ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1955 จากทั้งหมด 6213 หน้า แสดงรายการที่ 39081 - 39100 จากข้อมูลทั้งหมด 124242 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
39081 | ผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือไทย-ลาว ครั้งที่ 15 | กต | 28/04/2552 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบร่างบันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือไทย-ลาว ครั้งที่ 15 และ ให้เสนอร่างบันทึกการประชุมดังกล่าว เพื่อรัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย 2. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ลงนามบันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการว่า ด้วยความร่วมมือไทย-ลาว ครั้งที่ 15 ฝ่ายไทย ร่วมกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่าง ประเทศ สปป.ลาว หลังจากได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณา จักรไทยแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||
39082 | ขอเบิกค่าใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ส่วนตัวในการประสานงานสำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียนและการประชุมที่เกี่ยวข้อง | กต | 28/04/2552 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงการต่างประเทศเบิกค่าใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ส่วนตัวของ
เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยซึ่งสังกัดส่วนราชการภายในประเทศ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ เฉพาะค่าใช้จ่ายใน รอบเดือนที่มีการติดต่อประสานงานเกี่ยวกับการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 15 การประชุมสุดยอดผู้นำกับคู่ เจรจา การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 42 รวมทั้งการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับ ประเทศคู่เจรจา ในช่วงก่อนและระหว่างการประชุม ทั้งนี้ ให้หัวหน้าส่วนราชการเจ้าของงบประมาณควบคุมดูแล รับผิดชอบการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้เป็นไปโดยถูกต้องเท่าที่จำเป็นเพื่อไม่ให้เป็นภาระกับงบประมาณ และ สำหรับส่วนราชการที่มีหน่วยงานประจำในต่างประเทศ ให้ถือปฏิบัติตามหนังสือกระทรวงการคลัง ที่ กค 0409. 5/ว49 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2549 ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง และให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะ รัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2550 (เรื่องการปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการติดตั้งและใช้โทรศัพท์ของ ทางราชการ) เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
39083 | การแก้ไขคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค | นร | 28/04/2552 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 92/2552 ลงวันที่ 7 เมษายน 2552 เรื่อง
แก้ไขคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 12/2552 ลงวันที่ 9 มกราคม 2552 เรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้รอง นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค โดยแก้ไข การมอบหมายพื้นที่ในการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคของรองนายกรัฐมนตรี ในส่วนของรอง นายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) และรองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) เฉพาะเขตตรวจ ราชการที่ 4 และ 2
|
||||||||||||||||||||||||||||||
39084 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. .... ) ออกตามความในพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 | มท | 28/04/2552 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติ
อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎกระทรวง ฯ มี สาระสำคัญดังนี้ 1. ยกเลิกความใน (12) ของข้อ 2 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2491) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎ กระทรวง ฉบับที่ 8 (พ.ศ. 2512) ออกตามความในพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ ให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "ซองกระสุน ที่สามารถบรรจุกระสุนได้เกินยี่สิบนัด เว้นแต่ซองกระสุนที่ใช้กับปืนลูกกรด ขนาด .22 หรือปืนที่มีขนาดต่ำกว่านั้น" 2. เพิ่มเติมความต่อไปนี้เป็น (13) ของข้อ 2 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2491) ออกตามความใน พระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ "(13) ซองกระสุนที่ดัดแปลง เปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขให้สามารถบรรจุกระสุนต่างไปจาก ต้นแบบของผู้ผลิตอาวุธปืน"
|
||||||||||||||||||||||||||||||
39085 | สรุปผลการดำเนินงานสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร | นร | 28/04/2552 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) เสนอสรุปผลการ
ดำเนินงานสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) โดยผลการดำเนินงานของ กฟก. ระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม 2551 ถึงวันที่ 10 มีนาคม 2552 ได้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารสำนักงาน โดยกระจาย บุคลากรตามที่มีอยู่ในโครงสร้างเดิมในจังหวัดที่ตั้งสำนักงานสาขา 13 สาขา ให้กระจายพนักงานทั้งระดับบริหาร และปฏิบัติการไปอยู่ในพื้นที่บริการแก่เกษตรกรสมาชิก 76 จังหวัด และปรับปรุงระบบบริหารสำนักงานใหม่ โดย จัดให้มีการทำแผนแม่บทการบริหารบุคคล และวางระบบบัญชี การเงิน และงบประมาณ เพื่อให้สามารถรายงาน งบดุลต่อคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาได้ รวมทั้งได้ปรับปรุงระเบียบหลักเกณฑ์ ที่เป็นอุปสรรคในการปฏิบัติงาน โดย เฉพาะระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงประสิทธิภาพบุคลากรและการใช้จ่ายงบประมาณของกองทุนเพื่อให้เกิด การประหยัดงบประมาณรายจ่าย นอกจากนี้ ได้จัดสวัสดิการให้แก่พนักงานและลูกจ้างสำนักงาน โดยจัดตั้งกอง ทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงาน ปรับปรุงหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลแก่พนักงาน ลูกจ้าง จัดค่าเบี้ยเสี่ยง ภัยให้กับพน้กงานที่ปฏิบัติงานใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และจัดค่าครองชีพให้กับพนักงานที่มีเงินเดือนต่ำกว่า 11,700 บาท รายละ 1,500 บาท ต่อเดือน
|
||||||||||||||||||||||||||||||
39086 | การบริหารจัดการตำแหน่งว่างของส่วนราชการ | นร | 28/04/2552 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการขยายระยะเวลาการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 กุมภา
พันธ์ 2552 (เรื่อง การบริหารจัดการตำแหน่งว่างของส่วนราชการ) โดยให้ส่วนราชการดำเนินการสรรหาบุคคล เพื่อบรรจุแต่งตั้งในตำแหน่งว่างต่อไปจนถึงวันที่ 15 มิถุนายน 2552 และรายงานให้สำนักงาน ก.พ. ทราบภาย ในวันที่ 30 มิถุนายน 2552 ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
39087 | รายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ประจำปี พ.ศ. 2551 | ทช | 28/04/2552 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่ประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติรายงานผลการปฏิบัติงาน
ของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ประจำปี พ.ศ. 2551 โดยมีผลการปฏิบัติงานแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้ 1. การบริหารคลื่นความถี่และการจัดสรรคลื่นความถี่ ประกอบด้วย 1.1 การจัดทำแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ 1.2 การจัดสรรคลื่นความถี่เพื่อกิจการเฉพาะกิจและความมั่นคงของรัฐ 1.3 การจัดสรรคลื่นความถี่เชิงพาณิชย์ 2. การกำกับดูแลการประกอบกิจการโทรคมนาคม อาทิ 2.1 ด้านการแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม 2.2 ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม 2.3 ด้านการกระจายบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการสังคม 2.4 ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรโทรคมนาคม 2.5 ด้านการบริหารเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม 3. แผนการดำเนินงานของ กทช. ในระยะต่อไป อาทิ 3.1 ยุทธศาสตร์การแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม 3.2 ยุทธศาสตร์การคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม 3.3 ยุทธศาสตร์การกระจายการบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการสังคม 3.4 ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรโทรคมนาคม 3.5 ยุทธศาสตร์การบริหารเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม
|
||||||||||||||||||||||||||||||
39088 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเพื่อก่อสร้างอาคารเรียน ห้องสมุด เป็นอาคาร คสล. 3 ชั้น และอาคารหอพัก เป็นอาคาร คสล. 5 ชั้น โรงพยาบาลนราธิวาสนราชนครินทร์ | สธ | 28/04/2552 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเพิ่มวงเงินและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเพื่อก่อสร้าง
อาคารเรียน ห้องสมุด เป็นอาคาร คสล. 3 ชั้น และอาคารหอพัก เป็นอาคาร คสล. 5 ชั้น โรงพยาบาลนรา ธิวาสราชนครินทร์ โดยเพิ่มวงเงินจากที่ได้รับอนุมัติ จำนวน 60,000,000 บาท เป็น 66,830,000 บาท และขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ จากเดิมตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2551-พ.ศ. 2552 เป็น ปีงบประมาณ พ.ศ. 2551-พ.ศ. 2553 ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
39089 | มาตรการสินเชื่อชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม | กค | 28/04/2552 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอมาตรการสินเชื่อเพื่อชำระภาษีเงินได้นิติบุคคล
ของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) โดยให้ธนาคาร (สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และธนาคาร พาณิชย์) ปล่อยสินเชื่อให้แก่ SMEs ที่เป็นลูกค้าของธนาคารเพื่อชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลประจำปี พ.ศ. 2551 ระยะเวลาการให้สินเชื่อ 1 ปี ระยะเวลาปลอดหนี้ 3 เดือน อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี จ่ายชำระเป็นรายเดือน โดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เป็นผู้ค้ำประกันสินเชื่อเต็มจำนวนของผู้กู้แต่ละราย วง เงินค้ำประกันรวมประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยคิดค่าธรรมเนียมตามปกติ และให้ บสย. จ่ายเงินในส่วนที่ค้ำ ประกันให้กับธนาคารทันทีที่ค้างชำระ (ค้างชำระเกิน 3 เดือน) โดยไม่ต้องรอฟ้องร้องต่อศาล หรือมีเงื่อนไขใด
|
||||||||||||||||||||||||||||||
39090 | ผลการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ครั้งที่ 3/2552 | นร | 28/04/2552 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบผลการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหา
ทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ครั้งที่ 3/2552 เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2552 โดยที่ประชุม ฯ ได้พิจารณาเกี่ยวกับผลกระทบจาก การบังคับใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 มาตรา 11/1 ข้อเสนอแก้ไขพระราชบัญญัติป่า ไม้ พ.ศ. 2484 การทบทวนการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี การเร่งรัดแก้ไขปัญหาและอุปสรรคการนำเข้า เหล็กภายใต้กรอบความตกลง JTEPA แนวทางความร่วมมือเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษในพื้นที่มาบตาพุด และ พื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งพิจารณาเรื่องการชะลอการขึ้นอัตราค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (Ft) และการนำค่าไฟฟ้ามาหักเป็นค่าใช้ จ่ายในการชำระภาษี ความคืบหน้าโครงการปล่อยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม มาตร การภาษีเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ และการจัดตั้งคณะกรรมการ กรอ.จังหวัด/กลุ่มจังหวัด และเห็นชอบมติคณะกรรม การ กรอ. โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นและมติของคณะกรรมการ กรอ . ไปพิจารณาประกอบการดำเนิน การต่อไป แล้วรายงานให้คณะกรรมการ กรอ. และคณะรัฐมนตรีทราบต่อไป ตามที่เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนา การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการ กรอ. เสนอ และที่เสนอเพิ่มเติมขอตัดข้อ ความในหนังสือสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ด่วนที่สุด ที่ นร 1104/1675 ลงวัน ที่ 24 เมษายน 2552 หน้า 7 ในส่วนของมติคณะกรรมการ กรอ. ข้อ 3.2.2 (2) (เกี่ยวกับการปรับลดค่าประกันการ ใช้ไฟฟ้าให้กับภาคอุตสาหกรรม) ออก
|
||||||||||||||||||||||||||||||
39091 | ขอส่งรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2550 และ 2549 | ปช | 28/04/2552 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนัก
งาน ป.ป.ช.) เสนอรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของสำนักงาน ป.ป.ช. สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2550 และ 2549 โดยงบแสดงฐานะการเงิน สำนักงาน ป.ป.ช. มีสินทรัพย์รวม 1,640,919,477.27 บาท มีหนี้ สินรวม 26,692,083.41 บาท มีสินทรัพย์สุทธิรวม 1,614,227,393.86 บาท สำหรับงบแสดงผลการดำเนิน งานทางการเงิน สำนักงาน ป.ป.ช. มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 695,869,275.55 บาท มีค่าใช้จ่ายจากการ ดำเนินงานรวม 481,639,106 บาท มีรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่ายสุทธิรวม 214,147,946.07 บาท ส่วนงบกระแส เงินสด มีกระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานรวม 233,102,840.92 บาท มีกระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรม ลงทุนรวม 36,009,221.35 บาท มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเพิ่มขึ้นสุทธิรวม 197,093,619.57 บาท
|
||||||||||||||||||||||||||||||
39092 | รายงานการตรวจติดตามสถานการณ์ การบริหารจัดการและการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งในพื้นที่ จังหวัดสุโขทัย | กษ | 28/04/2552 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานการตรวจติดตามสถานการณ์ การ
บริหารจัดการและการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งในพื้นที่จังหวัดสุโขทัยของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายชาติชาย พุคยาภรณ์) เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2552 สรุปได้ดังนี้ 1. สถานการณ์การบริหารจัดการน้ำฤดูแล้ง ปี 2551/52 ปริมาณน้ำต้นทุนในช่วงฤดูแล้งของจังหวัดสุโข ทัย มีปริมาณน้ำต้นทุนจากแหล่งเก็บกักน้ำขนาดกลาง จำนวน 35 แห่ง และแม่น้ำยมซึ่งมีปริมาณน้ำเฉลี่ยต่อปี 2,600 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) สามารถเก็บน้ำได้ 23 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีน้ำ 2.65 ล้าน ลบ.ม. รวมทั้งแหล่ง น้ำใกล้เคียง ได้แก่ การผันน้ำจากแม่น้ำปิง 90 ล้าน ลบ.ม. และจากแม่น้ำน่าน 120 ล้าน ลบ.ม. ส่วนเป้าหมายกิจ กรรมการใช้น้ำต้นทุนดังกล่าว ได้มีการวางแผนเพื่อสนับสนุนกิจกรรมการใช้น้ำในจังหวัดสุโขทัย ได้แก่ การใช้น้ำเพื่อ การเกษตร และการใช้น้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค 2. สถานการณ์การปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2551/52 จากการสำรวจ พบว่า เกษตรกรมีการปลูกพืชฤดูแล้งทั้ง จังหวัด รวม 596,071 ไร่ โดยเป็นพื้นที่ข้าวนาปรัง 534,002 ไร่ และพืชไร่-พืชผัก 62,069 ไร่ สำหรับการให้ความ ช่วยเหลือสนับสนุนการปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2551/52 กรมชลประทานได้เตรียมเครื่องสูบน้ำ 12 เครื่อง เพื่อช่วยเหลือ เกษตรกรในการเพาะปลูก และร่วมกับจังหวัดสุโขทัยเตรียมรถบรรทุกน้ำเพื่อช่วยเหลือประชาชน 78 คัน รวมทั้งศูนย์ ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือตอนล่างได้ขึ้นปฏิบัติการฝนหลวง 3. แผนเตรียมรับสถานการณ์ภัยแล้ง จังหวัดสุโขทัยได้ประกาศพื้นที่ภัยแล้งครบทุกอำเภอ (9 อำเภอ) 83 ตำบล 810 หมู่บ้าน ส่วนใหญ่เป็นสภาวะขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค และน้ำเพื่อการเกษตรเพียงบางส่วน โดย หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เตรียมแผนเพื่อรับสถานการณ์ภัยแล้งดังกล่าวแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||
39093 | ร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวว่าด้วยการแลกเปลี่ยนสิทธิการเช่าที่ดินระหว่างกันเพื่อใช้ในงานทางการกงสุล | กต | 28/04/2552 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบผลการพิจารณาเกี่ยวกับร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักร
ไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวว่าด้วยการแลกเปลี่ยนสิทธิการเช่าที่ดินระหว่างกัน เพื่อใช้ในงานทางการกงสุล โดยเห็นว่าร่างความตกลง ฯ น่าจะเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 วรรคหนึ่ง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่ต้องได้รับความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีก่อนดำเนินการมีผลผูกพัน แต่ไม่น่าจะเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 วรรคสอง ที่จะต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อนดำเนิน การ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยอนุมัติให้เอกอัครราชทูต ณ เวียง จันทน์เป็นผู้ลงนามในความตกลง ฯ ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
39094 | แผนปฏิบัติการแม่บทการเตรียมความพร้อมสำหรับการระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่ พ.ศ. 2552 | สธ | 28/04/2552 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบในหลักการแผนปฏิบัติการแม่บทการเตรียมความพร้อมสำหรับการระบาดใหญ่ของโรคไข้ หวัดใหญ่ พ.ศ. 2552 ที่คณะอนุกรรมการดำเนินการเตรียมความพร้อมและการซ้อมแผนสำหรับการระบาดใหญ่ โรคไข้หวัดใหญ่ในระดับประเทศ ได้จัดทำขึ้นเพื่อกรอบดำเนินการสำหรับให้หน่วยงานทุกภาคส่วนนำไปเป็นแนว ทางการดำเนินงาน และให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนให้ความร่วมมือในการดำเนินการตามแผน ปฏิบัติการแม่บท ฯ ต่อไปด้วย ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ 2. ให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงกลาโหม กระทรวงเทค โนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะ กรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และคณะกรรมการป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ซึ่งมีประเด็นความเห็นที่สำคัญโดยสรุปคือ การบริหารจัดการในการประสาน สั่งการด้านมาตรการหลักในขั้นระยะการเตือนภัย (Pandemic alert period) ระยะการระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัด ใหญ่ (Pandemic period) รวมถึงการประกาศเขตภัยพิบัติ และระยะหลังการระบาด (Post-pandemic period) มอบให้กระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยหลักภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณ ภัยแห่งชาติ โดยมีกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เป็นศูนย์อำนวยการและควบคุมแต่ละ ขั้นตอนของการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และเห็นควรจัดตั้ง "ศูนย์ข้อมูลร่วม" เพื่อมุ่งเน้นการประสานข้อ มูลข่าวสารจากหน่วยงานของรัฐ เอกชน และองค์กรทั้งในและต่างประเทศ และการคัดกรอง (วิเคราะห์ข้อมูลข่าว สาร) การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเพื่อบริหารจัดการข้อมูลข่าวสารในเชิงรุกทั้งช่วงระยะก่อนการระบาดใหญ่ ระยะ เตือนภัยการระบาดใหญ่ และระยะการระบาดใหญ่ให้เป็นไปอย่างทันท่วงที รวมทั้งให้มีการเตรียมความพร้อม เพื่อป้องกันบรรเทาฟื้นฟูในการบริหารจัดการกับสาธารณภัยประเภทต่าง ๆ ในระดับชุมชน ท้องถิ่น และจังหวัด โดยให้กระทรวงมหาดไทย (จังหวัด) ให้ความสำคัญกำหนดเป็นประเด็นยุทธศาสตร์จังหวัดเกี่ยวกับการจัดการ สาธารณภัยที่มีความสอดคล้องกับการวิเคราะห์ประเภทภัยและความเสี่ยงของภัยที่เกิดขึ้นในจังหวัด/กลุ่มจังหวัด นั้น ๆ ในแผนพัฒนาจังหวัด เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระดับจังหวัด ไป พิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
39095 | ขออนุมัติบริจาคเงินเข้ากองทุนอาเซียนเพื่อการควบคุมมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน | ทส | 28/04/2552 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอการบริจาคเงินเข้ากอง
ทุนอาเซียนเพื่อการควบคุมมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน (ASEAN Transboundary Haze Pollution Control Fund) จำนวน 50,000 เหรียญสหรัฐ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานในการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากหมอกควัน โดยให้ปรับแผนการใช้จ่ายเงินหรือเสนอขอตั้งงบประมาณประจำปี ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
||||||||||||||||||||||||||||||
39096 | การสนับสนุนงบประมาณค่าสมาชิกโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ (UNAIDS) เพิ่มเติม | สธ | 28/04/2552 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบการสนับสนุนงบประมาณค่าสมาชิกของประเทศไทยต่อโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ (Programme Coordinating Board of UNAIDS) เพิ่มเติม จากเดิมปีละ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ เป็น 100,000 ดอล ลาร์สหรัฐต่อปี นับตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ 2. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศที่เห็นว่า หากประเทศไทยเห็นควร เพิ่มเงินสนับสนุนดังกล่าว อาจมีความจำเป็นที่ประเทศไทยในฐานะสมาชิกคณะกรรมการบริหาร UNAIDS จะต้องมี บทบาทแข็งขันในการตรวจสอบความโปร่งใสในการบริหารจัดการของ UNAIDS รวมทั้งสร้างความมั่นใจว่าเงินสนับ สนุนองค์กรถูกนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นประโยชน์ต่อประเทศกำลังพัฒนาในระยะยาวและเป็นรูปธรรม ซึ่งยังคงเป็นสิ่งที่ UNAIDS ต้องพิสูจน์ประสิทธิภาพองค์กรของตนเองให้เป็นที่ประจักษ์ในประชาคมระหว่างประเทศ ต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
39097 | ประกาศ เรื่อง ยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร จังหวัด นนทบุรี ฯลฯ | นร | 28/04/2552 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอประกาศ เรื่อง ยกเลิกประกาศสถาน
การณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี อำเภอเมืองสมุทรปราการ อำเภอบาง พลี อำเภอพระประแดง อำเภอบางบ่อ อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ อำเภอธัญบุรี อำเภอลาดหลุมแก้ว อำเภอสามโคก อำเภอลำลูกกา อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม และอำเภอ วังน้อย อำเภอบางปะอิน อำเภอบางไทร อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประกาศ ข้อกำหนด และ คำสั่งที่เกี่ยวข้อง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2552 เวลา 12.00 นาฬิกา เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
39098 | ร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง โรงงานสกัดน้ำมันจากชิ้นไม้กฤษณาเป็นวัตถุดิบ พ.ศ. .... | อก | 28/04/2552 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง โรงงานสกัดน้ำมันจากชิ้นไม้กฤษณาเป็น วัตถุดิบ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ มีสาระสำคัญคือ ยกเลิกข้อกำหนดเกี่ยวกับท้องที่ห้ามตั้งหรือ ขยายโรงงานสกัดน้ำมันจากชิ้นไม้กฤษณา และกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับโรงงานสกัดน้ำมันจากชิ้นไม้กฤษณาเป็น วัตถุดิบ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้ว ดำเนินการต่อไปได้ 2. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ที่ให้แก้ไขถ้อยคำบางประการเกี่ยว กับความหมายของสิทธิในที่ดิน เช่น "...ที่ดินเอกสารสิทธิหรือที่ดินมีสิทธิครอบครอง..." เป็น "...ที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์ หรือที่ดินที่มีสิทธิครอบครอง..." เป็นต้น รวมถึงการระบุประเภทของเอกสารสิทธิต่าง ๆ ให้สอดคล้องและเป็นไป ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายที่ดิน และให้กำหนดรายละเอียดถึงแนวทางปฏิบัติที่เข้มงวดและรัดกุมเพิ่มเติม ในการอนุญาตให้ตั้งหรือขยายโรงงานสกัดน้ำมันจากชิ้นไม้กฤษณา ทั้งนี้ เพื่อเป็นมาตรการป้องกันการลักลอบตัด ไม้กฤษณาในป่าธรรชาติและในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ รวมทั้งกำหนดให้ผู้รับอนุญาตต้องขออนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้ ตามมาตรา 48 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2548 เพื่อเป็นการควบคุมอีกทางหนึ่ง ไปประกอบการพิจารณา
|
||||||||||||||||||||||||||||||
39099 | การดำเนินโครงการจัดทำระบบให้บริการประชาชนทางด้านการทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชนแบบใหม่ | มท | 28/04/2552 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงมหาดไทยถอนเรื่อง การดำเนินโครงการจัดทำระบบให้บริการ
ประชาชนทางด้านการทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชนแบบใหม่ ไปพิจารณาทบทวนต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||
39100 | แนวทางการวางระบบประเมินผลและการจัดสรรงบประมาณของสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ | นร | 28/04/2552 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ 1 . เห็นชอบในหลักการของแนวทางการวางระบบประเมินผลและการจัดสรรงบประมาณของสถาบัน อุดมศึกษาในกำกับของรัฐ ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยให้สำนักงาน ก.พ.ร. และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงศึกษาธิการ และความเห็นของคณะรัฐมนตรี ไปพิจารณา ดำเนินการด้วยว่า คณะกรรมการประเมินและจัดสรรงบประมาณอุดมศึกษาซึ่งจะจัดตั้งขึ้นตาม (ร่าง) ระเบียบ สำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการประเมินผลและจัดสรรงบประมาณของสถาบันอุดมศึกษา นั้น เป็นแนวคิดใหม่ที่ จะให้มีกลไกเพื่อสนับสนุนการพิจารณางบประมาณของสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐมีกติกาที่ชัดเจน โปร่ง ใส เป็นธรรม สอดคล้องกับผลการประเมินมาตรฐานและคุณภาพของแต่ละสถาบันอุดมศึกษาทั้งในส่วนของงบ ประมาณเพื่อการจัดการเรียนการสอน งานวิจัย และการลงทุน โดยสถาบันอุดมศึกษาจะมีอิสระในทางวิชาการ โดยรัฐจะไม่แทรกแซงการบริหารจัดการงบประมาณที่ได้รับ ทั้งนี้ การดำเนินการของคณะกรรมการ ฯ จะเป็น เพียงการจัดทำกรอบแนวทางการจัดงบประมาณเบื้องต้นเพื่อให้สำนักงบประมาณดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีและจัดสรรงบประมาณให้แก่สถาบันอุดมศึกษาตามพระราชบัญญัติวิธี การงบประมาณ พ.ศ. 2502 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และระเบียบที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องเหมาะสมและเป็นไปตาม กำลังเงินงบประมาณของประเทศในภาพรวมต่อไป อย่างไรก็ตาม กรอบแนวทางดังกล่าวของคณะกรรมการจะมี ส่วนช่วยให้สถาบันอุดมศึกษาต่าง ๆ ทั้งที่ได้เปลี่ยนสภาพเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐแล้ว และสถาบันอุดม ศึกษาที่ยังคงเป็นส่วนราชการและจะเปลี่ยนสภาพต่อไปได้มีความเข้าใจที่ชัดเจนยิ่งขึ้นเกี่ยวกับแนวทางในการจัด สรรงบประมาณให้สถาบันอุดมศึกษาแต่ละแห่งในการเตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการสถาบันของตนได้ อย่างเหมาะสมถูกต้อง ไม่สร้างภาระให้กับงบประมาณของประเทศด้วยการตั้งงบประมาณเพิ่มขึ้น และไม่สร้าง ภาระให้กับผู้เรียนด้วยการเพิ่มอัตราค่าธรรมเนียมการศึกษาเกินความจำเป็น 2. คณะรัฐมนตรีมีความเห็นเพิ่มเติมด้วยว่า การจัดสรรงบประมาณของสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของ รัฐ ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาจัดสรรงบประมาณเป็นกรอบของอัตราเงินเดือนค่าตอบแทนบุคลากรในกรณีที่ปรับ เปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย เมื่อได้พิจารณาตามเหตุผลและข้อเท็จจริงต่าง ๆ ร่วมกันระหว่าง สำนักงบประมาณ กระทรวงศึกษาธิการ สถาบันอุดมศึกษา และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องแล้วว่า เห็นควรจัดสรร เพิ่มขึ้นในอัตราเท่าใด เช่น เพิ่มเติมร้อยละ 60 เป็นต้น ก็ควรถือปฏิบัติเพื่อให้สถาบันอุดมศึกษามีความมั่นใจว่าจะ ได้รับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มขึ้นตามนั้น อย่างไรก็ตาม โดยที่รัฐอาจมีข้อกำจัดเกี่ยวกับงบประมาณรายจ่าย ประจำปี และไม่สามารถจัดสรรงบประมาณให้เต็มจำนวนได้ หากใช้วิธีทยอยจ่ายควรขอความร่วมมือให้สถาบัน อุดมศึกษาใช้เงินรายได้หรือเงินอื่นที่มีอยู่ใช้จ่ายไปก่อน แล้วจัดสรรงบประมาณคืนให้ครบจำนวนในภายหลัง จึง ขอให้สำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นดังกล่าวเป็นแนวทางในการพิจารณาดำเนินการต่อ ไป
|