ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1956 จากทั้งหมด 6213 หน้า แสดงรายการที่ 39101 - 39120 จากข้อมูลทั้งหมด 124242 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
39101 | การประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการและการจัดสรร เงินรางวัลประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ของส่วนราชการจังหวัด และสถาบันอุดมศึกษา | นร | 28/04/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (สำนักงาน ก.พ.ร.) เสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบผลการประเมินตามคำรับรองการปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ของส่วน ราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษา และเห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการ แนวทางการจัดสรรสิ่งจูงใจการจ่ายเงิน รางวัลสำหรับผู้ปฏิบัติและเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บริหารของส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษาที่มีการ จัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 2. รับทราบการดำเนินงานของสำนักงาน ก.พ.ร. ในการประสานสำนักงบประมาณเพื่อจัดงบประมาณ ไปตั้งจ่ายที่กรมบัญชีกลาง จำนวน 6,735 ล้านบาท สำหรับจ่ายเป็นเงินรางวัลประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ให้แก่หน่วยงานเพื่อหน่วยงานจัดสรรให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน จำนวน 5,550 ล้านบาท รวมทั้งจ่ายเป็นเงินเพิ่มพิเศษ สำหรับผู้บริหาร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 จำนวน 1,185 ล้านบาท 3. ให้สำนักงาน ก.พ.ร. รับความเห็นของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาดำเนินการปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธี การ แนวทางการจัดสรรสิ่งจูงใจการจ่ายเงินรางวัลสำหรับผู้ปฏิบัติและเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บริหารของส่วนราช จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษาที่มีการจัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ต่อไป ด้วย ดังนี้ 3.1 เงินรางวัลและเงินเพิ่มพิเศษดังกล่าว ควรเป็นกลไกที่ช่วยลดปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบ ในวงราชการด้วย 3.2 การประเมินผลการปฏิบัติราชการเพื่อจ่ายเงินรางวัลหรือเงินเพิ่มพิเศษ นั้น ควรพิจารณาจาก การปฏิบัติราชการที่ได้ผลลัพธ์หรือผลผลิตไม่ต่ำกว่าเดิมแต่สามารถประหยัดงบประมาณค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น 3.3 การประเมินผลการปฏิบัติราชการเพื่อจ่ายเงินรางวัลหรือเงินเพิ่มพิเศษไม่ควรจะซ้ำซ้อนกับการ ปฏิบัติราชการที่ได้มีการจ่ายเงินรางวัลให้กับผู้ปฏิบัติราชการตามระเบียบ ข้อบังคับ หรือกฎหมายต่าง ๆ ไปแล้ว เช่น กรณีเจ้าหน้าที่ศุลกากรได้รับรางวัลนำจับแล้วจากผลงานการจับกุมสินค้าผิดกฎหมาย เป็นต้น 3.4 นอกเหนือจากการใช้เงินรางวัลและเงินเพิ่มพิเศษเพื่อเป็นแรงจูงใจในการปฏิบัติราชการแล้วควร พิจารณาหาแนวทางอื่นในการสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติราชการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
39102 | ขอรับการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโครงการบ้านเอื้ออาทร | พม | 28/04/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้จัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อพิจารณาดำเนินการแก้ไขปัญหาโครงการบ้านเอื้อ
อาทร โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นาย วีระชัย วีระเมธีกุล) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวง การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ และผู้แทนหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยว ข้องตามที่ประธานกรรมการเห็นสมควรร่วมเป็นกรรมการ โดยมีเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นกรรมการและเลขานุการ รองเลขาธิการ สศช. (ที่เลขาธิการ สศช. มอบหมาย) และ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติเป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ และให้คณะกรรมการดังกล่าวเร่งพิจารณาเรื่องนี้เพื่อ เสนอคณะรัฐมนตรีโดยเร็วต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
39103 | มาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชน | มท | 28/04/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการการดำเนินการตามมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชน
ในส่วนของกรอบวงเงินชดเชยค่าใช้น้ำประปา ของระบบประปาเทศบาลที่ดำเนินการในลักษณะเทศพาณิชย์ และ ระบบประปาหมู่บ้านที่ดำเนินการในลักษณะพาณิชย์ดำเนินการจำนวน 540 ล้านบาท และจำนวน 2,445.725 ล้านบาท ตามลำดับ เพื่อให้ประชาชนในชนบทที่อยู่ในความดูแลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้รับความช่วย เหลือด้านน้ำประปาเท่าเทียมกับประชาชนในเขตนครหลวงและภูมิภาค ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยให้ กระทรวงมหาดไทย (กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น) รับความเห็นของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการปรับ ปรุงข้อมูลที่ใช้ในการประมาณการเงินชดเชยไปดำเนินการ และให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นประสาน รายละเอียดกับสำนักงบประมาณ และเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายดังกล่าว รวม ทั้งให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
39104 | แผนพัฒนาจังหวัด แผนพัฒนากลุ่มจังหวัด แผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัด แผนปฏิบัติราชการประจำปีของกลุ่มจังหวัด และคำของบประมาณของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 | นร | 28/04/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณา
การ ครั้งที่ 3/2552 วันที่ 8 เมษายน 2552 ซึ่งเห็นชอบแผนพัฒนาจังหวัด 75 จังหวัด และแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด 18 กลุ่มจังหวัด และเห็นชอบแผนปฎิบัติราชการประจำปีของจังหวัด แผนปฏิบัติราชการประจำปีของกลุ่มจังหวัด และ คำของบประมาณของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ตามที่เลขาธิการ ก.พ.ร. กรรมการและ เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ เสนอ สำหรับงบประมาณ ของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 เห็นชอบเฉพาะโครงการที่สมควรได้รับการสนับสนุนงบ ประมาณจังหวัดและกลุ่มจังหวัดลำดับที่ 1 ซึ่งเป็นโครงการที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัด ยุทธศาสตร์จังหวัด และหลักเกณฑ์ที่กำหนด รวมทั้งเป็นโครงการที่ต้องเร่งดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ จำนวน 4,546 โครงการ วงเงินรวม 18,012.64 ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
39105 | แต่งตั้งกรรมการผู้แทนชุมชนในคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (นายไพบูลย์ ตั้งกอบลาภ) | สธ | 28/04/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายไพบูลย์ ตั้งกอบลาภ เป็นกรรมการผู้แทนชุมชนในคณะกรรม
การบริหารโรงพยาบาลบ้านแพ้ว ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (28 เมษายน 2552) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
39106 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเรื่อง แนวทางการบริหารจัดการระบบบริการคมนาคมขนส่งทางบกสนับสนุนการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน | คค | 28/04/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบตามที่สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอความเห็นและข้อเสนอแนะ ของสภาที่ปรึกษา ฯ เรื่อง แนวทางการบริหารจัดการระบบบริการคมนาคมขนส่งทางบกสนับสนุนการท่องเที่ยว ที่ยั่งยืน สรุปได้ดังนี้ 1.1 พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน (ถนน ผังเมือง สาธารณูปโภค และสาธารณูปการ) โดยคำนึง ถึงความสะดวก รวดเร็ว ความปลอดภัยและมาตรฐานในระดับสากล ในขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับจุดเด่น เสน่ห์ และอัตลักษณ์ของพื้นที่ที่เป็นแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวมาเยือนตามศักยภาพของแต่ละแหล่งท่องเที่ยว 1.2 สร้างมาตรการความปลอดภัยและสิ่งอำนวยการความสะดวกภายในยานพาหนะชนิดต่าง ๆ โดยดำเนินการให้เป็นมาตรฐานเดียวกันและมีการตรวจติดตามอย่างต่อเนื่องเป็นระยะ 1.3 จัดหาและสนับสนุนแหล่งเงินทุนกู้ยืมระยะยาว ดอกเบี้ยต่ำเพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาประสิทธิ ภาพของรถโดยสารเพื่อยกระดับคุณภาพ 1.4 ควบคุมความเร็วของรถโดยสารสาธารณะ และรถโค๊ชสำหรับท่องเที่ยว โดยนำระบบการตรวจ ติดตามด้วย GPS การฝังชิพ (Chip Computer) ในตัวรถโดยสารสาธารณะ และติดตั้งอุปกรณ์บันทึกข้อมูลพนัก งานขับรถ (Digital Tachograph) มาใช้อย่างจริงจัง 1.5 จัดตั้งสถาบันพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยว เพื่อเป็นสถาบันหลักในการกำหนด กำกับและ พัฒนาคุณภาพของบุคลากรและการบริการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว รวมทั้งบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาค รัฐและเอกชนในการจัดฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากร 1.6 บังคับใช้มาตรฐานให้บริการรถสาธารณะอย่างเข้มงวด เช่น จำนวนชั่วโมงการขับ และการหยุด พักรถ 1.7 จัดตั้งศูนย์กลางบริการข้อมูลและอำนวยความสะดวกแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop service) 1.8 สร้างระบบอำนวยความสะดวกจุดผ่านแดนเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวในภูมิภาค ให้แก่นักท่อง เที่ยวโดยเฉพาะพัฒนาการอนุมัติวีซ่าให้เป็นระบบกลุ่มประเทศในลักษณะเดียวกับวีซ่าแซงเก้น (SCHENGEN) ใน กลุ่มประเทศแถบยุโรป รวมทั้งปรับปรุงกฎระเบียบบริเวณชายแดน โดยผลักดันให้มี Visa on Arrival, Multiple Entry Visa และ Free Tax Zone 1.9 ผลักดันการสร้างเส้นทางเลาะชายแดนหรือเป็นการเปิดพื้นที่ใหม่ ๆ ซึ่งจะสามารถใช้ประโยชน์ ได้ทั้งการท่องเที่ยว และการคมนาคมร่วมกันกับประเทศเพื่อนบ้าน 2. รับทราบความเห็น ผลการพิจารณา และผลการดำเนินการของกระทรวงคมนาคมร่วมกับกระทรวง การท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการคลัง กระทรวง สาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนัก งานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
|
|||||||||||||||||||||||||||
39107 | สถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ที่ระบาดในประเทศเม็กซิโก | สธ | 28/04/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานสถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดใน ประเทศเม็กซิโก โดยองค์การอนามัยโลกรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2552 พบผู้ป่วยมากกว่า 854 ราย เสียชีวิต 59 ราย และจากผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ณ วันที่ 26 เมษายน 2552 ได้รับการยืนยันว่ามีสาเหตุ เกิดจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิด A สายพันธุ์ H1N1 เป็นไขัหวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ของคน ที่มีสายพันธุกรรมของเชื้อไข้ หวัดใหญ่ในหมูผสมอยู่ด้วย จำนวน 18 ราย สำหรับการดำเนินการของกระทรวงสาธารณสุขต่อสถานการณ์การ ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ได้แก่ การเพิ่มระดับความเข้มข้นการเฝ้าระวังโรคให้ครอบคลุมกลุ่มอาการคล้ายไข้หวัด ใหญ่และปอดอักเสบรุนแรง การเตรียมพร้อมด้านการตรวจยืนยันเชื้อทางห้องปฏิบัติการเพื่อให้สามารถตรวจเชื้อ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่และยืนยันได้ภายใน 4 ชั่วโมง การเตรียมความพร้อมด้านการดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วย การสำรองเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อ รวมทั้งการให้ข้อมูลประชาชนเพื่อให้รู้สถานการณ์ที่ถูกต้องและวิธี การป้องกันโรค 2. ให้แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อม ป้องกัน และควบคุมแก้ไขสถานการณ์การ ระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) เป็นประธานกรรมการ และ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นกรรมการและเลขานุการ เพื่อเตรียมความพร้อมและพิจารณาดำเนินการป้องกันแก้ ไขสถานการณ์การระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทยให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิผลและเพื่อให้เกิดความ เชื่อมั่นสำหรับผู้ประกอบการ ประชาชน และนานาชาติต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
39108 | รายงานผลการดำเนินการของคณะกรรมการรวบรวม และประมวลเหตุการณ์ความไม่สงบจากการชุมนุมทางการเมือง เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2552 และเหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่อง | นร | 28/04/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรายงานผลการดำเนินการของคณะ
กรรมการรวบรวม และประมวลเหตุการณ์ความไม่สงบจากการชุมนุมทางการเมือง เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2552 และ เหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่อง (คปช.) สรุปได้ดังนี้ คปช. ได้จัดให้มีการประชุม คปช. ครั้งที่ 1/2552 เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2552 โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้กำหนดช่วงระยะเวลาในการรวบรวมข้อมูลและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นตั้งแต่วั้นที่ 26 มีนาคม 2552-24 เมษายน 2552 (วันที่ประกาศยกเลิกพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548) โดยรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไป รวมทั้ง ผลกระทบในด้านการเมือง สังคม เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวที่เกิดขึ้น และได้มีมติให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการคณะ จำนวน 5 คณะ เพื่อช่วยปฏิบัติงานในการรวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริง และประมวลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากแหล่งข้อมูล ต่าง ๆ ที่หลากหลายให้มีความถูกต้อง ครบถ้วน และให้มีการประชาสัมพันธ์การดำเนินงานของคณะกรรมการ/คณะ อนุกรรมการในการรวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริงผ่านสื่อวิทยุและโทรทัศน์เป็นระยะ
|
|||||||||||||||||||||||||||
39109 | แต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายของกระทรวงศึกษาธิการ | ศธ | 28/04/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอแต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมาย
ของกระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 13 ราย โดยมีนายสมคิด เลิศไพฑูรย์ เป็นประธานกรรมการ และผู้อำนวยการ สำนักนิติกร สป. เป็นกรรมการและเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่ให้คำปรึกษาและข้อเสนอแนะปัญหาข้อกฎหมาย ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หรือหัวหน้าส่วนราชการใน สังกัดกระทรวงศึกษาธิการขอหารือ และให้ความเห็นชอบและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินการตามภารกิจที่ กระทรวงศึกษาธิการต้องดำเนินการ รวมทั้งการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย การพัฒนา กฎหมายและการปฏิบัติราชการให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ แก่รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงศึกษาธิการ
|
|||||||||||||||||||||||||||
39110 | การให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจและปัญหาภายในประเทศ | กค | 28/04/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. อนุมัติหลักการโครงการประกันภัยคุ้มครองชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยในกรณีเกิด จลาจล เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชาวต่างชาติ โดยรัฐบาลเป็นผู้ซื้อกรมธรรม์จากบริษัทประกันในประเทศไทย เพื่อประกันภัยคุ้มครองชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทยในกรณีเกิดจลาจล 2. อนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการประกันภัยคุ้มครองชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามา ในประเทศไทยในกรณีเกิดจลาจล จำนวน 190.75 ล้านบาท โดยเบิกจ่ายจากงบกลาง รายจ่ายสำรองเพื่อกรณี ฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 และให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาตกลงในรายละเอียด กับสำนักงบประมาณต่อไป 3. อนุมัติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ) เสนอขอแก้ไขปรับปรุงถ้อยคำในหนังสือ กระทรวงการคลัง ด่วนที่สุด ที่ กค 1006/6832 ลงวันที่ 27 เมษายน 2552 หน้า 3 จากเดิม "(10) ขั้นตอน การพิจาารณา : ผู้ประกอบการที่ขอสินเชื่อยื่นคำขอสินเชื่อโดยตรงต่อ ธพว. และสำเนาให้สมาคมโรงแรมไทย สมาคมภัตตาคารไทย สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือ ..." เป็น "(10) ขั้นตอนการพิจารณา : ผู้ประกอบ การที่ขอสินเชื่อยื่นคำขอสินเชื่อโดยตรงต่อ ธพว. และสำเนาให้สมาพันธ์ธุรกิจท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคม ภัตตาคารไทย สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือ ..." |
|||||||||||||||||||||||||||
39111 | การเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ตามมาตรา 179 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย | นร | 21/04/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมการประสานงานด้านนิติบัญญัติ วันจันทร์ที่ 20 เมษายน
2552 เกี่ยวกับระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในวันพุธที่ 22 เมษายน 2552 เวลา 10.00 น. เรื่อง ขอเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ตามมาตรา 179 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่ง กำหนดเวลาอภิปราย 2 วัน โดยให้รัฐมนตรีตอบชี้แจงประมาณ 4 ชั่วโมง (วันละ 2 ชั่วโมง) และให้มีการถ่ายทอด ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ NBT และเชิญชวนสถานีวิทยุโทรทัศน์ช่องอื่นร่วมถ่ายทอดเพื่อให้ประชาชนทราบ
|
|||||||||||||||||||||||||||
39112 | ขอเสนอมาตรการเร่งด่วนเพื่อฟื้นฟูวิกฤตการท่องเที่ยว | กก | 21/04/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการมาตรการเร่งด่วนเพื่อฟื้นฟูวิกฤตการท่องเที่ยวตามที่กระทรวงการท่อง
เที่ยวและกีฬาเสนอ โดยให้กระทรวงการคลัง และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รับประเด็นหนังสือกระทรวงการ ท่องเที่ยวและกีฬา ด่วนที่สุด ที่ กก 0202/1042 ลงวันที่ 20 เมษายน 2552 ไปพิจารณาดำเนินการแล้วให้นำ เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยด่วนต่อไป ดังนี้ 1. มาตรการด้านการเงิน (ข้อ 3.1.1.2 เกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่ ขาดสภาพคล่อง) ให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการปล่อยสินเชื่อเพื่อให้มี ความยืดหยุ่นและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณสมบัติของผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวที่จะขอรับสินเชื่อดัง กล่าว นอกจากจะเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการปิดท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานนานา ชาติดอนเมืองแล้ว ควรครอบคลุมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจตั้งแต่ช่วงกลางปี พ.ศ. 2551 ด้วย ทั้งนี้ ให้นำประเด็นตามข้อ 3.2.3 เกี่ยวกับการช่วยเหลือด้านการเงินแก่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวขนาดใหญ่ที่ได้รับ ผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบเมื่อเดือนเมษายน 2552 ไปรวมพิจารณาด้วย 2. มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว (ข้อ 3.1.3.3 เกี่ยวกับการประกันภัยให้กับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ที่จะเดินทางมายังประเทศไทยกรณีที่มีภัยจลาจล) ให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาร่วมกับรัฐมนตรีประจำสำนัก นายกรัฐมนตรี (นายวีระชัย วีระเมธีกุล) และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 3. มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว (ข้อ 3.1.3.4 เกี่ยวกับการจัดลำดับธุรกิจท่องเที่ยวให้เป็นธุรกิจที่มี ความเสี่ยงไม่สูง และข้อ 3.1.3.5 การพิจารณาให้กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวเป็นธุรกิจที่ควรได้รับการส่งเสริมและเยียวยา เป็นพิเศษ) ให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบหมาย รับไปพิจารณา ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผู้แทนสมาคมธนาคารไทย ผู้แทนสมาคมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมทั้ง ผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทย และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง 4. ประเด็นตามข้อ 3.2.4 เกี่ยวกับการฝีกอบรมและพัฒนาบุคลากรทางการท่องเที่ยวที่ตกงาน ให้รอง นายกรัฐมนตรี (นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ) รับไปพิจารณาในรายละเอียดร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและ หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินโครงการต้นกล้าอาชีพ |
|||||||||||||||||||||||||||
39113 | ข้อเสนอมาตรการเพื่อลดผลกระทบจากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจต่อภาคอุตสาหกรรมไทย (การใช้พัสดุที่ผลิตในประเทศหรือเป็นกิจการของคนไทย) | อก | 21/04/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. ให้ส่วนราชการถือปฏิบัติเกี่ยวกับการใชัพัสดุที่ผลิตในประเทศหรือเป็นกิจการของคนไทย ตามข้อ 16 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ด้วยการพัสดุ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2539 และ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2541 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2550 เรื่อง การปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเรื่อง หลักเกณฑ์การใชัพัสดุที่ผลิตในประเทศ อย่างเคร่งครัด 2. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมประสานขอความร่วมมือรัฐวิสาหกิจและองค์การมหาชนนำระเบียบ ฯ และ มติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวมาปรับใช้ตามความเหมาะสม และหาแนวทางและมาตรการในการรณรงค์ส่งเสริมการใช้ ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศ ตลอดจนการลดการใช้ผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศในอีกทางหนึ่ง 3. ให้กระทรวงมหาดไทยประสานขอความร่วมมือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ใช้พัสดุที่ผลิตในประเทศ หรือเป็นกิจการของคนไทย ทั้งนี้ ในการปฏิบัติดังกล่าวส่วนราชการควรระมัดระวังมิให้ขัดหรือแย้งกับข้อตกลงระหว่างประเทศต่าง ๆ เช่น ข้อตกลงขององค์การการค้าโลก การประกวดราคานานาชาติ เป็นต้น โดยอาจประสานกับกระทรวงพาณิชย์ ก่อนดำเนินการ |
|||||||||||||||||||||||||||
39114 | แผนแม่บทการจัดการประมงทะเลไทย (พ.ศ. 2552 - 2561) | กษ | 21/04/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบหลักการแผนแม่บทการจัดการประมงทะเลไทย (พ.ศ. 2552-พ.ศ. 2561) เพื่อเป็นแนวทาง สำหรับหน่วยงานใช้ในการจัดทำแผนปฏิบัติการต่อไป 2. เห็นชอบให้หน่วยงานที่ร่วมรับผิดชอบในแผนแม่บท ฯ ดังกล่าว ได้แก่ หน่วยงานในกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงคมนาคม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาด ไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวง อุตสาหกรรม กระทรวงการคลัง กระทรวงกลาโหม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพเรือ จัดทำแผนปฏิบัติการให้ สอดคล้องกับมาตรการและแนวทาง 3. เห็นชอบให้กรมประมงเป็นหน่วยงานหลักประสานกับหน่วยงานตามข้อ 2. เพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการ และงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาในโอกาสต่อไป 4. เห็นชอบในหลักการให้จัดตั้งคณะกรรมการนโยบายประมงแห่งชาติ ประกอบด้วยผู้แทนจากส่วนราช การที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมบูรณาการการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องในด้านการประมงอย่างเป็นระบบ 5. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของหน่วยงานเกี่ยวข้องและข้อสังเกตเพิ่มเติมของรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับการวางอุปกรณ์ประมงในทะเล รวมทั้งการสร้างที่พักใน ทะเลอาจทำให้กีดขวางทางคมนาคม และก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมในอนาคตได้ จึงควรมีมาตรการป้องกันไว้ด้วย และข้อสังเกตของเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรณีคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2550 อนุมัติในหลักการร่างพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. .... ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณาแล้ว และจะได้นำเสนอคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาต่อไป ประกอบกับสหภาพยุโรปได้ออกกฎระเบียบว่า ด้วยการป้องกัน ต่อต้าน และขจัดการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ไม่รายงานและไร้การควบคุม (Illegal, Unreported and Unregulated Fishing : IUU Fishing) ซึ่งได้ประกาศการบังคับใช้กับผลิตภัณฑ์ประมงนำเข้าทั้งที่แปรรูปและไม่ได้ แปรรูปจากทั่วโลก และจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 เป็นต้นไป ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการส่งออก สินค้าประมงจากประเทศไทย โดยเฉพาะปลาทูน่า จึงเห็นควรพิจารณาปรับแผนแม่บทการจัดการประมงทะเลไทย (พ.ศ. 2552-พ.ศ. 2561) นี้ ให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติดังกล่าว และ IUU Fishing ด้วย ไปพิจารณาดำเนินการ ด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
39115 | ข้อเสนองบประมาณสำหรับงานหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าประจำปีงบประมาณ 2553 | สธ | 21/04/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติข้อเสนองบประมาณสำหรับงานหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 โดยให้ใช้ประมาณการอัตราเงินเฟ้อปี พ.ศ. 2553 ร้อยละ 0.5 เป็นเกณฑ์ในการคำนวณค่าใช้จ่ายต่อหัวประชากร ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และอนุมัติให้ค่าตอบแทนสำหรับบุคลากรสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในหน่วย บริการภาครัฐเพิ่มเติมอีกจำนวน 60.92 บาท ต่อหัวประชากร ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานหลัก ประกันสุขภาพแห่งชาติ รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับ การกำหนดหลักเกณฑ์ที่สำคัญในการเลือกบริการที่จำเป็นในชุดสิทธิประโยชน์และแนวทางในการจัดหาแหล่งเงิน เพิ่มเติมสำหรับดำเนินโครงการที่มีความเหมาะสมและเป็นไปได้ ไปพิจารณดำเนินการด้วย 2. ให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาว่าจะสามารถนำเงินนอกงบประมาณของสถานพยาบาลต่างๆ เช่น เงินสะสม เงินบำรุง เป็นต้น มาสมทบกับเงินงบประมาณสำหรับเป็นค่าบริการภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพ ถ้วนหน้าได้มากน้อยเพียงใด โดยให้จัดทำฐานข้อมูลเกี่ยวกับรายรับ รายจ่าย และเงินนอกงบประมาณของสถาน พยาบาลต่าง ๆ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
39116 | ขออนุมัติขายเครื่องบิน Beechjet 400A และขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการชำระหนี้ส่วนต่างจากการขายเครื่องบิน ของสถาบันการบินพลเรือน | คค | 21/04/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติในหลักการให้สถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) ขายเครื่องบิน Beechjet 400A เพื่อนำเงินที่ ได้รับจากการขายไปชำระหนี้เงินกู้พร้อมดอกเบี้ยให้ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โดยให้ สบพ. ดำเนินการ ตามระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยให้พิจารณากำหนดราคาขายให้เหมาะสม เป็น ประโยชน์สูงสุด และสอดคล้องกับราคามาตรฐานกลาง (Aircraft Blue Book) และนำเงินที่ได้จากการขายเครื่อง บินดังกล่าวไปชำระหนี้เงินกู้ต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ 2. เห็นชอบการสนับสนุนด้านงบประมาณเพื่อชำระหนี้ส่วนต่างจากการขายเครื่องบินดังกล่าวโดยให้ สบพ. ขอรับการสนับสนุนงบประมาณตามความจำเป็นที่ต้องใช้ในแต่ละปี ส่วนค่าเสียหายที่จะเรียกเก็บได้จาก บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ให้ สบพ. นำไปชำระหนี้ค่าเครื่องบินที่ยังค้างอยู่ในเวลานั้นเป็นลำดับแรก และหากมีเงินคงเหลือให้ส่งคืนคลังเพื่อเป็นรายได้แผ่นดินต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ 3. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องที่ให้ สบพ. จัดทำและดำเนินการตาม แผนการปรับปรุงการบริหารจัดการเพื่อฟื้นฟูฐานะทางการเงินให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งให้กระทรวง คมนาคมกำหนดแนวทางการพัฒนา สบพ. ให้ชัดเจนในเรื่องบทบาทและหน้าที่ของการเป็นสถาบันหลักในการ ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรด้านการบินและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องของประเทศ และพิจารณาแนวทางระดมทุนใน รูปแบบอื่นเพื่อการสนับสนุนการดำเนินการของ สบพ. ให้สอดคล้องกับการเป็นสถาบันหลักดังกล่าวเพื่อสร้าง ความเชื่อมั่นต่อมาตรฐานการฝึกอบรมของ สบพ. ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล รวมทั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมของ สำนักงบประมาณ ที่ให้กระทรวงคมนาคมกำกับดูแลให้ สบพ. จัดทำแผนธุรกิจในการเพิ่มรายได้ของ สบพ. ทั้งใน ระยะสั้น และระยะปานกลาง เพื่อแก้ไขปัญหาสภาพคล่องทางการเงินให้มีความมั่นคง รวมทั้งการหาพันธมิตร การแลกเปลี่ยนความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ได้ผลประโยชน์ด้านเทคนิค วิชาการที่ทันสมัย และ แหล่งทุนอื่น ๆ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระการลงทุนอีกทางหนึ่ง ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
39117 | การจัดสรรงบประมาณเพื่อจัดตั้งห้องปฏิบัติการไดออกซิน (มีการปรับแก้ไขมติฯ) | ทส | 21/04/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบในหลักการการจัดตั้งห้องปฏิบัติการไดออกซิน ณ ศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านสิ่งแวดล้อม กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ส่วนค่าใช้จ่ายในการ ดำเนินงาน และอัตรากำลังพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติงานในหน่วยงานดังกล่าว ให้ดำเนินการตามความเห็น ของสำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. และฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคน ภาครัฐ ที่เห็นควรให้มีการเกลี่ยอัตรากำลังจากหน่วยงานที่มีอยู่เดิมตามความจำเป็น หากไม่สามารถดำเนินการ ได้ เห็นควรให้มีการนำเสนอคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ เพื่อขอรับการจัดสรร ตำแหน่งและอัตรากำลังคนภาครัฐ หรืออาจใช้วิธีจ้างพนักงานราชการ 2. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโน โลยี กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่า ระยะเริ่มแรกควรจัดตั้งห้องปฏิบัติการไดออกซินในศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเป็น ส่วนราชการที่มีความพร้อมทั้งด้านสถานที่และบุคลากรในการสนับสนุนการดำเนินงานสำหรับในอนาคตอาจจะ ปรับเปลี่ยนเป็นหน่วยงานของรัฐรูปแบบอื่นหรือสนับสนุนส่งเสริมภาคเอกชนในการจัดตั้งห้องปฏิบัติการ ฯ ให้ เพิ่มมากขึ้นซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการวิเคราะห์และกระจายการบริการในการวิเคราะห์ได้ทั่ว ประเทศ รวมทั้งไม่เป็นภาระกับค่าใช้จ่ายภาครัฐ นอกจากนี้ ควรจัดทำประมาณการค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (Operating and Maintainance) ของห้องปฏิบัติการ ฯ ในแต่ละปีให้ชัดเจน และประมาณการรายได้จากการให้ บริการตรวจวิเคราะห์แก่ผู้ใช้บริการทั้งภาครัฐและเอกชน โดยกำหนดอัตราค่าบริการให้เหมาะสมเพื่อให้สามารถ แข่งขันกับห้องปฏิบัติการในต่างประเทศได้ และควรพิจารณาศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาห้องปฏิบัติการ ฯ ให้เป็นศูนย์กลางในการให้บริการตรวจวิเคราะห์สารไดออกซินในภูมิภาคในอนาคตเพื่อรองรับการเป็นประชาคม เศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งจะทำให้มีรายได้จากการให้บริการจากต่างประเทศด้วยอีกทางหนึ่ง ไปพิจารณาดำเนินการ ด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
39118 | การประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มให้พนักงานของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ที่ปฏิบัติการมีความเสี่ยงภัยสูง | ทก | 21/04/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มให้พนักงานปฏิบัติการที่มีความเสี่ยงสูงของ
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด จำนวน 28 ราย ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ครั้งที่ 6/2551 เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2551
|
|||||||||||||||||||||||||||
39119 | การประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานรับ-ส่งเอกสาร/สิ่งของ แก่ธนาคารพาณิชย์ | ทก | 21/04/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานรับ-ส่งเอกสาร/สิ่งของ
แก่ธนาคารพาณิชย์ ของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ตามมติคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ครั้งที่ 6/ 2551 เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2551 ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
39120 | มาตรการและแนวทางการเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 เพิ่มเติม | กค | 21/04/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบมาตรการและแนวทางการเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2552 เพิ่มเติม ดังนี้ 1.1 ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดเร่งรัดหน่วยงานในสังกัดเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐให้เป็นไปตามเป้า หมายที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ ควรให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาการเบิกจ่ายงบประมาณต่ำในช่วงต้นปีงบประมาณ โดยการปรับกระบวน การ/ขั้นตอนการใช้จ่ายเงินงบประมาณ ซึ่งอาจจะพิจารณากำหนดตารางเวลาการจัดทำรายละเอียดโครงการ ให้เร็วขึ้น โดยเฉพาะงบรายจ่ายลงทุน เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายงบลงทุนได้ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ และจะทำให้ การใช้จ่ายของภาครัฐสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เศรษฐกิจและการค้าโลกชะลอตัว ไปพิจารณา ดำเนินการด้วย 1.2 ให้ส่วนราชการปรับแผนการฝึกอบรมและการประชุมสัมมนาให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนา ยน 2552 โดยให้ยึดแนวทางตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2552 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ วันที่ 3 มีนาคม 2552 โดยให้ผ่านความเห็นชอบของรัฐมนตรีเจ้าสังกัดตามความเห็นของสำนักงบประมาณ 2. สำหรับการพิจารณาจัดสรรงบประมาณสำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ให้สำนักงบประมาณ ระงับการจัดสรรงบประมาณสำหรับการศึกษาดูงานในต่างประเทศ ส่วนการจัดประชุม อบรม และสัมมนาใน ประเทศ ให้ดำเนินการในต่างจังหวัดอย่างเหมาะสม
|
.....