ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1085 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 21681 - 21700 จากข้อมูลทั้งหมด 123972 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
21681 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 (โครงการซ่อมแซมและปรับปรุงคันป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณสำนักงานประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดอ่างทอง ถึงบริเวณวัดต้นสน ตำบลตลาดหลวง อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง) | มท | 29/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองเปลี่ยนแปลงรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ จากโครงการซ่อมแซมและปรับปรุงเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี บ้านท่าไคร้ หมู่ที่ ๒๐ ตำบลกลาง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นโครงการซ่อมแซมและปรับปรุงคันป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณสำนักงานประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดอ่างทอง ถึงบริเวณวัดต้นสน ตำบลตลาดหลวง อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง ตามนัยข้อ ๗ (๓) ของระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ในวงเงิน ๑๑,๖๘๗,๐๐๐ บาท โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ จำนวน ๒,๓๔๐,๐๐๐ บาท และผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ จำนวน ๙,๓๔๗,๐๐๐ บาท ทั้งนี้ การดำเนินโครงการดังกล่าว ให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญ และขอตกลงความเหมาะสมของราคากับสำนักงบประมาณก่อนลงนามในสัญญาขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐที่เห็นควรเร่งรัดงานซ่อมแซมและปรับปรุงคันป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาดังกล่าวโดยด่วน เพื่อสามารถป้องกันปัญหาน้ำท่วมในฤดูน้ำหลากครั้งต่อไปได้อย่างทันการณ์และมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเร่งรัดการดำเนินการให้สอดคล้องกับมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ของรัฐบาล ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
21682 | ขออนุมัติแผนแม่บทการแก้ไขปัญหาฝิ่น ยาเสพติดและความมั่นคงพื้นที่ อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2560 - 2564) | ยธ | 29/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติแผนแม่บทการแก้ไขปัญหาฝิ่น ยาเสพติดและความมั่นคงพื้นที่อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้ ๑.๑ วัตถุประสงค์แผนแม่บทฯ เพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ที่มีการปลูกฝิ่นและวางแนวทางให้สามารถตอบสนองความต้องการพื้นฐานให้ประชากรชนเผ่าในอมก๋อยให้สามารถพึ่งตนเอง พัฒนาด้านคุณภาพชีวิตให้ทัดเทียมกับพื้นที่อื่น ๆ พัฒนาสร้างศักยภาพในกลุ่มเป้าหมายทุกระดับให้เข้าใจอันตรายจากฝิ่น รวมถึงปราบปรามกดดันผู้เกี่ยวข้องและตัดทำลายพื้นที่ปลูกฝิ่นอย่างจริงจัง ๑.๒ ยุทธศาสตร์แผนแม่บทฯ ๖ ยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย (๑) การพัฒนาระบบฐานข้อมูล (Intelligent Database) (๒) การควบคุมพื้นที่และบุคคลที่เกี่ยวข้อง (Affective Controlling) (๓) การบำบัดรักษา ติดตาม ฟื้นฟูอย่างครบวงจร (Easy Accessibility for Treatment) (๔) การป้องกันแก้ไขปัญหาฝิ่นและยาเสพติด (๕) การเสริมสร้างชุมชนเข้มแข็ง อาชีพ และการอนุรักษ์ธรรมชาติ (Active Community) และ (๖) การอำนวยการบริหารจัดการ (Modern Management) ๒. สำหรับงบประมาณในการดำเนินการตามแผนแม่บทดังกล่าว ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจัดทำคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีรองรับการดำเนินงานตามแผนแม่บทฯ ตามความจำเป็นและเหมาะสม และจัดทำงบประมาณในลักษณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ในส่วนของการป้องกัน ปราบปราม และบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด ให้สอดคล้องกับปฏิทินงบประมาณ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||||||||
21683 | งบการเงินของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2556 และ 2557 | ยธ | 29/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบงบการเงินของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๖ และสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ รวม ๒ ฉบับ ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบและรับรองแล้ว ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
21684 | ขออนุมัติหลักการยุทธศาสตร์พัฒนาผลไม้ไทย พ.ศ. 2558 - 2562 | กษ | 29/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการยุทธศาสตร์พัฒนาผลไม้ไทย พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๒ โดยให้ความสำคัญในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาผลไม้เศรษฐกิจหลัก ๗ ชนิด ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง ลำไย ลิ้นจี่ และมะม่วง ดำเนินการภายใต้การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ๕ ด้าน ได้แก่ (๑) การบริหารจัดการผลผลิต (๒) การบริหารจัดการการตลาด (๓) การวิจัยและพัฒนา (๔) พัฒนาองค์กรและเกษตรกร และ (๕) พัฒนาระบบฐานข้อมูลสารสนเทศ โดยแบ่งแผนปฏิบัติการออกเป็น ๒ ระยะ ได้แก่ ระยะที่ ๑ (ปี ๒๕๕๘-๒๕๖๐) เน้นการจัดตั้งกลุ่มสร้างเครือข่ายและส่งเสริมความเข้มแข็งของสถาบันเกษตรกรผู้ผลิตไม้ผลคุณภาพในพื้นที่การผลิตตามเขตความเหมาะสม (Zoning) และระยะที่ ๒ (ปี ๒๕๖๑-๒๕๖๒) เน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูปเพื่อการเพิ่มมูลค่าผลผลิตในการขยายตลาดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ค่าใช้จ่ายและแหล่งที่มา ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๒ ของแต่ละหน่วยงานรวมวงเงินทั้งสิ้น ๗๗๓.๖๐ ล้านบาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณากำหนดกรอบระยะเวลาการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ฯ ให้สอดคล้องกับกรอบระยะเวลาของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และให้รับความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงสาธารณสุข สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรมีการจัดกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มรสผลไม้ไทยหรือเข้าร่วมการจัดงานเทศกาลผลไม้ไทย หรือจัดเส้นทางท่องเที่ยวแวะชิมผลไม้ในแหล่งผลิต เป็นต้น การเร่งรัดผลักดันการผลิตตามมาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practice) ให้เป็นมาตรฐานบังคับ เพื่อยกระดับความปลอดภัยของผลไม้ไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดสากล การติดตามสถานการณ์ผลผลิตผลไม้ในแต่ละปีอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง รวมทั้งวางแผนการกระจายผลผลิตในช่วงฤดูการเก็บเกี่ยวผลไม้ในแต่ละชนิดและแต่ละพื้นที่ให้ชัดเจนและรวดเร็ว การตรวจสอบคุณภาพความปลอดภัยของผลไม้ส่งออกของไทยและที่นำเข้าในประเทศอย่างสม่ำเสมอ การส่งเสริมแนวทางเกษตรอินทรีย์ และเพิ่มบทบาทของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและสถาบันการศึกษาในการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาสร้างนวัตกรรมการแปรรูปผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
21685 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง การปฏิรูปการจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง) | ทส | 29/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาเกี่ยวกับข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ (เรื่อง การปฏิรูปการจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง) ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเห็นด้วยกับการแบ่งเขตการใช้ประโยชน์และกำหนดพื้นที่คุ้มครองทางทะเล เนื่องจากจะเป็นการปกป้องผลประโยชน์ทางทะเล ส่งเสริมให้มีการจัดการทะเลไทยอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และเห็นด้วยกับการปรบสมดุลการพัฒนาทะเลไทยตามแนวทางมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน เนื่องจากจะเป็นการลดความขัดแย้งของการใช้ทรัพยากรทางทะเล รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนของทรัพยากรทางทะเล ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งผลการพิจารณาของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเพื่อนำเสนอสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศต่อไป และแจ้งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะฝ่ายเลขานุการร่วมคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
21686 | การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันดาราศาสตร์และฟิสิกส์ดาราศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ครั้งที่ 11 ในประเทศไทย พ.ศ. 2560 | ศธ | 29/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันดาราศาสตร์และฟิสิกส์ดาราศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ครั้งที่ ๑๑ ในประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ ระหว่างวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน-๖ ธันวาคม ๒๕๖๐ ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต มีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช เนื่องในวโรกาสที่จะทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๙๐ พรรษา และเป็นโอกาสที่ประเทศไทยจะได้จัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันดาราศาสตร์และฟิสิกส์ดาราศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศขึ้น อีกทั้งยังเป็นการช่วยให้เยาวชนไทยในระดับโรงเรียนได้มีการพัฒนาความรู้และศักยภาพด้านดาราศาสตร์และฟิสิกส์ดาราศาสตร์ รวมทั้งเป็นการกระตุ้นให้มีการเรียนการสอนดาราศาสตร์และฟิสิกส์ดาราศาสตร์ในระดับอุดมศึกษาเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างนักดาราศาสตร์สมัยใหม่ให้กับประเทศไทยให้ทัดเทียมกับนานาประเทศ งบประมาณดำเนินการรวมทั้งสิ้น ๖๗,๐๐๐,๐๐๐ บาท ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ๒. ให้กระทรวงศึกษาธิการ โดยสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเตรียมการที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ แผนงานพัฒนาศักยภาพด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ผลผลิตผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี ได้รับการพัฒนาและส่งเสริม งบเงินอุดหนุน เงินอุดหนุนทั่วไป รายการเงินอุดหนุนมูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการและพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษาในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ได้ตามความจำเป็น ส่วนค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐-พ.ศ. ๒๕๖๑ ให้กระทรวงศึกษาธิการคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนและรายได้จากแหล่งอื่นที่ได้รับในการดำเนินโครงการดังกล่าว เพื่อประกอบการพิจารณาเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี ตามความจำเป็นและเหมาะสม ทั้งนี้ การดำเนินการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันดังกล่าว ให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
21687 | การประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านการพัฒนาชนบทและขจัดความยากจน ครั้งที่ 9 (The 9th AMRDPE) และการประชุมที่เกี่ยวข้อง | มท | 29/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งมีภารกิจสอดคล้องกับโครงการและกิจกรรมที่ประเทศไทยได้รับมอบหมายตามแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาชนบทและขจัดความยากจน ฉบับปี ๒๐๑๖-๒๐๒๐ (Framework Action Plan on Rural Development and Poverty Eradication : FAPRDPE 2016-2020) รับโครงการและกิจกรรมดังกล่าวไปดำเนินการภายในห้วงเวลาตามแผนปฏิบัติการตามมติที่ประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านการพัฒนาชนบทฯ ครั้งที่ ๑๒ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ ๑.๑ กิจกรรมที่ประเทศไทยเสนอขอรับเป็นเจ้าภาพดำเนินการ - กิจกรรมที่ ๑ การจัดทำเอกสารเผยแพร่และแบ่งปันบทเรียนความสำเร็จและประเด็นท้าทายในการสร้างศักยภาพการพัฒนาที่มีชุมชนและหมู่บ้านเป็นกลไกขับเคลื่อน - กิจกรรมที่ ๒ การส่งเสริมผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเยาวชน - กิจกรรมที่ ๕ การจัดประชุมเชิงปฏิบัติการระดับภูมิภาคเพื่อนำเสนอความก้าวหน้าด้านการคุ้มครองทางสังคมสำหรับแรงงานในภาคเกษตรกรรม ชาวนา และวิถีชาวประมง ๑.๒ กิจกรรมที่ประเทศไทยร่วมดำเนินการ - กิจกรรมที่ ๒๒ การจัดประชุมเชิงปฏิบัติการระดับภูมิภาคเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการจัดทำดัชนีความยากจนแบบหลายมิติและดัชนีความด้อยโอกาสแบบหลายมิติเพื่อกำกับการดำเนินงานคุ้มครองทางสังคม ๑.๓ กิจกรรมที่ประเทศไทยขอพิจารณาเมื่อประเทศเจ้าภาพกิจกรรมได้จัดทำข้อเสนอของกิจกรรมที่ชัดเจนแล้ว (ประเทศฟิลิปปินส์เป็นเจ้าภาพหลัก) - กิจกรรมที่ ๑๑ การศึกษาดูงาน/ทุนสำหรับผู้จัดทำนโยบายการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะและที่อยู่อาศัยสำหรับคนยากจนที่อาศัยอยู่ในเขตเมือง - กิจกรรมที่ ๑๖ การส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคมผ่านรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่ดำเนินการได้ ๒. ในส่วนของงบประมาณในการดำเนินการให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ไปดำเนินการ ส่วนค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ เป็นต้นไป ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
21688 | ผลการประชุมคณะกรรมการบริหารร่วมความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย - จีน ครั้งที่ 6 ครั้งที่ 7 และครั้งที่ 8 ภายใต้บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟในกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558 - 2565 | คค | 29/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการบริหารร่วมความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ ๖ เมื่อวันที่ ๖-๗ สิงหาคม ๒๕๕๘ ณ นครเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน ครั้งที่ ๗ เมื่อวันที่ ๑๑-๑๒ กันยายน ๒๕๕๘ ณ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย และครั้งที่ ๘ เมื่อวันที่ ๒๘-๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๘ ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟในกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๕ โดยภาพรวมของการประชุมทั้ง ๓ ครั้ง มีประเด็นหารือเกี่ยวกับความก้าวหน้าของการดำเนินการเกี่ยวกับการศึกษาความเป็นไปได้และการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม รายละเอียดและเงื่อนไขเงินกู้สำหรับงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน การหารือเกี่ยวกับหลักสูตรการฝึกอบรมสำหรับผู้ฝึกอบรมฝ่ายไทย ความก้าวหน้าการออกแบบวิศวกรรม โครงการฝึกอบรมบุคลากร รวมถึงรายงานสรุปการเลือกเส้นทางและระบบการเดินรถ และร่างรายงานศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ การหาข้อยุติเกี่ยวกับร่างกรอบความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟภายใต้กรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมขนส่งของประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๕ รวมทั้งการจัดพิธีวางศิลาฤกษ์ศูนย์การควบคุมและบริหารการเดินรถกลาง (โอซีซี) ร่วมกัน ณ บริเวณสถานีรถไฟเชียงรากน้อย และการจัดประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ ๙ ณ ประเทศไทย ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๘ เป็นต้น ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเร่งปฏิบัติตามขั้นตอนข้อกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดเพื่อให้สามารถเริ่มต้นก่อสร้างโครงการฯ ที่คาดว่าจะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ประมาณเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๙ และให้ความสำคัญกับการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดโครงการฯ ให้เป็นไปตามหลักวิชาการ รวมทั้งควรประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสถาบันการศึกษาพิจารณากำหนดหลักสูตรอบรมบุคลากรระยะกลางและระยะยาวร่วมกัน เพื่อเป็นพื้นฐานของการสนับสนุนให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีระบบขนส่งทางรางภายในประเทศอย่างเป็นระบบ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๓. ให้กระทรวงคมนาคมจัดทำรายละเอียดโครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน โดยเฉพาะรูปแบบการร่วมลงทุน งบประมาณในการลงทุน และแนวทางการใช้ประโยชน์และการออกแบบเมืองตามแนวเส้นทางและพื้นที่โดยรอบแนวเส้นทางเพื่อนำเสนอนายกรัฐมนตรีโดยด่วนต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
21689 | ของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชน | นร10 | 29/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบโครงการของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชน ของสำนักงาน ก.พ.ร. จำนวน ๒ โครงการ คือ โครงการเผยแพร่หลักธรรมาภิบาลให้แก่ประชาชน และโครงการปรับปรุงงานบริการเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน (Fast Service)
|
|||||||||||||||||||||||||||
21690 | สรุปผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านยาเสพติด ครั้งที่ 4 | ยธ | 29/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านยาเสพติด ครั้งที่ ๔ (ASEAN Ministerial Meeting on Drug Matters : AMMD) ระหว่างวันที่ ๒๘-๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๘ ณ เมืองลังกาวี ประเทศมาเลเซีย โดยมติที่ประชุมได้ให้ความสำคัญกับความร่วมมือด้านยาเสพติด ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบที่จะจัดทำแผนงานอาเซียน (ASEAN Work Plan) ปี ๒๐๑๖ ฉบับต่อไป เนื่องจากฉบับปัจจุบันจะสิ้นสุดลงในปี ๒๕๕๘ โดยประเทศอินโดนีเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเพื่อจัดทำแผนงานดังกล่าว ระหว่างวันที่ ๒-๓ ธันวาคม ๒๕๕๘ นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบให้เสนอและรับรองจุดยืนของอาเซียน (ASEAN Position) เพื่อนำไปเสนอต่อการประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติด ครั้งที่ ๕๙ (59th Session of the Commission on Narcotic Drugs : CND) ในเดือนมีนาคม ๒๕๕๙ และในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยพิเศษ ปี ๒๕๕๙ ว่าด้วยเรื่องยาเสพติด (UNGASS) ในเดือนเมษายน ๒๕๕๙ เอกสารจุดยืนอาเซียนนี้จะเป็นการยืนยันว่า อาเซียนมีความมั่นคงที่จะไม่อดทนอดกลั้นต่อปัญหายาเสพติดเพื่อทำให้อาเซียนเป็นเขตปลอดยาเสพติด ๒. เห็นชอบให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติด ตามมติที่ประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านยาเสพติด ครั้งที่ ๔ โดยร่วมมือกับประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศเพื่อนบ้านต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
21691 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาลสัตว์ พ.ศ. .... | กษ | 29/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาลสัตว์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดค่าธรรมเนียมใบอนุญาตตามกฎหมายให้เป็นไปตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาลสัตว์ พ.ศ. ๒๕๓๓ และมาตรา ๑๒ แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาลสัตว์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๗ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีการสำรวจหรือรับฟังความคิดเห็นต่อร่างกฎกระทรวงดังกล่าวจากผู้ประกอบการและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อให้การออกกฎหมายมีกระบวนการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียก่อนมีผลบังคับใช้และการดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
21692 | ร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับมาตรการส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางวิจัย พัฒนา หรือทดสอบสมรรถนะยานยนต์ต้นแบบในภูมิภาค จำนวน 4 ฉบับ | กค | 29/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างประกาศกระทรวงการคลัง จำนวน ๔ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่การนำเข้ารถยนต์ต้นแบบหรือรถจักรยานยนต์ต้นแบบเพื่อการวิจัย พัฒนา หรือทดสอบสมรรถนะให้แก่ผู้วิจัย พัฒนา หรือทดสอบสมรรถนะ ๒. ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้หักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินประเภทรถยนต์ต้นแบบเพื่อการวิจัย พัฒนา หรือทดสอบสมรรถนะที่ได้รับการยกเว้นภาษีสรรพสามิตจากมูลค่าต้นทุนทั้งหมด ๓. ร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ยกเว้นภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ยกเว้นภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์ต้นแบบหรือรถจักรยานยนต์ต้นแบบเพื่อการวิจัย พัฒนา หรือทดสอบสมรรถนะ ๔. ร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากร ตามมาตรา ๑๒ แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. ๒๕๓๐ (ฉบับที่ ..) มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับรถยนต์ต้นแบบหรือรถจักรยานยนต์ต้นแบบที่นำเข้ามาเพื่อวิจัย พัฒนา หรือทดสอบสมรรถนะที่ได้รับอนุมัติจากกรมสรรพสามิต |
|||||||||||||||||||||||||||
21693 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการขออนุญาต การอนุญาตให้จัดตั้งและดำเนินการสถานพยาบาลสัตว์ การโอนใบอนุญาต และการแสดงความจำนงเป็นผู้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาลสัตว์ พ.ศ. .... | กษ | 29/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการขออนุญาต การอนุญาตให้จัดตั้งและดำเนินการสถานพยาบาลสัตว์ การโอนใบอนุญาต และการแสดงความจำนงเป็นผู้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาลสัตว์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์การขออนุญาต การอนุญาตให้จัดตั้งสถานพยาบาลสัตว์ การดำเนินการสถานพยาบาลสัตว์ การโอนใบอนุญาต และการแสดงความจำนงเป็นผู้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาลสัตว์ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเร่งเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ผู้เกี่ยวข้องได้รับทราบและเข้าใจสาระสำคัญ เมื่อร่างกฎกระทรวงฯ มีผลบังคับใช้อย่างทั่วถึง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
21694 | สถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้งปี 2558/2559 ครั้งที่ 6 | กษ | 29/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้งปี ๒๕๕๘/๒๕๕๙ ครั้งที่ ๕ และครั้งที่ ๖ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ ๑.๑ สถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้งปี ๒๕๕๘/๒๕๕๙ ครั้งที่ ๕ ๑.๑.๑ สถานการณ์น้ำ ณ วันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๘ เช่น อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ จำนวน ๓๓ แห่ง มีปริมาณน้ำรวม ๔๐,๕๙๑ ล้านลูกบากศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๕๘ ของปริมาตรน้ำกักเก็บทั้งหมด เป็นน้ำใช้การได้ ๑๗,๐๘๘ ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๓๖ ของปริมาตรน้ำใช้การทั้งหมด ๑.๑.๒ การจัดสรรน้ำ ช่วงวันที่ ๑ พฤศจิกายน-๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๘ อ่างเก็บน้ำใหญ่และขนาดกลางทั้งประเทศ ใช้น้ำไปแล้ว ๗๒๕ ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๗ ของแผนการจัดสรรน้ำ ส่วนในลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และผันน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลอง) ใช้น้ำไปแล้ว ๕๙๔ ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๒๐ ของแผนการจัดสรรน้ำ ๑.๑.๓ การบริหารจัดการน้ำและอาคารชลประทานในลุ่มน้ำเจ้าพระยาช่วงฤดูแล้งปี ๒๕๕๘/๒๕๕๙ ช่วงวันที่ ๘-๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๘ กำหนดแผนการระบายน้ำจากเขื่อน จำนวน ๖ เขื่อน ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขื่อนนเรศวร และเขื่อนเจ้าพระยา ๑.๑.๔ สถานการณ์เพาะปลูกข้าวในเขตชลประทานลุ่มน้ำเจ้าพระยา ณ วันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๘ ปลูกข้าวนาปี ปี ๒๕๕๘ จำนวน ๖.๔๐ ล้านไร่ เก็บเกี่ยวแล้ว จำนวน ๕.๖๙ ล้านไร่ เสียหาย จำนวน ๐.๐๒ ล้านไร่ รอเก็บเกี่ยว จำนวน ๐.๖๙ ล้านไร่ ปลูกข้าวนาปีต่อเนื่อง ปี ๒๕๕๘ จำนวน ๑.๗๕ ล้านไร่ เก็บเกี่ยวแล้ว จำนวน ๐.๓๕ ล้านไร่ รอเก็บเกี่ยว จำนวน ๑.๔๐ ล้านไร่ และปลูกข้าวนาปรัง ปี ๒๕๕๘/๒๕๕๙ จำนวน ๑.๒๙ ล้านไร่ ๑.๒ สถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้งปี ๒๕๕๘/๒๕๕๙ ครั้งที่ ๖ ๑.๒.๑ สถานการณ์น้ำ ณ วันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๘ เช่น อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ จำนวน ๓๓ แห่ง มีปริมาณน้ำรวม ๔๐,๗๒๖ ล้านลูกบากศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๕๗ ของปริมาตรน้ำกักเก็บทั้งหมด เป็นน้ำใช้การได้ ๑๖,๘๒๓ ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๓๖ ของปริมาตรน้ำใช้การทั้งหมด ๑.๒.๒ การจัดสรรน้ำ ช่วงวันที่ ๑ พฤศจิกายน-๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๘ อ่างเก็บน้ำใหญ่และขนาดกลางทั้งประเทศ ใช้น้ำไปแล้ว ๘๖๙ ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๘ ของแผนการจัดสรรน้ำ ส่วนในลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และผันน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลอง) ใช้น้ำไปแล้ว ๘๐๓ ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๒๔ ของแผนการจัดสรรน้ำ ๑.๒.๓ การบริหารจัดการน้ำและอาคารชลประทานในลุ่มน้ำเจ้าพระยาช่วงฤดูแล้งปี ๒๕๕๘/๒๕๕๙ ช่วงวันที่ ๑๔-๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๘ กำหนดแผนการระบายน้ำจากเขื่อน จำนวน ๖ เขื่อน ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขื่อนนเรศวร และเขื่อนเจ้าพระยา ๑.๒.๔ สถานการณ์เพาะปลูกข้าวในเขตชลประทานลุ่มน้ำเจ้าพระยา ณ วันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๘ ปลูกข้าวนาปี ปี ๒๕๕๘ จำนวน ๖.๔๐ ล้านไร่ เก็บเกี่ยวแล้ว จำนวน ๕.๙๔ ล้านไร่ เสียหาย จำนวน ๐.๐๒ ล้านไร่ รอเก็บเกี่ยว จำนวน ๐.๔๔ ล้านไร่ ปลูกข้าวนาปีต่อเนื่อง ปี ๒๕๕๘ จำนวน ๑.๗๕ ล้านไร่ เก็บเกี่ยวแล้ว จำนวน ๐.๖๒ ล้านไร่ รอเก็บเกี่ยว จำนวน ๑.๑๓ ล้านไร่ และปลูกข้าวนาปรัง ปี ๒๕๕๘/๒๕๕๙ จำนวน ๑.๔๙ ล้านไร่ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงานร่วมกันในการบริหารจัดการน้ำของประเทศทั้งระบบเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการใช้น้ำในระยะต่อไป โดยเฉพาะในกรณีที่พื้นที่เก็บน้ำไม่ตรงกับพื้นที่ที่ต้องการใช้น้ำ ให้พัฒนาในเรื่องระบบท่อส่งน้ำและระบบการกระจายน้ำ ตลอดจนการปรับปรุงแหล่งกักเก็บน้ำที่มีอยู่เดิมให้สามารถใช้งานได้ ทั้งนี้ ในการดำเนินการให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชนและให้สร้างการรับรู้เรื่องวินัยการใช้น้ำให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่องด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
21695 | ผลการประชุมระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 21 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย - มาเลเซีย - ไทย (IMT - GT) | นร11 | 29/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบผลการประชุมระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ ๒๑ และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) ระหว่างวันที่ ๑๒-๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ณ เมืองอลอสตาร์ รัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย โดยมีรัฐบาลมาเลเซียเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม และมอบหมายส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามผลการประชุมดังกล่าว ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ ๑.๑ การประชุมประกอบด้วย การประชุมระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ ๒๑ การประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ครั้งที่ ๒๒ และการประชุมระดับมุขมนตรีและผู้ว่าราชการจังหวัด ครั้งที่ ๑๒ สาระสำคัญของการประชุม เช่น การขับเคลื่อนแผนงาน IMT-GT โดยมีวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์ที่ยังสามารถสนองความเปลี่ยนแปลงในระยะ ๑๐-๒๐ ปีในอนาคต การขับเคลื่อนโครงการเร่งด่วนเพื่อสนับสนุนการเชื่อมโยงระหว่างอนุภูมิภาคและกับอาเซียน ตามแนวพื้นที่เชื่อมโยงอนุภูมิภาค IMT-GT และโครงการสำคัญอื่น ๆ ความร่วมมือกับสภาธุรกิจ IMT-GT ความร่วมมือกับธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) และความร่วมมือกับสำนักงานเลขาธิการอาเซียน ๑.๒ ที่ประชุมเห็นชอบและให้ความเห็นเพิ่มเติมต่อรายงานของธนาคารพัฒนาเอเชีย ซึ่งให้การสนับสนุนทางวิชาการอย่างต่อเนื่องด้านการพัฒนาเมืองสีเขียว การอำนวยความสะดวกทางการค้า การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษบริเวณชายแดน การพัฒนาฐานข้อมูลสถิติ IMT-GT เพื่อเป็นตัวชี้วัดที่มีประสิทธิภาพของแผนงาน การพัฒนาศักยภาพบุคลากร การพัฒนาความเชื่อมโยงทางองค์กรกับอาเซียน และการทบทวนระยะกลางของแผนดำเนินงานระยะห้าปีฉบับปัจจุบัน (IMT-GT Implementation Blueprint 2012-2016) ๑.๓ ที่ประชุมเห็นชอบที่ไทยรับเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ ๒๒ และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง แผนงาน IMT-GT ในช่วงประมาณปลายเดือนกรกฎาคม-ต้นเดือนสิงหาคม ๒๕๕๙ ณ จังหวัดพังงา ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะหน่วยงานหลักควรมีการหารือและติดตามผลการดำเนินการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เกิดการพัฒนาที่เป็นรูปธรรมต่อไป และเห็นควรให้ความสำคัญกับปัญหามลพิษทางอากาศ (หมอกควันข้ามพรมแดน) ที่มีผลกระทบด้านเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของประเทศทั้งสามฝ่าย รวมทั้งให้การสนับสนุนทางวิชาการเพื่อช่วยผลักดันการดำเนินงานเพื่อการพัฒนาเมืองที่ยั่งยืนและพื้นที่สีเขียวอย่างต่อเนื่อง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
21696 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมืองตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา) (นายอัครวัฒน์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา) | กก | 29/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายอัครวัฒน์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๙ เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
21697 | รายงานความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย | สลธ.คสช. | 29/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ตามที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ประธานกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติรายงาน สำหรับงบประมาณในการดำเนินการให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณต่อไป ดังนี้ ๑.๑ การช่วยเหลือผู้ประกอบการประมงที่ได้รับผลกระทบจากการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายในกรณีที่ต้องลดจำนวนเรือประมงให้เหมาะสมกับจำนวนสัตว์น้ำเพื่อรักษาดุลทางธรรมชาติ ในวงเงิน ๒๑๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ที่เหลือจ่าย ของกรมประมง จำนวน ๙,๐๐๐,๐๐๐ บาท และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จำนวน ๖,๙๓๒,๗๐๐ บาท ส่วนที่เหลืออีก จำนวน ๑๙๙,๐๖๗,๓๐๐ บาท ให้พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ของกรมประมง จำนวน ๕๖,๐๐๐,๐๐๐ บาท และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จำนวน ๑๔๓,๐๖๗,๓๐๐ บาท มาดำเนินการในโอกาสแรกก่อน ๑.๒ การจ้างบริษัทที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญในการทำงานกับสหภาพยุโรป เพื่อดำเนินการเชิงรุกในต่างประเทศโดยเฉพาะการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และมีนัยสำคัญแก่ผู้แทนสหภาพยุโรปที่รับผิดชอบโดยตรง ในวงเงิน ๒๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยให้ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ จากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นที่ได้รับจัดสรรแล้ว จำนวน ๓๗๕,๙๑๓,๐๐๐ บาท เพื่อมาดำเนินการ ๑.๓ สำหรับการช่วยเหลือผู้ประกอบการประมงซึ่งเดิมไม่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีที่ส่งให้สำนักงบประมาณเห็นชอบนั้น กรมประมงและกรมเจ้าท่าได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานแล้วพบว่า ยังมีเรือประมงที่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่สามารถขอรับความช่วยเหลือตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๘ ได้อีกจำนวน ๘๗๓ ราย และ ศปมผ. ได้เห็นชอบแล้ว จึงเห็นควรให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นที่ได้รับจัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการประมงที่ได้รับผลกระทบจากการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย จำนวน ๒๒๘,๕๑๖,๑๐๐ บาท โดยให้จัดทำรายละเอียดให้ถูกต้องครบถ้วนตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว และขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ๒. มอบหมายให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติและกระทรวงมหาดไทยชี้แจงผลกระทบและรายละเอียดเกี่ยวกับการพิจารณาอนุญาตให้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายสามารถทำงานต่อเนื่องได้เป็นเวลา ๔ ปี โดยไม่ต้องเดินทางกลับประเทศต่อผู้แทนสหภาพยุโรปที่จะเดินทางมาตรวจติดตามความคืบหน้าในเดือนมกราคม ๒๕๕๙ |
|||||||||||||||||||||||||||
21698 | การจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการหารือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการต่างประเทศแห่งรัฐสุลต่านโอมาน | กต | 29/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการหารือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการต่างประเทศแห่งรัฐสุลต่านโอมาน (Memorandum of Understanding between the Ministry of Foreign Affairs of the Kingdom of Thailand and the Ministry of Foreign Affairs of the Sultanate of Oman on Political Consultations) เนื่องจากบันทึกความเข้าใจดังกล่าวเป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศที่สามารถดำเนินการได้ ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ในการจัดทำบันทึกความเข้าใจฯ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคี พัฒนาความร่วมมือ ตลอดจนการจัดการประชุมปรึกษาหารือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทย กับกระทรวงการต่างประเทศแห่งรัฐสุลต่านโอมาน โดยมีระดับของประธานร่วมตามแต่คู่ภาคีจะตกลงกันผ่านช่องทางทางการทูต
|
|||||||||||||||||||||||||||
21699 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 (โครงการจัดทำ Application สำหรับการให้บริการด้าน อิเล็กทรอนิกส์ e-Service ของกรมสรรพากรบนอุปกรณ์ Smart Device) | กค | 29/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑ อนุมัติให้กระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพากรยกเลิกโครงการจัดทำ Application สำหรับการให้บริการด้านอิเล็กทรอนิกส์ e-Service ของกรมสรรพากรบนอุปกรณ์ Smart Device และให้โอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ในโครงการดังกล่าว ไปดำเนินโครงการจัดซื้อเครื่องสแกนเนอร์เพื่อจัดเก็บเอกสารในรูปแบบดิจิทัล ในวงเงิน ๒๒,๙๖๒,๒๐๐ บาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงการคลังพิจารณาดำเนินการตรวจสอบความล่าช้าที่เกิดขึ้นในการเสนอเรื่องดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรี และกำชับให้หน่วยงานในสังกัดให้ความสำคัญในการใช้จ่ายงบประมาณโดยเฉพาะการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนตามแนวนโยบายของนายกรัฐมนตรีด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
21700 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 รวม 12 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาต การออกใบอนุญาต และการโอนใบอนุญาตทำการประมงน้ำจืดในที่จับสัตว์น้ำที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินโดยใช้เครื่องมือทำการประมง ตามที่อธิบดีประกาศกำหนด พ.ศ. ....) | กษ | 29/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ รวม ๑๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาต การออกใบอนุญาต และการโอนใบอนุญาตทำการประมงน้ำจืดในที่จับสัตว์น้ำที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินโดยใช้เครื่องมือทำการประมงตามที่อธิบดีประกาศกำหนด พ.ศ. .... ๒. ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาต การออกใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต และการโอนใบอนุญาตทำการประมงพื้นบ้านโดยใช้เรือประมงหรือเครื่องมือที่มีขนาดหรือลักษณะตามที่อธิบดีประกาศกำหนด พ.ศ. .... ๓. ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าอากรและค่าธรรมเนียม พ.ศ. .... ๔. ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาต การออกใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต และการโอนใบอนุญาตทำการประมงโดยไม่ใช้เรือประมง พ.ศ. .... ๕. ร่างกฎกระทรวงการขอจดทะเบียน และการรับจดทะเบียนเรือประมงให้เป็นเรือขนถ่ายสัตว์น้ำหรือเรือเก็บรักษาสัตว์น้ำ พ.ศ. .... ๖. ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตนำเข้า ส่งออก นำผ่าน เพาะเลี้ยง หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์น้ำบางชนิด พ.ศ. .... ๗. ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาต การออกใบอนุญาต และการโอนใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ พ.ศ. .... ๘. ร่างกฎกระทรวงความปลอดภัย สุขอนามัย และสวัสดิภาพในการทำงานของคนประจำเรือ พ.ศ. .... ๙. ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาต การออกใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต และการโอนใบอนุญาตทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่จับสัตว์น้ำซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน พ.ศ. .... ๑๐. ร่างกฎกระทรวงกำหนดชนิดหรือลักษณะของสัตว์น้ำ หรือประเภท รูปแบบ ขนาด หรือวัตถุประสงค์ของกิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้เป็นกิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม พ.ศ. .... ๑๑. ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาต การออกใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต และการโอนใบอนุญาตทำการประมงนอกน่านน้ำไทย พ.ศ. .... ๑๒. ร่างกฎกระทรวงการขอจดทะเบียน และการรับจดทะเบียนเป็นท่าเทียบเรือประมง พ.ศ. .... |
.....