรณ์การเกษตรที่ยังไม่มีความพร้อม ๒. ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) กำหนดรูปแบบและวิธีการในการสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนเกี่ยวกับความรู้พื้นฐานด้านกฎหมาย ลำดับชั้นกฎหมาย ความสำคัญของรัฐธรรมนูญ ประชาธิปไตยที่เหมาะสมกับประเทศไทย และเหตุผลความจำเป็นในการปฏิรูปประเทศ เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจและพร้อมเข้ามามีส่วนร่วมในสิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการ ๓. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๓.๑ ให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ร่วมกับคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบกรณีที่มีการร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตในอุทยาน เช่น การทุจริตการเก็บค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน การเรียกรับผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่อุทยาน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายกับเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ๓.๒ ให้กระทรวงมหาดไทย (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) ดำเนินการพิจารณาจัดทำแผนเตรียมการรองรับภัยพิบัติในเมืองใหญ่ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเผชิญเหตุและการจัดการในภาวะฉุกเฉิน โดยให้เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อจะได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการตามแผนดังกล่าว ทั้งนี้ แผนดังกล่าวควรบรรจุอยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต่อไปด้วย ๓.๓ ให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายและบริหารจัดการทรัพยากรน้ำร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณากำหนดแนวทางการรองรับน้ำฝนเพื่อให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ เช่น การขุดสระรองรับน้ำในบริเวณที่ฝนตกแล้วจัดทำทางส่งน้ำไปยังแหล่งกักเก็บน้ำใกล้เคียง รวมทั้งวางแผนการส่งน้ำให้แก่ประชาชนรอบ ๆ แหล่งน้ำให้ได้ใช้ประโยชน์อย่างทั่วถึง ๓.๔ โครงการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานส่วนใหญ่จะต้องผ่านการทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งหากการจัดทำรายงานดังกล่าวล่าช้าก็จะทำให้การดำเนินการโครงการต่าง ๆ ล่าช้าออกไป และอาจส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศ จึงให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติรับไปพิจารณาแนวทางดำเนินการเร่งรัดขั้นตอนการพิจารณารายงานดังกล่าวให้เร็วขึ้น ๓.๕ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับไปดำเนินการร่วมกับกระทรวงมหาดไทยในการจัดโครงการศึกษาดูงานในต่างประเทศสำหรับเกษตรกรระดับรากหญ้าเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และการพัฒนาด้านการตลาด การผลิต และการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยเพิ่มผลผลิตให้แก่เกษตรกร เป็นต้น ๓.๖ ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกรุงเทพมหานคร และส่วนราชการที่มีพื้นที่สาธารณะปรับปรุงพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์เพื่อเพิ่มพื้นที่จอดรถสาธารณะในกรุงเทพมหานครให้มีมากขึ้น รวมทั้งให้ปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์ของสวนสาธารณะต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานคร เช่น สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) เป็นต้น ให้เหมาะสมต่อการใช้เป็นสถานที่พักผ่อนและทำกิจกรรมสันทนาการของประชาชนด้วย ๓.๗ ให้กระทรวงกลาโหม (กองทัพบก) เร่งรัดการก่อสร้างหอประชุมกองทัพบกบริเวณสี่เสาเทเวศร์ เพื่อใช้เป็นสถานที่จัดการประชุมขนาดใหญ่และศูนย์แสดงสินค้า โดยให้ศึกษารูปแบบและแนวทางการใช้ประโยชน์จากศูนย์การประชุมขนาดใหญ่ของต่างประเทศที่มีความสวยงามและทันสมัย ทั้งนี้ ต้องแสดงถึงเอกลักษณ์และวัฒนธรรมของไทยด้วย ๓.๘ ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการดำเนินการจัดทำคู่มือสำหรับประชาชนตามมาตรา ๘ แห่งพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๕๘ ให้เป็นไปตามเวลาที่กำหนด และในส่วนของการให้บริการของศูนย์บริการด้านธุรกิจ (One Stop Service) และศูนย์ดำรงธรรมจะต้องคำนึงถึงการเชื่อมต่อการทำงานระหว่างกัน รวมทั้งกับหน่วยงานอื่น ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้มาติดต่อราชการด้วย ๓.๙ ในช่วงที่ผ่านมามีผู้ขับขี่รถจักรยานประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนมากขึ้น จึงให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอุบัติเหตุในลักษณะดังกล่าว และให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงคมนาคม กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัดช่องทางเดินรถจักรยาน โดยเร่งดำเนินการในพื้นที่ที่เกิดอุบัติเหตุเป็นลำดับแรก และขยายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ต่อไป พร้อมทั้งกำหนดแนวทางการป้องกันมิให้เกิดอุบัติเหตุเช่นนี้อีก
|
|||||||||||||||||||||
24338 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน พ.ศ. .... | มท | 07/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลบ้านกาศ ตำบลแม่คง ตำบลแม่สะเรียง และตำบลแม่ยวม อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
24339 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ. .... | สว | 07/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ. .... ที่เห็นควรให้กรมปศุสัตว์ในฐานะที่เป็นหน่วยงานผู้รับผิดชอบในการควบคุมอาหารสัตว์และออกใบรับรองระบบการประกันคุณภาพอาหารสัตว์ควรกำกับดูแลให้ผู้ประกอบการหรือผู้ผลิตอาหารสัตว์รักษามาตรฐานคุณภาพอาหารสัตว์และกระบวนการผลิต รวมทั้งให้ความสำคัญกับผลกระทบด้านสภาวะแวดล้อมและชุมชนก่อนที่จะมีการออกใบอนุญาตหรือใบรับรอง ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. รับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ โดยกรมปศุสัตว์ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณายกร่างกฎหมายที่ออกตามความในร่างพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติสถานพยาบาลสัตว์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. .... และคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณายกร่างกฎหมายที่ออกตามความในร่างพระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ. ... เพื่อพิจารณายกร่างกฎหมายอนุบัญญัติ โดยจะนำข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เป็นแนวทางในการยกร่างกฎหมายอนุบัญญัติในเรื่องดังกล่าวต่อไป และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
24340 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงแรงงาน) (นายบุญเลิศ ธีระตระกูล) | รง | 07/05/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายบุญเลิศ ธีระตระกูล ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาวิชาการแรงงาน (นักวิชาการแรงงานทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงแรงงาน ตั้งแต่วันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
|
.....