คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการต่าง ๆ รวม 10 คณะ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรม
เสนอ ดังนี้
              1. คณะกรรมการประสานงานแห่งชาติเพื่อการปฏิบัติให้เป็นไปตามอนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี
              2. คณะกรรมการพิจารณาการตั้งโรงงานแปรรูปไม้ตามมติคณะรัฐมนตรี
              3. คณะกรรมการชำระบัญชี โรงงานน้ำตาล กรมโรงงานอุตสาหกรรม
              4. คณะกรรมการกำหนดแหล่งหินสำหรับการทำเหมืองหินอุตสาหกรรม
              5. คณะกรรมการกำหนดแหล่งหินสำหรับการทำเหมืองหินอุตสาหกรรมระดับจังหวัด
              6. คณะกรรมการดัชนีอุตสาหกรรม
              7. คณะกรรมการว่าด้วยอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า
              8. คณะกรรมการพิจารณาสินค้าที่ผลิตในประเทศ
              9. คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการจดทะเบียนบุคลากร หลักสูตรและองค์กรฝึกอบรมด้าน
                  การมาตรฐาน
           10. คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยมาตรฐานเทคนิคทางไฟฟ้าระหว่างประเทศ (กมฟท.)

              คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
              1. อนุมัติให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กู้เงินเพื่อชำระหนี้ค่าน้ำมันพร้อมดอกเบี้ยและหนี้
ค่าเหมาซ่อมพร้อมดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นจริงในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 (กุมภาพันธ์ -กันยายน 2551) รวมวงเงิน
ทั้งสิ้นไม่เกิน 4,192.711 ล้านบาท  โดยกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้  ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
ทั้งนี้ ให้กระทรวงคมนาคม (ขสมก.) ประสานกระทรวงการคลัง เพื่อตรวจสอบข้อกฎหมายกรณีการคิดดอกเบี้ย
ค้างชำระในอัตราทบต้นเพื่อดำเนินการให้ถูกต้องต่อไปด้วย
               2. ให้กระทรวงคมนาคม (ขสมก.) รับความเห็นของกระทรวงการคลัง  และสำนักงานคณะกรรมการ
พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ให้  ขสมก.  เร่งรัดปรับปรุงโครงสร้างองค์กร  การบริหารจัดการ และ
การบริการของระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน  และลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ  ตาม
นัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่  2  กันยายน  2551 (เรื่อง ผลการประชุมคณะกรรมการพิเศษระดับรัฐมนตรี และ
เรื่อง แผนปรับปรุงการบริหารจัดการและการบริการของระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ) ไปเร่งรัดการดำเนินการ
ให้แล้วเสร็จโดยเร็วเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตปฏิรูปที่ดินในที่จำแนกออกจากป่าไม้
ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี  ในท้องที่จังหวัดตรัง  จำนวน  4  ฉบับ  ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ
พิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
              1. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน  ในท้องที่ตำบลโคกสะบ้า  อำเภอนาโยง  และตำบลเกาะ
เปียะ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ....
              2. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโพรงจระเข้  ตำบลในควน  อำเภอย่านตา
ขาว และตำบลปะเหลียน อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ....
              3. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบ้านนา ตำบลสุโสะ อำเภอปะเหลียน และ
ตำบลบ้าหวี ตำบลหาดสำราญ  กิ่งอำเภอหาดสำราญ  อำเภอปะเหลียน  จังหวัดตรัง  ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน
พ.ศ. ....
              4. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน  ในท้องที่ตำบลทุ่งยาว  และตำบลลิพัง  อำเภอปะเหลียน
จังหวัดตรัง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ....

                คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้รับเรื่องแต่งตั้งนายเปี่ยมศักดิ์ มิลินทจินดา เอกอัครราชทูต (นักบริหารการ
ทูตระดับสูง) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบูดาเปสต์ สาธารณรัฐฮังการี ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวร
แห่งประเทศไทยประจำอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย คืน  และยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
28 มกราคม 2552 (เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เบิกจ่าย
ค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในอัตราที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 2,500
บาท/คน/เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2551 ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่  11  พฤศจิกายน  2551 (เรื่อง
การจ่ายเงินค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้) โดยเบิกจ่ายจากเงิน
งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552  งบกลาง  รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
วงเงิน 1,186,002,000 บาท  และให้ กอ.รมน.  และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ
ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2548 ต่อไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) เร่งรัดการดำเนินการเกี่ยว
กับการแก้ไขปัญหาภัยแล้งตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2552 (เรื่อง การให้ความช่วยเหลือภัยหนาว
และการเตรียมการป้องกัน และแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปี 2552) และนำเสนอคณะรัฐมนตรีโดยเร็วต่อไป  ตามที่นายก
รัฐมนตรีเสนอ

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2550 (เรื่อง
แนวทางพิจารณาการก่อสร้างถนนในพื้นที่อุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า) ต่อไป โดยหากกระทรวง
คมนาคมมีความจำเป็นต้องก่อสร้างถนนในพื้นที่อุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ให้ดำเนินการควบคู่
ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และเสนอขอผ่อนผันการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวตามความจำเป็นเป็น
กรณี ๆ ไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา
ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดป้องกันการใช้สารระเหย  พ.ศ. 2533  (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....  ตามที่
กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้แจ้งสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป โดยมีผลการดำเนินการดังนี้
            1. จัดทำกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดลักษณะ  ชนิด  ประเภท  และปริมาณของยาเสพติด  (ฉบับที่ 2)
พ.ศ. 2551 เพื่อรองรับตามบทบัญญัติในมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดป้องกันการ
ใช้สารระเหย พ.ศ. 2533 (ฉบับที่ 3)  พ.ศ. 2550  ซึ่งกำหนดให้ยกเลิกบทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการบังคับ
รักษา  เพื่อให้ผู้เสพสารระเหยเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายและจิตใจ  ทั้งนี้  ร่างกฎ
กระทรวง ฯ มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2551
             2. คณะกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดได้ออกระเบียบคณะกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยา
เสพติดว่าด้วยการตรวจพิสูจน์  การฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด   การควบคุม   และการปฏิบัติต่อผู้เข้ารับการ
ตรวจพิสูจน์และผู้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 โดยกำหนดรายละเอียดเกี่ยว
กับวงเงินประกันในการปล่อยชั่วคราวผู้เสพสารระเหย  ทั้งนี้  ระเบียบ ฯ  มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม
2551
              3. คณะอนุกรรมการบูรณาการกระบวนการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดได้แต่งตั้ง
คณะทำงานเตรียมการนำผู้ป่วยสารระเหยเข้าบังคับบำบัดรักษา จำนวน 2 คณะ และจัดประชุมคณะกรรมการฟื้น
ฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด เพื่อมอบหมายบทบาทภารกิจในการรองรับผู้เสพติด/ผู้ติดสารระเหยของหน่วยงาน
พหุภาคีที่เกี่ยวข้องเพื่อแจ้งหน่วยปฏิบัติในพื้นที่

คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
             1. รับทราบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีรายงานผลการดำเนินการของส่วนราชการต่าง ๆ ตาม
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2552 และวันที่ 28 มกราคม 2552  เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาและการสนับ
สนุนส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่มอบหมายให้หน่วยงานรับไปดำเนินการออกกฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง และให้
ส่วนราชการเร่งรัดการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีที่มอบหมายให้ไปดำเนินการ สรุปได้ดังนี้
                  1.1 การยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวทุกประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยเป็นเวลา
3 เดือน กระทรวงมหาดไทย ได้ออกประกาศกระทรวงมหาดไทย  เรื่อง  การยกเว้นค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา
ประเภทนักท่องเที่ยวแก่คนต่างด้าวเป็นการชั่วคราว ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2552
                  1.2 การยกเว้นค่าธรรมเนียมการประกอบธุรกิจโรงแรม ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งรัดดำเนินการโดย
เร่งด่วนต่อไป
                  1.3 การลดหย่อนค่าประกันการใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม  ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิ
ภาค ได้อนุมัติในหลักการของการกำหนดมาตรการผ่อนผันการเรียกเก็บค่าประกันการใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ และได้มี
บันทึกแจ้งให้การไฟฟ้าเขตทุกแห่งรับทราบและถือปฏิบัติต่อไป
                  1.4 การลดหย่อนค่าธรรมเนียมการขึ้นลงของอากาศยานและที่เก็บอากาศยาน (Landing & Parking
Fee) คณะกรรมการบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)  (ทอท.)  ได้อนุมัติมาตรการเพื่อส่งเสริมการท่อง
เที่ยวของไทยและช่วยเหลือผู้ประกอบการสายการบิน โดยลดอัตราค่าธรรมเนียมในการขึ้น-ลงของอากาศยานใน
อัตราร้อยละ 20  และยกเว้นค่าธรรมเนียมที่เก็บอากาศยานสำหรับอากาศยานที่จอดไม่เกิน 24 ชั่วโมงให้แก่เที่ยว
บินแบบประจำที่ทำการบิน ณ ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ทอท. เป็นเวลา 8 เดือน
                  1.5 การลดหย่อนค่าธรรมเนียมเข้าชมอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้
ออกประกาศกรมอุทยาน ฯ  เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2552  เรื่อง การลดอัตราค่าบริการสำหรับบุคคลที่เข้าไปใน
เขตอุทยานแห่งชาติ  โดยลดอัตราค่าบริการเหลือครึ่งราคาจากอัตราที่ประกาศไว้เดิม  ตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์-
15 พฤษภาคม 2552
                   1.6 มาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นธุรกิจการท่องเที่ยว  ขณะนี้ (ร่าง) พระราชกฤษฎีกาออกตามความใน
ประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 482) พ.ศ. 2552 อยู่ระหว่างทูลเกล้า ฯ ถวายเพื่อทรงลงพระ
ปรมาภิไธย
                   1.7 มาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการปิดสนามบินในอนาคต โดยในส่วนของร่างพระราชบัญญัติว่า
ด้วยความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  พ.ศ. ....  อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณา
ของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
                   1.8 การสลับหรือเลื่อนวันหยุดนักขัตฤกษ์ต่าง  ๆ   ให้ต่อเนื่องกับวันหยุดเสาร์  อาทิตย์  เพื่อให้มีวัน
หยุดต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น  โดยกำหนดให้วันจันทร์ที่  6
กรกฎาคม 2552 เป็นวันหยุดราชการเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษเพื่อส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาและการท่องเที่ยว
ส่วนรัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน และภาคเอกชน ให้รัฐวิสาหกิจแต่ละแห่ง  ธนาคารแห่งประเทศไทย  และกระทรวง
แรงงานรับไปพิจารณาตามความเหมาะสมให้สอดคล้องกับข้อกฎหมายต่อไป
                2. ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวและให้
เสนอคณะรัฐมนตรีทราบทุก 1 เดือน

              คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
              1. อนุมัติให้ถอนเรื่องการแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย (นายวิชัย ศรีขวัญ)
คืนไปได้ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
              2. ให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2552 (เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการ)

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
               1. ให้ประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม ที่ได้รับการแต่งตั้งตาม
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2551 และวันที่ 27 พฤษภาคม 2551 จำนวน 15 คน  พ้นจากตำแหน่ง
               2. แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม ชุดใหม่ จำนวน 11
คน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ
               3. ให้คณะกรรมการองค์การเภสัชกรรมชุดใหม่มีจำนวนเกินกว่า 11 คน แต่ไม่เกิน 15 คน ตามมาตรา
6 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2518 ซึ่งแก้
ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ฉบับที่ 56 ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2534
               4. สำหรับประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม   มีดังนี้  นายวิชัย
โชควิวัฒน เป็นประธานกรรมการ ส่วนกรรมการ  ประกอบด้วย  นายชูชัย ศุภวงศ์  นายไพจิตร์ วราชิต  นายเรวัต
วิศรุตเวช นายบุญมา เตชะวณิช  นายบุญจง ชูชัยแสงรัตน์  นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์  นายณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา
นายอนุชาติ คงมาลัย นายสุทธิชัย เอี่ยมเจริญยิ่ง  และ นาย ช.นันท์ เพ็ชญไพศิษฏ์ ผู้แทนกระทรวงการคลัง  ทั้งนี้
ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ (3 มีนาคม 2552) ยกเว้นนายอนุชาติ คงมาลัย ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะ
กรรมการอัยการอนุมัติแต่ไม่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ

              คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
              1. ให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่  20  มกราคม  2552 (เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือน
สามัญตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง)
              2. อนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวง
เกษตรและสหกรณ์ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน  2  ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณา
โปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ดังนี้
                  2.1 นายชลิต ดำรงศักดิ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมชลประทาน
                  2.2 นายเฉลิมพร  พิรุณสาร  ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง  สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตร
และสหกรณ์

              คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
              1. ให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่  20  มกราคม  2552  (เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือน
สามัญ ประเภทบริหารระดับสูง)
              2. อนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน  6  ราย
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ดังนี้
                  2.1 นายเกษมสันต์ จิณณวาโส          ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า
                                                                    และพันธุ์พืช
                  2.2 นายอุภัย วายุพัฒน์                  ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัด
                                                                    กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
                  2.3 นางนิศากร โฆษิตรัตน์              ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ  สำนักงานนโยบายและแผน
                                                                    ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
                  2.4 นายวิเชียร จุ่งรุ่งเรือง                ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัด
                                                                    กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
                  2.5 นายอดิศักดิ์ ทองไข่มุกต์            ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมทรัพยากรธรณี
                  2.6 นายปรีชา จันทร์ศิริตานนท์       ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงาน
                                                                    ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

              คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
              1. ให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2552 (เรื่อง ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือน
สามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง) 
              2. อนุมัติตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ให้ดำรงตำแหน่งประเภทผู้บริหารระดับสูง จำนวน 2 ราย
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ดังนี้
                  2.1 นายวรพัฒน์  ทิวถนอม  ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง  สำนักงานปลัดกระทรวงเทค
โนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
                  2.2 นายธานีรัตน์  ศิริปะชะนะ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโล
ยีสารสนเทศและการสื่อสาร

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้แก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2552  (เรื่อง ผลการประชุม
คณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ  ครั้งที่  3/2552)  โดยแก้ไขรายละเอียดผลการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรี
เศรษฐกิจ ครั้งที่ 3/2552 ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ดังนี้
              1. ข้อ 3.2.1  แก้ไขจาก ...หน่วยงานต่าง ๆ ควรบูรณาการการจัดงานมหกรรมดังกล่าว  โดยช่วงเวลาที่
เหมาะสมควรจะเป็นประมาณปลายเดือนมีนาคม  2552...  เป็น  ...หน่วยงานต่าง  ๆ   ควรบูรณาการการจัดงาน
มหกรรมดังกล่าว ยกเว้นกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งมิได้มีเป้าหมายกระตุ้นการลงทุนแต่กระตุ้นรายได้เข้า
ประเทศและกระตุ้นนักท่องเที่ยวให้เพิ่มขึ้นโดยช่วงเวลาที่เหมาะสมควรจะเป็นประมาณปลายเดือนมีนาคม 2552...
              2. ข้อ 3.3 แก้ไขจาก ...กระทรวงที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงการคลัง  กระทรวงอุตสาหกรรม  กระทรวง
แรงงาน และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเพื่อให้การดำเนินงานของกระทรวงดังกล่าว... เป็น ...กระทรวงที่เกี่ยว
ข้อง  ได้แก่  กระทรวงการคลัง  กระทรวงอุตสาหกรรม  กระทรวงแรงงาน  เพื่อให้การดำเนินงานของกระทรวงดัง
กล่าว...

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
             1. การแก้ไขปัญหานมในภาพรวมทั้งระบบ  มอบให้รองนายกรัฐมนตรี  (นายกอร์ปศักดิ์  สภาวสุ)  รับไป
ดำเนินการแก้ไขปัญหานมตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2552, วันที่  3  กุมภาพันธ์  2552  และวันที่
17  กุมภาพันธ์  2552   โดยให้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  เช่น  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  กระทรวง
พาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ เป็นต้น เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และนำ
เสนอคณะรัฐมนตรีโดยเร็วต่อไป
             2. การตรวจสอบปัญหาการทุจริตนมโรงเรียน มอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการรับไปพิจารณา
ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข
เป็นต้น เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงของปัญหาการทุจริตในการจัดซื้อจัดหานมโรงเรียนของสถานศึกษาต่าง ๆ  และนำ
เสนอคณะรัฐมนตรีโดยเร็วต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
              1. อนุมัติให้ถอนเรื่อง สั่งให้ข้าราชการมาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี คืนไปได้ ตามที่
กระทรวงมหาดไทยเสนอ
              2. ให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่  20  มกราคม  2552 (เรื่อง สั่งให้ข้าราชการมาปฏิบัติ
ราชการสำนักนายกรัฐมนตรี)

              คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
              1. อนุมัติให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่  15  ธันวาคม  2530  วันที่ 23 กรกฎาคม
2534  วันที่  22  สิงหาคม  2543  และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องที่กำหนดให้พื้นที่ป่าชายเลนเป็นพื้นที่อนุรักษ์
และห้ามมิให้อนุญาตการใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าชายเลนเพื่อให้กรมทางหลวงชนบทใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าชาย
เลนประแสร์-พังราด อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ประมาณ 31 ไร่ 1 งาน  ในการก่อสร้างสะพาน คสล. ข้ามแม่น้ำ
ประแสร์ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง และทางยกระดับเป็นการเฉพาะราย ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
              2. ให้กระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง  กระทรวงทรัพยา
กรทรัพยาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  กระทรวงมหาดไทย  สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม
แห่งชาติ  และสำนักงบประมาณ  ที่ให้มีการพิจารณาดำเนินการโครงการ โดยปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและลด
ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมตามความเห็นของคณะกรรมการชำนาญ
การพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ  และโครงการร่วม
กับเอกชนด้านคมนาคมอย่างเคร่งครัด และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกับชุมชนจัดทำแผนพัฒนาและป้องกันการ
บุกรุกป่าชายเลนที่ชัดเจนโดยเร็ว รวมทั้งการปลูกป่าทดแทนและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและลดผลกระทบสิ่ง
แวดล้อม มาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม  และเงื่อนไขที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติกำหนด
ไปดำเนินการด้วย
              3. ให้กรมทางหลวงชนบทดำเนินการฟื้นฟูและปลูกป่าชายเลนชดเชยในพื้นที่ไม่น้อยกว่าสองเท่าของพื้น
ที่ที่มีการดำเนินโครงการ  รวมทั้งควรให้มีองค์กรหรือหน่วยงานภายนอกตรวจสอบการดำเนินการดังกล่าวข้างต้น
ด้วย

             คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
             1. อนุมัติให้สถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) ได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะ
รัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2547 (เรื่อง การปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราเงินเดือน ฯ หลักเกณฑ์การ
กำหนดเบี้ยประชุม ฯ และการพัฒนาการดำเนินงานและการประเมินผลองค์การมหาชน) โดยให้กำหนดกรอบวง
เงินรวมสำหรับค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรเกินร้อยละ  30  ของเงินอุดหนุนประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549  ถึงปีงบ
ประมาณ พ.ศ. 2553 ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ เป็นการเฉพาะราย ทั้งนี้ ให้สถาบัน ฯ ควบคุมอัตราการเพิ่ม
ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรในปีงบประมาณต่อ  ๆ   ไป   มิให้สูงกว่าอัตราการเพิ่มค่าใช้จ่ายบุคลากรในปีงบประมาณ
พ.ศ. 2552 รวมทั้งดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2547 โดยคำนึงถึงตัวชี้วัดผลการดำเนิน
งานที่ชัดเจนและความคุ้มค่าต่อภารกิจภาครัฐที่ต้องดำเนินการ  ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการ  ตามความ
เห็นของสำนักงบประมาณ และสำนักงาน ก.พ. 
              2. โดยที่การบริหารรูปแบบองค์การมหาชนได้ดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว ควรมีการพิจารณาทบทวน
ความจำเป็นและความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร เพื่อพิจารณาปรับปรุงให้
เหมาะสมกับสภาพการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป จึงมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี  (นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ)  รับไป
พิจารณา แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป

คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
             1. อนุมัติในหลักการโครงการแทรกแซงตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2551/52 (เพิ่มเติมครั้งที่ 2) โครงการ
แทรกแซงตลาดน้ำมันปาล์มดิบ ปี 2551/52  (เพิ่มเติม)  และโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง  ปี 2551/52
(เพิ่มเติม) ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ  และให้กระทรวงพาณิชย์รับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง สำนักงบ
ประมาณ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตร
กรเพื่อบริหารจัดการโครงการดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และจัดทำกระแสเงินสด (Cash Flow) ของ
โครงการ   รวมทั้งเงินจ่ายขาดสำหรับเป็นค่าบริหารโครงการของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรให้
เหมาะสมสอดคล้องกับข้อเท็จจริงและกำหนดเวลาในการจ่ายเงิน  โดยการจ่ายเงินอาจพิจารณาใช้วิธีทยอยจ่ายเป็น
งวด  ๆ  ทั้งนี้  ค่าใช้จ่ายต่าง  ๆ  ของโครงการให้พิจารณาขอใช้จ่ายจากวงเงินกู้สำหรับการรับจำนำผลิตผลทางการ
เกษตร  (จำนวน 110,000 ล้านบาท)  ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2551  (เรื่อง การจัดหาเงินกู้
เพื่อดำเนินโครงการรับจำนำข้าวและผลผลิตทางการเกษตร)  110,000  ล้านบาท   และจากวงเงินเพิ่มเติมเพื่อการ
รักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตรจำนวน 13,580.75 ล้านบาท ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2552
(เรื่อง  ผลการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ  ครั้งที่  2/2552)  และให้กระทรวงพาณิชย์รับข้อสังเกตของ
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับปริมาณมันสำปะหลังที่ขอขยายเพิ่มขึ้นตาม
โครงการ นั้น   มีปริมาณมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ตามที่ได้เคยนำเสนอคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจถึง  2  เท่าตัว
โดยเพิ่มจากเป้าหมาย 5 ล้านตัน เป็น 10 ล้านตัน  เห็นควรมีการตรวจสอบการจดทะเบียนเกษตรกรที่เข้าร่วมโครง
การให้ชัดเจน  โดยให้เชื่อมโยงกับฐานข้อมูลของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรเพื่อป้องกันการสวม
สิทธิของเกษตรกร ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
              2. เห็นชอบในหลักการให้ตั้งคณะกรรมการเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบและติดตามการดำเนินโครงการแทรก
แซงตลาดพืชเกษตรดังกล่าว  รวมตลอดถึงการตรวจสอบสถานภาพของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการเพื่อให้เกิดความ
ถูกต้อง  โปร่งใส  เป็นธรรม  โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายวีระชัย วีระเมธีกุล) รับไป
พิจารณาองค์ประกอบของคณะกรรมการแล้วดำเนินการต่อไปได้  ทั้งนี้  อาจพิจารณาใช้การตรวจราชการของสำนัก
งานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นกลไกในการดำเนินงานของคณะกรรมการดังกล่าวได้ตามความเหมาะสม