รูปแบบการแสดงผล |
C
C
C
A
A
A
รูปแบบการแสดงผล |
C
C
C
ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
กรุณาป้อนคำค้นหา
วันที่มีมติ
Start date:
End date:
ถึง
เลขที่หนังสือ/ปี
ส่วนราชการเจ้าของเรื่อง
กรมการปกครอง ( ปค )
กรมประชาสัมพันธ์ ( กปส )
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ( สถ )
กรรมการ ( กรรมการ )
กระทรวง/ทบวง/กรม ( เวียน )
กระทรวงกลาโหม ( กห )
กระทรวงกลาโหม ( กห(เก่า) )
กระทรวงการคลัง ( กค )
กระทรวงการคลัง ( กค(เก่า) )
กระทรวงการต่างประเทศ ( กต )
กระทรวงการต่างประเทศ ( กต(เก่า) )
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ( กก )
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ( พม )
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ( อว )
กระทรวงคมนาคม ( คค )
กระทรวงคมนาคม ( คค(เก่า) )
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ( ดศ )
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ( ทส )
กระทรวงพลังงาน ( พน )
กระทรวงพาณิชย์ ( พณ )
กระทรวงพาณิชย์ ( พณ(เก่า) )
กระทรวงมหาดไทย ( มท )
กระทรวงมหาดไทย ( มท(เก่า) )
กระทรวงยุติธรรม ( ยธ )
กระทรวงยุติธรรม ( ยธ(เก่า) )
กระทรวงวัฒนธรรม ( วธ )
กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ( วท )
กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ( วว. )
กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการพลังงาน ( วทพ )
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ( วท )
กระทรวงศึกษาธิการ ( ศธ )
กระทรวงศึกษาธิการ ( ศธ(เก่า) )
กระทรวงสาธารณสุข ( สธ )
กระทรวงสาธารณสุข ( สธ(เก่า) )
กระทรวงอุตสาหกรรม ( อก )
กระทรวงอุตสาหกรรม ( อก(เก่า) )
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ( กษ )
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ( กษ(เก่า) )
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ( ทก )
กระทรวงแรงงาน ( รง )
กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ( รส )
กรุงเทพมหานคร ( กทม )
กรุงเทพมหานคร ( กทม )
กลุ่มงานดูแลและพัฒนาศักยภาพนักเรียนทุนพระราชทานในโครงการทุนการศึกษาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ( กพน. )
กลุ่มงานเลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี ( กคอ )
กองการประชุมคณะรัฐมนตรี ( กปค )
กองการประชุมคณะรัฐมนตรี ( กปค. )
กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ( กสศ )
กองนิติธรรม ( กนธ )
กองบริหารงานสารสนเทศ ( กบส )
กองพัฒนายุทธศาสตร์และติดตามนโยบายพิเศษ ( กพต )
กองวิเคราะห์เรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี ( กวค )
กองส่งเสริมและประสานงานคณะรัฐมนตรี ( กสค )
กองอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ( กอค )
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ( กอ.รมน. )
การกีฬาแห่งประเทศไทย ( กกท )
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ( ททท )
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ( กทพ )
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ( กนอ )
การประปานครหลวง ( กปน )
การประปาส่วนภูมิภาค ( กปภ )
การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ( ปตท )
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ( รฟม )
การรถไฟแห่งประเทศไทย ( รฟท )
การไฟฟ้านครหลวง ( กฟน )
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ( กฟผ )
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ( กฟภ )
คณะกรรมการ ( คกก )
คณะกรรมการ กปนร. ( กปนร. )
คณะกรรมการการเลือกตั้ง ( ลต )
คณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ ( กนร )
คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ ( คปร )
คณะกรรมการช่วยเหลือประชาชน ( คชช )
คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ( กนศ )
คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ( คชก )
คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร ( ปสส )
คณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายเพื่อการพัฒนาประเทศ ( คปป. )
คณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติ ( กงช )
คณะกรรมการว่าด้วยการปฏิบัติราชการเพื่อประชาชน ( ปปร )
คณะกรรมาธิการ ( คกธ )
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ( ปข )
ทบวงมหาวิทยาลัย ( ทม )
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ( ธกส )
ธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท )
บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย ( บสท )
บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ( บอย )
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ( กบท )
บริษัท การปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ( ปตท )
บริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด ( บทม )
บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ( นร61 )
บัณฑิต ( นิด้า )
ปธ.คกก.นโยบายถั่วเหลืองและพืชน้ำมันอื่น ( ปธคกก.ถั่ว )
ปธ.คกก.นโยบายป่าไม้แห่งชาติ ( ปธ.คกก.ป่า )
ปธ.คกก.นโยบายยางธรรมชาติ ( ปธ.คกก.ยาง )
ประธาน ( ปธ )
ประธานสมัชชาผู้ขับรถแท็กซี่แห่งประเทศไทย ( ส.ผท.ท. )
ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม (คสช.) ( กก.คสช. )
มหาวิทยาลัยขอนแก่น ( มข )
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ( มธ )
มหาวิทยาลัยนเรศวร ( มน )
มหาวิทยาลัยบูรพา ( มบ )
มหาวิทยาลัยรามคำแหง ( มร )
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ( มสธ )
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ( มก )
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ( มช )
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ( มทส )
รอง นรม ( รอง นรม )
ราชบัณฑิตยสถาน ( รถ )
ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ( รจภ. )
ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ( ศปมผ. )
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ( ศมส. )
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ( ศมส. )
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( ศอบต )
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( นร52 )
ศูนย์อํานวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ( นร54 )
สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ( สคช )
สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ( บจธ )
สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ( บจธ. )
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ( นิด้า )
สถาบันพระปกเกล้า ( พป )
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง ( สวพส. )
สนง.คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( กลต )
สภากาชาดไทย ( กช )
สภาสถาปนิก ( สภส )
สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ( สขช )
สำนักงบประมาณ ( สงป )
สำนักงาน ป.ย.ป. ( นร15 )
สำนักงานกองทุนพัฒนาสื่อปลอดถัยและสร้างสรรค์ ( พปส. )
สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ( กฟก )
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ( สกว )
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ( สกว )
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ( นร62 )
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ( สสส. )
สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ( สทบ. )
สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ( สตง )
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ( กพท. )
สำนักงานคกก.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ปช )
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ( สคก )
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ ( สกศ )
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต )
สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ( สขค )
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กสทช )
สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( ทช )
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ( ก.ค.ศ. )
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ( กพ )
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ( สคบ )
สำนักงานคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก ( สจร )
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ( สพช )
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ( นร63 )
สำนักงานคณะกรรมการปฏิรูประบบราชการ ( ปรร )
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ปปช )
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ( ปปท. )
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ( ปปท )
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ( ปปส )
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ( กพร )
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ( สศช )
สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ( กร )
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ( วช )
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ( วช )
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ( นร13 )
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ( สกท )
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา ( สกสค. )
สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ( สม )
สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ( สช )
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ( อย )
สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ( ตผ )
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( ตช )
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ( นร14 )
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ( ทก. )
สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า ( สนค )
สำนักงานบริหารการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน(องค์การมหาชน) ( สปท )
สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้(องค์การมหาชน) ( สบร )
สำนักงานปฏิรูปการศึกษา ( สปศ )
สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ( สป.กห )
สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ( สป.ดท )
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ( สปน )
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ( ปง )
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ( ปปง )
สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ( ผผ )
สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ( ผร )
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ( พศ. )
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ( พศ )
สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) ( สพค. )
สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) ( สมศ )
สำนักงานศาลปกครอง ( ศป )
สำนักงานศาลยุติธรรม ( ศย )
สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ( ศร )
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ( นร53 )
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม ( สวส. )
สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ( สอซช. )
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) ( สศส03 )
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ( สมช )
สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ( สสป )
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ( นร.11 )
สำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ( สกช. )
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ( สปสช. )
สำนักงานอัยการสูงสุด ( อส )
สำนักงานเลขาธิการ ( สลธ )
สำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ( คมช )
สำนักงานเลขาธิการรัฐสภา ( สภ )
สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ( สว )
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ( สผ )
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ( สศอ )
สำนักนายกรัฐมนตรี ( นร )
สำนักนิติธรรม ( สนธ )
สำนักบริหารกลาง ( สบก )
สำนักบริหารงานสารสนเทศ ( สบส )
สำนักพระราชวัง ( พว )
สำนักพัฒนายุทธศาสตร์และติดตามนโยบายพิเศษ ( สพต )
สำนักราชเลขาธิการ ( รล )
สำนักวิเคราะห์เรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี ( สวค )
สำนักส่งเสริมและประสานงานคณะรัฐมนตรี ( สปค )
สำนักอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ( สอค )
สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( สลธ.คสช. )
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ( สลค )
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ( สลน )
สำนักโฆษก ( สน.ฆ )
สํานักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ( สกพอ )
สํานักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก, การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ( กนอ+ส )
หน่วยงานอื่น ๆ ( อื่นๆ )
องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ( ส.ส.ท )
องค์การคลังสินค้า ( อคส )
องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ( อตก )
องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน(องค์การมหาชน) ( อพท )
องค์การบริหารส่วนจังหวัด ( อบจ. )
องค์การบริหารส่วนตำนล ( อบต. )
องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ ( รสพ. )
องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย ( อสค )
องค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย ( อสมท )
องค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน ( ปรส )
เนคเทค ( เนคเทค )
เวียนรัฐมนตรี ( ว(ร) )
ค้นหา
ล้างคำค้น
คู่มือการใช้งาน
หน้าที่ 131 จากทั้งหมด 199 หน้า แสดงรายการที่ 2601 - 2620 จากข้อมูลทั้งหมด 3975 รายการ
ลำดับ
ชื่อเรื่อง
ส่วนราชการ
เจ้าของเรื่อง
วันที่มีมติ
2601
รายงานผลการติดตามการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง พื้นที่เขตตรวจราชการที่ 13
นร
21/12/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรายงานผลการติดตามการแก้ไข
ปัญหาภัยแล้ง พื้นที่เขตตรวจราชการที่ 13 ประกอบด้วย จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ เมื่อ
วันที่ 1 ธันวาคม 2547 ของรองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) สรุปดังนี้ จากการติดตามการแก้ไข
ปัญหาดังกล่าว มีพื้นที่ประสบภัยรวม 78 อำเภอ 9 กิ่งอำเภอ 692 ตำบล 7,550 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตร
จำนวน 4,352,016 ไร่ ในส่วนของจังหวัดได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ สนับ
สนุนรถบรรทุกน้ำ ช่วยเหลือด้านการเกษตรแจกจ่ายน้ำอุปโภค-บริโภค ใช้เงินทดรองราชการเพื่อช่วยผู้ประสบ
ภัยตามระเบียบกระทรวงการคลัง พ.ศ. 2546 ในการนี้รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปพัลลภ) ได้สั่งการ
ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 4 จังหวัด ไปเร่งรัดการสำรวจข้อมูลพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากปัญหาภัยแล้งในปี
2547 โดยด่วน ให้ทุกจังหวัดประสานงานกับภาคเอกชนเพื่อให้ช่วยแก้ไขปัญหารถบรรทุกน้ำที่แต่ละจังหวัดมีไม่
เพียงพอ และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นช่วยเหลือค่าใช้จ่ายด้านอื่น ๆ เช่น ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงบริหาร
จัดการในรูปแบบบูรณาการ โดยไม่คำนึงถึงเขตการปกครอง แต่ให้ดำเนินการในลักษณะของกลุ่มจังหวัด ให้
ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยธรรม
ชาติ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2547 แต่จังหวัดยังมิได้รับเงินทำให้ไม่
สามารถจ่ายเงินให้เกษตรกรได้ รวมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับปรุงแก้ไขการให้ความช่วยเหลือ
ราษฎรผู้ประสบภัย เช่น การสำรวจความเสียหาย การเบิกจ่ายงบประมาณให้รวดเร็ว
2602
รายงานผลการจัดสัมมนาโครงการ "รัฐบาลสื่อสารสู่สื่อท้องถิ่น" ครั้งที่ 8
นร
14/12/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ รับทราบรายงานผลการจัดสัมมนา
"รัฐบาลสื่อสารสู่สื่อท้องถิ่น" ครั้งที่ 8 (ครั้งสุดท้ายของปีงบประมาณ พ.ศ. 2547) ซึ่งสำนักโฆษก สำนักเลขาธิ
การนายกรัฐมนตรี กรมประชาสัมพันธ์ และโฆษกกระทรวง จัดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 17 กันยายน 2547 ณ จังหวัด
นครราชสีมา ในพื้นที่เขตตรวจราชการที่ 13 ประกอบด้วย จังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา สุรินทร์ และบุรีรัมย์ โดย
มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (ตำแหน่งในขณะนั้น) ซึ่งได้รับมอบหมาย
จากรองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) เป็นประธานการสัมมนา รวมทั้งตอบข้อซักถามของสื่อมวลชน
ท้องถิ่นที่เข้าร่วมการสัมมนาร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ตรวจราชการกระทรวง คณะโฆษกประจำสำนักนายก
รัฐมนตรี และโฆษกกระทรวง ในประเด็นปัญหาต่าง ๆ อาทิ ความเป็นธรรมในการประเมินข้าราชการ การจัด
อบรมสื่อมวลชนท้องถิ่นในภาพรวมไม่ว่าจะเรื่องจรรยาบรรณหรือความมั่นคงของชาติและควรมีการแลกเปลี่ยน
ข้อมูลข่าวสารเหล่านี้กันโดยจัดสัมมนาร่วมกัน รวมทั้งจะทำอย่างไรให้สื่อปลอดจากการคุกคามของผู้มีอิทธิพล
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นปัญหาอื่น ๆ ได้แก่ ขอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการระดับตำบลในรูปแบบขององค์กร
วัฒนธรรมตำบล และจะต้องไม่มีการกุมอำนาจในระดับตำบลอีกไป ความชัดเจนของเรื่องไข้หวัดนก และปัญหา
การคอรัปชั่นในองค์การบริหารส่วนตำบล เป็นต้น พร้อมกันนี้สื่อมวลชนท้องถิ่นได้ให้ข้อเสนอแนะว่า ควรจัด
โครงการนี้อย่างต่อเนื่องให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ และเพิ่มระยะเวลาในการจัดสัมมนา และจำนวนสื่อมวลชนที่เข้า
ร่วมสัมมนาให้มากกว่านี้ พร้อมทั้งขอให้นำข้อสรุปที่ได้จากการสัมมนาไปปฏิบัติให้เห็นเป็นรูปธรรม และเสนอ
ให้มีการจัดกิจกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสื่อมวลชนด้วย และอนุมัติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ในประเด็นปัญหาที่สื่อมวลชนท้องถิ่นได้นำเสนอไปพิจารณาดำเนินการแก้ไขให้เกิดประโยชน์ตรงกับความต้อง
การของประชาชนในท้องถิ่น และให้แจ้งผลการดำเนินการให้โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีทราบ เพื่อชี้
แจงให้สื่อมวลชนและประชาชนได้รับทราบต่อไป
2603
การส่งเสริมและพัฒนาการลงทุนกิจการเหมืองแร่ในประเทศ
อก
14/12/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอว่า ตามที่กรมอุตสาหกรรมพื้นฐาน
และการเหมืองแร่รายงานผลการอนุญาตสิทธิสำรวจและทำเหมืองแร่ ในช่วงรัฐบาลรอบ 4 ปี จำนวน 256
แปลง ซึ่งมีคำขอที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 480 แปลง นั้น เพื่อให้การ
อนุญาตประทานบัตรทำเหมืองแร่ดังกล่าวเป็นไปอย่างรวดเร็ว อันส่งผลให้สามารถขยายศักยภาพทางด้าน
การพัฒนาและขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมในเวทีการค้าโลกภายใต้ระบบการค้าเสรีได้
อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนเพิ่มรายได้ประชาชาติและยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนในท้องถิ่นให้
ดียิ่งขึ้น กระทรวงอุตสาหกรรมจะได้ประสานกับกระทรวงที่เกี่ยวข้องในการปรับปรุงกระบวนการพิจารณา
ประทานบัตร และเรื่องอื่น ๆ ในทำนองเดียวกันที่อยู่ในความรับผิดชอบ โดยการกำหนดและลดขั้นตอน
การพิจารณาอนุญาตหรืออนุมัติให้ชัดเจนและมีเท่าที่จำเป็น รวมทั้งมีกำหนดเวลาที่เป็นมาตรฐานในการ
พิจารณาแต่ละขั้นตอนที่ชัดเจนเพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมการประกอบกิจการที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ
ของประชาชน และเพื่อให้เป็นไปตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
2 พฤศจิกายน 2547 ต่อไป
2604
ขอความเห็นชอบให้จังหวัดนครศรีธรรมราช ตรัง และพัทลุง เป็นพื้นที่ในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (Indonesia-Malaysia-Thailand Frowth Triangle : IMT-GT)
นร
14/12/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เสนอให้จังหวัดนครศรีธรรมราช ตรัง และพัทลุง เข้าในพื้นที่การพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย
- มาเลเซีย - ไทย (Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle : IMT-GT) ตามผลการประชุมระดับ
รัฐมนตรีของแผนงานการพัฒนาเศรษฐกิจสามฝ่าย โดยวัตถุประสงค์ของไทยที่ขอเพิ่มพื้นที่จังหวัดดังกล่าว
เข้าในพื้นที่การพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจชายแดนภาคใต้สู่นานาชาติโดยเฉพาะการ
ค้า การลงทุนกับเกาะสุมาตราให้เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งเพิ่มการจ้างงานในท้องถิ่นหรือที่ไปทำงานในมาเลเซีย
อย่างถูกระบบ และเพื่อยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ให้ดีขึ้น ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีมี
ข้อสังเกตว่า เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจ ตลอดจนส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ
ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประสานกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ง
ชาติ และกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อจัดทำความร่วมมือทางด้านการท่องเที่ยวร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน
ในกรอบการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย โดยให้พิจารณาด้วยว่าสมควรครอบคลุมถึงจังหวัดภูเก็ตและเกาะ
สมุยด้วยหรือไม่
2605
การพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจและเพิ่มรายได้แก่ประชาชนพื้นที่เขตตรวจราชการที่ 16
นร
14/12/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอ
ดังนี้ (1) รับทราบกรอบปัญหาของพื้นที่เขตตรวจราชการที่ 16 (จังหวัดตรัง นครศรีธรรมราช และพัทลุง) และ
เห็นชอบในหลักการของยุทธศาสตร์แนวทางการพัฒนาพื้นที่ 3 จังหวัดดังกล่าว (2) อนุมัติในหลักการของแผน
งาน/โครงการเร่งด่วน จำนวน 10 โครงการ ที่ขอเบิกจ่ายจากงบกลาง ปี 2548 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อ
กรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงินรวม 531.81 ล้านบาท ทั้งนี้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาจัดลำดับความ
สำคัญของโครงการ ความเหมาะสมของวงเงิน ระยะเวลาดำเนินงานที่สามารถดำเนินการได้ทันในปีงบประมาณ
พ.ศ. 2548 และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยให้ปรับแผนการดำเนินงานจากงบปกติในโอกาสแรกก่อน หากไม่
สามารถดำเนินการได้หรือไม่เพียงพอ ก็ให้เบิกจ่ายจากงบกลางปี 2548 ได้ โดยขอทำความตกลงกับสำนักงบ
ประมาณต่อไป (3) เห็นชอบในหลักการของแผนงาน/โครงการ และวงเงินงบประมาณที่ขอรับการสนับสนุน
จากงบประมาณตามปกติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำนวน 26 โครงการ วงเงินงบประมาณรวม 6,231.61 ล้าน
บาท และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำรายละเอียดของแผนงาน/โครงการ และเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่าย
ประจำปีต่อไป (4) รับทราบแผนงาน/โครงการที่ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากงบกลาง รายการค่าใช้
จ่ายเพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ (งบ 5,000 ล้านบาท) จำนวน 31 โครง
การ วงเงินรวม 217.11 ล้านบาท ทั้งนี้ ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) รับไปพิจารณาจัด
ลำดับความสำคัญของโครงการ ฯ ความเหมาะสมของวงเงิน และระยะเวลาดำเนินงานร่วมกับ สศช. สำนักงบ
ประมาณ และคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อยุติและให้ดำเนินการต่อไปได้ (5) รับทราบแผนงาน/โครงการ
ที่ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2548 (งบ 40,000 ล้านบาท)
จำนวน 75 โครงการ วงเงินรวม 1,553.63 ล้านบาท และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกี่ยวข้องเร่งจัดเตรียมราย
ละเอียดโครงการ/แผนงาน ที่จะขอใช้งบประมาณ รวมทั้งความพร้อมเพื่อที่จะดำเนินการเมื่องบประมาณราย
จ่ายเพิ่มเติม ฯ ได้รับอนุมัติแล้ว (6) เห็นชอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาแต่งตั้งผู้แทนภาคประชาชน และ
ปราชญ์ชาวบ้าน เป็นคณะที่ปรึกษา (Advisory Body) ในด้านการจัดทำแผนการดำเนินงานและแก้ไขปัญหา
ของจังหวัดตามระบบการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ (CEO) โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนิน
งานตามแผนงาน/โครงการ ตามข้อ 2-5 และรับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปประกอบการดำเนิน
การด้วย และคณะรัฐมนตรีมีความเห็นเพิ่มเติม โดยเห็นชอบให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาประสานหน่วย
งานที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว โดยรวมจังหวัดตรังเข้าเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การ
ท่องเที่ยวในเขตอันดามัน โดยให้เน้นศักยภาพและจุดแข็งของจังหวัดตรัง และควรที่จะส่งเสริมและพัฒนาศักย
ภาพบุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้มีความพร้อมที่จะปฏิบัติภารกิจในการบริหารจัดการ และขับ
เคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้หน่วยงานต่าง ๆ ประสานกับกับกระทรวง
มหาดไทย เพื่อกำหนดหลักสูตรและถ่ายทอดความรู้เท่าที่จำเป็นแก่บุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ให้เหมาะสมต่อไปด้วย
2606
ปัญหาการประเมินคุณภาพผลงานของข้าราชการครู และการถ่ายโอนภารกิจด้านการบริหารการศึกษาให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
นร
14/12/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอเกี่ยวกับเรื่องปัญหาการประเมินคุณภาพผล
งานของข้าราชการครู และการถ่ายโอนภารกิจด้านการบริหารการศึกษาให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จึง
ขอให้ดำเนินการดังนี้ การประเมินคุณภาพผลงานทางวิชาการ ฯ ให้กระทรวงศึกษาธิการเร่งดำเนินการแก้
ไขปรับปรุงระบบการประเมินคุณภาพผลงานทางวิชาการ ฯ ให้เหมาะสม ชัดเจน เป็นธรรม และสอดคล้อง
กับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้นเพื่อเอื้อต่อการประเมินผลงานทางวิชาการ ฯ ที่มีคุณภาพ สามารถผ่านการประเมิน
ได้อย่างรวดเร็ว สำหรับการถ่ายโอนสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานไป
สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนในทางปฏิบัติหลายประการ จึงเห็นควรให้
กระทรวงศึกษาธิการชะลอการดำเนินการในเรื่องนี้ และหารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการกระจาย
อำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ และหน่วยงานที่
เกี่ยวข้อง ให้ได้ข้อยุติก่อน
#
หน่วยงาน
ชื่อเอกสาร
1
ยืนยันมติ (19396/2547)
2
ยืนยันมติ (19397/2547)
3
เรื่องเข้าใหม่ (สายครม.)
2607
การพัฒนาและปรับปรุงแหล่งน้ำบาดาลเพื่อบรรเทาและแก้ปัญหาภัยแล้ง
ทส
07/12/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับการพัฒนาและปรับปรุงแหล่งน้ำบาดาลเพื่อบรรเทาและแก้ปัญหาภัยแล้ง
โดยอนุมัติให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กรมทรัพยากรน้ำบาดาล) ดำเนินการพัฒนาและ
ปรับปรุงแหล่งน้ำบาดาลเพื่อบรรเทาและแก้ปัญหาภัยแล้งเป็นกรณีเร่งด่วน โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณราย
จ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงินรวม
28,000,000 บาท ประกอบด้วย การพัฒนาบ่อน้ำบาดาล จำนวน 5,000 บ่อ เป็นเงิน 23,000,000 บาท
ซ่อมเครื่องสูบน้ำแบบบ่อลึก จำนวน 2,500 เครื่อง เป็นเงิน 2,500,000 บาท และติดตั้งจุดจ่ายน้ำ จำนวน
500 จุด เป็นเงิน 2,500,000 บาท ทั้งนี้ หากไม่เพียงพอ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมขอ
ความสนับสนุนค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับการจัดสรรไว้แล้วด้วย
#
หน่วยงาน
ชื่อเอกสาร
1
ยืนยันมติ (18316/2547)
2
ยืนยันมติ (18317/2547)
3
ยืนยันมติ (18318/2547)
4
ตอบความเห็น (101/2547)
5
เรื่องเข้าใหม่ (สายครม.) (2542/2547)
2608
สรุปสถานการณ์ความแห้งแล้ง (ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม - 2 ธันวาคม 2547)
มท
07/12/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยสำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์ความแห้งแล้งและการให้ความช่วยเหลือ โดยสถาน
การณ์ความแห้งแล้ง (ข้อมูลถึงวันที่ 2 ธันวาคม 2547) มีจังหวัดที่ประสบภัยแล้ง 55 จังหวัด ในพื้นที่ 536
อำเภอ 49 กิ่งอำเภอ 3,915 ตำบล 35,643 หมู่บ้าน แบ่งเป็น ภาคเหนือ 17 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียง
เหนือ 19 จังหวัด ภาคกลาง 11 จังหวัด และภาคตะวันออก 8 จังหวัด ราษฎรเดือนร้อน 7,685,710 คน
1,964,821 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 11,663,644 ไร่ แยกเป็น นาข้าว 9,534,745
ไร่ พืชไร่ 2,060,780 ไร่ พืชสวน 68,119 ไร่ มูลค่าความเสียหาย 5,874,834,947 บาท สำหรับการให้
ความช่วยเหลือในส่วนของจังหวัด/อำเภอ/กิ่งอำเภอประกอบด้วย การจัดสรรน้ำเพื่อการเกษตร การแจกจ่าย
น้ำอุปโภค/บริโภค โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 160,909,574 บาท ส่วนการให้ความช่วยเหลือของกระทรวง
มหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แจ้งจังหวัดที่ประสบภัยความแห้งแล้งเร่งสำรวจจำนวนหมู่บ้านที่ประสบ
ภัยแล้งรุนแรงเพื่อดำเนินการขุดเจาะบ่อบาดาล บ่อน้ำตื้นเพิ่มเติมโดยด่วน รวมทั้งตรวจสอบข้อมูลจำนวนบ่อ
น้ำบาดาลทั่วประเทศที่ชำรุด และขาดการดูแลรักษา เพื่อดำเนินการซ่อมแซมและพัฒนาบ่อน้ำบาดาลในอยู่
ในสภาพที่ใช้การได้ดี โดยค่าใช้จ่ายในการซ่อมและเป่าล้างบ่อ จะใช้จากงบประมาณขององค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่น หรือจากเงินทดรองราชการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้
ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2546
2609
ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการแก้ไขวัน เดือน ปีเกิดในทะเบียนประวัติข้าราชการ พ.ศ. ....
นร
30/11/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่าย
กฎหมาย ฯ) ที่มีมติเห็นชอบตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการแก้ไข
วัน เดือน ปีเกิด ในทะเบียนประวัติข้าราชการ พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงแก้ไขระเบียบสำนัก
นายกรัฐมนตรีว่าด้วยการแก้ไขวัน เดือน ปีเกิด ในทะเบียนประวัติข้าราชการ พ.ศ. 2547 เกี่ยวกับระยะเวลา
การยื่นคำขอแก้ไขวัน เดือน ปีเกิด โดยกำหนดให้ข้าราชการในสังกัดราชการบริหารทุกส่วนราชการ ยื่นคำ
ขอแก้ไขวัน เดือน ปีเกิด ภายในเดือนธันวาคมของปีงบประมาณถัดไป สำหรับราชการส่วนท้องถิ่น องค์กร
อิสระตามรัฐธรรมนูญ หน่วยงานอื่นซึ่งมิได้สังกัดราชการบริหารอาจนำระเบียบนี้ไปใช้ได้โดยอนุโลม และ
กำหนดให้ประธาน ก.พ. เป็นผู้รักษาการตามระเบียบนี้ และให้สำนักงาน ก.พ. เป็นผู้เสนอความเห็นเพื่อ
ประกอบการตีความและให้ความเห็นหรือการวินิจฉัย ทั้งนี้ ให้สำนักงาน ก.พ. รับประเด็นอภิปรายของคณะ
กรรมการกลั่นกรอง ฯ เกี่ยวกับระยะเวลาที่ต้องยื่นคำขอแก้ไขวัน เดือน ปีเกิด ที่กำหนดไว้ในร่างระเบียบ
ฉบับนี้เป็นเพียงกำหนดเวลาการยื่นคำขอเพื่อประโยชน์ต่อผู้จะเกษียณอายุและประสงค์จะขอแก้ไขวัน เดือน
ปี เกิด โดยการยื่นหลักฐานเพื่อให้เจ้าหน้าที่มีระยะเวลาดำเนินการได้ทันภายในปีนั้น และให้แก้ไขถ้อยคำ
"... ซึ่งจะมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ในปีงบประมาณถัดไป" เป็น "... ซึ่งจะมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ในปี
งบประมาณถัดไป" และจาก "... เดือนธันวาคมของปีงบประมาณถัดไป" เป็น "... เดือนธันวาคมของปีงบ
ประมาณนั้น" เพื่อให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ไปแก้ไขเพิ่มเติม แล้วนำเสนอ อ.ก.พ. วิสามัญเกี่ยวกับกฎหมายและ
ระเบียบข้าราชการพิจารณา ก่อนดำเนินการเพื่อประกาศใช้บังคับต่อไป
2610
ผลการดำเนินการตามโครงการฝึกอบรมหลักสูตรเตรียมความพร้อมให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
นร
30/11/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) ประธานกรรมการ
การกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) รายงานผลการดำเนินการตามโครงการฝึก
อบรมหลักสูตรเตรียมความพร้อมให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 3 หลักสูตร ประกอบด้วย หลัก
สูตรที่ 1 การสัมมนาวิชาการ เรื่อง "ครึ่งทศวรรษของการกระจายอำนาจให้แก่ อปท. เพื่อให้ผู้บริหาร อปท.
ได้ทราบแนวนโยบายและทิศทางการกระจายอำนาจในอนาคต โดยจัดขึ้นเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2547 ณ
ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพมหานคร หลักสูตรที่ 2 การฝึกอบรมเตรียมความพร้อมให้
แก่ อปท. เรื่อง "ขอบเขต/อำนาจหน้าที่และการใช้อำนาจอนุญาตตามภารกิจที่ถ่ายโอน" โดยจัดแบ่งการ
ฝึกอบรม 32 รุ่น ระยะเวลาดำเนินการ ระหว่างวันที่ 11 พฤษภาคม - 22 กันยายน 2547 มีผู้เข้าร่วม
การฝึกอบรมรวมทั้งสิ้น 13,503 คน และหลักสูตรที่ 3 การฝึกอบรมเตรียมความพร้อมให้แก่ อปท. เรื่อง
"ด้านช่างสำหรับผู้ปฏิบัติงานของ อปท." โดยกำหนดการฝึกอบรม 32 รุ่น ระยะเวลาดำเนินการระหว่าง
วันที่10 พฤษภาคม - 10 กันยายน 2547 มีผู้เข้าร่วมการฝึกอบรมรวมทั้งสิ้น 6,007 คน ทั้งนี้ คณะกรรม
การการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (กกถ.) เห็นควรให้กรมส่งเสริมการปกครองท้อง
ถิ่นกำหนดหลักสูตรการฝึกอบรมให้กับผู้บริหาร ปลัด และนายช่างโยธา อปท. ที่เข้าดำรงตำแหน่งใหม่ทุก
คน รวมทั้งควรมีการฝึกอบรมเตรียมความพร้อมให้กับ อปท. สำหรับภารกิจที่จะต้องถ่ายโอนให้ อปท.
เพิ่มขึ้น โดยให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณให้กับส่วนราชการที่ถ่ายโอนภารกิจและที่กำกับการ
ถ่ายโอนภารกิจ เพื่อเตรียมความพร้อมให้บุคลากรของ อปท. สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ได้มีคำสั่งที่ 19/2547 ลงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2547 แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อ
พิจารณายุทธศาสตร์การพัฒนาบุคลากรของ อปท. โดยมีศาสตราจารย์วรเดช จันทรศร เป็นประธานอนุ
กรรมการ มีอำนาจและหน้าที่พิจารณายุทธศาสตร์การพัฒนาบุคลากรของ อปท. ที่มาจากการเลือกตั้งให้
สอดคล้องกับนโยบายการกระจายอำนาจ โดยดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน
2611
รายงานความก้าวหน้าการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองบริเวณตำบลหน้าพระลาน (ครั้งที่ 7 เดือนตุลาคม 2547)
ทส
30/11/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานความก้าวหน้า
การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองบริเวณตำบลหน้าพระลาน ครั้งที่ 7 (เดือนตุลาคม 2547) โดยการติดตามตรวจสอบ
สถานการณ์ฝุ่นละอองในบรรยากาศในพื้นที่หน้าพระลาน กรมควบคุมมลพิษ และสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่
7 จังหวัดสระบุรี ได้ทำการติดตามตรวจสอบ พบว่าระดับฝุ่นขนาดเล็กบริเวณโรงเรียนหน้าพระลาน มีค่าเฉลี่ย
24 ชั่วโมงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนบริเวณบ้านราษฎรเลขที่ 146 หมู่ 5 และวัดถ้ำศรีวิไล ตรวจพบฝุ่นละอองมี
ค่าเกินมาตรฐาน ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมงอยู่ในช่วง 42-193 มคก./ลบ.ม. ตามลำดับ (มาตรฐานเท่ากับ 120 มคก.
/ลบ.ม.) สำหรับการตรวจสอบวัตถุระเบิด ของคณะกรรมการตรวจสอบควบคุมดูแลการใช้วัตถุระเบิดในเขตพื้น
ที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ พบว่ามีการใช้วัตถุระเบิดในพื้นที่หน้าพระลานและพื้นที่ข้างเคียงถูกต้องตามกฎหมาย
นอกจากนี้ สำนักงานเทศบาลตำบลหน้าพระลานและองค์การบริหารส่วนตำบลหน้าพระลาน ได้นำรถฉีดพรม
น้ำเพื่อลดฝุ่นละอองบนถนนสายหลัก และโรงงานปูนซีเมนต์ 2 แห่ง ในพื้นที่หน้าพระลานได้สนับสนุนรถกวาด
และดูดฝุ่นเพื่อทำความสะอาดถนนพหลโยธิน ในส่วนของแผนงานในระยะต่อไป กรมควบคุมมลพิษ สำนักงาน
สิ่งแวดล้อมภาคที่ 7 จังหวัดสระบุรี และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดสระบุรี จะทำการตรวจสอบการ
ระบายฝุ่นละอองจากโรงโม่บดและย่อยหิน รวมทั้งระดับเสียงและความสั่นสะเทือนในพื้นที่หน้าพระลาน และ
จัดประชุมติดตามการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองในพื้นที่หน้าพระลาน ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2547
2612
รายงานผลการดำเนินงานของกระทรวงคมนาคมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) ณ วันที่ 25 ตุลาคม 2547
คค
30/11/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมรายงานผลการดำเนินงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชาย
แดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) ณ วันที่ 25 ตุลาคม 2547 ซึ่งประกอบด้วยการดำเนินงานในโครง
การ/งานต่าง ๆ ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ส่วนใหญ่อยู่ระหว่างการดำเนินการ รวมทั้งกิจกรรม
ที่จะดำเนินการเพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ และให้เกิดการจ้างแรงงานและรายได้ให้แก่ประชาชน อาทิ โครงการ
นำเที่ยวชมปะการังในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่จังหวัดปัตตานี เพื่อสร้างกระแสการท่องเที่ยว สร้างราย
ได้ให้แก่ประชาชน และโครงการสนับสนุนการประชาสัมพันธ์สินค้า OTOP โดยใช้พื้นที่สถานียะลา ปัตตานี และ
สุไหงโกลก เพื่อประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งผลิต-ซื้อขายสินค้า OTOP ของการรถไฟแห่งประเทศ
ไทย การฝึกอบรมเพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการบริหารกลุ่ม การฝึกอบรมการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ของสินค้า
หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์หรือสินค้าท้องถิ่นให้มีมูค่าเพิ่ม การฝึกอบรมด้านการส่งเสริมการตลาด และการส่ง
เสริมแหล่งท่องเที่ยวใหม่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยใช้ชื่อว่า "South Uncover Thailand" ของบริษัท การ
บินไทย จำกัด (มหาชน) เป็นต้น
2613
ร่างพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. ....
ศธ
23/11/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2.1
(ฝ่ายการศึกษา ฯ) ที่มีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอร่างพระราชบัญญัติโรงเรียน
เอกชน พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน และให้ส่งสำนักงานคณะ
กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาตามประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการ ฯ ที่ให้บัญญัติเรื่องบทบาท
หน้าที่ของหน่วยงานตามร่างพระราชบัญญัติ ฯ ในระดับต่าง ๆ ให้ชัดเจนในเรื่องที่จะต้องส่งเสริมการ
ประสานงานระหว่างรัฐกับโรงเรียนเอกชน โดยมีการแลกเปลี่ยนเสนอแนะนโยบายระหว่างกันได้อย่าง
เต็มที่ เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมกิจการของโรงเรียนเอกชนอย่างแท้จริง และร่างพระราชบัญญัติ ฯ
ต้องไม่ขัดแย้งหรือซ้ำซ้อนกับกฎหมายอื่นที่มีอยู่แล้ว แต่อาจมีมาตรการเชื่อมโยงสนับสนุนซึ่งกันและกัน
ได้ รวมทั้งต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การปฏิรูปการศึกษาด้านการมีส่วนร่วมของพ่อแม่ ผู้ปกครอง
ชุมชนและเอกชนในการจัดการศึกษาตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2546 เรื่อง ยุทธศาสตร์
การปฏิรูปการศึกษา นอกจากนี้ ให้ปรับปรุงสัดส่วนของคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนกรุง
เทพมหานครและคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนจังหวัด โดยให้มีสัดส่วนกรรมการจากภาคเอก
ชนมากกว่ากรรมการโดยตำแหน่งจากส่วนราชการ สำหรับกรุงเทพมหานครมีผู้แทนของกรุงเทพมหา
นคร และให้มีผู้แทนขององค์การบริหารส่วนจังหวัดในคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนระดับ
จังหวัด เพื่อการส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทน
ราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
2614
รายงานผลการดำเนินงานตามระบบบริหารการเงินการคลังภาครัฐด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (GFMIS)
กค
23/11/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการดำเนินงานตามระบบบริหาร
การเงินการคลังภาครัฐด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (GFMIS) โดยสรุปคือ ได้มีการเตรียมการก่อนปฏิบัติงาน
จริงในวันที่ 1 ตุลาคม 2547 โดยเชิญประชุมชี้แจงส่วนราชการและหน่วยงานภาครัฐ มอบหมายเจ้าหน้าที่
ของสำนักงานคลังจังหวัด ให้คำปรึกษาแนะนำการปฏิบัติงาน GFMIS แก่ส่วนราชการในภูมิภาคและองค์
กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำหนดวิธีการให้ส่วนราชการและหน่วยงานภาครัฐถือปฏิบัติ เกี่ยวกับหลักเกณฑ์
การเบิกจ่ายและนำเงินส่งคลังตามระบบดังกล่าว จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจเพื่อตอบปัญหา สำหรับ
ผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1-22 ตุลาคม 2547 มีการแจกจ่ายบัตรกำหนดสิทธิผู้ใช้งาน และ User ID
ของ Excel Loader ให้บริการตอบปัญหาการปฏิบัติงาน โดยศูนย์เฉพาะกิจ ฯ รวม 2,888 ราย และได้
จัดทำแผนปฏิบัติงาน โดยมีเป้าหมายที่จะยกเลิกการปฏิบัติงานในระบบเดิมภายใน 6 เดือน เพื่อให้การ
ปฏิบัติงานในระบบ GFMIS เป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนด
2615
ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (แนวทางการบริหารจัดการระบบบำบัดน้ำเสียรวมของชุมชนทั่วประเทศ)
ทส
23/11/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอผลการดำเนินการ
ตามประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 (ฝ่ายการเกษตรทรัพยากร
ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) เกี่ยวกับการมีระบบแก้ไขและป้องกันภัยน้ำเสียในชุมชน โดยกระทรวงทรัพยากรธรรม
ชาติและสิ่งแวดล้อมได้จัดทำแบบบ่อดักไขมัน เพื่อให้จังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำไปเผยแพร่ รณรงค์
ให้ประชาชนในพื้นที่จัดทำบ่อดักไขมัน รวมทั้งจะเสนอให้มีการปรับแก้กฎหมายหรือข้อบัญญัติที่เกี่ยวข้องให้มีผล
บังคับใช้กับบ้านเรือนที่พักอาศัยที่จะก่อสร้างใหม่ในอนาคต นอกจากนี้ ยังได้มีการส่งเสริมสนับสนุนการใช้เทค
โนโลยีสะอาดและการผลิตที่สะอาด เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสะอาด
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและการจัดการสิ่งแวดล้อมของกิจกรรมต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมชุมชนด้วย
2616
การปรับปรุงระบบการออกเอกสารสิทธิในที่ดิน
มท
16/11/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการกำหนดมาตรฐานการออกเอกสารสิทธิในที่ดินของรัฐ พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดหลัก
เกณฑ์ วิธีการ และแนวทางปฏิบัติในการออกเอกสารสิทธิในที่ดินของรัฐ โดยมีคณะกรรมการกำกับดูแลเอก
สารสิทธิในที่ดินของรัฐ การจัดทำหลักฐานแผนที่ การจำลองและการเขียนรูปแผนที่ การลงรูปแผนที่ในระวาง
แผนที่ และการจัดเก็บหลักฐานแผนที่ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
โดยให้รับความเห็นและข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อ
ไปได้ และให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวง
เกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานอื่นทีเกี่ยวข้องรับความเห็นของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาดำเนินการในส่วน
ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ การจัดทำแผนที่เพื่อใช้ประโยชน์ในการดำเนินการรังวัด (มาตราส่วน 1: 4,000) นั้น ให้เร่ง
รัดดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยให้สำนักงบประมาณพิจารณาสนับสนุนงบประมาณค่าใช้จ่ายตามความ
จำเป็น และเพื่อให้การรังวัดเพื่อออกเอกสารสิทธิในที่ดินดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว สมควรจัด
แบ่งพื้นที่ดำเนินการ และกำหนดผู้รับผิดชอบที่ชัดเจนและให้ดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน และ
สมควรให้มีการจ้างแรงงานในท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการจ้างงานซึ่งจะก่อให้เกิดรายได้แก่ราษฎรในท้องถิ่น นอก
จากนี้ ให้ทุกหน่วยงานที่จะดำเนินในเรื่องนี้ เสนอเรื่องให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ) ใน
ฐานะประธานกรรมการฝ่ายจัดหาที่ดินของรัฐด้านอุปทาน (supply side) ให้ประชาชนทำกิน เป็นผู้พิจารณา
ให้ความเห็นชอบก่อนทุกครั้งก่อนดำเนินการต่อไป สำหรับกรณีที่ราษฎรได้บุกรุกหรือไม่มีเอกสารสิทธิการ
ถือครองที่ดิน แต่ได้อาศัยที่ดินนั้นประกอบอาชีพโดยสุจริตมาเป็นเวลานานแล้ว สมควรผ่อนผันให้ราษฎรดัง
กล่าวอยู่ในพื้นที่ไปก่อน จนกว่าการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของรัฐที่รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต ยงใจ
ยุทธ) ดำเนินการอยู่จะแล้วเสร็จ แต่หากเป็นกรณีการบุกรุกใหม่หรือเป็นการบุกรุกของนายทุนเพื่อแสวงหา
ประโยชน์มิชอบก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
2617
วาระการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ณ จังหวัดอุบลราชธานี (เรื่อง การเพิ่มรายได้เกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยในพื้นที่เขตตรวจราชการที่ 14)
นร
16/11/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติมีมติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
ดังนี้ รับทราบกรอบปัญหาและแนวทางการพัฒนาเพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อย
ในพื้นที่เขตตรวจราชการที่ 14 และเห็นชอบในหลักการแผนงานโครงการที่จังหวัดในเขตตรวจราชการที่ 14
เสนอขอรับการสนับสนุน จำนวนทั้งสิ้น 52 โครงการ วงเงินงบประมาณ 4,007.6 ล้านบาท ประกอบด้วย
ด้านการเพิ่มมูลค่าข้าวหอมมะลิ จำนวน 11 โครงการ งบประมาณ 213.7 ล้านบาท ด้านบริหารจัดการ
ทรัพยากรน้ำ จำนวน 32 โครงการ งบประมาณ 3,000.7 ล้านบาท และด้านการส่งเสริมการค้าชายแดน
จำนวน 9 โครงการ งบประมาณ 793.2 ล้านบาท โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาแต่งตั้งผู้แทนภาค
ประชาชนและปราชญ์ชาวบ้านเป็นคณะที่ปรึกษา (Advisory Body) ในด้านการจัดทำแผนการดำเนินการและ
การแก้ไขปัญหาของจังหวัดตามระบบผู้ว่า CEO และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยให้รับความเห็นและข้อสังเกต
ของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพาณิชย์ที่มีความเห็นว่า ควรให้มีการเจรจาและประสานงานกับ
ประเทศเพื่อนบ้านทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศเพื่อให้มีการพัฒนาเชิงบูรณาการ เพิ่มความคุ้มค่าต่อ
การลงทุน โดยเฉพาะโครงการพัฒนาช่องสะงำ ซึ่งเป็นการวางผังเมืองระยะยาวให้สามารถรองรับการขยาย
ตัวทางเศรษฐกิจและเตรียมความพร้อมของพื้นที่ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดศรี
สะเกษและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างได้อย่างดี แต่ให้คำนึงถึงความพร้อมด้านสภาพเศรษฐกิจ สังคม
และวัฒนธรรม ของประเทศเพื่อนบ้าน ตลอดจนความจำเป็นของโครงการ ฯ ในปัจจุบัน เป็นต้น ไปประกอบ
การดำเนินการ ทั้งนี้ ให้เพิ่มผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด
ล้อม ในคณะกรรมการทบทวนลำดับความสำคัญของโครงการ ฯ และให้พิจารณาความจำเป็นเหมาะสมและ
จัดลำดับความสำคัญของแผนงาน/โครงการต่าง ๆ ให้รอบคอบและไม่เกิดความซ้ำซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
แผนงาน/โครงการเกี่ยวกับน้ำ เนื่องจากมีแผนงานและคณะกรรมการระดับชาติอยู่แล้ว และให้นำเสนอคณะ
รัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
2618
การจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548
นร
09/11/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่ประธานกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นเสนอ เกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์การจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้อง
ถิ่น ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เพื่อลดผลกระทบจากการปรับลดและแปรญัตติเพิ่มของคณะกรรมาธิการ
วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 โดยแบ่งเป็น
การจัดสรรให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 110,610.70 ล้านบาท ตั้งงบประมาณไว้ที่กรมส่งเสริม
การปกครองส่วนท้องถิ่น 95,873.23 ล้านบาท จัดสรรเป็นเงินอุดหนุนทั่วไป 47,252.32 ล้านบาท
2619
การปฏิบัติราชการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่จังหวัดนนทบุรี
มท
09/11/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลการเดินทางไปปฏิบัติราชการที่
จังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2547 เพื่อตรวจเยี่ยมผลการดำเนินงานตามนโยบายสำคัญของ
รัฐบาลและนโยบายของกระทรวงมหาดไทย พร้อมทั้งรับทราบปัญหาและอุปสรรคจากการดำเนินงานตาม
นโยบาย ซึ่งภาพรวมการปฏิบัติราชการครั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้มอบนโยบายและแนว
ทางการปฏิบัติราชการของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยให้แก่หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ผู้บริหาร
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และได้กล่าวถึงสภาวะของประเทศช่วงก่อนที่รัฐบาลจะ
เข้ามาบริหารประเทศ ผลงานของรัฐบาลในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งทิศทางที่จะนำพาประเทศในอนาคต
เพื่อให้ประชาชนมีความอยู่ดีกินดี นอกจากนี้ ยังได้มอบแนวทางการดำเนินงานที่สำคัญเพื่อถือปฏิบัติ ดังนี้
ในการดำเนินงานต่าง ๆ ขอให้ทำงานแบบบูรณาการ ลดความเป็นเจ้าของ เพิ่มความเป็นเจ้าภาพ ให้
ปรึกษาหารือแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง กับให้ยึดแนวทางการบริหารจัดการสมัย
ใหม่ คือ รวมศูนย์ข้อมูล รวมศูนย์ความคิด รวมศูนย์การบริหารจัดการ แต่กระจายการทำงาน โดยยึดยุทธ
ศาสตร์ของประเทศ และยุทธศาสตร์จังหวัดเป็นทิศทางในการทำงาน และขอความร่วมมือให้รณรงค์ให้พี่
น้องประชาชนลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น รวมถึงการใช้จ่ายเกินฐานะเพื่อรักษาหน้าตา ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาหนี้
สินนอกระบบตามมา
2620
รายชื่อกระทู้ถามรัฐมนตรีที่รองนายกรัฐมนตรีเห็นชอบคำตอบแล้ว (จำนวน 8 เรื่อง 1.1 กระทู้ถามที่ 030 ร. เรื่อง มาตรฐานความปลอดภัยทางด้านอาหาร 1.2 กระทู้ถามที่ 1383 ร. เรื่อง มาตรการความปลอดภัยในการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ 1.3 กระทู้ถามที่ 1387 ร. เรื่อง การดำเนินการขยายเครือข่ายโทรศัพท์พื้นฐานในเขตอำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง 1.4 กระทู้ถามที่ 1411 ร. เรื่อง ขอให้ติดตั้งเสาโทรศัพท์เครือข่ายภายในหมู่บ้านและโทรศัพท์ไร้สาย 1.5 กระทู้ถามที่ 1426 ร. เรื่อง การพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ 1.6 กระทู้ถามที่ 1434 ร. เรื่อง การส่งเสริมฝึกอบรมความปลอดภัยสำหรับผู้ทำงานที่บ้าน 1.7 กระทู้ถามที่ 1435 ร. เรื่อง มาตรการในการส่งเสริมการอ่านไทย 1.8 กระทู้ถามที่ 1436 ร. เรื่อง มาตรการนำเอาภูมิปัญญาท้องถิ่นและดนตรีพื้นบ้านมาผสมผสานเป็นหลักสูตรการเรียนการสอนในสถานศึกษา
นร
09/11/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอคำตอบกระทู้ถามของสมาชิก
สภาผู้แทนราษฎร ประกอบด้วย คำตอบกระทู้ถามที่ 030 ร. เรื่อง มาตรฐานความปลอดภัยทางด้านอาหาร
ของนายจำเจน จิตรธร สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดสุโขทัย คำตอบกระทู้ถามที่ 1383 ร. เรื่อง มาตรการความ
ปลอดภัยในการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ ของนายเปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอน
แก่น คำตอบกระทู้ถามที่ 1387 ร. เรื่อง การดำเนินการขยายเครือข่ายโทรศัพท์พื้นฐานในเขตอำเภอเมือง
ตรังจังหวัดตรัง ของนายสุวรรณ กู้สุจริต สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตรัง คำตอบกระทู้ถามที่ 1411 ร.
เรื่อง ขอให้ติดตั้งเสาโทรศัพท์เครือข่ายในหมู่บ้านและโทรศัพท์ไร้สาย ของนายนิยม วรปัญญา สมาชิกสภาผู้
แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี คำตอบกระทู้ถามที่ 1426 ร. เรื่อง การพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ทางด้านวิทยา
ศาสตร์ คำตอบกระทู้ถามที่ 1434 ร. เรื่อง การส่งเสริมฝึกอบรมความปลอดภัยสำหรับผู้ทำงานที่บ้าน คำ
ตอบกระทู้ถามที่ 1435 ร. เรื่อง มาตรการในการส่งเสริมการอ่านไทย และคำตอบกระทู้ถามที่ 1436 ร.
เรื่อง มาตรการนำเอาภูมิปัญญาท้องถิ่นและดนตรีพื้นบ้านมาผสมผสานเป็นหลักสูตรการเรียนการสอนใน
สถานศึกษา ของนายเปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น รวม 8 ฉบับ และให้
ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
.....
|<<
Previous
<
Previous
131
132
133
134
135
136
137
138
139
140
>
Next
>>|
Next
ค้นหามติคณะรัฐมนตรี
×
ประกาศ
ด้วยสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะปิดปรับปรุงระบบค้นมติคณะรัฐมนตรี (
https://resolution.soc.go.th/
)
ในวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. จึงทำให้ไม่สามารถค้นมติคณะรัฐมนตรีได้ในวัน เวลา ดังกล่าว
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วย