ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 40 จากทั้งหมด 74 หน้า แสดงรายการที่ 781 - 800 จากข้อมูลทั้งหมด 1479 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 781 | รายงานผลการดำเนินงานที่สำคัญของกระทรวงคมนาคม ไตรมาส 1 ประจำปีงบประมาณ 2550 | คค | 20/02/2550 | ||||||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลผลการดำเนินงานที่สำคัญของกระทรวงคมนาคมในรอบ
ไตรมาสที่ 1 (ตุลาคม-ธันวาคม 2549) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ได้แก่ การเร่งรัดแก้ไขปัญหาท่าอากาศ ยานสุวรรณภูมิอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ การพิจารณาแนวทางการใช้ประโยชน์ท่าอากาศยานดอนเมือง การดำเนินโครงการ "ระบบขนส่งมวลชนรางในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล" การพัฒนาโครงสร้าง พื้นฐานและส่งเสริมภาคการคมนาคมขนส่ง และการเร่งรัดตรวจสอบการกระทำในเชิงทุจริตและประพฤติมิ ชอบของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมในอันที่จะก่อความเสียหายแก่ประเทศ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 782 | มาตรการและแนวทางการเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2550 | กค | 06/02/2550 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอมาตรการและแนวทางการเร่งรัดติดตามการ
ใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ซึ่งประกอบด้วย มาตรการเร่งรัดติดตามในปี งบประมาณ พ.ศ. 2550 แนวทางการดำเนินงานของส่วนราชการเจ้าของงบประมาณ และแนวทางการดำเนิน งานของหน่วยงานกลาง
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 783 | รายงานสรุปผลการดำเนินการของคณะกรรมการเพื่อทำหน้าที่สนับสนุนและติดตามการดำเนินงานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตตามนโยบายของคณะรัฐมนตรี (ป.ท.) | ปง | 23/01/2550 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประธานกรรมการเพื่อทำหน้าที่สนับสนุน
และติดตามการดำเนินงานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตตามนโยบายของคณะรัฐมนตรี (ป.ท.) เสนอ ดังนี้รับทราบผลการดำเนินการของ ป.ท. ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม 2544 ถึง 20 พฤศจิกายน 2549 และเห็นชอบ ให้ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเร่งรัดบรรดาระเบียบกฎหมายที่ ป.ท. เห็นชอบ หรือเสนอเพื่อ เป็นการป้องกันและป้องปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ให้มีผลบังคับใช้ในปี พ.ศ. 2549 และผลักดันให้จัดตั้ง องค์กร เพื่อดูแลรับผิดชอบด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ ของรัฐในฝ่ายบริหาร และให้กระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) เร่งรัดปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี พ.ศ. 2535 ที่ให้รวมมาตรการการแก้ไขปัญหาความล่าช้าในการดำเนินโครงการก่อสร้าง เพื่อให้ส่วนราชการใช้ ระเบียบดังกล่าวเป็นแนวทางปฏิบัติต่อไป โดยให้มีหนังสือถึงทุกกระทรวงให้กวดขันข้าราชการในสังกัดปฏิบัติตาม กฎหมายว่าด้วยการพัสดุโดยเคร่งครัด ทั้งนี้ หากมีการขยายช่องทางจราจรทั้งในเส้นทาง 32 [ถนนเอเชีย (บาง ปะอิน-นครสวรรค์)] หรือเส้นทางสายอื่น ๆ ควรรก่อสร้างทางเป็น 4 คันทางไปกลับ โดยเป็นช่องทางสำหรับรถ บรรทุกโดยเฉพาะ 2 คันทางไปกลับ โดยให้จัดตั้งองค์กรเพื่อดูแลรับผิดชอบด้านการป้องกันและปราบปรามการ ทุจริตประพฤติมิชอบในระบบคมนาคมขนส่ง ใช้ชื่อว่า "ศูนย์ป้องกันการทุจริตและการละเมิดกฎหมายเกี่ยวกับทาง หลวง(ศป.ทล.)" อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติ ธรรม รวมทั้งให้ดำเนินการโครงการนำร่องป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบด้านคมนาคมขนส่งใน 17 สาย ทางหลักและถนนโครงข่ายในรัศมี 200 กิโลเมตรรอบกรุงเทพมหานคร มีกำหนดระยะเวลาดำเนินโครงการ 10 ปี และอยู่ภายใต้การบริหารโครงการของ ศป.ทล. นอกจากนี้ ให้กระทรวงการคลังนำข้อเสนอของคณะอนุกรรมการ พัฒนามาตรการบังคับใช้กฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบในระบบคมนาคมขนส่ง (อ.พ.ค.) ในด้านมาตรการป้องกันการทุจริตประพฤติมิชอบในการจ้างงานก่อสร้างระบบคมนาคมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ไปพิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสม |
|||||||||||||||||||||||||||
| 784 | ขออนุมัติคณะรัฐมนตรีปรับโครงสร้างหนี้โครงการที่มีหนี้ค้างชำระกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร (องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย กรมส่งเสริมสหกรณ์ และองค์การสวนยาง) | กษ | 16/01/2550 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอการปรับโครงสร้างหนี้โครงการที่
มีค้างชำระกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร จำนวน 3 โครงการ ตามมติคณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรกร ครั้งที่ 6/2549 วันที่ 25 กันยายน 2549 ได้แก่ โครงการขยายพันธุ์โคนม ขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่ง ประเทศไทย (อ.ส.ค.) เป็นเงิน 54,000,000 บาท โครงการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายน้ำนมดิบ ของสหกรณ์ และเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมให้กับ อ.ส.ค. ของกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นเงิน 397,205,626.26 บาท และโครง การเร่งรัดการปลูกยางพาราทดแทนมันสำปะหลังในภาคตะวันออก ขององค์การสวนยาง (อ.ส.ย.) เป็นเงิน 57,338,547.81 บาท โดยคณะรัฐมนตรีข้อสังเกตว่า อ.ส.ค. มักประสบปัญหาการขาดทุนอยู่อย่างต่อเนื่อง สาเหตุสำคัญประการหนึ่ง คือ การที่มีการนำเข้านมและผลิตภัณฑ์นมจากต่างประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อผล ผลิตนมในประเทศและผลิตภัณฑ์นมของ อ.ส.ค. โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วม กับกระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาและการบริหารจัด การนมทั้งระบบ รวมตลอดถึงนโยบายการนำเข้านมและผลิตภัณฑ์นมจากต่างประเทศ และนโยบายการส่ง เสริมกิจการโคนมในประเทศให้เหมาะสมสอดคล้องกันต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 785 | สรุปผลการดำเนินการ ปัญหา - อุปสรรค และแนวทางแก้ไขโครงการเขื่อนแควน้อยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดพิษณุโลก | กษ | 09/01/2550 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน รายงานสรุปผลการ
ดำเนินการ ปัญหา-อุปสรรค และแนวทางแก้ไขโครงการเขื่อนแควน้อยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดพิษณุ โลก โดยผลการดำเนินงานในส่วนของงานเขื่อนปิดช่องเขาต่ำ ดำเนินการก่อสร้างโดยกรมชลประทาน เริ่มดำเนิน การตั้งแต่ พ.ศ. 2547 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2548 ส่วนงานเขื่อนหัวงานและอาคารประกอบพร้อมส่วนประกอบอื่น กรมชลประทานได้ว่าจ้างบริษัทผู้รับจ้างดำเนินการก่อสร้าง มีผลการดำเนินงานก่อสร้างเขื่อนแควน้อย เขื่อนสัน ตะเคียน และอาคารประกอบ ได้ผลงานรวมร้อยละ 42.786 ล่าช้ากว่าแผนงานตามสัญญา ร้อยละ 20.161 เนื่อง จากผู้รับจ้างขาดสภาพคล่องทางการเงินส่งผลให้ขาดความพร้อมในการทำงาน และสถานการณ์น้ำของลำน้ำแคว น้อยในฤดูฝนปี พ.ศ. 2549 ซึ่งมีปริมาณน้ำไหลผ่านลำน้ำแควน้อยบริเวณพื้นที่ก่อสร้างจำนวนมาก ทำให้ทำนบ ดินปิดกั้นลำน้ำเดิมชั่วคราว (Coffer Dam) ได้รับความเสียหายและทำให้งานก่อสร้างต้องหยุดชะงัก ซึ่งจากปัญหา ดังกล่าวคาดว่า จะไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จตามอายุสัญญาได้ (สิ้นสุดสัญญา 8 กุมภาพันธ์ 2551) กรม ชลประทานจึงได้พิจารณาแนวทางการเร่งรัดงานก่อสร้าง โดยในส่วนของปัญหาผู้รับจ้างขาดสภาพคล่องทางเงิน ธนาคารทหารไทยได้เข้ามาร่วมแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว และได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการของคณะทำงานติด ตามงานโครงการเขื่อนแควน้อยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดพิษณุโลก เพื่อติดตามเร่งรัดการดำเนินงาน ของผู้รับจ้าง รวมทั้งได้ประชุมหารือร่วมกับคณะกรรมการตรวจการจ้าง บริษัทที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง ผู้รับ จ้าง และผู้เกี่ยวข้องต่าง ๆ จากผลการประชุมหารือแนวทางการแก้ไข พบว่าปัญหาเกิดจากความไม่พร้อมของผู้รับ จ้าง เช่น จำนวนเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่ใช้ในการขนย้ายหินถม เครื่องมือในการระเบิดหิน และการสำรองวัสดุหิน ถมซึ่งได้เสนอแนะแนวทางการแก้ไขให้แก่ผู้รับจ้างมาโดยตลอด แต่ผู้รับจ้างก็ยังไม่สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหา ดังกล่าวให้หมดไปได้ อย่างไรก็ตาม กรมชลประทานจะได้ติดตามผลการดำเนินงานของผู้รับจ้างในแต่ละวัน หาก ถึงสิ้นสุดเดือนธันวาคม พ.ศ. 2549 ผู้รับจ้างยังมีผลการดำเนินงานในแต่ละวันไม่เป็นไปตามแผนงาน จะพิจารณา บอกเลิกสัญญาบางส่วน เพื่อนำงานในส่วนที่เหลือมาพิจารณาหาแนวทางการดำเนินงานต่อไป โดยอาจนำงาน บางส่วนมาดำเนินการเอง บางส่วนมาดำเนินการประกวดราคาจ้าง โดยแยกดำเนินการประกวดราคาเป็นงาน ย่อย ๆ บางงานมาดำเนินการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 786 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การยกเลิกแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน) | มท | 19/12/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่ม
เติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการออกโฉนดที่ ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น และให้มีมาตรการเร่งรัดผู้มีหลักฐานการแจ้งการ ครอบครองที่ดินมาดำเนินการเพื่อขอออกโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ และให้ส่งสำนัก งานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อรวมเป็นร่างพระราชบัญญัติฉบับเดียว แล้วส่งให้ คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 787 | การลงนามหรือรับรองเอกสารสำคัญในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 12 และการประชุมสุดยอดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องที่เมืองเซบู | กต | 28/11/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอให้ไทยร่วมจัดทำเอกสาร 11 ฉบับ ดังนี้
ปฏิญญาเซบูว่าด้วยแผนแม่บทสำหรับกฎบัตรอาเซียน ปฏิญญาเซบูเพื่อมุ่งไปสู่ประชาคมที่เอื้ออาทรและแบ่งปัน ที่เป็นหนึ่งเดียว ปฏิญญาเซบูว่าด้วยการพิทักษ์และส่งเสริมสิทธิของแรงงานโยกย้ายถิ่นฐาน ปฏิญญาเซบูว่าด้วย การเร่งรัดการจัดตั้งประชาคมอาเซียนภายในปี ค.ศ. 2015 พันธกรณีอาเซียนต่อแถลงการณ์การประชุมสุดยอด ผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 12 สมัยพิเศษว่าด้วยเอชไอวีและโรคเอดส์ แผนปฏิบัติการสำหรับแผนงานอาเซียนว่าด้วย เอชไอวีและโรคเอดส์ ระยะที่ 3 ปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยพันธกรณีในการส่งเสริมและพิทักษ์สิทธิและสวัสดิการ ของเด็ก ปฏิญญาเซบูเพื่อสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายเพื่อการพัฒนาแห่งสหัสวรรษในอาเซียน เป้าหมายเซบู เรื่องความมั่นคงด้านพลังงานในเอเชียตะวันออก สารขยายจำนวนภาคีของสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือใน ภูมิภาคเอเชียตะวันอกเฉียงใต้ โดยสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต และปฏิญญาร่วมว่าด้วยความเป็นหุ้น ส่วนอย่างรอบด้านอาเซียน-ออสเตรเลีย ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขเอกสารดังกล่าวที่ไม่ใช่สาระ สำคัญหรือขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยไม่ต้องสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาอีก |
|||||||||||||||||||||||||||
| 788 | การยกเว้นการจัดทำแผนการบริหารราชการแผ่นดิน | นร | 17/10/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอการยกเว้นการจัดทำแผนการบริหารราชการ
แผ่นดิน ตามมาตรา 13 และมาตรา 14 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้าน เมืองที่ดี พ.ศ. 2546 สำหรับการจัดสรรงบประมาณ ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ โดยให้ จัดสรรงบประมาณตามคำขอของส่วนราชการ และความเห็นของคณะรัฐมนตรีต่อไป และให้ส่วนราชการและ จังหวัดนำคำของบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ไปดำเนินการจัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการ ประจำปี พ.ศ. 2550 ตามที่กำหนดไว้ ในมาตรา 12 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหาร กิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 และให้นำแนวปฏิบัติข้างต้นไปดำเนินการสำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ให้ส่วนราชการเร่งรัดการปฏิบัติงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อสภา นิติบัญญัติแห่งชาติ และให้สำนักงาน ก.พ.ร. ติดตามประเมินผลต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
| 789 | ขออนุมัติงบประมาณเพื่อรองรับแผนการเร่งรัดจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ให้แล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. 2551 | มท | 19/09/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติให้นำเรื่อง ขออนุมัติงบประมาณเพื่อรองรับแผนการเร่งรัดจัดทำบัตรประจำตัวประชา
ชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ให้แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2551 เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาในการประชุมครั้ง ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 790 | รายงานความคืบหน้าการเร่งรัดการใช้เทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงพัฒนาการบริการของรัฐ | นร | 22/08/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีรายงานผลความคืบหน้าการเร่งรัด
การใช้เทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงพัฒนาการบริการของรัฐ ของคณะกรรมการเร่งรัดการใช้เทคโนโลยีเพื่อปรับปรุง พัฒนาการบริการของรัฐ จำนวน 5 โครงการ สรุปได้ดังนี้ (1) โครงการจัดหาคอมพิวเตอร์ จำนวน 250,000 เครื่อง กระทรวงศึกษาธิการได้เสนอขอใช้งบประมาณปกติปี พ.ศ. 2549 จำนวน 543,605,500 บาท เพื่อ ดำเนินการจัดซื้อจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบตามที่เสนอ (2) โครงการ Government Virtual Private Network (G-VPN) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) ได้เสนอ ขออนุมัติงบกลาง จำนวน 10,000,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการศึกษาวิเคราะห์ ออกแบบรายละเอียด โครงข่าย และการเริ่มโครงการในระยะแรก และนายกรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณดังกล่าวแล้ว (3) โครงการ บัตรประจำตัวอิเล็กทรอนิกส์อเนกประสงค์ (Smart Card) ได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวง ศึกษาธิการเร่งดำเนินการในส่วนของการจัดทำบัตรให้กับนักเรียน นักศึกษา ที่ได้รับทุนการศึกษา (4) โครง การกฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ได้มอบหมายให้ NECTEC ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการ ธุร กรรมอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติประสานกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงเทคโนโลยีสารสน เทศและการสื่อสาร ดำเนินการออกกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และ (5) โครง การบริการประชาชนด้านสาธารณสุข โดยใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (Tele-Medicine) กระทรวงสาธารณ สุข ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินโครงการพัฒนาระบบสารสนเทศสาธารณสุข (e-Health) โครงการ สาธารณสุขโทรคมสู่ถิ่นกันดาร และโครงการพัฒนาระบบเครือข่ายเพื่อใช้บัตรประชาชนอเนกประสงค์ (Smart Card) แทนบัตรทองใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 791 | รายงานผลการตรวจสอบรายงานการรับ - จ่ายเงินของกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร และเงินกองทุนหมุนเวียนสำหรับอุดหนุนเกษตรกรในการหาปัจจัยการผลิตตามโครงการความช่วยเหลือเพื่อเพิ่มผลผลิตทางอาหารจากรัฐบาลญี่ปุ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 | กค | 22/08/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการตรวจสอบรายงานการรับ-จ่ายเงิน
ของกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรและเงินกองทุนหมุนเวียนสำหรับอุดหนุนเกษตรกรในการหาปัจจัยการผลิตตาม โครงการความช่วยเหลือเพื่อเพิ่มผลผลิตทางอาหารจากรัฐบาลญี่ปุ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 ที่สำนัก งานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้ว โดยกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรมีงบแสดงฐานะการเงินสินทรัพย์สุทธิ /ส่วนทุน ณ วันที่ 30 กันยายน 2547 จำนวน 7,339,194,360.81 บาท ส่วนกองทุนหมุนเวียนสำหรับอุด หนุนเกษตรกรในการหาปัจจัยการผลิตตามโครงการความช่วยเหลือเพื่อเพิ่มผลผลิตทางอาหารจากรัฐบาลญี่ปุ่น มีงบแสดงฐานะการเงินสินทรัพย์สุทธิ/ส่วนทุน ณ วันที่ 30 กันยายน 2547 จำนวน 2,636,611,867.94 บาท สำหรับข้อสังเกตของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ที่ให้เร่งรัดหน่วยงานที่ค้างชำระหนี้ตามแผนการชำระหนี้ที่ ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรกรให้ชำระหนี้โดยเร็วเพื่อให้กองทุน ฯ มีเงินทุนหมุนเวียนในการ ดำเนินการต่อไป รวมทั้งให้เร่งรัดองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ดำเนินการส่งคืนกองทุน ฯ โดยเร็ว นั้น กระทรวงการคลังได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินของกองทุน ฯ โดยจัดทำกระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งใน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ส่วนราชการขอทำบันทึกยินยอมเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ของกองทุน ฯ รวม 18 โครงการ วงเงิน 645.24 ล้านบาท สามารถดำเนินการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ได้ตามแผนที่กำหนด ณ วันที่ 30 กันยายน 2548 จำนวน 7 โครงการ วงเงิน 272.54 ล้านบาท ต้องปรับปรุงข้อมูล จำนวน 7 โครง การ วงเงิน 30.65 ล้านบาท และล่าช้ากว่าแผนที่กำหนด จำนวน 4 โครงการ วงเงิน 342.05 ล้านบาท และใน ส่วนของการติดตามและเร่งรัดหน่วยงานที่ค้างชำระหนี้เพื่อคืนกองทุน ฯ คณะกรรมการ ฯ ได้ดำเนินการติดตาม และเร่งรัดหน่วยงานที่ค้างชำระหนี้เพื่อคืนกองทุน ฯ โดยตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2548-30 เมษายน 2549 รวม เป็นเงิน 673.00 ล้านบาท ส่วนการเร่งรัดให้ อ.ต.ก. ส่งเงินจากการจำหน่ายโภคภัณฑ์ค้างนำส่งคืนกองทุน ฯ โดยคณะกรรมการ ฯ มีมติให้ อ.ต.ก. ส่งเงินค่าปุ๋ยคืนกองทุน ฯ จำนวน 629.01 ล้านบาท และอนุมัติให้ อ.ต.ก. มอบเครื่องจักรกลการเกษตร อุปกรณ์เครื่องสีข้าว ตามโครงการความช่วยเหลือเพื่อเพิ่มผลผลิตทางอาหารจาก รัฐบาลญี่ปุ่นให้หน่วยงานต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางการศึกษา จำนวน 37.72 ล้านบาท ทั้งนี้ ให้ส่งเรื่อง ไปยังสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเพื่อนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรและ วุฒิสภาชุดใหม่ทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 792 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 16 พฤษภาคม 2549 | รง | 15/08/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) ประธานกรรมการบริหาร
แรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการบริหารแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้า เมือง (กบร.) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2549 สรุปภาพรวมได้ดังนี้ ผลการดำเนินการต่ออายุ ใบอนุญาตทำงานและการออกใบอนุญาตทำงานให้แก่แรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง 3 สัญชาติ (พม่า ลาว และ กัมพูชา) มีแรงงานต่างด้าวที่มาต่ออายุใบอนุญาตทำงาน จำนวน 460,014 คน แยกเป็น สัญชาติพม่า 405,379 คน สัญชาติลาว 29,683 คน สัญชาติกัมพูชา 24,952 คน และผลการดำเนินการออกใบอนุญาตทำงานให้แก่ แรงงานต่างด้าวที่ได้รับการพิสูจน์สัญชาติและปรับเปลี่ยนสถานะเป็นผู้เข้าเมืองโดยถูกต้องตามกฎหมายมีแรงงาน ต่างด้าวที่ได้รับการพิสูจน์สัญชาติ จำนวน 77,782 คน แยกเป็น สัญชาติลาว 34,669 คน และสัญชาติกัมพูชา 34,113 คน โดยมีแรงงานต่างด้าวที่ได้รับวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน จำนวน 36,728 คน แยกเป็น สัญชาติลาว 23,309 คน และสัญชาติกัมพูชา 13,419 คน ส่วนการนำแรงงานต่างด้าวรายใหม่จากประเทศลาว และกัมพูชา เข้ามาทำงานโดยถูกต้องตามกฎหมาย กรมการจัดหางานได้รวบรวมความต้องการของนายจ้างที่ต้องการจ้างแรง งานดังกล่าวส่งให้กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และกระทรวง แรงงานและการฝึกอาชีพ แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ดำเนินการจัดหาแรงงานให้นายจ้าง รวมทั้งได้ประสานการ เจรจากับสหภาพพม่า เพื่อเร่งให้เข้ามาดำเนินการพิสูจน์สัญชาติแรงงานพม่าที่อยู่และทำงานในประเทศไทย และ การนำแรงงานพม่าเข้ามาทำงานโดยถูกต้องตามกฎหมาย สำหรับการเร่งรัดแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติการ ทำงานของคนต่างด้าวนั้น คณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมาย กระทรวงแรงงาน ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ การทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. .... และได้เสนอร่างพระราชบัญญัติ ฯ ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพิจารณา ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี นอกจากนี้ ยังมีผลการดำเนินการ ตรวจสอบปราบปราม จับกุม ดำเนินคดีแรงงานต่างด้าว ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2548-31 พฤษภาคม 2549 โดยในส่วนของกรมการจัดหางานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินคดีแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง จำนวน 68,926 คน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการจับกุมนายจ้าง/ผู้นำพา/ผู้ให้ที่พักพิงแรงงานต่าง ด้าว จำนวน 2,734 ราย จับกุมแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง จำนวน 182,401 คน และผลักดัน-ส่งกลับ แรง งานต่างด้าว จำนวน 161,468 คน และผลการดำเนินการสกัดกั้นการลักลอบเข้ามาทำงานของแรงงานต่างด้าว ของคณะทำงานด้านการสกัดกั้นการลักลอบเข้ามาของแรงงานต่างด้าว ได้ดำเนินการสกัดกั้นทั้งทางบกและทาง ทะเล จำนวน 92,582 ราย และผลักดันออกนอกประเทศโดยทันทีตามช่องทางในภูมิประเทศ จำนวน 64,911 ราย และส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย จำนวน 27,671 ราย
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 793 | รายงานสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2548 | ทส | 08/08/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ) ประธานกรรมการสิ่ง
แวดล้อมแห่งชาติเสนอร่างรายงานสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2548 ที่คณะกรรมการสิ่งแวด ล้อมแห่งชาติได้มีมติในคราวการประชุม ครั้งที่ 1/2549 เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2549 เห็นชอบร่างรายงานดัง กล่าว ซึ่งประกอบด้วยเนื้อหาสาระ 4 ส่วน ดังนี้ ส่วนที่ 1 รายงานสถานการณ์สิ่งแวดล้อมที่เป็นประเด็นสำคัญ ในรอบปี พ.ศ. 2548 (ภัยพิบัติจากคลื่นยักษ์สึนามิ ภัยแล้งในประเทศไทย สารอันตรายและของเสียอันตราย การจัดการสิ่งแวดล้อมลุ่มน้ำท่าจีน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก และการเผาในที่โล่งในประเทศไทย) ส่วนที่ 2 รายงานสถานภาพทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทรัพยากรป่าไม้ ทรัพยากรดินและการใช้ดิน ทรัพยากรน้ำ ทรัพยากรธรณี ทรัพยากรพลังงาน ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ความหลากหลายทางชีวภาพ ในประเทศไทย ภาวะมลพิษ สิ่งแวดล้อมเมืองและชุมชน สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรม) ส่วนที่ 3 การ บริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (มาตรการการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม กฎหมายสิ่ง แวดล้อม การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน กองทุนสิ่งแวดล้อม) และส่วนที่ 4 ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย อาทิ การส่งเสริมหลักการมีส่วนร่วมของประชาชน และการเข้าถึงข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม การเร่งรัดการใช้หลัก การผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่ายและหลักการความรับผิดชอบทางด้านสิ่งแวดล้อมมาบังคับใช้อย่างมีประสิทธิภาพ และ การสนับสนุนการใช้มาตรการจูงใจเพื่อสนับสนุนให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยา กรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ในการนี้ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ โดยกระทรวงทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินการจัดทำรายงานสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2548 เพื่อเป็นเอกสาร เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ และ CD-ROM เสร็จแล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 794 | การเร่งรัดการเบิกจ่ายโครงการที่ล่าช้าของปีงบประมาณ 2549 และงบประมาณเหลื่อมปี (ตุลาคม 2548 - พฤษภาคม 2549) | อก | 01/08/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการเร่งรัดการเบิกจ่าย
โครงการที่ล่าช้าของปีงบประมาณ พ.ศ 2549 และงบประมาณเหลื่อมปี (ตุลาคม 2548 - พฤษภาคม 2549) โดยโครงการที่มีผลการเบิกจ่ายต่ำกว่า 25% ของงบประมาณที่ได้รับและเบิกจ่ายต่ำกว่า 50% ของงบประมาณ เหลื่อมปี ส่วนใหญ่ได้มีการก่อหนี้ผูกพันตามสัญญาแล้ว อยู่ระหว่างการเบิกจ่ายตามงวดงาน ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ หน่วยงานเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินให้เป็นไปตามงวดงานแล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 795 | ผลการประชุมคณะกรรมการความร่วมมือสวีเดน - ไทย ครั้งที่ 1 ภายใต้แผนปฏิบัติการร่วม ไทย - สวีเดน | นร | 18/07/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอโครงการ/กิจกรรมภายใต้แผน
ปฏิบัติการร่วมไทย-สวีเดน (Joint Plan of Action) จากผลการประชุมคณะกรรมการความร่วมมือสวีเดน-ไทย ครั้งที่ 1 ณ กรุงสตอกโฮล์ม เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2549 โดยมีโครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ ที่สำคัญอาทิ การ ประชุมคณะกรรมการความร่วมมือไทย-สวีเดน ครั้งที่ 2 ที่ประเทศไทย เดือนเมษายน 2550 การเร่งรัดจัดทำ /ลงนามความตกลง ว่าด้วยความร่วมมือด้านการต่อต้านองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติไทย-สวีเดน การพัฒนา โครงการสวนป่าไทย-สวีเดน (Thai-Swedish Plantation) เขากระยาง จังหวัดพิษณุโลก การจัดสัมมนาธุรกิจ ภายใต้กิจกรรมของ Open Trade Gate ที่ประเทศไทย ปี พ.ศ. 2549 การจัดตั้งกองทุนร่วมวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมไทย-สวีเดน โดยเน้นความร่วมมือที่มีศักยภาพในสาขาต่างๆ ได้แก่ พลังงาน การแปรรูปอาหาร อุตสาหกรรมยานยนต์ และการบริการ โครงการจัดซื้อ/ขายเครื่องบินรบ Gripen และการเร่งรัดการจัดทำ/ ลงนาม MoU ว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 796 | ผลการเสด็จฯ เยือนไทยอย่างเป็นทางการของสมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีแห่งสเปน (วันที่ 21 - 23 กุมภาพันธ์ 2549) | นร | 20/06/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอสรุปผลการดำเนินความสัมพันธ์
ทวิภาคีไทย-สเปน ในด้านต่าง ๆ อาทิ การจัดทำแผนปฏิบัติการร่วมกัน ไทยและสเปนเห็นพ้องกันที่จะเร่งรัด จัดทำแผนปฏิบัติการ ฯ เพื่อให้เป็น roadmap ของความสัมพันธ์ระหว่างกันในหลายมิติ เช่น การเมือง เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การศึกษาและวัฒนธรรม และด้านที่ควรส่งเสริม เช่น พลังงานและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสาขา ที่สเปนเชี่ยวชาญ ส่วนการค้าและการลงทุน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันที่สเปนจะเป็นสะพานเชื่อมไปสู่อาเซียนและ เอเชีย โดยฝ่ายไทยได้เชิญให้นักธุรกิจสเปนลงทุนในโครงการ Partnetrship for Development ในสาขาที่สเปนมี ความชำนาญ เช่น ระบบขนส่งมวลชน การสร้างเครือข่ายและระบบ การสร้างเครือข่ายและระบบรถใต้ดิน airport link และ machine tool ในการนี้ ฝ่ายสเปนได้เสนอมอบเงินช่วยเหลือให้กับรัฐบาลไทยเพื่อมอบให้กับบริษัทธุรกิจ สเปนที่สนใจโครงการดังกล่าว ในการทำ feasibility study และความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ฝ่ายไทยเสนอให้ เน้นความร่วมมือในด้านนี้ เนื่องจากเป็นสาขาที่สเปนประสบความสำเร็จอย่างสูง นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือ ทางวิชาการ ความร่วมมือด้านการต่อต้านการก่อการร้าย ความร่วมมือด้านวัฒนธรรม การสอนภาษาสเปนใน ประเทศไทย การเร่งรัดจัดทำความตกลงที่ยั่งคั่งค้าง และปัญหาการปลอมแปลงหนังสือเดินทางสเปนในไทย
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 797 | ขออนุมัติงบประมาณเพื่อรองรับแผนการเร่งรัดจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ให้แล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. 2551 | มท | 20/06/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อการดำเนิน
การตามแผนการจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ของกระทรวงมหาดไทย ในวง เงินไม่เกิน 1,154.095 ล้านบาท แยกเป็นปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 วงเงิน 443.917 ล้านบาท ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 วงเงิน 436.968 ล้านบาท ปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 วงเงิน 216.968 ล้านบาท และปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 วงเงิน 56.242 ล้านบาท ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการ ใช้จ่ายงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2549 ให้เหมาะสมสอดคล้องกับการปฏิบัติงานจริงและกับวงเงินงบประมาณที่ ได้รับ และขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการต่อไป โดยให้เร่งรัดการดำเนินการจัดทำ บัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์จำนวน 12 ล้านใบ ให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2549 รวมทั้ง ให้ประสานกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเกี่ยวกับการจัดซื้อบัตรในครั้งต่อไปตามนัยมติคณะ รัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2549 (เรื่อง แนวทางการปฏิบัติงานในช่วงระหว่างรอการเลือกตั้งและจัดตั้ง คณะรัฐมนตรีชุดใหม่) เพื่อมิให้เกิดปัญหาบัตรตกค้างและล้าสมัยด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
| 798 | การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันคอมพิวเตอร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ครั้งที่ 23 พ.ศ. 2554 | ศธ | 20/06/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอการเสนอชื่อเป็นเจ้า
ภาพในการจัดการแข่งขันคอมพิวเตอร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ครั้งที่ 23 พ.ศ. 2554 ทั้งนี้ ในส่วนของการขอ อนุมัติเงินงบประมาณตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ถึงปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 จำนวน 65,097,000 บาท ให้กระทรวงศึกษาธิการร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นหน่วยงานหลักในการประสานความร่วม มือแบบบูรณาการเพื่อจัดทำแผน (Road Map) และกำหนดขั้นตอนรายละเอียดการดำเนินงาน เพื่อให้มีความ ชัดเจน โดยคำนึงถึงศักยภาพของแต่ละหน่วยงานอย่างสมประโยชน์คุ้มค่า และมิเกิดความซ้ำซ้อนในส่วนราชการ ที่เกี่ยวข้อง แล้วเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป และให้กระทรวงศึกษาธิการประสาน กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำผลการศึกษาวิจัยต่าง ๆ ในด้านวิทยา ศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วมาศึกษาต่อยอดหรือเผยแพร่ผลการวิจัยให้เกิดประโยชน์อย่างกว้างขวาง รวมทั้ง ดำเนินการต่าง ๆ ที่สนับสนุนส่งเสริมให้นักเรียนนักศึกษามีทักษะและศักยภาพทางด้านวิทยาศาสตร์และมีความ สนใจเข้าร่วมการแข่งขันทางวิชาการดังกล่าวมากยิ่งขึ้น และให้กระทรวงศึกษาธิการเร่งรัดการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2549 (เรื่อง แนวทางปฏิบัติงานในช่วงระหว่างรอการเลือกตั้งและ จัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่) ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้สามารถนำไปใช้ในการส่งเสริมการเรียนรู้ต่าง ๆ ได้ต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
| 799 | ขออนุมัติคณะรัฐมนตรีปรับโครงสร้างหนี้โครงการที่มีหนี้ค้างชำระกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร | กษ | 06/06/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอการปรับโครงสร้างหนี้ (ขยายเวลาการ
ชำระคืนเงินยืม จำหน่ายหนี้สูญ และลดหนี้เงินต้น) ของหน่วยงานที่มีหนี้ค้างชำระกองทุนสงเคราะหเกษตรกร จำนวน 3 หน่วยงาน รวม 5 โครงการ ตามนัยมติคณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรกร ครั้งที่ 1/2549 วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2549 ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้กองทุน ฯ และหน่วยงานลูกหนี้ดำเนินการเร่งรัดกระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ และการจัดการหนี้สินที่เหลืออยู่ รวมทั้งในการสนับสนุนเงินกองทุน ฯ ในระยะต่อไปควรให้ความสำคัญกับการ สนับสนุนโครงการที่มุ่งผลสัมฤทธิ์เพื่อพัฒนาศักยภาพและความเข้มแข็งของเกษตรกรให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ ให้มากขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาหนี้เสียซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของกองทุน ฯ ในปัจจุบัน และควรมีการเชื่อมโยงระบบ การให้ความรู้ในด้านวิชาการ และการบริหารจัดการให้กับเกษตรกร ควบคู่ไปกับการกำหนดตัวชี้วัดการดำเนิน การของหน่วยงานที่ใช้เงินกองทุน ฯ เพื่อลดความเสี่ยงในการดำเนินการ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
| 800 | ขอลดหย่อนค่ารายปีและค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินของเขื่อนรัชประภา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย | พน | 30/05/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงพลังงานเสนอขอลดหย่อนค่ารายปีและค่าภาษีโรงเรือนและ
ที่ดิน ปี พ.ศ. 2549 ของเขื่อนรัชชประภา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยคิดเป็นค่ารายปี จำนวน 20,003,044 บาท และคำนวณเป็นภาษี จำนวน 2,500,380.50 บาท และให้กระทรวงมหาดไทยรับความ เห็นของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการประเมินค่ารายปีในส่วนที่เป็นอาคารโรงไฟฟ้า และให้กระทรวงการ คลังรับความเห็นของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเกี่ยวกับการเร่งรัด ให้มีการใช้บังคับกฎหมายว่าด้วยภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
.....
