ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1953 จากทั้งหมด 6213 หน้า แสดงรายการที่ 39041 - 39060 จากข้อมูลทั้งหมด 124242 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
39041 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... | มท | 06/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรี
ขันธ์ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่ตำบลหัวหิน และ ตำบลหนองแก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
39042 | ร่างกฎกระทรวงที่ออกตามความในพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2551 จำนวน 8 ฉบับ | รง | 06/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงที่ออกตามความในพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2551 จำนวน 8 ฉบับ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ พิจารณา ดังนี้ 1.1 ร่างกฎกระทรวงกำหนดแบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการในการขอรับใบอนุญาตและการออก ใบอนุญาต และการแจ้งการเข้ามาเพื่อทำงานอันจำเป็นและเร่งด่วน พ.ศ. .... 1.2 ร่างกฎกระทรวงกำหนดแบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการในการขอรับใบอนุญาตและการออก ใบอนุญาตสำหรับคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองภาย ใต้ข้อตกลงว่าด้วยการจ้างแรงงานระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งชาติอื่น พ.ศ. .... 1.3 ร่างกฎกระทรวงกำหนดแบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการในการขอรับใบอนุญาตและการออก ใบอนุญาตของคนต่างด้าว พ.ศ. .... 1.4 ร่างกฎกระทรวงกำหนดแบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการในการขอรับใบอนุญาตและการออก ใบอนุญาต สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติพม่า ลาว และกัมพูชา ที่เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับ อนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง พ.ศ. .... 1.5 ร่างกฎกระทรวงกำหนดแบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการในการขอรับใบอนุญาตและการออก ใบอนุญาต สำหรับคนต่างด้าวซึ่งมีภูมิลำเนาและเป็นคนสัญชาติของประเทศที่มีชายแดนติดกับประเทศไทย พ.ศ. .... 1.6 ร่างกฎกระทรวงกำหนดงานที่ต้องส่งเงินเข้ากองทุนเพื่อการส่งคนต่างด้าวกลับออกไปนอก ราชอาณาจักร พ.ศ. .... 1.7 ร่างกฎกระทรวงกำหนดจำนวนเงินที่ต้องส่งเข้ากองทุน การหักเงินค่าจ้าง และการนำส่ง เงินค่าจ้างเข้ากองทุนเพื่อการส่งคนต่างด้าวกลับออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ. .... 1.8 ร่างกฎกระทรวงกำหนด หลักเกณฑ์ และวิธีการในการออกใบรับ หนังสือรับรอง และใบ แทนหนังสือรับรองการจ่ายเงินเข้ากองทุนเพื่อการส่งคนต่างด้าวกลับออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ. .... 2. ให้กระทรวงแรงงานรับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับร่างกฎกระทรวง ฯ ตามข้อ 1.1-1.5 เป็นร่างกฎกระทรวงซึ่งกำหนดแบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการขอรับใบอนุญาตและการออก ใบอนุญาต ฯ ซึ่งมีลักษณะทำนองเดียวกัน แม้ว่าจะเป็นการออกใบอนุญาตสำหรับคนต่างด้าวแต่ละประเภท เห็นควรให้รวมเป็นร่างกฎกระทรวงฉบับเดียวกัน สำหรับร่างกฎกระทรวง ฯ ตามข้อ 1.6-1.8 เป็นร่างกฎ กระทรวงซึ่งกำหนดประเภทงานซึ่งลูกจ้างซึ่งทำงานประเภทนั้นต้องส่งเงินเข้ากองทุน กำหนดจำนวนเงินที่ ต้องส่ง และหลักเกณฑ์การออกใบรับหรือหนังสือรับรองการจ่ายเงินเข้ากองทุนเพื่อการส่งคนต่างด้าวกลับ ออกไปนอกราชอาณาจักร เห็นควรให้รวมเป็นร่างกฎกระทรวงฉบับเดียวกัน ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
39043 | ขอถอนร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการจำนองรถยนต์ รถพ่วง รถบดถนน และรถแทรคเตอร์ที่จดทะเบียนแล้ว และกำหนดอัตราค่าธรรมเนียม การจดทะเบียนจำนอง พ.ศ. .... | คค | 06/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการจำนองรถยนต์ รถพ่วง รถบด
ถนน และรถแทรคเตอร์ที่จดทะเบียนแล้ว และกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนจำนอง พ.ศ. .... ตามที่ กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
39044 | รายงานผลการประชุมสมัชชา เอฟ เอ โอ สำหรับภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 29 | กษ | 06/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
1. รับทราบรายงานผลการประชุมสมัชชา เอฟ เอ โอ สำหรับภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 29 ซึ่งจัด ขึ้นระหว่างวันที่ 25 มีนาคม-1 เมษายน 2552 ณ กรุงเทพ ฯ โดยภาพรวมการประชุมสมัชชา ฯ มีการหารือเพื่อหา แนวทางและส่งเสริมความร่วมมือเกี่ยวกับความมั่นคงด้านอาหารและการขจัดความยากจน เพื่อการบรรลุเป้าหมาย ของการประชุมสุดยอดอาหารโลกและเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ โดยที่ประชุมสมัชชา ฯ ได้ให้ความสำคัญ ต่อปัญหาการขาดแคลนน้ำและการบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพ และให้ความสำคัญเป็นพิเศษต่อเกษตรกร รายย่อยที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างความมั่นคงด้านอาหาร ทั้งนี้ ได้ขอให้รัฐบาลของประเทศสมาชิก และ เอฟ เอ โอ ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยในด้านต่าง ๆ เช่น การให้สินเชื่อเพื่อการเกษตร การจัดหาที่ดินทำกิน การส่งเสริมและเสริมสร้างสมรรถนะในการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร และสนับสนุนการทำธุรกิจเกษตรแก่เกษตรกร รายย่อย 2. เห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์แจ้งเวียนผลการประชุมสมัชชา ฯ ให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยว ข้องทราบเพื่อการประสานงานและการวางนโยบายและแผนงานร่วมกันต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
39045 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งระดับ 10 (กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) (นายสมชาย เทียมบุญประเสริฐ) | วท | 06/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายสมชาย เทียมบุญประเสริฐ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านวิทยา
ศาสตร์และเทคโนโลยี (เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน 10 ชช.) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงวิทยา ศาสตร์และเทคโนโลยี ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2551 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
39046 | แต่งตั้งข้าราชการ (กระทรวงสาธารณสุข) (นางดวงตา ไกรภัสสร์พงษ์) | สธ | 06/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้งนางดวงตา ไกรภัสสร์พงษ์ ให้ดำรง
ตำแหน่งนายแพทย์ 10 วช. (ด้านเวชกรรม สาขาจิตเวช) กลุ่มงานการแพทย์ กลุ่มบริการทางการแพทย์ สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ กรมสุชภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม 2551 ซึ่งเป็น วันที่มีคุณสมบัติครอบถ้วนสมบูรณ์
|
|||||||||||||||||||||||||||
39047 | สรุปผลการเข้าประชุมคณะกรรมการพัฒนาการของธนาคารโลก ครั้งที่ 78 | นร | 06/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
สรุปผลการเข้าประชุมคณะกรรมการพัฒนาการของธนาคารโลก (Development Committee) ครั้งที่ 78 ระหว่าง วันที่ 24-26 เมษายน 2552 ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีประเด็นสำคัญสรุปได้ดังนี้ ที่ประชุม คณะกรรมการ ฯ พิจารณาเห็นว่า ธนาคารโลกควรดำเนินการตามข้อสรุปของ G20 ในการระดมทุน และกระจาย เงินกู้และเงินช่วยเหลือต่อประเทศที่เดือดร้อนโดยให้ปรับวิธีการดำเนินงานให้มีความรวดเร็ว และทบทวนข้อกำหนด ต่าง ๆ เช่น single borrower limit เป็นต้น ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ สำหรับการใช้เงินของธนาคารโลกเพื่อฟื้นฟู เศรษฐกิจของประเทศสมาชิกควรจะมีแผนงานที่มีความสมดุลระหว่างการพยุงเศรษฐกิจในระยะสั้น และการสร้างพื้น ฐานที่เข้มแข็งเพื่อการพัฒนาในระยะยาว โดยพิจารณาให้แผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจช่วยสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรม และผลิตภาพการผลิต การสร้างภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ การส่งเสริมความมั่นคงและประสิทธิ ภาพการใช้พลังงาน และการรักษาสิ่งแวดล้อม เป็นต้น รวมทั้งทบทวนความพอเพียงของทุน (Capital Adequacy) ในการดำเนินการ และแนวทางการปรับปรุงการมีส่วนร่วมของประเทศสมาชิก (Voice and Participation) ในการ บริหารธนาคารโลกให้มีความเป็นธรรมมากขึ้น
|
|||||||||||||||||||||||||||
39048 | การลงนามในหนังสือเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีของสำนักงานอัยการสูงสุด | อส | 06/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) เกี่ยวกับการลงนามเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีของสำนักงานอัยการสูงสุดตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่อง และการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 โดยเห็นว่า สำนักงานอัยการสูงสุดมีฐานะเป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่อยู่ใน กำกับของราชการฝ่ายบริหารตามความหมายของพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว ดังนั้น การที่สำนักงานอัยการสูงสุดใน ฐานะที่ทำหน้าที่เป็นหน่วยธุรการขององค์กรอัยการได้เสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีโดยอัยการสูงสุดเป็นผู้ลงนามเรื่อง ดังกล่าว และส่งมายังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีโดยตรง จึงเป็นการดำเนินการที่เป็นไปตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 6 แห่งพระราชกฤษฎีกา ฯ ดังกล่าว 2. คณะรัฐมนตรีเห็นว่า เพื่อให้การพิจารณาเรื่องต่าง ๆ ตามระเบียบและมติคณะรัฐมนตรีต่าง ๆ ทั้งที่ต้อง เสนอคณะรัฐมนตรีและไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีของสำนักงานอัยการสูงสุดชอบด้วยกฎหมาย ระเบียบ และแนวทาง ปฏิบัติ สมควรให้อัยการสูงสุดหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้พิจารณาอนุมัติ อนุญาต หรือให้ความเห็น ชอบ รวมทั้งเป็นผู้เสนอเรื่องต่าง ๆ ต่อคณะรัฐมนตรี โดยให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับไปพิจารณา แล้วนำ เสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
39049 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง "การกระจายรายได้ด้วยการสร้างสังคมสวัสดิการ" | สสป | 06/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบตามที่สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอความเห็นและข้อเสนอแนะของ สภาที่ปรึกษา ฯ เรื่อง "การกระจายรายได้ด้วยการสร้างสังคมสวัสดิการ" ดังนี้ 1.1 กำหนดการสร้างสังคมสวัสดิการให้เป็นวาระแห่งชาติ 1.2 สร้างภาคีสังคมสวัสดิการจากภาคส่วนต่าง ๆ ของสังคมใน 3 รูปแบบ ได้แก่ 1.2.1 สวัสดิการโดยรัฐ (pubilc welfare) แบ่งออกเป็น 3 ด้าน คือ - การบริการสังคม (social service) ประกอบด้วย การบริการด้านการศึกษา สาธารณสุข ที่อยู่อาศัย บริการด้านสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน เช่น ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ เป็นต้น บริการจัดหางานทำ และ การได้รับความยุติธรรมจากกระบวนการยุติธรรม - การประกันสังคม (social insurance) ประกอบด้วย การประกันเจ็บป่วย และประสบอัน ตราย ประกันทุพพลภาพ การประกันคลอดบุตร การสงเคราะห์บุตร การประกันชราภาพ การประกันการเสียชีวิต และการประกันการว่างงาน - การสงเคราะห์สังคม หรือการช่วยเหลือทางสังคม (social assistance) ได้แก่ การให้ความ ช่วยเหลือแก่คนที่อยู่ในภาวะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เช่น การช่วยเหลือเด็ก คนชรา คนพิการ คนเร่ร่อน เป็นต้น หรือผู้ ที่ตกอยู่ในภาวะวิกฤต เช่น ผู้ประสบภัยพิบัติ ไฟไหม้ น้ำท่วม เป็นต้น ทั้งนี้ แนวทางการสร้างสวัสดิการพื้นฐาน โดยรัฐให้มีบทบาทหลัก สามารถดำเนินการได้ 3 วิธี คือ การจัดการงบประมาณ การคลังเพื่อการกระจายรายได้ และการจัดให้มีระบบความมั่นคงทางสังคม (social security) 1.2.2 สวัสดิการโดยภาคธุรกิจ โดยการจัดสวัสดิการให้กับแรงงานลูกจ้างและแรงงานคล้ายลูกจ้าง เช่น ผู้รับงานไปทำที่บ้าน และเกษตรกรภายใต้พันธสัญญา โดยผ่านการปรับปรุงกฎระเบียบของทางราชการใน 3 ด้าน คือ - การคุ้มครองแรงงาน โดยการขยายการคุ้มครองแรงงานตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรง งานให้ครอบคลุมลูกจ้างทุกประเภท รวมถึงผู้รับงานไปทำที่บ้านด้วย - การประกันสังคม โดยให้มีการประกันสังคมถ้วนหน้าครอบคลุมแรงงานลูกจ้าง และคล้าย ลูกจ้างทุกประเภท - สวัสดิการแรงงานในลักษณะอื่น ๆ เป็นสวัสดิการแรงงานที่จัดขึ้นโดยนายจ้าง เช่น ที่พัก อาหารกลางวัน บริการรถโดยสาร เป็นต้น 1.2.3 สวัสดิการโดยชุมชน (Community welfare) รูปแบบในการจัดสวัสดิการสำหรับกลุ่มนี้ ได้แก่ การที่รัฐส่งเสริมและสนับสนุน โดยภาคชุมชนร่วมสมทบ สามารถจำแนกตามฐานการจัดสวัสดิการได้ดังนี้ - ขยายผลสวัสดิการบนฐานทรัพยากรและวัฒนธรรม - สนับสนุนสถาบันแรงงานที่ไม่เป็นทางการ - ส่งเสริมงบประมาณเพื่อการส่งเสริมสถาบันสวัสดิการชุมชน - สวัสดิการอื่น ๆ 2. รับทราบความเห็น ผลการพิจารณา และผลการดำเนินการของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่น คงของมนุษย์ ร่วมกับสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรง งาน สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
|
|||||||||||||||||||||||||||
39050 | ผลการประชุมด้านเศรษฐกิจในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา (ระหว่างวันที่ 10 - 11 เมษายน 2552) | พณ | 06/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอผลการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจ
อาเซียน (SE0M) เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2552 ณ เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี โดยสาระสำคัญของการประชุม SEOM มีดังนี้ 1. รัฐมนตรีอาเซียนได้ลงนามในความตกลงว่าด้วยการยอมรับร่วมรายสาขาของอาเซียนสำหรับการ ตรวจผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ยาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ดีในการผลิต (GMP) เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2552 มีวัตถุ ประสงค์เพื่อพัฒนามาตรฐานและความสอดคล้องของระบบการตรวจสอบผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ยา รวมถึงการพัฒนา คุณภาพของหน่วยตรวจประเมิน GMP ยา และรายงานการตรวจ GMP ยา ให้มีมาตรฐานเดียวกันและให้มีการ ยอมรับในหนังสือรับรองการผลิตระหว่างกัน 2. การลงนามในความตกลงด้านการลงทุนระหว่างอาเซียน-จีน ซึ่งกำหนดลงนามภายหลังจากการ ประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน ในวันที่ 11 เมษายน 2552 ต้องเลื่อนการลงนามออกไป เนื่องจากสถานการณ์การ ชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้น 3. เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียนและอินเดียได้หารือเรื่องความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน- อินเดีย ผลการหารือสรุปได้ว่า จะลดภาษีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 และเลื่อนวันสิ้นสุด (end date) ของการ ลดภาษีสินค้าทุกกลุ่มออกไป 1 ปี และกำหนดให้มีการประชุมของคณะเจรจา ระหว่างวันที่ 21-22 พฤษภาคม 2552 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อปรับตารางการลดภาษีและถ้อยคำของร่างความตกลงการค้าสินค้า โดยอินเดีย จะใช้อัตราภาษีฐานที่ระบุในตารางการลดภาษีเป็นอัตราภาษี MFN applied ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2550 รวม ทั้งตั้งเป้าหมายลงนามความตกลง ฯ และเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในช่วงการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (AEM) ครั้งที่ 14 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในเดือนสิงหาคม 2552 4. ไทยได้เสนอรายละเอียดของโครงการยุวทูตอาเซียน (AEC Youth Ambassador) โดยให้ประเทศ สมาชิกให้ข้อคิดเห็นเพิ่มเติมก่อนเสนอให้รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนให้การรับรองในการประชุม AEM Retreat ในเดือนพฤษภาคม ศกนี้ เพื่อเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (AEM) ครั้ง ที่ 14
|
|||||||||||||||||||||||||||
39051 | แต่งตั้งผู้แทนการค้าไทย (นายเกียรติ สิทธีอมร) | นร | 06/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอการแต่งตั้งนายเกียรติ สิทธีอมร
ให้ดำรงตำแหน่งประธานผู้แทนการค้าไทย
|
|||||||||||||||||||||||||||
39052 | แต่งตั้งข้าราชการ (จำนวน 3 ราย 1. นายไพโรจน์ สัญญะเดชากุลฯ) | อก | 06/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัด
กระทรวงอุตสาหกรรม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 3 ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณา โปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ดังนี้ 1. นายไพโรจน์ สัญญะเดชากุล ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมอุตสาหกรรมพื้นฐาน และการเหมืองแร่ 2. นายรัชดา สิงคาลวณิช ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัด กระทรวงอุตสาหกรรม 3. นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมโรงงานอุตสาหกรรม
|
|||||||||||||||||||||||||||
39053 | สรุปประเด็นการอภิปรายทั่วไปของสมาชิกวุฒิสภาตามมาตรา 161 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เมื่อวันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม 2552 | นร | 06/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอเอกสารสรุปประเด็นการอภิปราย
ทั่วไปของสมาชิกวุฒิสภา ตามมาตรา 161 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เมื่อวันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม 2552 มีสาระสำคัญประกอบด้วย วิกฤตความขัดแย้งและผลกระทบ ข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการบริหารงานของรัฐบาล
|
|||||||||||||||||||||||||||
39054 | การลดอัตราเงินสมทบ กองทุนประกันสังคม | รง | 06/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอความเห็นของคณะกรรมการประกันสังคม เรื่อง
การลดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม โดยที่ประชุมคณะกรรมการประกันสังคม เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2552 ได้มีมติเห็นชอบให้ลดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม โดยให้นายจ้างและลูกจ้าง ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบลด ลงจากอัตราปัจจุบันซึ่งจ่ายเงินสมทบฝ่ายละ ร้อยละ 5 ของค่าจ้าง เป็นอัตราฝ่ายละ ร้อยละ 3 ของค่าจ้าง โดยลด อัตราเงินสมทบประโยชน์ทดแทนกรณีเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย และคลอดบุตร จากฝ่ายละ ร้อยละ 1.5 ของค่าจ้าง เป็นฝ่ายละ ร้อยละ 0.5 ของค่าจ้าง และลดอัตราเงินสมทบประโยชน์ทดแทนกรณีสงเคราะห์บุตร และชราภาพ จาก ฝ่ายละ ร้อยละ 3 ของค่างาน เป็นฝ่ายละ ร้อยละ 2 ของค่างาน และมีมติเห็นชอบให้มีการเสนอร่างกฎกระทรวง 2 ฉบับ คือ ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดหลัก เกณฑ์ วิธีการ ระยะเวลา และอัตราการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพเป็นการเฉพาะสำหรับเงินสมทบที่นำ ส่งตั้งแต่เดือน.... พ.ศ. 2552 ถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2552
|
|||||||||||||||||||||||||||
39055 | แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการบริหารกิจการขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (เพิ่มเติม) (จำนวน 2 ราย นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ และนายณัฐศักดิ์ โรจนพิเชฐ) | ทส | 06/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ และนายณัฐศักดิ์ โรจนพิเชฐ เป็นกรรมการอื่นใน
คณะกรรมการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เพิ่มเติม ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ โดย ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (6 พฤษภาคม 2552) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
39056 | การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (นายธนศักดิ์ วหาวิศาล) | กค | 06/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายธนศักดิ์ วหาวิศาล เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคาร
เพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย แทนนายสุภัค ศิวะรักษ์ ที่ลาออก ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรี มีมติ (6 พฤษภาคม 2552) เป็นต้นไป โดยให้ผู้ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทนอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่ เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้งไว้แล้ว ตามนัยมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติธนาคารเพื่อการส่งออกและนำ เข้าแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2536 ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
39057 | การแต่งตั้งข้าราชการ กระทรวงมหาดไทย (จำนวน 7 ราย 1. นายวีระวิทย์ วิวัฒนวานิชฯ) | มท | 06/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย ให้ดำรงตำแหน่ง
ประเภทบริหารระดับสูง และพ้นจากตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่ กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ 1. นายวีระวิทย์ วิวัฒนวานิช ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดน่าน 2. นายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดฉะเชิงเทรา 3. นายเสนีย์ จิตตเกษม ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดชลบุรี 4. นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดน่าน (เนื่องจากโอนไปดำรงตำแหน่ง รองอธิบดีกรมการปกครอง) 5. นายระพี ผ่องบุพกิจ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดศรีสะเกษ 6. สำหรับกรณี ว่าที่ร้อยตรี พงษ์ศักดิ์ พลายเวช ที่ให้ดำรงตำแหน่งนักปกครอง (เจ้าหน้าที่วิเคราะห์ นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) และนายวัลลภ พริ้งพงษ์ ที่ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดแพร่ นั้น ให้ หารือสำนักงาน ก.พ. ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
39058 | การปรับเพิ่มเป้าหมายปริมาณรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2552 และการกำหนดวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ | พณ | 06/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติในหลักการให้ปรับเพิ่มเป้าหมายปริมาณรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2552 จำนวน 1.5 ล้านตัน (จากเดิม 2.5 ล้านตัน เป็น 4.0 ล้านตัน) เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ยังมีข้าวเปลือกที่จะออกสู่ตลาด ช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2552 (ภาคใต้จะรับจำนำ กรกฎาคม-กันยายน 2552) โดยวงเงินที่จะใช้ใน การรับจำนำ ให้กระทรวงการคลังรับไปตรวจสอบแหล่งเงิน โดยให้ใช้จ่ายจากเงินที่กระทรวงการคลังได้จัดหา แหล่งเงินกู้สำหรับการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวและผลิตผลทางการเกษตรไว้ จำนวน 110,000 ล้านบาท ตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไปเป็นลำดับแรก หากไม่สามารถใช้จ่ายจากเงินดังกล่าวได้ ให้กระทรวงการคลังพิจารณานำเสนอคณะรัฐมนตรีโดยด่วนต่อไป ส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินการรับจำนำให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำรายละเอียดเสนอคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรพิจารณา ต่อไป 2. ส่วนการกำหนดให้วันที่ 5 มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ ตามที่กรมการข่าว ข้าวเสนอ นั้น ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานและผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้องก่อน โดยให้พิจารณาถึงความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับวันพืชมงคลด้วย แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
39059 | ปรับปรุงภาษีน้ำมันเพื่อเสริมฐานะทางการคลังของรัฐบาล | กค | 06/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ มีสาระสำคัญคือ ปรับเพิ่มอัตราภาษีน้ำมันเบนซินและน้ำมันที่ คล้ายกัน แนพทา รีฟอร์เมท ไพโรลายลิสก๊าซโซลีน และของเหลวที่คล้ายกัน น้ำมันดีเซลและน้ำมันอื่น ๆ ที่คล้าย กัน ก๊าซธรรมชาติเหลว (เอ็น.จี.แอล.) และก๊าซเหลวที่คล้ายกัน และอื่น ๆ ตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดในราชกิจ จานุเบกษา และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดย คณะรัฐมนตรีเห็นว่า การดำเนินการตราพระราชกำหนดในเรื่องนี้เป็นกรณีที่มีความจำเป็นต้องมีกฎหมายเกี่ยวด้วย ภาษีอากร ซึ่งต้องได้รับการพิจารณาโดยด่วนและลับเพื่อรักษาประโยชน์ของแผ่นดินตามมาตรา 186 ของรัฐธรรม นูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2. เห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ลดอัตราและยกเว้นภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ มีสาระสำคัญคือ กำหนดอัตราภาษีที่ใช้ในการจัดเก็บภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน และส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วนแล้วดำเนินการต่อไปได้เมื่อร่างพระราชกำหนด ในเรื่องนี้ประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายแล้ว 3. ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน และกระทรวงพาณิชย์กำหนดมาตรการป้องกันและควบคุมดูแล มิให้มีการกักตุนและลักลอบการนำเข้าสินค้าน้ำมันต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
39060 | ปรับปรุงอัตราค่าแสตมป์ยาสูบ | กค | 06/05/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ มีสาระสำคัญคือ ปรับเพิ่มอัตราค่าแสตมป์ยาสูบ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการ กฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยคณะรัฐมนตรีเห็นว่าการดำเนินการตราพระราช กำหนดในเรื่องนี้เป็นกรณีที่มีความจำเป็นต้องมีกฎหมายเกี่ยวด้วยภาษีอากร ซึ่งจะต้องได้รับการพิจารณาโดยด่วน และลับเพื่อรักษาประโยชน์ของแผ่นดินตามมาตรา 186 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงอัตราค่าแสตมป์ยาสูบ สำหรับยาสูบชนิดบุหรี่ซิกาแรต และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้แก้ ไขอัตราภาษีรายการ 2.1 บุหรี่ซิกาแรต จาก "ตามมูลค่าร้อยละ 82" เป็น "ตามมูลค่าร้อยละ 85" แล้วดำเนินการ ต่อไปได้เมื่อร่างพระราชกำหนดในเรื่องนี้ประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายแล้ว 3. ให้กระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ กำหนดมาตรการป้องกันและควบคุมดูแลมิให้มีการกักตุน และลักลอบการนำเข้าสินค้ายาสูบต่อไป
|
.....