ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 133 จากทั้งหมด 199 หน้า แสดงรายการที่ 2641 - 2660 จากข้อมูลทั้งหมด 3975 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2641 | การลดความเสียหายเนื่องจากอุทกภัยในพื้นที่เสี่ยงภัย | กค | 12/10/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามความเห็นของกระทรวงการคลังที่ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวัน
ที่ 20 กรกฎาคม 2547 เรื่อง การลดความเสียหายเนื่องจากอุทกภัยในพื้นที่เสี่ยงภัย จากที่เห็นชอบให้กรม ทรัพยากรน้ำ และกระทรวงมหาดไทย ดำเนินโครงการจัดทำระบบ Early Warning สำหรับพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย -ดินถล่ม และโครงการป้องกันและลดความเสียหายเนื่องจากอุทกภัย ตามลำดับ โดยใช้จ่ายจากเงินทดรอง ราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินที่อยู่ในอำนาจการพิจารณาอนุมัติของผู้ว่าราชการจังหวัด (วงเงิน 50 ล้านบาท) ภายในวงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท หรือเบิกจ่ายจากงบประมาณปกติขององค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่น แล้วแต่กรณี ตามความเหมาะสม เป็นให้กรมทรัพยากรน้ำ และกระทรวงมหาดไทย ดำเนิน โครงการดังกล่าวโดยใช้จ่ายจากเงินงบประมาณรายจ่ายของส่วนราชการหรือจากเงินงบประมาณขององค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งนี้ ในการดำเนินโครงการให้แต่ละจังหวัดบูรณาการงบประมาณ โดยปรับแผนการ ใช้จ่ายงบประมาณของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการก่อน เป็นลำดับแรก หากไม่เพียงพอให้เสนอ ขอใช้จ่ายจากงบประมาณค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการของจังหวัดบูรณาการที่จังหวัดได้รับการจัดสรร และ หากยังไม่เพียงพอ ก็ขอให้เสนอขออนุมัติรองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบกำกับดูแลจังหวัดเพื่อขอใช้จ่ายจาก งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นต่อไป ตามลำดับ
|
||||||||||||||||||||||||
2642 | การปรับปรุงค่าตอบแทนของผู้บริหารท้องถิ่น ประธานสภา รองประธานสภา และสมาชิกสภาท้องถิ่น | มท | 12/10/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 8 (ฝ่าย กฎหมาย ฯ) ที่มีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอการปรับปรุงค่าตอบแทนของผู้บริหาร ท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล และ โดยที่คณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติ จะพิจารณาปรับปรุงค่าตอบแทนสำหรับผู้บริหาร และสมาชิก เมืองพัทยาแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้ ประกอบกับการปรับปรุงค่าตอบแทนสำหรับผู้บริหารท้องถิ่นและ สมาชิกสภาท้องถิ่นที่เสนอมานี้จะนำไปใช้ในการเบิกจ่ายเมื่อสิ้นเดือนตุลาคมหรือต้นเดือนพฤศจิกายน จึงควร รอผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ฯ ในส่วนของผู้บริหารและสมาชิกเมืองพัทยาเพื่อมิให้ค่าตอบแทนลักลั่น กัน อย่างไรก็ตามหากกระทรวงมหาดไทยเห็นสมควรเนื่องจากอยู่ในอำนาจของกระทรวงมหาดไทยก็ให้ดำเนิน การออกระเบียบที่ได้จัดทำขึ้น ได้แก่ ร่างระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยเงินเดือนและค่าตอบแทนนายก องค์การบริหารส่วนจังหวัด รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่ ดำรงตำแหน่งประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่ดำรงตำแหน่ง รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด เลขานุการนายกองค์การ บริหารส่วนจังหวัด ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และกรรมการสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. .... ร่างระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยเงินเดือน ค่าตอบแทน และประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของ นายกเทศมนตรี รองนายกเทศมนตรี สมาชิกสภาเทศบาลที่ดำรงตำแหน่งประธานสภาเทศบาล สมาชิกสภา เทศบาลที่ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาเทศบาล สมาชิกสภาเทศบาล เลขานุการนายกเทศมนตรี ที่ปรึกษา นายกเทศมนตรี และการจ่ายเบี้ยประชุมคณะกรรมการสภาเทศบาล พ.ศ. .... และร่างระเบียบกระทรวงมหาด ไทย ว่าด้วยเงินค่าตอบแทนนายกองค์การบริหารส่วนตำบล รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ประธาน สภาองค์การบริหารส่วนตำบล รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบล สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วน ตำบล เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบล และเลขานุการสภาองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. ..... ต่อ ไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
2643 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารราชการตำบล พ.ศ. .... | มท | 12/10/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 8
(คกก.8) ที่มีมติให้ชะลอการดำเนินการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารราชการ ตำบล พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอไว้ก่อน เพื่อรอผลการดำเนินการตามมติการประชุม หารือเรื่อง ขอรับการจัดสรรอัตรากำลังปลัดอำเภอประจำตำบล เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2547 ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยรับประเด็นอภิปรายของ คกก.8 ไปดำเนินการต่อไปด้วย ดังนี้ ให้กระทรวง มหาดไทยพิจารณาแนวทางการบริหารราชการในส่วนท้องถิ่นให้มีความเหมาะสมไม่ขัดแย้งหรือสวน ทางการกระจายอำนาจให้แก่ท้องถิ่นที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน และรวบรวมข้อมูที่สำคัญและจำเป็น ที่ได้รับจากการประเมินผลการปฏิบัติงานเพื่อนำมาจัดทำร่างระเบียบ ฯ ได้อย่างครบถ้วนและรัดกุม รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นและความต้องการของประชาชนในพื้นที่ประกอบด้วย |
||||||||||||||||||||||||
2644 | รายงานผลการดำเนินงานตามโครงการจัดหาเครื่องมือเครื่องใช้ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสนับสนุนให้แก่ท้องถิ่น พ.ศ. 2546 - 2549 | มท | 05/10/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลการดำเนินงานตามโครงการจัดหา
เครื่องมือเครื่องใช้ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสนับสนุนให้แก่ท้องถิ่น พ.ศ. 2546-2549 โดยกรม ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ทำสัญญาซื้อขายกับผู้เสนอราคาตามแบบสัญญาที่สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ตรวจพิจารณาแล้วจำนวน 14 รายการ รวม 799 หน่วย (คัน/ลำ/เครื่อง/ชุด) ในวงเงิน 2,638,402,265 บาท ถูกต้องตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ตามโครงการที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว และได้ประสานงานให้กรมส่งเสริมการปกครอง ท้องถิ่นแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เข้าร่วมโครงการ ฯ ทั้งสิ้น 450 แห่ง ส่งเงินสมทบงบประมาณปี พ.ศ. 2546 และ พ.ศ. 2547 ที่ตั้งไว้ กับเตรียมการจัดตั้งงบประมาณสมทบในปี พ.ศ. 2548 และ พ.ศ. 2549 ไว้ให้พร้อม โดยขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด กำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้จัดตั้งงบประมาณให้เป็นไป ตามข้อตกลงในการเข้าร่วมโครงการ ฯ โดยเคร่งครัด |
||||||||||||||||||||||||
2645 | การช่วยเหลือลูกจ้างประจำและลูกจ้างชั่วคราวในระบบราชการ | นร | 05/10/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอเรื่อง
การช่วยเหลือลูกจ้างประจำและลูกจ้างชั่วคราวในระบบราชการ ดังนี้ ให้ลูกจ้างประจำของฝ่ายบริหารได้รับ เงินช่วยค่าครองชีพพิเศษได้เหมือนข้าราชการ และให้ลูกจ้างชั่วคราวของฝ่ายบริหารที่มีอายุงานต่อเนื่องไม่ น้อยกว่า 5 ปีบรรจุเป็นพนักงานราชการและรับเงินช่วยค่าครองชีพพิเศษได้เหมือนข้าราชการ รวมทั้งให้เจ้า สังกัดของลูกจ้างประจำและลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการอื่น นอกจากฝ่ายบริหาร ตลอดจนลูกจ้างประจำ และลูกจ้างชั่วคราวขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณาให้ความช่วยเหลือได้ตามที่เจ้าสังกัดกำหนด แต่ อยู่ภายในกรอบงบประมาณของตนเอง
|
||||||||||||||||||||||||
2646 | รายชื่อกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีเห็นชอบคำตอบแล้ว (จำนวน 2 เรื่อง) 1.1 กระทู้ถามที่ 1329 ร. เรื่อง การแก้ไขปัญหาการทะเลาะวิวาทของนักเรียน นักศึกษา 1.2 กระทู้ถามที่ 1406 ร. เรื่อง การแข่งขันเรือพายในแม่น้ำป่าสัก ลำสนธิ ลำเหียง คลองลำนารายณ์ จังหวัดลพบุรี | นร | 28/09/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอคำตอบกระทู้ถามที่ 1329 ร.
เรื่อง การแก้ไขปัญหาการทะเลาะวิวาทของนักเรียน นักศึกษา และคำตอบกระทู้ถามที่ 1406 ร. เรื่อง การแข่ง ขันเรือพายในแม่น้ำป่าสัก ลำสนธิ ลำเหียง คลองลำนารายณ์ จังหวัดลพบุรี ของนายนิยม วรปัญญา สมาชิก สภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยคำตอบกระทู้ถามที่ 1329 ร. สรุปได้ว่า กระทรวงศึกษาธิการและสถาบันการศึกษา มีมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหานักเรียน นักศึกษา ทะเลาะวิวาทและใช้ความรุนแรง เพื่อให้สถานศึกษาทุกระดับทุกประเภทในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการสามารถ จัดบริการทางการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งให้สถานศึกษาดำเนินการปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน และแก้ไขปัญหานักเรียนก่อความรุนแรง เช่น การให้สถานศึกษาประเมินสถานการณ์ พฤติกรรมเสี่ยงของนัก เรียนในโรงเรียน และสภาวะแวดล้อมชุมชน โดยสร้างการมีส่วนร่วมของครู ผู้ปกครองนักเรียน ผู้แทนชุมชน ผู้ทรงคุณวุฒิร่วมกันวิเคราะห์สถานการณ์เพื่อกำหนดเป็นแนวทางป้องกันและแก้ไขทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เป็นต้น และมีนโยบายให้ข้าราชการครู อาจารย์ ได้สอนอยู่ในท้องถิ่นของตนเอง เพื่ออยู่ใกล้ชิดครอบครัวและ สามารถดูแลลูกศิษย์อย่างใกล้ชิด ได้แก่ โครงการย้ายครูคืนถิ่น โครงการเพชรในตม ส่วนคำตอบกระทู้ถามที่ 1406 ร. สรุปได้ว่า การที่จะจัดให้มีการแข่งขันเรือพาย เรือแจวขึ้น เป็นวิธีการหนึ่งในการรณรงค์ส่งเสริมและ สนับสนุนให้ประชาชนทั่วไปในทุกท้องถิ่นที่มีแม่น้ำลำคลองมีความตื่นตัวในการออกกำลังกาย โดยการใช้เรือ พาย เรือแจว เป็นสื่อ และยังเป็นการอนุรักษ์เรือพาย เรือแจว ของแต่ละภาคแต่ละท้องถิ่นให้คงอยู่ต่อไปอีก ด้วยจึงควรมีการส่งเสริม สนับสนุน ให้มีการจัดการแข่งขันขึ้นทุกจังหวัด ทุกท้องถิ่น เป็นประจำทุกปี หรือ ตามสภาพความเหมาะสมของท้องถิ่น ซึ่งในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการได้มีนโยบายในการส่งเสริมการออก กำลังกายให้ผู้เรียนมีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์ โดยได้ดำเนินการจัดการแข่งขันเรือพาย และให้สถาบันการ ศึกษา/สถานศึกษา ได้มีส่วนร่วมกับท้องถิ่นในการจัดการแข่งขันเรือพาย หรือกีฬาทางน้ำอื่น ๆ รวมถึงการ ประชาสัมพันธ์ให้ครู อาจารย์ นักเรียน นักศึกษา มีความสนใจและชมการแข่งขันที่ท้องถิ่นได้จัดขึ้นได้ตาม ความเหมาะสม |
||||||||||||||||||||||||
2647 | รายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำเดือนสิงหาคม 2547 | กค | 28/09/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานสรุปผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2547 โดยการเบิกจ่ายเงิน ในภาพรวม ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายเงินจากคลังจำนวน 875,017 ล้านบาท หรือร้อยละ 85.12 ของวงเงินงบประมาณ (1,028,000 ล้านบาท) ไม่รวมงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 เพิ่มเติม (135,500 ล้านบาท) สำหรับการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 เพิ่มเติม จำนวน 135,500 ล้านบาท มีการเบิกจ่ายเงินจากคลังจำนวน 74,371 ล้านบาท หรือร้อยละ 54.89 ประกอบด้วย รายการค่าใช้จ่ายตามมาตรการพัฒนาและบริหารกำลังคนเพื่อรองรับ การเปลี่ยนแปลง จำนวน 13,725 ล้านบาท รายการค่าใช้จ่ายการปรับเงินค่าตอบแทนบุคลากรภาครัฐ จำนวน 4,531 ล้านบาท รายการเงินเบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ (รายการเงินบำเหน็จดำรงชีพ) จำนวน 43,098 ล้านบาท รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของ ประเทศจำนวน 3,034 ล้านบาท รวมทั้งเงินอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฯ จำนวน 9,983 ล้าน บาท ส่วนการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ จำแนกตามลักษณะเศรษฐกิจ (ประจำ/ลงทุน) ไม่รวมงบประมาณ รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 เพิ่มเติม (135,500 ล้านบาท) มีการเบิกจ่ายในส่วนของราย จ่ายประจำจำนวน 758,386 ล้านบาท หรือร้อยละ 91.16 ของงบประมาณรายจ่ายประจำ (831,937 ล้านบาท) และรายจ่ายลงทุนจำนวน 116,631 ล้านบาท หรือร้อยละ 59.49 ของงบประมาณรายจ่าย ลงทุน (196,063 ล้านบาท) และการเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนของหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรรายจ่ายลงทุน เกิน 1,000 ล้านบาท จำนวน 17 แห่ง มีการเบิกจ่ายแล้วจำนวน 81,308 ล้านบาท หรือร้อยละ 59.91 ของงบประมาณรายจ่ายลงทุนในกลุ่มนี้ (135,716 ล้านบาท) ทั้งนี้ ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจรีบ ดำเนินการเบิกจ่ายเงินตามแผนงาน งาน โครงการที่กำหนดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยให้วางฎีกาเบิกจ่าย เงินจากคลังภายในวันที่ 20 กันยายน 2547 ยกเว้นกรณีที่มีเหตุผลหรือความจำเป็นให้วางฎีกาเบิกจ่าย เงินไม่เกินวันทำการสุดท้ายของเดือนกันยายน 2547 |
||||||||||||||||||||||||
2648 | แต่งตั้งประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การตลาดชุดใหม่ (จำนวน 13 ราย) | มท | 28/09/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้งประธานกรรมการ รองประธาน
กรรมการ และกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การตลาด จำนวน 13 ราย ดังนี้ นายสาโรช คัชมาตย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นประธานกรรมการ นายธวัชชัย ฟักอังกูร รองอธิบดีกรมส่ง เสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นรองประธานกรรมการ นายธีรยุทธ ทุมมานนท์ ผู้อำนวยการท่าเรือแหลม ฉบัง พลตำรวจโท ชลอ ชูวงษ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร นางเบญจา หลุยเจริญ ผู้แทนกระทรวงการคลัง นางสาวสุพัตรา สังข์มงคล ที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ นางพงศ์เดช เทียนชวลิต ผู้อำนวยการกองอนามัย สิ่งแวดล้อมกรุงเทพมหานคร นายปราโมทย์ โชคศิริกุลชัย นักธุรกิจ นายโสภณ วัชรสินธุ์ นักธุรกิจ นาย ฐิติเชฏฐ์ นุชนาฎ ทนายความ นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่าย ฯ บริษัทกรุงไทยแทรก เตอร์ จำกัด พันเอก ธวัชชัย ชวนสมบูรณ์ หัวหน้ากองยุทธการ มณฑลทหารบกที่ 11 และพันตำรวจเอก ฉันทวิทย์ รามสูต รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เป็นกรรมการ |
||||||||||||||||||||||||
2649 | รายงานผลการเตรียมป้องกันและบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ การตรวจแนวป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และตรวจสภาพแม่น้ำเจ้าพระยา | มท | 28/09/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลการเตรียมป้องกันและบรรเทาอุทกภัย
ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ การตรวจแนวป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และตรวจสภาพแม่น้ำเจ้าพระยา สรุปดังนี้ สำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนร่วมกับจังหวัดเพชรบุรีได้จัดให้มี การฝึกซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาอุทกภัยจังหวัดเพชรบุรี เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการป้องกันและบรร เทาอุทกภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความเข้าใจในหลักการ ขั้นตอน วิธีการปฏิบัติ สามารถรองรับและเข้าจัด การอุทกภัยที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที ส่วนการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยและสถานการณ์น้ำลุ่ม เจ้าพระยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ ได้ดำเนินการตรวจแนวคันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา นพื้นที่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และปทุมธานี และตรวจสภาพแม่น้ำเจ้าพระยา โดยในส่วนของกรุงเทพ ฯ ได้ดำเนิน การก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ แล้วเสร็จที่สามารถ ป้องกันที่ระดับ+2.40 ม. (รทก) ยาว 50 กม. และกำลังก่อสร้างอยู่อีก 8 กม. แล้วเสร็จในปี 2548 และอยู่ในขั้น ตอนดำเนินการประกวดราคาอีก 17 กม. คาดว่าแล้วเสร็จประมาณปี 2551 จังหวัดนนทบุรี ได้มีการเตรียมการ ฯ จัดทำประตูกั้นน้ำ ซ่อมแซมประตูระบายน้ำ การพร่องน้ำในแม่น้ำลำคลองต่าง ๆ จัดเตรียมเครื่องสูบ น้ำไว้ พร้อม และได้จัดประชุมผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อม ให้หน่วยงานชลประทานแจ้งสถานการณ์น้ำให้ทราบทุกระยะ จังหวัดปทุมธานี ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจ ป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย ก่อสร้างอาคารบังคับน้ำปิดปากแม่น้ำและคลองธรรมชาติริมฝั่งเจ้าพระยา สร้าง คันกั้นน้ำจากพื้นที่รอบข้างไม่ให้น้ำไหลเข้าจังหวัดปทุมธานี พร้อมทั้งได้จัดเตรียมกระสอบทรายเสริมคันกั้นน้ำ และจัดเตรียมเครื่องสูบน้ำไว้พร้อมรับสถานการณ์ |
||||||||||||||||||||||||
2650 | รายงานผลการดำเนินงานของกระทรวงคมนาคมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) | คค | 28/09/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมรายงานผลการดำเนินงานในพื้นที่ 3 จังหวัด
ชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) ณ วันที่ 25 สิงหาคม 2547 สรุปดังนี้ (1) โครงการที่ได้รับ งบประมาณประจำปี พ.ศ. 2547 จำนวน 22 โครงการ/งาน วงเงินงบประมาณปี 2547 จำนวน 1,467.55 ล้านบาท ซึ่งตามแผนเกิดการจ้างแรงงานท้องถิ่นประมาณ 132.08 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ มีการเบิกจ่ายเงินแล้ว 540.61 ล้านบาท และเกิดการจ้างแรงงานท้องถิ่นประมาณ 49.95 ล้านบาท (2) โครงการตามยุทธศาสตร์การพัฒนา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย โครงการที่ผ่านความเห็นชอบ ของคณะกรรมการนโยบายเสริมสร้างสันติสุขภาคใต้ 13 โครงการ รวม 4 หน่วยงาน วงเงินงบประมาณ จำนวน 1,961.41 ล้านบาท ซึ่งตามแผนเกิดการจ้างแรงงานท้องถิ่นประมาณ 137.72 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ ระหว่างรอการลงนาม 3 โครงการ ขอนุมัติเงินประจำงวด 1 โครงการ การจัดหาผู้รับจ้าง 5 โครงการ การ ประเมินราคากลาง 1 โครงการ การออกแบบ 1 โครงการ การร่างรายการข้อกำหนด (TOR) และเตรียมการ เชิญชวนที่ปรึกษายื่นข้อเสนอเทคนิคและราคา 1 โครงการ และการจัดหาที่ดิน 1 โครงการ และโครงการ ที่หน่วยงานเสนอสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแล้ว ไม่ผ่านการพิจารณา และมีความจำเป็นต้องดำเนินการ 6 โครงการ วงเงินงบประมาณ 1795.07 ล้านบาท (3) โครงการที่ได้รับ งบประมาณประจำปี พ.ศ. 2548 จำนวน 19 โครงการ/งาน วงเงินงบประมาณปี 2548 จำนวน 1,260.81 ล้านบาท ซึ่งตามแผนเกิดการจ้างแรงงานท้องถิ่นประมาณ 93.54 ล้านบาท (4) โครงการที่มีความจำเป็น แต่ไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 5 งาน วงเงินงบประมาณรวม 761.70 ล้านบาท ถ้าได้รับการอนุมัติจะเกิดการจ้างแรงงานในท้องถิ่นประมาณ 36.02 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่าง การขอรับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม และ (5) กิจกรรมของกระทรวงคมนาคมที่จะดำเนินการเพื่อสร้าง งาน สร้างอาชีพ และให้เกิดการจ้างแรงงานและรายได้ให้แก่ประชาชน จำนวน 9 กิจกรรม |
||||||||||||||||||||||||
2651 | การจัดสรรเงินรางวัลจากการประหยัดงบประมาณในการจัดซื้อจัดจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | มท | 28/09/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องคณะรัฐมนตรี คณะที่ 8 (คกก.8)
ที่มีมติเกี่ยวกับการจัดสรรเงินรางวัลจากการประหยัดงบประมาณในการจัดซื้อจัดจ้างขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น โดยให้กระทรวงการคลังนำหลักเกณฑ์การกันเงินงบประมาณเหลือจ่ายไว้เบิกเหลื่อมปีกรณี ไม่มีหนี้ผูกพันเพื่อนำมาจัดสรรเป็นสิ่งจูงใจ เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนแจ้งให้ส่วน ราชการถือปฏิบัติต่อไป โดยให้เพิ่มเติมหลักเกณฑ์ตามประเด็นอภิปรายของ คกก.8 ด้วย ดังนี้ กรณีเงิน รางวัลที่จะนำมาจัดสรรเป็นสิ่งจูงใจ ให้กระทรวงการคลัง และสำนักงาน ก.พ.ร. ร่วมกันออกหลักเกณฑ์ และวิธีการจัดสรรเงินรางวัลตามหลัก Good Governance ทั้งของราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค รวมทั้งราชการส่วนท้องถิ่นด้วย โดยให้พิจารณาเรื่องการได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ การ เลื่อนขั้นกรณีพิเศษ การไปศึกษาดูงานในต่างประเทศ และการได้รับจัดสรรงบประมาณเพิ่มขึ้นในปีถัดไป เป็นต้น และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
2652 | รายงานความก้าวหน้าตามมาตรการเร่งรัดงานโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ | มท | 28/09/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลความก้าวหน้าการดำเนินงานตาม
มาตรการเร่งรัดงานโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของหน่วยงานในสังกัดประกอบด้วย กรมโยธา ธิการและผังเมือง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และการไฟฟ้านครหลวง สรุปได้ดังนี้ ผลการดำเนินงาน ของกรมโยธาธิการและผังเมืองได้ดำเนินการจัดจ้างบริษัทที่ปรึกษาจัดทำโครงการวางและจัดทำผังเมืองเฉพาะ พื้นที่บริเวณโดยรอบสนามบิน ฯ เพื่อใช้เป็นกรอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ประโยชน์ในการดำเนินการจัดทำ ผังพัฒนาทางด้านกายภาพที่กำหนดโครงการพัฒนาในแต่ละย่าน ผังการใช้ที่ดินและอาคาร แผนปฏิบัติการ เพื่อปรับปรุงพื้นที่เฉพาะ โครงการคมนาคมและขนส่งครบวงจร ผังสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ การ ป้องกันน้ำท่วม การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการนำเสนอของบประมาณ และการนำเสนอกลยุทธ์ ที่ส่งเสริมภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการพัฒนา ส่วนผลการดำเนินงานของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้ แต่งตั้งคณะกรรมการ รวม 2 คณะ เพื่อทำหน้าที่กำหนดแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับบทบาทขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นและประสานแผนการปฏิบัติงานด้านต่าง ๆ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อยู่ในพื้นที่พัฒนา สำหรับผลการดำเนินงานของการไฟฟ้านครหลวง ในส่วนของผลการดำเนินโครงการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า และน้ำเย็นสำหรับท่าอากาศยาน ฯ ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จภายในวันที่ 30 พฤษภาคม 2548 นั้น ขณะนี้มีผล ความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการ ฯ ในส่วนของงานจัดจ้างก่อสร้างระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติสำหรับ โรงไฟฟ้า งานปรับปรุงเครื่องกังหันก๊าซ งานก่อสร้างระบบผลิตน้ำเย็น งานก่อสร้างโรงผลิตน้ำเย็นให้แก่ อาคาร และงานก่อสร้างโรงไฟฟ้า คาดว่าจะเสร็จสิ้นตามระยะเวลาที่กำหนด ส่วนโครงการจ่ายไฟฟ้าให้ระบบ ขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอยู่ในขั้นตอนการสำรวจออกแบบ คาดว่า จะสามารถดำเนิน การตามโครงการได้ตามระยะเวลาที่กำหนด |
||||||||||||||||||||||||
2653 | รายงานความคืบหน้าการดำเนินโครงการตามยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของกระทรวงพลังงาน | พน | 21/09/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพลังงานรายงานความคืบหน้าการดำเนินโครงการตาม
ยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งมีผลการดำเนินงานตามมาตรการหลัก 4 ประการโดยสรุป ดังนี้ มาตรการด้านการสร้างความปลอดภัย อาทิ โครงการเฝ้าระวังความปลอดภัยการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง และก๊าซ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กรมธุรกิจพลังงาน ได้ดำเนินการเช่าระบบและอุปกรณ์ติดตามยาน พาหนะด้วยดาวเทียม (GPS) จำนวน 90 ชุด และมีการติดตั้งคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์รับ-ส่งข้อมูลที่ศูนย์ ควบคุมการเดินรถ ณ คลังปิโตรเลียมสงขลา เบื้องต้นได้ติดตั้ง GPS ในรถบรรทุกก๊าซแล้ว 10 คัน มาตรการ ด้านการเสริมสร้างความมั่นคงและขยายการให้บริการด้านไฟฟ้า อาทิเช่น โครงการพัฒนาระบบสายส่งและ สถานีไฟฟ้าจังหวัดยะลา การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้ดำเนินการสร้างสายส่ง 115 kv ระยะทาง 58 วงจร-กม. และก่อสร้างสถานีไฟฟ้ายุพราชัย์ ขนาด 25 MVA เสร็จเรียบร้อยแล้ว เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและความ มั่นคงในการจ่ายไฟฟ้า มาตรการด้านการศึกษา อาทิเช่น โครงการศูนย์การเรียนรู้และสาธิตเทคโนโลยีพลัง งานกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ได้จัดผู้นำชุมชนและครูจากจังหวัดนราธิวาส ยะลา และ ปัตตานี ศึกษาดูงานโครงการบ้านมั่นคง จังหวัดสงขลา และรับฟังการบรรยายด้านพลังงานจากเจ้าหน้าที่ สำนักงานพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ในวันที่ 9 สิงหาคม 2547 รวมทั้งได้จัดค่ายเยาวชน พลังงานสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อสร้างจิตสำนึกในการใช้พลังงาน และมาตรการด้านการพัฒนา อาทิเช่น โครงการจ้างงานพิเศษด้านไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศ ไทย ได้ว่าจ้างแรงงานท้องถิ่นพื้นที่รอบเขื่อนบางลาง จังหวัดยะลา ปีละ 120 คน วงเงิน 7 ล้านบาท และ จ้างแรงงานท้องถิ่นพื้นที่รอบสถานีไฟฟ้าย่อยของจังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ปีละ 114 คน วงเงิน 2 ล้านบาท ซึ่งเป็นการจ้างเหมารายปีอย่างต่อเนื่อง และสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมาย เป็นต้น |
||||||||||||||||||||||||
2654 | โครงการเพื่อการพัฒนาประจำปีงบประมาณ 2548 ของการประปาส่วนภูมิภาค | มท | 21/09/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอโครงการเพื่อการพัฒนาประจำปีงบ
ประมาณ 2548 ของการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) รวม 20 โครงการ วงเงินลงทุนรวม 2,197.308 ล้านบาท จำแนกเป็นโครงการปรับปรุงขยายการประปา จำนวน 11 โครงการ วงเงินลงทุน 1,851.081 ล้านบาท และโครงการปรับปรุงกิจการประปาภายหลังการรับโอนจากท้องถิ่น จำนวน 9 โครงการ วง เงินลงทุน 346.227 ล้านบาท ซึ่งคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้พิจารณาเห็น ชอบแล้ว และให้ กปภ. รับความเห็นของ สศช. เกี่ยวกับการจัดเตรียมโครงการลงทุนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 เป็นต้นไป รวมทั้งประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การจัดหาแหล่งเงินลงทุนของโครงการ ฯ และปัญหา ความขาดแคลนน้ำของประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
2655 | การปฏิบัติราชการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี และพระนครศรีอยุธยา | มท | 21/09/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลการเดินทางไปปฏิบัติราชการในพื้น
ที่จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี และพระนครศรีอยุธยา ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ เมื่อวันที่ 17-18 กันยายน 2547 เพื่อพบปะเยี่ยมเยียนเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการเยาวชนเสริมสร้างสันติสุขในจังหวัด ชายแดนภาคใต้ที่ประสบอุบัติเหตุระหว่างเดินทางกลับจากทัศนศึกษาและเยี่ยมญาติผู้เสียชีวิตจากการก่อความ ไม่สงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมทั้งตรวจติดตามการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหา อุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งภาพรวมการปฏิบัติราชการในครั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้มอบนโยบายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรับไปปฏิบัติ ได้แก่ ปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ ต่าง ๆ ต้องบูรณาการความร่วมมือในทุก ๆ ด้าน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง ดำเนินการเพียงลำพัง ไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ ขอให้ทุกหน่วยงานประสานงานกันอย่างเป็นระบบ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้นำระบบ GIS มาใช้ในการดำเนินงานแล้ว ขอให้หน่วยงานต่าง ๆ ทั้ง กรุงเทพมหานคร จังหวัดต่างๆ ได้ประสานงานกัน เพื่อให้ทุกหน่วยงานได้มีการใช้ GIS ที่สามารถเชื่อมโยงและ ใช้งานให้เป็นระบบเดียวกันได้ การวางผังเมืองของกรมโยธาธิการและผังเมือง ขอให้พิจารณาและดูแลในเรื่อง ของการใช้พื้นที่ที่อาจเป็นสาเหตุของอุทกภัยด้วย ให้มีการบูรณาการการจัดทำผังเมืองร่วมกัน กับหน่วยงาน ต่าง ๆ ทั้งเรื่องถนน เส้นทางคมนาคม ที่อยู่อาศัย แหล่งพาณิชยกรรม การเตรียมการในการป้องกันและแก้ไข ปัญหา ให้การมีการมอบหมายและขอความร่วมมือไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกระดับด้วย เพื่อร่วมกัน ให้ความช่วยเหลือดูแลราษฎรต่อไป รวมทั้งการกำจัดวัชพืชของจังหวัดต่าง ๆ และจะต้องบูรณาการในการให้ ความช่วยเหลือหรือดูแลความเดือดร้อนของราษฎรในช่วงภายหลังน้ำลดด้วย ตลอดจนการพิจารณาการปล่อย น้ำจากเขื่อนของกรมชลประทาน ควรพิจารณาอย่างรอบคอบด้วยว่าจะระบายน้ำมากน้อยเพียงไร |
||||||||||||||||||||||||
2656 | รายงานผลการดำเนินงานเพื่อส่งเสริมพัฒนาให้เกิดอาชีพ และสร้างรายได้ของประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ | อก | 14/09/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานผลการดำเนินงานเพื่อส่งเสริม
พัฒนาให้เกิดอาชีพและสร้างรายได้ของประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยกระทรวงอุตสาหกรรม ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินโครงการ "ดินขาวพัฒนา เมืองนราก้าวไกล" โดยการนำดิน ขาวในจังหวัดนราธิวาส ซึ่งมีปริมาณมากถึง 800,000 ตัน มาปรับปรุงคุณภาพเพื่อนำไปใช้ในอุตสาห กรรมแปรรูป ที่สามารถเพิ่มมูลค่าของวัตถุดิบในเชิงพาณิชย์ และสามารถนำวัตถุดิบดินขาวดังกล่าวมา พัฒนาให้เกิดการลงทุนในระยะเร่งด่วนได้ 2 ลักษณะ คือ การพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องเคลือบดินเผา และอุตสาหกรรมบล็อคประสานโดยในส่วนของการพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องเคลือบดินเผา กรมส่งเสริม อุตสาหกรรมได้เลือกผลิตภัณฑ์เครื่องเคลือบดินเผาเบญจรงค์ "ลายยาวอ" เป็นผลิตภัณฑ์นำร่อง โดยมี การพัฒนาผลิตภัณฑ์และฝึกอบรมการทำเครื่องเคลือบดินเผาเบญจรงค์ ฯ เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมี ความรู้และทักษะฝีมือในการผลิตผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และได้กำหนดตราสัญลักษณ์ "เซรา-ปาดี" (CERA-PADI) เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น รวมทั้งจัดสร้างโรงงาน อุตสาหกรรมเครื่องเคลือบดินเผาต้นแบบเพื่อใช้บ่มเพาะธุรกิจอุตสาหกรรม โดยจะใช้ระยะเวลาในการจัด สร้างโรงงานอุตสาหกรรม ฯ ดังกล่าว 6 เดือน (กรกฎาคม-ธันวาคม 2547) จะสามารถดำเนินการ บ่มเพาะธุรกิจอุตสาหกรรมได้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2548 เป็นต้นไป และจะผลักดันให้ผู้ประกอบการ ใหม่ที่เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมเครื่องเคลือบดินเผาได้รับการส่งเสริมการลงทุน สำหรับอุตสาหกรรม บล็อคประสาน ขณะนี้อยู่ระหว่างการสั่งทำอุปกรณ์การผลิต เมื่อแล้วเสร็จจะได้จัดฝึกอบรมเพื่อถ่ายทอด เทคโนโลยีการผลิตให้ผู้ที่สนใจลงทุนและราษฎรในพื้นที่ รวมทั้งกระตุ้นและผลักดันให้เกิดการลงทุน อุตสาหกรรมฯ ดังกล่าว ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
2657 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารการพัฒนาเพื่อกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคและ ท้องถิ่น พ.ศ. .... | นร | 14/09/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่คณะกรรมการนโยบายกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค
และท้องถิ่นเสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารการพัฒนาเพื่อกระจายความเจริญไปสู่ ภูมิภาคและท้องถิ่น พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารการ พัฒนาเพื่อกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคและท้องถิ่น พ.ศ. 2539 เพื่อปรับปรุงให้สอดคล้องกับบทบาทและ ภารกิจใหม่ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยระบบการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ พ.ศ. 2546 และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||
2658 | การบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวทั้งระบบ | รง | 14/09/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้ รับทราบผลการดำเนินงานตามแนวทางการ
บริหารจัดการแรงงานต่างด้าวทั้งระบบ และเห็นชอบการรับจดทะเบียนนายจ้างและคนต่างด้าวเพิ่มเติม กรณี นายจ้างพาคนต่างด้าวไปรายงานตัวต่อนายทะเบียนอำเภอ หรือนายทะเบียนท้องถิ่น แต่ไม่ได้จดทะเบียน นายจ้างกับกรมการจัดหางาน รวมทั้งกรณีนายจ้างและแรงงานต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานตามมติคณะ รัฐมนตรี ปี พ.ศ. 2546 และใบอนุญาตทำงานจะหมดอายุในวันที่ 25 กันยายน 2547 แต่คนต่างด้าวไม่ ไปรายงานตัวต่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น หรือนายจ้างไม่ได้จดทะเบียนกับกรมการจัด หางาน สำหรับผลการดำเนินงานตามแนวทางการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวทั้งระบบ สรุปได้ดังนี้ ผล การจดทะเบียนคนต่างด้าวและนายจ้าง มีคนต่างด้าวมาจดทะเบียน 1,269,074 คน นายจ้างมาจดทะเบียน 231,376 ราย และแจ้งความต้องการจ้างแรงงานต่างด้าว 1,503,904 คน ส่วนการร้องขอจดทะเบียนคน ต่างด้าวและนายจ้างเพิ่มเติม คณะกรรมการบริหารแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ได้มีมติให้นำกรณีการ ร้องขอจดทะเบียนคนต่างด้าวและนายจ้างเพิ่มเติมเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา และผลการดำเนินการตาม บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการจ้างแรงงาน (MOU) ได้มีการเจรจาและประสานกับพม่า ลาว และกัมพูชา เพื่อให้การดำเนินการจ้างแรงงานต่างด้าวมีผลในทางปฏิบัติ นอกจากนี้ ได้ดำเนินการแก้ไขพระ ราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าวเพื่อจัดเก็บค่าธรรมเนียมการใช้แรงงานต่างด้าว (Levy Fee) และได้จัด ทำข้อตกลงว่าด้วยการทำงานบริเวณชายแดน ในกรอบของบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการจ้าง แรงงาน (MOU) โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามที่เสนอต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงแรงงาน และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับความเห็นและข้อสังเกตของ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในบางประเด็น ไปพิจารณาดำเนินการด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มความเข้มงวด ในการสกัดกั้นลักลอบเข้าเมือง เพื่อป้องกันไม่ให้แรงงานทั้ง 3 สัญชาติ ที่ยังไม่ได้เข้ามาในประเทศไทยลัก ลอบเข้ามาลงทะเบียน |
||||||||||||||||||||||||
2659 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งระดับ 10 (กระทรวงศึกษาธิการ) (นายวิชิต สุวรรณรัตน์) | ศธ | 14/09/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอแต่งตั้ง นายวิชิต สุวรรณ
รัตน์ ให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น (นักวิชาการศึกษา 10 ชช) สำนักงานคณะ กรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม 2547 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติ ครบถ้วนสมบูรณ์ |
||||||||||||||||||||||||
2660 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง แนวทางการแก้ไขปัญหามลพิษในแม่น้ำเจ้าพระยา | นร | 07/09/2547 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4.2 (ฝ่าย
การเกษตร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) ที่มีมติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอ ดังนี้ รับทราบความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง แนวทาง แก้ไขปัญหามลพิษในแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งรับทราบและเห็นชอบความเห็น ผลการพิจารณา และผลการ ดำเนินการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวง อุตสาหกรรม ที่มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาทรัพยากรน้ำแบบ บูรณาการ เพื่อให้ครอบคลุมด้านการพัฒนาจัดหาน้ำต้นทุน การจัดสรรน้ำ การควบคุมมลพิษทางน้ำ การ อนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ อุทกภัยและภัยแล้ง โดยจัดทำเป็นแผนระยะยาวควบคู่กับการวางแผนการใช้ที่ดินและ การขยายตัวของสังคมและเศรษฐกิจ สร้างความเข้มแข็งให้คณะอนุกรรมการลุ่มน้ำเจ้าพระยา และการมีส่วน ร่วมของทุกภาคส่วน พร้อมทั้งจัดให้มีระบบบำบัดน้ำเสียรวมในพื้นที่ชุมชน และให้มีมาตรการจัดเก็บค่าธรรม เนียมบำบัดน้ำเสีย และบังคับใช้กฎหมายเพื่อควบคุมการระบายของเสียจากแหล่งกำเนิดต่าง ๆ ให้เป็นไป ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ ตลอดจนส่งเสริมและสนับสนุนงบประมาณให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อ ดำเนินการจัดการน้ำเสียและขยะมูลฝอยอย่างมีประสิทธิภาพ และให้มีการควบคุมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไม่ ให้มีการระบายน้ำทิ้งที่ไม่ได้มาตรฐาน และงดใช้ยาและสารเคมีต้องห้าม 16 ชนิด ตามที่กรมประมงประกาศ อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักประสานและเร่งรัด การจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการและแผนปฏิบัติการที่กำหนดบทบาท ภารกิจ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และให้มีการติดตามประเมินผลการดำเนินการ โดยจัดทำตัวชี้วัดการแก้ไขปัญหา มลพิษในแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วรายงานผลให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีทราบ เป็นระยะ ๆ |