ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1952 จากทั้งหมด 6213 หน้า แสดงรายการที่ 39021 - 39040 จากข้อมูลทั้งหมด 124242 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
39021 | การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปานครหลวง (นายณณัฐ ลีลาภัทรี) | มท | 06/05/2552 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายณณัฐ ลีลาภัทรี เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปานคร
หลวง แทนนายแสงชัย โชติช่วงชัชวาล ที่ลาออก ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (6 พฤษภาคม 2552) เป็นต้น ไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
39022 | การขยายระยะเวลารับจำนำมันสำปะหลังตามโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ปี 2551/52 | พณ | 06/05/2552 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาดำเนินการรับจำนำมันสำปะหลัง โครงการแทรกแซง
ตลาดมันสำปะหลัง ปี 2551/52 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2552 [เรื่อง การดำเนินโครงการ แทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ปี 2551/52 (เพิ่มเติม)] จากเดิม "สิ้นสุดเดือนเมษายน 2552" เป็น "สิ้นสุดภาย ใน 10 วัน นับถัดจากวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ขยายระยะเวลารับจำนำ" (สิ้นสุดวันที่ 16 พฤษภาคม 2552) ภายใต้หลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดไว้เดิม ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
39023 | รายงานผลการพิจารณากลั่นกรองโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 | กค | 06/05/2552 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. รับทราบแผนการลงทุนสำหรับโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 (Stimulus Package 2 : SP2) "โครงการ SP2" ในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2553-พ.ศ. 2555 วงเงินลงทุนรวม 1,431,330 ล้านบาท ซึ่ง คณะกรรมการกลั่นกรองโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 ได้พิจารณาโครงการ SP2 ภายใต้กรอบการ ลงทุนที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติ จำนวน 1,566,867 ล้านบาท พบว่า มีโครงการ SP2 ที่มีความเหมาะสมที่จะอนุมัติ ให้ดำเนินการได้ในวงเงินลงทุน 1,431,330 ล้านบาท โดยมีโครงการลงทุนที่มีลำดับความสำคัญและมีความพร้อม ในการดำเนินงานสูง (กลุ่มโครงการประเภทที่ 1) ที่สามารถเริ่มดำเนินงานได้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 จำนวน 1,063,673 ล้านบาท รวม 13 สาขา 2. อนุมัติให้ดำเนินโครงการ SP2 ประเภทที่ 1 มีความพร้อมที่จะดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 วงเงินลงทุนรวม 1,063,673 ล้านบาท โดยในกรณีที่โครงการใดที่เข้าข่ายต้องดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบ และกฎหมายใด ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเคร่ง ครัดต่อไป และหากหน่วยงานเจ้าของโครงการสามารถเริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ก็ให้ดำเนินการ ได้ สำหรับโครงการ SP2 ประเภทที่ 2 และ 3 เมื่อหน่วยงานดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ เรียบร้อยและพร้อม ดำเนินงาน ให้เสนอคณะกรรมการ ฯ พิจารณากลั่นกรองและนำเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ดำเนินโครงการ 3. อนุมัติแผนการระดมทุนและกลยุทธ์การระดมทุนสำหรับโครงการ SP2 ในส่วนที่รัฐบาลเป็นผู้รับภาระ ในการลงทุน และให้กระทรวงการคลังพิจารณาดำเนินการในการจัดหาเงินลงทุน 4. เห็นชอบแนวทางการดำเนินโครงการ SP2 ประกอบด้วย การเตรียมการด้านการจัดซื้อจัดจ้าง การ เตรียมความพร้อมในการเบิกจ่ายงบลงทุน และการกำกับดูแล เร่งรัด และติดตามประเมินผลโครงการ และให้หน่วย งานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการให้เรียบร้อยโดยเร็ว 5. เห็นชอบแนวทางการพิจารณากลั่นกรองโครงการที่เสนอขอบรรจุเข้าโครงการ SP2 เพิ่มเติม ประกอบ ด้วย การกำหนดหลักเกณฑ์การเสนอโครงการ รวมทั้งระยะเวลาการพิจารณากลั่นกรองโครงการ และการนำเสนอ โครงการให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ 6. สำหรับกรอบระยะเวลาการพิจารณาโครงการที่เสนอขอบรรจุเข้าในโครงการ SP2 เพิ่มเติม นั้น ให้ ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และคณะกรรมการ ฯ เร่งรัดการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยให้คณะ กรรมการ ฯ นำเสนอโครงการที่พิจารณากลั่นกรองแล้วต่อคณะรัฐมนตรีภายในเดือนมิถุนายน 2552
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
39024 | ขออนุมัติโอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้ และงบประมาณของสำนักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหมให้กับสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน) | กห | 06/05/2552 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้มีการโอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้ และงบประมาณของโครงการวิจัย
และพัฒนาของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับแผนแม่บทการวิจัยและพัฒนาจรวดเพื่อความ มั่นคง (พ.ศ. 2550-พ.ศ. 2559) ไปเป็นของสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน) โดยให้มีผลตั้งแต่ วันที่พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2551 มีผลใช้บังคับ (วันที่ 1 มกราคม 2552) ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
39025 | การนำดาวเทียมไทยคม-5 ทดแทนดาวเทียมไทยคม-3 ที่ปลดระวาง (De-orbit) (ไม่ยืนยันมติ) | ทก | 06/05/2552 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
39026 | การส่งกองพันทหารราบเข้าร่วมในภารกิจรักษาสันติภาพผสมระหว่างสหภาพแอฟริกาและสหประชาชาติในดาร์ฟูร์ | กต | 06/05/2552 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบยืนยันตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2550 [เรื่อง การสนับสนุนกอง
พันทหารราบเข้าร่วมในภารกิจรักษาสันติภาพผสมระหว่างสหภาพแอฟริกาและสหประชาชาติในดาร์ฟูร์ (UNAMID)] ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ส่วนค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติภารกิจของกองกำลังทหารไทยในกรอบวงเงิน 350 ล้านบาท ต่อวงรอบ 6 เดือน ซึ่งสหประชาชาติจะเป็นผู้ให้การสนับสนุน โดยประเทศไทยจะต้องสำรองค่าใช้จ่ายไป ก่อนนั้น ให้กระทรวงกลาโหมขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป และเมื่อส่วนราชการได้รับ เงินช่วยเหลือจากสหประชาชาติแล้ว ให้นำส่งเป็นรายได้แผ่นดินต่อไป ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
39027 | กรอบการเจรจากู้เงินจากต่างประเทศ | กค | 06/05/2552 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. อนุมัติกรอบการเจรจากู้เงินจากต่างประเทศและพิจารณานำเสนอรัฐสภาเพื่อให้ความเห็นชอบกรอบ การเจรจากู้เงินดังกล่าว 2. มอบหมายให้กระทรวงการคลังดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้ที่เกี่ยวข้องก่อนที่จะ นำเสนอสัญญาเงินกู้และเอกสารที่เกี่ยวข้องให้รัฐสภาเพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
39028 | ร่างพิธีสารฉบับที่ 3 เพื่อแก้ไขสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พ.ศ. 2519 และการภาคยานุวัติสนธิสัญญาฯ โดยสหภาพยุโรป ตุรกี และสหรัฐอเมริกา | กต | 06/05/2552 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบร่างพิธีสารฉบับที่ 3 เพื่อแก้ไขสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พ.ศ. 2519 และให้เสนอรัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบ โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ ลงนามในพิธีสาร ฯ ในช่วงการประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย- แปซิฟิก ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2552 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ 2. เห็นชอบร่างสารขยายจำนวนภาคี รวม 3 ฉบับ และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศลง นามในสารขยายจำนวนภาคีดังกล่าว ในช่วงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน วันที่ 20 กรกฎาคม 2552 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ดังนี้ 2.1 ร่างสารขยายจำนวนภาคีในสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียง ใต้สำหรับสหภาพยุโรป 2.2 ร่างสารขยายจำนวนภาคีในสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียง ใต้สำหรับสาธารณรัฐตุรกี 2.3 ร่างสารขยายจำนวนภาคีในสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียง ใต้สำหรับสหรัฐอเมริกา 3. ให้กระทรวงการต่างประเทศแก้ไขร่างพิธีสารฉบับที่ 3 ฯ รวมทั้งร่างสารขยายจำนวนภาคี ฯ ที่ไม่ ใช่สาระสำคัญได้ตามความจำเป็น โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
39029 | ข้อผูกพันเปิดตลาดการค้าบริการของไทยชุดที่ 7 ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน | พณ | 06/05/2552 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบข้อเสนอผูกพันเปิดตลาดการค้าบริการของไทยชุดที่ 7 ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการ ค้าบริการของอาเซียน (ASEAN Framework Agreement on Services : AFAS) ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และ ให้เสนอรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบต่อไป ทั้งนี้ ข้อผูกพันเปิดตลาดการค้าบริการชุดที่ 7 ของไทยครอบคลุมใน ประเด็นหลัก คือ 1.1 ให้ต่างชาติซึ่งอยู่นอกอาณาเขตไทยสามารถให้บริการข้ามพรมแดนเข้ามาในประเทศไทย (โดย ให้บริการผ่านสื่อ เช่น โทรศัพท์ โทรสาร หรืออินเตอร์เน็ต) 1.2 อนุญาตให้คนไทยเดินทางไปใช้บริการในต่างประเทศได้ 1.3 ให้ต่างชาติเข้ามาจัดตั้งธุรกิจในประเทศไทย แต่จำกัดสัดส่วนผู้ถือหุ้นต่างชาติ ไม่เกินร้อยละ 49 สาขาบริการที่มีการผูกพันเพิ่มเติมตามประเด็นหลักข้างต้น ได้แก่ สาขาบริการด้านวิชาชีพ บริการ ด้านธุรกิจ บริการด้านโทรคมนาคมอื่น ๆ บริการด้านโสตทัศน์ บริการด้านการจัดจำหน่าย บริการด้านการ ศึกษา บริการด้านนันทนาการและกีฬา และบริการด้านขนส่ง 2. ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการยื่นข้อเสนอผูกพันเปิดตลาดการค้าบริการของไทยชุดที่ 7 ฯ ต่อฝ่าย เลขาธิการอาเซียน เมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบข้อเสนอผูกพันดังกล่าวแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
39030 | ความตกลงว่าด้วยการลงทุนภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุมด้านต่างๆ ระหว่างอาเซียนและสาธารณรัฐเกาหลี | พณ | 06/05/2552 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบความตกลงว่าด้วยการลงทุนภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ซึ่งครอบคลุมด้านต่าง ๆ ระหว่างรัฐบาลแห่งประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และ สาธารณรัฐเกาหลี ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้เสนอรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบต่อไป 2. มอบอำนาจให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ ลงนามในความตกลง ฯ เมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบความตกลงดังกล่าวแล้ว 3. ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ลงนามในความตกลง ฯ 4. ให้กระทรวงพาณิชย์ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่อปฏิบัติตามพันธกรณีที่กำหนด ในความตกลงว่าด้วยการลงทุน รวมทั้งให้ประสานกระทรวงการต่างประเทศแจ้งประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นและ เกาหลีใต้ว่า ไทยพร้อมที่จะให้ความตกลง ฯ มีผลผูกพันต่อไป หลังจากรัฐสภาให้ความเห็นชอบความตกลง ฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินกระบวนการตามพันธกรณีดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
39031 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินและขยายระยะเวลาทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีรายการก่อสร้างอาคารชุดพักอาศัยของสำนักงานสรรพากรพื้นที่สงขลา 1 | กค | 06/05/2552 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างอาคารชุดพักอาศัย ขนาด 39 หน่วย ของสำนักงานสรรพา
กรพื้นที่สงขลา 1 จำนวน 4,243,600 บาท จากที่ได้รับอนุมัติ 36,000,000 บาท เป็น 40,243,600 บาท และ ขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปี รายการก่อสร้างอาคารชุดพักอาศัยดังกล่าว จากปีงบประมาณ พ.ศ. 2551- พ.ศ. 2552 เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. 2551-พ.ศ. 2553 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ หากกรมสรรพากรได้ ดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งกฎหมายและ มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องแล้วให้กรมสรรพากรดำเนินการก่อสร้างอาคารชุดพักอาศัยดังกล่าวได้ โดยให้เบิกจ่าย จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 จำนวนเงิน 7,200,000 บาท งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 จำนวนเงิน 28,800,000 บาท และงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 จำนวนเงิน 4,243,600 บาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
39032 | ร่างกฎกระทรวงที่ออกตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2551 จำนวน 4 ฉบับ | ศธ | 06/05/2552 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงที่ออกตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัย พ.ศ. 2551 จำนวน 4 ฉบับ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการ กฤษฎีกาตรวจพิจารณา ดังนี้ 1.1 ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการส่งเสริม สนับสนุนการศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของส่วนราชการหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องและภาคีเครือข่าย พ.ศ. .... 1.2 ร่างกฎกระทรวงกำหนดจำนวนอนุกรรมการ คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการได้มาของประธานและ อนุกรรมการ วาระการดำรงตำแหน่งและการพ้นจากตำแหน่ง รวมทั้งอำนาจหน้าที่ของคณะอนุกรรมการภาคีเครือ ข่าย พ.ศ. .... 1.3 ร่างกฎกระทรวงกำหนดคุณสมบัติ วาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่งของกรรมการผู้ ทรงคุณวุฒิและการประชุมของคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยกรุงเทพมหา นครและคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัด พ.ศ. .... 1.4 ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์และวิธีการประกันคุณภาพภายในสำหรับการศึกษานอก ระบบในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. .... 2. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรวมทั้งข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการ คณะรัฐมนตรี เกี่ยวกับการกำหนดให้คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัด มีอำนาจในการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อติดตามประเมินผลการดำเนินงาน ตลอดจนการพัฒนามาตรฐานการ ดำเนินงานของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง และภาคีเครือข่ายที่ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุน อาจ เป็นการขยายหลักการที่เกินกว่าที่กฎหมายแม่บทให้อำนาจไว้ ไปประกอบการพิจารณาด้วยแล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
39033 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งนักการข่าว 10 ชช. (สำนักนายกรัฐมนตรี) (นายศรายุทธ เปรมประวัติ และนายรังสรรค์ กาญจนมา) | นร | 06/05/2552 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักข่าวกรองแห่งชาติเสนอแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งนักการ
ข่าว 10 ชช. จำนวน 2 ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ดังนี้ 1. นายศรายุทธ เปรมประวัติ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการต่อต้านการก่อการร้าย และอาชญากรรมข้ามชาติ (นักการข่าว 10 ชช.) กลุ่ม งานที่ปรึกษา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ 2. นายรังสรรค์ กาญจนมา ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนาระบบงานการ ข่าว (นักการข่าว 10 ชช.) กลุ่มงานที่ปรึกษา สำนัก ข่าวกรองแห่งชาติ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
39034 | คณะกรรมการต่างๆ ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง (กระทรวงกลาโหม) (จำนวน 17 คณะ) | กห | 06/05/2552 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการ รวม 17 คณะ ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ โดยให้รับ
ข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วย ดังนี้ 1. คณะกรรมการต่าง ๆ ที่กระทรวงกลาโหมเสนอขอแต่งตั้งในครั้งนี้ปรากฏว่า มีการเสนอแต่งตั้งผู้ทรง คุณวุฒิเป็นกรรมการหลายแบบ อาทิ คณะกรรมการสภาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรระบุชื่อบุคคลที่ได้รับการ แต่งตั้งไว้ชัดเจน ไม่ต้องมีกระบวนการแต่งตั้งภายหลังอีก คณะกรรมการภูมิศาสตร์แห่งชาติไม่ได้ระบุชื่อผู้ทรงคุณ วุฒิ และไม่ได้ระบุกระบวนการแต่งตั้งว่าจะให้ใครเป็นผู้แต่งตั้ง ส่วนคณะกรรมการของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก 3 คณะ และคณะกรรมการเพื่อพิจารณาการได้รับสิทธิต่าง ๆ ของเจ้าหน้าที่กองทัพอากาศไม่ได้ระบุชื่อที่ปรึกษาที่จะ แต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ทำให้ไม่มีความชัดเจน เห็นสมควรจะระบุชื่อผู้ทรงคุณวุฒิหรือระบุว่าจะให้คณะ รัฐมนตรีมอบหมายผู้ใดเป็นผู้แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ รวมทั้งควรระบุชื่อที่ปรึกษาที่จะแต่งตั้งเป็นกรรมการให้ชัดเจน 2. เมื่อคณะรัฐมนตรีได้มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าวแล้ว การแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นกรรมการใน คณะกรรมการต่าง ๆ กระทรวงกลาโหมควรแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ โดยระบุชื่อบุคคลตามนัยความเห็นของ คณะกรรมการกฤษฎีกา (30 เมษายน 2530) เรื่อง การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งเห็นว่าการแต่งตั้งบุคคล ใดเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒินั้น ต้องพิจารณาถึงคุณวุฒิของบุคคลนั้นเป็นการเฉพาะตัว มิใช่พิจารณาถึงตำแหน่ง ที่บุคคลนั้นดำรงอยู่
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
39035 | การเลื่อนตำแหน่งและต่ออายุกงสุลกิตติมศักดิ์ไทยประจำกรุงเรคยาวิก และการแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์ไทยประจำกรุงเรคยาวิก คนใหม่ [นายจาร์ตัน บอร์ก และนางอันนา มาร์กริเอท พูริทูร์ โอลาฟสโดททีร์] | กต | 06/05/2552 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอเลื่อนตำแหน่งและต่ออายุกงสุลกิตติ
มศักดิ์ไทยประจำกรุงเรคยาวิก และการแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์ไทยประจำกรุงเรคยาวิก คนใหม่ ดังนี้ 1. เลื่อนนายจาร์ตัน บอร์ก กงสุลกิตติมศักดิ์ประจำกรุงเรคยาวิก สาธารณรัฐไอซ์แลนด์ ให้ดำรง ตำแหน่งกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ฯ 2. ต่ออายุการดำรงตำแหน่งกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ฯ ของนายจาร์ตัน บอร์ก ต่อไปอีกวาระหนึ่ง เป็นเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1ตุลาคม 2552 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2555 3. แต่งตั้งนางอันนา มาร์กริเอท พูริทูร์ โอลาฟสโดททีร์ ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำกรุง เรคยาวิก สาธารณรัฐไอซ์แลนด์
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
39036 | รัฐบาลแคนาดาเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย [นายรอน ฮอฟฟ์มันน์ (Mr. Ron Hoffmann)] | กต | 06/05/2552 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอแต่งตั้งนายรอน ฮอฟฟ์มันน์ (Mr. Ron Hoff
mann) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งแคนาดาประจำประเทศไทยคนใหม่ สืบแทนนาย เดวิด สปรูล (Mr. David Sproule) โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
39037 | รัฐบาลราชอาณาจักรภูฏานเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย [นายเชริง ดอร์จี (Mr. Tshering Dorji)] | กต | 06/05/2552 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอแต่งตั้งนายเชริง ดอร์จี (Mr. Tshering
Dorji) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรภูฏาณประจำประเทศไทยคน ใหม่ สืบแทนนายซิงเก ดอร์จี (Mr. Singye Dorjee) โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
39038 | ขออนุมัติสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมค่าเสาเข็มโรงพยาบาลปัตตานี จังหวัดปัตตานี | สธ | 06/05/2552 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างอาคารผู้ป่วยใน
พร้อมอุปกรณ์ประกอบอาคาร โรงพยาบาลปัตตานี จังหวัดปัตตานี จำนวน 1 หลัง จำนวน 1,411,093 บาท สมทบกับวงเงินค่าก่อสร้างเดิม จำนวน 67,806,096 บาท รวมเป็นวงเงินค่าก่อสร้างทั้งสิ้น 69,217,189 บาท โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 จำนวน 11,200,000 บาท งบประมาณ รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 จำนวน 18,000,000 บาท งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 จำนวน 1,670,000 บาท รวมทั้งผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 อีก จำนวน 38,347,189 บาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุข
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
39039 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง แนวทางการพัฒนาพื้นที่ชุ่มน้ำ : กรณีศึกษากว๊านพะเยา จังหวัดพะเยา | สสป | 06/05/2552 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบตามที่สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอความเห็น และข้อเสนอแนะ ของสภา ฯ เรื่อง แนวทางการพัฒนาพื้นที่ชุ่มน้ำ : กรณีศึกษากว๊านพะเยา จังหวัดพะเยา สรุปได้ดังนี้ 1.1 จัดทำแผนแม่บทพัฒนากว๊านพะเยาโดยการมีส่วนร่วมของประชาชนในท้องถิ่น องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น หน่วยราชการในจังหวัดพะเยา และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง 1.2 เร่งดำเนินการขอขึ้นทะเบียนกว๊านพะเยาเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ (Ram sar Site) ตามอนุสัญญาว่าด้วยการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ (Ramsar Convention) ที่ไทยเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาเมื่อ วันที่ 13 กันยายน 2541 เป็นการยกระดับกว๊านพะเยาที่ได้ขึ้นบัญชีไว้ให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำระดับนานาชาติแล้ว ให้ เป็นที่ยอมรับในระดับสากลเพิ่มขึ้น 1.3 สนับสนุนให้มีการจัดตั้งองค์กรใหม่ระดับจังหวัดทำหน้าที่ดูแล รักษา และพัฒนากว๊านพะเยา 1.4 กำหนดกระบวนการในการดำเนินโครงการกู้วัดติโลกอาราม ในกว๊านพะเยา โดยให้ปฏิบัติตาม ขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องคือ ให้ปฏิบัติตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 พระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 และพระราชบัญญัติส่งเสริมและ รักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 รวมถึงมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2543 และมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2532 อย่างเคร่งครัด และดำเนินการต่อผู้ที่กระทำความผิดตามกฎหมาย 2. รับทราบความเห็น ผลการพิจารณาและผลการดำเนินการของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง แวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงการพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์ 3. ให้กระทรวงวัฒนธรรมรับโครงการกู้วัดติโลกอารามไปศึกษาผลกระทบด้านต่าง ๆ ร่วมกับหน่วย งานที่เกี่ยวข้อง โดยให้รับความเห็นของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าวเนื่อง จากสภาพวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างมีอายุนับร้อยปีและจมอยู่ในน้ำเป็นเวลานานมีสภาพอิ่มน้ำไม่สามารถคงรูปเดิม ไว้ได้ รวมทั้งส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศวิทยา และการดำเนินงานจะต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวน มาก นอกจากนี้ เมื่อดำเนินการแล้วจะทำให้ทัศนียภาพกว๊านพะเยาขาดความงดงามตามธรรมชาติ ไปประกอบ การพิจารณาด้วย แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
39040 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 สายกรุงเทพมหานคร - สะเดา (คลองพรวน) ที่บ้านควนดินสอ พ.ศ. .... | คค | 06/05/2552 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทาง
หลวงแผ่นดินหมายเลข 4 สายกรุงเทพมหานคร-สะเดา (คลองพรวน) ที่บ้านควนดินสอ พ.ศ. .... ที่สำนักงาน คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินใน บริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 สายกรุงเทพมหานคร-สะเดา (คลองพรวน) ที่บ้าน ควนดินสอ ในท้องที่กิ่งอำเภอศรีนครินทร์ อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
.....