ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1070 จากทั้งหมด 6215 หน้า แสดงรายการที่ 21381 - 21400 จากข้อมูลทั้งหมด 124293 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
21381 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ | นร | 15/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๙ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติพัฒนาระบบมาตรวิทยาแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และการดำเนินการให้มีผลผูกพันตามการเจรจาขยายขอบเขตความตกลงว่าด้วยการค้าสินค้าเทคโนโลยีสารสนเทศ (ITA Expansion) ประกอบด้วยปฏิญญาว่าด้วยการขยายขอบเขตความตกลงว่าด้วยการค้าสินค้าเทคโนโลยีสารสนเทศ (Declaration on the Expansion of Trade in information Technology Products) เอกสารแจ้งการยอมรับปฏิญญาฯ และเอกสารการแก้ไขตารางข้อผูกพัน (Schedule of Concessions) ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ๒. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) รับข้อสังเกตดังกล่าวประสานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||
21382 | การดำเนินการให้มีผลผูกพันตามการเจรจาขยายขอบเขตความตกลงว่าด้วยการค้าสินค้าเทคโนโลยีสารสนเทศ (ITA Expansion) | อื่นๆ | 15/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๙ ซึ่งให้เสนอปฏิญญาว่าด้วยการขยายขอบเขตความตกลงว่าด้วยการค้าสินค้าเทคโนโลยีสารสนเทศ (Declaration on the Expansion of Trade in information Technology Products) เอกสารแจ้งการยอมรับปฏิญญาฯ และเอกสารการแก้ไขตารางข้อผูกพัน (Schedule of Concessions) ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
||||||||||||||||||
21383 | รายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินการโครงการในวาระแห่งชาติด้านวัคซีน ภายใต้นโยบายและแผนยุทธศาสตร์วัคซีนแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2558 | สธ | 08/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุข โดยสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (องค์การมหาชน) รายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินการโครงการในวาระแห่งชาติด้านวัคซีน ภายใต้นโยบายและแผนยุทธศาสตร์วัคซีนแห่งชาติ ปีงบประมาณ ๒๕๕๘ รวมทั้งสิ้น ๑๔ โครงการ ประกอบด้วย (๑) โครงการที่ประสบผลสำเร็จตามตัวชี้วัดที่กำหนด จำนวน ๕ โครงการ (๒) โครงการที่สำเร็จตามตัวชี้วัดแต่มีความล่าช้าเนื่องจากปัญหาและอุปสรรค จำนวน ๒ โครงการ และ (๓) โครงการที่ชะลอ หรือยุติการดำเนินงาน จำนวน ๗ โครงการ ทั้งนี้ สถาบันวัคซีนแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ได้ทบทวนโครงการต่าง ๆ ตามวาระแห่งชาติด้านวัคซีน และปรับเปลี่ยนหน่วยงานที่รับผิดชอบ รวม ๑๐ โครงการ รวมทั้งอยู่ระหว่างการทบทวนนโยบายและยุทธศาสตร์วัคซีนแห่งชาติฉบับใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเสนอคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติพิจารณาก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||
21384 | รายงานผลดำเนินงานการกำกับดูแลการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวไร่อ้อยในฤดูการผลิตปี 2557/2558 | อก | 08/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานผลดำเนินงานการกำกับดูแลการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวไร่อ้อยในฤดูการผลิตปี ๒๕๕๗/๒๕๕๘ ประจำเดือนมกราคม ๒๕๕๙ ของคณะกรรมการกำกับดูแลการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวไร่อ้อยในฤดูการผลิตปี ๒๕๕๗/๒๕๕๘ โดย ณ วันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๘ สำนักงานกองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายแจ้งให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรโอนเงินเพิ่มราคาอ้อยขั้นต้น ฤดูการผลิตปี ๒๕๕๗/๒๕๕๘ เข้าบัญชีชาวไร่อ้อยที่เป็นคู่สัญญาและมีสิทธิได้รับเงินเพิ่มราคาอ้อยขั้นต้น ๑๖๐ บาท/ตัน ตั้งแต่วันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๘ จนถึงขณะนี้ รวม ๑๐ งวด คิดเป็นปริมาณอ้อย ๑๐๕,๘๙๕,๓๘๖.๒๑๕ ตัน เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น ๑๖,๙๔๓,๒๑๖,๗๙๔.๔๐ บาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๙๙.๙๔ ของวงเงินที่จะต้องจ่ายทั้งหมด ส่วนปริมาณอ้อยที่เหลือ จำนวน ๖๓,๖๙๓.๒๓๐ ตัน เป็นเงิน ๑๐,๑๙๐,๙๑๖.๘๐ บาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๐.๐๖ อยู่ระหว่างดำเนินการ โดยชาวไร่อ้อยโอนเงินไม่ผ่านเนื่องจากบัญชีไม่เคลื่อนไหว/ปิดบัญชี/ผิดบัญชี เป็นเงิน ๖,๗๑๖,๓๗๖ บาท และอยู่ระหว่างการตรวจสอบรวบรวมข้อมูล ๓,๔๗๔,๕๔๐.๘๐ บาท
|
||||||||||||||||||
21385 | ภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เดือนธันวาคม 2558 | อก | 08/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เดือนธันวาคม ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมเดือนธันวาคม ๒๕๕๘ เปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ดัชนีผลผลิตขยายตัวร้อยละ ๑.๓๓ อุตสาหกรรมสำคัญที่ขยายตัว เช่น ผลิตภัณฑ์พลาสติก เครื่องประดับ น้ำมันประกอบอาหาร การนำเข้าเครื่องจักรอุตสาหกรรมและเครื่องมือกล มีมูลค่า ๙๙๔.๓ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ ๑.๙ การนำเข้าสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (ไม่รวมทองคำ) มีมูลค่า ๕,๑๐๔.๓ ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวร้อยละ ๑๕.๗ การใช้ไฟฟ้าของภาคอุตสาหกรรมการผลิต มีปริมาณทั้งหมดจำนวน ๙,๖๙๕.๓ ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง เพิ่มขึ้นร้อยละ ๕.๘ ภาวะการประกอบกิจการโรงงาน มีโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการมากกว่าร้อยละ ๐.๒๘ มีการจ้างงานรวมลดลงร้อยละ ๑๔.๔๓ และมียอดเงินลงทุนรวมลดลงร้อยละ ๒๘.๐๕ ภาวะการเลิกกิจการของโรงงาน มีโรงงานที่ปิดดำเนินกิจการมากกว่าร้อยละ ๑๑๕.๖๙ ส่วนภาวะการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนในปี ๒๕๕๘ มีจำนวนโครงการที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนทั้งสิ้น ๑,๐๓๘ โครงการ ลดลงร้อยละ ๖๗.๕๓ และมีเงินลงทุน ๒๑๘,๑๒๐ ล้านบาท ลดลงร้อยละ ๘๘.๘๕ ประเภทกิจการที่ขอรับการส่งเสริมมากที่สุด คือ หมวดบริการ และสาธารณูปโภค มีมูลค่าเงินลงทุนรวม ๑๑๘,๔๑๐ ล้านบาท ๒. ภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมของไทยเดือนธันวาคม ๒๕๕๘ เปรียบเทียบกับประเทศสำคัญในเอเชีย การผลิตในภาคอุตสาหกรรมไทยเมื่อพิจารณาจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (Manufacturing Production Index : MPI) เพิ่มขึ้นหรือขยายตัวร้อยละ ๑.๓ อุตสาหกรรมสำคัญที่ส่งผลให้การผลิตเพิ่มขึ้น เช่น ผลิตภัณฑ์พลาสติก เครื่องประดับเพชรพลอย น้ำมันประกอบอาหาร การผลิตในภาคอุตสาหกรรม
|
||||||||||||||||||
21386 | การขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลในเรื่อง ความคืบหน้าการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ การติดตามการแก้ไขปัญหาราคายางพารา และความคืบหน้าการบริหารจัดการน้ำ | นร | 08/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบตามที่คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) สรุปรายงานการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ในการประชุม กขร. ครั้งที่ ๑/๒๕๕๙ เมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๙ โดยมีเรื่องสำคัญ ๓ เรื่อง ได้แก่ ความคืบหน้าการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ การติดตามการแก้ไขปัญหาราคายางพารา และความคืบหน้าการบริหารจัดการน้ำ ๒. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามความเห็นของ กขร. ดังนี้ ๒.๑ มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดทำรายงานการประเมินผลการดำเนินงานตามตัวชี้วัดการดำเนินการส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ ได้แก่ (๑) ต้นทุนการผลิตลดลง (๒) ผลผลิตต่อหน่วยหรือไร่เพิ่มขึ้น (๓) สินค้ามีระบบมาตรฐาน/คุณภาพปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น (๔) เทคโนโลยีการเกษตรเปลี่ยนแปลงดีขึ้น และ (๕) มีตลาดรองรับ (PPP CSR Social Business/Enterprise) โดยรายงานให้ กขร. ทราบผลการประเมินในอีก ๖ เดือนถัดไป (เดือนกรกฎาคม ๒๕๕๙) ๒.๒ การดำเนินการตามแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางโดยยกระดับราคายางพาราเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องพิจารณาดำเนินการโดยรอบคอบในทุกมิติ และต้องใช้เวลาในการดำเนินการมาก จึงเห็นควรให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องติดตามและประเมินผลการดำเนินการ และรายงานให้ กขร. ทราบต่อไป ๒.๓ สถานการณ์ภัยแล้ง และโครงการต่าง ๆ ที่ส่วนราชการดำเนินการเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ จึงเห็นควรให้โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและโฆษกกระทรวงได้เร่งประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้และทำความเข้าใจกับประชาชนและผู้ใช้น้ำทุกภาคส่วนอย่างเข้มข้นเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำ มาตรการป้องกันและการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล เพื่อให้การใช้น้ำที่มีอยู่อย่างจำกัดเป็นไปตามแผนที่ได้กำหนดไว้เพื่อให้เพียงพอต่อการบริโภค อุปโภค และรักษาระบบนิเวศน์ ๓. นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการเพิ่มเติมว่า “ให้แถลงรายละเอียดพื้นที่ที่กำลังเดือดร้อนหรือจะเดือดร้อน ให้นำมาตรการที่รัฐบาลได้อนุมัติไปแล้วดำเนินการในพื้นที่อย่างเร่งด่วน ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงมหาดไทยบริหารในพื้นที่โดยด่วน” |
||||||||||||||||||
21387 | ขอเพิ่มองค์ประกอบในคณะกรรมการพัฒนาการค้าระหว่างประเทศ [ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัฒนาการค้าระหว่างประเทศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....] | พณ | 08/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัฒนาการค้าระหว่างประเทศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการพัฒนาการค้าระหว่างประเทศ (พกค.) เพื่อให้การขับเคลื่อนของ พกค. เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
21388 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลดอกคำใต้ ตำบลจำป่าหวาย ตำบลแม่นาเรือ ตำบลแม่ใส อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา พ.ศ. .... | คค | 08/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลดอกคำใต้ ตำบลจำป่าหวาย ตำบลแม่นาเรือ ตำบลแม่ใส อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลดอกคำใต้ ตำบลจำป่าหวาย ตำบลแม่นาเรือ ตำบลแม่ใส อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา เพื่อสร้างทางหลวงชนบทสายเชื่อมต่อระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๒๑ กับทางหลวงแผ่นดินหายเลข ๑๑๙๓ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
21389 | ร่างพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. .... | นร07 | 08/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณถอนร่างพระราชบัญญัติการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. .... เพื่อนำกลับไปพิจารณาทบทวนร่วมกัน ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีรายงาน
|
||||||||||||||||||
21390 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง แนวทางปฏิรูปการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในภาคอุตสาหกรรม) | อก | 08/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการพิจารณาเกี่ยวกับข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ (เรื่อง แนวทางปฏิรูปการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในภาคอุตสาหกรรม) ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ รวม ๕ ข้อ ได้แก่ (๑) ตรวจสอบมลพิษที่วัตถุดิบและเก็บภาษีมลพิษที่วัตถุดิบและของเสียที่เกิดจากกระบวนการผลิตของภาคอุตสาหกรรม (๒) การมอบอำนาจการอนุญาตกรณีต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการประกอบกิจการโรงงานให้แก่จังหวัดนั้น ๆ เป็นผู้อนุญาตโดยอยู่ในรูปของคณะกรรมการ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของรัฐและภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการอนุญาตให้ประกอบกิจการโรงงานตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ (๓) เปลี่ยนการอนุญาตตามพระราชบัญญัติจดทะเบียนเครื่องจักร พ.ศ. ๒๕๑๔ ในการแปลงสินทรัพย์ให้เป็นทุน ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของอุตสาหกรรมจังหวัด (๔) เปลี่ยนการอนุญาตให้ขนขยะอุตสาหกรรมภายในจังหวัด ตลอดจนอนุญาตให้มีและครอบครองวัตถุอันตรายตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. ๒๕๓๕ ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของอุตสาหกรรมจังหวัด และ (๕) เสนอให้ปรับผังองค์กรของกรมโรงงานอุตสาหกรรมตามรูปแบบใหม่ คือ ปรับกระบวนการให้ใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานตามสภาวะสิ่งแวดล้อมของการดำเนินการ โดยเพิ่มบุคลากรเจ้าหน้าที่ให้เหมาะสมกับภาระงาน และมุ่งเน้นให้บริการส่งเสริมและลดปัญหาการเกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนความปลอดภัยในการทำงาน ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นด้วยกับผลการพิจารณาข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปฯ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งรายงานผลการพิจารณาของกระทรวงอุตสาหกรรมให้คณะกรรมการประสานงาน รวม ๓ ฝ่าย (คณะรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ) เพื่อพิจารณาความสอดคล้องและความเหมาะสมกับการปฏิรูปประเทศต่อไป และแจ้งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะฝ่ายเลขานุการร่วมคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
||||||||||||||||||
21391 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เรื่อง กำหนดให้โรงงานติดตั้งระบบรายงานแสดงผลการตรวจวัดคุณภาพน้ำทิ้งหรือคุณภาพอากาศจากปล่องต่อสาธารณะ | อก | 08/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการพิจารณาตามข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เรื่อง กำหนดให้โรงงานติดตั้งระบบรายงานแสดงผลการตรวจวัดคุณภาพน้ำทิ้งหรือคุณภาพอากาศจากปล่องต่อสาธารณะ ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมเห็นด้วยในหลักการให้ติดตั้งระบบรายงานแสดงผลฯ และมีข้อเสนอเป็น ๒ แนวทางคือ (๑) การให้หน่วยงานภาครัฐที่เป็นหน่วยงานกำกับดูแลการระบายมลพิษเป็นผู้ติดตั้ง และ (๒) การให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานที่ระบายมลพิษเป็นผู้ติดตั้ง โดยะทั้ง ๒ แนวทางดังกล่าวควรจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสีย ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมได้ประชุมร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียภาคอุตสาหกรรมแล้วเห็นด้วยในหลักการติดตั้งระบบรายงานแสดงผลฯ ส่วนการดำเนินการติดตั้งให้หน่วยงานภาครัฐที่เป็นหน่วยงานกำกับดูแลการระบายมลพิษเป็นผู้ติดตั้ง และพื้นที่ติดตั้งควรเป็นพื้นที่แหล่งชุมชน หรือในเขตพื้นที่อุตสาหกรรมหนาแน่น หรือพื้นที่ที่มีความอ่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมหรือมีเหตุร้องเรียนเรื้อรัง รวมทั้งต้องมีการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของภาคประชาชนอีกครั้งหนึ่ง ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพลังงาน และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเกี่ยวกับการกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำของระบบรายงานแสดงผลฯ หลักเกณฑ์การติดตั้ง ระยะเวลาการรายงานข้อมูล ระยะเวลาการแก้ไขเครื่องมือ/อุปกรณ์กรณีมีการชำรุด รวมทั้งสร้างระบบการเชื่อมโยงข้อมูลจากระบบรายงานแสดงผลฯ ไปยังหน่วยงานกำกับดูแลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเฝ้าระวังปัญหามลพิษจากโรงงาน เป็นต้น ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งรายงานผลการพิจารณาดังกล่าวของกระทรวงอุตสาหกรรมให้คณะกรรมการประสานงาน รวม ๓ ฝ่าย (คณะรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ) เพื่อพิจารณาความสอดคล้องและความเหมาะสมกับการปฏิรูปประเทศต่อไป และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะฝ่ายเลขานุการร่วมคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
||||||||||||||||||
21392 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง การกำกับดูแลสื่อ สิทธิเสรีภาพสื่อบนความรับผิดชอบ และการป้องกันการแทรกแซงสื่อ และร่างพระราชบัญญัติการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. ....) | นร | 08/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการพิจารณาตามข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ (เรื่อง การกำกับดูแลสื่อ สิทธิเสรีภาพสื่อบนความรับผิดชอบ และการป้องกันการแทรกแซงสื่อ และร่างพระราชบัญญัติการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. .... ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแล้วเห็นด้วยในหลักการตามข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปฯ โดยมีข้อสังเกตเกี่ยวกับสื่อออนไลน์ที่อาจเกิดปัญหาในทางปฏิบัติว่าจะควบคุม จัดระเบียบ หรือบริหารจัดการผู้สื่อหรือผู้ส่งสารในโลกออนไลน์ได้อย่างไร และภาครัฐควรสนับสนุนการสร้างกลไกภาคประชาชนให้ตระหนักถึงสิทธิของประชาชนในการตรวจสอบสื่ออีกทางหนึ่งเพื่อให้สื่อมีคุณภาพและรับผิดชอบต่อสังคม รวมทั้งความเห็นเรื่องการสร้างวาทกรรมความเกลียดชัง หรือ Hate Speech ควรมีการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนากฎหมายและกำหนดหน่วยงานหลักเพื่อกำกับดูแลการสร้างวาทกรรมดังกล่าว ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี (กรมประชาสัมพันธ์) เสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งรายงานผลการพิจารณาของสำนักนายกรัฐมนตรี (กรมประชาสัมพันธ์) ให้คณะกรรมการประสานงาน รวม ๓ ฝ่าย (คณะรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ) เพื่อพิจารณาความสอดคล้องและความเหมาะสมกับการปฏิรูปประเทศต่อไป และแจ้งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการร่วมคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
||||||||||||||||||
21393 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย [เรื่อง การเป็นศูนย์กลางอาเซียน (ASEAN Hub)] | นร11 | 08/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการพิจารณาตามข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ เรื่อง การเป็นศูนย์กลางของอาเซียน (ASEAN Hub) ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นชอบตามข้อเสนอแนะดังกล่าว ยกเว้นประเด็นการจัดตั้งคณะกรรมการอาเซียนด้านเศรษฐกิจที่มีอำนาจหน้าที่ซ้ำซ้อนกับคณะอนุกรรมการศูนย์อำนวยการเตรียมความพร้อมประเทศไทยในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนที่มีอยู่เดิม โดยได้มีความเห็นเพิ่มเติม เช่น เห็นควรให้มีการจัดทำยุทธศาสตร์รายอุตสาหกรรมระยะยาว ส่วนที่มีแผนยุทธศาสตร์พัฒนารองรับอยู่แล้วควรเพิ่มเติมประเด็นการเชื่อมโยงในอาเซียนให้มากขึ้นและการใช้ประโยชน์จากกลไกคณะกรรมการที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน การบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านนโยบายระหว่างประเทศทั้งในและต่างประเทศ ควรศึกษารายละเอียดและกำหนดกรอบการศึกษาให้ชัดเจนและเป็นปัจจุบันในประเด็นการตั้งระบบเครือข่ายพันธมิตรทางอากาศร่วมกัน การศึกษาการขนส่งในภูมิภาคเพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงทั้งระบบ การตั้งศูนย์ความเชื่อมโยงอาเซียนที่ดำเนินการโดยภาคเอกชน และการจัดทำแผนระยะยาวเพื่อสนับสนุนการร่วมทุนในอุตสาหกรรมการบินในอาเซียน ก่อนที่จะดำเนินการต่อไป เป็นต้น ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรรวบรวมข้อคิดเห็นและประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน เพื่อกำหนดแผนทั้งในระยะสั้นและระยะยาวในเชิงบูรณาการ รวมทั้งการจัดทำงบประมาณในลักษณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อให้เกิดเป้าหมายการทำงานร่วมกันอย่างมีเอกภาพและมีเป้าหมายที่ชัดเจน ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๓. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งรายงานผลการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติให้คณะกรรมการประสานงาน รวม ๓ ฝ่าย (คณะรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ) เพื่อพิจารณาความสอดคล้องและความเหมาะสมกับการปฏิรูปประเทศต่อไป และแจ้งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการร่วมคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
||||||||||||||||||
21394 | รายงานผลการพิจารณาข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 [เรื่อง การปฏิรูประบบการจัดการศึกษา การปฏิรูประบบการคลังด้านการศึกษา (ด้านอุปสงค์) การปฏิรูประบบการเรียนรู้ และร่างพระราชบัญญัติคณะกรรมการ นโยบายการศึกษาและพัฒนามนุษย์แห่งชาติ พ.ศ. ....] | ศธ | 08/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการพิจารณาตามข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ [เรื่อง การปฏิรูประบบการจัดการศึกษา การปฏิรูประบบการคลังด้านการศึกษา (ด้านอุปสงค์) การปฏิรูประบบการเรียนรู้ และร่างพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายการศึกษาและพัฒนามนุษย์แห่งชาติ พ.ศ. ....] ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความเห็นว่า การขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาจำเป็นต้องมีการกำหนดแผนและขั้นตอนการเปลี่ยนผ่าน (Transition Period) ของการปฏิรูปจากระบบที่เป็นอยู่เดิมไปสู่ระบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากกว่า โดยดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป รวมทั้งการเตรียมความพร้อมของบุคลากรเพื่อรองรับบทบาทอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของหน่วยงานต่าง ๆ ระหว่างผู้กำหนดนโยบาย แผน มาตรฐาน (Policy Maker) ผู้กำกับการจัดการศึกษา (Regulator) ผู้ส่งเสริมสนับสนุน (Promoter) และผู้จัดการศึกษา (Service Provider) ภายใต้หลักการของการกระจายอำนาจและความรับผิดชอบที่ตรวจสอบได้ ผ่านการกำกับ ภายใต้กฎ กติกาอย่างเป็นธรรม รวมทั้งการตรวจสอบการประกันคุณภาพภายใน การประเมินคุณภาพภายนอก และการติดตามและประเมินผลที่บูรณาการและเชื่อมโยงอย่างเป็นระบบ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งรายงานผลการพิจารณาของกระทรวงศึกษาธิการให้คณะกรรมการประสานงาน รวม ๓ ฝ่าย (คณะรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ) เพื่อพิจารณาความสอดคล้องและความเหมาะสมกับการปฏิรูปประเทศต่อไป และแจ้งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการร่วมคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
||||||||||||||||||
21395 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการก่อสร้างอาคารศูนย์เรียนรวมมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี | ศธ | 08/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการก่อสร้างอาคารศูนย์เรียนรวม มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี จังหวัดจันทบุรี จากวงเงินเดิม ๒๑๐,๐๐๐,๐๐๐ ล้านบาท เป็น ๒๑๒,๑๐๐,๐๐๐ ล้านบาท ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ๒. สำหรับงบประมาณในการดำเนินการให้เบิกจ่ายจากเงินงบประมาณ จำนวน ๒๐๑,๔๙๕,๐๐๐ บาท และใช้เงินนอกงบประมาณสมทบ จำนวน ๑๐,๖๐๕,๐๐๐ บาท ในส่วนของเงินงบประมาณให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ที่กระทรวงการคลังได้อนุมัติให้ขยายเวลาเบิกจ่ายเงินที่กันไว้เบิกเหลื่อมปีแล้ว จำนวน ๓๘,๐๐๐,๐๐๐ บาท ส่วนที่ขาดอีกจำนวน ๑๖๓,๔๙๕,๐๐๐ บาท ให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๓. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เห็นควรให้มีการกำกับ ติดตามการดำเนินงานให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดอย่างเคร่งครัดเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากอาคารศูนย์เรียนรวมได้ตามวัตถุประสงค์ทั้งใช้ในการจัดการเรียนการสอน การฝึกอบรม การบริการทางวิชาการ และเผยแพร่ความรู้ รวมทั้งเป็นห้องสำหรับใช้ประโยชน์อื่น ๆ แก่นักศึกษา บุคลากรของมหาวิทยาลัย และบุคคลทั่วไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการดำเนินการทุกขั้นตอนจะต้องมีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||
21396 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเรื่องการปรับและกำหนดเขตอาณาของสถานเอกอัครราชทูตและกำหนดเขตกงสุลของสถานกงสุลใหญ่ในต่างประเทศ (กระทรวงการต่างประเทศ) | กต | 08/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ เฉพาะในส่วนที่อนุมัติ “ให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เครือรัฐออสเตรเลีย มีเขตอาณาครอบคลุมราชอาณาจักรตองกา แทนสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวลลิงตัน นิวซีแลนด์” โดยเพิ่มเติมข้อความเป็น “ให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เครือรัฐออสเตรเลีย มีเขตอาณาครอบคลุมราชอาณาจักรตองกา แทนสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวลลิงตัน นิวซีแลนด์ โดยมีผลบังคับใช้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงผู้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำนิวซีแลนด์คนใหม่” เนื่องจาก นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำนิวซีแลนด์คนปัจจุบันได้ยื่นพระราชสาส์นต่อพระประมุขแห่งราชอาณาจักรตองกา เป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำราชอาณาจักรตองกา เมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ แล้ว
|
||||||||||||||||||
21397 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (สำนักนายกรัฐมนตรี) (นายธวัชชัย ฤทธากรณ์) | นร06 | 08/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายธวัชชัย ฤทธากรณ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการดำเนินงานข่าวกรองในต่างประเทศ (นักการข่าวทรงคุณวุฒิ) กลุ่มงานที่ปรึกษา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักข่าวกรองแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||
21398 | การแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ กรุงกัมปาลา สาธารณรัฐยูกันดา (กระทรวงการต่างประเทศ) [นางบาร์บารา โซโลม มุลวานา (Ms. Barbara Solome Mulwana)] | กต | 08/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางบาร์บารา โซโลม มุลวานา (Mr. Barbara Solome Mulwana) เป็นกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ กรุงกัมปาลา สาธารณรัฐยูกันดา แทน นายเจมส์ มุลวานา (Mr. James Mulwana) กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ กรุงกัมปาลา สาธารณรัฐยูกันดา ซึ่งถึงแก่กรรม ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||
21399 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย) | คค | 08/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้บรรดาพนักงาน ลูกจ้าง ของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย และพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. ๒๔๙๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยแต่งตั้งและปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิด พ.ศ. ๒๕๓๙ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
21400 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พุทธศักราช 2479 | ยธ | 08/03/2559 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ถอนร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พุทธศักราช ๒๔๗๙ เพื่อนำกลับไปพิจารณาทบทวนอีกครั้งหนึ่ง ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
.....