ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 132 จากทั้งหมด 200 หน้า แสดงรายการที่ 2621 - 2640 จากข้อมูลทั้งหมด 3983 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 2621 | ร่างพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. .... | ศธ | 23/11/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2.1
(ฝ่ายการศึกษา ฯ) ที่มีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอร่างพระราชบัญญัติโรงเรียน เอกชน พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน และให้ส่งสำนักงานคณะ กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาตามประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการ ฯ ที่ให้บัญญัติเรื่องบทบาท หน้าที่ของหน่วยงานตามร่างพระราชบัญญัติ ฯ ในระดับต่าง ๆ ให้ชัดเจนในเรื่องที่จะต้องส่งเสริมการ ประสานงานระหว่างรัฐกับโรงเรียนเอกชน โดยมีการแลกเปลี่ยนเสนอแนะนโยบายระหว่างกันได้อย่าง เต็มที่ เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมกิจการของโรงเรียนเอกชนอย่างแท้จริง และร่างพระราชบัญญัติ ฯ ต้องไม่ขัดแย้งหรือซ้ำซ้อนกับกฎหมายอื่นที่มีอยู่แล้ว แต่อาจมีมาตรการเชื่อมโยงสนับสนุนซึ่งกันและกัน ได้ รวมทั้งต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การปฏิรูปการศึกษาด้านการมีส่วนร่วมของพ่อแม่ ผู้ปกครอง ชุมชนและเอกชนในการจัดการศึกษาตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2546 เรื่อง ยุทธศาสตร์ การปฏิรูปการศึกษา นอกจากนี้ ให้ปรับปรุงสัดส่วนของคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนกรุง เทพมหานครและคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนจังหวัด โดยให้มีสัดส่วนกรรมการจากภาคเอก ชนมากกว่ากรรมการโดยตำแหน่งจากส่วนราชการ สำหรับกรุงเทพมหานครมีผู้แทนของกรุงเทพมหา นคร และให้มีผู้แทนขององค์การบริหารส่วนจังหวัดในคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนระดับ จังหวัด เพื่อการส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทน ราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป |
|||||||||||||||
| 2622 | รายงานผลการดำเนินงานตามระบบบริหารการเงินการคลังภาครัฐด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (GFMIS) | กค | 23/11/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการดำเนินงานตามระบบบริหาร
การเงินการคลังภาครัฐด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (GFMIS) โดยสรุปคือ ได้มีการเตรียมการก่อนปฏิบัติงาน จริงในวันที่ 1 ตุลาคม 2547 โดยเชิญประชุมชี้แจงส่วนราชการและหน่วยงานภาครัฐ มอบหมายเจ้าหน้าที่ ของสำนักงานคลังจังหวัด ให้คำปรึกษาแนะนำการปฏิบัติงาน GFMIS แก่ส่วนราชการในภูมิภาคและองค์ กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำหนดวิธีการให้ส่วนราชการและหน่วยงานภาครัฐถือปฏิบัติ เกี่ยวกับหลักเกณฑ์ การเบิกจ่ายและนำเงินส่งคลังตามระบบดังกล่าว จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจเพื่อตอบปัญหา สำหรับ ผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1-22 ตุลาคม 2547 มีการแจกจ่ายบัตรกำหนดสิทธิผู้ใช้งาน และ User ID ของ Excel Loader ให้บริการตอบปัญหาการปฏิบัติงาน โดยศูนย์เฉพาะกิจ ฯ รวม 2,888 ราย และได้ จัดทำแผนปฏิบัติงาน โดยมีเป้าหมายที่จะยกเลิกการปฏิบัติงานในระบบเดิมภายใน 6 เดือน เพื่อให้การ ปฏิบัติงานในระบบ GFMIS เป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนด |
|||||||||||||||
| 2623 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (แนวทางการบริหารจัดการระบบบำบัดน้ำเสียรวมของชุมชนทั่วประเทศ) | ทส | 23/11/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอผลการดำเนินการ
ตามประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 (ฝ่ายการเกษตรทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) เกี่ยวกับการมีระบบแก้ไขและป้องกันภัยน้ำเสียในชุมชน โดยกระทรวงทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อมได้จัดทำแบบบ่อดักไขมัน เพื่อให้จังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำไปเผยแพร่ รณรงค์ ให้ประชาชนในพื้นที่จัดทำบ่อดักไขมัน รวมทั้งจะเสนอให้มีการปรับแก้กฎหมายหรือข้อบัญญัติที่เกี่ยวข้องให้มีผล บังคับใช้กับบ้านเรือนที่พักอาศัยที่จะก่อสร้างใหม่ในอนาคต นอกจากนี้ ยังได้มีการส่งเสริมสนับสนุนการใช้เทค โนโลยีสะอาดและการผลิตที่สะอาด เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสะอาด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและการจัดการสิ่งแวดล้อมของกิจกรรมต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมชุมชนด้วย |
|||||||||||||||
| 2624 | การปรับปรุงระบบการออกเอกสารสิทธิในที่ดิน | มท | 16/11/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการกำหนดมาตรฐานการออกเอกสารสิทธิในที่ดินของรัฐ พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดหลัก เกณฑ์ วิธีการ และแนวทางปฏิบัติในการออกเอกสารสิทธิในที่ดินของรัฐ โดยมีคณะกรรมการกำกับดูแลเอก สารสิทธิในที่ดินของรัฐ การจัดทำหลักฐานแผนที่ การจำลองและการเขียนรูปแผนที่ การลงรูปแผนที่ในระวาง แผนที่ และการจัดเก็บหลักฐานแผนที่ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นและข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อ ไปได้ และให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวง เกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานอื่นทีเกี่ยวข้องรับความเห็นของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาดำเนินการในส่วน ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ การจัดทำแผนที่เพื่อใช้ประโยชน์ในการดำเนินการรังวัด (มาตราส่วน 1: 4,000) นั้น ให้เร่ง รัดดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยให้สำนักงบประมาณพิจารณาสนับสนุนงบประมาณค่าใช้จ่ายตามความ จำเป็น และเพื่อให้การรังวัดเพื่อออกเอกสารสิทธิในที่ดินดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว สมควรจัด แบ่งพื้นที่ดำเนินการ และกำหนดผู้รับผิดชอบที่ชัดเจนและให้ดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน และ สมควรให้มีการจ้างแรงงานในท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการจ้างงานซึ่งจะก่อให้เกิดรายได้แก่ราษฎรในท้องถิ่น นอก จากนี้ ให้ทุกหน่วยงานที่จะดำเนินในเรื่องนี้ เสนอเรื่องให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ) ใน ฐานะประธานกรรมการฝ่ายจัดหาที่ดินของรัฐด้านอุปทาน (supply side) ให้ประชาชนทำกิน เป็นผู้พิจารณา ให้ความเห็นชอบก่อนทุกครั้งก่อนดำเนินการต่อไป สำหรับกรณีที่ราษฎรได้บุกรุกหรือไม่มีเอกสารสิทธิการ ถือครองที่ดิน แต่ได้อาศัยที่ดินนั้นประกอบอาชีพโดยสุจริตมาเป็นเวลานานแล้ว สมควรผ่อนผันให้ราษฎรดัง กล่าวอยู่ในพื้นที่ไปก่อน จนกว่าการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของรัฐที่รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต ยงใจ ยุทธ) ดำเนินการอยู่จะแล้วเสร็จ แต่หากเป็นกรณีการบุกรุกใหม่หรือเป็นการบุกรุกของนายทุนเพื่อแสวงหา ประโยชน์มิชอบก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด |
|||||||||||||||
| 2625 | วาระการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ณ จังหวัดอุบลราชธานี (เรื่อง การเพิ่มรายได้เกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยในพื้นที่เขตตรวจราชการที่ 14) | นร | 16/11/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติมีมติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
ดังนี้ รับทราบกรอบปัญหาและแนวทางการพัฒนาเพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อย ในพื้นที่เขตตรวจราชการที่ 14 และเห็นชอบในหลักการแผนงานโครงการที่จังหวัดในเขตตรวจราชการที่ 14 เสนอขอรับการสนับสนุน จำนวนทั้งสิ้น 52 โครงการ วงเงินงบประมาณ 4,007.6 ล้านบาท ประกอบด้วย ด้านการเพิ่มมูลค่าข้าวหอมมะลิ จำนวน 11 โครงการ งบประมาณ 213.7 ล้านบาท ด้านบริหารจัดการ ทรัพยากรน้ำ จำนวน 32 โครงการ งบประมาณ 3,000.7 ล้านบาท และด้านการส่งเสริมการค้าชายแดน จำนวน 9 โครงการ งบประมาณ 793.2 ล้านบาท โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาแต่งตั้งผู้แทนภาค ประชาชนและปราชญ์ชาวบ้านเป็นคณะที่ปรึกษา (Advisory Body) ในด้านการจัดทำแผนการดำเนินการและ การแก้ไขปัญหาของจังหวัดตามระบบผู้ว่า CEO และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยให้รับความเห็นและข้อสังเกต ของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพาณิชย์ที่มีความเห็นว่า ควรให้มีการเจรจาและประสานงานกับ ประเทศเพื่อนบ้านทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศเพื่อให้มีการพัฒนาเชิงบูรณาการ เพิ่มความคุ้มค่าต่อ การลงทุน โดยเฉพาะโครงการพัฒนาช่องสะงำ ซึ่งเป็นการวางผังเมืองระยะยาวให้สามารถรองรับการขยาย ตัวทางเศรษฐกิจและเตรียมความพร้อมของพื้นที่ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดศรี สะเกษและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างได้อย่างดี แต่ให้คำนึงถึงความพร้อมด้านสภาพเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ของประเทศเพื่อนบ้าน ตลอดจนความจำเป็นของโครงการ ฯ ในปัจจุบัน เป็นต้น ไปประกอบ การดำเนินการ ทั้งนี้ ให้เพิ่มผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อม ในคณะกรรมการทบทวนลำดับความสำคัญของโครงการ ฯ และให้พิจารณาความจำเป็นเหมาะสมและ จัดลำดับความสำคัญของแผนงาน/โครงการต่าง ๆ ให้รอบคอบและไม่เกิดความซ้ำซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แผนงาน/โครงการเกี่ยวกับน้ำ เนื่องจากมีแผนงานและคณะกรรมการระดับชาติอยู่แล้ว และให้นำเสนอคณะ รัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง |
|||||||||||||||
| 2626 | การจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 | นร | 09/11/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่ประธานกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นเสนอ เกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์การจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้อง ถิ่น ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เพื่อลดผลกระทบจากการปรับลดและแปรญัตติเพิ่มของคณะกรรมาธิการ วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 โดยแบ่งเป็น การจัดสรรให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 110,610.70 ล้านบาท ตั้งงบประมาณไว้ที่กรมส่งเสริม การปกครองส่วนท้องถิ่น 95,873.23 ล้านบาท จัดสรรเป็นเงินอุดหนุนทั่วไป 47,252.32 ล้านบาท |
|||||||||||||||
| 2627 | การปฏิบัติราชการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่จังหวัดนนทบุรี | มท | 09/11/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลการเดินทางไปปฏิบัติราชการที่
จังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2547 เพื่อตรวจเยี่ยมผลการดำเนินงานตามนโยบายสำคัญของ รัฐบาลและนโยบายของกระทรวงมหาดไทย พร้อมทั้งรับทราบปัญหาและอุปสรรคจากการดำเนินงานตาม นโยบาย ซึ่งภาพรวมการปฏิบัติราชการครั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้มอบนโยบายและแนว ทางการปฏิบัติราชการของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยให้แก่หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ผู้บริหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และได้กล่าวถึงสภาวะของประเทศช่วงก่อนที่รัฐบาลจะ เข้ามาบริหารประเทศ ผลงานของรัฐบาลในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งทิศทางที่จะนำพาประเทศในอนาคต เพื่อให้ประชาชนมีความอยู่ดีกินดี นอกจากนี้ ยังได้มอบแนวทางการดำเนินงานที่สำคัญเพื่อถือปฏิบัติ ดังนี้ ในการดำเนินงานต่าง ๆ ขอให้ทำงานแบบบูรณาการ ลดความเป็นเจ้าของ เพิ่มความเป็นเจ้าภาพ ให้ ปรึกษาหารือแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง กับให้ยึดแนวทางการบริหารจัดการสมัย ใหม่ คือ รวมศูนย์ข้อมูล รวมศูนย์ความคิด รวมศูนย์การบริหารจัดการ แต่กระจายการทำงาน โดยยึดยุทธ ศาสตร์ของประเทศ และยุทธศาสตร์จังหวัดเป็นทิศทางในการทำงาน และขอความร่วมมือให้รณรงค์ให้พี่ น้องประชาชนลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น รวมถึงการใช้จ่ายเกินฐานะเพื่อรักษาหน้าตา ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาหนี้ สินนอกระบบตามมา |
|||||||||||||||
| 2628 | รายชื่อกระทู้ถามรัฐมนตรีที่รองนายกรัฐมนตรีเห็นชอบคำตอบแล้ว (จำนวน 8 เรื่อง 1.1 กระทู้ถามที่ 030 ร. เรื่อง มาตรฐานความปลอดภัยทางด้านอาหาร 1.2 กระทู้ถามที่ 1383 ร. เรื่อง มาตรการความปลอดภัยในการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ 1.3 กระทู้ถามที่ 1387 ร. เรื่อง การดำเนินการขยายเครือข่ายโทรศัพท์พื้นฐานในเขตอำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง 1.4 กระทู้ถามที่ 1411 ร. เรื่อง ขอให้ติดตั้งเสาโทรศัพท์เครือข่ายภายในหมู่บ้านและโทรศัพท์ไร้สาย 1.5 กระทู้ถามที่ 1426 ร. เรื่อง การพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ 1.6 กระทู้ถามที่ 1434 ร. เรื่อง การส่งเสริมฝึกอบรมความปลอดภัยสำหรับผู้ทำงานที่บ้าน 1.7 กระทู้ถามที่ 1435 ร. เรื่อง มาตรการในการส่งเสริมการอ่านไทย 1.8 กระทู้ถามที่ 1436 ร. เรื่อง มาตรการนำเอาภูมิปัญญาท้องถิ่นและดนตรีพื้นบ้านมาผสมผสานเป็นหลักสูตรการเรียนการสอนในสถานศึกษา | นร | 09/11/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอคำตอบกระทู้ถามของสมาชิก
สภาผู้แทนราษฎร ประกอบด้วย คำตอบกระทู้ถามที่ 030 ร. เรื่อง มาตรฐานความปลอดภัยทางด้านอาหาร ของนายจำเจน จิตรธร สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดสุโขทัย คำตอบกระทู้ถามที่ 1383 ร. เรื่อง มาตรการความ ปลอดภัยในการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ ของนายเปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอน แก่น คำตอบกระทู้ถามที่ 1387 ร. เรื่อง การดำเนินการขยายเครือข่ายโทรศัพท์พื้นฐานในเขตอำเภอเมือง ตรังจังหวัดตรัง ของนายสุวรรณ กู้สุจริต สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตรัง คำตอบกระทู้ถามที่ 1411 ร. เรื่อง ขอให้ติดตั้งเสาโทรศัพท์เครือข่ายในหมู่บ้านและโทรศัพท์ไร้สาย ของนายนิยม วรปัญญา สมาชิกสภาผู้ แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี คำตอบกระทู้ถามที่ 1426 ร. เรื่อง การพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ทางด้านวิทยา ศาสตร์ คำตอบกระทู้ถามที่ 1434 ร. เรื่อง การส่งเสริมฝึกอบรมความปลอดภัยสำหรับผู้ทำงานที่บ้าน คำ ตอบกระทู้ถามที่ 1435 ร. เรื่อง มาตรการในการส่งเสริมการอ่านไทย และคำตอบกระทู้ถามที่ 1436 ร. เรื่อง มาตรการนำเอาภูมิปัญญาท้องถิ่นและดนตรีพื้นบ้านมาผสมผสานเป็นหลักสูตรการเรียนการสอนใน สถานศึกษา ของนายเปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น รวม 8 ฉบับ และให้ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป |
|||||||||||||||
| 2629 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร | นร | 09/11/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักประสานงานการเมืองเสนอสรุปผลการประชุมคณะกรรมการ
ประสานงานสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 59/2547 วันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2547 ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาร่าง พระราชบัญญัติของคณะรัฐมนตรี รวม 8 ฉบับ ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยศิลปากร พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี พ.ศ. .... ร่าง พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ พ.ศ. .... โดยให้ส่งสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระ และ ร่างพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีรวบ รวมและดำเนินการเพื่อนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรชุดต่อไป รวมทั้งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทน ราษฎร ชุดที่ 21 ปีที่ 4 ครั้งที่ 28 และครั้งที่ 29 (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันพุธที่ 10 พฤศจิกายน 2547 และ วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน 2547 และมอบให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ) ตอบชี้แจง กระทู้ถามที่ 490 เรื่อง การป้องกันและปราบปรามยาบ้า แทนรองนายกรัฐมนตรี (ศาสตราจารย์ปุระชัย เปี่ยม สมบูรณ์) ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในการตอบกระทู้ถามดังนี้ ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับงาน ของกระทรวงโดยตรง ให้รัฐมนตรีที่รับผิดชอบเป็นผู้ตอบ เว้นแต่รัฐมนตรีไม่อยู่หรือไม่อาจไปตอบได้ หรือเป็น เรื่องสำคัญจึงให้รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลงานด้านนั้นเป็นผู้ตอบ และในกรณีที่เกี่ยวข้องกับงานของหลาย กระทรวง แต่เป็นเรื่องที่สามารถตอบชี้แจงรวมกันได้ อาจมอบหมายให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับงานด้านนั้นเป็น หลัก เป็นผู้ตอบกระทู้ถามเพียงผู้เดี่ยวได้ โดยให้คำนึงถึงความเหมาะสมและความสมบูรณ์ของคำตอบ โดยไม่ จำเป็นจะต้องให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องทั้งหมดร่วมกันตอบเสมอไป และให้คณะกรรมการ ฯ พิจารณาดำเนินการ เพื่อเร่งรัดร่างพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ให้ได้รับความเห็น ชอบของรัฐสภา และประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายได้โดยเร็วต่อไป |
|||||||||||||||
| 2630 | ขอรับงบประมาณอุดหนุนโครงการเปลี่ยนอาชีพของพนักงานส่วนท้องถิ่น | มท | 02/11/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 8 (ฝ่ายกฎ
หมาย ระบบราชการและการประชาสัมพันธ์) ที่มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอความเห็นของคณะ กรรมการมาตรการพัฒนาและบริหารกำลังคนเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง ในการประชุมครั้งที่ 2/2547 วัน ที่ 23 สิงหาคม 2547 ที่มีมติเกี่ยวกับการขอรับงบประมาณอุดหนุนโครงการเปลี่ยนอาชีพของพนักงานส่วน ท้องถิ่น ดังนี้ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำงบประมาณซึ่งปรับปรุงรายการใช้จ่ายจากเงินอุดหนุนที่ตั้งงบ ประมาณไว้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เพื่อสนับสนุนการถ่ายโอนบุคลากรและเงินอุดหนุนด้านการศึกษา มาใช้สำหรับการจ่ายเงินก้อนผู้ที่ออกจากราชการตามโครงการ ฯ และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนด แนวทางเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานให้เหมาะสมสอดคล้องกับแต่ละท้องถิ่น โดยให้สำนักงบประมาณ กระทรวงมหาดไทย (กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น) และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สำนัก งานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) ปรับปรุงรายการใช้จ่ายจากเงินอุด หนุนที่ตั้งงบประมาณไว้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เพื่อสนับสนุนการถ่ายโอนบุคลากรและเงินอุดหนุนด้าน การศึกษามาใช้สำหรับโครงการ ฯ และให้กระทรวงมหาดไทยรับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่น กรองฯ ที่มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยรับไปพิจารณาดำเนินการปรับอัตรากำลังและตำแหน่งข้าราชการ ส่วนท้องถิ่นให้เหมาะสมสอดคล้องกับภารกิจ หากภารกิจในตำแหน่งใดไม่มีความจำเป็นหรือไม่อาจปรับภาร กิจได้ก็ให้ยุบอัตราตำแหน่งนั้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
|||||||||||||||
| 2631 | แนวทางการบูรณาการการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง (ระหว่างวันที่ 1 - 31 ตุลาคม 2547) | มท | 02/11/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแนวทางการบูรณาการให้ความช่วยเหลือ
ผู้ประสบภัยแล้ง ตามมติที่ประชุมศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาความแห้งแล้ง เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2547 เช่น ให้มีการบรูณาการข้อมูลการแก้ไขปัญหาและการให้ความช่วยเหลือของทุกหน่วย โดย ให้อยู่ภายใต้ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจ ฯ ทั้งในส่วนกลางและจังหวัด โดยให้ข้อมูลมีรายละเอียดที่ครอบคลุม ชัดเจน แม่นยำ รวดเร็ว และถูกต้องตรงกัน และเชื่อมโยงเครือข่ายสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) เพื่อให้การ แก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้อง รวดเร็วและถูกต้อง รวม ทั้งให้มีการบูรณาการแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงมหาด ไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงกลาโหม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้ง ภาครัฐและเอกชนเพื่อรองรับการประสานการปฏิบัติร่วมกัน และให้ทุกหน่วยงานพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ ประสบภัยแล้งตามแนวทางและหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินทดรองราชการ ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วย เงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2546 ในด้านต่างๆ ดังนี้ ด้านการป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย ได้แก่ การจัดหากระสอบทรายเพื่อทำทำนบกักเก็บน้ำ จัดหาน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับ รถยนต์บรรทุกน้ำ ซ่อมแซมภาชนะรองรับน้ำ ค่าตอบแทน ค่าจ้างเหมาแจกจ่ายน้ำ และค่าซ่อมยานพาหนะ ด้านการแพทย์และการสาธารณสุข ได้แก่ การเป่าล้างบ่อบาดาล ซ่อมแซมระบบประปาหมู่บ้าน ด้านพืชและ การเกษตร ได้แก่ การจัดหาน้ำมันเชื้อเพลิงหรือกระแสไฟฟ้าสำหรับเครื่องสูบน้ำ การชดเชยพันธุ์พืช และสาร อินทรีย์วัตถุ ด้านปศุสัตว์ ได้แก่ การจัดหาสัตว์ วัคซีน และเวชภัณฑ์รักษาสัตว์ และด้านสังคมสงเคราะห์และฟื้น ฟูผู้ประสบภัย ได้แก่ การส่งเสริมอาชีพระยะสั้น ฯลฯ เป็นต้น |
|||||||||||||||
| 2632 | การจัดคาราวานแก้จน | ยธ | 26/10/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ) ผู้อำนวยการศูนย์
อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะความยากจนแห่งชาติ เสนอให้ศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะความยากจน แห่งชาติเป็นศูนย์กลางในการบูรณาการแผนงาน งบประมาณ โครงการ กิจกรรม และการปฏิบัติเกี่ยว กับงานคาราวานแก้จนของทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรเอก ชน และองค์กรภาคประชาชนต่าง ๆ |
|||||||||||||||
| 2633 | การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 พ.ศ. 2550 | กก | 26/10/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 (ฝ่าย
การต่างประเทศ วัฒนธรรม ท่องเที่ยวและกีฬา) ที่มีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬาเสนอการให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 พ.ศ. 2550 โดยมีกรุง เทพมหานครเป็นเมืองหลัก โดยให้ตั้งคณะกรรมการอำนวยการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 พ.ศ. 2550 โดยมีนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย เป็นประธานกรรมการ และคณะ กรรมการจัดการแข่งขัน ฯ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานกรรมการ ทั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ควรเร่งกำหนดเป้าหมายพื้นที่ที่จะใช้ดำเนินการแข่งขันให้ชัดเจนเพื่อ จัดทำแผนการใช้จ่ายงบประมาณเสนอตามขั้นตอนไป รวมทั้งพิจารณาจัดการแข่งขันกีฬาประเภทต่าง ๆ ให้กระจายไปยังจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ และมีความพร้อมของสนามแข่งขันเพื่อให้ได้ทั้งการส่ง เสริมการท่องเที่ยวและส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่น ตามข้อสังเกตของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ นอกจาก นี้ คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (การกีฬาแห่งประเทศไทย) และหน่วยงานที่เกี่ยว ข้องจัดทำรายละเอียด และงบประมาณค่าใช้จ่ายเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งในหลักการรัฐบาลจะให้ การสนับสนุนงบประมาณเท่าที่จำเป็น เฉพาะส่วนที่เกินจากเงินรายรับทั้งหมดที่พึงได้จากการเป็นเจ้าภาพ จัดการแข่งขันเท่านั้น โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย ควรประสานกับคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศ ไทย และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อเจรจาตกลงรายละเอียดเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของไทยในฐานะเจ้า ภาพจัดการแข่งขันให้เกิดความชัดเจน รอบคอบ และเป็นธรรม รวมถึงเรื่องการเตรียมการป้องกันปัญหา การปลอมแปลงสินค้าและของที่ระลึกในการจัดการแข่งขัน และให้เร่งจัดทำแผนพัฒนาการกีฬา/นักกีฬา ของไทยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับการเป็นเจ้าภาพ และเพื่อความ เป็นเลิศในการเข้าร่วมแข่งขันด้วย
|
|||||||||||||||
| 2634 | รายชื่อกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีเห็นชอบคำตอบแล้ว (จำนวน 3 เรื่อง) 1.1 กระทู้ถามที่ 1314 ร. เรื่อง นโยบายให้ทุกครัวเรือนมีไฟฟ้าใช้ 1.2 กระทู้ถามที่ 1342 ร. เรื่อง สวัสดิการผู้สูงอายุและคนพิการ 1.3 กระทู้ถามที่ 1414 ร. เรื่อง ขอให้บูรณะเมืองเก่าศรีเทพ อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ | นร | 26/10/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอคำตอบกระทู้ถามที่ 1415
ร. เรื่อง ขอให้บูรณะเมืองเก่าศรีเทพ อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ ของนายนิยม วรปัญญา สมาชิกสภาผู้ แทนราษฎร คำตอบกระทู้ถามที่ 1314 ร. เรื่อง นโยบายให้ทุกครัวเรือนมีไฟฟ้าใช้ ของพลตรี ศรีชัย มนตริ วัต สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และคำตอบกระทู้ถามที่ 1342 ร. เรื่อง สวัสดิการผู้สูงอายุและคนพิการ ของ นายนิยม วรปัญญา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยคำตอบกระทู้ ถามที่ 1415 ร. สรุปได้ว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร ร่วมกับจังหวัดเพชรบูรณ์และองค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ได้ดำเนินปรับปรุงแผนแม่บทอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ อำเภอศรีเทพ จังหวัด เพชรบูรณ์ ขึ้นใหม่ให้มีความสอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน เพื่อให้เป็นแนวทางในการอนุรักษ์และพัฒนา อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ ส่วนคำตอบกระทู้ถามที่ 1314 ร. สรุปได้ว่า รัฐบาลมีนโยบายให้ราษฎรได้มี ไฟฟ้าใช้ทุกครัวเรือนในปี พ.ศ. 2548 ได้แก่ โครงการขยายเขตไฟฟ้าให้ราษฎรในชนบท ระยะที่ 3 (คพช.3) ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และโครงการเร่งรัดการขยายการบริการไฟฟ้าโดยระบบผลิตกระแสไฟฟ้าด้วย พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Home System) ของกระทรวงมหาดไทย ในส่วนของการอนุญาตให้มีการนำ สาธารณูปโภคต่าง ๆ เข้าไปในเขตพื้นที่ป่าไม้ได้หรือไม่ นั้น จะต้องพิจารณาเป็นราย ๆ โดยยึดถือมติคณะ รัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541 ซึ่งคณะรัฐมนตรีให้ข้อสังเกตว่า ในพื้นที่เขตอนุรักษ์ที่มีราษฎรครอบ ครองอยู่ราษฎรมักจะร้องขอให้ทางราชการจัดสาธารณูปโภคพื้นฐานหรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้ กรมป่าไม้พิจารณาด้วยความรอบคอบว่า การจัดสาธารณูปโภคพื้นฐานหรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในพื้นที่นั้น ๆ สมควรหรือไม่ และจะเป็นการยั่วยุให้เกิดการบุกรุกหรือตัดไม้ทำลายป่าเพิ่มขึ้นหรือไม่ และ คำตอบกระทู้ถามที่ 1342 ร. สรุปได้ว่า รัฐบาลมีนโยบายช่วยเหลือคนชราอายุเกิน 60 ปี เพื่อให้สามารถ ดำรงชีวิตอยู่ในครอบครองและชุมชนอย่างมีความสุข และให้ความช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาความ เดือดร้อนและไม่มีผู้อุปการะ โดยให้การสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุรายละ 300 บาทต่อเดือน ตลอดจน ให้การสนับสนุนรถเข็น รถโยก แก่คนพิการ โดยในส่วนของจังหวัดลพบุรีได้รับการจัดสรรงบประมาณเพื่อ การนี้เป็นเงิน 104,000 บาท นอกจากนี้ กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน ได้ให้การสนับสนุน เครื่องมือเพื่อประกอบอาชีพได้เฉพาะกรณีผู้ป่วย หรือคนพิการที่สามารถรวมกลุ่ม และขอเข้าโครงการกอง ทุนเพื่อรับงานไปทำที่บ้าน
|
|||||||||||||||
| 2635 | รายงานผลการจัดสัมมนาโครงการ "รัฐบาลสื่อสารสู่สื่อท้องถิ่น" ครั้งที่ 7 | นร | 26/10/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ รับทราบรายงานผลการจัดสัมมนา
"รัฐบาลสื่อสารสู่สื่อท้องถิ่น" ครั้งที่ 7 ซึ่งสำนักโฆษกสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กรมประชาสัมพันธ์ และ โฆษกกระทรวง จัดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม 2547 ณ จังหวัดเชียงราย ในพื้นที่เขตตรวจราชการที่ 1 ประกอบ ด้วย จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และลำพูน โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นาย วิษณุ เครืองาม) เป็นประธานการสัมมนา รวมทั้งตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนท้องถิ่นที่เข้าร่วมการสัมมนาร่วม กับผู้ว่าราชการจังหวัดผู้ตรวจราชการกระทรวง คณะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และโฆษกกระทรวง ใน ประเด็นปัญหาต่าง ๆ อาทิเช่น การปราบปรามผู้มีอิทธิพลในวงการสื่อวิทยุ และการเช่าช่วงเวลารายการวิทยุ ความคืบหน้าของยุทธศาสตร์สี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ ทิศทางการพัฒนาเมืองเชียงใหม่ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาใน กลุ่มล้านนา นโยบายการเสนอข่าวสารในเขตรับผิดชอบที่ 1 ที่เห็นควรให้สื่อท้องถิ่นส่งตรงถึงคณะทำงานโดย ตรง โดยไม่ต้องจ่ายค่าไปรษณีย์ และเปิดเว็บไซต์เฉพาะในเรื่องนี้ รวมทั้งปัญหาแหล่งน้ำ ภัยแล้ง น้ำท่วม และ ปัญหาความยากจน เป็นต้น พร้อมกันนี้สื่อมวลชนท้องถิ่นได้ให้ข้อเสนอแนะว่า ควรจัดโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสื่อมวลชนท้องถิ่นและหน่วยงานภาครัฐ โดยจัดโครงการในแต่ละพื้นที่อย่างน้อย ปีละ 2 ครั้ง ให้เวลาในการถามและตอบคำถามมากขึ้น และขอให้รัฐบาลนำปัญหาและข้อเสนอแนะต่าง ๆ ไป ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมและขอให้แจ้งผลการดำเนินงานให้สื่อมวลชนทราบ และอนุมัติให้หน่วยงานที่เกี่ยว ข้องในประเด็นปัญหาที่สื่อมวลชนท้องถิ่นได้นำเสนอ ไปพิจารณาดำเนินการแก้ไขให้เกิดประโยชน์ตรงกับความ ต้องการของประชาชนในท้องถิ่น และให้แจ้งผลการดำเนินการให้โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีทราบ เพื่อชี้ แจงให้สื่อมวลชนและประชาชนได้รับทราบต่อไป |
|||||||||||||||
| 2636 | รายงานสรุปผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 | กค | 26/10/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานสรุปผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำ
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 ในภาพรวมทั้งปี โดยผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 ณ สิ้นเดือนกันยายน 2547 ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายเงินจากคลังทั้งสิ้น 956,573 ล้าน บาท หรือร้อยละ 94.57 ของวงเงินงบประมาณ 1,011,500 ล้านบาท ส่วนผลการเบิกจ่ายจำแนกตามลักษณะ เศรษฐกิจ โดยในส่วนของรายจ่ายประจำ มีการเบิกจ่ายทั้งสิ้น 830,160.77 ล้านบาท หรือร้อยละ 99.89 ของ งบประมาณรายจ่ายประจำ 831,037.27 ล้านบาท และรายจ่ายลงทุน มีการเบิกจ่ายทั้งสิ้น 137,563.48 ล้าน บาท หรือร้อยละ 69.84 ของงบประมาณรายจ่ายลงทุน 196,962.73 ล้านบาท และผลการเบิกจ่ายจำแนก ตามกระทรวง ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2547 กระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนา สังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงแรงงาน มีอัตราการเบิกจ่ายต่อวงเงินงบประมาณเท่ากับ 99.32 98.00 และ 96.98 ตามลำดับ สำหรับผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 เพิ่มเติม จำนวน 135,500 ล้านบาท ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายแล้ว จำนวน 85,085 ล้านบาท หรือร้อยละ 62.79 ของวงเงินงบประมาณ 135,500 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายตามมาตรการพัฒนา และบริหารกำลังคนเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง จำนวน 13,733 ล้านบาท รายการค่าใช้จ่ายการปรับเงินค่า ตอบแทนบุคลากรภาครัฐ จำนวน 11,910 ล้านบาท รายการเงินเบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ (รายการเงิน บำเหน็จดำรงชีพ) จำนวน 43,307 ล้านบาท รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและการ พัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ จำนวน 5,146 ล้านบาท และเงินอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฯ จำนวน 10,989 ล้านบาท และผลการเบิกจ่ายซึ่งรวมงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ณ สิ้นเดือนกันยายน 2547 ในภาพ รวมจำนวน 1,163,500 ล้านบาท ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายเงินจากคลังทั้งสิ้น 1,052,809.36 ล้าน บาท หรือร้อยละ 90.49 ของวงเงินงบประมาณดังกล่าว |
|||||||||||||||
| 2637 | รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการส่งเสริมและสนับสนุนการมีงานทำของนักเรียน นักศีกษา ให้มีรายได้ระหว่างเรียนของกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่เมษายน - กันยายน 2547 | ศธ | 26/10/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานโครง
การส่งเสริมและสนับสนุนการมีงานทำของนักเรียน นักศึกษาให้มีรายได้ระหว่างเรียนของกระทรวงศึกษาธิ การ ตั้งแต่เดือนเมษายน-กันยายน 2547 มีการจ้างงานนักเรียน นักศึกษาทั้งที่ลงทะเบียนตามแบบ สย.4 และที่ไม่ได้ลงทะเบียนในหน่วยงานต่าง ๆ และสถานศึกษา รวมทั้งสิ้น 322,418 คน จำแนกเป็น ภาครัฐ ทั้ง 19 กระทรวง รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 36,174 คน ภาคเอกชน 120,417 คน และ สถานศึกษา 165,626 คน สำหรับแนวทางการดำเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 กระทรวงศึกษาธิ การได้ขอรับการสนับสนุนงบกลางปี พ.ศ. 2547 (ระยะที่ 2) จำนวน 400 ล้านบาท จากศูนย์ต่อสู้เพื่อเอา ชนะความยากจนแห่งชาติ เพื่อให้สถานศึกษาจ้างงานนักเรียน นักศึกษา ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 และ จะมีการติดตามประเมินผลการดำเนินงาน ความพึงพอใจของผู้รับบริการทั้งนักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ ผู้บริหาร ผู้ปกครอง และผู้ประกอบการ ตลอดจนปัญหาอุปสรรคและแนวทางแก้ไข เพื่อนำเสนอคณะอนุ กรรมการส่งเสริมอาชีพและการมีงานทำ รวมทั้งจัดพิมพ์คู่มือการดำเนินงานของนักเรียน นักศึกษา คู่มือ สถานประกอบการ และคู่มือการบริหารโครงการส่งเสริมและสนับสนุนการมีงานทำของนักเรียน นักศึกษา ให้มีรายได้ระหว่างเรียนของกระทรวงศึกษาธิการ |
|||||||||||||||
| 2638 | ขออนุมัติเพิ่มเติมสถานที่ติดตั้งระบบผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ให้แก่ ศาสนสถาน และสถานที่ราชการต่าง ๆ ในพื้นที่ห่างไกล | มท | 26/10/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคดำเนินการติดตั้ง
ระบบไฟฟ้าให้แก่ครัวเรือนของประชาชน ภายใต้โครงการเร่งรัดขยายบริการไฟฟ้าโดยระบบผลิตกระแสไฟฟ้า ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ (solar Home System) ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ให้ครบถ้วน และทั่วถึงมากที่สุดก่อน สำหรับการติดตั้งให้แก่สถานที่ราชการ นั้น ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องขอตั้งงบประมาณประจำปี เพื่อดำเนิน การ ส่วนกรณีศาสนสถานที่ตั้งอยู่ห่างไกลจากชุมชนมากและตรวจสอบดูแลได้ยาก ให้พิจารณาความจำเป็น เหมาะสมเป็นกรณี ๆ ไป ทั้งนี้ ให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาครับความเห็นของกระทรวงพลังงาน สำนักนายก รัฐมนตรี (สำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) และสำนักงบประมาณ เกี่ยวกับการกำหนดแนวทางการพิจารณาติดตั้งระบบผลิตกระแสไฟฟ้าให้กับสถานที่ดังกล่าว ไปประกอบการ พิจารณาต่อไปด้วย |
|||||||||||||||
| 2639 | นโยบายการจัดการศึกษาสำหรับเด็กด้อยโอกาส | ศธ | 26/10/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4.1 (ฝ่าย
การศึกษา) (เดิม) ที่มีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอนโยบายการจัดการศึกษา สำหรับเด็กด้อยโอกาส โดยมีนโยบายและยุทธศาสตร์การจัดการศึกษาสำหรับเด็กด้อยโอกาส รวม 5 ด้าน ได้แก่ (1) การให้บริการการศึกษาอย่างเสมอภาคและทั่วถึงเพื่อให้เด็กด้อยโอกาสทุกคนมีโอกาสได้รับการ ศึกษาอย่างเหมาะสมและหลากหลายรูปแบบ โดยคำนึงถึงหลักการสิทธิเด็กและสิทธิมนุษยชน และศักดิ์ ศรีความเป็นมนุษย์ (2) จัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพ เน้นการเรียนรู้เพื่อชีวิตที่เหมาะสมกับเด็กด้อยโอกาส (3) ส่งเสริมสนับสนุนให้มีระบบการจัดสรรทรัพยากรเพื่อการศึกษาและปัจจัยพื้นฐานอื่น ๆ ที่สอดคล้อง กับสภาพของเด็กด้อยโอกาสในแต่ละประเภท (4) จัดระบบการบริหารจัดการให้เอื้อต่อการจัดการศึกษา สำหรับเด็กด้อยโอกาสอย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพ และ (5) สร้างและพัฒนาเครือข่ายการจัดการ ศึกษาสำหรับเด็กด้อยโอกาสให้มีความพร้อมในการจัดการศึกษา และสามารถให้ความช่วยเหลือเด็กด้อย โอกาสได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันการณ์ โดยให้กระทรวงศึกษาธิการปรับปรุงเอกสารนโยบายดังกล่าว ให้เป็นปัจจุบันตามข้อมูลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และให้กระทรวงการ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงวัฒนธรรม และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนปฏิบัติการตามนโยบายดังกล่าว เพื่อบูรณาการกับการพัฒนาสังคม ในภาพรวมให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยให้รับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ เกี่ยวกับการ จัดทำแผนปฏิบัติการต้องคำนึงถึงการกำหนดระดับความสำเร็จของการดำเนินภารกิจตามยุทธศาสตร์ตาม นโยบายทั้ง 5 ด้าน ให้เป็นรูปธรรม กำหนดตัวชี้วัดผลความก้าวหน้าของการดำเนินการ และกำหนดให้มี กระบวนการติดตามประเมินผลและรายงานเป็นระยะ ๆ นอกจากนี้ ควรจัดแบ่งภารกิจตามแผนปฏิบัติการ ให้ชัดเจนว่าแต่ละกิจกรรมควรเป็นภารกิจของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเป็นการเฉพาะ หรือเป็นกิจกรรม ที่หน่วยงานมากกว่า 1 หน่วยงานต้องร่วมมือกันดำเนินงาน โดยมีหน่วยงานใดเป็นหน่วยงานหลัก เพื่อให้มี ผู้รับผิดชอบต่อผลการดำเนินงานอย่างแท้จริง และควรมีมาตรการสนับสนุนการมีส่วนร่วมขององค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่นและเอกชน และให้กระทรวงวัฒนธรรมเป็นหน่วยงานร่วมดำเนินการตามนโยบายดังกล่าว ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ทั้งนี้ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นเจ้าภาพหลัก และเร่งดำเนินการต่าง ๆ ในเชิงรุก เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมและเป็นประโยชน์แก่เด็กด้อยโอกาสโดยเร็ว ต่อไป |
|||||||||||||||
| 2640 | การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจชายแดน จังหวัดตาก (Agenda based) | นร | 19/10/2547 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการแนวทางการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจชายแดนจังหวัดตาก ตามที่
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ และให้ไปศึกษาความเหมาะสมเพิ่มเติม โดยให้รับความเห็นของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วยว่า การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจชายแดน ควรต้องพิจารณา ดำเนินการในลักษณะชุมชนที่ไร้พรมแดนระหว่างกัน (cross border community) เพื่อให้ประชาชนไทยและ ประเทศเพื่อนบ้านบริเวณชายแดนเดินทางไปมาหาสู่และติดต่อค้าขายกันได้อย่างสะดวกและคล่องตัว อันจะ ทำให้เกิดผลดีแก่ทั้งสองฝ่ายทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการดำเนินชีวิตของประชาชน รวมทั้งจะมีส่วนช่วยให้ สามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ เช่น ปัญหาแรงงาน การลักลอบเข้าเมือง ปัญหาการจัดการศึกษา และปัญหา สัญชาติ เป็นต้น และให้รับความเห็นของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปประกอบการดำเนินการ ด้วย ทั้งนี้ โครงการที่ต้องขอรับจัดสรรงบกลาง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ให้จัดลำดับความสำคัญโครงการ ก่อนขอรับการจัดสรรงบประมาณ สำหรับโครงการด้านแรงงานต่างด้าว มอบให้กระทรวงแรงงาน โดยคณะ กรรมการบริหารแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง (กบร.) เป็นผู้พิจารณาต่อไป โดยในชั้นนี้ให้หน่วยงานที่ เกี่ยวข้องดำเนินการเฉพาะโครงการที่จำเป็นเร่งด่วนไปก่อน คือ โครงการศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้น โครง การพัฒนาท่าอากาศยานแม่สอด โดยกรมขนส่งทางอากาศ โครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมเทศบาล เมืองแม่สอด และอำเภอแม่ระมาด โดยกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น โครงการวางผังเมืองรวม และผัง เฉพาะชุมชนชายแดน โดยสำนักงานโยธาธิการและผังเมือง และกรมโยธาธิการและผังเมือง โครงการศึกษา ความเหมาะสมการจัดตั้งสถานีขนส่งสินค้าอำเภอแม่สอด โดยกรมการขนส่งทางบก โดยให้ปรับวงเงินค่าใช้ จ่ายให้เหมาะสมเท่าที่จำเป็น ในส่วนของโครงการขยายถนน 4 ช่องจราจร สายตาก-อำเภอแม่สอด ตอน ตาก-ลานสาง โดยกรมทางหลวง ให้ดำเนินการเฉพาะการศึกษาความจำเป็นเหมาะสมและผลกระทบสิ่งแวด ล้อมให้ชัดเจนเฉพาะในช่วงที่มีความสำคัญและจะดำเนินการในลำดับต้นก่อนเท่านั้น และให้หน่วยงานที่เกี่ยว ข้องขอตกลงในรายละเอียดเกี่ยวกับงบประมาณค่าใช้จ่ายในการดำเนินการกับสำนักงบประมาณ แล้วดำเนิน การต่อไปได้ |
|||||||||||||||
.....
